เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๑
สายบุญสายกรรม
ก่อนจังหัน
พระท่านภาวนาอยู่ในป่า บางแห่งมีถึงสามสี่สิบรูปก็มีอยู่ด้วยกันในดง พวกญาติโยมเขาเอาน้ำปานะไปถวายท่าน ไปไม่เห็นพระ ในดงไม่มีพระ มีองค์หนึ่งอยู่ที่จุดศูนย์กลางคอยฟังเหตุการณ์ เวลาเขาเอาน้ำอัฏฐบานไปถวายพระ ถามพระ พระไปไหนหมด อ๋อ ท่านภาวนาอยู่ในป่า ไม่ทราบท่านมาที่นี่จะได้ไหม ได้ ก็บอกให้ไปเคาะสัญญาณป๊อกๆ แป๊กๆ พอไปเคาะป๊อกๆๆ พระต่างองค์ต่างมาจากที่ต่างๆ เงียบๆ
นี่ละดูซิสรณะของพวกเรา พอมาแล้วเคร่งขรึมเหมือนพระทะเลาะกัน ต่างองค์ก็มานั่งปั๊บ เขาก็จัดอะไรถวาย ไม่คุ้นใครนะ มานั่ง เขาก็เอาอะไรไปถวาย พอถวายท่านฉันเสร็จต่างองค์ต่างไป เงียบ ไม่คุยกับใคร ญาติโยมก็ไม่คุย พระด้วยกันก็ไม่คุย มีแต่นั่งเคร่งขรึม นั่นเคร่งขรึมภายนอก ภายในหมุนกับกิเลส
พอพระท่านออกไปหมดแล้วยังเหลืออยู่องค์ที่เฝ้าจุดส่วนรวม พระท่านทำไมมาท่านมีแต่ลักษณะเคร่งขรึม ท่านทะเลาะกันเหรอ ท่านไม่ได้ทะเลาะ แล้วทำไมเห็นองค์ไหนก็เคร่งขรึม ท่านปฏิบัติธรรม ท่านไม่ค่อยสนใจกับเรื่องราวอะไรยิ่งกว่าการพิจารณาธรรม เขาก็มาถามเหตุการณ์เรียบร้อย เพราะฉะนั้นมันจึงได้มีในตำรา พอฉันเสร็จแล้วไปเลย หายเงียบๆ บางแห่งอยู่ที่ละ ๓๐-๔๐ องค์ก็มี แต่พระเหล่านั้นลักษณะเคร่งขรึมไปหมด ไม่คุ้นกัน ความคุ้นกันเป็นที่นำมาแห่งอารมณ์ที่ต่ำทราม ไม่คุ้นกันละเป็นความไม่ประมาท ท่านทำอย่างนั้น ท่านเขียนไว้ๆ ในตำรา
พวกเราทั้งกินทั้งโม้ทั้งคุยทั้งนาบแนบนาบเนิบอะไรอยู่ข้างๆ ทุกอย่างเต็มไปหมด ไม่เป็นท่าเป็นทางอะไร พระท่านมีจำนวนเท่าไรไม่คุ้นกันให้ดูเอา พระในวัดป่าบ้านตาดองค์ไหนมันประจบประแจงดีๆ ให้ฟาดปากให้หน่อยนะ เข้าใจไหม องค์ไหนเก่งๆ ปากเก่งๆ ฟาดปากให้หน่อยนะ เราพูดอย่างนี้ก็พูดเพื่อนำมาพิจารณาให้พระทั้งหลายได้ฟัง พระตั้ง ๓๐-๔๐ องค์ มานี้เหมือนทะเลาะกัน นั่งเคร่งขรึม ฉันอะไรฉัน ท่านไม่ประมาทภายในใจท่าน สติปัญญาหมุนไป พอฉันเสร็จแล้วหายเงียบๆๆ ไปเลย
นั่นละผู้เป็น สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเราท่านเป็นเช่นนั้น ควรจะนำมาเป็นคติตัวอย่าง สำหรับวัดนี้เราก็อบรมเต็มกำลังความสามารถเหมือนกัน พระในวัดนี้ไม่ค่อยออกมาละอยู่ในป่าทั้งหมด จะมีองค์สององค์ประจำอยู่ในครัวเป็นพระเวรคอยดูแลครัว อาทิตย์ละสององค์ๆ เราเป็นคนสั่งไว้เรียบร้อยๆ นั่นละผู้จะปฏิบัติธรรมเป็นความร่มเย็นแก่จิตใจตัวเอง และเป็นคติตัวอย่างแก่ประชาชนญาติโยมที่เขามากราบไหว้บูชา ให้ได้ความยิ้มแย้มแจ่มใส ชื่นบานหรรษา ไปเป็นที่ระลึกภายในจิตใจในบ้านเรือนของเขา และก็ได้รับเป็นคติสอนโลกต่อๆ ไป ไม่ใช่เพ่นพ่านๆๆ ยุ่งเหยิงวุ่นวาย หาแต่ความเพลิดความเพลิน แต่หาสาระไม่ได้ อย่างนี้ใช้ไม่ได้
หลังจังหัน
ท่านอาจารย์ลีเรานี่ละทรมานสมเด็จมหาวีรวงศ์ ติสฺโส (อ้วน) วัดบรมนิวาส ได้ นอกนั้นไม่ได้ นี่ก็เป็นบ้ายศเหมือนกัน เราพูดตรงๆ อย่างนี้ละ ภาษาธรรมต้องพูดอย่างนี้ เป็นบ้ายศ ไล่กรรมฐานออกจากป่าจากเขา แต่ก็ดีตอนท้ายนะ ท่านรู้เนื้อรู้ตัวตอนไปเผาศพหลวงปู่เสาร์ พอไปเผาศพหลวงปู่เสาร์เสร็จแล้ว ตอนนั้นไปพบกับหลวงปู่มั่นเรา หลวงปู่มั่นเราเขาไปกราบท่าน เออ ท่านมั่น ผมต้องขอโทษวงกรรมฐานเรามากๆ นะ ตอนนั้นผมกำลังเป็นบ้ายศ นี่ก็ดีอย่างหนึ่ง
เป็นบ้ายศไล่พระกรรมฐานออกจากป่า ก็เท่ากับไล่พระพุทธเจ้าออกจากป่า ตัวเท่าอึ่งไปไล่ราชสีห์ออกจากป่า ท่านว่าอย่างนั้น เราขอโทษเธอนะ วงกรรมฐานทั้งหมด เราเป็นบ้ายศ ท่านก็ฟัง แล้วพอดีเจ้าคุณอุปัชฌาย์เราซึ่งเป็นตัวแสบกันกับสมเด็จมหาวีรวงศ์ ตัวแสบ ขมิ้นกับปูนไม่ถูกกัน ทางนี้เป็นบ้ายศทางสมเด็จมหาวีรวงศ์ ทางนี้เป็นลูกศิษย์พ่อแม่ครูจารย์มั่น เรียกว่าเหมือนขมิ้นกับปูนเข้ากันไม่ได้เลย
ทางนั้นไปขอโทษท่านอาจารย์มั่น ไปเผาศพหลวงปู่เสาร์ มาก็ผมขอโทษในวงกรรมฐานเราทั้งหลาย ตอนนั้นผมเป็นบ้ายศ ท่านก็ดีอย่างหนึ่ง ว่าผมเป็นบ้ายศ พอเจ้าคุณอุปัชฌาย์เรานี่ละท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ไปฟังอยู่ด้วยกันซี ท่านรู้สึกว่าท่านดีใจจนน้ำตาท่านร่วงนะ ท่านพอใจที่สมเด็จมหาวีรวงศ์ไปขอโทษวงกรรมฐาน แต่ก่อนท่านไม่ได้เรียกธรรมดา ท่านว่าบักอ้วน ว่าอย่างนั้น
ท่านดูถูกกรรมฐานซึ่งเป็นเหมือนพ่อเหมือนแม่ท่าน เฉพาะอย่างยิ่งหลวงปู่มั่นท่านเคารพสุดหัวใจเลย แล้วทางนู้นไปดูถูกกรรมฐาน พอไปขอโทษวันนั้นท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ท่านนั่งฟังอยู่นั้นท่านน้ำตาคลอเลย ท่านพอใจ เอาละที่นี่วงกรรมฐานเราจะอยู่เย็นเป็นสุข พวกเทวทัตยอมตัวแล้ว ท่านบอกเทวทัตยอมตัวแล้ว น่าฟังนะ เจ้าคุณธรรมเจดีย์ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นเรา แล้วทางนั้นก็เป็นบ้ายศ ไล่กรรมฐานอยู่ตามบ้านโคกบ้านค้อที่ไหน เราทราบได้ดี ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์เรานี้น้ำตาคลอแล้วน้ำตาร่วง ไปฟังกรรมฐานครูบาอาจารย์ของท่านเช่นท่านอาจารย์มั่นเป็นต้น ถูกบ้ายศไล่ว่างั้น ทีนี้พอทางนู้นขอโทษแล้วท่านก็น้ำตาคลอเหมือนกัน เอ้อ เอาละที่นี่กรรมฐานเราจะอยู่เย็นเป็นสุข พวกเทวทัตลงแล้ว ท่านว่าอย่างนั้น
นี่ละยศมันทำคนให้เป็นบ้า ให้ฟังเอานะ เราได้เป็นคติเครื่องเตือนใจมา ผู้ใหญ่ยศมากเท่าไรยิ่งเป็นบ้าหนักเข้าไปๆ ยกตัวอย่างเช่นสมเด็จมหาวีรวงศ์ ติสฺโส(อ้วน) วัดบรมนิวาส ขู่เข็ญพระกรรมฐาน ขับไล่พระกรรมฐาน พูดจังๆ อย่างนี้ละภาษาธรรม ร้อนมากอยู่นะตอนนั้น พอท่านลงเท่านั้นแหละก็เย็นไปหมดกรรมฐาน ท่านขอโทษวงกรรมฐาน ชัดเจนก็ตอนไปเผาศพหลวงปู่เสาร์เรา ขอโทษหลวงปู่มั่นเราต่อหน้าพระสงฆ์มากๆ จนน้ำตาท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์เรานี้คลอ ออกจากนั้นก็น้ำตาร่วงเลย
นี่ละคนเราถ้าเป็นบ้ายศ ไม่ว่าพระไม่ว่าฆราวาสใครเป็นบ้ายศเสียทั้งนั้นแหละ บ้ายศคือกิเลสพวกส้วมพวกถานพอกเข้าเป็นดินเหนียวติดหัวก็ว่าตัวมีหงอนเสีย หงอนดินเหนียวเลยเป็นบ้ายศไป ใช้ไม่ได้เลย ฟังแล้วออกทั่วประเทศ ไม่มีใครพูดได้ เราพูดได้ชัดเจน ไม่มีสะทกสะท้าน สามแดนโลกธาตุไม่มี ใหญ่ขนาดไหน เทวบุตรเทวดาใหญ่มาเถอะว่าอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรเหนือธรรม ธรรมจ้าครอบโลกธาตุจะว่าอะไร
อย่างนั้นละพวกดินเหนียวติดหัวว่าตัวมียศๆ แล้วลืมเนื้อลืมตัว มียศมากเท่าไรยิ่งเป็นฟืนเป็นไฟมาก แทนที่มียศถาบรรดาศักดิ์สูงเท่าไรจะเป็นคติตัวอย่างและเป็นความร่มเย็นให้แก่ผู้น้อยมันไม่เป็น....กิเลส แล้วพองตัวๆ ใครอยากเป็นบ้าให้ยศมากๆ นะพระเราก็ดี ฆราวาสก็ดีให้หายศมามากๆ มันขวางโลกขวางสงสาร ธรรมท่านไม่ขวาง ไปไหนไม่ขวาง
นี่ก็นักเรียนก็เรียนด้วยกัน อย่างพระพุทธเจ้าเสด็จไปกับพระอานนท์ ท่านเดินทางไป พระอานนท์ตามเสด็จ ไปก็พอดีพระกัสสปะกำลังตามเสด็จพระพุทธเจ้ามาข้างหลัง ทีนี้พวกแม่ค้าทั้งหลายเขามาข้างหน้านู้น เขาหาบสิ่งของมาพะรุงพะรัง เขาเป็นแม่ค้า เขาเห็นพระพุทธเจ้าเขาก็เฉยกราบไหว้ๆ แล้วเขาก็ไป พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านไปเล็กน้อยแล้วก็รับสั่งให้พระอานนท์ปูผ้า พวกนี้เขาเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ ฟังซิน่ะ เขาไม่ดูเราละเพราะไม่ใช่อาจารย์เขา
พระองค์พูดอย่างสบายใช่ไหมล่ะ พูดตามสายบุญสายกรรม คือพระกัสสปะเคยเป็นอาจารย์ของพวกนี้ เขาหาบสิ่งหาบของพะรุงพะรังมานี้ ท่านก็เสด็จมานี้ เขาก็ไหว้แล้วเขาก็ไป พระพุทธเจ้าก็ออกไปข้างทาง เอา ปูผ้าตรงนี้ละอานนท์ พวกนี้กำลังไปนี้ไปเห็นพระกัสสปะมันจะเทลงไปหมด ทีนี้พระกัสสปะจะพาเขามานี้มาฉันจังหันที่นี่ เราอาศัยฉันจังหันกับพระกัสสปะ นี่ลูกศิษย์ของพระกัสสปะไป แน่ะอย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านถือเมื่อไรถือองค์
สักเดี๋ยวพวกนี้ก็ไหลไปๆ พวกนั้นไปหาพระกัสสปะ พระกัสสปะก็ไล่มาหาพระพุทธเจ้า มาฉันจังหันที่นั่น เห็นไหมพระญาณของพระพุทธเจ้า เขาเดินผ่านมานี้ ไปเตรียมรอเขาอยู่นั้น เขาเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ คือปุพเพนิวาสชาติปางก่อน เคยเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ มันก็เป็นอยู่ในจิตแหละ พระองค์ทรงทราบ บอกว่าพระกัสสปะจะพาเขามานี่ละ ฉันจังหันที่นี่ละพวกเราวันนี้ เป็นจริงๆ เขาผ่านพระพุทธเจ้าไปเฉย พอไปถึงพระกัสสปะเป็นอีกอันหนึ่ง
นี่ละเขาเรียกช้างประจำควาญ.ลูกศิษย์ของใครของเรา พระองค์ไม่ได้มีอะไรเป็นเรื่องร้อนใจเหมือนโลกนะ ก็พูดอย่างสบายๆ นี่เป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ เขาจะไปหาอาจารย์ของเขาแล้วอาจารย์ของเขาจะพามาหาเรา เราคอยฉันจังหันอยู่ที่นี่ ว่าอย่างนั้นนะ พูดอย่างสบาย นั่นละพระญาณหยั่งทราบ เขาเคยเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ เป็นสายของใครของเรานะ สายบุญสายกรรม สายลูกศิษย์กับอาจารย์
ผู้ใหญ่ก็ยกให้ว่าเป็นใหญ่ แต่ว่าใครๆ จะใหญ่ๆ ก็ตามแต่ก็ไม่หนีพ่อกับแม่ของเราใช่ไหมล่ะ พ่อแม่ของเราเป็นอาจารย์ของเรา เหล่านั้นก็ยกเป็นอาจารย์ แต่ไม่ใช่อาจารย์ของเราเหล่านี้ พูดง่ายๆ ว่าอย่างนั้น คนนั้นก็ใหญ่คนนั้นก็ใหญ่ แต่พ่อแม่ของเรายกไว้แล้วนั่น มันมาติดพ่อกับแม่ ใครจะใหญ่ขนาดไหนก็ตามไม่ได้ใหญ่เท่าพ่อกับแม่เรานะ นี่มันติดจิตติดใจฝังในจิต ตายแทนพ่อแม่ได้เลย เป็นอย่างนั้น
นี่ละที่ว่าลูกศิษย์กับอาจารย์มันมีสายบุญสายกรรมติดมา พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านไป เขาก็มาธรรมดาเขา เฉย เขาไหว้เขาก็ไป พอไปถึงเห็นนั่งอยู่..เอาปูผ้าตรงนี้นะอานนท์ พวกนี้เขาเป็นลูกศิษย์พระกัสสปะ พระกัสสปะจะพาเขามาที่นี่มาฉันจังหันที่นี่ นั่นละลูกศิษย์พระกัสสปะ พระกัสสปะก็ลูกศิษย์ตถาคต เขาก็พากันมาจริงๆ นั่นพระญาณหยั่งทราบ
เรื่องปริยัติเราก็เรียนมามากพอสมควรแต่จำไม่ได้ เดี๋ยวนี้จำไม่ได้ ถ้ามันสัมผัสตรงไหนก็แย็บออกมาๆ มันจำไม่ค่อยได้ มันเป็นไปตามสายบุญสายกรรม พอมองเห็นปั๊บติดอาจารย์กับลูกศิษย์มันติดกันแล้ว เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวเป็นผัวเป็นเมียกันเป็นสายบุญสายกรรมมาตลอดนะ มีในคัมภีร์ พอมองเห็นกันปั๊บติดปุ๊บเลยไปเลย วิ่งไปตามกันเลย มีในคัมภีร์ พอมองเห็นกันเดี๋ยวนั้นละ ติดกันเดี๋ยวนั้นไปด้วยกันเลย
คือสายมันติดมาแต่ก่อนแล้ว เห็นกันมันก็ติดปั๊บเลย เหมือนไฟกับเชื้อไฟใส่ปุ๊บติดปุ๊บเลย เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่มาอย่างลอยๆ นะ มันมีสายบุญสายกรรมมา อันนี้ถ้าจะพูดแบบโลกๆ ก็ไม่น่าพูด ถ้าพูดแบบธรรมพูดตามหลักบุญหลักกรรมแล้วก็พระพุทธเจ้าเองเป็นผู้แสดง พอดีพระหิวน้ำมาถึงหน้าบ้านเขาตักน้ำมาถวายท่าน ผู้หญิงคนนั้นเคยเป็นเมียพระองค์นี้ พอไปแล้วพระองค์นั้นฉันจังหันก็ไม่ได้ มันจะตาย รักสาวเข้าใจไหม ไปเห็นน้ำน้ำสู้สาวไม่ได้ แต่ก็ดีนะซื่อสัตย์สุจริตดี ไปไม่ฉันจังหัน เป็นอย่างไรถึงไม่ฉันจังหัน โอ๊ย รักผู้หญิง รักผู้หญิงไหน รักผู้หญิงที่ไปฉันน้ำที่บ้านเขา ไปเจอแล้วรักเลย มันเคยเป็นสามีภรรยากัน
พอดีพระพุทธเจ้าบอกความผิดถูกชั่วดีให้ทราบก็กลับตัวใหม่ พลิกปุ๊บเลย รักอะไรผู้หญิงคนนี้แต่ก่อนมันเคยเป็นเทวทัต มันไปรักผู้ชายคนหนึ่งแล้วพาผู้ชายมาฆ่าเธอ เธอตายเพราะผู้หญิงคนนี้ เธออยากตายอีกเหรอ ถ้าอยากตายก็ไป ตัดปุ๊บเดียวเลย พิจารณาจนสำเร็จเป็นอรหันต์ นี่ก็พูดตามสายบุญสายกรรม ผู้หญิงเห็นกันรักกันแล้ว แต่ไม่ได้รู้ว่าสายบุญสายกรรมเป็นมาอย่างไร ไปพบผู้ชายคนหนึ่งแล้วรักเขา เลยสมคบกันกับผู้ชายคนนั้นมาฆ่าผัวตัวเอง เธอยังอยากตายอยู่เหรอกับผู้หญิงคนนี้น่ะ ถ้าอยากตายก็ไป ใครจะอยากตาย
นี่ละพูดตามตำรา พระองค์ทรงทราบทันที ถ้าพูดไปๆ มันก็ระลึกได้ เพราะเรียนมา พอไปสัมผัสปั๊บก็เอาออกมาพูดได้ ถ้าธรรมดาจำไม่ได้นะ เรียนก็มากพอสมควรแต่มันจำไม่ได้
เมื่อวานไปร้อยเอ็ดไปดูเขาสร้างเจดีย์ จะบรรจุพระบรมธาตุอะไรต่ออะไรของครูบาอาจารย์หลายองค์ที่เจดีย์ โรงสีเสี่ยสมหมายเขานิมนต์เรานานแล้วเราไม่ได้ไป เมื่อวานนี้ไป เขาขึ้นไปมากแล้ว เดี๋ยวนี้เขาก็มาอนุโมทนาได้ถึง ๓๐ ล้านแล้ว เจดีย์นี้ดูว่า ๗๐ ล้านหรือไงเราลืมแล้วแหละ เขาพูดชัดเจน กะงบประมาณไว้ดูว่า ๗๐ ล้าน เวลานี้ได้ถึง ๓๐ ล้านแล้ว อันนี้ก็เป็นเรื่องของเขาเป็นเองเราไม่ได้ไปเที่ยวโฆษณา ใครทราบเขาก็มาถวายเอง ไปดูกำลังขึ้น นี่ก็จะอาราธนาครูบาอาจารย์พระบรมธาตุมาบรรจุไว้ที่นั่น และครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เป็นที่เคารพนับถือก็จะอาราธนาท่านมาอยู่ที่นั่น เราก็รับทราบเขาว่าจะให้ทันเดือนมิถุนา พอบรรจุแล้วก็จะนิมนต์เราไป ดูว่าเป็นวันที่ ๑๙ มิถุนาหรืออะไร เขาจะพยายามให้เสร็จเร็วๆ
ไปโน่นละเมื่อวานประมาณ ๔ โมงกว่าๆ มาถึงที่นี่ ถ้าไปแล้วมันก็ไม่ว่างละ มันติดมันต่อเรื่อยๆ พอออกจากเจดีย์แล้วก็ขึ้นรถมาเลยไม่ได้ไปพักอะไรนัก เอาละให้พร
รับชมและรับฟังพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.luangta.com หรือ www.luangta.or.th
สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน FM 103.25 MHz
และเครือข่ายทั่วประเทศ
|