ช่วยกันรักษาสมบัติในคลังหลวง
วันที่ 13 พฤษภาคม 2543
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ช่วยกันรักษาสมบัติในคลังหลวง

ศาสนาคือศาสนาของพระพุทธเจ้านะ ศาสนาของพระพุทธเจ้านี้ไม่เคยทำความเสียหายแก่โลกแม้น้อย คือเป็นความถูกต้องทั้งนั้น ท่านจึงเรียกว่าสวากขาตธรรม คือตรัสไว้ชอบแล้ว ๆ ไม่ว่าแง่ใดที่เกี่ยวกับโลก เป็นประโยชน์แก่โลกโดยถ่ายเดียวถ้าปฏิบัติตามธรรมที่สอนไว้ จึงเรียกว่าเป็นศาสนาที่คู่โลกคู่สงสาร คือพุทธศาสนาของเรา ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดมาตรัสรู้ สอนโลกแบบเดียวกันหมด เพราะทรงรู้เห็นดีชั่วทุกอย่างทั่วถึงเหมือนกันหมด เวลามาสอนจึงไม่มีคำผิดเพี้ยนในพระโอวาทของพระพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ สอนไว้แบบเดียวกันหมด

สิ่งที่แตกต่างกันบ้างท่านก็บอกเอาไว้ เช่น พระชนมายุ มีแตกต่างกัน พระพุทธเจ้าบางองค์อายุตั้งแปดหมื่นปี มากกว่านั้นก็มี ผู้มีพระชนมายุน้อยก็มี เช่น ๕๐ ปี เป็นต้น แต่มีน้อยมาก หากมี ท่านก็บอก ที่แตกต่างกันตรงไหน เช่น พระชนมายุ ส่วนมากจะอยู่ในประมาณแปดหมื่นปี ที่ต่ำกว่าเพื่อนที่สุดท่านก็บอกว่าองค์ท่านเอง ๘๐ ปี แล้ว ๕๐ ปีก็ยังมีแต่มีเพียงเล็กน้อย ส่วนมากจะมีพระชนมายุประมาณแปดหมื่นปี ที่ผิดเพี้ยนจากกันท่านก็สอนเอาไว้ เช่น การลงอุโบสถสังฆกรรมก็เหมือนกัน ๗ ปีร่วมอุโบสถประชุมสงฆ์ทีหนึ่ง ตั้ง ๗ ปี พระสงฆ์ก็อยู่กันเป็นผาสุก ไม่ได้ขัดข้องทางพระธรรมวินัย ๗ ปี ๖ ปี ย่นเข้ามาถึง ๗ เดือน ๖ เดือน แต่ศาสนาพุทธเรานี้ต้อง ๑๕ วันประชุมที่หนึ่ง เพราะฉะนั้น ๑๕ วันจึงลงปาฏิโมกข์ทีหนึ่ง ถ้านานกว่านี้ไม่ได้พระสงฆ์แตกแยกกัน ต้องมีทบทวนธรรมวินัย คือลงอุโบสถนี้ คือทบทวนพระธรรมวินัยของพระ

อันไหนที่แปลกต่างกันท่านบอกไว้ คำสอนที่เกี่ยวข้องกับโลกทั่ว ๆ ไปนี้เหมือนกันหมดเลย ไม่มีผิดเพี้ยนกัน เฉพาะองค์ศาสดาที่มีผิดเพี้ยนกันบ้างก็ พระชนมายุ และการลงอุโบสถสังฆกรรมต่างกัน มีเท่านั้นนะ ระยะสั้นระยะยาวต่างกัน ส่วนสอนเรื่องบาปเรื่องบุญคุณโทษนรกสวรรค์เปรตผีนี้แบบเดียวกันหมด ไม่มีเพี้ยนกันเลย คือท่านเห็นอย่างเดียวกันก็ไม่ทราบจะเอาอะไรมาค้านกัน สอนคัดค้านกันไม่มีเลย เพราะไปเห็นอย่างเดียวกัน เวลามาพูดก็มาพูดสิ่งที่เห็นอย่างเดียวกัน มาพูดก็พูดอย่างเดียวกัน จึงเรียกว่าเป็นภาษาที่ตายตัว โลกตายใจได้เลย ถ้าปฏิบัติตามนี้แล้วแคล้วคลาดปลอดภัย ถ้านอกจากนี้แล้วก็ลงเหวลงบ่อไปละ เป็นอย่างนั้น

จึงทำให้เราวิตกวิจารณ์ถึงเรื่องเราเอาศาสนามาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ พูดเข้ามาหาเราเอง เราเอาศาสนามาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย ตัวเราเองเราก็พูดตรง ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย นี่ละธรรมพูดให้ตรงไปตรงมา ไม่ยิ่งไม่หย่อนกว่าความจริงให้ตรงตามความจริงเลย พูดที่ว่าเรามาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายนี้ เราก็ไม่สงสัยในเราแล้วทุกอย่าง ถ้าว่าสมบูรณ์แบบตามนิสัยวาสนาของเราที่ตัวเท่าหนู เราก็เต็มอัตราของเราทุกอย่างแล้วในธรรมทั้งหลายที่เราบรรจุไว้ในหัวใจเรา การแนะนำสั่งสอนโลกก็เริ่มมาตั้งแต่เราอบรมสั่งสอนเรามาตลอด ไม่ผิดไม่เพี้ยน ผลก็ปรากฏขึ้นมา ๆ ตามทางเดินที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้แล้วโดยถูกต้อง เราก็ปฏิบัติตามนั้นโดยถูกต้องตลอดมา ผลก็ปรากฏขึ้นมาเป็นลำดับลำดา จนกระทั่งถึงเป็นที่พอใจ

นี่ก็ได้แสดงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากันว่า เราถึงที่สุดทุกอย่างแล้ว ในบรรดาสมมุติเราก็เรียนจบ ปล่อยวางหมดแล้วไม่มีอะไรเหลือภายในใจเลย ถ้าว่าวิมุตติก็เต็มหัวใจเราแล้ว ถ้าว่าธรรมธาตุก็เต็มหัวใจเราแล้ว ธรรมที่เราได้ปฏิบัติมา เราไม่สงสัยในการดำเนินของเราว่าผิดไป พร้อมทั้งผลที่ได้รับนี้เป็นที่พอใจ พึงใจ ไม่มีที่ต้องติในผล เราก็เอาแขนงของธรรมเหล่านี้มาเป็นผู้นำและสอนโลกทั่ว ๆ ไปตลอดมา ตั้งแต่เริ่มออกสังคมเกี่ยวข้องกับหมู่เพื่อนพระเณรประชาชน ก็สอนไปในธรรมทุกขั้นทุกภูมิ ด้วยความแน่ใจตายใจตลอดมาว่าไม่ผิด

จากนั้นมาก็มาถึงวาระปัจจุบันนี้ ก็เห็นว่าชาติบ้านเมืองระส่ำระสายโอนเอน ค่อนข้างจะล่มจะจม ก็ต้องคิดทบทวนหาอรรถหาธรรมซึ่งเคยให้ความร่มเย็น และฟื้นโลกที่ล่มจมให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้เป็นลำดับมาตั้งแต่ครั้งไหน ๆ เราก็นำธรรมอันนั้นออกมาสอนโลก เป็นผู้นำของโลก เช่น พาพี่น้องบริจาคสมบัติเงินทองข้าวของ เพื่อหนุนชาติไทยของเราที่เป็นโลกส่วนหนึ่ง ให้พอลืมหูลืมตาขึ้นมาบ้าง แล้วต่างท่านก็ต่างบริจาคด้วยความเห็นพร้อมเพรียงกันตลอดมา สมบัติเงินทองเหล่านี้เราก็ประกาศก้องไว้แล้วตั้งแต่ต้น ด้วยความถูกต้องในหัวใจของเรา เราไม่สงสัยว่าจะผิดไป ว่าสมบัติเงินทองเหล่านี้ทั้งหมด เราเองเราก็บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่า เราไม่เคยนำสมบัติเงินทองพี่น้องทั้งหลายที่มาบริจาคนี้ไปทำให้เสียหายแม้นิดหนึ่ง ให้เป็นที่สะกิดใจของเราว่าผิดไป เราไม่ปรากฏว่ามี มีแต่ทำประโยชน์ล้วน ๆ เป็นที่พอใจ เต็มไปด้วยความเมตตาทุกสัดทุกส่วนตลอดมาเรื่อยมา และพี่น้องทั้งหลายก็เห็นด้วย

ก่อนที่จะนำพี่น้องทั้งหลายเราได้ประกาศก้องมาว่า สมบัติเงินทองนี้จะเข้าคลังหลวง คลังหลวงคือคลังสมบัติเดิมของบรรพบุรุษเราที่รักษาไว้เป็นมรดกของชาติ เป็นหัวใจของชาติ เป็นหลักเป็นเกณฑ์เป็นแก่นเป็นสารของชาติ คือคลังหลวง อันนี้บรรพบุรุษของเราได้รักษามานมนาน มีกฎหมายบ้านเมืองรักษามาด้วยตลอดเวลา ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครมาแตะต้องทำลาย สมบัติเหล่านี้ก็ให้ความชุ่มเย็นตลอดมา

สมบัติเหล่านี้มีเก็บไว้เพื่ออะไร? ก็บรรพบุรุษท่านมีความเฉลียวฉลาดรอบคอบในบ้านในเมืองที่ท่านปกครอง สมบัติเหล่านี้ท่านจึงเก็บไว้เพื่อความจำเป็น เวลามีความจำเป็นจริง ๆ เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตการณ์หาทางไหนไม่ได้แล้ว ท่านจึงจะนำสมบัติเหล่านี้ไปแก้เหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อเอาตัวรอดเป็นพักเป็นตอนไปจากสมบัติเหล่านี้ เพราะฉะนั้นสมบัติเหล่านี้เมื่อยังไม่ถึงขั้นวิกฤตการณ์ขนาดนั้น จึงต้องเก็บไว้ตลอดมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้

เวลานี้ก็ได้ทราบจากทางราชการว่า จะนำสมบัตินี้ออกไปเพื่อความเจริญ ฟื้นฟูชาติไทยของเราว่างั้น แล้วสมบัติเหล่านี้ได้เคยเก็บไว้มาดั้งเดิมอยู่แล้ว เป็นของแน่นหนามั่นคงมาก เพราะหัวใจประชาชนทั้งประเทศอยู่ในสมบัติกองนี้ทั้งนั้น ชีวิตจิตใจศักดิ์ศรีดีงามหรือเครดิตอะไรอยู่ในนี้ทั้งหมด ในสมบัติกองนี้ ซึ่งไม่เคยแตะต้องเลย ก็รู้สึกว่าเป็นสิริมงคลแก่ชาติไทยของเราตลอดมา สมบัติกองนี้ที่เก็บไว้ไม่ใช้จ่ายในเวลาที่ยังไม่จำเป็นอย่างนี้ ก็ไม่เคยปรากฏว่าก่อความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ใด ก็เป็นสิริมงคลและเป็นที่ภาคภูมิใจของชาติไทยเราตลอดมา

แต่เมื่อมีเหตุการณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทราบชัดเจนมาโดยลำดับว่า ทางรัฐบาลจะตั้งกฎหมายจะเข้ามาเอาสมบัติเหล่านี้ แต่ก่อนมีสมบัติอยู่สามกอง ว่างั้นนะเท่าที่ทราบ กองนี้เป็นกองใหญ่ที่ไม่มีใครแตะต้องในคนทั้งชาติ รักษาอย่างเดียวกันหมดไม่มีอะไรมาแตะต้อง ก็ทราบว่าจะเอาสมบัติทั้งสามกองนี้มารวมกัน สมบัติมารวมกันก็เท่ากับว่า โกยเอาสมบัติในชาติไทย หัวใจของชาติไทยเราทั้งชาตินี้ออกไปละเลงในน้ำทะเลไปหมด ที่พูดว่าจะไปฟื้นฟู คำว่าฟื้นฟูกับความจะเอาไปล่มจม ว่างั้นเถอะ เป็นเสียงเดียวกัน ในหลักธรรมชาติตามอรรถตามธรรมนะ

ไอ้เรื่องคำพูดของคนว่าจะไปฟื้นฟูอย่างนั้นอย่างนี้พูดได้ทั้งนั้น คนเรามีลิ้นมีปากพูดให้หวานขนาดไหนก็ได้ แต่ความขมมันติดกัน แทรกกันอยู่กับความหวาน เพื่อต้มตุ๋นใคร ๆ ไม่ว่าส่วนย่อยส่วนใหญ่ได้ทั้งนั้น อันนี้ก็ว่าจะเอาเงินเหล่านี้ไปฟื้นฟูชาติไทยของเรา ก็เท่ากับว่า หรือว่าตั้งปัญหาถามกันว่า จะเอาไปฟื้นฟูหรือจะเอาคนทั้งชาตินี้ไปจมในทะเลหลวง มันก็อดถามกันไม่ได้นะ เพราะสมบัติทั้งชาตินี้พากันรักษาอยู่ ก็ไม่เห็นพาชาติไทยของเราให้ล่มจมด้วยการเก็บรักษาสมบัตินี้ไว้ เมื่อความขัดแย้งเข้ามา เห็นว่าเก็บไว้อย่างนี้ไม่เกิดประโยชน์ เอาไปฟื้นฟูชาติไทยของเราเพื่อเกิดประโยชน์ มันก็เกิดปัญหาสวนทางกันเข้ามาว่า สมบัติเหล่านี้ให้ความร่มเย็นแก่ชาติไทยของเรามาเต็มสัดเต็มส่วนแล้ว ไม่เป็นประโยชน์อย่างใด มันมองไม่เห็น มีแต่ประโยชน์เต็มตัว

ชาติไทยของเราภาคภูมิใจด้วยสมบัติกองนี้ทั้งนั้น ไม่ได้ภาคภูมิใจกับสมบัติกองใด แล้วจะนำสมบัติเหล่านี้ไปฟื้นฟูบ้านเมือง จะไปฟื้นฟูแบบไหน ที่มันเสื่อม มันเสื่อมเพราะใครเป็นคนทำ สมบัติกองนี้ไม่ได้ไปทำลายอะไรให้ล่มจมไปพอจะนำสมบัติเหล่านี้ไปฟื้นฟู ถ้าสมบัติเหล่านี้มีคดีติดตัวทำให้บ้านเมืองล่มจม จะมาเอาสมบัติกองนี้ไปฟื้นฟูก็มีเหตุผลอยู่ แต่นี้สมบัติกองนี้ไม่เคยทำความเดือดร้อนแก่ผู้ใด ชาวไทยทั้งชาติมีความสงบร่มเย็นอบอุ่นอยู่ด้วยสมบัติกองนี้กันทั้งชาติ ทีนี้เวลาเอาสมบัติเหล่านี้ออกไปแล้ว ก็เท่ากับโกยเอาหัวใจของคนไทยทั้งชาตินี้ ออกไปฟื้นฟูลงในทะเล นี่ละคำว่าฟื้นฟูนี่เอาไปฟื้นฟูลงในทะเล ให้ไปเจริญอยู่น้ำทะเลหรือพุงหลวงของใครคณะใด พี่น้องชาวไทยเราทราบไม่ได้เมื่อหลุดจากคลังหลวงนี้ออกไปแล้ว มันจะเป็นทุกแบบทุกฉบับ ถ้ามันไม่ตั้งเค้ามาตั้งแต่ต้นว่าเพื่อจะเป็นอย่างนั้นแล้ว ไม่ควรที่จะเข้ามาทะลึ่งกับสมบัติกองนี้

การติดหนี้ติดสินเขา สมบัติกองนี้ไม่ไปหากว้านยืมเขามาเพื่อติดหนี้ติดสินพอจะนำสมบัติกองนี้ไปใช้หนี้เขา เป็นเรื่องของสิ่งภายนอกเท่านั้นก่อขึ้นมา ไปกู้ยืมเขามากี่หมื่นกี่แสนกี่พันล้าน กี่ล้าน ๆ ๆ ก็ไม่ใช่สมบัติกองนี้ไปกู้ยืมมา เป็นคนไปกู้ยืมมา เช่น คณะรัฐบาล เป็นต้น เป็นผู้ไปกู้ยืมมา กู้ยืมมามากน้อย คณะรัฐบาลไปกู้ยืมเงินเขามานั้น ก็ต้องไปกู้ยืมด้วยความว่ามีปัญญา ถ้ามีปัญญากู้ยืมเขามาได้ ทำไมจะไม่มีปัญญาหาเงินไปใช้หนี้เขา จำเป็นอะไรจะต้องมากอบโกยเอาตับเอาปอดของคนทั้งชาติจากสมบัติกองใหญ่นี้ไปฟื้นฟู ก็แสดงว่า โง่บัดซบ จาก โง่บัดซบนี้แล้วก็เรียกว่า เป็นมหาภัยต่อชาติไทยของเราอย่างยิ่ง

กฎหมายข้อนี้ที่จะมาลุกลามหรือมาโกยเอาสมบัติของชาติไทยเรานี้ เรียกว่า กฎหมายมหาภัย ชาติไทยจะรับไม่ได้ ตามเรื่องความรู้สึกในแง่แห่งธรรมแล้วเป็นอย่างนั้น นี้เราพูดตามธรรม จะมีความเจริญที่ตรงไหน ที่ว่ากฎหมายข้อนี้ที่จะมานี้ คือมาบีบบังคับเอาเงินก้อนนี้นั่นเอง ถ้าไม่ใช่มหาภัยจะมาบีบทำไม เงินกองนี้ไม่ได้เป็นมหาภัย สิ่งที่จะมาทำลายเงินกองนี้ต่างหากเป็นมหาภัย จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องกำจัด จากพี่น้องชาวไทยทุกคนที่รักชาติหรือรักสมบัติกองนี้ จะต้องต่างคนต่างต้องป้องกันไว้เต็มเหนี่ยว ไม่อย่างนั้นชาติไทยจมไม่มีอะไรเหลือเลยแหละ กฎหมายมหาภัยนี้จะมาเผาแหลกหมดเลย

แล้วกฎหมายมหาภัยนี้มาจากใคร ถ้ามาจากรัฐบาลเป็นผู้ตั้ง รัฐบาลนี้ก็เป็นมหาภัยต่อชาติไทยของเรา เป็นที่ไว้วางใจไม่ได้ ถ้าไว้วางใจไม่ได้ นี้เป็นหัวใจของชาติ รัฐบาลเป็นผู้รักษาชาติมาแตะต้องหาอะไร ติดหนี้ติดสินเขาก็ทางรัฐบาลแต่ละชุด ๆ ไปกู้ยืมเขามา ประชาชนเขาไม่มีความสามารถจะไปกู้ยืมเงินมาจำนวนมากมายถึงขนาดติดหนี้ติดสินเขา เวลานี้คิดเฉลี่ยแล้วรายบุคคลแต่ละคนนี้ในชาติไทยของเรา ติดหนี้เขาคนละ ๕ หมื่นบาท ฟังซิ นี่ละความติดหนี้หนักขนาดนี้แล้ว ยังไปกอบไปโกยเอาเงินมา ไปยืมหนี้ยืมสินเขามาอีก เวลานี้ก็ทราบว่า สองแสนล้านบาท ที่ทราบมาก็ทราบมาจากหลักความจริงทราบมาอย่างนี้ ว่าเวลานี้ก็ไปกู้ยืมเขามาถึงสองแสนล้าน ดูว่างั้นนะ นั่นฟังซิ คนตาบอดเขาไม่ไปกู้ยืม

สองแสนล้าน ดูว่างั้นนะ นั่นฟังซิ คนตาบอดเขาไม่ไปกู้ยืม นี่คนตาดี ถ้าเป็นรัฐบาลของเราก็เป็นรัฐบาลตาดีอยู่แล้ว ไปกู้ยืมมาหาอะไร หนี้สินที่เต็มอยู่ในบ้านในเมืองนี้ก็แก้กันไม่ตก ชาติไทยของเราทั้งชาติซึ่งแบกภาระจากหนี้จากสินที่รัฐบาลแต่ละชุด ๆ ไปกู้มานี้ กำลังอกจะแตกแล้วเวลานี้ ก็เพราะอำนาจอันนี้เอง อำนาจที่ปกครองบ้านเมือง มันปกครองบ้านเมืองหรือมันรีดบ้านเมืองให้แหลกให้เหลวไป เวลานี้กำลังจะเข้ารีดคลังหลวงของเรา เอ้า พี่น้องทั้งหลายให้ฟังทุกคนนะ นี่ละเอาธรรมมาพูด

สำหรับหลวงตาบัวเรียนธรรมปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่วันบวช ก็เอาธรรมนี้มาแสดงให้พี่น้องทั้งหลายตามเหตุการณ์ที่เป็นหนักเบามากน้อยดังที่ว่านี้ จึงแน่ใจว่าไม่ได้ผิดไป ธรรมไม่เคยแสดงให้ความเดือดร้อนแก่ผู้ใด นี่ก็กำลังเอามาสองแสนล้าน แล้วเงินสองแสนล้านที่ไปกู้ยืมนี้ประชาชนคนไหนทราบไหมว่า ได้ปรึกษากับใครบ้าง ที่รัฐบาลไปกู้ยืมเอามานี้ เงินสองแสนล้านนี้ ครั้นเวลากู้ยืมมาแล้วทำไมจึงมาเอาเป็นอำนาจบาตรหลวงอันใหญ่โต ที่ต้องมารีดไถขึ้นภาษีอากรทั่วประเทศไทย ให้ประชาชนเดือดร้อนกันทั้งประเทศเพราะเงินก้อนนี้ จากผู้มีอำนาจไปกู้ยืมมา เอ้า พากันพิจารณาซิ นี่ละหลักธรรมเป็นอย่างนี้ นอกจากนั้นแล้วอาจจะเอาเงินจำนวนนี้เข้ามาอวดอ้างว่าติดหนี้ติดสินเขา เพราะไปกู้ยืมเขามามาก จึงต้องมาโกยเอาเงินจำนวนนี้ไป นั่นเห็นไหมกิ่งก้านกุดด้วนเข้ามา ๆ เวลานี้กำลังจะเข้าถึงรากแก้วแห่งประเทศไทยของเรา จะฉิบหายกันทั่วประเทศ

พี่น้องชาวไทยฟังทุกคนนะ เพราะทุกคนเป็นผู้รักษาชาติบ้านเมือง สมบัติกองนี้เป็นของทุกคนในชาติไทยของเรา ให้พากันพิจารณาด้วยดี เราจะปล่อยให้มหาภัยมหาอำนาจนี้เข้ามายึดมาครองมากลืนกินไปหมด หรือเราจะปกป้องรักษากัน ให้พากันพิจารณาด้วยดี

เรานำศาสนามานี้เราไม่ได้นำมาเพื่อความเดือดร้อนแก่โลกแก่สงสาร เรานำมาเพื่อความร่มเย็นเป็นสุข เหตุใดศาสนานี้จะกลายเป็นภัยต่อคนทั้งโลกทุกหย่อมหญ้า มันเป็นปัญหาได้หรือ เอาธรรมะที่เราแนะนำสั่งสอนพี่น้องทั้งหลาย และวิธีการที่เราพาดำเนินนี้ไปพิจารณาว่าผิดเพี้ยนที่ตรงไหน ถ้าผิดเพี้ยนแล้วให้มาโจมตีเราเลย หลวงตาบัวสอนธรรมและวิธีการต่าง ๆ ที่พาพี่น้องชาวไทยดำเนินนี้เป็นความผิดพลาดไปแล้ว หลวงตาบัวยังไม่ต้องบอกละว่าให้ขับไล่หลวงตาบัวนะ หลวงตาจะถอนตัวทันทีเลย ว่าได้ทำผิดพลาดต่อชาติบ้านเมือง ก่อนถอนตัวยังจะขออภัยโทษจากพี่น้องทั้งหลายอีกด้วย แล้วก็ถอนตัวไปตามบุญตามกรรมที่โง่เขลาเบาปัญญา ทำความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง จึงขอโทษแล้วก็จากเลย เป็นคนละฝั่งละฝาไปเลย

เวลานี้มันยังเป็นอย่างนั้นไม่ได้ จึงต้องเอาธรรมะมาให้พี่น้องชาวไทยเรา นับตั้งแต่วงรัฐบาลลงมาเป็นลูกชาวพุทธ ควรจะฟังเสียงอรรถเสียงธรรมเสียงศาสนาบ้าง ไม่ควรจะฟังตั้งแต่เสียงอยากเสียงทะเยอทะยาน เสียงกอบเสียงโกย เสียงเห็นแก่ได้แก่กินไปอย่างเดียว นี้เรื่องของกิเลส ทำลายทั้งตัวเองและผู้อื่น ถึงจะกอบโกยเงินมาได้เอาตู้รถไฟมาใส่ก็ตาม ตู้รถไฟนั้นคือตู้รถไฟของไฟแห่งความชั่วทั้งหลาย ที่จะเผาไหม้ผู้ไปก่อขึ้นมานั่นแหละ ให้เป็นสิริมงคลไม่มีทาง นี้คือศาสนาสอนโลกสอนอย่างนี้ อย่าพากันดื้อด้านหาญทำ เผาตัวเองแล้วก็จะเผาชาติบ้านเมืองไปด้วยความผิดพลาดเพราะอำนาจของกิเลสนี้แล เราถึงสอนให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้

