(ให้เครื่องมือแพทย์ อัลตราซาวนด์ ๑ เครื่องแก่โรงพยาบาลห้วยผึ้ง กาฬสินธุ์) ก็เห็นความจำเป็นอยู่ทุกแห่งทุกหนจะทำยังไง ที่ไหนก็จำเป็น ๆ ตลอด เพราะฉะนั้นเรื่องจตุปัจจัยไทยทานที่เขาเอามาถวายที่สวนแสงธรรมนั้น เราตัดขาดเลยนะ บอกเด็ดขาดเลย อย่าส่งไปทางอุดรเป็นอันขาด ให้เฉลี่ยเผื่อแผ่ช่วยคนทุกข์คนจนที่มีอยู่ในที่ต่าง ๆ ในแถวนี้ให้หมด เราจะรับไปเฉพาะผ้าขาว คือผ้าขาวในวัดนี้ก็มีมาก แต่เวลาไปแจกตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ไม่พอ เพราะฉะนั้นเราจึงบอกว่าเอาเฉพาะผ้าขาว ผ้าขาวที่ได้ทางสวนแสงธรรมจึงส่งมาทางนี้ ๆ แล้วแจกตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ผ้าขาวไม่ไปไหน เข้าตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งนั้นแหละ ก็อย่างนี้แหละจะว่าไง
สำหรับโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่มารับอาหารเครื่องครัวอะไรในโกดังนี้ เราไม่ให้ผ้าขาว เพราะถ้าแจกให้อย่างนั้นไม่พอ เราต้องแจกเป็นกรณีพิเศษ เช่น เราไปโรงพยาบาลไหน เมื่อมีผ้าขาวอยู่เราก็เอาไป ๆ จะแจกทั่วไปแก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ที่มาติดต่อกับโกดังนี้ไม่พอ เราจึงเอาผ้าขาวมาอย่างนี้เป็นประจำ
เมื่อวานนี้ก็ไปโรงพยาบาลนายูง เอาของไปให้ ถ้าเราไปไหนก็เอาของไปเต็มรถ ๆ วานซืนก็ไปภูเรือ วันนี้ก็จะไปโรงพยาบาล ก็อย่างนั้นแล้วไปโรงนั้นโรงนี้ ไปด้วยความเมตตาสงสารจริง ๆ ไม่ได้ไปธรรมดา เพราะฉะนั้นเวลาเข้าโรงพยาบาลนี้ พวกหมอทั้งหลายมีแต่รุ่นลูกรุ่นหลาน หลวงตาสอนหลานจะไปสอนยากอะไร ใส่ปั๊วะ ๆ ไปเลย หลวงตาสอนหลานก็อย่างนั้นซี ไปโรงพยาบาลต่าง ๆ ไปโรงไหน เขาเห็นแล้วเหมือนเห็นพ่อเห็นแม่นะ เราดูเราก็รู้ เขาดูด้วยความอบอุ่น ด้วยความไว้วางใจ ด้วยความชุ่มเย็นทุกอย่าง พอเห็นก้าวเข้าโรงพยาบาลวิ่งเลย เป็นอย่างนั้น
เราช่วยจริง ๆ ช่วยโลกไม่ใช่ช่วยเล่น ๆ สำหรับเอ็กซเรย์นี้ให้มากจริง ๆ พวกเอ็กซเรย์ อัลตราซาวนด์ สองอย่างให้มาก กับรถยนต์ รถยนต์ดูเหมือนร้อยกว่าคัน บางโรงพยาบาลให้ถึงสองคันก็มี สามคันก็มี พิจารณาซิ ที่ให้นี่เพราะอะไร เหตุผลจะบ่งบอกทุกอย่างที่ควรจะให้คันหนึ่ง สองคันหรือสามคัน จะมีเหตุผลพร้อม ๆ จำเป็นที่ควรอย่างนั้น เมื่อเรามีอยู่ก็ให้ ๆ อย่างนั้นตลอด เช่น โรงพยาบาลศูนย์ ๓ คัน สองคันมีทั่วไป เวลาเขามาขอรถเราไม่มีจริง ๆ เราก็ชี้ นั่นเรายังมีแต่ล้อ(รถเข็น) อยู่ใต้ถุนไปเอา เอาล่วงหน้าไปก่อน คือมีแต่ล้ออยู่ใต้ถุนนั่นเอาไปเสียก่อนเราบอก
จากสมเด็จไปห้วยผึ้งนี้ดูเหมือนประมาณสัก ๑๘ กิโลละมั้ง ( ๑๘ ครับ) นั่นละ ที่เราผ่านไปผ่านมามันก็จำได้ ห้วยผึ้งแล้วกุฉินารายณ์ แล้วเข้าหนองสูง คำชะอี หนองสูง คำชะอี เหล่านี้ช่วยทั้งนั้นนะ แต่กุฉินารายณ์ไม่ทราบว่าได้ช่วยอะไร เราระลึกไม่ได้ สมเด็จก็ช่วย นามนข้าง ๆ สมเด็จก็ช่วย ช่วยไปหมด รถวิ่งไปที่ไหนผ่านไปที่ไหนมีแต่รอยมือของเราที่ช่วย ๆ ตลอดไปหมดนะ ไปแถวนี้ก็เตลิดจนกระทั่งถึงจังหวัดเลย เป็นแถวยาวเหยียด มีแต่ช่วย ๆ โน่นเข้าภูหลวง ภูเรือ ลึก ๆ เข้าไปช่วย อย่างนั้นแล้ว ช่วยไปหมด ออกทางสกลนี่ก็เป็นสายยาวเหยียดเลย ออกไปทางสายบึงกาฬก็เหมือนกัน
บึงกาฬก็ตัวสำคัญน้อยเมื่อไร เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องประเทศลาวเขาวิ่งเข้ามาอาศัย จากนั้นวิ่งเข้ามาทั้งนั้น ไม่ทราบใครมาพูดให้ฟังว่า ๙๐ เตียง เราไปแล้วนะโรงพยาบาลนี้ ถามแล้วลืมแล้วนะ เราไปดูทั่วถึงหมดเลย แล้วก็ถามเรื่องความจำเป็นในโรงพยาบาลเป็นยังไง ๆ แล้วคนไข้วันหนึ่งมาประมาณเท่าไร ๆ เขาบอก มากตลอด เพราะเหตุใดถึงมากตลอด ตัวอำเภอเท่ากำปั้นนี่ เขาบอกฟากทางโน้น(ลาว) มา เออ เรายอมรับ แน่ะอย่างนั้นแล้ว ทีแรกบอกว่าโรงพยาบาลบึงกาฬเท่ากำปั้นทำไมคนไข้มากนัก เอากบเขียดมาเป็นคนไข้ด้วยหรือเราว่าอย่างนั้น มันก็ต้องใส่เข้าไปอย่างนั้นซีมันถึงได้มากผิดหูผิดตา พอเขาบอกว่าฝั่งโน้นมา เออ เอาละยอมรับ แน่ะ ฟังเหตุผลเรายอมทันที ถ้าไม่มีเหตุผลจะเอากันอีกนะ ไปทั้งพูดตลกทั้งพูดอะไรทุกแบบนั่นแหละ ทั้งพูดขู่พูดตลกไปหมดแหละ
ออกทางบึงกาฬมาทางหนองคาย เป็นสายมาตลอดอย่างนั้นนะ เฉพาะโรงพยาบาลจังหวัดเราก็ไม่ค่อยได้ช่วยนัก เพราะเห็นว่าอยู่จุดศูนย์กลางคงไม่พลาดสายตาของรัฐบาล จะต้องมองหนักแน่นมากยิ่งกว่าอย่างอื่น แต่โรงพยาบาลปลีก ๆ ย่อย ๆ มันเป็นสายทางผ่านไปผ่านมาธรรมดาของสายตา ไม่จดจ้องเหมือนตัวจังหวัด ๆ ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นเราถึงไม่ค่อยเข้าไปช่วย ถ้าช่วยก็จำเป็นจริง ๆ เช่นอย่างโรงพยาบาลศูนย์อุดรนี้อย่างน้อย ๖๐ ล้าน อย่างนี้ละถ้าช่วยก็ช่วยจริง ๆ เหตุผลจำเป็นจริง ๆ เมื่อมาขอแล้วเราพิจารณาแล้วเราให้ ๆ ส่วนโรงพยาบาลจังหวัดอื่น ๆ ไม่ค่อยได้ให้นัก
คือส่วนมากเราก็ไม่ค่อยไปจดจ่อกับจังหวัดมากยิ่งกว่าตามอำเภอต่าง ๆ นี้เห็นว่าจำเป็นตลอด ยิ่งอยู่ในที่ลึกลับ ๆ ด้วยแล้วยิ่งสอดยิ่งส่องเข้าไป เช่นอย่างไปส่งสิ่งของนี้ ส่วนมากจะเข้าไปส่งในที่จำเป็น ๆ ที่ลึก ๆ ไป เป็นอย่างนั้นตลอดมา
เราช่วยจริง ๆ ช่วยโลกเราจึงบอกแล้วพูดกับพี่น้องทั้งหลายว่า อย่ามาสงสัยในเรานะ ใครอย่ามาถือว่าเราเป็นข้าศึกศัตรู เช่น เวลานี้เรากำลังช่วยบ้านช่วยเมือง แล้วก็มีเรื่องมาโจมตีต่าง ๆ กับเรา อย่ามาทำกับเรานะเราบอก เราพูดตรง ๆ ถ้าตามหลักธรรมชาติแล้ว
เราไม่มีอะไรที่จะรับเราพอทุกอย่างแล้ว บาปเราก็พอ บุญเราก็พอ เราปล่อยหมดทั้งสอง ปุญญปาปปหินบุคคล ผู้มีบุญและบาปอันละเสียแล้ว เพราะทั้งสองนี้เป็นสมมุติ เป็นทางเดินก้าวเข้าสู่พระนิพพาน พระนิพพานไม่มีคำว่าบุญว่าบาป มีแต่ความเลิศเลอสุดยอดเท่านั้น นั่นฟังซิ นี่เราพูดขนาดนั้นนะมาสอนโลก ถึงขนาดถอดหัวใจออกมาสอนนะ เพราะฉะนั้นใครอย่ามาถือว่าเราเป็นพิษเป็นภัยต่อผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งเป็นความผิดสำหรับภัยตัวเองนั้นแหละเราบอกอย่างนี้
เราช่วยจริง ๆ ที่ไหนสกปรกรกรุงรัง เหมือนกับน้ำที่สะอาดคือธรรมชะล้างเข้าไป ๆ เพื่อให้แก้ไขดัดแปลงให้ดีขึ้น ๆ อันไหนที่ดีแล้วเราก็ส่งเสริม ๆ สอนอย่างนี้ตลอดไป เพราะฉะนั้นเราถึงกล้าพูดล่ะซิทุกอย่าง เพราะธรรมเหนือทุกอย่าง ธรรมสอนโลกไม่ได้อะไรจะมาสอนโลก ให้กิเลสสอนโลกพาจมกันทั่วประเทศเขตแดนทั่วโลกดินแดน ใครหาความสุขได้ที่ไหน กิเลสปกครองมีตั้งแต่ความทุกข์ ถามซิหน้าไหนก็ถาม เอา ถามมาตั้งแต่หน้ามหาเศรษฐีกุฎุมพี ยศถาบรรดาศักดิ์สูงจรดเมฆก็มาถาม อยู่ใต้อำนาจของกิเลสทั้งนั้น นั่นฟังซิ กิเลสเป็นผู้บงการ มันก็เอาตั้งแต่ยาพิษยาภัย ถามหน้าไหนปากไหนตอบออกมานี้จนแย่งตอบกัน ตอบกันอะไร เรื่องความทุกข์ อยากระบาย เห็นหน้ากันปากจ้อเข้าไป บางคนทั้งพูดทั้งเอามือคว้า ยืมปากเขามาพูดช่วย ถึงขนาดนั้นนะอยากระบาย มันอัดอั้นตันใจด้วยความทุกข์ นี้คือโทษของกิเลส พี่น้องทั้งหลายทราบหรือยัง ธรรมจ้าหมดเลยบอกชัด ๆ อย่างนี้นะ
นี่เราจวนจะตายแล้วเราถึงได้เปิด ๆ นะ เราไม่เอาอะไรกับโลก มีแต่ความสงสารสอนโลก ใครเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็กรรมของสัตว์ บอกเท่านั้นเอง เราสุดแล้วเรื่องการสั่งสอนสัตวโลก สตฺต แปลว่าผู้ยังติดยังข้อง บางคนไม่เข้าใจ สตฺต ๆ แปลว่าผู้ติดผู้ข้องอยู่ในโลก เรียกว่าสัตวโลก ๆ หรือถ้าแปลอีกทับศัพท์ย้อนหลังก็ว่า โลกที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงวุ่นวายแห่งกองทุกข์ทั้งหลาย โลกคือหมู่สัตว์ พวกสัตว์ที่ติดข้องอยู่ในโลก โลกเป็นที่คุมขัง สมมุติ สามแดนโลกธาตุนี้เป็นเหมือนเรือนจำใหญ่สำหรับคุมขังบรรดาสัตว์ทั้งหลายทุกประเภทอยู่ในสามโลก กามโลก รูปโลก อรูปโลก อยู่ในเรือนจำอันนี้ทั้งนั้น
ทีนี้โลกุตรธรรม แปลว่าธรรมเหนือโลกอันนี้ นั่นฟังซิ โลกุตรธรรม แปลว่าธรรมที่เหนือโลกอันนี้ที่ท่านนำมาสอน ทำไมจะสอนไม่ได้สอนโลกธรรมพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นธรรมในนามของพระพุทธเจ้าและในพระนามของธรรม เราก็เอามาสอนตามนี้ ตามเยี่ยงอย่างของพระพุทธเจ้า มิหนำซ้ำเอาอันนี้ออกยันเป็นพยานด้วย เราตายแทนพระพุทธเจ้าได้เลย ถึงขนาดนั้นนะฟังซิ ใครจะมาตัดคอเรา เช่นอย่างว่า บาปไม่มีบุญไม่มี นรกไม่มีสวรรค์ไม่มี พรหมโลกไม่มี นิพพานไม่มี สัตว์เปรตผีประเภทต่าง ๆ ทั่วแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอย่างนี้ แล้วเราบอกว่ามีคำเดียวถวายพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เลย เอา ใครจะมาตัดคอตัดไปเลย เราไม่ได้เสียดายยิ่งกว่าการกราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยความสัตย์ความจริง ที่ทรงแสดงไว้นี้ไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่นิดหนึ่งเลย พี่น้องทั้งหลายอย่าดันนะบอกแล้ว เราพูดอย่างเข้มแข็งที่สุด เต็มอยู่ในหัวใจนี้หมดแล้ว
ถ้าหากเอามาฉายอย่างแบบโทรทัศน์เทวทัตนี้ล้มทั้งหงายเลยโลกเรา คือจะไปเห็นนรกอเวจีนั่นซี ล้มทั้งหงายเลย ทีนี้พอล้มทั้งหงายนี่สลบไปเลย คือดูไม่ได้ว่างั้นเถอะนะ พอกลับมาแล้วนี้ เอา ใครจะฆ่าฆ่าเลย ให้ข้าทำบาปข้าทำไม่ได้แล้ว เท่านั้นละพอ นั่นมันถึงใจเข้าใจไหม เรื่องบุญกุศลถึงนิพพานก็แบบเดียวกันอีก พระพุทธเจ้านำสิ่งที่เลิศเลอสุดยอดและพระโอษฐ์ที่สุดยอดมาสอนโลก ด้วยจิตใจที่สว่างกระจ่างแจ้ง เรียกว่า โลกวิทู รู้แจ้งหมดแล้วโลก ไม่มีอะไรปิดบัง อาโลโก อุทปาทิ สว่างจ้าอยู่ตลอดกลางวันกลางคืน ตั้งกัปตั้งกัลป์ สว่างจ้าเห็นหมดอยู่อย่างนี้จะว่าไง แล้วจะให้ท่านสอนว่ายังไงพิจารณาซิ นี่ท่านสอนโลกด้วยความจริงจังทุกอย่าง อาจหาญทุกอย่าง เต็มพระทัยทุกอย่าง แล้วเราจะมากล้าหาญชาญชัยต้านทานพระพุทธเจ้าเหรอ ถ้าเราไม่อยากเป็นกองรับเหมาลงนรกอเวจี นี่ละเรื่องธรรมพระพุทธเจ้าเป็นขนาดนี้นะ
เพราะฉะนั้นจึงท้อพระทัยที่จะสอนโลก จะสอนได้ยังไง ๆ นั่นฟังซิ เมื่อจ้าขึ้นไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าและสอนโลกสอนสงสาร ตอนนั้นพระองค์ยังไม่ได้ โลกวิทู รู้แจ้งโลก กำลังปรารถนาพุทธภูมิอยู่ พอตรัสรู้ปึ๋งขึ้นมานี้มันจ้าเท่านี้ โหย จะสอนได้ยังไง ธรรมชาตินี้กับโลกมันเข้ากันไม่ได้เลย ทีแรกว่าเข้ากันไม่ได้เลย จึงมาพิจารณาด้วยพระญาณหยั่งทราบ ๆ โลกนี้มันเต็มไปด้วยมูตรด้วยคูถ ด้วยเสี้ยนด้วยหนาม ด้วยฟืนด้วยไฟ ไม่มีอะไรที่จะเป็นชิ้นดีเลย มองดูทีแรกเป็นกองเพลิงไปหมด สามแดนโลกธาตุคือเรือนจำแห่งสัตวโลกทั้งหลายแห่งวัฏจักร ทีนี้ก็มาพิจารณาอีก เหอ มันจะมืดไปหมดจริงเหรอ เช่น นักโทษในเรือนจำนี้ไม่มีคนดีติดอยู่ในเรือนจำนี้สักคนเหรอ
ไปค้นดูมันก็มีอยู่นะ นักโทษเราอย่าว่ามีตั้งแต่นักโทษที่เป็นคนชั่ว เหมากันเป็นนักโทษเลยนะ คนบริสุทธิ์พุทโธนี้ไปติดคุกติดตะรางก็มี เพราะเหตุผลต้นปลายหรือหลักฐานพยานของเขาหนาแน่นกว่า เขาหาเรื่องใส่เข้าใจไหมล่ะ เขามีหลักฐานพยานมากกว่า เวลาของปลอมมีมากมันทับของจริงได้ ของบริสุทธิ์ก็อยู่ใต้ของปลอมก็อยู่ข้างบน ก็ลากเข้าคุกเข้าตะราง คนนี้ถึงไปติดคุก เป็นนักโทษก็สักแต่ชื่อ ตัวของเขายังดี คนดียังมีอยู่ในเรือนจำนะ อย่าเข้าใจว่าลงชื่อว่าเป็นเรือนจำจะเป็นคนชั่วทั้งหมด ไม่ได้หมดนะ มีคนดีแทรกอยู่นั้น ๆ ดีไม่ดีนายคุมนักโทษยังเป็นนักโทษอยู่ในตัวอีก ไปทำนรกจกเปรตอยู่ในเรือนจำก็มีเยอะนะนายคุมนักโทษ อย่าเข้าใจนายคุมนักโทษจะดีทุกคนนะ ร้ายกว่านักโทษก็ยังมี ทีนี้นักโทษที่ว่านักโทษ ๆ ในเรือนจำทั้งหมดจะว่าชั่วทุกคนไม่ได้นะ คนดียังมีอยู่นั้น แทรกอยู่นั้น
อันนี้ก็เหมือนกันพระพุทธเจ้าทรงพิจารณาดูสัตวโลก ที่ว่ามันมืดมิดปิดตาไปหมด มันจะมืดจริง ๆ เหรอ พิจารณาจริง ๆ อ๋อ นั่นเห็นไหมล่ะมันยังมี เช่น ภูเขาลูกนี้มองไปดูหนาทึบด้วยหินผาป่าไม้มันจะไม่มีอะไรเป็นสาระบ้างหรือ ครั้นพิจารณาไป อ๋อ นี่มี แร่ธาตุต่าง ๆ มีอยู่ในนี้ เริ่มไปตั้งแต่แร่ธาตุตะกั่ว ทองแดง ทองคำ ขึ้นไปเรื่อย ขึ้นไปหาเพชรนิลจินดาอยู่ในเขาลูกนี้ยังมี ถึงไม่มากก็มี นั่นเข้าใจไหม นี่ที่ได้พยายามขุดค้นกัน เขาขุดทองเขาไม่ได้ไปขุดเอาดินนะ เขาขุดเอาทองที่มีเล็กน้อยเท่านั้นละ ขุดคุ้ยเขี่ยจนภูเขาจะถล่ม ขุดดินทางไหนเหมือนจะเป็นทะเลหลวง เขาไม่ได้เอาดินเหล่านั้นนะ เขาเอาทองคำแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีสาระสำคัญอยู่ในนั้น ก็คุ้ยเขี่ยขุดค้น
นี่พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาญาณอยู่ดูเห็นแร่ธาตุต่าง ๆ เรียกว่าบุคคลสัตวโลกที่มีอุปนิสัยปัจจัยซึ่งควรแก่มรรคผลนิพพานแก่บุญแก่กุศลทั้งหลาย ยังมีแทรกอยู่ ๆๆ อ๋อ พอได้นั่นละเข้าใจไหม จึงคุ้ยเขี่ยขุดค้นแนะนำสั่งสอนสัตวโลกด้วยความตะเกียกตะกายเรื่อยมา ก็เพื่อเอาแร่ธาตุประเภทนี้ ส่วนภูเขาทั้งลูกนั้นไม่สนใจกับมัน พวกที่มืดบอดปล่อยไปเสีย แม้แต่เข้าโรงพยาบาลหมอก็ไม่อยากรับ อยากรับอะไรเข้าไปคอยแต่จะตาย เข้าไปก็ต้องโยนเข้าใส่ห้องไอซียูละซิ ยาก็ไม่มีความหมาย โรคก็ไม่มีความหมาย สิ่งที่มีความหมายคือรอลมหายใจจะขาดเท่านั้น ความหมายเต็มตัวของคนไข้ที่เข้าไปสู่ห้องไอซียู เราเป็นหมอมีไหม ไอซียูมีไหม พวกเข้าไปห้องไอซียูมีไหม นี่ละพวกไม่ยอมรับยารับหมอเลย จะเอาตั้งแต่ความตาย ประเภทนั้นปล่อยมันเสียไม่เอา ประเภทไหนที่ดีงามอยู่ พอที่จะได้เป็นผลเป็นประโยชน์ เอ้า สอนไป
พี่น้องทั้งหลายจำเอาไว้เราสอนโลกเราสอนอย่างนี้ เต็มเม็ดเต็มหน่วย ใครจะเอาก็เอา ไม่เอาก็ไม่เอาเท่านั้นละ จำเอาทุกคน ไปพวกไหนจะไปก็ไป เหนื่อยแล้ว
ทองคำเมื่อวานนี้ได้ ๑ บาท ๒๕ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๗๔ ดอลล์ มีสูงมีต่ำเป็นธรรมดาต่อกันไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ ทองคำที่เราได้มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๒,๗๕๐ กิโล ที่เหลือยังไม่ได้มอบเวลานี้ซึ่งกำลังจะหลอมได้ ๙ กิโล ๕๗ บาท ๓๕ สตางค์กรุณาทราบตามนี้ ถ้ารวมทั้งหมดแล้วทองคำได้ ๒,๗๕๙ กิโลครึ่ง นี่มัน ๒ ตันกว่าแล้วนะทองคำที่เรามอบเข้าคลังหลวงเวลานี้ ๒ ตันกับ ๗๕๐ กิโลที่เข้าคลังหลวงเรียบร้อยสมบูรณ์แบบแล้ว ส่วนดอลลาร์ได้ ๕,๕๘๗,๐๐๐ ดอลล์นี่หมายถึงเข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้วกรุณาทราบตามนี้
อาจารย์จรรยาไปอยู่กุฏินั้นแล้วยัง(อยู่แล้วค่ะ) ก็สะดวกดีนะ ที่นั่นสะดวกดี แต่ว่าทางจงกรมไม่ค่อยดี เราเผลอเองนะ คือเราเป็นคนสั่งเองระยะสั้นยาวอะไร ระหว่างรั้วกับกุฏิ เรากะว่าจะให้เดินจงกรมข้างรั้วไปนี้ แล้วไปบอกเขาเท่านั้นเมตรเท่านี้เมตร ทีนี้ไม่ได้คำนวณซิว่าหลังคามันจะตกมาถึงไหน ๆ บอกเขาแล้วเขาก็ทำตามนั้น ไปดูแล้วพอเขาตั้งเสาขึ้น อู๊ย ตายทีนี้เลยเดินจงกรมไม่ได้ คือเรากะไว้อย่างน้อยให้ได้เมตรหนึ่งเต็ม ๆ ให้ได้เดินสะดวก ๆ แต่เวลาจะเอาจริง ๆ ผิด เราบอกเขาเท่านั้นเขาก็ทำตามที่เราบอก เราเป็นฝ่ายผิดเลยแก้ไม่ตก เลยไม่แก้หัวมันแหละ เราเดินจงกรมบนกุฏิก็ได้นะ เอาบนกุฏิก็ดี ไปมาใกล้ ๆ ไม่เป็นไรแหละ
วันนี้ก็จะไปส่งของที่โรงพยาบาล ของเมื่อวานนี้สั่งเข้ามาเต็มเอี๊ยดเลย ที่โกดังเต็มเลย ไม่ให้บกบางนะโกดังนี้ เช่น ห้วยผึ้งเข้ามานี้เราจัดให้เต็มไปเลยเป็นปรกติอย่างนั้น ใครมาจัดให้ ๆ เรียบร้อยไปเลย วันนี้ยังไม่สายเท่าไร ๘ โมงครึ่ง กว่าจะออกก็ ๙ โมง เมื่อวานที่ว่ามันเป็นไข้มันเป็นหวัดจริง ๆ นะ เมื่อคืนนี้มันถึงได้แสดงออกมาเต็มเหนี่ยวเลย โห น้ำมูก แหมทำไมอยู่ดี ๆ ปวดหมดทั้งเนื้อทั้งตัวจะเป็นไข้เป็นหนาวเอ๊ มันอะไรกัน ๆ นะ ฤทธิ์ของหวัดยังไม่แสดงออกมา เมื่อคืนนี้จึงแสดงออกมาเต็มที่ อ๋อ เข้าใจแล้วอันนี้
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร
www.luangta.com