สรุปทองคำและดอลลาร์วันที่ ๑๗ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑๐ บาท ๕๓ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๖๑ ดอลล์ กฐินทองคำ ๘๔,๐๐๐ กองนั้น ทองคำได้แล้ว ๙๔ กองๆ ละ ๑ สลึง เท่ากับทองคำจำนวน ๒๓ บาท ๒ สลึง เงินสดได้แล้ว ๑,๘๑๐ กองๆ ละ ๑,๖๐๐ บาท เท่ากับตัวเงิน ๒,๘๙๖,๐๐๐ บาท เงินนี่จะได้ไปซื้อทองคำเข้าทีหลัง ส่วนทองคำที่ได้มาเรียบร้อยแล้วก็เข้ารวมกันไว้เลยที่จะหลอม สำหรับเงินบาทที่เราจะให้เป็นกองกฐินนั้นเราจะซื้อทองคำทีหลัง พอถึงเวลาแล้วก็ถอนออกมาปุ๊บซื้อทองคำเข้าเลย ไม่เป็นอื่น ถ้าหลวงตาได้สั่งอย่างไรแล้วจะเป็นอย่างนั้น เป็นอื่นไปไม่ได้ ไม่เคยเหลาะแหละ รวมกฐินทั้งหมดเวลานี้ได้แล้ว ๑,๙๐๔ กอง ยังขาดอยู่อีก ๘๒,๐๙๖ กอง กรุณาทราบตามนี้ ค่อยขยับเข้ามาเรื่อย ๆ
พากันเข้าใจหรือยังคำว่ากฐินทองคำนั้น ถ้าเป็นทองคำแล้วก็เรียกว่ากองละ ๑ สลึง ถ้าเป็นเงินบาทก็เทียบตามทองคำนี้ น้ำหนักทองคำเท่าไรเป็นเงินบาทเท่านั้น ทั้งสองนี้จะเอาแบบไหนก็ได้ผู้มาทอดกฐินทองคำ คือจะเอาเป็นทองคำมาเลยก็ได้ เป็นเงินสดมาก็ได้ เทียบจำนวนเท่ากันกับทองคำ ๑ สลึง จะรับไว้ทั้งสองเลย ทองคำเราได้ไปทุกวันไม่ให้ขาด ไม่ให้เสียลวดลาย ให้ได้ไปทุกวัน เช่นอย่างเมื่อวานนี้ก็ได้ ๑๐ บาท ๕๓ สตางค์ ดอลลาร์ ๖๑ ดอลล์ รวมทองคำทั้งหมดทั้งที่เข้าคลังหลวงแล้วและยังไม่เข้า เป็นจำนวนทองคำ ๕,๒๖๐ กิโล ที่กำหนดไว้ว่าให้ได้ ๑๐ ตันนี้ ๕,๒๖๐ กิโลนี้ไปลบ ๑๐ ตัน ขาดเท่าไรก็นั่นละเราจะได้หาเพิ่มเข้าไป ยังขาดอยู่เวลานี้ ๔ ตันกว่า พยายามเอาให้ได้นะ
เราต้องหาอุบายวิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยชาติของเราให้ขึ้นนะ เหล่านี้พี่น้องทั้งหลายอย่าไปเข้าใจว่าเป็นการรบกวนบ้านเมืองของเรานะ ความบกพร่องของคนไทยทั้งชาติ ๖๒ ล้านคนมีน้ำหนักมากขนาดไหน ให้คิดตรงนั้นนะ นี่เราพยายามขวนขวายหาทางนู้นทางนี้เพื่อจะหนุนเข้าในที่บกพร่องมาก ๆ นั้นแหละ อย่าไปคิดเข้าใจผิดไปนะว่ารบกวนทางนั้นรบกวนทางนี้ เป็นความผิดทั้งนั้น นี่อุบายวิธีการที่เราจะช่วยชาติของเรา อุ้มชาติของเราขึ้นมาด้วยวิธีการอย่างนี้ หลายท่านหลายคน หลายวิธีการที่จะทำ กรุณาให้พิจารณาอย่างนี้ อย่าไปคิดอย่างอื่น ถ้าคิดอย่างอื่นก็ทำลายเจ้าของเอง วิธีการไหนที่ควรเป็นไปได้ยังไงเอาเรื่อย ๆ ไปอย่างนี้
(เมื่อนิมนต์หลวงพ่อไปเทศน์ที่ไหน คนที่มาฟังธรรมะที่ประทานออกมานั้น ดีขึ้น ๑๐ คน ๒๐ คน สังคมบริเวณนั้นก็จะดีขึ้น จะฆ่ากันก็จะน้อยลง จะผิดศีลก็จะน้อยลง นี่นโยบายข้อที่หนึ่งที่คิดทำนะคะ ข้อที่สองก็คือชาวบ้านแม้ ๕ บาท ๑๐ บาททำบุญก็ว่ามีบุญวาสนาได้ทำบุญกับพระอรหันต์) หันไหนมันโมโหนะ (ข้อที่สามมีผลถือว่าเป็นการช่วยชาติ เพราะฉะนั้นใครว่าจะรบกวนไม่ถูก หนูจะพาคนทำบุญต่างหาก) เออ ถูกต้อง เราก็บอกว่าไม่ได้รบกวนแล้ว
หลวงตานี้อ่อนลงไปมาก แต่จิตใจยิ่งเป็นห่วงหนักขึ้นทุกวัน เพราะฉะนั้นขอให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นใจหลวงตานะ อุตส่าห์พยายามดีดดิ้นทุกด้านทุกทาง คราวนี้เป็นคราวยิ่งใหญ่สำหรับชาติไทยของเรา ในการฟื้นฟูชาติของเราขึ้นมาให้เป็นปรกติดั้งเดิม อย่างน้อยต้องให้เป็นอย่างนั้น เราก็แน่ใจว่าเป็นได้เลย จึงอุตส่าห์ขวนขวายกันมา นี่เป็นเรื่องใหญ่โตมาก เรื่องใหญ่คือความเสียหายมาก่อนหน้าแล้ว ๓-๔ ปีผ่านมานี้ เมืองไทยเกือบจะจมด้วยกันทั้งหมดเลยนะ ตั้งแต่เป็นเมืองไทยมา ตั้งแต่ปู่ย่าตายายพาคืบพาคลานพาดิ้นพาดีดพาถ่อพาพายมาจนกระทั่งถึงวาระที่ว่านี้ ท่านเหล่านั้นก็ตะเกียกตะกายเต็มกำลังความสามารถก็ประคองตัวมาได้ มาระยะ ๓-๔ ปีที่ผ่านมานี้เมืองไทยจะจมต่อหน้าต่อตา แล้วจะเอาให้บรรดาบรรพบุรุษเราจมไปด้วยกันเลย นี่มันดูไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นจึงต้องพากันตื่นเนื้อตื่นตัวนะ
ลูกหลานไทยไม่ช่วยกันไม่มีใครช่วย ต้องเราทุกคนช่วยกัน ถึงคราวแข็งต้องแข็ง ไม่งั้นไม่ได้นะ อ่อนเปียกไปเรื่อย ๆ จมได้ ไม่ว่าอะไร ๆ จมได้ทั้งนั้น ถึงคราวแข็งต้องแข็ง เวลานี้ถึงคราวดีดคราวดิ้นของเรา ก็ดีดดิ้นเต็มกำลัง ให้แข็งขึ้นมาให้ถึงตามจุดนั้นแหละ จุดที่กำหนดไว้ เช่น ทองน้ำหนัก ๑๐ ตันไม่เหลือบ่ากว่าแรงของพี่น้องชาวไทยเราจะแบกได้ เพราะคนไทยเรา ๖๒ ล้านคนมีคุณค่าขนาดไหนทองเพียง ๑๐ ตัน อะไรจะไปมีคุณค่ายิ่งกว่าชาติไทยของเราทั้งประเทศ แล้วบรรจุพี่น้องชาวไทย ๖๒ ล้านคน อันนี้หนักมากกว่านั้นนะ แล้วจะจมไปเลย น้ำหนักมากแต่จมไปเลย อู๋ย ยิ่งเลวร้ายทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงต้องพยายามพยุง ทองคำเวลานี้ยังไม่ได้ ๑๐ ตันนะ เพียง ๔ ตันกว่า เราได้มาแล้ว ๕ ตันกว่าแล้ว ๔ ตันกว่าที่ยังอยู่เวลานี้ เอาให้ได้
สำหรับดอลลาร์เราไม่มีกำหนดอะไรนัก คือตามธรรมดาดอลลาร์เมื่อมอบทองคำทีไร มันก็เข้าติดตามกันไปทุกที ๆ เวลานี้ดอลลาร์เราก็ได้แสนกว่าแล้ว เมื่อทองคำถึงวาระที่จะมอบแล้วคิดว่าจะได้มากกว่านั้น ดีไม่ดีอาจจะได้ถึง ๓ แสนก็ได้นะ
ที่กำหนดที่จะมอบทองคำ วันที่ ๑๐ เป็นวันเริ่มงาน วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๔๕ นั้นเป็นวันธนาคารชาติ จะบำเพ็ญการกุศลอันยิ่งใหญ่ ครบรอบของวันธนาคาร ๖๐ ปี แล้วเราก็จะพยายามเสริมทองเข้าไปให้ได้มอบในงานนั้นว่างั้นเถอะ วันที่ ๑๐ นะ เริ่มงาน เราก็จะเริ่มทองคำของเราเข้าไปสมทบในระยะนั้นแหละ ในวงงานนั้นแหละ ให้ได้ ๕๐๐ กิโล เวลานี้มันก็ได้ ๒๐๐ กิโลกว่าแล้ว เราไม่ค่อยวิตกวิจารณ์นักแหละ คิดว่าจะได้แน่ ๆ คือ ๕๐๐ กิโล เวลานี้ได้ ๒๐๐ กว่าแล้ว คิดว่าจะได้ เพราะยังอีกเวลาตั้งเกือบ ๔ เดือน คิดว่าจะได้ นี่ละจะเอาทองคำเข้าพร้อมกัน ให้เป็นความสง่างามแห่งธนาคารชาติไทยของเรา คือเป็นวันมหามงคลครบรอบ ๖๐ ปีในการตั้งธนาคารชาติมา แล้วทีนี้ก็ให้มีทองคำเสริมเข้าไป ๕๐๐ กิโล มิหนำซ้ำดอลลาร์จะตามเข้าไปอีก นี่ยิ่งสวยงามมาก สง่างามมากนะ
หลวงตาคิดทุกอย่างที่จะให้เป็นประโยชน์ และเป็นความสวยงามมีสง่าราศีต่อชาติไทยของเรา เพราะฉะนั้นจึงได้เรียนพี่น้องทั้งหลายทราบในแง่ต่าง ๆ ตลอดมา อะไร ๆ ที่จะเป็นมงคลแก่ชาติไทยของเรา เราจะพยายาม ๆ ทางวัดนั้นวัดนี้ก็พยายามให้มีงานขวนขวายทองคำเข้าสู่คลังหลวงของเรา มาทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง ตั้งขึ้นเรื่อย ๆ ให้พระสงฆ์เป็นหัวหน้านี่ชุ่มเย็นมากนะ อะไร ๆ ถ้าเป็นฝ่ายการกุศลนี้ มีพระสงฆ์เป็นหัวหน้าแล้วชุ่มเย็นมาก คือปกตินะ ถ้าขาดพระสงฆ์แล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยสง่างาม อย่างที่พูดตะกี้นี้เกี่ยวกับจะมีงานที่นั่นที่นี่ วัดนั้นบ้างวัดนี้บ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่วัดที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเราพอใจ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าก็มาตั้ง อย่างนั้นไม่เอา มันเหี่ยวแห้งใจ ที่ไปตั้งในที่เช่นนั้นชุ่มเย็น ท่านตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติต่ออรรถต่อธรรม เวลาชาติบ้านเมืองเข้าไปอาศัยให้ท่านช่วยพยุงท่านก็ช่วยเต็มใจช่วย นี่ยิ่งสง่างามมากขึ้นนะ
ก็อย่างคราวนี้ พระก็หลวงตาบัวเองเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายทั้งประเทศด้วยนะ จากนั้นพระก็ช่วยกระจายกันออกไปหนุนกัน จึงเป็นมงคล ทองคำที่ได้มาจากวัดต่าง ๆ น้อยเมื่อไร ไม่ได้น้อยนะ มากมาย เฉพาะสายกรรมฐานหลวงปู่มั่น มาก มากจริง ๆ เหล่านั้นก็ได้มา เราไม่ได้ตำหนิติเตียน แต่สายนี้รู้สึกว่ามากกว่าเพื่อน ทองคำได้เยอะ หลวงตานี้ตั้งกองทัพรับบริจาค ใครมาทางไหน ๆ รับหมด หลวงตานี้จะได้เอามานี้ไม่มีแหละ มีแต่กวาดเอามาแล้วเข้าคลังหลวง
นี่หลวงตาพูดประกาศก้องได้เลยโดยไม่มีความสะทกสะท้านนะ ที่หลวงตาได้นำพี่น้องทั้งหลายคราวนี้ ตั้งแต่ทองคำ ดอลลาร์ เงินสดมานี้ ความบริสุทธิ์เต็มเหนี่ยว ๆ มาด้วยกันทั้งทองคำ ดอลลาร์ เงินสด ไม่มีรั่วไหลแตกซึมไปไหนเลย เพราะหลวงตาเป็นผู้ควบคุมการเงินแต่ผู้เดียว ทั้ง ๆ ที่หลวงตาไม่เคยยุ่งกับเงินเลยแต่ไหนแต่ไรมา แต่เวลามีความจำเป็นเกี่ยวกับชาติบ้านเมือง และสมบัติส่วนใหญ่ที่พี่น้องชาวไทยบริจาคผ่านเข้ามาหาเรานี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เราต้องได้มาคิดเอาอย่างเต็มเหนี่ยวนะ เรื่องความบริสุทธิ์และความรั่วไหลแตกซึมมันจะตามมาด้วยกัน ส่วนมากการรั่วไหลแตกซึมจะมาก่อนแหละ ทีนี้เราไม่เคยเกี่ยวกับการเงิน สุดท้ายก็เป็นเราเสียเอง เป็นผู้นำเงินเข้าบัญชีในนามของเราแต่ผู้เดียว เราเป็นผู้ถือบัญชีผู้เดียวเลย ไม่ให้ใครมาทำงานแทน เพื่อความแน่ใจของเรา ให้เป็นไปตามเจตนาที่มีต่อพี่น้องทั้งหลายด้วยความเมตตาล้วน ๆ ไม่ให้บกพร่อง
เพราะฉะนั้น เราจึงเป็นผู้ถือสมุดเองนะ สมุดฝากเงินทุกอย่างรวมอยู่นี้หมดเลย เป็นผู้สั่งเก็บสั่งจ่ายแต่ผู้เดียว ไม่ให้คนอื่นคนใดมาทำงานแทนเลย กลัวไม่บริสุทธิ์ กลัวมันจะรั่วไหลแตกซึม เพราะฉะนั้นจึงกล้าพูดได้เลยใครจะมาโจมตีแบบไหน ๆ ก็คือมันฆ่าตัวเองพวกนี้ ฆ่าความสกปรก ความเลวร้ายตัวเอง ต่อผู้ที่ทำดีต่อชาติบ้านเมือง และพี่น้องทั้งหลายทำดีด้วยกัน ว่าเงินเหล่านี้ไหลเข้ามาหาพุงหลวงตาบัว ตามที่เขาโจมตีเขาว่าอย่างนั้น เงินสมบัติที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมาทั่วประเทศไทยนี้ หลวงตาบัวเอาเข้าพุงหมด นี่ฟังซิ เพราะฉะนั้นเราถึงได้อ่านชัดเจนกับพวกเปรตพวกผีนี้ เพราะเราเป็นผู้ถือบัญชีเอง เป็นผู้ทำหน้าที่นี้ด้วยความบริสุทธิ์สุดส่วนตลอดมา แล้วพวกนี้หาว่าเราเอาเงินของพี่น้องทั้งหลายเข้าพุงตัวเองหมด นี่ละเราอ่านพวกที่หาเรื่องใส่เรา ว่าหาสภาพเป็นพระไม่ได้ เราบอกขนาดนั้น
เราพูดจริง ๆ เราพูดนี้ผิดตรงไหน เอ้า ค้านมาเลย ก็เราเป็นผู้ถือบัญชีเอง เป็นผู้จับจ่ายแต่ผู้เดียว พวกนี้ไม่เคยมาอ่านบัญชีเราเลยแม้แต่ฉบับเดียว ว่าเงินท่านได้มาจากไหน แล้วท่านจ่ายไปทางไหน ๆ บ้าง ขอดูบัญชีอย่างนี้ไม่เคยมี เราเป็นผู้ทำบัญชีแต่ผู้เดียว เก็บรักษาแล้วจ่ายไปแต่ผู้เดียว ๆ ทั้งนั้น มันมีความรู้ความฉลาดสามารถมาจากโลกไหน ถึงมาอวดรู้อวดฉลาดใส่พี่น้องชาวไทย แล้วเหยียบหัวหลวงตาบัวต่อหน้าต่อตาว่า เงินที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคนี้หลวงตาบัวเอาเข้าพุงของตัวหมด ฟังซิ สมบัติ ฟังซิมันฟังได้ไหม ก็มันไม่มาเห็นทั้งเงินเราด้วย บัญชีก็ไม่เคยมาเห็น ไม่เคยมาเกี่ยวข้องเลย แล้วก็มาอวดรู้อวดฉลาดเหยียบหัวเราไปว่า สมบัติที่พี่น้องทั้งหลายบริจาคมานี้ หลวงตาบัวเอาเข้าพุงหมด
แล้วดูซิทองคำเวลานี้เท่าไร ถ้าเข้าพุงหลวงตาบัว อะไรจะไปมีเหลืออยู่กับคลังหลวงเวลานี้ ตั้ง ๕,๐๐๐ กิโลกว่าแล้ว นั่น คิดดูซิ ดอลลาร์ก็เดี๋ยวนี้ ๗ ล้าน แล้ว แล้วเงินสดก็เราก็แยกออกไปซื้อทองคำนี้ รวมแล้วเป็น ๙๔๑ ล้าน นี่ซื้อทองคำเรียบร้อยแล้ว เหลือจากนั้นเราก็แยกไปช่วยชาติบ้านเมือง เช่น คนทุกข์คนจน สถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน ที่ราชการต่าง ๆ ตลอดถึงโรงพยาบาล นี่ละเกลื่อนไปหมด ท่านทั้งหลายไปซิ นั่นละที่ว่าหลวงตาเอาเงินมาเข้าพุงหมด ให้ไปดูเอา ถ้าจะพูดตามสัดตามส่วนให้ถูกต้องก็พุงของหลวงตาบัวก็คืออย่างนั้นละ เข้าใจไหม คนทุกข์คนจน เป็นพุงหลวงตาบัว สถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน ที่ราชการต่าง ๆ ตลอดโรงพยาบาลนี้เป็นพุงของหลวงตาบัว ให้ว่าอย่างนั้นเข้าใจไหม
ไปที่ไหนเห็นแต่พุงของหลวงตาบัวทั้งนั้นเต็มไปหมด เรานั่งรถไปนี้ โอ๊ย.สุดไปเลยแหละ ไปที่ไหนมีทั้งนั้น ๆ มีแต่พุงหลวงตาบัวทั้งนั้น เอาเข้าพุงนี้ พุงโรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาล สำหรับที่จะเอามาเข้าพุงตัวเองจริง ๆ ไม่มี บอกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ เราบอกเราไม่มี เราอิ่มพอทุกอย่าง แล้วช่วยโลกนี้ช่วยด้วยความเมตตาสงสารสุดส่วนทีเดียว ถึงขนาดร้องโก้ก กระเทือนในหัวใจไม่ลืมนะ แล้วจะไปหาเอาเงินที่ไหนมามันไม่มี มีแต่ได้เท่าไรก็กวาดก็ต้อนเข้าไป โห พิถีพิถันเอามากนะ สมบัติของชาติใครมาแตะไม่ได้นะเรา อันไหนเป็นแผนกไหนประเภทไหนเราแยกปุ๊บ ๆ ตลอดอย่างนั้นแหละ เรียกว่าแน่ใจทุกอย่าง ถ้าหลวงตาได้ตกลงอะไรได้ประกาศอะไรออกมาแล้ว นั่นร้อยเปอร์เซ็นต์ ๆ จะไม่มีหลบหลีกปลีกตัวหลอกลวงท่านั้นท่านี้ไม่มี ให้กรุณาทราบตามนี้
คราวนี้ท่านทั้งหลายจะได้เห็น ผู้นำพี่น้องทั้งหลายนำสมบัติทั้งหลายเข้ามาบริสุทธิ์ล้วน ๆ ไม่มีรั่วไหลแตกซึมเลย จะเอาใครมาเป็นคู่แข่งเราเอามาว่างั้นเลย เราไม่มีจริง ๆ นี่ละเรียกว่าส่วนรวมทั้งประเทศ มาหลวงตาบัวผู้รับผิดชอบกระจายออกทั่วประเทศไทยเวลานี้ กำลังจะพยายามเอาเข้าคลังหลวง ให้เป็นที่อบอุ่นสำหรับพี่น้องชาวไทยทั้งชาติ ทองคำให้ได้ ๑๐ ตัน นั่น ฟังซิ ดอลลาร์อะไรก็แล้วแต่ จะค่อยเป็นค่อยไป แต่ทองคำยืนตัวไว้แล้ว ประกาศไว้เวลานี้ เรียกว่าขึ้นสงครามแล้ว ถ้าหลวงตาบัวยังไม่ตายหรือไม่มีเหตุการณ์อะไร ที่เหนือบ่ากว่าแรงเหยียบประเทศไทยทั้งชาติได้ต่อหน้าต่อตาแล้ว ๑๐ ตันนี้จะเข้าคลังหลวงโดยไม่ต้องสงสัย ถ้าเหตุสุดวิสัยก็จำเป็น
วันนี้ก็ทางคณะร้อยเอ็ด อาจารย์ศรี มหาวีโร บริษัทบริวาร ลูกศิษย์ลูกหาของท่านจะมา เพราะฉะนั้นจึงปรึกษากันว่า เราจะเอาที่ศาลานี้หรือจะเอาข้างนอกดีกว่า กำลังคิด ถ้ามามากก็ต้องเอาข้างนอก อันนี้ไม่พอต้องเอาข้างนอก พระท่านจะติดต่อกัน จะมีจำนวนมากน้อยเพียงไรจะบอกมา ทางนี้ก็จะเตรียมต้อนรับ ถ้ามากก็เอาที่ศาลาใหญ่โน้น ถ้าไม่มากก็เอาที่นี่ เราคิดว่าจะเป็นข้างนอกดีกว่า
คณะพระเณรแม่ชีจากวัดสาขาหลวงปู่ศรี มหาวีโร จำนวน ๕๑ วัด พระเณรจำนวน ๒๐๐ กว่ารูป ฆราวาสญาติโยมติดตามประมาณ ๕๐๐ กว่าคน จะมาถึงประมาณบ่าย ๒ โมงครึ่ง คณะคุณอาจ ประมาณ ๖๐ คน ดูจะมาจากสามผงหรืออะไร ประมาณ ๖๐ คน ก็คงจะเอาข้างนอกละมั้ง ทางนี้เห็นจะไม่พอ เรารับข้างนอกไม่ต้องวิตกวิจารณ์ ถ้าที่นี่ไม่แน่นะ ตั้งแต่พระก็เต็มหมดแล้วศาลานี้ จนโยมเข้าไม่ได้แตกไปอยู่ในป่าโน้น เพราะฉะนั้นเพื่อความแน่ใจเอาที่ศาลาใหญ่เสียดีกว่า เอาศาลาใหญ่เลยนะ รับแขกคนมาวันนี้ ทั้งพระทั้งเณรทั้งฆราวาสเขาจะเอาหมูหมาเป็ดไก่มา ก็รับกันข้างนอกหมดเลย ไม่ให้เข้าวัด หมู หมา เป็ด ไก่ ไม่ยอมเข้าถ้าคนไม่เข้า มันต้องมีอย่างนั้นซิ ตลกบ้าง มีแทรกอยู่ในนั้นละ มันหากมี บอกไปเลยประกาศไปเลยก็ได้ จะเอามาทั้งหมู หมา เป็ด ไก่ ก็ได้ ทางนี้ต้อนรับนอกวัด บอกอย่างนั้น
วันนี้ตอนบ่ายก็จะมาอีกมากมายนะ นี้ก็จะได้เทศน์กับพระอีก หนักเหมือนกันประชาชนก็ไม่พ้นที่เราจะต้องเทศน์ ที่ไหนมาก็เทศน์ๆ ตลอด วันที่ ๒๗ เดือนที่แล้วก็เทศน์ วันที่ ๑ ต้นเดือนคณะเจ้าคุณธรรมบัณฑิตก็เทศน์ นี่หมายถึงเทศน์สอนพระล้วน ๆ ระยะนี้เทศน์สอนพระ ๒-๓ ครั้งนะ นอกนั้นมีแต่เทศน์สอนประชาชนทั่วประเทศไทย เทศน์สอนพระไม่ค่อยมี พระจึงรู้สึกห่างไปต่อเสียงอรรถเสียงธรรมบ้างในระยะนี้ แต่ถึงจะไม่มีงานเราก็หยุดแล้วนะ เทศน์สอนพระสอนอะไรเราหยุดแล้ว ตั้งแต่อายุได้ ๘๐ ปั๊บ หยุดเลยไม่เอา เลิกไปเลย ไม่เทศน์ ประชุมนี้ก็ไม่มี แต่อยู่ๆ ก็มาโดนเอาตอนที่ชาติบ้านเมืองของเราจะล่มจมนี้ มันถึงดีดขึ้นทีหลัง มันก็เลยไปทางบ้านเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับพระ นอกจากจะมีบ้างเป็นบางแห่ง เช่น ทางจันทบุรี พระมีมาก อันนี้เทศน์ทั้งด้านพระด้านฆราวาสไปด้วยกัน ส่วนมากมีแต่ฝ่ายฆราวาสก็เทศน์เป็นแกงหม้อใหญ่ไปเลย เอาละทีนี้ให้พรเลยนะ
|