รักชาติ-รักอิสระ
วันที่ 31 สิงหาคม 2543
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

รักชาติ-รักอิสระ

(ผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๕๐๐ คน)

พี่น้องชาวไทยฟังทั่วหน้ากัน วันนี้อ่านสรุปทองคำ ดอลลาร์ ให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วกัน คือ สรุปทองคำและดอลลาร์ สำหรับวันที่ ๓๐ ทองคำได้ ๒๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๑๐ ดอลล์ แสดงว่าด้อยมาก ถ้าเป็นอย่างนี้ไปทุกวัน ๆ เมืองไทยจมได้ไม่สงสัย วันละ ๒๕ สตางค์ทองคำ คน ๖๒ ล้านคนทองคำหนุนชาติได้ ๒๕ สตางค์ ดอลลาร์หนุนชาติได้อีก ๑๐ ดอลล์นี้เมืองไทยจมได้นะ จมไม่สงสัย ต้องหนุนขึ้นทุกวัน ได้น้อยเป็นการเตือนเราว่ากำลังน้อยมาก ไม่สามารถจะต้านทานเมืองของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นจึงต้องหนุนกำลังเข้าไป

ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงในการช่วยชาติคราวนี้นั้นกำหนดไว้ ๔,๐๐๐ กิโล ซึ่งเท่ากับ ๔ ตัน ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง ฝากไว้กับคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๑,๐๒๕ กิโล รวมทองคำที่มอบและฝากไว้กับคลังหลวงเวลานี้ได้ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากการฝากและมอบไว้กับคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๕๐ กิโล ๓๒ บาท ๔๒ สตางค์ นี่ยังไม่ได้หลอม จำนวนที่ฝากและมอบนั้นหลอมเรียบร้อยเป็นทองแท่ง ๆ โดยสมบูรณ์แล้ว อันนี้ได้ตามหลังมาหลังจากฝากและมอบแล้ว ยังไม่ได้หลอม เมื่อเห็นสมควรว่าจะหลอมแล้วจึงจะหลอม รวมทองคำทั้งหมดทั้งที่หลอมแล้วและยังไม่ได้หลอมเวลานี้ได้ ๒,๑๑๒ กิโลครึ่ง ยังขาดทองคำอยู่อีก ๑,๘๘๗ กิโลครึ่งจะครบจำนวน ๔,๐๐๐ กิโล กรุณาทราบไว้โดยทั่วกัน

นี่ได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากันตลอดมา เพราะชาติไทยของเราเพียงคนหนึ่งคนเดียวอุ้มไม่ได้นะ ต้องรวมพลังสามัคคี มีความรักชาติเป็นสำคัญ ที่จะรักษาชาติของเราไว้ได้ เช่นอย่างตัวของเราเองแต่ละคน ๆ นี้ นตฺถิ อตตสมํ เปมํ ความรักอื่นเสมอด้วยการรักตนไม่มี เพราะฉะนั้นสัตว์ก็ดี คนก็ดี จึงประคองตนไว้จนกระทั่งสุดวิสัยถึงจะยอมตาย นี่หมายถึงความรักตน สัตว์แต่ละประเภทรักตน ๆ ด้วยกันทั้งนั้น และสัตว์ประคองชีวิตไว้ด้วยการรักตนและการระมัดระวังรักษาชีวิตของตนตลอดไป ถ้าไม่สุดวิสัยจริง ๆ สัตว์ไม่ยอมตาย

อันนี้เราเป็นชาติมนุษย์และชาติไทย ไม่เคยเป็นบ๋อยผู้ใดมาตั้งแต่ดั้งเดิม ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษ นี้เป็นอิสระ ถ้าเราไม่รักชาติเราเป็นอิสระมาไม่ได้ นี้พื้นเพแห่งบรรพบุรุษของเรารักชาติมาโดยลำดับลำดา ทีนี้เราจะดำเนินตามท่านแบบไหน ถ้าเป็นแบบแหวกแนวก็จมได้เมืองไทยเรา ถ้าเป็นแบบรักชาติแล้วก็ต่างคนต่างรัก ต่างคนต่างสงวน ต่างคนต่างบำรุงรักษา ต่างคนต่างมีความรักกัน มีความสามัคคีกัน เห็นอกเห็นใจกัน มีความเฉลี่ยเผื่อแผ่ อย่าเป็นคนคับแคบตีบตัน เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้องของตัว สามารถจะทำชาติไทยอันเป็นอวัยวะส่วนใหญ่นี้ให้จมได้

ถ้าต่างคนต่างมีความรักตน ต่างคนต่างรักตน เฉลี่ยออกไป ต่างคนต่างรักตน รวมเป็นความสามัคคีรักชาติของตน เมื่อรักชาติของตนแล้วก็มีทางที่จะเสียสละเพื่อชาติของตนได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่สละไปเพื่อชาติของตน ต้องหนุนชาติของเราโดยตรง แล้วก็หนุนขึ้น ๆ นี่ละชาติไทยของเราจะจีรังถาวรแน่นหนามั่นคงขึ้นไป ต้องอาศัยอยู่กับว่าคนไทยเราต้องรักชาติเป็นของสำคัญ ให้ต่างคนต่างเสียสละ ต่างคนต่างเห็นอกเห็นใจกัน ต่างคนต่างรักกัน

เพราะมนุษย์เราเกิดมา ไม่ว่าสัตว์ประเภทใดเกิดมานี้ด้วยอำนาจแห่งกรรมนะ ไม่ได้เกิดมาจากเพียงท้องแม่เท่านั้น ท้องแม่นี้เป็นเพียงอาศัย กรรมหนุนเข้ามาให้เกิด ท้องสัตว์ก็เป็นสัตว์ได้ ท้องคนเป็นคน ท้องเทวบุตรเทวดาเป็นอินทร์พรหม เป็นไปได้ด้วยอำนาจแห่งกรรม แล้วแต่กรรมจะไสไปทางไหน ไสให้เป็นมดเป็นแมงก็เป็นมดเป็นแมงได้ นี่อำนาจแห่งกรรม

เราเกิดด้วยอำนาจแห่งกรรม ไม่ได้เกิดด้วยอำนาจแห่งสีสันวรรณะหรือฐานะสูงต่ำ เกิดด้วยอำนาจแห่งกรรมด้วยกัน ใครจะมีสมบัติศฤงคารบริวารมากน้อย ยศถาบรรดาศักดิ์สูงขนาดไหนก็ตาม ด้วยอำนาจแห่งกรรมเป็นเครื่องหนุน เป็นของสำคัญ เราเกิดมาด้วยอำนาจแห่งกรรมจึงขอให้พากันรักกัน ความรักกันนี้ไปไหนสนิทหมดนะ ความเห็นแก่เพื่อนแก่ฝูงแล้วไปไหนเฉลี่ยเผื่อแผ่ ไม่เห็นแก่ตัว ความรักแต่ตนเองเห็นแก่ตัวเอง ไปรังเกียจคนอื่น สาปแช่งคนอื่น ทำลายคนอื่นได้ ถ้ารักตน เอาความรักตนนี้เฉลี่ย ต่างคนต่างรักตน เห็นใจสำหรับท่านผู้รักตนด้วยกัน แล้วต่างคนก็รักกัน ๆ มีความเสียสละเผื่อแผ่ ไม่ถือสีถือสากันอย่างง่ายดาย นี่เป็นหลักใหญ่

ต่างคนต่างเสียสละช่วยชาติบ้านเมืองของเรา อันใดที่จะเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองของเรา ให้พากันเข้มงวดกวดขันระมัดระวังรักษา อย่าให้สิ่งนั้นเข้ามาทำลายได้ ทำลายนิดหนึ่งเป็นนิด หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง สองบวกสองเป็นสี่แล้วทำลายได้นะ อันเล็กอันน้อยนั้นแหละมันสามารถ เช่นอย่างไม้ขีดไฟก้านเดียวนี้จ่อเข้าไป ศาลาหลังนี้พังเลย ไม่ได้มากนะตัวเป็นภัย ความชั่วก็ไม่ได้มาก รวมตัวกันเข้าแล้วเป็นภัยต่อชาติไทยของเรา ฉะนั้นจึงพากันให้ระมัดระวัง เข้มงวดกวดขัน สิ่งใดจะเป็นภัยต่อชาติให้ระมัดระวัง สิ่งใดที่จะเป็นคุณต่อชาติให้ต่างคนต่างขวนขวาย

ดังที่หลวงตานำพี่น้องทั้งหลายนี้เอาศาสนามานำนะ ไม่ได้เอากิเลสมานำ ศาสนามานำคือนำด้วยความเมตตาสงสาร เฉลี่ยเผื่อแผ่ให้สม่ำเสมอกันหมด นี่เรียกว่าศาสนาเป็นผู้นำ ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก อย่างนี้เรียกว่าศาสนา พูดอย่างอื่นไปไม่ได้ ผิดบอกว่าถูก ถูกบอกว่าผิด ใช้ไม่ได้เลย เป็นเรื่องของกิเลส อันนี้มันตลบตะแลง ปากหวานก้นเปรี้ยว กลืนกินเร็ว นี่กิเลส ธรรมดากิเลสต้องมีเหยื่อล่อ ๆ เสมอไป เหมือนเขาตกเบ็ด มีแต่เบ็ดเฉย ๆ ปลาไม่กิน ต้องมีเหยื่อล่อ ปลาตัวโง่งับเข้าไปปั๊บนี้ เหยื่อหายไปเลยไม่มีความหมาย เบ็ดนั้นละเกาะปาก

อันนี้เหยื่อของกิเลสมันล่อ ล่อลวงต้มตุ๋นได้ง่ายที่สุดคือกิเลส กิเลสไม่มีความจริงออกปฏิบัติต่อสัตวโลก มีแต่ความหลอกลวงต้มตุ๋น หวาน เอร็ดอร่อย ไพเราะเพราะพริ้งตลอด มีแต่เรื่องยาเคลือบน้ำตาลของกิเลสทั้งนั้น เพราะฉะนั้นสัตวโลกถึงได้หลงและยอมรับกับกิเลสไปไม่เห็นโทษของตัวเลย แต่สำหรับธรรมนั้น ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก ตรงไปตรงมา ให้พากันเข้าใจนะ

อันใดที่เป็นเรื่องหลอกลวงต้มตุ๋น มีแต่เรื่องของกิเลสทั้งนั้น อย่าเชื่อกันอย่างง่ายดาย อย่างตัวของเราก็เหมือนกัน เราจะทำอันนี้ อันนี้มีเหตุผลอย่างไร ดีหรือชั่ว ผิดหรือถูก ให้พิจารณาเสียก่อนก่อนที่จะลงมือทำอะไร ท่านเรียกว่าธรรม อย่างับง่าย ๆ ไม่ใช่ปลาตัวโง่กินเบ็ดนะ พอมองเห็นเหยื่อไม่สังเกตดูเบ็ดเลย งับเข้าไป เลือดทะลักเต็มปากน่ะ อันนี้กิเลสมันว่ายังไง มันจะหลอกเข้าหาเบ็ดนั่นแหละ มันเอาเหยื่อล่อเอาไว้ อันนั้นก็ดี อันนี้ก็ดี คว้ามับ ๆ คว้าตรงไหนถูกแต่เบ็ด ๆ หาความสุขที่จะเป็นไปตามความสมหวังตามอำนาจของกิเลสไม่มี มีตั้งแต่ลงความผิดหวัง ๆ เพราะถูกต้มจากกิเลส โดยที่เราไม่ได้พินิจพิจารณาเสียก่อนแล้วค่อยก้าวไปตามมัน

จึงต้องให้ใช้ความพินิจพิจารณา ดังท่านแสดงไว้ว่า นิสมฺม กรณํ เสยฺโย ให้พินิจพิจารณาเสียก่อน ใคร่ครวญก่อนด้วยปัญญาแล้วค่อยเคลื่อนไหว จะเคลื่อนไหวทางกาย ทางวาจา ความประพฤติหน้าที่การงานอะไรก็ตาม ให้พิจารณาเสียก่อนว่าผิดถูกดีชั่วประการใด จะไม่ค่อยผิดพลาดคนเรา ถ้าเอาธรรมพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติ ท่านว่า นิสมฺม กรณํ เสยฺโย นี้คือธรรม องค์ปัญญา พินิจพิจารณาก่อน อย่าทำพรวดพราด ๆ เสียก็เสียเรานั้นแหละ นี่หลักของธรรม

เวลานี้หลวงตาก็เป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย ก็ตั้งใจจะนำทั่วประเทศไทยเรา สม่ำเสมอไปหมด นี่เป็นจิตในเบื้องต้นที่ตั้งไว้อย่างนี้ ช่วยทางโน้นทางนี้ ๆ ทีนี้กำลังวังชามันไม่มองดูใคร ค่อยลดลง ๆ สุดท้ายก็ออกอุทานเลย เพราะเราตั้งใจไว้แล้วว่า ออกจากนี้แล้วก็จะก้าวลงไปทางภาคใต้ให้ทั่วถึงกันหมด เสมอกันทั่วเมืองไทยนี้ พอดีก้าวไป ๆ กำลังวังชามันไม่สนใจกับใคร หมดกำลังเอา ๆ สุดท้ายไปไม่ได้ เลยออกอุทานด้วยความห่วงใยและรักพี่น้องชาวภาคใต้เราอย่างเป็นกำลัง เรื่องธาตุขันธ์ไม่อำนวยเสียแล้วเวลานี้ ก็ได้ประกาศออกมาให้พี่น้องทั้งหลายทราบทั่วกันแล้ว ว่ากำลังไม่เอาไหนแล้วเวลานี้

แม้แต่ไปเทศน์ในสถานที่ต่าง ๆ เราก็งดแล้วเวลานี้ ไม่เอาอย่างแต่ก่อนแล้ว เราจะเทศน์ให้ในที่ต่าง ๆ ไม่ได้ไกลนักนะ เราจะไปเทศน์ให้ในสถานที่จำเป็น ๆ เพียงเท่านั้น เรียกว่าไปด้วยความตะเกียกตะกายไป ไม่ได้ไปด้วยความหล่อลื่นเหมือนแต่ก่อน ธาตุขันธ์มันพาให้ตะเกียกตะกาย จะเทศน์แถวใกล้เคียงที่ไหนก็ตาม เราจะไปให้เฉพาะที่จำเป็น นอกนั้นไม่เอา นี่ละลดลงขนาดนั้นนะเวลานี้ ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วกัน

ส่วนอรรถธรรมเราได้อุตส่าห์พยายามแนะนำสั่งสอนพี่น้องทั้งหลายทุกด้านทุกทาง เฉพาะการนำทางด้านวัตถุ เราเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายที่ประกาศก้องออกมา อย่างที่อ่านอยู่เวลานี้ เป็นความบริสุทธิ์พุทโธ ไม่มีด่างพร้อย ไม่มีรั่วไหลแตกซึมไปไหนเลย หลวงตาเป็นผู้กุมอำนาจในสมบัติ เช่น ทองคำ ดอลลาร์ เงินสดนี้แต่ผู้เดียว เพราะจะให้ใครทำหน้าที่แทนเรากลัวจะมีความรั่วไหลแตกซึม เพราะกิเลสมันสกปรก มันติดเนื้อติดตัวติดกิริยามารยาท ติดความคิดความอ่าน มันจะพารั่วไหลแตกซึมให้สิ่งเหล่านี้จมไปด้วยกัน ไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควรตามความมุ่งหมาย เราจึงต้องคุมอำนาจเสียเอง นี่เราก็ทำเต็มกำลังความสามารถของเรา

ทองคำเวลานี้ได้มอบและฝากไว้ที่คลังหลวงเป็นจำนวน ๒,๐๖๒ กิโลครึ่งแล้ว จะแจ้งไหม พี่น้องทั้งหลายทราบไหม สำหรับดอลลาร์นั้นเวลานี้รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า ๕ ล้าน ที่เข้าฝากคลังหลวงแล้ว ๔,๒๗๘,๐๐๐ เวลานี้ ที่ยังเหลือที่จะเข้าอยู่เวลานี้ร่วมล้าน แต่ยังไม่ได้เข้า รวมแล้วเป็นดอลลาร์ทั้งหมด ๕ ล้าน อันนี้ก็จะแจ้งอยู่แล้ว ส่วนเงินสดนั้นเวลานี้ได้ ๘๕๐ กว่าล้าน อันนี้เอาไว้ธนาคาร ๘๕๐ กว่าล้านนี้เราประกาศแล้วตั้งแต่ต้นว่า สำหรับเงินสดนี้เราจะไม่เอาเข้าคลังหลวง เราจะให้เป็นเงินหมุนเวียน คือแยกไปจังหวัดใดสถานที่ใด มีความจำเป็นมากน้อยเพียงไร เราจะยกเงินอันนี้แยกออกไป ๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ

ทีนี้เมื่อเวลาจะแยกออกไปในสถานที่ต่าง ๆ ใครจะเป็นคนมารับ ผู้มารับบริสุทธิ์หรือทุจริตอย่างไรบ้าง เราก็ไม่ได้ตามติดดูก็ไม่ทราบไม่แน่ใจ จึงต้องย้อนเงินที่จะช่วยชาตินี้ เข้ามาสู่โครงการพื้นเพเดิมที่เราช่วยโลกมาตั้งแต่สร้างวัดป่าบ้านตาด ไม่ได้เรียกว่าโครงการ เรียกว่าบัญชีของวัดช่วยโลก พูดง่าย ๆ ว่างั้นเลย แต่ที่เราเข้าธนาคารไว้แล้วเราไม่ถอน แม้สตางค์นึงก็ยังไม่ถอน เวลานี้เงิน ๘๕๐ กว่าล้านนี้ไม่ได้ถอนสักสตางค์เดียวนะ เราจะหักจากจำนวนนี้ออกไป คือได้มาหลังจากนี้แล้วเราก็จะหักเข้าบัญชีพื้นเพเดิม เพื่อเป็นเงินหมุนเวียนช่วยชาติบ้านเมืองของเรา นับแต่คนทุกข์คนจน สถานสงเคราะห์ โรงร่ำโรงเรียน ที่ราชการต่าง ๆ ตลอดถึงโรงพยาบาล นี้เรียกว่าเงินหมุนเวียน จะหมุนเข้ามาในจุดเหล่านี้ ๆ เราจึงได้หักเงินจำนวนนี้ยังไม่เข้าบัญชีเหมือนแต่ก่อน อันใดที่เป็นโครงการช่วยชาติเราเข้าทันที ๆ อันไหนที่ไม่ได้บอกเป็นโครงการช่วยชาติ เราจะหักออกมาบัญชีพื้นเพที่ช่วยโลกมานมนานนี้เป็นประจำ ๆ ขอพี่น้องทั้งหลายได้ทราบเอาไว้

แม้เช่นนั้นเงิน ๘๐๐ ล้านนี้ เราก็ได้ประกาศให้ทราบทั่วกันแล้วว่า เงิน ๘๐๐ ล้านนี้เราจะหักเอาไว้เพื่อซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงของเราทั้ง ๘๐๐ ล้านนี้ ส่วน ๕๐ ล้านนั้นเราเผื่อความจำเป็นเช่นเป็นเงินหมุนเวียน ถ้าหากว่าเงินหมุนเวียนพอถูพอไถไปได้เราก็ไม่ถอน เราจะแยกเงินจำนวนนี้เข้าไปหา ๘๐๐ ล้านนั้นซื้อทองคำเข้าด้วยกัน อันนี้อยู่ในการพิจารณาของเรา ในเงิน ๕๐ กว่าล้านนี้นะเวลานี้ คือเราจะพิจารณาจุดไหนมีประโยชน์มากน้อยเพียงไรต่อชาติไทยของเรา เราจะหมุนเข้าจุดนั้น ๆ ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยทั่วกันด้วย

นี่ละด้านวัตถุเราก็นำมาด้วยความบริสุทธิ์พุทโธ ไม่ปรากฏว่ามีความมัวหมองแต่อย่างใด บริสุทธิ์ตลอดมา แล้วดอลลาร์ ทองคำ ก็ดังที่ประกาศแล้ว จากนี้เราก็แนะนำสั่งสอนทางอรรถทางธรรมทุกแง่ทุกมุมให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วกันตลอดมา ธรรมมีทุกขั้นที่เราเทศนาว่าการ นี่ละวันนี้ได้พูดอย่างนี้ให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทั่วหน้ากัน ทางอรรถทางธรรมเราก็สอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย เวลานี้กำลังไม่พอแล้วอ่อนลง ๆ จะไม่มีอะไรเทศน์แล้วต่อไปนี้นะ อย่างเทศน์วันนี้ก็ออกทั่วประเทศไทยทั่วโลก จะให้ไกลขนาดไหนกว้างขนาดไหน เราออกไปเทศน์ไม่ได้เทศน์ที่นี่ก็ออกไปทั่วถึงกันไปหมด วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อนละนะ เอาละเหนื่อย

ให้เขาเอาของมาแล้วเมื่อวานนี้เต็มเอี้ยดเลย ของโกดัง ที่ช่วยโรงพยาบาลต่าง ๆ เมื่อวานนี้ ๒-๓ โรงมาเป็นประจำ ๕-๖ โรง ที่มากที่สุดก็ ๙ โรง ไม่เคยเลยจากนั้นไป วันหนึ่ง ๆ นะ ตั้งแต่ ๑-๒-๓-๔-๕-๖-๗ ถึง ๙ โรงเป็นประจำ ๆ ของในโกดังต้องซื้อมาไว้เต็มเอี้ยด ๆ ไม่ให้บกพร่อง นี่ก็เงินหมุนเวียนนั่นแหละ หมุนไปโรงพยาบาลไปทุกแห่งทุกหน

เมื่อวานนี้ก็เข้าไปสกลนคร จากนั้นก็เข้าภูพาน ผ่านเข้าไปโรงพยาบาลน้ำอูนไปดูตึกเขา เอาของไปเต็มเอี้ยดไปเทที่สกลฯ เสียก่อน แล้วไปกว้านเอาของในสกลฯ แล้วขึ้นรถเข้าภูพานไปเทที่ รพ.น้ำอูน เมื่อวานนี้ ไปดูตึกที่จะต่อ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ผ่านมา มาถึงนี้ร่วม ๔ โมงเย็น อย่างนั้นละการช่วยโลกเราช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย นี่ได้บอกทางโรงพยาบาลไว้ว่า เรามาดูเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวอะไรหากจะทราบเองเพราะมาดูด้วยตาของเราแล้ว จะตกลงกันได้เมื่อไร ไม่ตกลงกันได้เมื่อไรเราจะบอกมาให้ทราบ เราบอกอย่างนั้น เพราะงานเรามาก เวลานี้การสร้างก็หลายตึก หมุนทางโน้นหมุนทางนี้ไม่ทราบจะหมุนเข้ามาที่นี่เมื่อไร เราก็บอกตรง ๆ ก็แสดงว่าจะให้แล้ว ความหมายว่างั้น เป็นแต่เพียงว่าไม่กำหนดวันเวลาเท่านั้น คือรอจังหวะ ได้จังหวะกันเมื่อไรก็เอากันเมื่อนั้น ช่วยอยู่อย่างนั้นแหละเรา

มาจากทางไหนกันบ้างล่ะ (จากสุรินทร์ค่ะ) มาจากสุรินทร์ ทางโน้นสุรินทร์เหมือนกันเรอะ ได้ทราบว่าน้ำท่วมทางสุรินทร์เป็นยังไง (ลดแล้วค่ะ) ลดแล้วเหรอ ได้ทราบว่าท่วมบุรีรัมย์ อุบลฯ ศรีสะเกษ ดูว่าบุรีรัมย์มากกว่าเพื่อนว่างั้นน้ำท่วม โห น้ำท่วมนี้เสียมากนะ ท่วมตรงไหนเสียตรงนั้น แล้วน้ำไม่ใช่น้ำธรรมดาเหมือนน้ำบนเขาไหลผ่านนะ น้ำนี่น้ำเอ่อน้ำขังเป็นเวลานาน ถ้าลงมาจุดไหนต้องเน่าเฟะ ข้าวไม่มีเหลือ เปื่อยไปเลย น้ำประเภทนี้แหละที่ว่านี่ ท่วมนาน

น่าสงสารพวกชาวนาเขา ท่วมนี้เสียหมดเลย เหมือนกันกับแล้งนั่นแหละ แล้งยังไม่ได้ลงทุน แต่ท่วมนี้ลงทุนแล้ว ปักดำกันเรียบร้อยแล้วท่วมหมด ไปหากล้ามาอีกปักดำอีกท่วมอีก หมดเลย ไม่มีอะไรติดตัว ปีนี้ทราบว่าทางอุบลฯ สุรินทร์ ศรีสะเกษ แต่บุรีรัมย์ได้ทราบว่ามากกว่าเพื่อนนะ (ค่ะ) จากนั้นก็ผ่านทางโคราชอีก ท่วมเยอะแถวนั้น ทางนี้ยังค่อยดีหน่อย ท่วมเมืองอุดรฯ ร้องก้อกแก้ก ๆ ๒-๓ วันป่านนี้ยังบ่นไม่หยุด น้ำท่วมเมืองอุดรฯ เสียหายหมด ๆ จังหวัดอื่น ๆ เขาเสียหายไม่เสียหาย เขามีปากเหมือนกันเขาไม่เห็นมาพูด มีปากแต่เมืองอุดรฯ ถึงแว้ ๆ เราอยากฟาดปากมันนี่วะ โมโห บทเวลาน้ำแกงท่วมปากไม่เห็นบ่นว่ะ น้ำข้าวต้มขนมท่วมปากไม่เห็นบ่น บ่นแต่ว่าเอามาอีก เอาให้ละพรเสียก่อน ค่อยกลับ

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก