วุ่นตลอดเพื่อประโยชน์แก่โลก
วันที่ 5 ธันวาคม 2549 เวลา 8:45 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๙

วุ่นตลอดเพื่อประโยชน์แก่โลก

         เราช่วยจริงๆ ช่วยโลกไม่ใช่ช่วยธรรมดา ไม่เหลาะแหละ นี้ไม่เคยเหลาะแหละ ว่าจริงนี้ขาดสะบั้นไปเลย ทุกอย่างถ้าลงได้ลั่นคำไหนแล้วขาดสะบั้นไปเลย กิเลสในหัวใจเจ้าของก็เหมือนกัน กิเลสไม่ขาดคอเจ้าของขาด ซัดกันขนาดนั้นละ เรื่อยมาอย่างนี้ ช่วยโลกเราก็ช่วยจริงๆ ไม่เอาอะไรเลย คิดดูซิดีดดิ้นทั้งวันทั้งคืน ไปตลอดเวลา ดีดดิ้นหาอะไร ก็เพื่อโลกทั้งนั้น เราไปตลอดเราไม่เอาอะไรเลย เราช่วยโลกช่วยขนาดนี้ละ เรื่องดีดเรื่องดิ้นดูจะไม่มีใครเกินหลวงตาบัว เดี๋ยวถูกนิมนต์นั้นถูกนิมนต์นี้ ไปเรื่อย ไม่นิมนต์ก็ไป ไปเรื่อยอย่างนั้นละ ไปให้ๆ ไปเอาไม่เห็นมีบ้าง ไปลำพังเจ้าของไปให้ๆ ตลอดเลย

นี่ละจิตเวลามันดำปี๋แล้วมันมืดมันบอด ได้อะไรมามีแต่จะกำๆ กิเลสพาให้กำ พาให้โกยพาให้รีดให้ไถ ธรรมะนี้เปิดออกๆ ตลอดเวลา ตรงกันข้าม ท่านจึงเรียกว่าโลกกับธรรม โลกก็คือกิเลสความสกปรก ธรรมก็คือน้ำที่สะอาดที่ชะล้างให้สิ่งสกปรกทั้งหลายค่อยจางไปและหายไป คนเราอยู่กันได้ ถ้ามีแต่กิเลสนี้แหลกไม่มีอะไรดีละ ถ้าธรรมไม่เข้าแทรก ธรรมเป็นของสำคัญมาก

เราช่วยจริงๆ ช่วยโลก ที่ดีดดิ้นอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร ออกเพื่อโลกทั้งนั้นเราไม่เอา แบตลอด จึงว่าเสียสละ ในชาตินี้เป็นชาติที่ชัดเจนมากทีเดียวที่เป็นชาติเสียสละ ไม่เอาตลอดไปเลย เสียสละๆ ตลอด ผู้ขอก็รุมเข้ามาตลอดเหมือนกันจนไม่มีอะไรจะให้ คนนั้นขอนั้นคนนี้ขอนี้ ผู้ให้จนไม่มีอะไรจะให้ หมด จะมีอะไรหลวงตา มีเท่าไรก็ออกหมดดังที่พี่น้องทั้งหลายเห็นนั่นแหละ จะถือเอาเป็นคติตัวอย่างก็ถือที่เราทำนี้ นี่ก็มีผู้มาขอจะสร้างเจดีย์เรา เจดีย์ขี้หมาอะไรเราว่าอย่างนี้เลย อย่ามายุ่งนะ เจดงเจดีย์อิฐปูนหินทรายเกิดประโยชน์อะไร

ที่เราทำให้โลกได้ดูได้เห็นเป็นคติเครื่องเตือนใจมีค่าขนาดไหน ดูอันนั้นซิ เราว่าอย่างนั้น อย่ามายุ่งนะเรื่องเรา ระลึกถึงหลวงตาบัวตาเบียอะไร ระลึกถึงธรรมที่ท่านสอนท่านพาดำเนินนั้นเอาไปปฏิบัติจะเป็นมงคลมหามงคล เราบอกอย่างนั้นละ อย่ามายุ่งนะ จะมาทำเจดงเจดีย์หลวงตาบัว เราไม่สนใจกับสิ่งเหล่านี้ยิ่งกว่าหัวใจโลกนะ เราไปทุกวันนี้เราไปเพื่อหัวใจโลกต่างหาก เราไม่ได้ไปเพื่ออะไร เราไม่เอาอะไรโลกอันนี้ ปล่อยตลอดมาได้ ๕๖-๕๗ ปีนี้ละมัง นี่ก็เคยพูดให้ฟังแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ บนหลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ เป็นวาระสุดท้ายที่ปล่อยโลกธาตุหมดจากหัวใจ แม้แต่ธาตุขันธ์อะไรไม่มีเหลือ ปล่อยไปเหมือนกันหมดเลย ตั้งแต่นั้นมาก็ช่วยโลกเรื่อยๆ ในเบื้องต้นก็มีแต่พระละรุมตามตลอด เริ่มสอนพระ จากนั้นมาก็ขึ้นบนศาลา ธรรมะมีแต่แกงหม้อเล็กหม้อจิ๋วๆ ที่ไปสอนดึกๆ ธรรมะประเภทข้างบนนี้ที่สอนพระล้วนๆ แกงหม้อใหญ่เอาประมาณไม่ได้ละ ทุกวันนี้ไม่ได้เทศน์ละธรรมะเด็ดๆ เผ็ดๆ ร้อนๆ เทศน์แต่แกงหม้อใหญ่ เราก็ช่วยอย่างนี้ตลอดมาช่วยโลก

ไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว เพราะเราไม่เอาอะไร เราบอกเราไม่เอา เราช่วยโลกทั้งนั้น มีเท่าไรหมดไปตามๆ กันเลย อย่างไปที่ไหนๆ นี้เหมือนกันได้มาเท่าไรออกหมดๆ ให้เก็บเราไม่เก็บ เก็บหาอะไร ผู้ที่หวังพึ่ง สิ่งที่ควรจะเป็นประโยชน์คือวัตถุสิ่งของเงินทองมีอยู่ เอ้า จ่ายกันไปแจกกันไปอย่างนั้นละ ใจเวลามันเปิดเปิดอย่างนั้นละท่านทั้งหลายฟังเอา ไม่มีคำว่ากำ ไม่มีเลย เปิดตลอดแบตลอดออกตลอด เพื่อให้โลกได้รับความชุ่มเย็นกันทั่วหน้า ตามที่เรามีกำลังช่วยเท่าไรเราก็ช่วยอย่างนั้นเรื่อยๆ มา สำหรับเราเราไม่เอาอะไร

แม้แต่เวลาเราตายเรายังเขียนพินัยกรรมไว้เรียบร้อยแล้ว เวลาเราตาย วัตถุไทยทานที่เขาจะมาทำบุญเพื่อเผาศพหลวงตาบัวนั้น มีพินัยกรรมแล้วนะนั่น ให้ตั้งคณะกรรมการเก็บหอมรอมริบ จตุปัจจัยได้มากน้อยเพียงไรให้เก็บหอมรอมริบมาได้แล้ว เช่นเงินเป็นต้น ได้มาเท่าไรคณะกรรมการเก็บหอมรอมริบเอาไว้เรียบหมด จากนั้นก็ยกเงินก้อนนี้ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงให้หมด นั่นฟังซิ เราไม่เอาอะไร เราจะเผาเราด้วยไฟ สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้มีชีวิตอยู่ เช่นเงินทองเหล่านี้เอาเข้าให้เป็นประโยชน์แก่โลก ที่เป็นประโยชน์สำหรับคนตายก็คือไฟ เอา เผาลงไปเท่านั้น จากนั้นดีดผึงเลย พูดให้มันชัดเจนอย่างนี้

เราปฏิบัติมาแทบเป็นแทบตาย พูดคำสัตย์คำจริงออกมาให้โลกมันฟังไม่ได้เหรอ หรือฟังได้ตั้งแต่ความโกหกหลอกลวงกันทั้งโลกนั่นเหรอ นี้เป็นคำสัตย์คำจริงที่พูดออกมานี้ เราไม่ได้โกหกใคร การปฏิบัติของเราแทบเป็นแทบตายมาตลอด เราโกหกเราเหรอพิจารณาซิ เวลาผลเกิดขึ้นมาก็ดังที่พูดนี้ฟ้าดินถล่มนั่น สมเหตุสมผลกันไหมกับการเสียสละ เป็นก็เป็น ตายก็ตาย ถึงคราวเอาเอาจริงๆ ไม่ได้เหมือนใครง่ายๆ นะ จิตใจนี้รู้สึกว่าเด็ด เด็ดอยู่มาก ถ้าลงได้ออกทางไหนแล้วขาดสะบั้นไปเลยเทียว นอกจากไม่ออก เก็บหอมรอมริบพินิจพิจารณา เรื่องความคิดความอ่านใครพูดอะไรนี้เข้าหมดๆ เก็บไว้ในความรู้สึกไม่ออก ไม่ออกง่ายๆ ละ เวลาออกนี้ขาดสะบั้นไปหมดเลย

ไม่ใช่แอ๊ะๆ ปากเปราะปากบอน ไปที่ไหนแว๊ดๆ ตีปากๆ แหละเรา เก็บไว้ไม่ได้เหรอ ที่ไม่ควรเป็นประโยชน์แสดงออกมาหาอะไร ที่จะเป็นประโยชน์ออก ควรออกหนักเบามากน้อยออก จึงเรียกว่าเก็บความรู้สึก นี่เราก็ช่วยเต็มกำลัง...ช่วยโลก เราช่วยเราก็อย่างที่ว่า เอา เป็นก็เป็นตายก็ตาย ถึงวาระมันแล้วหมุนใส่กันเลยเทียว เราไม่ถอย ว่าจริง จริง ถ้าเวลาเล่นๆ กับหมานี้ แต่เวลาเล่นกับหมาใครมายุ่งไม่ได้นะ นี่ยังไม่ปล่อยหมาเฉยๆ นะ ถ้าหมามานี้แล้วใครมายุ่งไม่ได้เล่นกับหมา เวลาของจริงหมามายุ่งไม่ได้เหมือนกัน เข้าใจไหม มันเป็นคนละวรรคละตอน เวลาเล่นกับหมาเป็นหมาไปเลยเราก็ดี เวลากับคนหมามายุ่งไม่ได้ เป็นอย่างนั้นละ จะว่าจริงหรือไม่จริงก็พิจารณาเอาท่านทั้งหลาย

ช่วยโลกเราก็ช่วยจริงๆ ไม่มีอะไรติดตัวเราเลย ได้มามากน้อยออกเพื่อโลกทั้งนั้นเราไม่เอา แบตลอด นี่เรียกว่าช่วยโลก ช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังที่ไปโน้นไปนี้ไปช่วยโลกทั้งนั้น เราไม่เอาอะไร เจ้าของไม่ได้อยู่ละวิ่งวุ่นตลอดเพื่อประโยชน์แก่โลก นี่วันนี้พอฉันเสร็จแล้วก็จะออกเดินทางไปเขาใหญ่ จากนี้ไป ๕ ชั่วโมงนะไปเขาใหญ่ เราเคยดูนาฬิกา จากวัดนี้ไปถึงที่เคยไปนี้ ที่วัดอะไรที่เขาถวายเรา ให้ท่านอุทัยไปอยู่นั้น ๕ ชั่วโมงไปที่นั่น ตั้งแต่ทางแยกใหญ่เข้าไปถึงที่วัดนี้มัน ๔๐ นาที จากนี้ถึงทางแยกใหญ่ที่จะแยกเข้าเขาใหญ่นั่นละ แยกปั๊บตรงนั้น จากนั้นเข้าไปอีก ๔๐ นาที รวมแล้ว ๕ ชั่วโมง

นี่ก็จะไปค้างที่นั่นวันนี้ วันพรุ่งนี้ก็ออกไปสวนแสงธรรม วันมะรืนก็ย้อนเข้ามา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต วันที่ ๗ ย้อนกลับมา วันที่ ๕ ไปถึงเขาใหญ่ วันที่ ๖ ออกจากนี้ไปสวนแสงธรรม วันที่ ๗ ย้อนกลับมาที่รังสิต จากนั้นถึงจะเข้าสวนแสงธรรมได้ แล้วก็ไปที่เป็นแห่งๆ ไป เทศน์เวลานี้ก็ออกทั่วประเทศนะ ออกวิทยุทั่วประเทศ ให้โลกได้เห็นได้ถือเป็นคติตัวอย่าง ที่เราทำนี้เราทำเพื่อเป็นประโยชน์แก่โลกทั้งนั้น เราไม่ได้ทำเพื่อเรา ทำเพื่อประโยชน์แก่โลก

เพราะฉะนั้นเวลาเขาปรึกษากัน เราตายแล้วจะมาก่อเจดีย์เจเดออะไรให้เรา อย่ามายุ่งนะ การที่ทำเหล่านี้เป็นเจดีย์อันลึกซึ้งมาก มีคุณค่ามากที่สุด คือเป็นคติตัวอย่างแก่โลกที่เราทำนี้ ไม่มีอะไรก่อความเสียหายแก่โลกเราพิจารณาหมดแล้ว การที่เราช่วยโลกมา เอา จะช่วย ตั้งแต่นั้นมาเราได้พิจารณาการดำเนินของเรา ว่าทำความกระทบกระเทือนแก่โลกให้เกิดความเสียหายตรงไหนบ้างไม่มี มีแต่ความภูมิใจๆ เราพิจารณาภายในใจของเราเรียบร้อยแล้วออกๆ จะออกกว้างออกแคบเราพิจารณาเรียบร้อยแล้วออกๆ ไม่ปรึกษาใครละ ก็เรียบร้อยเรื่อยมาจนกระทั่งทุกวันนี้

คราวที่เราช่วยชาติคราวนี้ก็ได้ทองตั้ง ๑๑ ตัน ๓๘๓ กว่ากิโลแล้ว มันก็ได้มาเรื่อยๆ อย่างนี้ เป็นกอบเป็นกำของที่เข้าสู่คลังหลวงซึ่งเป็นจุดใหญ่ ส่วนดอลลาร์ไม่ได้มาก ดอลลาร์ดูเหมือน ๑๐ ล้านกว่าเข้าคลังหลวงนะ ดอลลาร์ ๑๐ ล้านกว่า ส่วนทองคำ ๑๑ ตันกับ ๓๘๐ กว่ากิโล เข้าแล้ว ส่วนเงินไทยก็เคยบอกแล้วว่า เราได้นำเข้าไปซื้อทองคำ เอาเงินไทยไปซื้อ ๒ พันล้าน ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวง นอกนั้นออกทั้งหมดเงินสดนะ ออกช่วยชาติบ้านเมืองหมด ช่วยให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงเวลาตายแล้วตายง่าย เราบอกจริงๆ เราไม่ได้ตายยาก ไม่ต้องไปนิมนต์พระที่ไหนมา กุสลา ธมฺมา หลวงตาบัวตายแล้วไปไหนนา อย่ามายุ่งเรา เราพิจารณาของเราเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรมายุ่งเราได้ ถึงวาระที่เราจะตายให้เป็นตามอัธยาศัยของเราแล้ว ปั๊บเข้าร่มไม้ร่มไหนเราเข้าเลยไปเลย ไม่ยากอะไรเลย

การปฏิบัติต่อขันธ์ ขันธ์มันหมดสภาพแล้วหรือ หมดแล้วหรือสลัดปั๊วะเดียวไปเลย ไปกังวลกับมันอะไร เสียอกเสียใจนั้นนี้กับธาตุกับขันธ์ ประสากระดูกเสียใจมันอะไร ขอให้จิตเป็นหลักเกณฑ์ของตัวเองแน่นหนามั่นคงเท่านั้นพอ จะตายเมื่อไรได้ทั้งนั้นไม่เป็นกังวล ขอให้เรียนธรรมให้ถึงธรรมให้จบธรรมภายในใจ ใจกับธรรมเป็นอันเดียวกันแล้วหมดปัญหาโดยประการทั้งปวง จะอยู่จะไปไม่เป็นกังวล ถึงวาระที่จะไปแล้วไม่อยู่ว่างั้นดีดผึงเลย

นี่ก็บอกชัดๆ ให้พี่น้องทั้งหลายฟัง คราวนี้เป็นคราวที่เราช่วยชาติเต็มกำลังความสามารถของเรา หมดชีวิตคราวนี้แล้วดีดผึงจะไม่ต้องกลับมาเกิดอีกต่อไปแล้ว ประจักษ์อยู่ในหัวใจแล้ว พระพุทธเจ้า สนฺทิฏฺฐิโก สาวกทั้งหลาย สนฺทิฏฺฐิโก ขั้นสุดท้ายขั้นสุดยอดคือไม่ต้องกลับมาเกิด กิเลสขาดสะบั้นลงไป กิเลสตัวพาให้เกิด อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา พาให้เกิด อวิชชาดับลงไปแล้วไม่มีอะไรจะพาให้เกิด ขาดสะบั้นไปหมดเลย ถึงกาลเวลาแล้วดีดผึงเลย นี่พูดอย่างชัดๆ ถอดออกมาจากหัวใจมาพูดไม่ต้องไปถามใคร พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ถามใคร สาวกทั้งหลายไม่ถามใคร ใครบรรลุธรรมที่ไหนไม่ต้องไปต้องไปทูลถามพระพุทธเจ้า พอตัวๆๆ ด้วยกัน

นี้ตัวเท่าหนูก็พอตัว ไม่สงสัยในการเกิดการตายของเจ้าของบอกชัดๆ ว่าหมดชาตินี้แล้วจะไม่กลับมาเกิดอีกก็บอกชัดๆ อย่างนี้เลย มันหมดโดยสิ้นเชิง เชื้อจะพาให้เกิดคือ อวิชฺชาปจฺจยา ขาดสะบั้นลงไปแล้วจากหัวใจบนหลังเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ เวลา ๕ ทุ่มเป๋งเราลืมเมื่อไร นี่ละเป็นฟ้าดินถล่มลืมได้หรือฟ้าดินถล่ม ซัดกันมากี่ปี ตั้งแต่ออกปฏิบัติพรรษา ๗ เรียนจบ เป็นเปรียญพรรษา ๗ แล้วก็ออก ปีพรรษา ๑๖ วันที่ ๑๕ พฤษภาคม เป็นวันตัดสินกันระหว่างกิเลสกับธรรมขาดสะบั้นลงไปจากหัวใจ ตั้งแต่นั้นมาหมดปัญหาโดยประการทั้งปวง ไม่มีอะไรเป็นปัญหาในใจ หมด

การดีดการดิ้นกับโลกทั้งหลายด้วยความเมตตาต่างหาก เราไม่ได้ดีดดิ้นเพราะเรากระวนกระวายเราเป็นทุกข์ในหัวใจเราเราไม่มี หมดโดยประการทั้งปวง กิเลสเท่านั้นพาให้ยุ่งเหยิงวุ่นวาย กิเลสขาดลงไปแล้วไม่มีอะไรยุ่ง สบายแสนสบาย เข้าใจแล้วนะ เอาละให้พร ... หลวงปู่ลี ถ้ำผาแดง ถวายทองคำ ๓ กิโล ๑๙ บาท ๙๗ สตางค์ เงินสด ๓๐๕,๕๐๐ บาท เงินอังกฤษ ๒๐ ปอนด์ เช็ค ๑๑๘,๕๐๐ รวมเป็นเงิน ๔๒๔,๐๐๐ บาท ยาสามัญประจำบ้าน ๑,๐๐๐ ชุด (สาธุ) นี่ของธรรมลีเอามา เท่านั้นละ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก