ที่ให้ผู้กำกับอ่านให้พี่น้องทั้งหลายทราบนี้คือ ให้เอาข้อเท็จจริงเทียบกันกับคำที่เขากล่าวอย่างนี้ ๆ กับข้อเท็จจริงของเราที่ทำยังไง ให้ท่านทั้งหลายได้ฟัง เอานี้มาเทียบกันเท่านั้นเองเข้าใจไหม (ข่าวหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ลงวันที่ ๔ ต.ค.๔๕) สำหรับเราแล้วไม่มีปัญหา ในสามแดนโลกธาตุนี้ไม่มี ใครจะมาว่าเราเป็นอรหงอรหันต์อะไรเราก็ไม่สนใจ เราสนใจตั้งแต่ที่จะทำประโยชน์ให้ชาติเท่านั้น พิจารณาเอาซิ พระที่เลวที่สุดก็คือพระสมัยปัจจุบันเวลานี้ ที่เลวมากที่สุด ไม่มีความจริงออกมาประกาศให้โลกเห็นเลย มีแต่ความจอมปลอมหลอกลวงต้มตุ๋นแบบนี้แหละให้ดูเอาหูมีตามี ออกทางหนังสือพิมพ์นี้ประกาศป้าง ๆ ถ้ามีหูมีตา ตาไม่บอด จับหัวมันไปชนตามตึกตามร้านตามโรงพยาบาลต่าง ๆ มีกี่สิบตึก ๆ โรงร่ำโรงเรียนมีกี่สิบตึก วงราชการมีกี่แห่งกี่หน เวลานี้ทางลาดยาวเขากำลังรื้อออก หรือจะเอาหัวมันเข้าไปไสรื้อช่วยก็ได้ เข้าใจไหม มันไม่ได้ดูเหรอ

ที่ว่าเงินเป็นกระสอบ ๆ มันน้อยไปเงินกระสอบ ให้เอาโคตรมันใส่รถมาให้เรา เราก็จะไปลงตรงนี้ให้หมดเข้าใจไหม แต่นี้มันไม่มีสักแปเอามาช่วยชาติบ้านเมือง มีแต่หาโจมตี ตัวเลวร้ายที่สุด พระเปรตก็พระสมัยปัจจุบันนี้ที่กำลังออกต่อต้านความจริงความดีทั้งหลายนี้ คือพระเปรตพระผี รูปร่างความเป็นพระคือผ้าเหลือง หัวโล้น แต่คำพูดของมันออกมาจากใจที่สกปรกโสมมมาก ประกาศเอามาโปะพี่น้องผู้ทำดีทั้งหลายให้เลอะเทอะไปตามกันหมด ให้ท่านทั้งหลายอ่านเอา หนังสือพิมพ์ฉบับนี้แลประกาศให้ท่านทั้งหลายทราบเองนะ ดูเอา เป็นอย่างนั้นแหละ มันตาบอดเหรอมันไม่ไปหาดู ที่บอกว่าเอาไปที่ไหนเงินเป็นกระสอบ ๆ ถ้าตามันไม่บอดก็จะเห็นทั่วไปหมด ทั่วทุกภาคเสียด้วย ไม่ใช่น้อย ๆ นะเงินกระสอบนี่ ไปทั่วทุกภาค ไปหมดไม่มีเว้นเงินกระสอบนี้ ออกทุกแง่ทุกมุม

เมื่อวานซืนนี้พระก็มาขอให้ซื้อที่ให้ เราจำเป็นเต็มที่เราก็เรียนให้ท่านทราบ นี่ถ้าหากว่าช่วยก็เรียกว่า เงินกระสอบนี้ก็จะตูมลงไปซื้อที่เขาประมาณสักห้าหกแสน แต่เวลานี้เราจำเป็น นี่เราพูดสด ๆ ร้อน ๆ นะวานนี้ ออกไปทุกแห่งทุกหนเงินกระสอบนี้ โยนไปทุกแห่งทุกหน หัวมันหลบไปอยู่ที่ไหนมันถึงไม่เห็นเงินกระสอบนี้ไปโดนหน้าผากมัน หรือโคตรแซ่ลากมันหนี มันกลัวตายหรือไงเงินกระสอบนี้จึงไม่ได้โดนหน้าผากมันบ้าง กระสอบที่เที่ยวโดนโน้นโดนนี้อยู่ทุกแห่งทุกหนเวลานี้ มีมากทีเดียว มาหมดทุกภาค เงินกระสอบนี้ไปหมดทุกภาคไม่มีเว้นแม้แต่ภาคเดียว ไปหมด เราบอกตรง ๆ อย่างนี้เลยเงินกระสอบนี้ มันตาบอดมาแต่โคตรแต่แซ่มันนั้นหรือมันจึงไม่เห็น เราอยากถามว่าอย่างนี้

มันเป็นยังไงคนทั้งแผ่นดินไทย ผู้ที่ตั้งใจอุ้มชาติอุ้มศาสนานี้เห็นกันทั่วโลกดินแดน แล้วมันไปอยู่เกาะไหน หลุมไหน นรกหลุมไหน มันจึงไม่ได้เห็นกับโลกเขา จึงถามมาโจมตีว้อ ๆ ตาบอดก็บอกว่าตาบอดซิมาถามหาอะไร มันจะประกาศความตาบอดของตัวเองซ้ำเข้าอีก เข้าใจไหมล่ะ เขาเห็นกันทั้งโลกที่สิ่งเหล่านี้ทำประโยชน์แก่โลก นี่ละการโจมตีให้ท่านทั้งหลายฟังเอาซิ มันเป็นความจริงไหม เทียบเอา พระแท้ ๆ จะมาพูดอย่างนี้ไม่ได้ ต้องเรียกว่าเปรตว่าผี เลยเปรตเลยผีไปแล้วถึงจะพูดอย่างนี้ได้ ถ้าเป็นพระตามหลักธรรมพระพุทธเจ้าแล้วจะพูดไม่ได้เลย คำเหล่านี้ไม่ใช่คำของพระ

การโต้ตอบนี้เราโต้ตอบเปรตผีต่างหาก เพราะเปรตผีมันไม่รู้ภาษามนุษย์ ไม่รู้ภาษาพระ เราก็ตอบกันบ้าง ภาษาพระเป็นอย่างนี้แหละ ตีหน้าผากพระหัวโล้น ๆ นั่นแหละ ตัวมันหาหลอกลวงต้มตุ๋นเขาเก่ง ๆ ในประเทศไทยเราเวลานี้ กำลังร้อนระอุไปหมดนะ มีแต่พวกเปรตนี่หาตี เราก็ตีหน้าผากมันบ้าง ใส่หน้าผากมันก็ต้องเจ็บเหมือนกัน ไม่เจ็บก็ช่างมัน โคตรมันอาจเจ็บก็ได้ถ้ามันไม่เจ็บ อู๊ย สนุกดีนะ ก็พูดไม่มีอะไร พูดสนุกให้พี่น้องทั้งหลายฟังเฉย ๆ

พวกเรายังทำดีอยู่ตราบใดแล้ว พวกเปรตพวกผีมันจะคอยเที่ยวกัดเที่ยวแทะ เที่ยวเตะเที่ยวถีบเที่ยวเผาเที่ยวจุดไปหมดนั่นแหละ อย่างนี้แหละนะให้ฟังเอาก็แล้วกัน ทำไปทำดี โลกไม่ได้เจริญด้วยความชั่วแหละ โลกมีความผาสุกร่มเย็นด้วยความดีทั้งนั้น การปฏิบัติความดีนี้ดี เรื่องความดีความชั่ว คนดีคนชั่ว มันก็มีแฝงกันอยู่อย่างนี้ ไม่มีแฝงไม่มารบกัน ถ้ามีแต่ดีล้วน ๆ ก็ดีล้วน ๆ ไปเลย ถ้ามีแต่ชั่วล้วน ๆ มันก็ไปของมันเลย ถ้ามีดีกับชั่วก็ต้องรบกันเป็นธรรมดา มีฝ่ายดีฝ่ายชั่วก็โต้ตอบความจริงเพื่อคนดีได้ฟัง คนชั่วมันไม่ฟังแหละ ทั้งโคตรทั้งแซ่มันนัดกันไว้หมด หรือมันตีเกราะประชุมแล้วก็ไม่รู้นะ ความดีทั้งหลายของอรหันต์บัวนี้อย่าฟังนะ ฟังแต่พวกอรหันต์เก่ง ๆ อย่างพวกเรานี้ ไม่ประกาศตนว่าเป็นผู้เลิศยิ่งกว่าอรหันต์ทั้งหลายคือพวกนี้แหละ พวกเก่ง ๆ นี่ นี่ละมันประกาศตนของมันให้ดูเอาพี่น้องชาวไทย หูมีตามีดูเอานะ

ที่พูดพระท่านมาขอเงินนั้นก็คือเราจนขนาดนั้น ไม่มีอะไรเหลือติดเนื้อติดตัวเลย ท่านก็กลับไปท่านคงไม่เสียใจ เพราะท่านก็เคยได้รับอนุเคราะห์จากเราแล้ว อยู่ที่ประจวบ เราช่วยกำแพงฟาดได้ร่วมล้านให้สั่งเลยนะ ท่านไม่ได้ขอเรา นั่นเห็นไหมน้ำใจ น้ำใจของเงินกระสอบนี้เข้าโดนปึ๋งเลย ฟาดผึงเลยกำแพงเรียบ บอกทำให้ดีนะ การจ่ายเงินเป็นเรื่องของผมเอง ท่านเป็นเจ้าของวัด ทำให้ดี เวลานี้ผมเปิดโอกาสให้ทำหมด เปิดอย่างนั้นนะ การจ่ายเงินท่านจะจ่ายเป็นงวด ๆ หรือจะให้โอนมาทั้งหมดก็ได้ บอกเปิดให้หมด ทำยังไงเราก็สั่งตามนั้น ๆ เรียบร้อย

นี่ท่านจะเห็นความดีหรือความชั่วของเราก็ไม่ทราบละ ท่านก็อุตส่าห์ด้นดั้นมา แต่ไม่สมหวังที่ท่านมา พอดีเราจนตรอกจนมุมก็ได้เรียนให้ท่านทราบ คราวนี้เป็นคราวที่ว่าหนักมากจริง ๆ ที่เราแบกนี่ หนักมากจริง ๆ เพราะอย่างตึกก็ถึง ๕ หลังแล้วนะ รถยังมาอีก แล้วเอกซเรย์ยังมาอีก เอกซเรย์นั้นเป็น ๒ อย่างประมาณ เรียกว่า ๔ ล้าน ส่วน ๓ ล้านกว่า แล้วเครื่องหนึ่งมีอีกด้วยกันนั้น เราไม่ได้ถาม เลยบวกเป็นประมาณ ๔ ล้าน เอกซเรย์ก็กำลังมา รถยนต์ก็กำลัง นี้ก็ทางจังหวัดอะไร (กระบี่ครับ) เออ ทางกระบี่ก็มา นี้กำลังสั่งรถไปทางจังหวัดกระบี่อยู่เวลานี้ ก็สั่งอยู่อย่างนั้นแหละ ทางโน้นโรงพยาบาลอะไร (เกาะยาวครับ จังหวัดพังงา)

เออ เกาะยาวก็กำลังสั่งให้สร้างตึก นี้ให้ท่านคลาด ท่านคลาดเป็นคนพังงา แต่เป็นพระมาอยู่วัดป่าบ้านตาดนี้ ท่านไปอยู่พังงา เราสั่งให้ท่านดูแลงานการทั้งหมด ให้เป็นหน้าที่หรืออำนาจของท่านร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วแต่ท่านจะสั่งจะเสีย จะจัดจะทำ จะแก้จะไข จะเพิ่มเติมอะไรให้เป็นเรื่องของท่าน ที่เห็นดีเรียบร้อยแล้วนั้นทำโดยถ่ายเดียว เรียกว่าเรามอบอำนาจให้ท่านหมด นี่กำลังทำเวลานี้ นี่แหละตึก ๕ หลัง ๖ หลัง เวลานี้นะ แล้วก็อย่างที่ว่ามานี้ เงินกระสอบหลวงตาบัวนี้ไม่ทราบจะโยนไปทางไหนบ้าง ถ้าโยนไปหาที่ไหนไม่ได้ก็จะโยนใส่หน้าผากไอ้หัวโล้นมันนั่นแหละ เข้าใจไหม มันไม่มีที่โยนก็ไปโยนใส่หน้าผากมัน ตามันไม่เห็นเหรอ จนกระทั่งเรามีแต่กระสอบเปล่า ๆ มาโยนทางนี้ กระสอบที่เงินอยู่ในนั้นมันหมดแล้ว

เราพูดจริง ๆ เราเอาหลักธรรมมาพูดนะ คราวนี้ได้เอาหลักธรรมมาประกาศกับความจอมปลอมนี้อย่างจะ ๆ ๆ กันเลยเทียวนะ เข้าใจไหม เราก็เป็นธรรมทั้งแท่งซัดกันตูมเลยด้วยความจริงของเรา นี่ละดูเอา เรื่องความเลวร้ายมันจะไม่ยอมรับความจริงอะไรทั้งนั้น มีแต่จะเอาให้ได้อย่างใจ ๆ ผิดถูกไม่สนใจ เหยียบหัวใครไปก็ช่าง ขอให้ได้อย่างใจก็พอ แต่ธรรมไม่เช่นนั้นนะ ผมเส้นเดียว ครั้นเป็นธรรมแล้วไม่เหยียบ ลอดทันที เคารพคือความจริง ความถูกต้อง ถ้าเป็นความผิดแล้วธรรมไม่ถอยเหมือนกัน ซัดกันพังเลย อย่างกิเลสพังจากพระทัยของพระพุทธเจ้านั้นคือความผิดความไม่ดี ท่านพังออกด้วยธรรมของท่าน เอาละจบแค่นั้น

ไม่พูดมากอะไรละ หรือมันพูดมากไปแล้วก็ไม่รู้ เราก็พูดงก ๆ งัน ๆ อรหันต์ตาบอดมันพูดไปอย่างนั้นแหละ เข้าใจไหม มันไม่เหมือนอรหันต์ตาดี สนุกพูดทุกอย่าง ประสาถังขยะ ว่าอย่างนี้เลย ประสาถังขยะ จะเอาอะไรมาหลอกเราวะ เอามา ๑๐ ปากมาหลอก ก็ปากถังขยะ ร้อยปาก พันปาก ก็ปากถังขยะ ก็เท่านั้นเอง ทีนี่เราก็หมุนมาทางกระสอบของเรา

สรุป ทองคำ ดอลลาร์ และกฐินวันที่ ๓ ทองคำได้ ๑ บาท ดอลลาร์ได้ ๓๑๓ ดอลลาร์ นี่หมายถึงทองคำสาธารณะนะ ไม่ได้หมายถึงทองคำเป็นกองกฐินนะ ทองคำสาธารณะมาเท่าไรก็บอกเท่านั้น ส่วนกองกฐินก็ไปอย่างที่ว่านะ กฐินทองคำได้ ๘๑ กอง กฐินเงินสดได้ ๗๓ กอง รวมเป็น ๑๕๔ กอง กฐินทองคำ ๘๔,๐๐๐ กองนั้น ทองคำได้ ๒,๙๒๗ กอง เท่ากับน้ำหนัก ๑๑ กิโล ๑๓ บาท ๒ สลึง กฐินเงินสดและเช็คได้ ๑๐,๑๒๘ กอง เท่ากับเงินสด ๑๖,๒๐๔,๘๐๐ บาท รวมกฐินทองคำทั้งหมดได้ ๑๓,๐๗๕ กอง ยังขาดอยู่ ๗๐,๙๒๕ กองในกฐิน ๘๔,๐๐๐ กองนั้นนะ เอ้า เร่งนะเรา เร่งให้เต็มเหนี่ยว อย่าไปฟังเสียงเปรตเสียงผี หูเรามาเพื่อบูชาความดีทั้งนั้น ไม่ได้ไปบูชาถังมูตรถังคูถ ที่มันประกาศป้าง ๆ โจมตีทุกวันนี้อย่าไปสนใจนะ ให้เอาตามนี้ก็แล้ว ถ้ามีแต่พวกนี้บ้านเมืองจมไปนานแล้วแหละ ต้องมีคนดีช่วยพยุงเอาไว้ จึงพอได้มองเห็นบ้าง เอาจุดนี้นะทุกคน

เอ้า เร่งเข้ามา ๆ นะ เวลานี้เราขาดอยู่ตั้ง ๗๐,๙๒๕ กอง จากนี้ถึงวันที่ ๒๖ ก็ยังเหลือ ๒๐ กว่าวัน ยังไงก็ต้องเอาได้เลยไม่สงสัย เราเชื่อพี่น้องชาวไทยเรา ๗๐,๙๒๕ พอจวนวันเท่าไรพวกนี้มันมี ๒ หมัด มันจะมา ๓ หมัด ๔ หมัดช่วยกัน แล้วมันก็ตกเหวเลยแหละ ความจนความขาด ขาด ๘๔,๐๐๐ นี้มันจะพังลงทะเลเลย เราเชื่อจริง ๆ เราไม่ได้พูดเล่นนะ ก็ดังที่พูดเมื่อวานหรือวันไหน ถ้าเวลาหัวหน้านอนหลับครอก ๆ ทางนี้ก็อืดอาด ๆ นอนเกลื่อนอยู่ตามนั้น พอหัวหน้าลุกขึ้นจะล้างหน้าล้างตา กระแอม ทางนั้นคึกคักมองโน้นมองนี้ พอกระแอมทางนี้ก็เตรียมตัวแล้วนะนั่น พอหัวหน้ากระแอมเท่านั้นละนะ มันจะเตรียมตัวคึกคัก พอหัวหน้าว่าเอานะ พรึบ ไม่นุ่งผ้านุ่งซิ่นก็ตามฟัดเลย เข้าใจไหม นี่จึงเรียกว่าจริงจัง

คนไทยเราต้องจริง เราสังเกตมาตลอดนี่นะ ถ้าธรรมดาก็อย่างว่า นอนอืดอาดเกลื่อน พอได้ยินเสียงแอ้ม ๆ เท่านั้น ทีนี้คึกคักมองนั้นมองนี้ พอถึงขั้นเอาจริง เอ้า อะไรๆ ก็ตามลุกฟัดเลยเข้าใจไหม นี่ก็เหมือนกัน พอจวนวันมาๆ ทางนี้ก็เริ่มกระแอมแล้วนะ หัวหน้าเริ่มกระแอมแล้วลูกน้องก็เตรียมผ้า แต่เราไม่ได้บอกให้นุ่งผ้านุ่งซิ่นเสียก่อน อย่าเปลือยตัวไปไม่ได้นะ ออกสนามเปลือยตัวใช้ไม่ได้นะ ต้องนุ่งเสียก่อน แบบนักมวยเขาต่อยกัน เขานุ่งสั้น ๆ เสียก่อนซัดเลย เข้าใจไหม อันนี้ก็เหมือนกันนั่นละ

นี่เราแน่ใจ แน่ใจ ๗๐,๙๒๕ นี่ จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ไม่สอนให้พี่น้องทั้งหลายนอนใจนะ ถึงเวลาจำเป็นก็เรานั้นแหละจำเป็นเราจะซัดเอง เวลานี้เรายังเตรียมไว้จึงบอกว่าอย่านอนใจ ถึงจะนอนก็หลับครอก ๆ ตาหนึ่งให้มองมันขาดเท่าไร ๆ ตาหนึ่งหลับครอก ๆ ตาหนึ่งมอง มันต้องอย่างนั้น นี่ก็จวนแล้วแหละ ยังไงเราจะให้ได้ ที่ทองคำ ๑๐ ตันก็ได้ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบแล้ว เราประกาศมา ก่อนที่เราจะออกทุกอย่างเราพิจารณาเต็มกำลังนะ ไม่ว่าจะแง่ใดก็ตาม ถ้าออกแล้วไม่มีถอย ผางเลย ๆ ไม่มีมาเก็บ มาตรวจมาตราว่าผิด ถูก ชั่ว ดี บกพร่องขาดเขินอะไรบ้างไม่ต้อง ออกนั้นเต็มเหนี่ยว ๆ ๆ เลย

อันนี้ก็เหมือนกัน เราได้พิจารณาเรียบร้อยแล้วถึงเรื่องช่วยชาติไทยของเรา ไม่มีอะไรสมบัติในโลกนี้ที่จะเด่นรับกันกับความจนที่จะจมลงทะเลเมื่อ ๓-๔ ปีผ่านมานี้ ถึงขนาดที่ว่าพี่น้องชาวไทยเราได้ออกช่วยชาติบ้านเมือง โลกภายนอกเขารู้ทั่วถึงกันหมด ตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้เป็นเวลานานเท่าไร ทีนี้ผลแห่งการรบกับความจนนั้น แพ้หรือชนะยังไงบ้าง เครื่องหมายแห่งความชนะ ถ้าว่าชนะ ชนะยังไงว่ามา เราก็บอกว่าชนะด้วยได้ทองคำ ๑๐ ตัน นี้เป็นสมบัติที่ทั่วโลกยอมรับกันคือทองคำ นี้เราได้สมบัติที่เลิศเลอซึ่งโลกทั้งหลายยอมรับกัน มาเป็นเครื่องประดับเกียรติแห่งชาติไทยของเราน้ำหนัก ๑๐ ตัน แล้วเราจึงสง่างามทั่วประเทศเรา นี่ละเอามารับกันตรงนี้นะ

ความจนนี้รุนแรงมาก ถึงขนาดเขาชี้หน้าเลยก็ได้ บางแห่งบางประเทศชี้ได้ชี้หน้าเรา โอ๊ย.ประเทศไทยนี้พยายามบึกบึนกันมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายบรรพบุรุษ แต่ก่อนคนก็มีไม่สักกี่แสนกี่ล้านคนก็พาถ่อพาพายกันมาได้ แต่ระยะนี้มาถึงจุดที่ว่าลูกหลานของคนไทยนั้นมีถึงจำนวน ๖๒ ล้านคน แล้วไม่มีผู้ใดมีสติปัญญา พากันรื้อฟื้นชาติไทยของตนซึ่งกำลังจะจมอยู่เวลานี้ขึ้นได้บ้างเลย เขาตำหนิอย่างนี้ตำหนิได้ เราก็สวนหมัด จำนวนคนเหล่านี้แหละว่างั้นเลย จะเป็นผู้อุ้มชาติไทยของเราด้วยความสง่าราศี คือทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน เราจะเอาให้ได้ อย่ามาดูถูก ถ้าจะดูถูกให้ดูทองคำเราเสียก่อน เข้าใจเหรอ นี่แหละเป็นสิ่งที่สมเกียรติกันอย่างยิ่ง เราพิจารณาเรียนร้อยแล้ว ไม่มีอะไรเป็นเครื่องตอบรับความที่จะล่มจมของชาติไทยเราใน ๓-๔ ปีผ่านมาแล้ว นอกจากทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตัน จากนั้นมาเคียงข้างกันก็คือว่า ดอลลาร์น่าจะไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้าน เวลานี้ได้ ๗ ล้านแล้ว นี่แหละที่โลกทั้งหลายจะได้เห็นชัดเจน

ส่วนตึกรามบ้านช่องที่เราช่วยทั่วประเทศไทยนั้น โลกเขาก็ไม่สนใจมอง แม้แต่เราเองผู้ทำก็ไม่ดู มีแต่จะคืบหน้าเพื่ออุดหนุนจุดที่บกพร่องให้สมบูรณ์พูนผลขึ้นโดยถ่ายเดียวเท่านั้น จุดที่สำคัญก็คือ ๑.ทองคำ ๒.ดอลลาร์ ดอลลาร์นี้เราก็ค่อนข้างแน่ใจว่าจะได้ถึง ๑๐ ล้านแหละ เวลานี้ได้ ๗ ล้านแล้ว เริ่มกว่า ๆ ไปบ้างแล้วแหละ ส่วนทองคำนั้นเวลาเราหลอมคราวนี้แล้วไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ กิโลนะ คือใน ๕๐๐ กิโลที่เราตั้งความมุ่งหมายไว้นี้นั้น มันยังมีทองที่จะแฝงเข้ามาอีกมากน้อยเพียงไร ทองเหล่านั้นเมื่อหลอมเข้าเป็นแท่งด้วยกันแล้ว เราจะเอาเข้ากันหมด เช่นทองคำเรากำหนดว่า ๕๐๐ กิโล ได้เรียบร้อยแล้ว ทีนี้เศษไปกี่กิโล แล้วก็ทองคำเหล่านี้เป็นแท่ง ๆ เสมอกันด้วย เช่น น้ำหนัก ๑๒ กิโลครึ่ง แต่ละแท่ง ๆ เราจะเอาเข้าหมดเลย เมื่อได้ ๕๐๐ กว่า ก็กว่าไปตามทองแท่ง นอกจากทองที่เรี่ยราดยังไม่หลอม มีเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่พอหลอมก็เก็บไว้เพื่อข้างหน้า หลอมแล้วก็มอบในกาลต่อไป

เพราะฉะนั้นเวลานี้ที่เราได้มอบใน ๕๐๐ กิโลนี้แล้ว ทองคำเราจะอยู่ในคลังหลวงไม่ต่ำกว่า ๕,๕๕๙ กิโลครึ่ง นี่เราพูดย่อม ๆ เอาไว้เลย แต่ยังไงก็จะมากกว่านั้นอยู่ เราคอยฟังดูทองคำที่เศษเหลือเท่าไรจาก ๕๐๐ นี้ก่อน เราคาดว่าจะเศษเหลือแน่ ๆ คอยฟังนะ นี่คืบขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยความอุตส่าห์พยายามของพี่น้องชาวไทยเรา ไม่หนีจากนี้เลย อำนาจความรักชาติ ความเสียสละ ด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน รวมอยู่ในเมืองไทยเรานี้ ที่จะหนุนชาติไทยของเราให้ถึงจุดมุ่งหมายโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ว่างั้นเลยนะ เอ้า อนุโมทนาด้วยกัน เอ้า ฉลองกำลังเราไว้เลยนะ

โยม สาธุ ฯ

หลวงตา เออ นี่เรียกว่า ฉลองกำลัง สาธุ หมดแล้ว เสร็จแล้วต่อไปนี้ก็จะให้ศีล ให้พร