นี่ละที่เรานำศาสนานำพี่น้องชาวไทยมานี้ก็นำมาด้วยความภาคภูมิใจ ตัวของเราเองไม่เคยมีอะไรติดเนื้อติดตัว เพราะความเห็นแก่ตัวไปยึดเอาสมบัติพี่น้องทั้งหลายมายึดมาครอง แม้เม็ดหินเม็ดทรายเราไม่มีนะ บางครั้งเราติดหนี้เขาพะรุงพะรังเพราะความเห็นแก่ชาติบ้านเมือง ที่ความจำเป็นเข้ามาขอร้องจากเรา เงินเราก็ไม่มี แต่ความจำเป็นนั้นเหนือการติดหนี้ เราถึงยอมติดหนี้เพื่อซื้อสิ่งของมาแก้ไขวิกฤตการณ์คือความจำเป็น เช่นอย่างเครื่องมือแพทย์ เครื่องมือแพทย์แต่ละเครื่องนี้มีความจำเป็นต่อคนไข้มากน้อยเพียงไร เราถือเอานั้นนะ เมื่อได้เครื่องมือที่จำเป็นนี้เข้ามาใช้ คนไข้มีจำนวนมากได้รับความสะดวกสบาย หายโรคหายภัยก็เพราะเครื่องมือเหล่านี้มีจำนวนมากเท่าไร เงินที่ว่าเราไม่มี ๆ ซึ่งพอจะหาได้อยู่เอามาติดหนี้เขาเพื่อซื้อเครื่องมือนี้ หาไม่ได้หรือ นี่ละหาได้ว่างั้นเลย

หาไม่ได้เดี๋ยวนี้ยอมติดหนี้ไปเสียก่อน เราให้เขาสั่งมาเลยทีเดียว ติดหนี้ก็ติด พอได้มาแล้วลูกศิษย์ลูกหาช่วยกันฉุดกันลากออกจากคุกจากตะราง เพราะติดหนี้เขาต้องเป็นโทษติดคุกติดตะรางได้นี่นะ ทีนี้พี่น้องทั้งหลายก็ไปฉุดไปลากเราออกมาจากเรือนจำมาเป็นอิสระ แล้วก็ติดอีกอยู่อย่างนี้เรื่อยมา ติดหนี้ติดสินเพื่อชาติบ้านเมือง นี่พูดถึงเรื่องความเสียสละของเราต่อชาติบ้านเมือง แล้วเชื้อเชิญพี่น้องชาวไทยเราทั้งประเทศให้มาอุ้มชาติไทยของเราด้วยความเสียสละ แล้วเข้าสู่คลังหลวง คลังหลวงจุดนี้เองจุดเป็นหัวใจของชาติไทยเรา แล้วพี่น้องชาวไทยเราทั้งหลายก็ไม่เคยปรากฏว่า มีท่านผู้ใดมาคัดค้านต้านทานว่าการดำเนินอย่างนี้ผิดไป หลวงตาบัวได้พาดำเนินผิดไป การแนะนำสั่งสอนคนเกือบทั่วประเทศไทยในเวลาที่เรานำชาตินี้ ก็ไม่ปรากฏว่าท่านผู้ใดมาคัดค้านต้านทานว่าการสอนธรรมนี้ผิดไป แล้วก็ยกกิเลสขึ้นมา มีกิเลสล้วน ๆ เท่านั้นถูกที่สุดแล้ว ก็ไม่เคยเห็นมีใครมาคัดค้านต้านทานธรรม และยกยอกิเลสขึ้นไม่เห็น ก็มีแต่ความยอมรับตามอรรถตามธรรมความจริง ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เวลานี้ก็ไม่เคยมีผู้ใดที่มาคัดค้านอุบายวิธีการที่เราพานำพี่น้องทั้งหลายเพื่อกู้ชาติบ้านเมือง จนกระทั่งถึงมาบัดนี้

เงินนี้พี่น้องทั้งหลายก็ทราบทั่วหน้ากันแล้วว่า หลวงตาซึ่งเป็นผู้นำนี้ประกาศก้องแล้วตั้งแต่วันนำสมบัติของพี่น้องทั้งหลายเข้ามา แล้วจะเอาเข้าสู่คลังหลวง ๆ เราบอกไว้อย่างนี้ตลอดมา ทองคำ ดอลลาร์ เข้าสู่คลังหลวงร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนเงินสดนั้นเราจะเพื่อแจกจ่ายเป็นเงินหมุนเวียนช่วยชาติบ้านเมืองทั่วประเทศไทย เมื่อเห็นว่าจังหวัดใดที่ใดมีความจำเป็นมากน้อยเพียงไร เราจะนำเงินก้อนนี้ไปมอบให้หัวหน้าที่มานำเงินไป ถ้ารับด้วยความบริสุทธิ์ใจจริง ๆ เป็นที่แน่ใจของเรา เราจะมอบเงินก้อนนี้ให้ เงินที่ว่าเงินสดนี้

แต่ครั้นแล้วมาพิจารณาอีก ผู้ที่จะมารับนั้น เวลาเขามารับแม้จะเป็นมหาโจรมารับก็ตาม เขาก็จะประกาศก้องขึ้นทันทีว่า เขาเป็นคนที่บริสุทธิ์ยุติธรรมมาตั้งแต่โคตรแต่แซ่ของเขาอย่างนี้ เราก็จะไปรู้เรื่องของเขาได้ยังไง แล้วเวลามอบไปเขาก็เอาไปถลุงหมด เราไม่แน่ใจเพราะเราไม่ได้ติดตามดูเขา เราจึงต้องพักเงินจำนวนนี้ที่จะไปมอบในที่ต่าง ๆ ไว้ แล้วหักเอาไว้ในคลังหลวง สำหรับในคลังหลวงซึ่งเราได้รับบริจาคจากพี่น้องทั้งหลายมาไว้นั้น เรายังไม่เคยแตะต้องไม่เคยถอนแม้สตางค์หนึ่งนะ เงินเวลานี้พูดอย่างคร่าว ๆ ก็ มีเงินอยู่ ๘๕๐ ล้านกว่าบาท ใน ๘๐๐ ล้านนั้นเราหักไปแล้ว ได้ออกประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบว่า เราจะนำเงิน ๘๐๐ ล้านนี้ไปซื้อทองคำมาเข้าคลังหลวง เงินที่ว่านอกคลัง คือเงินสดนี้ เรายังหักให้เข้าไปในคลังหลวงอีก ๘๐๐ ล้าน เราจะซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง ส่วน ๕๐ กว่าล้านนั้นเราอาจจะนำไปใช้ดังโครงการที่เรากำหนดไว้เบื้องต้นว่าจะไปช่วยประชาชน นี่เราจะหักเงินจำนวนนั้นออกมาช่วยก็ได้ตามที่เราประกาศไว้ ต้นกับปลายตรงกัน เราไม่เคยมีที่ว่าเอามือเขียนตีนลบ

โครงการนี้เงินสดนี้เราบอกแต่ต้นแล้วว่าจะไม่เข้าสู่คลังหลวง จะออกเป็นเงินหมุนเวียนออกช่วยทั่วประเทศไทย แต่เมื่อเราไม่แน่ใจในเงินจำนวนนี้ที่มอบให้แต่ละจุด ๆ นี้ เขาอาจจะเอาไปถลุงก็ได้ เพราะเราไม่ได้ติดตามดู เราจึงต้องย้อนเอาเงินเหล่านี้มาเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว เงินจำนวนนี้เราเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นผู้สั่งเก็บสั่งจ่ายตามเงินหมุนเวียนจะไปที่ไหน ๆ บ้าง เราเป็นผู้สั่งเก็บสั่งจ่ายแต่ผู้เดียว รู้สึกว่าเป็นที่แน่ใจตลอดมา อบอุ่นตายใจเราด้วย เพราะเราเป็นผู้ทำหน้าที่เองด้วยความบริสุทธิ์ มีเมตตาธรรมครอบไว้ตลอด เราจึงดำเนินอย่างนี้ตลอดมาตั้งแต่เรายังไม่ได้ออกนำพี่น้องทั้งหลาย เราก็เอาเงินของเรามีมากมีน้อยนี้ช่วยชาติตลอดมาอย่างนี้ แล้วทีนี้เงินเหล่านี้ที่เรารวมมาทั้งหมดรวมเข้าไปแล้ว เราบอกว่าเราจะมอบเงินนี้เข้าสู่คลังหลวง วันที่มอบนั้นก็ประกาศก้องให้ทราบทุกคนว่า เงินนี้ได้เข้าสู่คลังหลวงแล้วว่างั้น

ผู้ที่มาบอกเรานั้นก็เราก็ไม่รู้ธนาคารว่ามีแง่ใดมุมใดแผนกใดบ้าง เพราะเราไม่ได้อยู่ในธนาคาร ไม่ได้เรียนศึกษาทางธนาคาร เมื่อเขาพูดให้ฟังอย่างไร แล้วเราก็เชื่อแน่ว่าเขาจะไม่โกหกเรา บอกว่าเงินจำนวนนี้ เขามารายงานบอกว่า ถูกต้องทุกอย่างตามที่หลวงตามุ่งหมายว่าให้เข้าคลังหลวง ได้เข้าเรียบร้อยแล้ว เราก็ซักก็ถามเป็นที่แน่ใจ ว่าเข้าคลังหลวงแล้ว จากนั้นมาเราก็เป็นที่ตายใจอบอุ่นใจ แล้วประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งเร็ว ๆ ตอนเราไปกรุงเทพฯ นี้ ว่าเงินเหล่านี้ได้เข้าสู่คลังหลวงแล้วตั้งแต่วันที่เท่านั้น ๆ แล้วเมื่อไปกรุงเทพฯ คราวนี้ จึงได้ไปจับเงื่อนได้ว่า เงินนี้ยังอยู่ใต้ก้นคลังหลวง ยังไม่ได้เข้าคลังหลวง จึงได้ตีต้อนกันตรงนี้อีก ตอนนี้ก็ตอนเด็ดเหมือนกัน เด็ดทางโลกทางสงสาร

แต่เรื่องของธรรมนั้นน่ะ เงินที่พี่น้องทั้งหลายได้มอบและเราเป็นผู้มอบเองเข้าสู่คลังหลวงแล้วนั้น เป็นเงินที่เข้าสู่คลังหลวงแล้วโดยหลักธรรมชาติของธรรม ไม่มีกฎหมายบ้านเมืองใดจะมาแยกมาแยะออกไปเข้าถุงไหนกระเป๋าไหนได้เลย เงินจำนวนนี้เข้าสู่คลังหลวงแล้วโดยหลักธรรมชาติโดยสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นเงินจำนวนนี้ถึงจะแยกไปไหนก็ตาม เงินจำนวนนี้คือเงินจำนวนเข้าสู่คลังหลวงแล้วนั้นแล โดยหลักธรรมชาติ นี่โดยธรรม ธรรมเป็นอย่างนั้น

กฎหมายบ้านเมือง กฎหมายนี้พลิกแพลงหลายด้านหลายทาง ถ้าไม่ถูกกฎหมายนั้นก็เรียกกฎหมอย กฎกินกฎกลืนไปก็ได้ไม่ได้แน่ แต่ธรรมนี้ไม่มี ตรงไปตรงมา เราจึงเชื่อผู้ที่มาประกาศบอกเราว่า ได้เข้าสู่คลังหลวงโดยสมบูรณ์แล้ว เราพึ่งมาทราบระยะนี้ว่า ยังไม่เข้าสู่คลังหลวง ว่าอยู่ที่ก้นคลังหลวง อยู่ที่ไหนก็ตามเถอะ เงินจำนวนนี้เป็นเงินที่ชาติบ้านเมืองโดยเราเป็นผู้นำ ได้เข้าสู่คลังหลวงแล้วโดยสมบูรณ์ทางด้านธรรมะไม่มีบกพร่องแล้ว ใครจะมาแยกมาแยะให้เป็นยังไงอีกเป็นไปไม่ได้แล้ว เงินจำนวนนี้คือเงินของคลังหลวงโดยตรง

ด้วยเหตุนี้เองเราจึงรักจึงสงวนเพื่อชาติบ้านเมืองของเราจากคลังหลวงอันนี้ ไม่ให้ใครมาแตะมาต้อง ถ้าไม่อยากทำลายคนทั้งชาติอย่ามาแตะ เพราะอันนี้เป็นการให้กันและการรักษากันมาด้วยความเป็นธรรมล้วน ๆ แล้ว ถ้ามีอะไรเข้ามาแตะมาทำลายก็เรียกว่า นี้คือมหาโจรมหามาร มหาภัยมาทำลายหัวใจของชาติไทยเรา เราเป็นเจ้าของก็ต้องมีการคิดการอ่าน อย่างน้อยคิดอ่าน จากนั้นก็มีการต่อต้านกัน สมบัตินี้เป็นของคนทั้งประเทศ พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้นะ หากมหาภัยเข้ามาทำลายนี้แล้ว พี่น้องทั้งหลายซึ่งเป็นเจ้าของจะนอนหงายหมาอยู่ให้เขากินตับกินปอดไปอย่างนั้น หรือจะมีการเห่าการรุมกันกัด พิจารณานะ นี้เราให้แนวทางไว้ทุกอย่างตามความเป็นธรรม เราไม่เอาโลกมาแฝง นี้คือความเป็นธรรมล้วน ๆ

เราไม่ได้พูดท้าทายต่อผู้ใด พูดด้วยการรักษาสมบัตินี้ด้วยความเป็นธรรมล้วน ๆ และเข้มแข็งทุกคน วันนี้พูดอย่างนี้ นี่ละที่ทำให้เรามาพิจารณาอีกทีหนึ่ง แล้วการนำเหล่านี้มันเป็นความผิดพลาดไปเหรอ มันจึงได้มีการกระทบกระเทือนกันอย่างที่เป็นอยู่เวลานี้ เหมือนกับว่าจะเกิดเรื่องเกิดราวระหว่างประชาชนและหลวงตาบัว กับทางบ้านเมือง เช่น รัฐบาล เป็นต้น มันเกิดระหองระแหงกีด ๆ กัน ๆ ทุกแง่ทุกมุมไปแล้วเวลานี้ มิหนำซ้ำยังจะตั้งกฎหมายขึ้นมาบีบบังคับจะเอาเงินก้อนนี้ให้ได้ ทางนี้เป็นผู้นำพี่น้องประชาชนก็จะออกต้านทานกันทันที หากว่าจะเกิดศึกกลางบ้านกลางเมืองไทยของเราก็ให้เห็น ระหว่างธรรมกับกิเลสฟัดกันก็จะรู้กันคราวนี้ ให้ถอยไม่ถอย เรื่องความเป็นผู้นำด้วยความถูกต้องเป็นธรรมแล้วไม่ถอย ให้พี่น้องทั้งหลายทราบเอาไว้อย่างนี้ก็แล้วกัน

วันนี้พูดเพียงแค่นี้ก่อน


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก