ความเห็นแก่ได้ - ความเห็นแก่ให้
วันที่ 27 พฤษภาคม 2543
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ความเห็นแก่ได้ - ความเห็นแก่ให้

(หลวงตาเมตตาอนุเคราะห์เงินบางส่วนที่ยังขาด เพื่อซื้อรถให้กับมูลนิธิธรรมมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย จ.ลำปาง ประมาณ ๑๗๐,๐๐๐ บาทเศษ จากนั้นท่านเทศน์ต่อว่า)

…อย่างนี้แหละช่วยโลก ให้พิจารณาซิพี่น้องทั้งหลาย เรียกว่าทั่วประเทศไทยนะที่วัดฯ นี้ช่วย ทุกภาคเลยไม่มีเว้นภาค เรียกว่าทั่วประเทศไทย แล้วแต่ความจำเป็นมีทางไหน ๆ ภาคไหน เราช่วยมาตลอดอย่างนี้ เรียกว่าใต้ดิน ที่เงียบๆ อยู่ใต้ดินทั้งนั้น เงียบ ช่วยทั่วประเทศไทย เป็นใต้ดินมานานแล้ว ไอ้ที่ออกบนดินพึ่งมีตอนนี้เท่านั้น ไอ้ส่วนใต้ดินนี้เป็นพื้นฐานตลอดมาเลยละ เราช่วย

เมื่อวานนี้วังสะพุงหรืออะไร ที่เขามาเมื่อวานนี้เขามาขออะไรอีกนะ ทีแรกเราไปแล้วถามเขาว่ามีอะไรบกพร่องบ้าง เขามาขออะไรเราก็ให้ตามนั้นหมดเลย อันนี้ผู้ที่เข้ามาติดต่อเมื่อวานซืนนี้หรือยังไง เขาไปกรุงเทพฯ ตอนนั้นเขาไม่อยู่ พอเขามาเขาก็ทำหน้าที่อยู่นั้นว่าบกพร่องสิ่งนั้นเขาก็เลยมาขออีก เราก็ตัดไปเสียก่อน ว่าเวลานี้ขาดวรรคขาดตอนแล้ว เป็นอันใหม่ไปแล้ว เหมือนคนอื่นมาขอทั่ว ๆ ไป เราว่าอย่างนี้ เพราะภาระของเราตัดจากนี้ขึ้นทางนู้น ตัดจากนู้นช่วยทางนู้นอยู่ตลอดนี่นะ เข้าใจไหมล่ะ จึงให้ตัดเอาไว้ก่อน คือเขามาขอทีหลัง ตอนที่เราเอาของไปส่งเขาแล้วถามว่าเครื่องมือมีอะไรที่ขัดข้องในโรงพยาบาลนี้ คือจะให้แล้วนะ เขาบอกว่าระยะนี้ไม่มีอะไร ตอนนั้นคนนี้เขาไปกรุงเทพฯ พอกลับมาเขาก็สืบตามมาเลย เขาจะมาขอว่าขาดอันนั้น ทีนี้มันเลยมาแล้ว เป็นอันว่าขาดวรรคขาดตอน ก็เลยเป็นอันว่างดไว้ก่อน เราช่วยทางอื่นเรื่อย ๆ ไป

เงินเราเป็นอย่างนั้นนา มีไม่ได้ หลวงตาบัวนี้มีเงินไม่ได้ หมด มีเท่าไรหมด อย่างนั้นแหละพี่น้องทั้งหลายทราบทั่วหน้ากัน ไม่เคยมีเงินติดตัวคือหลวงตาบัวนี้ ประกาศป้างได้เลยเต็มหัวอก ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดมาเพราะอำนาจความเมตตามันมีก่อนสร้างวัดอยู่แล้ว มีอะไรมา ออกตลอดเวลา ออกเรื่อย ๆ โอ๊ย คนทุกข์คนจนน้อยเมื่อไร ส่งเงินไปให้เป็นหมื่นๆ แสนๆ เป็นล้าน เป็นล้านๆ ก็มีนะ คือมีเหตุผลที่ควรจะได้รับการสงเคราะห์จากเรา ถึงขนาดล้านก็ให้ ล้าน ๆ ก็ยังให้ เอาความจำเป็นประกอบกับว่าเรามีเงินในระยะนั้นเราก็ให้ไป ทั่วประเทศไทย เรียกว่าทุกภาคเลยช่วยอย่างนี้มา ช่วยแบบนี้เงียบ ๆ นะ เราช่วยเงียบๆ

ถ้าทางไหนที่เขาออกหนังสือพิมพ์ว่า คนนั้น ๆ มีความจำเป็นอย่างนั้น เขาก็เขียนบ้านเลขที่อะไร ๆ ไว้ เราก็ดูตามบ้านเลขที่สืบถามไป จะทางจดหมาย ทางโทรศัพท์ จนได้ความชัดเจนเรียบร้อยแล้ว บางทีไปดูเองก็มี ถ้าไกลไปดูไม่ได้ก็หาหลักฐานพยานมาพูดอีกทีหนึ่งทางโทรศัพท์ จนเป็นที่แน่นอนไม่สงสัย เราก็ช่วยส่งเช็คไป ๆ ตามบ้านเลขที่ เขารับแล้วเขาก็ตอบจดหมายมานี้มากทั่ว ๆ ไปนะ จังหวัดต่างๆ ตามภาคต่างๆ เราปฏิบัติมาอย่างนี้

ถ้าเป็นหนังสือพิมพ์นี้เราจะพูดก็ได้เราไม่พูดก็ได้ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ นั้นเราไม่เคยพูดเลย ให้แล้วเหมือนไม่ให้ เป็นล้าน เป็นล้าน ๆ ก็ตาม เพื่อรักษาศักดิ์ศรีเขา เราไม่ลบหลู่ศักดิ์ศรีเขาด้วยการให้ของเรา ซึ่งเป็นการทำลายศักดิ์ศรีเขาอย่างนี้เราไม่ทำ ให้ไปแล้วเงียบไปเลย ๆ มีมากต่อมาก ตามอัธยาศัยของเรา เพราะเราไม่ได้ให้ด้วยความอยากโด่งอยากดังอยากมีชื่อมีเสียง แล้วประกาศกิตติศัพท์กิตติคุณของตนออกไปอย่างนั้นเราไม่มี มีตั้งแต่ความเมตตาล้วน ๆ ให้แล้วผ่านไป ๆ เงียบไป ๆ ตลอดมา มากต่อมากนะ

ไอ้ที่เปิดเผยก็คือสร้างสถานสงเคราะห์โรงร่ำโรงเรียนโรงพยาบาลที่ราชการต่าง ๆ อย่างนี้ นี่เป็นที่เปิดเผย บอกไม่บอกใครเขาก็รู้ นี่เราทำอย่างนี้ตลอดมา ไม่ได้มีละ เงินติดตัวนี้ไม่มี ดังที่เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังแล้วว่า บางครั้งติดหนี้เขาก็มี ติดก็ยอมติด ติดด้วยการให้ทานไม่เสียหาย ขนาดนั้นแหละ คือความเมตตาสงสารนี้ มีเท่าไรให้เท่านั้น หมดไปแล้วยังอยากให้อีก นี่อำนาจความเมตตา เป็นข้าศึกกันกับความเห็นแก่ได้ ความเห็นแก่ได้กับการเห็นแก่ให้นี้ต่างกัน

การให้ การเห็นแก่ให้อย่างเดียว นี้เป็นความร่มเย็นแก่โลกทั่ว ๆ ไป แม้ที่สุดสัตว์เดรัจฉานเขาก็ร่มเย็น เดินไปซิตามทางวัดป่าบ้านตาดไปถึงบ้านคำกลิ้ง หมาเขาจะรออยู่ตามสายทาง เพราะความเมตตาจากคนวัดของเรานี้ เอาอาหารเศษเหลือไปแจกให้ตามรายทาง หมาจำได้กระทั่งรถนะ บางทีรถเขาไปข้างหน้า รถเขาไปแจกข้าว เราวิ่งไปตามหลังเห็นหมามันวิ่งมานี่ โถ พวกที่รออยู่แล้วก็มี พวกที่วิ่งมาก็มี นั่นเย็นกระทั่งถึงหมาเข้าใจไหมล่ะ อำนาจแห่งการให้ทานนี้ การเสียสละ หมาก็เย็น นี่การให้ทาน อย่าว่าแต่มนุษย์ของเราเย็นเลย ตลอดถึงสัตว์เขายังเย็น

นี่มันขัดกันตรงที่ว่า อันหนึ่งเห็นแก่ได้ มีเท่าไรจะเอา ๆ กินไม่หยุดไม่ถอย กินไม่อิ่มพอ กินจนกระทั่งคนอื่นเดือดร้อน ตลอดถึงชาติบ้านเมืองเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน เพราะความเห็นแก่ได้ พิจารณาเทียบกันซิ ต่างกันอย่างไรบ้าง ความเห็นแก่ได้ทำโลกให้ฉิบหายไปตาม ๆ กันหมดได้โดยไม่ต้องสงสัย คือความเห็นแก่ได้จะไม่มีคำว่าพอ ได้เท่าไรไม่พอ ได้เท่าไรยิ่งเสริมความอยากให้มากขึ้น ๆ เอาจนพินาศฉิบหายได้ด้วยความอยากตัวนี้เอง

ความอยากนี้เป็นเหมือนไฟ สิ่งที่ได้มาเป็นเหมือนเชื้อไฟ ได้เท่าไรแทนที่จะพอไม่พอ เหมือนไฟไม่พอกับเชื้อนั่นแหละ เชื้อมีมากเท่าไรไฟจะยิ่งแสดงเปลวขึ้น ให้ไฟกลัวเชื้อนี้ไม่มี ให้ความอยากความเห็นแก่ได้นี้กลัวสิ่งที่ได้มานั้นไม่มี นี่ละโลกจึงร้อน นี่เรียกว่าฝ่ายทำลาย ส่วนธรรมฝ่ายส่งเสริมฝ่ายอุ้มชู ให้ได้รับความสุขความเจริญ แต่ความเห็นแก่ได้เป็นฝ่ายของกิเลส ทำโลกให้เดือดร้อนวุ่นวายไปหมด นี่ความเห็นแก่ได้ มันไม่มีพอนะ คือได้เท่าไร จะเอามาให้ ความเห็นแก่ได้จะให้พอไม่มี ให้มาเท่าไร ได้มาเท่าไรยิ่งเพิ่มความอยากขึ้นมาก มากขึ้น ๆ นี่มันตรงกันข้าม ท่านจึงเรียกว่า ธรรมหนึ่ง อธรรมหนึ่ง อธรรมไปที่ไหนเป็นไฟไปหมด ธรรมไปที่ไหนเย็นไปหมด ต่างกันอย่างนี้ ให้พี่น้องทั้งหลายเทียบเคียงกัน

คำว่าอธรรม ก็คือฝ่ายกิเลสซึ่งเป็นข้าศึกของธรรม ของสัตวโลกนั่นแล ธรรมเป็นประโยชน์ เป็นคุณแก่โลกเช่นเดียวกัน นั่นเป็นอย่างนั้นนะ โลกจึงต้องมีธรรม ถ้ามีแต่อธรรมอย่างเดียว พินาศฉิบหายไปหมด เพราะมีแต่การทำลายอย่างเดียว อธรรมไม่มีการส่งเสริม ไม่มีการบำรุงรักษา ไม่มีความเห็นอกเห็นใจกัน ไม่มีความเมตตา มีแต่เห็นแก่ได้ ๆ ถ่ายเดียวเท่านั้น เรียกว่าอธรรม กินไม่พอ ๆ ไหม้ไม่เลือก อะไรไหม้ได้หมดไฟนี่ ไม่เห็นมันไหม้แต่แผ่นดินเท่านั้น ธรรมจึงเทียบกับแผ่นดิน แผ่นดินนี้ไฟมาเท่าไร ก็เผาไม่ไหม้แหละ นี่ธรรมนี้กิเลสตัวไหน ๆ ที่มาเป็นภัยนี้ ทำลายไม่ได้ ทำลายไม่ลง ธรรมจึงต้องมีครองโลกเป็นคู่เคียงกันมา ธรรมเป็นเครื่องกำจัดปัดเป่า สิ่งเหล่านั้นเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้มา ถ้ามีธรรมแล้วไฟก็ระงับดับลง ถ้าไม่มีธรรมแล้วไฟระงับไม่ได้นะ

ขอให้พี่น้องทั้งหลายพิจารณาก็แล้วกัน เทียบเรื่องของความเห็นแก่ได้ กับการเห็นแก่ให้ต่างกัน คุณสมบัติต่างกัน โทษทางอธรรมเป็นโทษล้วน ๆ ทางธรรมนี้เป็นคุณล้วน ๆ วันนี้ไม่ได้พูดอะไรมากนัก พูดเพียง ๒ ข้อ ข้อหนึ่ง ความเห็นแก่ได้มีเท่าไรไม่พอ กลืนได้หมด ไม่มีพอ อันหนึ่งเห็นแก่ให้ ให้ได้หมด แม้หมดไปแล้วยังอยากให้อีก นั่น เรียกว่าธรรม

โรงพยาบาลบุ่งคล้ากำลังจะสร้างตึก เห็นแก่ให้เห็นไหมนี่ นี่กำลังจะสร้างตึกแล้ว ถ้าหากไม่มีอะไรแก้ไขดัดแปลงก็จะเริ่มดำเนินงานเลย ประมาณราคาค่าก่อสร้าง ๔ ล้านกว่า

ได้ทราบว่า ลูกศิษย์ทางกรุงเทพฯ เขาโทรฯ มา เขาเดือดร้อนแทนเรา และเป็นความจริงใช่ไหม ไม่ทราบนะ เขาว่าทางโทรทัศน์เขาออกทุกช่องโจมตีหลวงตา โอ๊ย โจมตีก็โจมตีเถอะ ถังขยะ หมามันอยู่ในถังขยะ มันเห่าฟ้าก็ช่างหัวมันซี เราตอบเท่านั้น อย่ามากังวลกับเรา ความพอดิบพอดีอยู่กับเราหมดแล้ว เราไม่ต้องการอะไรมาเพิ่มเติมเรา เท่านั้นตอบปั๊บไปเลย เพราะเราไม่มีอะไรกับโลก เราช่วยโลกด้วยความเมตตาล้วน ๆ อะไรจะมาเห่ามาหอน เราไม่สนใจ เข้าใจไหม ประสาถังขยะ จะเอาทองทั้งแท่งไปแข่ง เอาแพ้เอาชนะกับถังขยะได้ยังไง ฟังเอาซิ ธรรมพระพุทธเจ้า ทองทั้งแท่ง แล้วจะมาแข่งกับถังขยะ เห่าวอกๆ ขึ้นฟ้าได้ไง เวลาเห่าขึ้นฟ้า น้ำลายมันก็พุ่งขึ้นฟ้า มันก็มาปะหน้าตัวเองเท่านั้นแหละจะไปไหน บุญกรรมออกใครเข้าใครไม่มี ตรงเป๋งเลย ใครจะอวดเก่งขนาดไหนก็อวดเถอะ อวดกับเรื่องกรรมนี้นะ เก่งขนาดไหนก็อยู่ใต้อำนาจของกรรม หนนี้อวดเก่งทำชั่ว กรรมก็เก่งทางชั่วบีบกันตลอดเวลา นี่ละกฎธรรมชาติใครลบล้างไม่ได้ คือ กฎแห่งกรรม เพราะฉะนั้นใครจึงอย่าอวดอำนาจวาสนา อวดกรรมนี้อวดไม่ได้นะ กรรมอยู่เหนือทุกอย่างเลย อวดเก่งเท่าไรในทางชั่ว ความชั่วยิ่งเก่งขนาดนั้นนะ จึงไปตาม ๆ กัน

สำหรับหลวงตานี้ ก็เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายทราบมาตั้งหลายปีแล้วนี่นะ คือ เราปลงตกเสียทุกอย่างแล้ว พูดรวมแล้วก็เรียกว่า ๕๐ ปีแล้ว เราปลงตกหมด สามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรมาข้องในหัวใจเราเลย แล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องของโลกธาตุ เป็นเรื่องแดนสมมุติ แดนวัฏจักรวัฏทุกข์ อะไรจะมาก็อยู่ในวงของมันนั้น จะไปตื่นกับมันอะไร เราพูดจริง ๆ เราช่วยโลกด้วยความพอทุกอย่างแล้ว เราบอกแล้ว ใครจะมาหาเรื่องหาราวอะไรกับเรานั้น ก็เรื่องของเขาหาเรื่องใส่เขาเอง ๆ ไม่ได้หาเรื่องใส่เรา ก็เราพอแล้ว เราไม่เอา ชมเราก็ไม่เอา ติเราก็ไม่รับ ไม่รับโดยหลักธรรมชาติของมัน ไม่ใช่เราปัดออกอย่างนี้นะ มันเป็นเอง เหมือนน้ำตกลงบนใบบัว ตกปั๊บกลิ้งปั๊บ ๆ ไม่ซึมซาบกัน ลักษณะของโลกกับธรรมก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ปั๊บ ๆ นี้ก็ออกเลย ๆ เป็นธรรมชาติของมัน

เราช่วยโลกด้วยความอิ่มพอทุกอย่างแล้ว เราไม่มีอะไรติดจิตติดใจของเรา เพราะฉะนั้นใครจะเอาอะไรมาโปะเราก็เท่ากับโปะเจ้าของ ๆ นั่นแหละ โปะมากโปะน้อย เจ้าของก็แบกไปเอง แบกไม่ไหวก็ให้ทางจ่านรกยมบาลนรกมาช่วยแบกลงไปนรกเท่านั้นเอง ก็มีเท่านั้น นี่แหละเรียกว่า ธรรม

เราทำด้วยความเป็นธรรม ด้วยความเชื่อธรรม เมตตาก็คือเมตตาธรรม ทุกอย่างกับโลกนี่แล้ว สุด จนไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว ฟังซิช่วยขนาดไหน ช่วยขนาดนั้นแล้วมันจะชั่วช้าลามกตกนรกอเวจีก็ให้มันตกไป เรื่องลมปากคน แต่ธรรมชาตินี้เหนือทุกอย่างแล้ว เราพอทุกอย่างเราจึงไม่สนใจกับอะไรแล้ว ช่วยโลกไป พอถึงวันแล้วก็ดีดผึงเดียวเท่านั้น ไม่ยุ่ง เท่านั้นพอ เวลานี้ยุ่งก็ยุ่งเพราะโลกมันทุกข์ ช่วยเหลือกัน ไม่งั้นก็จะกัดจะฉีก จะกลืนจะกินกัน เป็นเนื้อเป็นหนังสด ๆ ร้อน ๆ ไม่ต้องต้มต้องแกง มันก็จะกลืนลงไปอย่างนั้น ก็ตีปากไว้บ้างเท่านั้นเองไม่มีอะไร เอาละวันนี้ให้พร กำลังจะ ๙ โมงแล้ว

********************************************

ยอดรับบริจาคทอดผ้าป่าช่วยชาติ ที่สวนสมเด็จศรีนครินทร์ จ.ร้อยเอ็ด

26 พฤษภาคม 43 เวลา 14.00 น.

    • เงินบาท 3,162,724.- บาท

    • เงินดอลล่าร์ 1,821.- ดอลล่าร์

    • ทองคำ 5 กิโลกรัม 56.70 บาท

เปิดดูข้อมูล ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาพูดอะไร WWW.Luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก