|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
สมเด็จฯ ในหัวใจของพี่น้องชาวไทย |
|
วันที่ 2 เมษายน 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
| |
ค้นหา :
สมเด็จฯ ในหัวใจของพี่น้องชาวไทย
ลูกศิษย์ กราบเรียนท่านหลวงตาครับ วันนี้ น.ส.พ.เดลินิวส์ ลงข่าวเกี่ยวกับ พ.ร.บ.สงฆ์ เป็นความเห็นของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ให้คำจำกัดความว่า กฎหมายสงฆ์ฉบับนี้เป็น "ฉบับหนังตะลุง" ดังนี้
อีกเรื่องที่ทำท่าจะยุ่งเรื่องกฎหมายสงฆ์ฉบับใหม่ ฝ่ายสนับสนุนจะระดมม็อบพระ ชาวบ้าน ๕,๐๐๐ คนมาบุกหน้าทำเนียบกดดันรัฐบาล ผลักดันกฎหมายเข้าสภา นาทีนี้จึงเป็นหน้าที่ของชาวพุทธ ต้องศึกษากฎหมายให้เข้าใจอย่าให้ใครจูงจมูก มิเช่นนั้นอาจมีส่วนทำลายศาสนาจนแหลกคามือ
อยากเล่าสักนิด ประชุมมหาเถรสมาคมศุกร์ก่อน มีกรรมการมหาเถรสมาคมบางรูปขอพูดไปถึงใบปลิวปลุกม็อกพุทธสนับสนุนกฎหมายสงฆ์ แต่ปรากฏว่าองค์ประธานการประชุมสมเด็จพระพุฒาจารย์หรือสมเด็จเกี่ยว วัดสระเกศ ตัดบททุกอย่างจบตั้งแต่มหาเถรมีมติย้อนหลังรับรองร่างกฎหมายเมื่อต้นเดือนมีนาคม แต่ทว่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ซึ่งเป็นพระเถระรูปเดียวที่เสนอความเห็นได้ โดยให้คำจำกัดความร่างกฎหมายฉบับนี้เป็น "ฉบับหนังตะลุง" ปริศนาธรรมจากสมเด็จฯ วัดชนะสงคราม ตีความตรง ๆ ร่างกฎหมายที่ว่าจะทำให้เกิดหนังตะลุงหุ่นเชิดที่ทรงอำนาจขึ้นมาปกครองสงฆ์ โดยใช้ชื่อมหาคณิสสร กุมอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ยิ่งกว่าเผด็จการทางโลกเสียอีก
นี่แหละต่อไปจะได้เห็นการวิ่งเต้นช่วงชิงอำนาจมหาคณิสสร เพราะจะแบ่งเป็นกลุ่ม เป็นโควต้า เป็นฝักฝ่าย เลียนแบบวงจรอุบาทว์ทางการเมือง แบ่งก๊กแบ่งกลุ่มใช้ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเปี๊ยบ แถมกฎหมายนี้จะเอาเรื่องเงินทองสมบัติพัสถานให้พระดูแล เท่ากับเป็นการส่งเสริมด้านสมณศักดิ์อยากใหญ่ แทนที่จะนับถือพระรัตนตรัย ก็จะให้ยึดถือความบรรลัย ๓ ประการ อำนาจ เงินตรา บารมี แทน เห็นทีถึงยุคเสื่อม ผ้าเหลืองน้อยห้อยติ่งหูจะมาเร็วกว่าวันสิ้นพระศาสนากระมัง จบแค่นี้ครับผม
หลวงตา เราอยากฟังผู้พูดเป็นธรรมอย่างนี้
ลูกศิษย์ ขออนุญาตเจ้าค่ะ สมเด็จพระธีราจารย์ วัดชนะนี่เจ้าค่ะ เดินออกจากที่ประชุมตอนประชุมสงฆ์เจ้าค่ะ ตอนที่ไปกราบเรียนถามมหาเถรสมาคมแต่ละรูปน่ะค่ะ ท่านบอกท่านไม่เห็นด้วย ท่านติดธุระท่านบอกว่าท่านไม่เห็นด้วย
หลวงตา นี่ละจึงมาออกนี่ ที่ออกจากที่ประชุมวันนี้ก็แสดงชัดเจนแล้ว เรียกว่าไม่สามารถจะฟังได้เลย ท่านขี้เกียจไปล้างหูท่าน ธรรมะป่าว่างั้น ล้างหู ๕ วันก็ไม่สะอาดถ้าลงไปฟังแล้ว เลยลุกหนีเสียดีกว่าไม่ต้องล้างหู วันนี้จึงมาบอก เราพูดจริง ๆ ก็เราพูดด้วยความเป็นธรรม นำพี่น้องทั้งหลายมานี่เราไม่มีเอนมีเอียง ว่าเข้าตัวเราไม่มีเลย เพราะฉะนั้นเราจึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามหลักธรรมทุกแง่ทุกมุม การนำพี่น้องทั้งหลายเราก็บอกแล้วว่าเราบริสุทธิ์สุดส่วนเลย ไม่มีมลทินแม้เม็ดหินเม็ดทรายเข้าในใจ เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสมบัติที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้ ธรรมดาสมบัติมหาศาลอย่างนี้มันจะรั่วไหลไปไหนมากเท่าไรก็ไม่ทราบ เข้าใจไหม ธรรมดานะ นี่ไม่มีเลย ฟังซิน่ะ เพราะฉะนั้นมันจึงสวนทางกันกับที่เขามาโจมตีว่า สมบัติทั้งหลายที่พี่น้องชาวไทยเราบริจาคผ่านหลวงตาบัวนี้ หลวงตาบัวเอาเข้าพุงของตนเรียบวุธ เอาให้มันชัด ๆ อย่างนี้นะ
ทีนี้มันก็สวนทางกันร้อยเปอร์เซ็นต์ คือเราเอาเข้าสู่คลังหลวง คือจุดมุ่งหมายของพี่น้องชาวไทยเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ทีนี้พวกที่โจมตีกับความบริสุทธิ์ของเราที่ผ่านนี้มันสวนทางกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลย พี่น้องทั้งหลายยังจะพากันฟังอยู่เหรอคำพูดเช่นนี้ เราเป็นตัวประกันยันเลยว่า เราไม่มีดังที่เขาว่า เราเอาเงินพี่น้องทั้งหลายสมบัติทั้งหลายที่บริจาคผ่านเรามานี้เข้าพุงของเรา ไม่มีเลย พี่น้องทั้งหลายฟังให้ดีนะ เรานำพี่น้องทั้งหลายมา ๔ ปี ผลแห่งการเอาสมบัติของพี่น้องทั้งหลายเข้าสู่คลังหลวงมีจำนวนมากเท่าไร ก็ประกาศก้องมาตลอดเวลา นี้เหรอเข้าพุงหลวงหลวงตาบัว เข้าคลังหลวงต่างหากเข้าใจไหม ไม่ได้เข้าพุงหลวงตาบัว เข้าคลังหลวง จากคำโจมตีเหล่านี้ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า ตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำลายทั้งชาติทั้งศาสนาไปในเวลาเดียวกัน ๆ ด้วยแผนอันเดียวกัน แผนทั้งสองแผนนี้มาแบบเดียวกันหมด ไม่ได้แยกแยะจากกันเลย อ่านมาตลอดเรา
นี่ละที่ว่าจะไปตั้งม็อบตั้งแม็บ เรียกว่า หนังตะลุง เหมาะแล้วที่สมเด็จท่านว่า เราอยากเทิดทูนท่าน เดี๋ยวนี้เราก็เทิดทูนท่าน เหอ ท่านเป็นศิษย์ตถาคตจริง ๆ ขึ้นเลยเทียว สมเด็จอะไร (สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ครับผม) เออ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงครามเหรอ หลวงตาบัวขอเทิดทูน หลวงตาบัวเสาะแสวงหามานานแล้ว ธรรมประเภทนี้และท่านประเภทนี้ที่มาพูดนี้ หลวงตาบัวขอเทิดทูนอย่างสุดหัวใจเลย ถ้าท่านพรรษาแก่กว่าเรา เราขอกราบเลย ว่างั้นนะ ถ้าอ่อนกว่าเราก็อาวุโส ภันเต เป็นของมีมาดั้งเดิมอย่างนี้ จะไม่ถือเป็นสำคัญอย่างไร นี่ข้อหนึ่ง เข้าใจไหม ถ้าท่านเป็นอาวุโสเราจะขอกราบท่านอย่างถึงใจเลย เพราะท่านพูดอย่างแม่นยำตามหลักศาสดาที่สอนไว้ด้วยความเป็นธรรมอย่างยิ่ง ถอดออกมาจากหัวใจของท่าน ออกปากให้พี่น้องชาวไทยเราได้ทราบทั่วถึงกัน ฟังหรือยัง
สมเด็จอะไรว่ามา (สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ครับ) เออ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม เป็นสมเด็จหัวใจของพี่น้องชาวไทยเรา ซึ่งถือพุทธมาอย่างฝากเป็นฝากตายมาตลอด ในนามหลวงตาบัวแทนพี่น้องชาวไทย จึงขอ เอ้า พูดกลาง ๆ ว่า ขอกราบท่านเลยพี่น้องชาวไทย ถ้าเป็นหลวงตาบัวถ้าอายุพรรษาแก่กว่าท่าน ก็ขอเทิดทูนท่านสุดหัวใจ ถ้าท่านอายุพรรษาแก่กว่าเรา ถือ อาวุโส ภันเต ในหลักพุทธศาสนานะ เราจะขอกราบท่านอย่างสนิท กราบ ๓ หนแล้วยังไม่แล้ว เอาอีกให้มากกว่านี้เราเป็นที่พอใจอย่างยิ่ง สมเจตนาของเราที่ได้อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกาย เสียสละชีวิตทุกด้านทุกทาง เพื่อเทิดทูนพระพุทธศาสนา พร้อมทั้งอุ้มชาติไทยของเราไปด้วย นี่สมเจตนาของเราเหลือเกินที่หวังมานาน วันนี้ได้ปรากฏขึ้นแล้วคำพูดที่เป็นมหามงคล ออกจากสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ขอให้พี่น้องทั้งหลายทั่วประเทศไทยฟังเอาไว้ทุกคน
นี่ละที่เราเสาะแสวงหา แสวงหาผู้เลิศเลอในคำพูดที่เป็นธรรมล้วน ๆ นี้เรียกว่าเลิศเลอ เราหาอย่างนี้แล วันนี้เราได้มาประสบแล้วจึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วถึงกันทั่วประเทศไทยเรา ซึ่งเราฝากเป็นฝากตายกับพระพุทธเจ้ามา วันนี้เราได้เจอมหามงคลจากสมเด็จมหาธีราจารย์แล้ว ประกาศให้พวกเราทั้งหลายให้กราบท่านทั่วประเทศไทยเรานะวันนี้ ให้กราบท่าน ๆ หลวงตาบัวถ้าอายุพรรษาอ่อนกว่าท่าน เราจะขอกราบเป็นหัวหน้าบรรดาลูกศิษย์ลูกหา ถ้าอายุพรรษาท่านอ่อนกว่าเรา เราขอเทิดทูนท่านสุดหัวใจเรา วันนี้เป็นมงคลอย่างมากแล้วละ พี่น้องทั้งหลายฟังเอานะ เราพึ่งจะได้พบได้เห็นวันนี้แหละ
มันอุบ ๆ อิบ ๆ อยู่ไหนมาตลอดเวลา เราคุ้ยเขี่ยขุดค้นหาอยู่ตลอด หาความจริง ๆ วันนี้ได้เจอขึ้นแล้ว คือ สมเด็จมหาธีราจารย์ ท่านเป็นผู้ขุดคุ้ยขึ้นมาให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็น นี่คือธรรมของจริง ฟังเอาทุกคนวันนี้น่ะ ธรรมของจริงได้ปรากฏขึ้นมาแล้วจากสมเด็จมหาธีราจารย์ ที่วัดชนะสงครามเรา เอาละนะเอาเพียงประโยคแค่นี้ก่อน เราเทิดทูน ๓ หน สาธุ ๆ ๆ เอ้า (สาธุ ๆ ๆ ) เอาละ หลวงตาบัวจะสาธุสุดท้ายนะ สาธุ ๆ เหมือนกันด้วย
(หลวงตาเคยพบท่านแล้วที่ทำเนียบรัฐบาล ที่ท่านนายกทักษิณนิมนต์ไปฉันเช้า) ตอนนั้นเราไม่รู้จักกับท่านนะ ท่านไปในงาน ต่างคนก็ประจำหน้าที่ของตัวเอง พึ่งจะมาทราบเอาชัดเจนวันนี้แหละ โห ท่านเป็นหัวใจของชาวพุทธเรา ขอให้เทิดทูนท่านเถอะพี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวเป็นองค์หนึ่งทีเดียวเทิดทูนท่านเต็มกำลังแล้ว สุดหัวใจเลยนะวันนี้ เราอยากพบอยากเห็นเหลือเกิน ของดีจะไม่เทิดทูนยังไง เราหาของดีทั้งนั้นนี่เราจะไม่เทิดทูนยังไง ไม่ยกย่องสรรเสริญยังไงของดี องค์ศาสดาเลิศขนาดไหนเรากราบทุกหัวใจว่าไง ในชาวพุทธของเราน่ะ นี่ก็เป็นลูกศิษย์ตถาคตศากยบุตรร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอกราบเลย พี่น้องทั้งหลายให้พากันกราบเลยนะ แล้วหนังสือพิมพ์มีอะไรอีก
(อันนี้เขาสนับสนุนคำพูดของหลวงตา น.ส.พ.สยามรัฐ คอลัมน์ข้างวัดโดยประสก แต่ผู้ที่เขียนก็อันเตวาสิกครับ) อันเตวาสิก อันนี้ฟังเสียนะถ้าไม่เข้าใจ คืออันเตวาสิกเหมือนอย่างพระทั่ว ๆ ไปที่เราไม่ได้เป็นอุปัชฌาย์นะ แต่มาอาศัยเราอยู่นี้อย่างนี้เรียกว่าอันเตวาสิกทั้งหมด องค์นั้นบวชให้เรียกว่าเป็นสัทธิงวิหาริกขององค์นั้น ๆ แต่ละองค์มีอุปัชฌาย์ เป็นสัทธิงวิหาริกของอุปัชฌาย์นั้น ๆ แต่เป็นอันเตวาสิกของหลวงตาบัว เข้าใจไหม คืออันเตวาสิก แปลว่ารวมกันได้ พระทั้งหลายที่มาจากอุปัชฌาย์ต่าง ๆ มาอยู่กับเรา เป็นอันเตวาสิกของเรา ที่เป็นสัทธิงวิหาริกนั้น นั้นเป็นอุปัชฌาย์ของท่านองค์นี้ ๆ องค์นี้จึงเป็นสัทธิงวิหาริกของอุปัชฌาย์องค์นั้น ๆ เข้าใจไหม เอ้าว่าต่อไป บางคนจะไม่เข้าใจ
เขาจั่วหน้าคอลัมน์ข้างวัดนะครับว่า " ๙ เมษา หน้าทำเนียบ ชาวพุทธแท้อย่าไป" ผมเขียนวันนี้ก็เพื่อขอร้องญาติโยมที่ไปหลงเชื่อ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ปลุกระดมชักชวนท่านทั้งหลายให้ไปชุมนุมกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้นว่าอย่าไป เพราะ ไม่มีเหตุผลอันควร พ.ร.บ.ฉบับนี้จะออกมาหรือไม่ออกมาพระพุทธศาสนาก็ยังมั่นคงเหมือนเดิม
ต้องขอกราบเรียนไว้ตรงนี้อีกสักครั้งว่า ผมไม่มีเรื่องที่จะไปโกรธเคืองกับคณะศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด เพราะไม่เคยรู้จักกัน และผมไม่มีผลได้หรือผลเสียกับเรื่องที่เขาร่างพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ อันเป็นต้นเหตุความน่ากลัวที่จะเกิดขึ้นในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๕ เวลา ๙.๐๐ น.ตามคำประกาศขู่ของศูนย์พิทักษ์ฯ นั้น
แต่ที่ผมต้องเขียนนี้ก็เพราะการปลุกระดมของศูนย์ฯ นั้น ผมว่าไม่ชอบด้วยสำนึกของชาวพุทธ ไม่ต้องด้วยพระธรรมของพระพุทธเจ้า และไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องมี พ.ร.บ.นี้ขึ้นมาแต่อย่างใด
ที่ว่าไม่จำเป็นก็เพราะ ในพระพุทธศาสนานั้นมีพระวินัย อันพระผู้มีพระภาคเจ้าประทานไว้ ทั้งยังทรงสั่งกำกับว่า เมื่อสิ้นพระองค์แล้วให้ยึดถือพระวินัย เป็นสิ่งแทนพระองค์ ให้เคารพพระธรรม ปฏิบัติตามพระวินัย
เมื่อพระภิกษุที่ปฏิบัติตนไม่เป็นไปตามพระวินัย พระสงฆ์ก็ย่อมขับออกไปเสียจากศาสนจักร จากนั้นเขาก็เป็นคนธรรมดา ซึ่งอาญาบ้านเมืองก็กำกับอยู่แล้ว ใครแต่งกายเป็นภิกษุแต่ไม่ปฏิบัติตามพระวินัย ก็ถือว่าไม่ได้เป็นภิกษุ แต่ไปแต่งกายเลียนแบบภิกษุ และหลอกฉ้อโกงประชาชนในกรณีที่มีการรับเงินรับทองของบริจาคในนามของภิกษุ
แต่โบราณกาลมาเขาก็อยู่กันอย่างนี้ พระพุทธศาสนาก็จำเริญมั่นคง ประชาชนก็เคารพศรัทธาหนาแน่น ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณี ปฏิบัติทางศาสนพิธีโดยเคารพ
เพิ่งจะมาเกิดเหตุก็ตรงที่ มีอลัชชีมาแอบแฝงเพื่อหากิน สร้างความร่ำรวย และมักมากในเมถุนกรรม บ้างก็รีดไถประชาชนเพื่อสร้างฐานะ ทำลายปราการความมั่นคงทางศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้แก่ญาติโยมที่ยังแยกแยะไม่ออกเป็นจำนวนไม่น้อย
นี่คือปัญหาใหญ่ต้นเหตุที่ต้องร่าง พ.ร.บ.นี้ขึ้น เพื่อหวังให้มี มหาคณิสสร ขึ้นมาทำหน้าที่แทนมหาเถรสมาคม
ซึ่งถูกต้องและเป็นการดี ผมสนับสนุนในส่วนนี้
แต่เรื่องไม่ง่ายอย่างนี้ ที่ผมจับมาถือเป็นประเด็นก็คือ ตามที่เคยกราบเรียนไว้แล้ว
๑.พ.ร.บ.ฉบับนี้ ลิดรอนพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรงที่ขีดเส้นในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งควรจะสุดแล้วแต่พระมหากรุณา ตามพระราชอัธยาศัยแห่งพระผู้ทรงทศพิธราชธรรม
๒.ลิดรอนอำนาจของพระสังฆราช โดยการยกให้มหาคณิสสรปกครองพระภิกษุสามเณรทุกรูป โดยไม่มีคำยกเว้นใครเลย และแฝงอำนาจของมหาคณิสสรไว้อีกหลายแห่ง
๓.ประเด็นใหม่ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ยังไปบัญญัติห้ามสื่อมวลชนวิจารณ์คณะสงฆ์เข้าไปอีก ซึ่งไม่น่าจะมี ทำให้เห็นเป็นพิรุธว่า เขาจะทำอะไรกัน จึงต้องห้ามปรามกันไว้อย่างนี้
เพราะเหตุนี้ผมจึงหันมาคัดค้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้ในประเด็นดังกล่าว แต่ถึงแม้ว่าเขาจะผ่านเข้า ค.ร.ม. แม้ผ่านสภาเป็น พ.ร.บ.ออกมาผมก็ไม่มีอะไรเสียหาย ใครจะเป็นมหาคณิสสร ใครจะมาเป็นสังฆราช ผมก็ไม่กระทบกระเทือนอะไร กฎหมายฉบับนี้ทำอะไรผมไม่ได้อยู่แล้ว
ผมเขียนวันนี้ก็เพื่อขอร้องญาติโยมที่ไปหลงเชื่อ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยที่ปลุกระดม ชักชวนท่านทั้งหลายให้ไปชุมนุมกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้นว่าอย่าไป เพราะ
ไม่มีเหตุผลอันควร
พ.ร.บ.ฉบับนี้จะออกมาหรือไม่ออกมา พระพุทธศาสนาก็ยังมั่นคงเหมือนเดิม
ศาสนามั่นคงได้เพราะผู้นับถือศาสนานั้น ๆ ต่างปฏิบัติตามธรรมะที่แต่ละพระศาสดาตรัสไว้ถูกถ้วนดีแล้ว ไม่ใช่ด้วยพระราชบัญญัติที่สามัญชนทำขึ้น แล้วออกในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์
พระภิกษุต้องมี โยนิโสมนสิการ อย่าต้องให้โยมบอก
คนที่มีความรู้ขนาดโสเครติสเมืองไทย ต้องช่วยกันรักษาบ้านเมือง อย่าทำลาย อย่าเห็นแก่ความโด่งดังส่วนตัว
ท่านทั้งหลายโปรดช่วยกันถนอมบ้านเมือง บ้านเมืองของเราบอบช้ำมากแล้ว กำลังจะแตกตาผลิใบ อย่าก่อกวนให้วุ่นวายอีกเลย
รักประเทศชาติช่วยกันทำงานผลิตผลออกมาส่งขายเก็บเงินเข้าประเทศ
รักประเทศชาติ ช่วยกันรักษาความสงบ ช่วยกันสอดส่อง เห็นทุจริตแล้วใช้กฎหมายกำจัด
รักประเทศชาติช่วยกันประหยัด โดยเฉพาะการไปคับคั่งอยู่หน้าทำเนียบ ทำให้หมดเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง สูญเสียเงินตราให้ต่างประเทศ
รักประเทศชาติช่วยกันรักษากฎหมาย อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย อย่าทำความสกปรก
ท่านทั้งหลายต้องเชื่อพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงสั่งให้อยู่ในศีล ทำสมาธิ วิปัสสนาหาปัญญา พระพุทธเจ้าทรงสั่งให้สงบ สำรวมกาย วาจา ใจ อย่าฟุ้งซ่าน
รักพระศาสนา ต้องช่วยกันชูพระธรรม ด้วยการปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
รักศาสนา ต้องช่วยกันสำแดงให้ประชาชนเห็นว่า การเป็นอยู่แบบของพระพุทธเจ้านั้น สงบ ร่มเย็นและเป็นสุข ไม่ใช่วุ่นวาย และไม่ขัดข้อง
รักศาสนา ต้องรักพระวินัย เพราะพระวินัยเป็นของพระพุทธเจ้าแท้ ๆ อย่าให้กฎหมายอื่นมาเหนือกว่าพระวินัยของพระพุทธเจ้า
พ.ร.บ.สงฆ์ ไม่ใช่สิ่งสำคัญของพระพุทธศาสนา เพราะเป็นเพียงกฎหมายที่คนธรรมดาทำขึ้น
หลวงตา หายสงสัยแล้วนะ ถูกต้องเราไม่มีที่ค้าน น.ส.พ.ฉบับนี้เราไม่มีที่ค้าน เหมาะสมกับเจตนาที่เรามุ่งต่อพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ เข้ากันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เพราะฉะนั้นเราจึงบอกว่า แหมรุนแรงมากคราวนี้ เรียกว่ารุนแรงเป็นครั้งที่สองของพุทธศาสนาเรา คือครั้งแรกก็พระเทวทัตต่อสู้กับพระพุทธเจ้าเสียเอง ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เราพูดติดปากว่าพวกเปรต ว่างั้นเข้าใจไหม นี่ภาษาตรงไปตรงมา ฟังซิพวกเปรต คือหากินไม่พอเปรตนี่ พวกที่ละโลกนี้ไปแล้วไปแสวงหากินทักษิณาทานของญาติมิตรทั้งหลายอุทิศให้ พวกนี้หาอาหารไม่พอ จึงเรียกว่าเปรต เราแปลตามนั้นเลย เรียกว่าเปรต คืออาหารไม่พอพวกนี้
มาวาระที่สอง คือพวกเปรตนี้จะทำลายพระพุทธศาสนา คือหลักธรรมวินัยที่เป็นองค์แทนของศาสดา พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว ศาสดาองค์แทนได้แก่พระธรรมวินัย มีอยู่โดยสมบูรณ์ แล้วพวกนี้จะทำลายอันนี้ จึงคล้ายคลึงกันมากไม่ได้ผิดกัน อันนั้นเป็นองค์แท้ อันนี้เป็นองค์แทน ก็คือศาสดาเอกอันเดียวกัน เวลานี้กำลังมาทำลายจุดที่สอง จึงว่าคล้ายคลึง เราก็เคยพูดหลายครั้งแล้ว ก็มันเป็นอย่างนั้น ในหลักธรรมวินัยมี ก็พูดไปตามหลักธรรมหลักวินัย เราไม่ได้บิดเบือนไปไหนเลย
เพราะฉะนั้นเราจึงกล้าพูดทุกอย่าง คอขาดขาดไปเลย เอาหลักธรรมวินัยเป็นเครื่องเทิดทูนเราพอใจ นี่ละสองครั้งนี้เราไม่อยากว่าผิดกันนะ เหมือนกันเลยอันเดียวกันเลย คือนั้นเป็นองค์แท้ศาสดา ครองพระสรีระ เรียกว่าครองร่างอยู่ อันนี้เอาธรรมวินัยตามที่รับสั่งไว้แล้วว่า องค์นี้เป็นองค์แทนของศาสดา แน่ะ เข้ากันได้แล้ว แล้วกำลังถูกทำลายเวลานี้ โอ๊ย.หน้าด้านจริง ๆ นะพวกนี้ เราพูดได้อย่างนี้ละเรา มันด้านเอาเสียจริง ๆ ก็เรียนมาด้วยกัน พวกนี้พระนี่นะ เพราะฉะนั้นมันถึงได้พูดกันอย่างถนัดชัดเจนปากละซิ มันเรียนมาด้วยกัน คัมภีร์เดียวกัน เห็นด้วยกัน มาตบตากันหาอะไร พูดง่าย ๆ
ถ้าไม่รู้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง นี้เห็นรู้อยู่ทุกอย่างด้วยกันแล้วมาตบตากัน แล้วตบตาประชาชนทั้งประเทศอีกด้วย อู๊ย.น่าทุเรศจริง ๆ เราคราวนี้นะ เรามาเห็นความเลวร้ายของพระเรานี่ ร้ายยิ่งกว่าประชาชนเสียอีกก็คือพระเราในจุดนี้ชุดนี้แหละ ว่าให้มันตรง ๆ อย่างนี้แหละ เราไม่เคยเห็นเราก็บอกตรง ๆ เลย ที่จะหยาบโลน เลวร้ายที่สุด ในเพศของพระตั้งแต่ในระยะนั้นของพระพุทธเจ้ามานี้ก็มาได้ ๒ ครั้งนี้ ครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญมาก เราได้เห็นด้วยตาเนื้อของเรา ได้ฟังด้วยหูของเราชัดเจน จึงพูดได้เต็มปากในการจะบรรยายเรื่องราวเหล่านี้ได้ เราพูดได้เต็มปากของเรา เราไม่สงสัย อย่างอาจหาญเสียด้วย
โฮ้.น่าทุเรศจริง ๆ ทำไมถึงเลวร้ายเอาหนักหนา ประสายศว่างั้นเลย ออกจาก ยศมันก็เย็ดเท่านั้น จะไปไหน อ้าว.บ้าก็บ้าไปหาเย็ดนั่นแล้ว มันจะไปไหนบ้านี้ นี้ซิที่มันน่าทุเรศจริง ๆ บ้ายศ บ้าอำนาจ จะครองคนทั้งประเทศด้วยบ้าสองสามตัวเท่านั้นแหละ เราไม่อยากพูดว่า คนหรือพระ มันเอาพระมาจากไหนเราก็ไม่ทราบ ดูเรื่องราวนี้เอา โค่นไปหมดในชาวพุทธทั่วประเทศไทย ทั้งพระเจ้าพระสงฆ์และประชาชนทั่วประเทศไทย ให้แหลกเหลวกันอย่างนี้จะเรียกว่าพระได้ยังไง เพราะฉะนั้นจึงเรียกไม่เต็มปาก เรียกไม่เต็มเต็งละเรา เราไม่อยากเรียกพระ ถ้าว่าให้เปลื้องผ้าเหลืองมันออกเสีย นั่นถูกต้อง
ตามหลักธรรมวินัย พวกนี้พวกมหาภัย ทำลายทั้งชาติทั้งศาสนาไปด้วย เอาไว้ทำไมเนื้อร้าย ว่างั้นเลย ตัดออกเพื่อจะรักษาเนื้อดีไว้ เพื่อทำคุณประโยชน์ต่อไป อันใดที่เป็นเนื้อร้ายแม้แต่คนไข้เขายังตัดเห็นไหมล่ะ เข้าไปในโรงพยาบาล ใครจะไม่รักไม่สงวนอวัยวะของตน ทำไมจึงต้องสละตัดเนื้อร้ายออก เนื้อร้ายอวัยวะส่วนใดที่จะขาดไปด้วยก็จำต้องยอมกันขาดไป เพื่อรักษาส่วนดีเอาไว้ นี้มันก็แบบเดียวกัน ไม่ผิดกันเลยนะ พวกเนื้อร้าย
ร้ายจริง ๆ นะไม่ใช่ธรรมดาจนเราเกิดความสลดสังเวชนะ จะไม่เกิดยังไงก็มันได้ยินอยู่ชัด ๆ อย่างนี้ ผู้มาพูดให้ฟังมันก็เป็นคนที่เชื่อถือได้ ลูกศิษย์ที่หวังดีต่อครูบาอาจารย์ และเทิดทูนธรรมะมาตลอด มาพูดให้ฟัง ยกตัวอย่างใกล้ ๆ อย่างที่เราเคยมาพูดทีหนึ่งแล้วนะ แล้ววันนี้แจงให้พี่น้องทั้งหลายทราบเสีย เป็นตัวของเราเอง ตัวของเรานี้พูดขึ้นมาอีกทีหนึ่งให้ชัดเจนฟังให้ดี มหาถาวร นี้เป็นลูกศิษย์ของวัดโพธิ์ เป็นเณรอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ ลูกศิษย์ท่าน เจ้าคุณธรรมบัณฑิต ทุกวันนี้แหละ แล้วออกจากนี้ก็ไปอยู่ที่กรุงเทพ ไปอยู่วัดสระปทุม
เบื้องต้นเราค่อนข้างเชื่อว่าท่านเชื่อท่านลงใจในเรา มาขอเทปจากวัดป่าบ้านตาด เราก็เล็งดูในระยะนั้นก็รู้สึกว่าเรียบร้อยทุกอย่าง เป็นที่ยอมรับกัน เราจึงให้พระส่งเทปนี้ไปให้ เทปทุกประเภทเรียกว่า กองอยู่ในวัดสระปทุม กับมหาถาวร ทั้งหมด ครั้นเอาไปแล้วก็เปิดให้ญาติโยมเขาฟัง เขาก็มาฟังทุกวัน ๆ ในบรรดาเทปทั้งหลายทุกขั้นของธรรม ที่เราเทศน์เทศน์ทุกขั้นไม่สงสัยทุกขั้นธรรมเลย ตั้งแต่แกงหม้อใหญ่จนกระทั่งถึงสูงสุดว่างั้นเลย อยู่ในเทปนั้นทั้งหมด ท่านเหล่านี้ก็มาฟังเทปอยู่นั้นจนกระทั่ง ถ้าภาษาของเราเรียกว่า ลงใจเต็มเหนี่ยวแล้ว จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้ว ว่างั้นเถอะ นอกจากจะพุ่งต่อความดีทั้งหลายให้หลุดพ้นเท่านั้นจากธรรมทั้งหลายนี้ ด้วยการฟังด้วยความจริงใจ
ท่านเหล่านี้ได้เป็นลูกศิษย์ของมหาถาวรด้วยธรรมะอันนี้ จะว่ามหาถาวร เอาธรรมของเราไปสื่อสารกับพี่น้องชาวไทยเราทั้งหลาย ให้มาเป็นลูกศิษย์อย่างนี้ก็ได้ ถ้ามีเงื่อนนี้ขึ้นมารับกันแล้วเงื่อนจะทำลายชาติเวลานี้ เข้าใจไหม เหมือนกับว่ากว้านเอาเหล่านี้มาเป็นลูกศิษย์ แต่เวลานั้นยังไม่กว้าน ตามความรู้สึกของเรา ก็มีแต่ว่าเป็นการเสริมอำนาจหรือเสริมระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ หนุนกันไป ด้วยอาศัยอันนี้เป็นเครื่องหนุนอย่างนี้ก็ถูกนะ เรายอมรับอันนี้ ก็ไม่ผิดธรรม ถึงหากว่าอยากจะเป็นผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ก็เป็นอยู่ภายในจิตใจของแต่ละคนไม่แสดงออกอย่างหยาบโลนดังที่เป็นอยู่เวลานี้นะ เราก็ยอมรับว่า ลูกศิษย์เหล่านี้นั้นก็ไปเป็นลูกศิษย์มหาถาวร โดยอาศัยนี้เป็นต้นเหตุ
ครั้นต่อมาทุกวันนี้ พลิกแล้วที่นี่ พลิกเป็นใหม่ขึ้นมาแล้วมหาถาวร เพราะความมักใหญ่ใฝ่สูง ความเป็นบ้าอำนาจ บ้ายศ บ้าเย็ด อะไรเหล่านี้น่ะ มันท่วมเข้าไปทุกสิ่งทุกอย่างแล้วเลยมาพลิกว่า เวลานี้เราได้กำลังมากแล้วจะคืน พูดง่าย ๆ ให้มันเต็มยศก็คือจะคืนฟัดหลวงตาบัว เข้าใจไหม อันนี้ละที่มันเจ็บมาก แสบมากที่สุด เราพูดจริง ๆ ตามความรู้สึกของเรา นี้เราก็พูดด้วยความเป็นธรรม แทนที่เราจะมาวิตกวิจารณ์ที่มหาถาวรมาโจมตีเรา ว่าได้พวกมากแล้วจะมาโจมตีเรานี้ เรากลับสลดสังเวชไป โอ๋ย.มหาถาวร จะทำความชั่วช้าลามก ถึงขนาดที่จะทำลายตัวเองฉิบหายสด ๆ ร้อน ๆ ในชีวิตความเป็นอยู่นี้เหรอ นี้อันดับหนึ่ง อันดับที่สอง ท่านอาจารย์มั่น ไม่สำคัญนี้อันหนึ่ง
แล้วเมื่อวานซืนเขาก็มาพูดอีก ก็คนเก่าละที่มาพูดอยู่ตอนเช้าเมื่อวานนี้ ก็พูดถึงเรื่องไปหามหาถาวรมาว่า ไม่ผิดพระวินัยเหรอที่ไปทำอย่างนั้น เขาบอกว่า พระวินัยไม่สำคัญ กฎหมายสำคัญกว่า นี้อันหนึ่งนะ มีแต่เรื่องหนัก ๆ หนึ่งพระวินัยไม่สำคัญก็คือ องค์ศาสดาไม่มีความหมาย พูดอย่างนั้นเอง แล้วหลวงปู่มั่น ไม่สำคัญก็คือไม่มีความหมาย ส่วนหลวงตาบัวเป็นอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ ประสาหลวงตาบัว เข้าใจไหม เพียงแต่ยกมาให้พี่น้องทั้งหลายทราบ
ทีนี้แทนที่เราจะมีอะไร ๆ ในตัวของเรา เราไม่มี เราบอกว่าโลกอันนี้เป็นโลกถังขยะ พูดในสายตาของธรรม ให้ท่านทั้งหลายฟังนะ เราไม่มีอะไรเลย เขาจะมาโจมตีขนาดไหนก็ตาม จะมายกยอขนาดไหนก็ตาม ก็เท่ากันกับว่า ทองคำแท่งนี้น้ำหนัก ๑๐ กิโล อิฐก้อนนี้น้ำหนัก ๑๐ กิโล เอ้า.จะเอาอันไหน ธรรมดาคนก็ต้องโดดใส่ทองคำน้ำหนัก ๑๐ กิโลใช่ไหม ไม่สนใจกับอิฐ เราไม่เอาทั้งสอง เพราะอะไรน้ำหนักมันเท่ากันยกให้มันหนักทำไม เข้าใจเหรอ เป็นของเศษของเลยทั้งนั้น ของพอดีคือหลักธรรมชาตินั่น นี่พูดอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น เราจึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่จะมาโจมตีเราอย่างนี้ แทนที่เราจะเกิดความอะไร ๆ ดังโลกเกิด เราไม่มี เลยกลับสลดสังเวชมหาถาวรนี้นะ โอ๊ย.แกไปสร้างความฉิบหายวายปวงแก่ตัวเองสด ๆ ร้อน ๆ อย่างนี้เหรอ ทำไมจึงทำได้ลงคอ เลยมาคิดจุดนี้เสียมากยิ่งกว่าจุดใด กลัวจะเกิดอะไร ๆ ขึ้นมา ไม่เกิดก็ตาม เรากลัวเฉย ๆ เป็นอะไรไปใช่ไหม ก็เรากลัวเฉย ๆ ไม่เกิดก็ไม่เป็นไร เช่น อย่างเรากลัวเสือเสือไม่กัดก็ไม่เป็นไร ก็เรากลัวมัน เข้าใจไหม เราก็พูดแบบนั้น อันนี้ก็อย่างนั้นเหมือนกัน เราเลยสลดสังเวชเอาหนักมากนะ จุดสามจุดนี้เป็นจุดสำคัญ
๑.ธรรมวินัยไม่สำคัญ ก็คือพระพุทธเจ้าไม่มีความหมาย ๒.ท่านอาจารย์มั่น ไม่สำคัญ ก็คือหลวงปู่มั่นไม่มีความหมาย หลวงตาบัวเป็นหมาก็ช่างหัวมันเถอะ อันที่สามนี้ หลวงตาบัวเป็นหมาก็ไม่เป็นไร หมาแบบไอ้หยองนี้ไปไหนกินตลอด เรานี้เป็นแบบไอ้หยองแล้ว เราจะไปกว้านกินในครัวตลอดทั้งวัน เราไม่เป็นไร ให้เอามาสิบตัวเราก็ไม่ว่าหมาแบบนี้ มันสนุกกิน ก็มีเท่านั้นละ นี่ละที่เราวิตกวิจารณ์มากนะ เราพูดจริง ๆ มันสะดุดใจ สะดุดใจเลย แทนที่จะมากระเทือนเราไม่มา มันไปกระเทือนตรงนั้นตรงที่ก่อเหตุ ก่อขึ้นมาปั๊บก็ใส่ตัวเอง ก่อขึ้นมาปั๊บก็ใส่ตรงนี้ ถ้าไฟก็เผาตรงนี้ ปั๊บออกมานี้ก็เผาตรงนี้ ๆ มากน้อยเผานี้ ๆ ตลอด จะไปเผาใครผู้เขาไม่ทำ กมฺมสฺสโกมฺหิ กรรมเป็นสมบัติของใคร แน่ะ มันก็ลงจุดนั้น ๆ โอ๊ย เราทุเรศจริง ๆ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน
โยม ขออนุญาตกราบเรียนค่ะ การอบรมจิตตภาวนาที่วัดป่าโนนนิเวศน์มีผู้เข้ารับการอบรมประมาณ ๘๘๐ คน เป็นทั้งครูประถม-มัธยมแล้วก็สังกัดเทศบาล แล้วก็ที่อบรมมีทั้งอบรมวิชาครู เพื่อนำหนังสือ " หยดน้ำบนใบบัว " ไปสอนนักเรียนแล้วก็อบรมจิตตภาวนา มีแม่ชี แล้วก็มีพระไปสอนนั่งสมาธิเจ้าค่ะ แล้วก็มีพระไปเทศน์ ทำวัตรเช้าตีสี่ ทำวัตรเย็นทุ่มหนึ่งแล้วก็สอนให้นั่งสมาธิ สอบถามครูผู้เข้ารับการอบรมบอกว่า เข้าใจดีมากขึ้นและสามารถนำไปใช้สอนเด็ก แล้วก็นำไปปฏิบัติเองได้ ทีนี้ปัญหาก็คือว่า ครูสอนเด็กเล็กเช่น เด็กอนุบาล หรือประถมหนึ่ง ประถมสอง เขาบอกว่าควรจะมีภาพเขียนการ์ตูน เพราะเด็กยังอ่านหยดน้ำบนใบบัวยังไม่ได้ ลูกกำลังให้เขาเขียนอยู่เจ้าค่ะ ถ้าเสร็จพอสมควรก็จะนำมากราบเรียนหลวงพ่อ นั่นก็เรื่องหนึ่งนะเจ้าคะ
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า อยากจะให้พี่น้องทราบว่ามีคลื่นความถี่ เอ เอ็ม ๑๓๕๐ นะคะ ที่จะออกรายการเกี่ยวกับเทศน์ของหลวงตา ๑๗:๐๐-๑๘:๐๐ น.ถ้าใครมีปัญหาโทรศัพท์ถึงสถานีได้นะคะ
โทร.๐๒-๒๘๐๑๓๖๗ กับ ๐๒-๒๘๑๐๒๑๘
ทีนี้คณะจัดเริ่มจัดเมื่อวานเป็นวันแรก เมื่อวานเอาเทปหลวงตาไปเปิดที่เทศน์เมื่อวาน.อยากให้ลูกมากราบเรียนถามว่า จะตั้งชื่อรายการว่า ตามรอยธรรม แล้วก็โดย ศูนย์ต้านทานมหาโจรปล้นพระพุทธศาสนา ไม่ทราบว่าหลวงพ่อจะว่ายังไงบ้าง
หลวงตา อันนี้ไม่เอาละ คือมันเป็นการต่อสู้กระทบกัน เราปฏิบัติความดีของเราต่างหาก อันนี้ไม่ควรเอาศูนย์ต้านทานเข้ามาเกี่ยวข้อง
โยม ถ้างั้นตั้งชื่อรายการว่า ตามรอยธรรม
หลวงตา เอ่อ ๆ ถูกต้องแล้ว
โยม แล้วก็จะลงโฆษณาในหนังสือ ผู้จัดการ เจ้าค่ะ ว่ามีรายการนี้ คลี่นความถี่เท่านั้นเท่านี้เพื่อจะให้พวกลูกศิษย์ได้เปิดฟังเจ้าค่ะ
หลวงตา ส่วนนี้ตัดออกเลยนะ ที่ว่าตะกี้นี้ (ศูนย์ต้านทานไม่เอานะคะ) เออ ไม่เอา เพราะเราต่างคนต่างบำเพ็ญความดี แล้วเป็นเครื่องดูดดื่มความดีในทางดีล้วน ๆ อย่าให้มีการต้านทานรบรากัน ไม่ใช่การอบรมความดีใช่ไหม อันนี้ให้ตัดออกเลยนะ
โยม แล้วส่วนใหญ่จะนำเทปของหลวงตานี้ไปเปิดเจ้าค่ะ
หลวงตา เรื่องเทปไม่เป็นไรละ เราเป็นผู้เทศน์อยากออกช่องไหนเราจะออกของเรา ก็เป็นเทศน์หลวงตาบัวนี่เข้าใจไหม หลวงตาบัวโยนให้หลวงตาบัวเลย หลวงตาบัวขึ้นเวทีแล้วต่อยเองไม่ต้องไปยืมหมัดใคร นอกจากหมัดหมาอาจยืมบ้าง เพราะหมัดเราไม่พอ หมัดหมาตัวเดียวมันเต็มหลังมัน เข้าใจไหม เอาเท่านั้นละ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet www.luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|