ทองคำที่เราตั้งไว้สี่พันกิโลเป็นอย่างต่ำ ยังขาดอยู่อีก ๑,๖๔๗ กิโลจะครบสี่พันกิโล ไปกรุงเทพคราวนี้ตั้งแต่วันที่ ๒ - วันที่ ๒๙ มีนา นี้ได้ทองคำ ๓๑ กิโลกับ ๓๖ บาท ๕๔ สตางค์ ส่วนดอลลาร์ได้สี่หมื่นกว่า ทั้งทองคำทั้งดอลลาร์ได้มากพอสมควร ส่วนเงินสดนั้นหลุดไม้หลุดมือตลอดทั้งเที่ยวก่อนทั้งเที่ยวนี้ เราก็เคยบอกแล้วว่าเงินสดเราไม่ถือสำคัญยิ่งกว่าทองคำกับดอลลาร์ตั้งแต่ต้นมาเลย ทองคำกับดอลลาร์หมุนติ้วเลยที่จะเข้าโดยถ่ายเดียว ส่วนเงินสดควรจะเข้ามากเข้าน้อยถ้าเป็นทองคำสู่คลังหลวงก็เข้า ส่วนแยกไปทางไหนจะแยกตามความเห็นสมควรของเราเอง แต่ไปสองเที่ยวนี้ขาดทุน โถ ไม่ใช่เล่นนะจ่าย เราเป็นคนสั่งจ่ายแต่ผู้เดียวไปโน้นก็ดี อันไหนสมควรจะแยกยังไงจ่ายยังไงเรามาพิจารณา และได้รับคำปรึกษาหารือคำบอกเล่าเรื่องอะไรต่ออะไร แล้วก็มาคำนวณแยกแยะ ๆ สุดท้ายหลุดมือ ขาดทุน เงินสดเที่ยวที่แล้วขาดทุน เที่ยวนี้ขาดทุน ทองคำกับดอลลาร์ได้กำไร
โห ไม่ใช่เล่นนาเรื่องช่วยโลก ช่วยทุกแบบทุกฉบับแล้วกว้างขวางด้วยนะ เมื่อวานนี้ตอนจะมาเขาก็เคยปฏิบัติแล้วเราก็สั่งไว้ด้วย พวกอาหารเศษเหลืออะไร ๆ ให้จัดตามเดิมเหมือนเราอยู่ที่นั่น คือเราแยกออกมาแล้วเดี๋ยวเขาจะไม่แยกแจกพวกคนจน เขาก็แจกตามปกตินั่นแหละ เรามาแล้วเขาก็แบ่งสันปันส่วนแยกตามเดิม แต่วานซืนนั้นกับวันก่อนนั้นอีกวันหนึ่ง นี้เป็นวันตั้งหน้าแจกของแจกอาหารให้พวกคนจน เลยวานซืนไปวันหนึ่งนั้น เราดูบัญชีรายบุคคลที่มารับอาหารเศษเหลือนั้น ๒๗๐ วานซืนนี้ก็เอาอีก คือข้าวที่อยู่ในโกดังเราเจียดเอาไว้สำหรับสำนักฝ่ายผู้หญิงทางด้านโน้นเสีย เมื่อพอแล้วกับที่เขารักษาในสำนักสวนแสงธรรมก็ให้เขาแยกเอาไว้ เช่น นายนวล ให้เขาแยกเอาไว้พวกข้าวสารพวกอะไรที่ควรอยู่ควรกิน พอเหลือจากนั้นให้เอาออกทั้งหมดเราบอก แล้วก็สั่งทางนี้ให้เอาของที่เหลือทั้งหมดนั้นมาแยกมาแบ่งแจกเป็นทาน พวกข้าวสาร พวกอะไร
เมื่อวานก็เรียกว่าหมดไปแล้วแหละ คงจะได้แต่พวกอาหารธรรมดาตอนเช้า ส่วนปัจจัยไทยทานอย่างอื่นนั้นก็สั่งไว้หมดแล้ว ให้แยกแจกไปทั่วทุกแห่งทุกหน ห้ามไม่ให้เอามาวัดป่าบ้านตาด เว้นแต่ผ้าขาว คือผ้าขาวที่เอามานี้ก็เอามาให้โรงพยาบาลต่าง ๆ เพราะทางโน้นไม่มีใครแจกผ้าขาวไปโรงพยาบาล เราก็เอาผ้าขาวนี้มาเลย พอเอามาแล้วก็แจกตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เป็นประจำ คือผ้าขาวเราให้เป็นประจำ มีเท่าไรก็แจก เพราะโรงพยาบาลนี้ขาดแคลนมากผ้าขาว เราจึงต้องได้ดูแลตลอด
เมื่อคืนนี้เราเข้าไปในโกดังไปเห็นกองผ้าขาวเลยถามพระที่อยู่เวรว่ากองผ้ามายังไง ว่ามาจากกรุงเทพวันนี้แหละ เราทราบทันทีว่าเอามาเพื่อโรงพยาบาล ที่เขามารับอาหารแต่ละโรงพยาบาลนี้เราไม่ได้ให้นะผ้าขาว เราจะให้เฉพาะที่เราไปที่ไหน ๆ ผ้าขาวต้องติดไปด้วย ๆ ถ้าจะให้ทั่วถึงกันอย่างนั้นผ้าไม่พอ เราจึงให้เฉพาะเวลาที่เราไป เอาผ้าขาวไปพร้อม ๆ ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นอกนั้นเราให้สาธารณะและเสมอกันหมด ตั้งแต่วันเราไปวันที่ ๒ จนกระทั่งกลับมาวันที่ ๓๐ เมื่อวานนี้ โรงพยาบาลต่าง ๆ มา ๓๑-๓๒ โรงนี่แหละพระท่านเขียนไว้ เราไปก็ร่วมเดือน คือเราอยู่ก็ตามไปก็ตามของนี้จะจัดไว้เสมอเลยไม่ให้ขาด ให้ได้เสมอกันหมด ที่เราช่วยอย่างนี้มาเป็นประจำหลายปีแล้ว เวลานี้รู้สึกว่าทางโรงพยาบาลยิ่งจำเป็นมากขึ้น เราจะเห็นได้เวลาเขามาหาเรา มากขึ้นเรื่อย ๆ ความจำเป็นอย่างอื่นที่มาติดต่อขอเราก็มากขึ้น ๆ นับวันมากขึ้น
เวลานี้เริ่มตั้งหลักตั้งฐานพยุงกันขึ้นเรื่อย ๆ ทางฝ่ายรัฐบาลก็เรียกว่าเป็นที่แน่ใจไปโดยลำดับ ในการทำงานของคณะรัฐบาลเท่าที่ทราบมาตั้งแต่เริ่มต้นรัฐบาลใหม่นี้ ก็ยังไม่เห็นข้อใดแง่ใดที่รัฐบาลออกปฏิบัติหน้าที่ต่อประชาชนทั้งประเทศ ว่าจะขัดแย้งต่ออรรถต่อธรรมซึ่งเป็นความถูกต้องดีงามแต่แง่ใดยังไม่เคยมี เวลาเขาออกทางไหนเรื่องมันจะมา เพราะอันนี้เหมือนกับถือบังเหียนอยู่ข้างหลัง เวลาจำเป็นปุ๊บออกหน้าทันที นี่ก็รู้สึกว่าราบรื่นมาโดยตลอด เป็นที่อบอุ่นละชาติไทยเราเมืองไทยเราเมื่อได้ผู้นำที่ดี ซึ่งเป็นเหมือนกับพ่อกับแม่ของประเทศชาติของเรา แล้วก็ยกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นสุดยอดนี้รองลงมา เรียกว่าพี่เบิ้มของพวกเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ยกให้เป็นพ่อพรหมแม่พรหมไปเลยนะ สูงสุดถึงพรหม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเราจะหาที่ไหนเหมือนพระองค์ปัจจุบันนี้หาได้ยากนะ นี่ก็เป็นพ่อพรหมแม่พรหมของเรา ลำดับมาลูกของท่านพี่เบิ้มได้แก่นายก แตกแขนงออกไปคณะรัฐมนตรีลำดับลำดาเป็นที่อบอุ่น เวลานี้รู้สึกว่าประชาชนสาธุการทั่วหน้ากันอย่างเงียบ ๆ ยังไม่ได้ออกแสดงอะไรนัก ประชาชนเริ่มสาธุการกันกับนโยบายวิธีการออกเพื่อประเทศชาติของเรา ออกแขนงไหนก็รู้สึกว่าน่าฟัง ๆ นี่ก็เป็นกำลังใจของพี่น้องชาวไทยที่จะได้เริ่มขวนขวายละที่นี่ มันจะรั่วไหลไปไหนหรือจะหลุดลอยไปไหนดังที่เคยเห็นมาแล้วนั้น เวลานี้ยังไม่ปรากฏ เท่าที่เป็นอยู่นี้จะมีแต่มุ่งอย่างเดียวเลยเพื่อพยุง
เจ้าหน้าที่ทำงานคณะรัฐมนตรีรู้สึกว่า ต่างท่านต่างตั้งหน้าตั้งตาจริง ๆ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตน ๆ อย่างเข้มงวดกวดขันตลอดไป อันนี้ก็ทราบ แน่ะอย่างนั้นแล้ว ไม่พูดอะไร ๆ แหละ ไม่ตำหนิไม่ชมใคร คอยดูตั้งแต่หน้าที่ของตัวเองจะบกพร่องตรงไหน แก้ไขดัดแปลงซ่อมแซมตรงนั้นไปเรื่อย ๆ นี่ก็เป็นที่ภาคภูมิใจของพี่น้องทั้งหลายชาวไทยเรา ว่าเมืองไทยเรานี้จะเริ่มตั้งเนื้อตั้งตัวขึ้นไปได้โดยลำดับจากผู้นำที่ดี
จากนั้นศาสนาก็ออก เรียกว่าเป็นศาสนาเอกอยู่แล้วในโลกธาตุนี้ว่างั้นเลย เป็นศาสนาที่แม่นยำสุดยอดแล้วไม่มีศาสนาใดมาเป็นคู่แข่ง เราไม่ได้พูดดูถูกเหยียดหยามใคร เราเอาความจริงออกไปพูด เครื่องยืนยันของผู้จะเลิศเลอออกจากอริยสัจ พุทธศาสนานี้อริยสัจสมบูรณ์เต็มที่ ผลิตพระพุทธเจ้าขึ้นมาและผลิตพระสาวก จนกระทั่งเป็นสรณะของชาวโลกมาโดยลำดับ นี่เรียกว่าผู้สิ้นกิเลสเป็นเจ้าของศาสนา คำสอนที่ตรัสออกมาจึงเรียกว่า สวากขาตธรรม หรือ สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม เป็นธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว ๆ สมบูรณ์แบบทุกขั้นทุกตอนของธรรม ไม่มีบกพร่องอะไรเลย นี่เราก็ได้ศาสนาเอก
หลวงตาที่นำพี่น้องทั้งหลายนี้ก็เอาออกมาจากศาสนา แล้วเราก็นำออกมาสอนพี่น้องทั้งหลาย เท่าที่สอนนี้ก็สอนด้วยความเมตตาล้วน ๆ ได้พินิจพิจารณาทุกแง่ทุกมุมเต็มกำลังของเจ้าของแล้วชี้บอก ๆ และพาก้าวเดิน ๆ เป็นลำดับ เท่าที่ผ่านมาแล้วทุกวันนี้เจ้าของเองก็ยังไม่เห็นข้อตำหนิที่ว่านำพี่น้องทั้งหลายนี้ขัดข้องต่ออรรถต่อธรรม ยังไม่เคยมี เพราะเราพิจารณาตามธรรมแล้วเอาธรรมเป็นทางเดิน ธรรมเป็นทางก้าว นำพี่น้องทั้งหลายมาโดยลำดับจนกระทั่งบัดนี้ ก็เรียกว่าราบรื่นมาเป็นลำดับ จะได้ยินได้ฟังว่าผู้ใดมาตำหนิติเตียนเราด้วยเป็นความสัตย์ความจริงที่เขาได้เห็นได้รู้จริง ๆ ว่าเราทำผิดพลาดประการใดนี้ก็ไม่เคยเห็น เพราะตัวเราเองเราก็ไม่เคยสงสัยในตัวของเรา ไม่สงสัยตลอดมานะ เพราะทำด้วยความเมตตาต่อโลกล้วน ๆ ทุกบาททุกสตางค์ว่างั้นเลย
สำหรับเราเองเราไม่เคยคิดว่า เงินบาทนี้สตางนี้เป็นของเราเราไม่เคย ใครจะถวายมากน้อยเท่าไร จะว่าส่วนตัวหรือไม่ส่วนตัว เรามีแต่ออกเพื่อประเทศไทยเลยตลอดมาอย่างนี้ เราจึงไม่ได้ขัดข้องไม่เป็นมลทินในใจ นี่ก็เป็นความอบอุ่นของเราเองซึ่งเป็นผู้นำเองอันดับแรก ก็คงจะเป็นความอบอุ่นแก่พี่น้องชาวไทยเราโดยลำดับมาเช่นเดียวกัน
นี่ละชาติไทยของเราจะขึ้นได้ ขอให้พี่น้องชาวไทยฟังเสียงหัวหน้าผู้นำที่ธรรมดำเนินไปด้วยความราบรื่นดีงาม แล้วให้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมรวมเข้าจุดศูนย์กลางเลยแล้วก้าวเดิน ต่างคนต่างมีมากมีน้อยก็ให้พากันบริจาคเพื่อชาติไทยของเรา ถ้าเราไม่ยกไม่มีใครจะยกนะ มีแต่ผู้จะเหยียบนะเวลานี้ เหตุการณ์ที่เหยียบมาแล้วจนจะลงทะเลแล้วใครก็เห็นด้วยกันทุกคนทั่วหน้าในประเทศไทยของเรา แล้วก็ยังจะเหยียบอีกตลอดเวลา ทีนี้เราจะต้องเข้มงวดกวดขันในความระมัดระวัง แล้วการอุดหนุนก็เหมือนกัน ใครมีมากมีน้อยให้หนุนเข้ามา ๆ เพื่อตั้งหลักตั้งฐาน เวลานี้เราอาศัยพวกโลกนอกมากเกินไป เราจึงกลายเป็นมีแต่โครงกระดูก โลกนอกเข้ามาเอาตับเอาปอดของชาวไทยเราไปกินหมด เพราะความลืมตัวฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม อะไรก็เห็นว่าของเมืองนอกดี ๆ เขามาล้วงเอาตับเอาปอดของเราไปกินไม่รู้ สิ่งที่เขาโยนมาให้เรามีแต่โครงกระดูก
เห็นไหมตามถนนหนทางทุกแห่งทุกหน มีแต่เศษเหล็กเศษหลาเป็นป่าช้าเหล็ก ก็คือเมืองไทยนี้ เอามาจากเมืองนอกเมืองนาเขา ซื้อรถซื้อราซื้อเครื่องยนต์กลไกเครื่องอะไร จำเป็นไม่จำเป็นซื้อแบบเห่อแบบเหิม ถ้าซื้อด้วยความจำเป็นไม่ตำหนิเพราะเหตุผลบอกแล้วว่าความจำเป็น เรื่องของบุคคลก็ต้องทำถ้าเป็นความจำเป็น ถ้าไม่จำเป็นไม่ควร อันนี้มันไม่มีอะไรจะจำเป็นมากยิ่งกว่าความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเห่อกัน เมืองไทยนี้มักเห่อกันเสมอนะ เห็นเขาได้เราก็อยากได้ ๆ เอ้า ตำหนิก็ตำหนิหลวงตาบัวด้วยซิ หลวงตาบัวอยู่ท่ามกลางแห่งเมืองไทย เวลานี้กำลังนำพี่น้องทั้งหลาย ข้อไหนเป็นข้อบกพร่องของเราที่จะทำชาติไทยของเราให้เอนเอียงและเสียหายไปได้หรือล่มจมไปได้ ก็ดังที่กล่าวมาแล้วนี้
ส่วนมากเราไปอาศัยตั้งแต่เมืองนอก หายใจอยู่กับเมืองนอก ไม่ได้หายใจอยู่กับเมืองไทยของเรา ไม่ได้หายใจอยู่กับจมูกของเรา อะไรก็เอะอะแต่เมืองนอก ๆ เห่อ เลยกลายเป็นเรื่องเมืองไทยเรานี้เป็นเมืองเห่อไปหมด แล้วตับปอดจะไม่มีในเมืองไทย นี่ละจะล่มจมเพราะอันนี้อันหนึ่ง ให้พี่น้องทั้งหลายจำไว้ทุกคน ให้รู้ว่าเนื้อหนังเป็นของเรา อวัยวะทุกส่วนเป็นของเรา เราต้องบำรุงรักษาเราด้วยสมบัติสิ่งของที่จะนำมาเป็นประโยชน์แก่ชาติไทยของเรา อันไหนที่จะมาเอาตับเอาปอดเราไปอย่ายอมให้ อย่ายอมสละ อย่ายอมซื้อสิ่งเหล่านั้นว่างั้นเลย อย่ายอมเห่อกับมัน ให้ระมัดระมัด ให้ต่างคนต่างฟังด้วยกัน
เราเป็นชาติไทยด้วยกันทุกคน ได้เสียอยู่กับทุกคน เมื่อเป็นเช่นนั้นการระมัดระวังรักษาทะนุบำรุงต้องเป็นทุกคนเหมือนกัน ไม่งั้นขึ้นไม่ได้นะ ทิ้งให้คนนั้นทิ้งให้คนนี้ใช้ไม่ได้ ไม่ถูก อวัยวะของเรา แขนซ้ายแขนขวามีน้ำหนักเสมอกัน อวัยวะทั้งหมดมีน้ำหนักเสมอกัน ชาติไทยของเรามีน้ำหนักแห่งความเป็นคนไทยเสมอกัน บกพร่องตรงไหนเสียหายหมดในชาติไทยของเรา เหมือนอวัยวะของเราบกพร่องตรงไหนเสียหายตรงนั้น พิการตรงนั้น ให้จำเอาไว้ให้ดี เราต้องเข้มงวดกวดขัน อย่าตื่นมากนักนะเมืองนอก ตับปอดเราเวลานี้จะหมดจนจะล่มจมไปนี้ก็เพราะเหตุการณ์เหล่านี้อันหนึ่งนะ ไม่ใช่เหตุการณ์ที่อุบายของเปรตของผีมากอบโกยเอาตับเอาปอดของชาติไทยของเราไปกิน ตัวของเราเองต่างคนต่างไม่รู้ตัว แล้วก็โกยของตัวเองไปตามส่วนของเรานั้นแหละ มันก็หมดไปล่ะซิ เอาออกไปทางไหนก็เอาออกไปจากเมืองไทย ๆ เมืองไทยจะไม่จมได้ยังไง
ต้องต่างคนต่างระมัดระวังรักษานะ ให้ฟังเสียงธรรมนะ ที่พูดเหล่านี้เอาธรรมมาพูดนะ ไม่พูดให้ผิด พูดให้ถูกต้อง ต่อไปนี้ให้พากันพยายามตั้งเนื้อตั้งตัวนะ ให้เอาส่วนของเมืองไทยมากต่อมากเป็นเครื่องบำรุงชาติไทยของเรา อย่าไปเห่อกับเมืองนอกมากนักซึ่งไม่จำเป็น เข้ามาหวังจะมาบำรุงมันมากินตับกินปอดเรามากต่อมากแล้ว ให้จำข้อนี้เอาไว้ เราจะแยกไว้เฉพาะสิ่งที่จำเป็น ทั้งเขาทั้งเรามีความจำเป็นเสมอกันแลกเปลี่ยนกันเป็นธรรมดาด้วยความจำเป็น ขออย่าได้ทำด้วยความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เสียแน่นอนชาติไทยของเรา จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ถ้าต่างคนต่างเห่ออย่างนี้เป็นแน่ ๆ
นี้กำลังพยุงพี่น้องทั้งหลาย ทั้งชาติทั้งศาสนาก็ปรับปรุงความเข้าใจซึ่งกันและกันที่จะพยุงชาติไทยของเราให้แน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น ให้รักนวลสงวนตัวซิ เมืองไทยเราเป็นเมืองไทยทั้งเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว เราเป็นใหญ่ในเมืองไทยของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างเราเป็นผู้ปฏิบัติรักษาหรือบำรุงชาติไทยของเราเอง ใครเข้ามายื้อแย่งแข่งดีกับชาติไทยของเราต่อยเลย สมบัติของเราในบ้านของเรา ถ้าเข้ามาจะมาลุกลามเอาสมบัติในชาติไทย ก็เรียกว่าโจรปล้นบ้าน เจ้าของบ้านก็ซัดกันเลย ก็ดังที่เคยพูดนั้น มีพร้ามีขวานมีมีดมีไม้มีกำปั้นมีหมัดมีอะไรฟาดมันแหลกไปเลย จนกระทั่งสุดขีดแล้วการต่อสู้นั้น
ไม่ได้พูดหยาบพูดโลน การต่อสู้หมดขีดหมดแดน อะไร ๆ ก็หมด ปืนผาหน้าไม้ก็หมด ต่อสู้มหาโจรที่ปล้นชาติไทยของเรา มันหมดแล้วหรือ ๆ ต่างคนต่างมีหมาทุกคนในบ้านเรือนของเรา ดึงหมานั่นออกมาช่วยหมาของเราตัวหนึ่ง ๆ หมัดของเราหมดแล้ว เอาหมัดหมามา หมัดคือกำปั้นของเราฟัดกับเขา อะไรก็สู้เขา ๆ หมดยังเหลือแต่กำปั้นฟัดกำปั้นลงไป ยังเหลือหมัดฟัดหมัดลงไป หมัดหมดแล้วไปยืมหมัดหมามา คว้าเอาตามบ้านตามเรือน หมาตัวหนึ่งมีหมัดกี่ตัวฟาดมันหงายลงทะเล นี่จึงเรียกว่านักสู้เข้าใจไหม
พูดนี่พูดถึงเรื่องการต่อสู้ เราไม่ได้พูดหยาบโลน เอาอันนี้มาเป็นนักต่อสู้ หัวใจของนักต่อสู้ ผู้รักษาสมบัติต้องเป็นอย่างนั้นอ่อนไม่ได้นะเวลามันลุกลามเข้ามา เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ทราบแล้วเขามาเล่าให้เราฟังว่า ศาสนาเปรตผีมาจากไหนจะมากลืนศาสนาเรา เขาจะเอาพ่อยักษ์แม่ผีมาจากไหนมาเป็นพ่อแทนเรา พ่อของเราพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ นี้คือพ่อของเรา ชาวพุทธเรานับถือพ่อของเรามาตั้งแต่อ้อนแต่ออกจนกระทั่งบัดนี้ นี่คือพ่อของเรา ไอ้เปรตไอ้ผีมันจะใหญ่โตขนาดไหนจะมาเป็นพ่อของเรา ฟาดมันลงทะเลเลย นี่ไม่ใช่พ่อของกูมึงอย่าเอามาถ้าไม่อยากตายว่างั้นเลย พ่อของกูคือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ นี้คือพ่อของกู กูเอามาแต่อ้อนแต่ออก ไม่ว่าพ่อของใครพ่อของมึงก็ตาม มึงนับถือว่าเป็นพ่อมึงเอง ไม่ได้มีใครบังคับบัญชา พ่อของกูกูนับถือของกูเองตามอุปนิสัยของกู มึงจะมาบังคับกูให้นับถือพ่อไหนอีกว่างั้นซิ เปลี่ยนพ่อเปลี่ยนแม่มาซิ มึงเปลี่ยนพ่อมึงให้มาเป็นพ่อกู พ่อมึงต้องตายทันทีบอกงั้นเลยเข้าใจไหม มึงเปลี่ยนแม่มาแม่มึงก็ตาย ให้กูถอยกูไม่ถอย มึงไม่ใช่พ่อแม่กูกูไม่เอา
ศาสนาไหนก็ตามเป็นพ่อเป็นแม่ของแต่ละคน ๆ ไม่ได้บังคับบัญชากัน จะมาใช้ความบังคับบัญชากับประเทศไทยของเราอย่างนี้ จะเอาพ่อเปรตพ่อผีมาจากไหนมาเป็นพ่อเป็นแม่แทนพ่อ พุทโธ ธัมโม สังโฆ ของเรานี้ ยังไงมึงตายหมดทั้งโคตร ยังไม่ได้มาถึงพ่อเราแหละ ฟาดมันแหลกหมดเลย ลูกพุทโธละจะฟาดมัน พ่อพุทโธอยู่สบาย ลูกพุทโธ ธัมโม สังโฆ นี้ฟัดเลย นี่มันจะมากลืนศาสนา เหยียบศาสนา ทำลายทั้งชาติ ทำลายทั้งศาสนา ลัทธิอุบาทว์จะว่าไง ถ้าเป็นรัฐบาลก็รัฐประหาร รัฐมหาภัย รัฐโจร รัฐมาร มหาโจรมหามารถ้าเป็นรัฐบาล ถ้าเป็นใครก็ตาม ยกมาแบบนี้เรียกว่าโจรมาปล้นชาติปล้นศาสนาของชาติไทยเราจะถอยไม่ได้เลย
ออกไปถึงบ้านนี้ให้ตีเกราะประชุมกัน คำว่าประชุม ๆ อะไร เราประชุมคนก็ประชุมมามากต่อมากแล้ว เราไม่เคยได้ตีเกราะประชุมหมา ให้ออกสภาฟัดกับพวกนี้ เข้าใจไหม เอาละพอ นี่ละความเด็ด ใครจะมาทำชาติทำศาสนาของเมืองไทยเรามาว่างั้นเลย ตีเกราะประชุมหมาให้หมามาช่วย ก็เลี้ยงมันมาตั้งแต่วันเกิด เวลาจำเป็นต้องเอามันมาช่วยซิ ตัวไหนไม่ช่วยฟาดมันร้องแหง็ก ๆ เลย หมาตัวไหนมันอืดอาด เวลาเจ้าของจำเป็นมันจะมาอืดอาดไม่ได้ หมาต้องเด็ดเข้าใจไหม
เป็นไงล่ะฟังเสียงโอวาทที่เด็ด ไม่เด็ดยังไง ขนาดประชุมหมาเคยมีที่ไหน ในทั่วโลกเขาเคยประชุมหมาไหม เมืองไทยเราประชุมหมาให้ช่วยเจ้าของสู้โน่นน่ะมันเป็นของเล่นเมื่อไร ในโลกนี้เขาไม่เคยมีกันเมืองไทยเรามี ถ้าเหตุการณ์จะให้มีเอาจริง ๆ ว่างั้นเลย พวกหมูพวกหมาเป็ดไก่เหล่านี้เราจะไล่มาหมดในวัดป่าบ้านตาดนี่ อยู่ที่ไหนประชุมกันเหมือนกัน หมาประชุมหมา ไก่ประชุมไก่ เป็นประชุมเป็ด ประชุมไปหมด อะไร ๆ ประชุมหมดฟัดกันซิช่วยเจ้าของ ไม่ช่วยเวลานี้ไม่ได้ เวลานี้เหตุมันจำเป็นเต็มที่มันถึงเดือดร้อนแก่พวกเธอ แต่ก่อนเราไม่เคยยุ่งแหละ นี้เราจำเป็นก็ต้องช่วยกัน จึงเรียกว่าความสามัคคีรักชาติตัวเอง สัตว์ไม่รักเจ้าของมีเหรอ เราก็เป็นคนรักชาติ มันก็ไล่กันไปโดยลำดับ สัตว์เหล่านั้นมีเจ้าของเรียกมาให้ช่วยเจ้าของ
ศาสนาเป็นเรื่องอัธยาศัย ทั่วโลกดินแดนก็ถือกันอยู่อย่างนั้น จะมาบีบบังคับนี้ไม่ได้เด็ดขาดว่างั้นเถอะ ฟังแต่ว่าเด็ดขาด วันนี้ก็พูดเพียงเท่านี้แหละไม่พูดอะไรต่อ
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร
www.luangta.com