สลดสังเวช ไม่ยอมเห็นโทษ
วันที่ 3 ตุลาคม 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

สลดสังเวช ไม่ยอมเห็นโทษ

ตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยา ไปกรุงเทพ จนกระทั่งกลับมาถึงนี่วันที่ ๒ ตุลา ทองคำได้ ๑ กิโล ๖ บาท ๓๔ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๗,๗๘๗ ดอลล์ ตอนบ่ายที่วัดป่าบ้านตาด ได้ทองคำอีก ๑ บาท ทองคำที่มอบเข้าคลังหลวงแล้วเวลานี้ ๕,๐๕๙ กิโลครึ่ง ทองคำที่ได้หลังจากมอบแล้วได้ ๒๒๑ กิโล ๓ บาท ๔๘ สตางค์ รวมทองคำทั้งหมดได้ ๕,๒๘๐ กิโลครึ่ง กฐินทองคำได้ ๑,๙๖๒ กอง เท่ากับทองคำน้ำหนัก ๗ กิโล ๓๐ บาท ๑ สลึง กฐินเงินสดและเช็คได้ ๕,๙๖๒ กอง เท่ากับ ๙,๕๓๙,๒๐๐ บาท ไปกรุงเทพคราวนี้เราเอาไว้ทางโน้นหมดไม่ให้เอามาทางนี้ เพราะไม่จำเป็น ควรที่จะจัดการหลอมแล้วทองคำก็ดี ตลอดดอลลาร์นะเราจะหมุนเข้าพร้อมกัน วันที่ ๒ ตุลา ตอนบ่ายที่วัดป่าบ้านตาดได้กฐินเงินสด ๓๗ กอง รวมกฐินตั้งแต่วันที่ ๒๖ กันยาจนถึงวันที่ ๒ ตุลา คือเมื่อวานนี้ได้ ๗,๙๖๑ กอง รวมกฐินทั้งหมดได้ ๑๒,๙๒๑ กอง ยังขาดอยู่อีก ๗๑,๐๗๙ กอง มันขาดอยู่นี้มันไปติดคอพวกเราเห็นไหมล่ะ ให้รีบแก้ออกนะ แก้ออกเรื่อย ๆ ไม่งั้นมันจะพันคอตายจมกันทั้งหมด

ให้เดินตามนี้เลยนะ พี่น้องทั้งหลายจำให้ดี เวลานี้เรียกว่าเป็นเวลาที่เด็ดขาดของชาติไทยเราเป็นระยะ ๆ เอ้า เปลาะไหนให้แม่นยำในเปลาะนั้นจุดนั้น ๆ เป็นระยะ จนกระทั่งจุดสุดท้ายแม่นยำปึ๋งทีเดียว แม่นยำคืออย่าให้ผิดให้พลาด ก้าวหนึ่งก็ผิดพลาด สองก้าวผิดพลาด...ล้มเหลว คือก้าวไหนไปมีแต่ผิดพลาดก็มีแต่ความล้มเหลวเท่านั้น ก้าวใดแม่นยำ ๆ แน่นปึ๋งเลย นั่นเอาตรงนั้น

ไปคราวนี้งานที่เขานิมนต์ไปเป็นเหตุเพียงเท่านั้น นอกจากนั้นหมุนติ้วกับกฐินทองคำทั้งหมดเลย ตั้งแต่ไปถึงเลย ไปถึงปั๊บนั่งปุ๊บใส่เปรี้ยง ๆ เลยจนกระทั่งวันที่ ๒ เมื่อวานนี้จะออกเดินทางมา เที่ยวหารีดกระเป๋าคนเสียก่อน จนกระทั่งในกระเป๋าไม่มีแล้วค่อยปล่อยมือ โยนกระเป๋าเข้าป่า แล้วขึ้นรถมาเมื่อวานนี้ รวมทั้งหมดจึงได้ทองคำ ๑๒,๙๒๑ กอง ที่ไปเร่งอันเดียวนี่ ไม่เอาอะไรเลย เร่ง เร่งเสียจนกระทั่ง... ทีนี้บทเวลาจะมา คือตามธรรมดาเราจะมา เราจะสั่งทุกอย่างนะ สั่งจับสั่งจ่ายในแง่ไหน ๆ สั่งจ่ายให้เรียบร้อยหมด จะควรอะไรจ่ายเท่าไร ๆ เรียบร้อยหมดแล้วถึงจะออกเดินทางมา ไปคราวนี้จวนจะกลับ ที่นี่ สั่งจ่ายตามที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว สั่งจ่าย เขาก็บอกว่าเงินไม่พอ หมด

คือเราไม่ได้มาสนใจกับอันนี้เลยยิ่งกว่ากฐินใช่ไหมล่ะ หมุนตั้งแต่กฐินตลอด ๆ บทเวลาจะกลับมานี้ ปรกติเราทำอย่างนั้นทุกครั้งนะ ต้องสั่งจ่ายทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว ทีนี้เงินเหลือเท่าไรเราก็นำมาทำประโยชน์ทางนี้ ไม่ได้เอาไปไหนนะ ออกทางโน้นมาทางนี้ก็มาทำประโยชน์ทางนี้ แล้วทำประโยชน์ย้อนหน้าย้อนหลังทั่วประเทศไทย เงินที่เศษที่เหลือมาน่ะ แต่ไปคราวนี้พอเราสั่งไปเรียบร้อยแล้ว คำตอบกลับมาว่าเงินไม่พอ ตกลงเงินเขาติดตัวไปจากทางนี้บ้าง ติดตัวไปจากอุดร เอามาให้หมด เราบอกอย่างนี้เลย ตรงไหนไม่ได้อะไร ให้ติดหนี้กฐินเสียก่อน คือเอาเงินกฐินออกมาจ่ายตามที่เราสั่ง เคลื่อนไม่ได้นะ เอาอีกนะนี่ จี้เลย ที่เราสั่งทั้งหมดนี้ต้องจ่ายตามนี้ทุกกระเบียด ถ้าไม่พอจริง ๆ เงินที่เขาติดมาจากอุดรกับเขาสักเท่าไรก็ไม่ทราบแหละ เขาเคยติดตัวไป เวลาจำเป็นอย่างนี้แหละให้เอามา ต้องเอาเงินนั้นไปจ่าย ๆ แล้วกลับมาเมื่อวานนี้

พึ่งมีหนเดียวนี่นะ อันนี้เราไม่ได้ตำหนิใคร ถ้าตำหนิก็ต้องตำหนิเรา เพราะเราเป็นผู้สั่งทั้งหมด ไม่ได้ยุ่งกับเงินเหล่านี้ มีแต่จี้ใส่กฐินอย่างเดียว อะไร ๆ มีแต่กฐิน ๆ บทเวลาจะมา สั่งจ่ายอีกแหละ เราเป็นเจ้าของสั่งจ่าย เขาบอกเงินไม่พอ สุดท้ายก็กว้านเอามาจนพอ คือก่อนที่จะมาต้องสั่งจ่ายทั้งหมด ในบริเวณวัดนั้นมีอะไร ๆ เราเป็นผู้สั่งจ่ายแต่ผู้เดียวเรียบร้อยแล้วก็มา ก็เงียบ ๆ เหมือนไม่ได้สั่งจ่ายอะไรนะ แต่มาเมื่อวานนี้มันเกิดเหตุถึงได้นำมาพูด เอาเสียจนกระทั่งไม่มีอะไรติดเนื้อติดตัว ไปกว้านเอาเงินของเขาทางโน้นมา ยังบอกอีก ถ้ายังไม่พอให้ยืมกองกฐินเสียก่อนโน่นน่ะ กฐินที่เราได้นี้มีมากแล้ว ไปยืมกองกฐินมาเท่าไรจดให้ดี เอามาจ่ายให้หมดทุกบาททุกสตางค์ ตามที่เราสั่งนี้เคลื่อนไม่ได้นะ นั่น แต่นี้ก็ไม่ได้ยืมกองกฐินสักสตางค์แหละ เขาหามาจ่ายจนได้ คราวนี้ถึงได้นำมาพูด เพราะแต่ก่อนเรียบร้อยไปเลย พูดหาอะไร เราเป็นคนสั่งอย่างนั้นตลอดมานะ จ่ายมากจ่ายน้อยอยู่ในดุลยพินิจของเราทั้งหมด เรียบร้อยแล้วสั่งจ่าย เสร็จแล้วมาเลยๆ นี่การทำประโยชน์ให้โลกทำอย่างนี้แหละ ถึงได้นำมาพูดเรื่องราวเมื่อวานนี้

ต่อไปนี้พากันเร่งนะ เรื่อย ๆ เลย แต่เราแน่ใจ เพราะเราเคยเชื่อลูกศิษย์เรามาทั่วประเทศไทยตลอดมา ไม่เห็นความเคลื่อนคลาดอ่อนแอพอที่จะให้เกิดความอิดหนาระอาใจ แล้วหมดกำลังใจที่จะเป็นผู้นำต่อไป ไม่มี มีแต่เอานะ ผึงเลยเทียว บางทีกำปั้นกำลังกำข้าวจะเอาเข้าปาก ฟาดทั้งข้าวทั้งกำปั้นใส่เลย เข้าใจไหม คือหัวหน้าบอกว่าเอานะ กำลังกำข้าวจะใส่ปาก พอว่าเอานะ ทั้งกำปั้นทั้งข้าวฟัดเลย เรียกว่าไม่ถอย เวลาหัวหน้านอน ทางนั้นก็อืดอาด ๆ เข้าซุกหัวในกระดองเหมือนเต่า พอทางหัวหน้าลุกขึ้น แอ้ม คึกคักออกจากกระดอง ขึ้นบนหลังกระดองเต่า พอว่าเอานะ ผึงเลยที่นี่นะ เต่าปัดลงทะเลเลย ใส่เปรี้ยง ๆ นี่เราเชื่อบรรดาลูกศิษย์เราเป็นอย่างนี้จริง ๆ ไม่ใช่พูดเล่นนะ ถ้าเวลาธรรมดาก็ธรรมดา ถ้าว่าเอานะก็ผึงเลย นี่ก็เจ็ดหมื่นกว่ากองเราเชื่อแน่อย่างไรต้องได้

อันนี้เราก็ได้ทราบว่า ทางนายกรัฐมนตรีท่านสั่งการมาทางผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ๆ ให้ต่างคนต่างเอาใจใส่ช่วยเหลือชาติบ้านเมืองของเรา โดยใครจะได้มากน้อยเพียงไรก็ตามในนามของแต่ละจังหวัด ๆ แล้วก็รวบรวมมาทอดกฐินในวัดป่าบ้านตาดวันที่ ๒๖ นั้น ทราบว่าสั่งการมาแน่นอนแล้ว ทุกจังหวัดเลย แล้วแต่จังหวัดไหนจะได้มากน้อยเพียงไร แล้วก็มารวมที่นี่

วันที่จะมาก็ดูว่า นายกติดธุระ เลยให้บริษัทบริวาร นายกเป็นผู้สั่งเองให้มากฐินนี้ในนามของนายก สำหรับนายกเองจะไม่ได้มา ติดธุระ เราเองก็ไม่อยากกังวลกับนายกนะ เพราะงานของท่านเป็นงานที่สำคัญ ๆ เพื่อชาติบ้านเมืองทั้งนั้น ท่านหมุนติ้ว ๆ ตลอดเวลา งานนี้จึงไม่อยากรบกวน แต่นี้เป็นเรื่องของท่านเองเป็นผู้สั่งมา เราก็รับทราบตามที่สั่งมาแล้วนี้ วันที่ ๒๖ คณะผู้แทนของนายกจะมาวันนั้น

ไปคราวนี้เราเป็นคนสั่งอีกเหมือนกันดอลลาร์ไม่ให้เอามา คือดอลลาร์ตามธรรมดาถ้ามีมากทางโน้น แบ่งมาทางบัญชีนี้ ถ้าบัญชีทางนี้มากแบ่งไปทางบัญชีโน้น ให้เสมอกันมาตลอด นี่หมายถึงบัญชีดอลลาร์นะ สำหรับทองคำถ้าได้ทางนี้ก็เก็บ ๆ ไว้ก่อน เอาเข้าตู้นิรภัยเรียบร้อยแล้ว พอถึงเวลาจะไปก็นำไปพร้อม ถ้าได้ทางโน้นก็เอาไว้โน้นหมดมาตลอดนะ คราวนี้ก็เอาไปเข้าไว้ตู้นิรภัยแล้ว สำหรับทองคำเป็นอันว่าไว้ทางโน้น ๆ ตลอดมา ส่วนดอลลาร์แยกบ้าง คราวนี้ดอลลาร์ก็ไม่แยก ให้เข้าหมด ส่วนกฐินไม่ต้องพูด เพราะกฐินจะรวมบัญชีทางโน้น มอบบัญชีทางโน้นหมดเลย บัญชีเงินสดที่จะซื้อทองคำเข้าสู่กองกฐินนี้ จะให้เอาเข้าบัญชีทั้งหมด เพราะฉะนั้น เช็คเราทั้งหมดที่เขาถวายมาเพื่อกฐิน เราจึงมอบทางนู้นทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ให้เข้าบัญชีทางโน้นหมด

ต่อไปนี้ทองคำเราได้เท่าไรให้ริบรวมไว้เรียบร้อย ๆ พอถึงเวลาที่จะหลอมแล้วให้บอกมา เมื่อพร้อมแล้วที่จะหลอม หรือหากว่าทางนี้มีทองคำมากน้อยเพียงไรก็จะให้คนรีบไปส่ง ความหมายว่างั้น ให้บอกมา ก่อนที่จะหลอมทองให้บอกมาว่าได้ทองสักเท่าไรแล้ว ก่อนจะหลอมให้บอกมา ถ้าหากว่าทางนี้มีอยู่เราก็จะให้ทางนี้ไปส่ง จากนั้นก็ให้หลอมเลยก่อนงานธนาคารชาตินะไม่ใช่งานกฐิน งานธนาคารชาติกำหนดวันที่ ๑๐ ธันวา เราจะให้หลอมทองเสร็จเรียบร้อยก่อนงานนี้ เพราะฉะนั้นเรามีทองเท่าไรทางนี้ จึงรีบส่งไปให้ทางโน้นหลอม เราแน่ใจแล้วว่าทองคำต้องได้ ๕๐๐ กิโล เพราะว่ากฐินผ่านไปจะได้มากอยู่ ตั้งแต่เรามีอยู่แล้วก็ ๒๘๐ กิโลครึ่ง กับจำนวนกฐินได้มาเท่าไรแล้วเอามารวมกัน พร้อมทั้งเอาเงินนี้ไปจ่ายคือซื้อทองคำมา ได้เท่าไรก็หลอมหมดเลยให้เสร็จก่อนงาน

วันมอบนั้นอย่างน้อยต้องให้ได้ ๕๐๐ กิโล ตั้งฐานไว้เลย ๕๐๐ กิโล เศษเหลือเท่าไรเวลาหลอมเรียบร้อยแล้ว ถ้าเศษเหลือเป็นทองแท่ง แท่งหนึ่งมีน้ำหนัก ๑๒ กิโลครึ่ง เศษเหลือกี่แท่ง ๆ จาก ๕๐๐ กิโลนั้น เอาเข้ากันทั้งหมดเลย คือเพิ่มจาก ๕๐๐ ขึ้นไปเรื่อย ๆ เว้นแต่ทองที่มันเรี่ยราดอย่างว่า ยังไม่ได้หลอมอย่างนั้นไม่เอา เก็บไว้หลอมทีหลัง ส่วนที่หลอมเรียบร้อยแล้วเป็นแท่ง มันจะเหลือจาก ๕๐๐ กิโลไปกี่แท่งเอาเลย นี่เราได้กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ยังไงต้องได้ทองคำ ๕๐๐ กิโล แต่ก่อนก็ได้ ๕,๐๕๙ กิโล คราวนี้ก็ต้องได้ ๕,๕๐๐ ขึ้นไป ติดเข้าไป แล้วจะหนักเข้าไปเรื่อย ๆ นะ เพราะจวนเข้ามาแล้ว

ไปคราวนี้ถึงว่าหมุนสำคัญอยู่นะ หมุนเพื่อกฐินนี่แหละ หมุนไม่หยุดไม่ถอยเลย คราวหน้าไปก็ไปเพื่อฉลองวันครบรอบ ๖๐ ปีของธนาคารชาติ จึงจัดทองคำให้เรียบร้อยก่อนหน้านี้ ตลอดถึงดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์ขาดเท่าไร เช่นกำหนด ๓ แสน ขาดเท่าไรเราก็จะรีบริบรวม เวลานี้ก็ได้ ๒ แสนดอลลาร์แล้ว แสนที่สามยังมีปัญหาอยู่ ถ้าหากว่าควรที่จะขยับได้ก็จะขยับ เช่น ถอนเอาเงินในโครงการออกมาซื้อดอลลาร์นี้เราก็ถอน ตามจำนวนที่จะพอถอนได้ซื้อได้ ถ้ายังไม่พอ ได้เท่าไรเราก็เอาเท่านั้นเข้าเลย เช่น สองแสนเป็นอันว่าเข้าเลย เศษเหลือไปเท่าไรเราก็เพิ่มเข้าอีก ตามกันไปกับทองคำ ๕๐๐ กิโล กรุณาทราบตามนี้ก็แล้วกัน

คราวที่แล้วนั้นตั้งสามแสนนะ ก็ได้เอาเงินจากโครงการมาซื้อดอลลาร์ ๑๐ ล้าน ได้ดอลลาร์มาครบ ๓ แสนพอดี ก็ได้เข้าพร้อมกันกับการมอบทองคำ คราวนี้จะมอบทองคำถึง ๕๐๐ กิโลนี้ก็ คิดว่าดอลลาร์นี้ยังไงไม่ต่ำกว่าสองแสน เพราะในบัญชีมีเรียบร้อยแล้วสองแสน กว่านิดหน่อย แสนที่สามยังเป็นปัญหา มันไม่พอเท่าไรเอาอันนั้นเข้าเลย เช่นสองแสนสองหมื่นหรือสามหมื่น เข้าไปเลยไม่เก็บไว้ เงินสองหมื่นสามหมื่นไม่เก็บ เอาเข้าเลย ถ้ามันควรจะถึงสามแสนก็เอาเลย กรุณาทราบตามนี้นะ

พวกที่อยู่อุดรได้ฟังเสียงหลวงตาพูดทางกรุงเทพฯไหม เฉพาะวันที่พวกหัวโล้นเดินขบวนนั่นน่ะ

โยม ไม่ได้ฟังเจ้าค่ะ เพราะว่าหนูกลับมาก่อนเจ้าค่ะ

หลวงตา เราพูดที่กรุงเทพฯ ก็คิดว่าจะออกแล้วนะ พูดเมื่อวันที่ ๓๐ หรือวันที่ ๑ วันที่ ๓๐ ละมั้ง เราพูดที่กรุงเทพฯ เกี่ยวกับเรื่องพระเดินขบวน เราออกเทศน์กระจายทั่วประเทศไทย

โยม วันที่ ๑ ครับ หนังสือพิมพ์เขาไปลงแล้วครับ วันที่ ๒ ลงแล้วครับ ไทยโพสต์

หลวงตา โอ๋ ถ้าหนังสือพิมพ์ลงแล้ว วิทยุแสดงว่าออกไปแล้ว ฟังตามนั้นก็แล้วกัน เราเป็นผู้ออกเอง พูดติดเทปแล้วเขาก็ออกทางวิทยุ วันนี้จึงไม่พูดมากอะไรเกี่ยวกับเรื่องพระเดินขะบงขบวน เราได้เทศน์มากพอสมควรแล้ว ถึงขั้นในหลวงเลยวันนั้น ถึงขั้นในหลวงก็คือว่า ในหลวงพระราชทานยศให้เป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณ แล้วพวกเจ้าฟ้าเจ้าคุณนี้ดินเหนียวติดหัวมัน มันเข้าใจว่าตัวมีหงอนก็เบ่งอำนาจ แล้วขึ้นไปเหยียบหัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะว่าเหยียบพระเศียรเราไม่อยากพูด คือให้มันรับกันกับความหยาบโลนนี้ เหยียบหัวในหลวงว่าอย่างนี้นะ พระองค์ทรงตั้ง แต่เราไม่สอดเข้าไปอีกเท่านั้น อันนี้รอให้เป็นจังหวะจึงยังไม่ออก คำว่าออกว่าคือยังไง ในหลวงพระราชทานยศให้แล้วขึ้นไปเหยียบในหลวง ปัดยศตีหัวมันแล้ว โยนมันลงทะเลทั้งหมด เข้าใจไหม

นี่ในหลวงท่านไม่ทรงทำอย่างนั้นนับว่าพระเมตตามาก แต่เราไม่พูดจุดนี้นะ คือวางไว้เป็นระยะ ๆ ถึงเวลามันจะออกมันก็ออกเองแหละ ด้านไหนที่เก็บไว้ก่อนมันก็ออก มันรู้อยู่ในตัวของมันเอง เราพูดช่องนี้เสียก่อน พระเดินขบวนคราวนี้ แหม สร้างความเสื่อมเสียแก่ชาติไทยของเรา ซึ่งเป็นชาติสงบเสงี่ยมด้วยเป็นลูกศิษย์พระ พาให้สงบเสงี่ยมงามตาตลอดมา แล้วคราวนี้กลับเป็นฟืนเป็นไฟเผาทั้งชาติทั้งศาสนาไปพร้อมกัน โดยพระไม่ใช่ตำแหน่งธรรมดา สมณศักดิ์เป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานยศให้ แล้วเอายศนั้นไปเหยียบหัวประชาชนย้อนเข้ามาเหยียบหัวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีก มันจึงน่าสลดสังเวชเอามากทีเดียว เพราะเรื่องพระ แม้แต่ฆราวาสเขาผู้ไม่เคยบวชเขาก็รู้ว่าพระเป็นยังไง เห็นพระจิตใจมันอ่อนลงไปทันทีนะ เพราะอำนาจแห่งธรรม ผ้าเหลือง สีผ้าเหลืองนั้นเป็นสำคัญมาก อ่อนลงไปเลย เพราะพระเป็นเพศที่งามตางามใจ สงบเย็นใจ โลกเห็นแล้วเกิดความชุ่มเย็น ทุกสิ่งทุกอย่างอ่อนไปเพื่ออรรถเพื่อธรรมทั้งนั้น

แต่พระประเภทนี้ พระพวกนี้อยู่ในเมืองไทยเรา ออกประกาศตน เหยียบย่ำจนกระทั่งถึงวงรัฐบาลเบียดเสียดเข้าไป เหมือนหนึ่งว่าจะบีบบังคับให้รัฐบาลปฏิบัติตาม ที่เราจับมือรัฐบาลเซ็นไปอย่างนั้น มันหนักเข้าไปอย่างนั้นนะ หยาบโลนเอามากทีเดียว เพราะในหลักพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าจริง ๆ ไม่มี ว่างั้นเลย ตัดขาดสะบั้นเลยว่าไม่มี แต่มันก็มีขึ้นมาอย่างจัง ๆ เห็นต่อหน้าคนไทยทั้งชาตินี้ แล้วจะไม่ให้พูดได้ยังไง ผู้ทำทำผิดจนโลกจะพินาศ มีความสะเทือนสะท้านหวั่นไหวในจิตใจของชาวพุทธในเมืองไทยทุกคน มันหนักไหมโทษ การพูดออกมาตามเรื่องโทษเรื่องกรรมของผู้ทำนั้น มันผิดไปที่ตรงไหน การพูดอย่างนี้ไม่ได้ผิด เราพูดตามหลักความจริง แล้วผู้เหล่านี้มีแต่เรียนมาทั้งนั้น ไม่ใช่นาย ก.ไก่ นาย ข.ไข่ นาย ข.นาย ง.นะ มีแต่พวกมหาเปรียญ จากนั้นก็ตั้งยศเป็นเจ้าฟ้าเจ้าคุณขึ้นไป แล้วก็มาทำให้เด็กอมมือเขาดู เขาดูได้ยังไง นี่ซิมันน่าทุเรศ น่าพูดเราก็พูดเอาบ้าง เพราะเราก็อยู่ในนามมหา

วันนั้นก็ดูว่ามีมหาออกด้วยนะ เราก็เรียนเหมือนกันนี่ เป็นมหาด้วย ว่าอย่างนั้นนะ เวลาจะทำนี้ก็ต้องทำบ้าง เข้าใจไหม มาอวดกันได้เหรอ มันเรียนมาด้วยกันนี่นะ ผิดตรงไหนมันรู้ทันทีนี่วะ แล้วมาทำหน้าด้านนี้มันดูได้เหรอ เราจึงแน่ใจว่าออกแล้วละทางวิทยุก็ออกแล้ว โอ๊ย.สลดวังเวชมากทีเดียวนะคราวนี้พระเรา ถึงอย่างนั้นยังได้ยินแว่ว ๆ มาบอกว่าผิดพระวินัยเล็กน้อย ว่าผิดพระวินัยเล็กน้อย มันเอาพระวินัยที่ไหนมาพอให้ผิด เราก็ว่ามันเหยียบจนกระทั่งหัวพระเจ้าแผ่นดิน มันกระเทือนมากขนาดไหน แล้วพระวินัยข้อไหนๆ พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงบัญญัติให้ไปเหยียบหัวพระเจ้าแผ่นดินใช่ไหม แต่พระวินัยอันนี้มันเอามาจากไหนไปเหยียบหัวพระเจ้าแผ่นดิน มันบอกว่าผิดพระวินัยเล็กน้อยมันว่าอย่างนั้น เล็กน้อยโคตรพ่อโคตรแม่มึง เราอยากว่าอย่างนี้เข้าใจไหม ว่าธรรมดามันไม่ถึงเข้าใจไหม มันต้องยกโคตรมาช่วยซิเราก็ดี มันขนาดนั้นนะ

มันสลดสังเวชจริง ๆ นะเรา โอ๊ย.ดูแล้วดูไม่ได้เลย เรื่องนี้มันก็เลวไปหมดเลย อันนี้ออกมาเหยียบเลวไปหมด แทนที่จะประกาศศักดาตัวเอง มันเลยกลับประกาศความเลวให้ประชาชนชาวไทยชาวพุทธ ตลอดเมืองนอกเมืองนาได้เห็นทั่วหน้ากัน ปลงธรรมสังเวชด้วยกันหมด นี่เป็นยังไงโทษมันร้ายแรงขนาดไหน พิจารณาซิ ยังจะมาอวดว่าผิดพระวินัยเล็กน้อย

โยม เขาจะไปร้อง ปปป.มาสอบหลวงตา

หลวงตา ก็ให้มันเอามาทั้งโคตรมันซิ มาว่าอะไร ปปป.มีกี่โคตร ให้ไปสำมะโนครัวโคตรมันทั้งหมดเสียก่อนแล้วค่อยมาหาหลวงตาบัว หลวงตาบัวจะไม่ไปหาโคตร หลวงตาบัวจะออกสนามคนเดียวเข้าใจไหม ให้มันมาทั้งโคตรมัน ขบขัน เขาจะเอา ปปป.มาสอบหลวงตาบัว ปปป.สอบหลวงตาบัว ก็จะว่าหลวงตาบัวนี้ที่เขาเอาเงินมาให้นั้น เอาไปไว้ที่ไหนหมดให้มาสอบ ความหมายเขาว่าอย่างนั้นนะ คือมาสอบบัญชีหลวงตาบัว เราจะเอาบัญชีนี้ตีหน้าผากหมดทั้งโคตรมันเลยนะ ตั้งแต่โคตรพ่อโคตรแม่มึงยังไม่ได้มาดูบัญชีของกู มึงอวดดีกว่าโคตรมึงมาจากที่ไหนจะมาตรวจดูบัญชีกูนี้ ฟาดปั๊วะเสียก่อน ไปเอาโคตรมึงมาเสียก่อนกูจึงจะให้บัญชีดู อย่างน้อยเราอนุโลมให้ดูบัญชี มากกว่านั้นตี ๒ ปั๊วะ ๓ ปั๊วะเสียก่อน

มันทำท่าไปอย่างนั้นแหละ มีแต่ขู่ ๆ ไป หาความดิบความดีที่เป็นสาระเพียงเล็กน้อยเราไม่เห็น เราพูดจริง ๆ เราพูดในฐานะความเป็นธรรมและลูกศิษย์ตถาคตด้วยกัน เรียนอรรถเรียนธรรม เรียนเพื่อความเข้าอกเข้าใจ เพื่อแก้เพื่อไขจริง ๆ ไม่ได้เรียนเพื่อความหน้าด้านอย่างนี้นะ เราเรียนมาจริง ๆ ปฏิบัติมาจริง ๆ ทีนี้มันผิดถูกข้อไหนมันก็รู้ด้วยกัน ๆ แล้วทำไมมันจะไม่รู้ แล้วที่จะมาตรวจนั้นน่ะ มันเอาความดิบความดีที่ไหนมาอวดโลก พอจะให้เขาได้หยิบขึ้นมาพิจารณา ไอ้พวกนี้เขาก็มีความดีนะ อย่างนั้นอย่างนี้ เอามาเสนอเพื่อจะได้พิจารณาความดีของเขาใช่ไหม นี่มันไม่มีอะไรเลย ฟังซิน่ะ ทางชาติก็มีแต่คอยจะโจมจะตี จะฟัดจะเหวี่ยงจะเอาให้จม ทำความดีเท่าไรต้องได้รับความคัดค้านจากพวกเปรตนี้ทั้งนั้นนะ ที่จะอนุโมทนาตามความดิบความดีที่เป็นความจริงนี้ไม่มี นี่ก็เป็นความชั่วของมันอันหนึ่ง

มันไม่ได้เอามาแจงเลย ความดีของมันไม่มีจะแจง มันก็มีแต่เรื่องหาเตะหาถีบคนอื่น ทางรัฐบาลก็ถูกเตะไม่ถอย เรื่องศาสนาก็จะเอาให้จมอีก จะมารื้อถอนธรรมวินัยเสียใหม่ มันจะมาตั้งอำนาจบาตรหลวงขึ้นมาใส่ธรรมวินัยใหม่ ที่ว่าให้รื้อถอนออกให้หมด เราเองเป็นคนสั่ง ก็มันดูด้วยกันหลักธรรมหลักวินัย ไม่ดูได้ยังไง มาค้านได้ยังไงไม่ดู นี่เขาเอาออกมามีในธรรมวินัยข้อไหน ๆ มันก็บอกหมด แล้วธรรมวินัยคือศาสดาองค์เอก แคล้วคลาดปลอดภัยมาตั้งแต่องค์ศาสดาที่ตรัสรู้ทีแรกมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ มีความอบอุ่นแก่โลก ให้ความอบอุ่นแก่โลกมากเท่าไร อันนี้มันมีอะไรมาแข่งกัน มันก็ไม่มีเลย

นี่ความดีนิดหนึ่งก็ไม่มี แต่ถ้าใครทำดีที่ไหนมันไปคัดไปค้านต้านทาน ๆ เพื่อทำลายโดยถ่ายเดียว ๆ จะไม่เรียกว่าเลวได้ยังไง ใคร ๆ มันก็มีหูมีตาด้วยกันทุกคน เรียกว่า เลว อย่างสมบัติเงินทองพี่น้องทั้งหลายที่นำเข้าสู่คลังหลวงเวลานี้ พวกนี้มันเอาสักสตางค์ มาประกาศตนว่าได้เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นเครื่องยืนยันว่า เราก็ได้สร้างความดี พอจะยืนยันบ้างว่า หลวงตาบัวบกพร่องตรงไหน เข้าใจไหม นี่มันก็ไม่มี มันก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ปอๆ.แป ๆ อะไรก็ไม่รู้แหละ เข้าใจเหรอ คุยโม้ไปอย่างนั้นแหละ มันกลัวมันสงวนเหมือนกันแหละ โคตรของมัน มันกลัวโคตรมันจะฉิบหาย ถ้ามาหาหลวงตา ซัดจริง ๆ แหละเข้าใจไหม ถึงบอกให้ไปสำมะโนครัวโคตรเสียก่อน แล้วค่อยมาถามบัญชีหลวงตาบัวว่าจ่ายไปเท่าไร ๆ ปั๊วะหนึ่งสองปั๊ว ปั๊วะที่สามจึงบอกว่าเอาเข้าพุง นี่อนุโลมนะ ตีมันตายแล้วค่อยกุสลามันด้วย คำว่าพุงหลวงตาบัวนี้คือคนทุกข์ คนจน ทั่วประเทศไทย ที่หลวงตาบัวช่วยเหลือมา จนกระทั่งคนทุกข์คนจนเข้าสู่โรงพยาบาล รายไหน ๆ หลวงตาบัวไม่เคยปัดแม้รายเดียว

คนทุกข์คนจนเจ็บไข้ได้ป่วยเหมือนโลกทั่ว ๆ ไป แต่ไม่มีเงินมีทองค่าเยียวยารักษาอะไรนี้ มาขอพึ่งเรา เรารับหมด ฟังซิว่า หมด ไม่มีปรากฏว่าเราปัดรายไหนเลยนะ คนไข้ นี่ก็คือคนทุกข์คนจน นี้ก็คือพุงหลวงตาบัวเข้าใจไหม เงินหลวงตาบัวเอาไปเข้านี้ ๆ จากนั้นสถานสงเคราะห์มีจำนวนเท่าไร โรงร่ำโรงเรียนกี่สิบหลังนั้นคือ พุงหลวงตาบัว เข้าใจเหรอ เงินทุ่มลงไปในนั้นแหละ ๆ ในนั้น ๆ ก็คือพุงหลวงตาบัว สถานสงเคราะห์กี่หลังนั้นคือพุงหลวงตาบัว จากนั้นก็ที่ราชการ ถ้ายังไม่เห็นจริง ๆ ให้มาดูที่สถานีรถไฟเมืองอุดรธานี เห็นไหม นั่นก็พุงหลวงตาบัว แล้วดูทุกแห่งทุกหนไปแล้วก็ไปดูโน้นอีก ที่ลาดยาวเวลานี้กำลังจะสร้างตึกให้นักโทษหญิงอยู่ ๒ หลัง หลังละ ๓ ชั้น จะเป็นเงินเท่าไร นั่นก็คือพุงหลวงตาบัวเข้าใจไหม เงินจะไปทุ่มลงที่นั่นคือพุงหลวงตาบัว ที่ไหนไปหมด

จากนั้นให้ไปดูตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ห้องน้ำห้องส้วมเราช่วยทั้งนั้น เครื่องไม้เครื่องมือ รถราอะไร ๆ สถานที่ต่าง ๆ ที่มันแคบซื้อเพิ่มให้ ๆ ควรที่จะซื้อให้หมด เราก็ซื้อให้หมดเป็นโรงพยาบาล นั่นก็คือพุงหลวงตาบัว มีแต่พุงหลวงตา ทีนี้ไล่ไปให้มันไปเที่ยวหาดู มันคงดูไม่หมด มันจะตายก่อนโคตรแซ่มันด้วยซ้ำไปนะ เพราะโคตรแซ่มันไม่ได้ไปดู มันไปดูเองมันก็ตายก่อนโคตรแซ่มันละซิ เข้าใจไหม นี่ยังไม่หมดนะ ดู ๆ ฟังซิ ทีนี้เราก็สร้างพุงของเราไม่ถอยเหมือนกัน พุงหลวงตาบัวก็ดี เวลานี้กำลังสร้างอยู่ไม่ทราบกี่หลังนะ เท่าที่กำหนดได้ก็ โนนสัง ตึกโรงพยาบาลนะ โนนสัง ๑ ตึกใหญ่ และท่าอุเทน ๑ ตึก แล้วทีนี้กำลังอยู่ทางโน้นอีก ทางจังหวัดพังงาก็ ๑ ตึก นั่นมีแต่พุงหลวงตาบัวนะ ทีนี้รถราก็เหมือนกันทางภาคใต้ก็เสมอกันหมด

เราไม่มีภาคนั้นภาคนี้นะ ไม่มี ลูกของคนไทยเรา จะเป็นภาคใด ๆ เท่ากับแขนซ้ายแขนขวา ข้างบนข้างล่างของอวัยวะนั้น ๆ นั่นเอง จะตำหนิภาคใดไม่ได้เป็นอันขาด คนไทยเมื่อยอมรับความเป็นไทยแล้ว ต้องเป็นอวัยวะของชาติไทยด้วยกันทั้งหมด จะไปตำหนิภาคนั้นภาคนี้ที่เขาดีอยู่ ไปตำหนิด้วยความเย่อหยิ่งจองหองไม่ได้เด็ดขาด ทำลายชาติบ้านเมืองแหลกเลย ความตำหนิประเภทนี้นะ เพราะฉะนั้นเราจึงกล้าพูดว่า เราช่วยทุกภาค นี้แหละมีแต่พุงของเราเต็มไปหมดนะเวลานี้ นี่เห็นไหม เราก็จะบอกนี่แหละพุงของหลวงตาบัว มีอยู่อย่างนั้นไปหาดูเอา ว่าอย่างนั้น นี่ตีได้ ๓ ปั๊วะ ๔ ปั๊วะ จนหัวมันแตกแล้ว หูมันยังคงติดอยู่บ้างนะ คงจะได้ยิน หัวแตกแล้วหูข้างหนึ่งยัง มันคงจะได้ยิน เราจะตีอย่างนี้นะ ให้บอกกันเลย ไปตีเกราะประชุม ไอ้หมู หมา เป็ด ไก่ ไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง มาฟังประชุมด้วยกันหมด ว่าเขาพวก ปอ ๆ แป ๆ เขาจะมาตรวจบัญชีหลวงตาบัว สูรู้หรือยัง หลวงตาของสูกำลังจะถูกตรวจบัญชี ให้ไปถามไอ้ปุกกี้ไอ้หยองดูนะ เข้าใจเหรอ เขาจะมาตรวจบัญชี ตีเกราะประชุม แต่เราไม่ประชุมหัวมันละ เราอยากตีหัวก็ตีเลยไอ้หยองเข้าใจไหม นี่พูดสนุก

เราไม่มีอะไรกับใคร พูดได้ทั้งนั้นตามหลักความจริง ๆ พูดแล้วหายเงียบเลย เราไม่มีอะไรกับใคร ใครจะมีกับเราเท่าไร เราไม่มีเราก็บอกไม่มี สามแดนโลกธาตุนี้ไม่มีอะไรมาผ่านหัวใจเราได้เลย มีแต่ธรรมสง่างามตลอดเท่านั้นแหละ เราจึงสลดสังเวชที่แสดงความโหดร้ายไม่ยอมเห็นโทษ ยังจะเพิ่มความโหดร้าย มิหนำซ้ำจะมาตรวจบัญชีของหลวงตาบัวเข้าไปอีก ยิ่งเพิ่มเข้าไปอีก เข้าใจไหมล่ะ เอาละวันนี้เพียงเท่านี้ก่อน

โยม เสือก็ช่วย หมาก็ช่วย บางครั้งอาหารปลาอีก

หลวงตา โอ๊ย ทุกอย่าง พวกนี้ไปหาพุงหมาไม่ได้ ไล่มันลงน้ำ ก็ไปหาพุงปลาที่เราไปช่วยปลาเท่าไร ขึ้นบนบกก็สัตว์ ไปหมดนั่นละ พุงของเรามีอยู่ทั่วไปหมด

โยม หลวงตาครับ ผมมาจากบ้านเด็กแสงตะวัน นำหนังสือมากราบหลวงตา

หลวงตา ตะวันอะไร ก็มาหลายหน ครั้งหนึ่งก็มาขออะไรอีก ว่าสร้างอะไรยังไม่เสร็จ สร้างไม่เสร็จสร้างหาอะไร ถ้าไม่คำนวณให้มันเสร็จเสียก่อน สร้างหาอะไร แล้วสร้างแล้วเพื่อจะมาขอหลวงตาบัว หลวงตาบัวไม่ให้ เข้าใจเหรอ นี่แบกอยู่เดี๋ยวนี้ พูดอยู่เดี๋ยวนี้มีแต่แบก ควรจะหากันได้คนทั้งบ้าน หาตึกหลังเดียวไม่ได้มันบัดซบเกินไปแล้วนะ ไปบอกชาวบ้านตีเกราะประชุมก็ได้ไป สูบัดซบ หรือหมาสูบัดซบถามว่างั้นนะ ถ้าไม่บัดซบตึกหลังนี้มันควรจะได้แล้วให้ว่างั้นนะ ยุ่งมากจริง ๆ นะ ไปเท่านั้นแหละ ไม่วินิจฉัยมากอะไรนะ เราช่วยโลก เราแทบเป็นแทบตายจนไม่มีอะไรติดเนื้อติดมือ พวกที่มาขอมาแทบทุกวันรอบด้านเลย แล้วเอาเงินที่ไหนมาให้ มันไม่ใช่น้ำมหาสมุทรทะเลหลวง ก็เงินในกระเป๋าคน เลิกละที่นี่


 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก