(วันนี้มีผู้ฟังเทศน์ประมาณ ๒๕๐ คน)
งานวันที่ ๙ สิงหา อุดรฯ ของเรานี้นับว่ามีวาสนามากอยู่นะ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน วงศ์กษัตริย์เสด็จมาโปรดบ่อย ๆ นะ เมืองอุดรฯ เราเป็นเมืองมีวาสนา วันที่ ๙ ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ก็จะเสด็จมาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้พี่น้องชาวอุดรฯ เราอีกในงานวันที่ ๙ นี้ เพราะฉะนั้นให้ทุกคนต่างคนต่างตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเต้นขวนขวาย หาสิ่งที่ชาติต้องการ คือ ทองคำ ดอลลาร์ เงินสด หามามาก ๆ เมืองอุดรฯ ให้เป็นที่หนึ่งของประเทศไทย หลวงตาบัวจะยกธงแดงวิ่งผ่านไปหมดประเทศไทยเราว่า เมืองอุดรฯ ชนะที่เป็นที่หนึ่ง ๆ อย่าให้ยกธงขาวโดดลงทะเลไม่ได้นะ ให้ตั้งหน้าตั้งตาทุกคนเฉลิมพระเกียรติท่าน ด้วยความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมือง ความเสียสละ เพื่อหนุนชาติบ้านเมืองของเรา โดยที่ท่านเสด็จมาเป็นประธาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่พี่น้องชาวอุดร ฯ เรา ไม่ค่อยจะมีง่าย ๆ นะ เพราะพระภารกิจของท่านมีมาก ท่านอุตส่าห์สละเวล่ำเวลามาอนุโมทนากับพี่น้องชาวอุดรฯ เราและแถวใกล้เคียงเหล่านั้น
ดูท่านจะเสด็จมาถึงวันที่ ๘ นะ น่าจะเป็นวันที่ ๘ ตอนเย็นจากกรุงเทพฯ มาแล้วก็มาประทับแรมที่เจริญศรี แกรนด์พาเลซ ตอนเช้าวันที่ ๙ เสด็จมาที่วัดเรา พอบ่าย ๒ โมงท่านก็เสด็จไปในงานพิธีที่ทุ่งศรีเมือง ให้พี่น้องชาวอุดรฯ เราพร้อมหน้าพร้อมตาหาต้นดอลลาร์ ต้นเงินสด ทองคำเหลืองอร่ามไว้ คราวนี้เป็นคราวที่ถ้าพูดแบบโลกเขาเรียกว่าเป็นคราวที่แก้แค้นนะ คราวก่อนนั้นทำพอประเดี๋ยวประด๋าวว่าเป็นพิธีช่วยชาติบ้านเมือง นิมนต์หลวงตาบัวไป เราขึ้นไปดูแล้วเราอยากโดดลงธรรมาสน์ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นธรรมาสน์ เราแค้นใจมาเราไม่พูด วันนี้ได้โอกาสแล้วจึงได้พูดกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดร ฯ เรานี่ เอานะคราวนี้ตั้งใหม่ คราวนี้เป็นคราวตั้งหน้าตั้งตาช่วยชาติของเราจริง ๆ โดยหลวงตาบัวเป็นผู้นำว่างั้นละ อย่าให้เสียหน้านะคราวนี้
เพราะฉะนั้นจึงได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทุกอำเภอในจังหวัดอุดรธานี และแถวใกล้เคียง ที่นอกจากนั้นก็มาได้ด้วยกัน แต่ที่สำคัญก็คือเขตจังหวัดอุดรธานีนี้มีกี่อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ให้พากันตั้งหน้าตั้งตาพิจารณาทุกคน ๆ วิ่งเต้นขวนขวาย ได้อำเภอละเท่าไร ตำบลละเท่าไร น้ำใจเป็นของสำคัญของพี่น้องทั้งหลายนะ สำคัญที่น้ำใจ มีเท่าไร เอา สละออกมาออกจากน้ำใจ คนทุกข์ก็ตาม คนมีก็ตาม สำคัญที่น้ำใจ นี่คราวนี้เป็นครั้งที่สองที่จังหวัดอุดรฯ เราโดยหลวงตาบัวเป็นผู้แนะเป็นผู้บอกเอง ขอให้มีงานอันนี้ขึ้นมา เพราะหลวงตาบัวเกิดในจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้นำของพี่น้องชาวอุดรธานีในงานช่วยชาติคราวนี้ จึงอย่าให้ขายหน้านะ ขายหน้าหลวงตาบัว
พี่น้องทุก ๆ คนให้ตั้งหน้าตั้งตาเอาให้เหลืองอร่ามไปเลยนะ ไม่ว่าดอลลาร์ ไม่ว่าเงินสด ทองคำ ให้เต็มทุ่งศรีเมืองนะ ถ้าทุ่งศรีเมืองเต็มแล้ว เขามาบอกเราว่านี่ทุ่งศรีเมืองเต็มแล้ว ด้วยทองคำ ดอลลาร์ เงินสด มาบอกหลวงตา หลวงตาก็จะบอกว่า หลวงตาจะอ้อมไปทางด้านตะวันออกเข้าทางหลังที่ทองคำไม่เหลืองอร่ามโน้น จะขึ้นนั่งบนธรรมาสน์โบกธงแดงเลย จะว่าอย่างนี้เข้าใจไหมล่ะ แต่อย่าให้เห็นธงขาวนะ ไม่ได้เป็นอันขาด คราวนี้เป็นคราวเด็ดคราวหนึ่งของพี่น้องชาวไทยเรา หลวงตาบัวได้ช่วยชาติช่วยด้วยน้ำใจถึงขนาดสละชีวิตไปเลยนะ ช่วยชาติคราวนี้เราก็เคยบอกแล้วว่าเป็นครั้งที่สองแล้ว
ครั้งที่หนึ่งฟาดกับกิเลสขาดสะบั้นลงไป เป็นที่สมใจ กระเทือนโลกธาตุ นี่ได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบแล้ว หรือว่าหลวงตาบัวโอ้อวดเหรอ นี่คือของจริง นี่คือธรรมของจริง พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมของจริงเหล่านี้มาประกาศสอนโลก พระสงฆ์สาวกทั้งหลายตรัสรู้ธรรมเหล่านี้มาประกาศธรรมสอนโลก เราเมื่อรู้ธรรมอันนี้แล้วจะปลอมไปจากที่ไหน ธรรมอันเดียวกัน พระพุทธเจ้าตรัสรู้มาเพื่อธรรมดวงนี้ พระสาวกทั้งหลายตรัสรู้เพื่อธรรมดวงนี้ เอาธรรมดวงนี้มาสอนโลกปลอมไปแล้วเหรอ จริงตั้งแต่กิเลสอย่างเดียวนั่นหรือ
ที่เหยียบย่ำทำลายประชาชนสัตวโลกอยู่เวลานี้ มีแต่กิเลสเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ ธรรมท่านไม่มี นี่ประกาศธรรมซึ่งเป็นเครื่องร่มเย็นเป็นสุขต่อไตรโลกธาตุนี้ แก่บรรดาสัตว์ทั้งหลาย เฉพาะอย่างยิ่งเมืองไทยเรา ที่หลวงตาได้ออกแสดงธรรมคราวนี้เปิดหัวอกเลย ที่ได้ปฏิบัติมามากน้อยได้เห็นผลประการใด แล้วมาประกาศให้พี่น้องทั้งหลายฟังด้วยความเมตตาล้วน ๆ แล้วเป็นการโอ้อวดไปแล้วเหรอ เอา พิจารณากันตรงนี้นะ
กิเลสมันเก่งมากนะ ถ้าเป็นเรื่องของจริงออกมานิดหนึ่งมันตีเอา ๆ ถ้าของปลอมเต็มบ้านเต็มเมือง เรื่องของกิเลสทั้งนั้น สวยงามหรูหราฟู่ฟ่า เป็นบ้ากันไปหมดทั้งบ้านทั้งเมือง นี้ธรรมประกาศเป็นของจริงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบทุกคน เราเปิดอกเราเป็นพระ ครั้งสุดท้ายด้วย แล้วเราจวนจะตายแล้วด้วย พี่น้องชาวไทยจะได้เห็นวี่แววของธรรมพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้มาแต่ละพระองค์ ๆ ใครดึงธรรมอันนั้นออกมา นี่หลวงตาบอกตรง ๆ ดึงธรรมอันนั้นออกมาจากหัวใจเจ้าของ ที่ได้ปฏิบัติมาเต็มเม็ดเต็มหน่วยรอดล้มรอดตาย ถึงขั้นจะสลบไสล แต่ไม่เคยสลบก็บอกแล้ว หากเฉียด ๆ มาตลอด ขึ้นเวทีฟัดกับกิเลส เก่งไหมกิเลส เอาถึงขนาดที่จะสลบ ๆ
พระพุทธเจ้าสลบ หนักมากกว่าเรา เราไม่ถึงขั้นสลบเป็นแต่เพียงว่าเฉียด ๆ จึงได้ธรรมดวงนี้มาครองใจ ถึงขนาดที่ว่าประหนึ่งว่าฟ้าดินถล่มจริง ๆ นะ มันกระเทือนเอามากทีเดียว เราไม่เคยเห็น เกิดมาแต่โคตรพ่อโคตรแม่หลวงตาบัว เกิดมาด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาครอบหัวใจ ฟาดกิเลสขาดสะบั้นลงบนหลังวัดดอยธรรมเจดีย์ ประหนึ่งว่าฟ้าดินถล่ม น้ำตาพังทันทีเลย ไม่ต้องบอกละ น้ำตาออกทีเดียว นั่นเห็นไหม ความอัศจรรย์อันนั้นทำให้ร่างกายนี้ไหวไปหมดเลย นั่นเห็นไหมความอัศจรรย์ระหว่างกิเลสกับธรรมขาดสะบั้นจากกัน เป็นคนละฝั่งแล้ว ฝั่งนี้ฝั่งฟืนฝั่งไฟ ฝั่งกิเลสตัณหาวัฏจักร ฝั่งนี้คือฝั่งวิมุตติหลุดพ้น คือฝั่ง นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ ได้แยกจากกัน
ตั้งแต่ขณะนั้นมา เราจึงได้นำธรรมที่ได้รู้ได้เห็นเต็มกำลังความสามารถของเรา มาประกาศธรรมสอนพี่น้องทั้งหลายเพื่อเป็นประโยชน์ ให้ได้มีร่องรอยยึดไว้ว่า ศาสนาพระพุทธเจ้านี้คือธรรมอันเอก มีอยู่ตลอดเวลา อกาลิโก ขอให้มีผู้ปฏิบัติตามเถิด จะรู้จะเห็นอย่างนี้ ถึงจะไม่ถึงยอดก็ต้องลบกันลงเป็นลำดับลำดาแห่งกำลังความสามารถของเรา ธรรมจะไม่เป็นโมฆะตลอดไป เช่นเดียวกับกิเลสไม่เป็นโมฆะ ใครเสาะแสวงหากิเลสซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟ มันจะเผาทุกคน ๆ ใครเสาะแสวงหาอรรถหาธรรมจะร่มเย็นเป็นสุขทุกคน ๆ ในหัวใจของสัตวโลกนะ
นี่เสมอกันนะนี่ ความดีความชั่ว ความเย็นความร้อน เสมอ ความเย็นเป็นธรรม ความร้อนเป็นกิเลส มันมาคนละฝั่ง ๆ ปะทะกันอยู่ตลอดเวลา ธรรมปะทะไว้ นี่ประกาศถึงเรื่องธรรมปะทะกิเลสให้พี่น้องทั้งหลายทราบ พูดถึงเรื่องว่าเราที่จะมาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายนี้ เรารอดตายมาเราบอกแล้ว บอกไม่รู้กี่ครั้งแล้วนะ เราไม่ได้บอกแบบโลก ๆ เขาบอกเขาพูดกัน โลกเขาพูดกันมีความอยากยกอยากยออยากโอ้อยากอวด เราไม่มีเราบอก เราพอทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าใครจะมายกยอปอปั้น มานินทากาเลอะไรก็ตาม มันเป็นถังขยะเท่านั้น เป็นส่วนเกินของธรรมประเภทที่พอแล้ว ๆ นั่นท่านเรียกว่าธรรมพอแล้ว นิพพานธรรม
อยู่ในหัวใจของใครไม่ต้องหาใครมาเป็นพยาน พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นพระองค์เดียวเท่านั้น จ้าครอบโลกธาตุเลย บรรดาสาวกก็เหมือนกัน จึงเรียกว่าธรรมเลิศ เอาธรรมเลิศมาสอนนี้กลายเป็นของปลอมแล้วเหรอ ให้แต่กิเลสมันสอนเหยียบย่ำทำลายอยู่ตลอดเวลานั้นหรือเป็นของดี ไปที่ไหนมีแต่กองทุกข์เต็มบ้านเต็มเมือง เพราะอำนาจของกิเลสทั้งนั้นนี่นะ ความทุกข์เพราะธรรมไม่เคยมี ทุกข์ก็ทุกข์เพื่อจะขย้ำกิเลสนั่นแหละ ทุกข์ด้วยความเพียรดังโลกทั้งหลาย ก็เพื่อเป็นศาสดาเอก นั่นเห็นไหมล่ะ ที่เลิศมีอยู่ข้างบนนั่น ศาสดาเอก ผ่านความสลบไสลไปแล้วเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา นั่นทุกข์ก็ทุกข์อย่างนั้น ทุกข์เพื่อความสุข ไม่ได้ทุกข์เพื่อมหันตทุกข์ดังกิเลสพาทุกข์นะ กิเลสพาทุกข์ ทุกข์เท่าไรยิ่งเป็นมหันตทุกข์เข้าไป สั่งสมมันเท่าไรยิ่งทุกข์เท่านั้น
นี่เราได้พยายามเต็มกำลังความสามารถ อายุก็ก้าวเข้ามาแล้ว นี่วันที่ ๑๒ สิงหาคมนี้ เป็นวันที่ ๘๗ อายุของเราจะเต็ม ตั้งแต่ประกาศธรรมสอนโลกอย่างเปิดเผยในหัวใจของเรามานี้เป็นเวลา ๕๐ กว่าปีนี้แล้ว นานไหมพี่น้องทั้งหลายฟังซิ ๒๔๙๓ มา ประกาศจนกระทั่งถึงวันที่ สถานที่ เวล่ำเวลา ทุกอย่าง เปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟังว่า ธรรมของจริงพระพุทธเจ้ายังมีอยู่ประจำโลกสงสาร ขอให้มีผู้ปฏิบัติเถิดว่าอย่างนั้นนะ เหมือนกับกิเลสมีประจำโลกสงสารวัฏจักรนี้ตลอดมา ใครทำทางด้านกิเลสจะเผาทันที ใครทำด้านธรรมนี้จะเสริมขึ้นทันที ๆ ให้นำไปปฏิบัตินะ
อย่าเอากิเลสมาออกหน้าออกตา ไปที่ไหนมีแต่กิเลสออกหน้าออกตา ธรรมไม่ค่อยได้ออกง่าย ๆ นะ ถ้าพูดถึงเรื่องธรรมนี้ โอ๋ย ไม่ทราบว่าจะคัดค้านต้านทานแบบไหนต่อแบบไหน กองทัพกิเลสมาทันที ๆ ถ้าเป็นเรื่องกิเลสแล้วตายกันทั้งบ้านทั้งเมือง ทั้งประเทศเขตแดน ทั้งไตรภพเลย ไม่มีใครที่จะเห็นว่ากิเลสเป็นภัย นี่ละที่พระพุทธเจ้าทรงท้อพระทัยก็เพราะเหตุนี้เอง จะเห็นตามพระพุทธเจ้านี้เท่ากับเขาโค เห็นตามกิเลสนั้นเท่ากับขนโค นั่นละทรงท้อพระทัยท้ออย่างนี้เอง ทีนี้เวลามันจ้าขึ้นมาแล้วมันเป็นอย่างนั้น ไม่ต้องถามใคร ขึ้นในหัวใจ ใจดวงนี้เป็นธรรมทั้งแท่งสว่างจ้าครอบโลกธาตุ อะไรมาปิดบังได้วะ กิเลสตัวไหนเก่งมา ขาดสะบั้นทันที ๆ
เพราะฉะนั้นถึงได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟังว่า เราประกาศศาสนาคราวนี้เอาธรรมทั้งแท่งออกมาประกาศนะ บอกตรง ๆ อย่างนี้เลย เราไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน คำสะทกสะท้านเหล่านี้เป็นเรื่องของกิเลส เป็นเรื่องของวัฏวน ธรรมอันนี้เหนือหมดแล้ว การมาพูดเพื่อสู่สมมุตินี้ คือกิเลสมันจะต้องต่อต้านเป็นธรรมดา ไม่สนใจเรา ใครที่จะเป็นประโยชน์ให้ยึด ๆ เท่านั้นเอง นี่ก็จวนแล้วนี่ ๘๗ ปีน้อยเมื่อไรอายุผ่านมา ที่บวชมาในศาสนานี้ก็ ๖๖ ปีเต็มแล้วนะฟังซิ ชีวิตของพระกับศาสนาพันกันมาได้ ๖๖ ปีนี้แล้วเรา เต็มสัดเต็มส่วน จนกลายเป็นนิสัยของธรรมของวินัยไปในตัวเสร็จ ระวังไม่ระวังก็ตามมันหากเป็นหลักธรรมชาติอยู่ในตัวของมันเองของตัวเองนั้นแหละ เมื่อรักษาจนชินแล้วทางด้านธรรมะเป็นธรรมะล้วน ๆ อะไรขัดเข้ามาเป็นเรื่องของอันนั้น ๆ มันปัดทันที ๆ เลย อันใดที่เป็นธรรมแล้วเสริมกัน ๆ
ที่ได้มานำพี่น้องทั้งหลายเราไม่ได้มานำด้วยความลูบ ๆ คลำ ๆ นะ การนำพี่น้องทั้งหลายทางวัตถุเงินทองข้าวของเพื่อเข้าสู่ชาติ เราก็นำด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างยิ่ง บริสุทธิ์สุดส่วน ไม่มีอะไรที่จะต้องติว่าเงินเหล่านี้รั่วไหลแตกซึมไปไหน ไม่มีในหัวใจของเรา เพราะเมตตาครอบไว้หมดจะเอาอะไรมารั่วไหลแตกซึม รั่วไหลแตกซึมเป็นเรื่องของกิเลส กิเลสไม่มีก็มีแต่ธรรมล้วน ๆ ออกให้พี่น้องทั้งหลายเห็น นี่ละการนำทางด้านวัตถุก็ดังที่พี่น้องทั้งหลายเห็น และประกาศให้ทราบแทบทุกวันไปนี้ ได้เท่าไร ยังขาดเท่าไร ที่เป็นจุดมุ่งหมายของความต้องการของเราในการช่วยชาติในคราวนี้เราก็ประกาศเรื่อยมา ทางด้านธรรมะเราก็เทศน์สอนทั่วประเทศไทย เทศน์สอนมานานแล้ว จึงเรียกว่าทั่วประเทศไทย
ในการนำพี่น้องชาวไทยคราวนี้เราจึงพูดอยู่เสมอว่า เราพูดด้วยความรัก ด้วยความห่วงใย เมตตาสงสารทั่วหน้ากันหมดในประเทศไทย ไม่มีจุดไหนดอนใดภาคใดที่จะยิ่งหย่อนกว่ากันในความเมตตาของเราที่ครอบไว้ ครอบไว้หมดเลย แต่ก็มาเสียใจที่กำลังวังชามาวาระสุดท้ายนี้ เราก็กะไว้ตลอดเวลาในหัวใจ โครงการอยู่ในหัวใจของเราหมดแล้ว ไปนี่แล้วจะไปนั้น ๆ ไปนั้นแล้วจะไปนั้น กำหนด ๆ ทีนี้ทำไป ๆ อ้าว กำลังวังชาของเราอ่อนลง ๆ สุดท้ายชัดขึ้นมาแล้ว ไปไม่ได้แล้ว ทีนี้ความเป็นห่วงใยยิ่งเด่นขึ้น ๆ จึงได้ประกาศออกมาให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลายได้ทราบ ตลอดถึงพี่น้องทางภาคใต้ด้วยว่า คราวนี้เราหมดหวังเสียแล้วที่จะไม่ได้ไปเทศนาว่าการดังสถานที่ต่าง ๆ ทางภาคใต้ของเรา นี่เราได้ประกาศมาแล้วด้วยความห่วงใย
แต่ก่อนไม่พูดเพราะเราจะไป เราจะไปตลอดเวลา แต่เมื่อหมดหวังแล้วก็ได้ประกาศความหมดหวังของตัวเองมาให้พี่น้องทั้งหลายฟัง นี่คือความเมตตามีอย่างนี้ เราช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย ใครจะเอาก็เอา เรื่องอรรถเรื่องธรรมพุ่งเลย ๆ เราพูดจริง ๆ การแนะนำสั่งสอนอรรถธรรมไม่ว่าแกงหม้อใหญ่ หม้อเล็ก หม้อจิ๋ว เราเต็มภูมิของเราทุกอย่าง สอน เอ้า ใครจะต้องการชนิดไหน เอ้า ถามมาว่างั้นเลย บางครั้งก็บอกเวลาเขาจะมาสัมภาษณ์ เอ้า ๆ ถามมาเราจะตอบ นั่นเห็นไหม ถามมาปั๊บก็ตอบทันที ๆ ธรรมครอบโลกธาตุทำไมจะตอบไม่ได้ กิเลสเท่ากำปั้นนี่วะ พูดอย่างนี้แหละ เมื่อเทียบธรรมกับกิเลสแล้วเป็นอย่างนั้น อำนาจของธรรมขนาดไหนในหัวใจดวงนั้น เป็นธรรมทั้งแท่งแล้ว แล้วจะไปกลัวไปกล้ากับสิ่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้ซึ่งเป็นถังขยะทั้งนั้น ธรรมเหนือทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พูดออกมาอย่างเปิดเผยตามความสัตย์ความจริงของธรรมทั้งหลาย จึงขอพี่น้องทั้งหลายฟังเอาก็แล้วกัน
เราเทศน์นี่เทศน์ทุกขั้นทุกภูมิ เราไม่สงสัยในการเทศน์ และใครจะมาถามว่าเราติดข้องอยู่ตรงไหนที่เราจะตอบให้ผู้หวังประโยชน์อย่างยิ่งไม่ได้ล่ะ เราจะเปิดออกมาทันทีเลย ขอให้มีมาว่างั้นเลย ควรที่จะได้ขนาดไหนก็แบ่งออก ๆ ควรได้มากได้น้อยจะออกของมันทันที ๆ ออกเต็มสัดเต็มส่วน เอ้า ต้องการความสัตย์ความจริงเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทางนี้จะออกรับกันทันที ไม่ต้องไปค้นคว้าหาคัมภีร์ไหน คัมภีร์ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้วค้นคว้าหาที่ไหน พระพุทธเจ้าท่านสอนโลกท่านสอนได้ ได้ยินไหมพระพุทธเจ้าไปประกาศธรรมสอนโลกท่านแบกคัมภีร์ไปไหนมีไหม พระสาวกไปสอนโลกท่านแบกคัมภีร์ไหน พระไตรปิฎกไหน ไปสอนโลก ไม่ปรากฏ มีแต่ในพระทัย มีแต่ในหัวใจของท่านผู้บริสุทธิ์ล้วน ๆ เป็นธรรมทั้งแท่งอยู่ในหัวใจแล้วสอนโลก ไม่มีคำว่าอัดว่าอั้นสามแดนโลกธาตุนี้ จนกระทั่งท่านนิพพาน ๆ ไป ธรรมอันนี้ก็เป็นธรรมธาตุครอบโลกธาตุตลอดไปเป็นอนันตกาล นี่เราได้เปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟังเสีย
เพราะฉะนั้นใครจะฟังให้ฟังนะ ถ้าไม่อยากจมให้ฟังเสียงธรรม ทุกอย่างถ้ามีธรรมเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งเอาไว้แล้วจะพอพักพอผ่อน พอมีที่พักที่อยู่ที่หลับที่นอนได้ ถ้ามีแต่กิเลสเผาตลอดเวลาแล้ว อยู่ไหนอยู่เถอะมนุษย์เรา อะไรก็จมไปด้วยกันทั้งนั้นไม่มีความหมายนะ ถ้าใจหมดความหมายจากธรรมเสียอย่างเดียว ให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ
นี่เราก็พูดถึงเรื่องการแนะนำสั่งสอนโลก เราสั่งสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วยของเราแล้วนะ หมด เรียกว่าเราเปิดออกหมด ขอแต่มีผู้มาเกี่ยวข้อง ควรที่จะสงเคราะห์หนักเบามากน้อยมันจะออกเอง พูดให้มันเต็มยศเลยนะ จะออกเองทันทีเลย แล้วแต่ผู้มาเกี่ยวข้องจะได้รับประโยชน์มากน้อยเพียงไร ธรรมนี้จะออกพอเหมาะพอดี ๆ กับผู้มาถาม ผู้มาต้องการ ถ้าไม่เกิดประโยชน์แล้วดึงออกก็ไม่ออก ธรรมเป็นอย่างนั้นนะธรรม ไม่มีคำว่าอยากโอ้อยากอวด มีความผลักความดัน อย่างนี้ไม่มี มีเป็นธรรมดาเหมือนว่าไม่มี แต่เวลาอะไรมาปั๊บนี้ออกทันที เหมือนกับน้ำในถังใหญ่ของเรา ปิดไว้ในถังใหญ่ก็อยู่อย่างนั้น หนักหรือไม่หนักก็อยู่ในถังใหญ่อย่างนั้น ถ้าต้องการเมื่อไร เอ้า เปิดออก น้ำจะซ่าออกมาทันทีเลย ธรรมพระพุทธเจ้าก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน
คราวนี้ก็จะช่วยชาติของเรา วันที่ ๙ นี้เทศนาว่าการ นี่เราก็สละเวลาไปเฉพาะ ๆ นะเวลานี้ ไปไหนไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว คือแต่ก่อนเทศน์ทั่ว ๆ ไป เมื่อมันหมดความหวังแล้วทีนี้มันไปไม่ได้แล้ว ย่นเข้ามา คือจะไปได้เฉพาะที่จำเป็นที่ควรจะไปได้ ตะเกียกตะกายไป จะไม่ไปทุกแห่งทุกหนเหมือนแต่ก่อน นี้หดย่นเข้ามาแล้วนะเวลานี้ เห็นไหมธาตุขันธ์เป็นอย่างนี้ เรามุ่งทั่วประเทศไทยมันหากไปไม่ได้เห็นไหม นี่ธาตุขันธ์เป็นเครื่องมือมันไม่เอาไหนแล้ว จำเป็นก็ต้องได้หยุดได้พักตามเรื่องของมัน
พี่น้องชาวอุดรฯ เราให้พากันตื่นเนื้อตื่นตัวทุกคนนะ เอาออกไปประกาศทางวิทยุทั่วเขตเมืองอุดรฯ เป็นอย่างน้อย นอกจากนั้นก็ทั่วประเทศไทยเลย เมืองอุดรฯ เราให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติให้เต็มสัดเต็มส่วน คราวนี้หลวงตาจะเป็นผู้นำในการช่วยชาติ ที่ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี เวลาบ่าย ๒ โมง วันนั้นหลวงตาบัวจะออกเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย อย่าขายหน้าหลวงตาบัวนะ หลวงตาบัวเป็นผู้นำทั่วประเทศไทยแล้วเวลานี้ หมุนเข้ามาหาพี่น้องชาวอุดรฯ เรา ฟาดคราวนี้แล้วหลวงตาบัวหงายลงแม่น้ำโขงใช้ไม่ได้นะ เอ้า ใครมีห้าเอามาสิบ จำให้ดีคำนี้น่ะ ใครมีห้าเอามาสิบ คือ ห้าบาทนั้นติดหนี้เขาก่อน(เสียงหัวเราะ) เอามาเสียก่อน แล้วค่อยไปหาเงินใช้หนี้เขาทีหลัง มีมีห้าเอามาสิบ มีร้อยเอามาพัน ติดหนี้เขาเสียเก้าร้อย ค่อยไปหาใช้หนี้เขา
เอาให้เต็มเหนี่ยวอย่างนั้นจึงเรียกว่าน้ำใจ แสดงน้ำใจกล้าหาญชาญชัยต่อความรักชาติความเสียสละ ต่อศักดิ์ศรีดีงามแห่งชาติไทยของเรา ให้ตั้งหน้าตั้งตาทุกคน วันนั้นเอาให้เต็มเหนี่ยวทุกคนนะ พี่น้องชาวอุดรฯ อำเภอไหน ตำบลใด หมู่บ้านใดก็ตาม เราเป็นลูกชาวอุดรฯ นี่เป็นต้นเหตุนะ หลวงตาบัวเป็นผู้นำอย่าให้ขายหน้าหลวงตาบัวให้ว่าอย่างนี้นะ ไปนี้ไปประกาศเลย ออกจากนี้ไปประกาศลั่นเลย อย่าขายหน้าหลวงตาบัว ๆ ให้ว่าอย่างนั้น มีห้าเอามาสิบ มีห้าเอามาสิบให้บอกตลอดไปเลย หลวงตาบัวจะคอยฟังอยู่นี้ มีห้าเอามาหนึ่งนี้ก็ยังดีอยู่นะ มันกลัวไม่มีเลย สิบบาทก็ไม่มี ร้อยบาทก็ไม่มี ฟาดลงลิเกระบำรำโป๊มีเท่าไรทุ่มหมด ฟังไม่ได้เลยนะ เข้าใจไหม
ต่อไปจะเทศน์อย่างนี้ไม่ได้นะเราเคยบอกแล้ว จะเทศน์ให้เฉพาะงานที่จำเป็น ๆ จริง ๆ เท่านั้น เราถึงจะไปให้ จะให้ไปทุกแห่งทุกหนเวลานี้งดแล้ว หลวงตาบัวไม่เหมือนใคร ดูธาตุขันธ์ของเจ้าของพอแล้วจะบอกตามนั้นเลย อันนี้ธาตุขันธ์ไปไม่ได้แล้วฟังซิน่ะ เราจะตะเกียกตะกายเฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ ไปให้เฉพาะ ๆ จากนั้นก็เลิกเลย มันอ่อนลงขนาดนั้นนะเวลานี้ ถึงขนาดที่ได้บอกว่า หมดกำลัง หมดความสามารถแล้ว จึงได้ประกาศก้องออกมา อย่างพี่น้องชาวภาคใต้เราห่วงเรารักมากจริง ๆ นี่นะ ก็เราจะไปให้หมดฟังซิน่ะ เห็นไหมธาตุขันธ์มันดัดเราอย่างนี้ ไปไม่ได้ก็ต้องประกาศการยอมแพ้ของเจ้าของว่าธาตุขันธ์ไม่เอาไหนแล้ว แต่จิตใจเป็นห่วงเป็นใย เมตตาครอบไปหมดทั่วโลกธาตุนี่ ไม่มีที่ไหนยิ่งหย่อนกว่ากันนะ
เอ้าฟังนี่ก่อนยังไม่ได้อ่าน วันที่ ๓ เมื่อวานทองคำได้ ๓ บาท โอ้ ยังดีนะเมื่อวาน นึกว่ามันตายกันหมดทั้งเมืองอุดรฯ นี่ ไม่ตาย ยังเหลือมา ๓ บาท เอาละพอใจ ๓ บาท แล้วดอลลาร์ได้ ๑๔๒ ดอลฯ ทองคำที่ต้องการเข้ามอบคลังหลวง ซึ่งกำหนดไว้ในการช่วยชาติคราวนี้ว่า ๔,๐๐๐ กิโล ได้มอบเข้าคลังหลวงไว้แล้วครั้งที่หนึ่ง ๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง นี่ที่มอบแต่ก่อน คราวนี้ฝาก พอรู้ตัวแล้วย้อนเข้ามาเป็นฝาก อันมอบ ๆ ไว้เสียก่อนเพื่อวินิจฉัยต่อไป ไม่ได้แล้วนะนั่น เราจะติดตามจนกระทั่งถึงที่สุด ครั้งที่สองนี้ฝาก ๑,๐๒๕ กิโล เข้าคลังหลวง ฝากที่คลังหลวง
รวมทองคำที่มอบและฝากไว้กับคลังหลวงแล้วเวลานี้ได้ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง นี่ทั้งมอบทั้งฝาก สองครั้งนี้ได้เป็นทองคำ ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง หรือ ๒ ตัน ๖๒ กิโลครึ่งก็ไม่ผิด ทองคำหลังมอบและฝากไว้กับคลังหลวงแล้วนั้นเวลานี้ยังไม่ได้หลอม ได้เพิ่มเข้ามาอีก ๒๑ กิโล ๓๗.๑๐ บาท รวมทองคำทั้งหมดได้ ๒,๐๘๔ กิโล ยังขาดทองคำอยู่อีก ๑,๙๑๖ กิโลจะครบจำนวน ๔,๐๐๐ กิโลที่กำหนดไว้ดั้งเดิม
ดอลลาร์ที่จะมอบในครั้งต่อไปซึ่งกำหนดไว้แล้วนั้นว่า ๑ ล้านดอลฯ แต่เวลานี้ยังมอบไม่ได้เพราะเหตุการณ์ยังไม่ลงรอยที่ควรจะมอบ ก็เก็บไว้ที่ธนาคารเสียก่อน เวลานี้ได้แล้ว ๙๒๖,๓๙๐ ดอลฯ ยังขาดอยู่อีก ๗๓,๖๑๐ ดอลฯ มันขาดอยู่ตลอดไอ้นี่(หัวเราะ) ยังขาดอยู่อย่างนั้นตลอด กรุณาพี่น้องทั้งหลายทราบไว้ จำนวนเหล่านี้เราจะเข้าคลังหลวงทั้งนั้น หลวงตาเป็นผู้ติดตามทุกอย่างทุกแง่ทุกมุมไม่ได้ทำเล่น ๆ ทำอะไร ขอให้พี่น้องทั้งหลายคอยฟังเสียงผู้นำก็แล้วกัน เราจะซอกแซกซิกแซ็กติดตามทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ได้เหตุได้ผลมาพร้อมแล้วจะประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบเป็นระยะ ๆ ไป เอาละ ต่อไปนี้จะให้พร
เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet
www.luangta.com