(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๖๐๐ คน)
วันนี้เรากำลังเตรียมจะมุดดินลงไป เราดูนี่เราเตรียมจะมุดดินลงไป คือทองคำไม่ได้สักบาทเลย ไม่ได้สักสตางต์เลย กำลังจะเตรียมมุดดินลงไป จะโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้แหละ แล้วพอมีทองคำนี้มากิโลนึง กิโลกว่าไปด้วยแล้ว ทีนี้โผล่ขึ้นมาแล้วนะ ทองคำกิโลละเท่าไร ( ๓๗๐,๐๐๐ บาทค่ะ) ถ้า ๑ บาทล่ะเท่าไร ( ๕,๖๕๐ บาทค่ะ) เงินในคลังหลวงของเราที่ว่า ๘๐๐ ล้าน คือเรายังไม่ได้เคลื่อน ยังไม่ได้ซื้อทองคำ เราจะหมุนภายนอกเข้ามาเสียก่อน อันนี้เข้าเมื่อไรก็ได้ เราดูเหตุการณ์ตลอดเวลา ถ้าหากว่าเงินเราจะลดลงเรื่อย ๆ อ่อนลงเรื่อย ๆ เราก็หมุนเข้าหาทองคำ แต่นี้ดูเหมือนเงินเราไม่ได้ลดนี่นะ
เมื่อวานนี้ดอลลาร์หนึ่งเท่ากับเงินเรา ๔๐ บาท ๘๗ สตางค์ ก็อยู่ในย่านนี้มานานแล้วนะ อยู่ใน ๓๙-๔๐, ๔๐ นี่นานแล้ว อยู่เรื่อย ๆ มา เงิน ๘๐๐ ล้านนี้รอ คือเมื่อไรเราก็เข้าได้เพราะเราดูอยู่ตลอดเวลา ๘๐๐ ล้านนี้ทองจะสักประมาณกี่กิโล (๒,๑๗๔ กิโล) อันนี้เราไว้ต่อยอดดังที่เคยพูดแล้วนะ เอาไว้ต่อยอด เป็นต้นเป็นลำเป็นเนื้อเป็นหนัง เป็นของพี่น้องชาวไทยรวมเข้าไปเป็นสี่พันกิโล อันนี้ต่อยอด ๘๐๐ ล้านนี้ต่อยอด คือ ๘๐๐ ล้านนี้เป็นอย่างน้อย ส่วน ๕๐ กว่าล้านที่เศษออกไปนั้นก็ยังก้ำกึ่งกันอยู่ คือพิจารณาน้ำหนัก อันไหนที่มีความจำเป็นมากน้อยต่างกันยังไง เพราะเงินนี้ปกติเราประกาศแล้วแต่ต้นว่า เงินสดไทยนี้เราจะไม่เอาเข้าคลังหลวง เราจะให้เป็นเงินหมุนเวียนทั่วประเทศไทย คือช่วยชาติไทยเราทั้งชาติ เป็นกิ่งแขนงทั่วประเทศ เราจะเอาเงินสดนี้ออกหมุนอย่างนี้ ประกาศมาตั้งแต่ต้น
ครั้นแล้วเรื่องความห่วงใยทองคำในคลังหลวงก็หนักขึ้นทุกวัน ๆ ทางนี้เห็นว่าพอเป็นไป ทางกิ่งก้านสาขาดอกใบของเราก็ไม่ค่อยจนตรอกจนมุมเท่าไรยิ่งกว่าทองคำบกพร่องในคลังหลวง เพราะฉะนั้นเราถึงได้กันเอาไว้เลย เจียดเงินจำนวน ๘๐๐ ล้านนี้เข้าสู่คลังหลวงด้วยทองคำ น้ำหนักเท่าไรก็แล้วแต่ นี้เป็นอย่างน้อยนะ ที่ว่า ๕๐ กว่าล้านนั้นหากจำเป็นยังไงที่จะออกช่วยชาติรอบ ๆ ทั่วประเทศไทยเราเราก็ออก ถ้าไม่จำเป็นก็จะหมุนเข้ามานี้ แต่รู้สึกว่ามันจะเข้าทางด้านทองคำมากกว่า ในความรู้สึกของเรานะ เพราะมันหนักหน่วงอยู่ในทองคำประจำนะ ส่วนข้างนอกเหล่านี้เราก็ได้เห็นกันอยู่แล้ว
ชาติไทยของเราไม่อดตาย ถ้าลงจุดสำคัญแล้วก็ว่าชาติไทยของเรา อะไร ๆ จะด้อยก็ตามพุงข้าไม่ด้อย อ้าว ไปที่ไหนมันมีนี่ อาหารการกินที่ไหนจะสมบูรณ์ยิ่งกว่าเมืองไทยเรา ชื่อช่างหัวมันซิ ให้ท้องเราสบายแล้วก็เอาละ ไอ้ชื่อเมืองไทยเราด้อย ๆ ใครว่าก็ช่างมันเถอะ ให้ยกโคตรมาว่าเราก็เฉย ก็เราไม่ได้ด้อยนี่ ไปที่ไหนไม่อดอยาก เมืองไทยเราเป็นเมืองอัธยาศัยมีน้ำใจด้วย ไปที่ไหนไม่อดตาย นี่ละศาสนาไปที่ไหนมีน้ำใจต่อกันตลอดไปเลย ไปที่ไหนไม่อดตาย ด้วยเหตุนี้เองเราจึงหนักไปทางทองคำมากกว่า ในจำนวนเงิน ๕๐ กว่าล้านนี้นะ คอยฟังไป เพราะทางกิ่งก้านสาขานี้ก็จำเป็น มาทุกแง่ทุกมุมเป็นมาตลอด เฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาล อันดับสองก็โรงเรียน สำคัญอยู่สองจุดนี้
โรงพยาบาลเป็นจุดสำคัญมาก ทั่วประเทศไทยเรากระทรวงไหนจะมีความจำเป็นยิ่งกว่ากระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขเป็นกระทรวงรับคนจนตรอกจนมุม กองทุกข์ทั้งหลายรวมอยู่ในกระทรวงสาธารณสุขนี้ทั้งนั้น ใครจะเป็นเศรษฐี กุฎุมพี ยศถาบรรดาศักดิ์สูงต่ำขนาดไหนก็ตาม เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นคนจนตรอกจนมุม จะต้องวิ่งเข้าหาหมอทั้งนั้น นี่จุดนี้สำคัญ เพราะฉะนั้นทางด้านงบประมาณจะมีมากมีน้อยอย่างไรก็ตาม ขอให้คำนึงถึงเรื่องคนไข้ คนไข้ไม่ได้มีงบประมาณ ใครไข้ที่ไหนวิ่งเข้าหาโรงพยาบาล ๆ อันนี้สำคัญมาก กระทรวงนี้เป็นกระทรวงที่จำเป็นมากทีเดียว เราจึงได้หมุนเข้ามาจุดนี้
เดินเข้าไปในโรงพยาบาลนี่ ดูคนไข้เป็นยังไง ดูญาติคนไข้เป็นยังไง คนที่เข้าไปสู่โรงพยาบาลไม่มีใครเป็นความยิ้มแย้มแจ่มใส มีแต่โศกเศร้าเหงาหงอย เสี่ยงได้เสี่ยงเสียอยู่นั้นแหละ คนไข้เข้าไปจะตายหรือจะยัง ตรงนั้นล่ะซี หน้าเศร้าไปบรรดาญาติมิตร พ่อแม่ พี่น้อง เข้าไปแล้วลมหายใจอยู่กับหมอ อยู่กับพยาบาล นี่ละที่ได้หนักทางเครื่องมือแพทย์ คนไข้วิ่งหาหมอ หมอไม่มีเครื่องมือก้าวไม่ออก คนไข้ผิดหวัง เพราะฉะนั้นจึงต้องได้ถูไถ
เมื่อวานซืนนี้ก็ไปโรงพยาบาลเต่างอย พอลงรถแล้วเข้าเลย จนหมอวิ่งตาม ลงรถแล้วเข้าห้องนั้นห้องนี้โรงพยาบาลต่าง ๆ เข้าดู จนหมอวิ่งตามเพราะหมอตั้งตัวไม่ทัน ลงปั๊บเข้าปุ๊บเลย เข้าซอกแซกซิกแซ็ก เลยมาได้จุดสำคัญจุดหนึ่ง เขาก็ขอตึกเหมือนกัน แต่ว่าตึกนี้ ถามถึงเรื่องความจำเป็นของตึกมีมากน้อยเพียงไร เขาก็ชี้แจงให้ทราบ แล้วก็มาหนักอยู่ที่เครื่องมือ เครื่องมือนี่เข้าไปในห้องเป็นเครื่องมือสำคัญเสียด้วย เอกซ์เรย์และเครื่องควบคุม เป็นจุดสำคัญด้วย แล้วเครื่องควบคุมนี้เขาสั่งมาจากเมืองไหนเราจำไม่ได้(ฮังการี) รู้สึกจะไม่คุ้นหูเลย เวลานี้หมดสภาพแล้ว จะซื้ออะไหล่เข้ามาแก้ไขดัดแปลงก็ไม่ได้ไม่มี
ตกลงก็เลยให้หมอทางโรงพยาบาลเต่างอย โทรมาทางโรงพยาบาลโนนสะอาดแถวอำเภอกุมภวาปี ให้มาติดต่อกัน เมื่อไม่มีเครื่องอะไหล่แล้วควรจะยกหมดเราก็จะยกหมดเลย ซื้อเครื่องใหม่มาเลยที่สมบูรณ์ทุกอย่าง จะเป็นสมัยไหนก็ตาม ขอให้สมบูรณ์แบบก็แล้วกัน เครื่องเก่านี้โละออกไปเลย เราบอกอย่างนั้นเลย โละออกหมดแล้วเอาของเราเข้าแทน เขาบอกมันแพง มันแพงขนาดไหนว่าซิ เขาว่ามันเป็นล้านนะ โหย จะไปยากอะไร ร้านแถวนี้คนหัวล้านก็มีเยอะ เราว่าอย่างนี้นะ เมื่อเรายังไม่ได้เงินล้านเอาหัวล้านนี้ชนไปก่อน แล้วเงินล้านค่อยตามหลังกันไป อย่างนั้นนะเวลาจะพูด จนตรอกอะไร คนหัวล้านมีเต็มไปหมด เอาหัวล้านนี้ชนดะไปก่อน แล้วค่อยเอาเงินล้านตามหลัง เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะมีคนพูดอย่างนั้น หัวเราะกันลั่น
อย่างนี้ละ เราไปที่ไหนเป็นอย่างนี้นะ คือเราห่วงทางโรงพยาบาลมากจริง ๆ ไม่ใช่ธรรมดา เพราะฉะนั้นเราถึงไม่ได้ปล่อยวาง อะไรจะจำเป็นไม่จำเป็น ชีวิตของคนทั่วประเทศไทยนี้อยู่ในกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น เวลาจำเป็นเข้ามานี้ใครอย่าเอาอะไรมาอวด ตึกรามบ้านช่องสมบัติเงินทองข้าวของ อย่าเอามาอวด อย่ามาอวดโรค ถ้าโรคจับเข้าตรงไหนนั้นคือคนจนตรอกเกิดขึ้นแล้ว จะต้องวิ่งหาหมอ นี่จุดสำคัญ
ชีวิตมันตีบตันอั้นตู้เข้าทันทีนะพอโรคได้เกิดขึ้นภายในร่างกายแล้ว แล้วก็สร้างโรคภายในเข้าอีก จิตใจวุ่นวายส่ายแส่ ห่วงเป็นห่วงตาย เกิดกองทุกข์ขึ้น ที่นี่หนักยิ่งกว่าโรคเสียอีก นั่นมันสร้างกองทุกข์น้อยเมื่อไร เพราะฉะนั้นเราถึงได้หมุนทางโรงพยาบาลให้มากทีเดียว ไม่ว่าที่ไหน ๆ จำเป็นที่ไหนให้ทั่วประเทศไทยว่างั้นเถอะ จึงต้องได้หมุนตลอด
เวลานี้ตึกก็ตั้งสามตึกสี่ตึกแล้วนะ ไม่ใช่เล่น เขาก็มาขอ ๆ มีแต่ความจำเป็นเข้ามาเต็มตัว ๆ ที่เราจะทนพิจารณาทนถูไถไม่ได้ สุดท้ายก็เอา คิดดูซิเงินในกระเป๋าเราไม่มีละ เพื่อเขาทำนี้เขาไม่ได้มาโกยเอาทีเดียว ตึกนี้เท่านั้นล้าน ตึกนั้นเท่านั้นล้าน มาโกยเอาคนละเท่านั้นล้านเท่านี้ล้าน รับไปทีเดียว ถ้าอย่างนั้นวัดป่าบ้านตาดร้างไปนานแล้วนะ หลวงตาบัวนี้โดดผึงชนกำแพง หัวไม่แตกกำแพงแตกไปนานแล้วนะ นี่ก็เพราะว่าจ่ายนั้นจ่ายเป็นงวด ๆ ตึกนั้นจ่ายงวดนั้น ตึกนี้จ่ายงวดนี้ มันมาไม่เสมอกัน ไม่พร้อมกัน เราก็ค่อยถูไถกันไป หมัดนั้นต่อย หมัดนี้รับ เรื่อยไปเลย อย่างนี้ละเราถูไถตลอดมา แต่เราก็เคยถูไถอย่างนี้เรื่อยมา
ให้เรามีเงินเป็นกอบเป็นกำเราไม่มีแหละ แต่น้ำใจนี่ซิสำคัญ รายไหนเข้ามาก็อย่างนั้น ๆ เมื่อวานทางภูหลวงเขาก็พูดเรื่องตึก อย่าด่วนพูด ตีปากเอานะเราก็ว่าอย่างนี้ เห็นไหมบทเวลาจะพูด คือเขาพูดถึงเรื่องตึก เขาอยากได้ตึก ไปโรงพยาบาลภูหลวงเมื่อวานนี้เขาพูดถึงเรื่องตึก อย่าด่วนพูด เดี๋ยวตีปากเอานะ นี่มือเห็นไหม ความจำเป็นหนาแน่นกว่านี้ยังมี ในหัวอกหลวงตา เขาก็หัวเราะ ก็อย่างนั้นแล้ว ไปที่ไหนก็เป็นอย่างนั้น โรงพยาบาลภูหลวงให้น้อยเมื่อไร เอกซเรย์ฟันให้ อย่างอื่นให้ รถให้ แต่ที่มันแคบจริง ๆ
เราติดต่อให้เขาซื้อที่ที่ติดกันกับโรงพยาบาล เขาไม่ขายเราก็เลยปัดไปเลยไม่ได้ซื้อ หมดหวัง เพราะฉะนั้นที่มันถึงได้แคบอย่างนั้น ถ้าหากว่าที่กว้างเราซื้อให้นานแล้ว เพราะเราเคยซื้อที่ให้โรงพยาบาลมามากต่อมาก ซื้อหลายแบบ ส่วนมากซื้อต่อออกไป ต่อออกไปมากน้อย เห็นสมควรจำเป็นยังไง ๆ บ้างแล้วก็ตกลงกับเจ้าของที่เขา เขาว่าเท่าไรก็ให้กันตามนั้นเลย เราให้ก็ให้ด้วยความสงสาร ให้เจ้าของที่ก็สงสาร ทางโรงพยาบาลเราก็สงสาร แบ่งสู้แบ่งรับ ไม่ค่อยต่อรองเขาแหละ ไม่ปรากฏว่าเราต่อรองเขาที่ไหนนะ เขาว่าเท่าไรให้เลย ๆ อันนี้ก็เพราะความสงสารนั่นเองไม่ใช่อะไร ทั้ง ๆ ที่เราไม่มี แต่ความเมตตามันครอบอยู่ตลอดเวลา
ก็คิดดู เดี๋ยวนี้เราก็ยังไม่ลืม ไปที่โรงพยาบาลนายูง นี้เขาก็ขออะไรเราก็ลืม เพราะโรงพยาบาลนั้นเราช่วยมากต่อมาก สร้างถังน้ำใหญ่ให้ก็สร้าง ถังปูนอย่างข้างศาลาเราก็ให้ สี่ถังห้าถัง แล้วยังซื้อถังกรองน้ำอีกอยู่ข้างบนนั้น เยอะ ให้มากต่อมาก เพราะมันอยู่ซอกแซกจนตรอกจนมุม ตรงไหนที่จำเป็นอย่างนั้นเราช่วยมากแหละ อันนี้เขาก็ติดต่อเราก็ลืมเสียเขาจะสร้างอะไรนะ ประมาณห้าแสน เขาพูดถึงความจำเป็นของเขา เอ้า เวลานี้เราไม่มีเราให้เพียงสามแสน เราว่าอย่างนั้น อีกสองแสนค่อยพิจารณากันไป เวลานี้เราจนตรอกมากเราบอก
เขาก็ไม่ว่าอะไร สามแสนเขาก็เอา ครั้นมาแล้วความเมตตามันไม่มาด้วย มันอยู่นั่น เจ้าของมานี้คิดไปคิดมา ตกลงตอนเช้าให้โทรศัพท์ไปเลย ให้หมดทั้งห้าแสนเลย อย่างนั้นแหละ คือความเมตตาไม่มาด้วย มาแต่เรา สามแสนอยู่นั้นแล้วมันก็ดึงสองแสนเข้าเป็นเพื่อนอยู่นั้น มันไม่ยอมมา ตกลงตอนเช้าก็โทรไปบอกให้ทั้งห้าแสน อย่างนั้นแล้วพิจารณาเอาซิ เรามาแล้วความเมตตาไม่ยอมมาด้วย มันก็เป็นอย่างนั้น
ซื้อที่มีหลายประเภทนะ ส่วนมากซื้อขยายที่ออกไป ๆ ที่ซื้อให้หมดแล้วยกโรงพยาบาลไปตั้งนั้นก็มี แต่น้อย คือที่คับแคบเหมือนอยู่ในครัวเรือนเขา โรงพยาบาลครัวเรือน ไปดูแล้ว โอ๊ย มันยังไงกัน ฟังว่า ๙ ไร่ มองที่ไหนจนหาที่ไปที่มาไม่ได้ แน่นอัดตั้งแต่สิ่งก่อสร้าง ไม่ไหวแล้ว แล้วที่อื่นมีไหมล่ะ ลองไปติดต่อดูซิที่ไหนเขาจะขาย เอาทั้งที่เลย เขาจะขายเท่าไร ที่ประมาณเท่าไรจะพอดีกับโรงพยาบาล ให้ไปติดต่อ เขาก็ไปติดต่อ ได้มาจริง ๆ ดูเหมือน ๒๓ หรือ ๒๕ ไร่เราก็ลืมเสีย สองแง่นี่ละไม่ ๒๓ ไร่ก็ ๒๕ ไร่ เขาบอกได้แล้ว เท่านั้นไร่เป็นเงินเท่านั้น เอ้า เอาเลย ให้เลย จึงซื้อเอาที่นั้นทั้งหมด
แต่เราบอกว่าสิ่งก่อสร้างเราไม่ให้ เราจะให้แต่ที่เท่านั้น ถ้าหากมีปัญญาจะปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ แล้วก็เอาได้เลย เขาก็รับรองเขาจะพยายามหา ของบประมาณบ้างอะไรบ้าง เขารับรองว่าจะได้แล้ว เราก็ เอ้า ถ้างั้นก็ซื้อเลย ๆ เขาก็ยกอันนี้ออกไปหมดเลย อันนั้นก็เลยกลายเป็นโรงเลี้ยงเด็กไป ที่โรงพยาบาล ๙ ไร่นั่นดูว่ากลายเป็นโรงเลี้ยงเด็กไป อันนั้นเป็นโรงพยาบาลใหญ่ นู่นทางขอนแก่น อย่างนั้นก็มี ส่วนมากมีแต่ซื้อเพิ่ม ๆ เพิ่มละมากต่อมาก
เราช่วยทุกมุมเรื่องโรงพยาบาล ช่วยจริง ๆ ไม่ใช่ธรรมดา ช่วยจนหมดเนื้อหมดตัวจริง ๆ ไม่ใช่ธรรมดา อย่างที่ว่าให้เขาแล้วเงินเราไม่มียังให้แล้วนะ นั่นเรียกว่าหมดเนื้อหมดตัว เวลานี้ตั้งสามตึกสี่ตึก โรงเรียนก็มี ดูเหมือนสี่ห้าตึก นั่นฟังซิน้อยเมื่อไร เป็นล้าน ๆ ขึ้นไป นี่ละที่อุตส่าห์พยายามกับพี่น้องทั้งหลาย ให้พากันเห็นใจนะ หลวงตานี้ช่วยจริง ๆ ช่วยโลก ไม่ได้มีอะไรติดเนื้อติดตัวเลย เราก็พูดให้ฟังแล้ว สำหรับเราเราไม่มีได้มีเสีย เราพอทุกอย่างแล้ว เราช่วยโลกด้วยความพอของเรา เราไม่มีแบ่งสันปันส่วนอะไรกับใครแม้เม็ดหินเม็ดทราย มีแต่ความเมตตาทุ่มลง ๆ ล้วน ๆ ขอให้เห็นใจทุกคน
ให้เห็นใจชาติไทยของเรา ชาติไทยของเราเป็นชาติที่มีคุณค่ามานมนาน ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้นะ เป็นชาติไทย ๆ ขึ้นมา ขออย่าให้เขามาดูถูกเหยียดหยามเหยียบย่ำทำลาย ถึงกับว่าเอาธงมหาอำนาจมาปักกึ๊กลงในเมืองไทยของเรา เมืองไทยของเราเป็นหมา ๖๒ ล้านตัว ทั้ง ๆ ที่เป็นคนไทย ๖๒ ล้านคน เมื่อมหาอำนาจอันใหญ่หลวงเอาธงมาปักกึ๊กแล้วกลืนหมดเลย หมดความหมายนะ เพราะฉะนั้นให้พากันต่างคนต่างดีดต่างดิ้น อย่าทำกันสุ่มสี่สุ่มห้า
ผู้นำชาติบ้านเมืองนั่นละเป็นตัวสำคัญมากที่สุด หัวใจชาติบ้านเมืองอยู่ที่นั่นหมด มอบความไว้วางใจให้ผู้นำชาติบ้านเมือง ผู้นำชาติบ้านเมืองอย่าเป็นยักษ์เป็นผี อย่าเป็นโจรเป็นมาร เป็นมหาภัยกลืนชาติบ้านเมืองก็แล้วกัน จุดใหญ่อยู่ตรงนี้ เวลานี้ลมหายใจชาติไทยเรารวมอยู่ในจุดใหญ่ ทีนี้จุดใหญ่ก็เป็นจุดมหาภัยขึ้นมาอย่างนี้จะว่ายังไง ถ้าเป็นจุดมหาภัยขึ้นมาจะเป็นอย่างนี้แน่นอน ให้พากันคิดทุกคน ๆ
เราเป็นลูกชาวไทย อย่าเห็นแก่ได้แก่ร่ำแก่รวยยิ่งกว่าคนไทยทั้งชาติที่จะกู้ชาติของตนขึ้นด้วยความอุตส่าห์พยายาม ด้วยความรักชาติ เสียสละทุกคน ให้พากันตั้งอกตั้งใจทุกคน เราพยายามเต็มเหนี่ยวแล้วนะเวลานี้ ถ้าศาสนาช่วยพยุงขึ้นไม่ได้แล้วก็หมดหวังจริง ๆ เราจะให้กิเลสมาช่วย เห็นไหมช่วยลากลง ๆ จนกระทั่งชาติไทยของเราจะหมดความหมายแล้วเวลานี้ รู้ไหมโทษของกิเลสมันลากลง ๆ โทษของธรรมที่ตรงไหนมีไหม ที่ลากชาวพุทธเราลง ไม่มี มีแต่ฉุดขึ้นลากขึ้น ๆ เวลานี้ก็ฉุดก็ลากนั่นแหละ ที่กล่าวอยู่เวลานี้ ขอให้เชื่อธรรมพระพุทธเจ้าจะพอทรงตัวได้
ทุกข์จนหนโลกสำคัญที่สุดคืออย่าได้ติดหนี้เขาพะรุงพะรังดังที่เคยเป็นมาแล้วนี้ การกู้หนี้ยืมสินขอให้พิจารณาให้มาก เฉพาะอย่างยิ่งวงรัฐบาล ไม่ควรจะกู้มาสุ่มสี่สุ่มห้า เวลานี้เราติดหนี้ติดสินเขาจนกระทั่งจะหายใจไม่ได้แล้วเมืองไทยเรา คิดคนหนึ่ง ๆ ตั้งห้าหมื่นบาท ๆ คน ๖๒ ล้านคน นี่แต่ก่อนนะ เดี๋ยวนี้จะเพิ่มขึ้นอีกนะ เพราะกู้ยืมมันกู้มาเรื่อย เอะอะกู้มา ๆ เพราะเหตุไรมันถึงกู้มาเอานักหนา ทางเมืองไทยเรานี้ก็แบกหามกันจนจะเป็นจะตายแล้วยังไม่รู้อยู่เหรอ กู้มาหาอะไรพิจารณาซิ
กู้มาแต่ละครั้ง ๆ เราไม่ไปดูก็ได้ ลูกศิษย์เราเต็มกระทรวง ๆ กระทรวงไหนไม่มีลูกศิษย์เราไม่มี มาบอกทุกสิ่งทุกอย่างละเอียดลออ เป็นคนดีทั้งนั้นซึ่งเชื่อถือได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เขามาพูดถึงเรื่องความแยบยลที่สกปรกมากที่สุดในวงราชการของเรา กินกันมาเล็ก ๆ น้อย ๆ กินกันมาเรื่อย ๆ กินจนกระทั่งบานปลาย เวลานี้ชาติไทยของเราจะจม นี่เพราะกินไม่หยุดไม่ถอย กินไม่อิ่มไม่พอ กินตะกละตะกลาม ชาติไทยของเราจนจะไม่เหลือ เพราะความตะกละตะกลาม นี่ละกู้หนี้ยืมสินเขามานี้
พอเงินบกพร่องในกระเป๋าแล้วก็ไปกู้เงินเขามา กู้เงินเขามาไม่ใช่น้อย ๆ ไม่ใช่สองล้านสามล้าน เป็นหมื่นเป็นแสนล้านขึ้นไปนู่นน่ะ มันของเล่นเมื่อไร แล้วกู้มานี้หนี้มันก็มาพร้อมล่ะซี เป็นลูกหนี้เขาพร้อม แล้วดอกวันหนึ่งเท่าไรกินไปเท่าไร พิจารณาซิ แล้วใครเป็นผู้แบกผู้หามหนี้สินอันนี้ พวกที่กู้มามันไม่ได้มารับผิดชอบนะ ชุดนี้ตั้งขึ้นมาเป็นรัฐบาลแล้วก็มากู้หนี้ยืมสิน กินกันจนท้องป่อง จนท้องมันจะระเบิดแล้วมันก็โดดออกไป ๆ ตั้งคนใหม่ขึ้นมา กู้มาเรื่อย ๆ ชาติไทยผู้แบกหนี้สินมันจะตายแล้วนะ พิจารณาซิ มันเป็นยังไงถึงเป็นอย่างนั้นมนุษย์แท้ ๆ
มนุษย์อยู่ด้วยกันกับมนุษย์ ผู้นำก็เป็นมนุษย์ ทำไมจึงเป็นเปรตเป็นผีกินบ้านกินเมือง ไม่มองหน้ามองหลังบ้าง มันเกินไปนะ ใครจะมาเป็นรัฐบาลต่อไปนี้ให้มองดูหน้ามันดี ๆ นะ ใครจะมาเป็นรัฐบาล รัฐบาลรัฐกินรัฐกลืนรัฐโกง อยู่นั้นหมด ให้ดูหน้าไหนมันไม่น่าเป็นปัดหัวมันลงทะเลนะ อย่าเอาไว้ให้หนักเมืองไทยรัฐบาลแบบนี้ รัฐบาลกินบ้านกินเมือง อย่าเอามาตั้งไว้เป็นอันขาดนะ ชาติไทยเราจะหมดสิ้นซากจริง ๆ ซากของชาติไทยจะไม่มีเหลือถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้
รัฐบาลไหนตั้งขึ้นมาก็ไปกู้มาแล้ว ๆ ส่วนเอาเงินไปใช้หนี้เขาไม่ทราบว่าใช้หนี้หรือไม่ใช้หนี้ มันเข้าพุงมันหมด กู้มาเท่าไร เอ้า นี้เอาไปเท่านั้น กู้เขามาพอประดับร้าน อันนั้นเอามาสร้างนั้น ๆ พอหลอกตาชาวบ้านเขา เงินที่กู้มานี้เอามาสร้างนั้น ๆ ส่วนที่มันกลืนกินนั้นเท่าไรมันไม่เห็นบอกสักที นี่ละที่ไปกู้ยืมมาบ่อย ๆ กู้เพราะว่าเงินมันเบาในกระเป๋า
พรรคพวกมันมีมากนะ พวกท้องเป้ง ๆ มีมากที่ทำลายชาติไทยเราอยู่เวลานี้ มีแต่พวกท้องเป้ง ๆ นี่ละกินบ้านกินเมืองอยู่เวลานี้ ถ้าพูดถึงเรื่องเงินที่จะมารวมบัญชีบัญแชมันจะไปโกยเอาเงินออกมาจากบัญชีใหญ่ เอาตับเอาปอดของประชาชนออกมา คนทั้งชาติเต็มไปหมดไม่เห็นด้วยเลย แต่ท้องเป้ง ๆ ที่มันกินด้วยกันนี้มันเห็นด้วยกันไป นี่ละมันจะกินบ้านกินเมืองอีกนะ พวกท้องเป้ง ๆ พวกยักษ์ใหญ่ผีใหญ่ วงราชการจะพูดว่ามันผีใหญ่อย่างลึกลับจะผิดไปไหน มันกินกันอยู่อย่างนั้นจะว่าไง ใครที่ไหนก็เห็นกันอยู่นี้ ผู้กินก็คน ผู้ดูก็คน ผู้รู้ก็คน มันจะปิดกันได้เหรอ มันกินอยู่ในที่ลับมันก็กลืนในที่ลับ มันก็ผิดอยู่ในที่ลับ มันก็เห็นก็รู้กันอยู่ในที่ลับ ออกมาที่แจ้งก็เห็นกันในที่แจ้ง รู้ในที่แจ้ง มันไปกลืนกินในที่ลับก็รู้กันในที่ลับอยู่งั้น มันมีลับที่ไหน
ไปทำที่ไหนมันมีที่ลับที่แจ้งที่ไหน ท่านถึงว่า นตฺถิ โลเก รโห นาม ขึ้นชื่อว่าที่ลับไม่มีในโลก ธรรมพระพุทธเจ้าสอนอย่างนั้น ใครทำที่ไหน ทำดีทำชั่ว เปิดเผยตลอดเวลาด้วยการกระทำของตน ฟังซิ นี่ละที่เมืองไทยเราจะจม รัฐบาลชุดไหนตั้งขึ้นมา ตั้งขึ้นมากินมาโกย เอ้า ไปกู้มา ๆ แล้วดอกโยนให้พี่น้องชาวไทยแบกจนจะตาย แล้วหนี้นั่นเป็นยังไง ก็แบกทั้งหนี้แบกทั้งดอก แบกทุกอย่างเลย จะตายแล้วเมืองไทยเรา ใครมาก็มากินอิ่มหมีพีหมาไป แล้วก็ตั้ง พวกนี้ไปแล้วหายไปแล้วไม่มีใครมารับผิดชอบนะ เงินที่กู้มามากน้อยเพียงไรไม่มีใครรับผิดชอบ เอ้า พวกนี้ตั้งขึ้นมากินเรื่อย ๆ นี่ละเมืองไทยเราจะจมเพราะเหตุนี้เอง พิจารณาซิ
เราทราบมาด้วยดีทุกอย่าง เราไม่ได้มาโกหกนะ ลูกศิษย์เรามีอยู่ทุกกระทรวง เราทราบมานานไม่ใช่พึ่งมาทราบเดี๋ยวนี้ เก็บไว้ในลิ้นชัก ๆ มีแต่ปลงธรรมสังเวช โห เป็นอย่างนี้ ๆ ทีนี้เวลามันมาบานปลายด้วยความตะกละตะกลามไม่มียางอายเลยนี้ ก็ได้เปิดขึ้นมาให้ทราบอย่างนี้จะว่าไง มันรู้มาแต่ก่อนแล้วนะ เราจึงไม่ได้อุตริ เอาคอเราไปตัดขาด-ขาดไปเลย เรื่องความสัตย์ความจริงนี้จะไม่ขาดจากหัวใจเรา ขาดก็ขาดแต่คอเราเท่านั้น ความสัตย์ความจริงคือธรรมจะไม่ขาดจากเรา ยังจะฝากไว้กับพี่น้องทั้งหลายว่า ความสัตย์ความจริงเป็นอรรถเป็นธรรมนี้ คือเครื่องเทิดทูนของเรา เป็นเครื่องสักการะอันสุดยอดได้แก่ธรรม ให้พี่น้องเทิดทูนเอา
จนก็จนไปเถอะ ขอให้มีธรรมในใจ ไอ้พวกที่มั่งมีศรีสุขเงินกองเท่าภูเขานี้ พวกนี้พวกจะจมลงนรกโดยถ่ายเดียวเท่านั้น จ่ายมบาลจดชื่อไม่ทันแหละพวกนี้ เราไม่อยากพูดถึงเพราะพวกนี้เขาไม่ยอมรับบุญรับบาป เขาจะเป็นตัวประกันไปเอง ว่านรกไม่มี เขาจะเป็นตัวประกันนรกไม่มี ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ทุก ๆ พระองค์ว่า บาป บุญ นรก สวรรค์ พรหมโลก นิพพาน เปรตผีประเภทต่าง ๆ มี ๆ ๆ มีมานี้กี่กัปกี่กัลป์แล้ว พวกนี้มันอำนาจวาสนาใหญ่โตมาจากไหนมันถึงจะมาลบบาปลบบุญลบนรกลบสวรรค์ พวกนี้มันจะลบให้มันไปลบเอง เราไม่ได้ไปจดทะเบียนบัญชีกับมันแหละ มอบให้ทางยมบาลเขาเลย อันนี้มอบให้เขาเราไม่ไปจด มันเก่งก็ให้มันอวด ใครอวดทางไหนก็เจอทางนั้น ดีชั่วมีอยู่
อ้าว ทีนี้เราจะยกตัวอย่างให้ฟังนะ เอาให้เห็นสด ๆ ร้อน ๆ เลย ปีนั้นปีเผาศพหลวงปู่มั่น เราไปอยู่ในเขาเราไม่ออกมา เพราะมันหมุนติ้ว ๆ ตลอดเวลาออกมาหาใครไม่ได้เลยอยู่ในเขา ถึงวันเวลาที่จะกราบไหว้บูชาท่านก็กราบแล้วออกมา ด้อม ๆ ออกมาก็ไปวัดสุทธาวาส ทั้งประชาชนญาติโยมทั้งพระ มีท่านอาจารย์ฝั้นเป็นหัวหน้าสานขัดแตะ ที่จะทำร้านสำหรับรับรองในงานนี้ และพระเณรก็สานฝาขัดแตะกันอยู่เต็ม ประชาชนก็สานช่วยกัน แล้วก็มีผู้หญิง ๒ คนขี่จักรยานมา พระท่านก็สานขัดแตะอยู่นี้ละ คนก็เต็มอยู่นี้ มันขี่มา ผู้หญิงกำลังคึกคะนอง
วันนี้นักเรียนมาไหมนี่ หาตัวพยานว่างั้นเถอะ ทีนี้กำลังสานกันอึกทึกอยู่นั้น มันขี่จักรยานสะเปะสะปะเฉียดพระมานี้ เฉียดมาใกล้ ๆ ท่านอาจารย์ฝั้นท่านสานขัดแตะอยู่ท่านก็ชะเง้อพูดขึ้นว่า เด็กพวกนี้มันมายังไงกันว่ะ ท่านว่าอย่างนั้นนะ เด็กพวกนี้มันมาอะไรสะเปะสะปะอย่างนี้ว่ะ พอว่าอย่างนั้นแล้วพระก็นิ่งหมด เพราะท่านอาจารย์ฝั้นว่า เขาก็ขับรถอ้อมไป นี่คอยดูนะ ท่านว่าอย่างนั้นนะ คอยดูนะจะเอาให้มันล้ม จะเอาให้มันล้มให้ดูว่างั้น แต่ไม่ให้มันเจ็บ ให้มันขายหน้าสักหน่อยท่านว่าอย่างนั้น ท่านพูดเอง ฟังซิเห็นไหมอำนาจของจิต พอมันสะเปะสะปะมานี้ท่านก็ชะเง้อขึ้นว่า มายังไงยังงี้เด็กเหล่านี้น่ะ ท่านว่าอย่างนั้น สะเปะสะปะอ้อมมา
นี่คอยดูนะท่านว่า จะเอาให้มันล้มให้ดูแต่ไม่ให้มันเจ็บ พอให้มันขายหน้าสักหน่อย พอไปก็เทตูมล้มตรงนั้นเลย ทีนี้พระเณรก็หัวเราะลั่นล่ะซี เพราะฟังเสียงท่านอาจารย์ฝั้นอยู่ แล้ววางหมดที่สานอะไร ๆ นั้นวางมือหมด คอยดูคนที่ท่านอาจารย์ฝั้นว่าจะเอาให้ล้มให้ดู ท่านว่าอย่างนั้น เพราะได้ยินทั่วถึงกันหมด องค์ท่านเองท่านก็นิ่งดู ท่านเพ่งแล้วนะ เอาแล้วนะ พอไปถึงนั้นไม่มีปี่มีขลุ่ยนะ เฮ ล้มลงต่อหน้ามันน่าอายจริง ๆ พอล้มลงแล้วก็เผ่นเลย ป่านนี้มันหยุดแล้วยัง มันวิ่งตั้งแต่โน้นจนป่านนี้นะ ได้ ๕๐ ปีมานี้มันหยุดแล้วยัง มันอายมันวิ่ง จักรยานพามันล้ม พอมันล้ม นั่นเห็นไหมล่ะ หาอะไรมันก็ได้อย่างนั้นซี บาปมีบุญมี ท่านว่าอย่างนั้นนะ พวกนั้นก็เผ่นเลย พวกนี้ก็หัวเราะกันลั่น ท่านบอกให้มันล้มให้ดูเฉย ๆ ไม่ให้มันเจ็บ ท่านบอกอย่างนี้นะ ให้มันล้ม ขายหน้ามันสักหน่อย พอมันล้มแล้วก็ นั่นเห็นไหมล่ะ หาอะไรมันก็ได้อันนั้นละ บาปมีบุญมี คือหาอย่างนั้นมันก็เจออย่างนั้น นั่นเห็นไหมล่ะ หาอะไรมันก็เจออันนั้นละ บาปมีบุญมี
นี่เรายกตัวอย่าง ใครอย่าไปท้าทายต่อบาปต่อกรรมต่อนรกอเวจี เอ้า ท้าทาย แต่เพียงเด็ก ๒ คนมันล้มแล้วมันวิ่ง จนกระทั่งป่านนี้ยังไม่หยุด ใครยังจะเก่งกว่าเด็ก ๒ คนนี้อีกวะ ลองไปตามหาดูซิเด็ก ๒ คนที่มันล้มในวัดป่าสุทธาวาส มันหยุดวิ่งแล้วยัง หรือมันตายแล้วมันกลับมาวิ่งใหม่เราก็ไม่รู้ มันอาย แล้วสัตว์นรกตัวไหนในเมืองไทยของเราที่เก่งกล้าสามารถ ที่จะอวดศักดานุภาพไปลบบาปบุญนรกสวรรค์ไม่ให้มี เอ้า ให้เก่ง ใครเก่งกว่าเด็กคนนี้แล้วจะเรียกเด็กคนนี้มา หาดอกไม้ธูปเทียนไปคารวะ พวกนั้นมันเก่งกว่าเด็ก ๒ คน
เอาละเพียงแค่นี้ละ วันนี้พูดตลกสักหน่อย ก็เอาความจริงมาพูดว่าไง นั่นละใครอย่าท้าทายนะ วันนี้พูดไปพูดมาพอไปถึงนิทานนี้ก็เลยยุติไปพักหนึ่งแล้วละ ไม่ต่อกันก็หยุดแค่นี้ละ เอาละพอ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร www.luangta.com