หลวงตา น่าสงสารตั้งแต่จังหวัดมหาสารคาม คนไม่ค่อยได้ดำนากัน
ผู้ว่า ทางโคราช ขอนแก่น มหาสารคาม ส่วนหนึ่งทำนาไม่ได้ครับ
หลวงตา นั่นซีทำไง โอ้ น่าสงสาร เมื่อวานนี้ไปมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือไปมอบเงินให้เขาที่เขามาขอสร้างตึกสวดมนต์ที่มหาวิทยาลัย เราไปดูสถานที่เหมาะสมแล้วก็เลยตกลงให้
ผู้ว่า เมื่อวันเสาร์รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรมาที่อุดรครับ ผมก็บรรยายให้เขาฟังว่า ถ้าหลังวันที่ ๑๕ กันยา ฝนไม่ตกมากแล้ว กลัวอ่างห้วยหลวงจะไม่มีน้ำ ต้องขอฝนหลวงครับ หมายถึงต้องหลังกันยา ประมาณปลายกันยาสักนิดหนึ่ง เดี๋ยวไปขอฝนมาตกหนักแล้ว...
หลวงตา ธรรมดาตั้งแต่ปลายเดือนกันยาไปแล้ว ตามธรรมดาฝนจะอ่อนลง
ผู้ว่า ครับ ฝนจะอ่อนลง ช่วงนั้นคิดว่าอาจจะต้นตุลา ขอฝนหลวง ถ้าน้ำยังไม่เต็มอ่างนะฮะ แต่ถ้าช่วงนี้มีน้ำมาเรื่อย ๆ เต็มอ่างเราก็ไม่ขอ
หลวงตา เมื่อวานนี้ไปมหาสารคาม โถ น่าสงสารนะ ใกล้เข้ามาขอนแก่นนี้ค่อยมีน้ำบ้างเขาดำไร่ดำนา ดีขึ้น มาท่าพระมาอะไรนี่มองเห็นน้ำ ย้อนหลังไปนู้นไม่ค่อยมี เอ๊อ ยังไงกัน เอาเงินไปมอบให้เขาเมื่อวาน ทีแรกเขาขอเพียง ๓ แสน ครั้นเวลาไปมอบแล้ว ไปดูรอบ ๆ หอสวดมนต์นั้น มันเป็นหินโสโครกหินอะไรต่ออะไรไม่ดี เขาว่าเตรียมจะทำ แล้วเงินมีไหมล่ะ เขาบอกไม่มีแหละ เราก็เลยให้ไปอีกแสนหนึ่ง เมื่อวานรวมแล้วเป็น ๔ แสน ไปมอบให้เท่านั้นเองแล้วกลับมาเลย ก็คงเหลือเฟือนั่นแหละเราดูแล้ว พอ
ที่มหาวิทยาลัยก็มี ดร.นารีรัตน์ เป็นหัวหน้า จนเขาเรียกว่า ดร.เค็ง คือ ดร.มีคนเดียว ที่เข้มแข็งทางพุทธศาสนา พาบรรดาลูกศิษย์ลูกหาสวดมนต์ไหว้พระในโอกาสที่ว่าง อย่างนี้ดี เราอดวิตกไม่ได้ คือมันวิตกมานานแล้วแหละเรื่องวิตก แต่เวลาเหตุการณ์มันมาเกี่ยวข้อง ๆ นี้ก็ทำให้พูดออกมาบ้าง เรียกว่าระบายออกมาบ้าง เกี่ยวกับเรื่องวงราชการเรา ควรจะมีธรรมะเข้าแทรก ๆ ไว้ทุกแห่ง ๆ ถึงจะมีเกาะมีดอน ถ้ามีแต่โลกล้วนๆ โลกมันเป็นโลกของกิเลส มันจะหมุนไปทางกิเลสเสียมากต่อมาก ดีไม่ดีเอากิเลสเป็นเจ้าอำนาจอีกแล้วแหลกไปเลย นี่ที่น่าวิตก ควรจะมีธรรมะแทรกไปเรื่อย ๆ อย่างหยดน้ำบนใบบัวเหมาะสมแล้ว เวลานี้ที่จะพิมพ์มันขาดมันเหลือยังไงว่ามา
ดร.รัตนา ไปเช็คดูบัญชี เราสั่งพิมพ์ตอนหลังสุด ๓ หมื่นเล่ม พวกครูขอกันมาเยอะ แล้วผู้ที่เกี่ยวข้องเขาต้องการจะอ่าน นักศึกษาเองที่ออกข้อสอบที่จะออกไปประเมินก็ต้องอ่านให้รู้เรื่อง ไม่งั้นเด็กถามตัวไม่ได้ก็ขายขี้หน้าเด็ก ก็เลยพิมพ์เพิ่มเติมอีก ๓ หมื่นเล่ม ขณะนี้เงินเข้าประมาณ ๕ แสน ขาดอีกประมาณ ๔ แสนเจ้าค่ะ คิดว่าต่อไปพวกครูเขาเห็นเขาก็จะมาช่วยกัน
หลวงตา ก็ดีละ ถ้าไม่เอาศาสนาเป็นเครื่องต้านทานเป็นที่ยึดเหนี่ยวแล้วไม่ได้นะ มันจะแหลก ศาสนาเหลว ๆ ไหล ๆ เป็นมหาภัยมันกำลังคืบคลานเข้ามาทุกแห่งทุกหน เราต้องเอาพุทธศาสนาของเราซึ่งเป็นศาสนาที่เลิศเลอยันเอาไว้ ด้วยความสนใจศึกษาและความสนใจประพฤติปฏิบัติตัว แล้วมันก็เป็นกำแพงกั้นไว้เป็นอย่างดี กั้นได้ไม่สงสัย เพราะนี้เป็นธรรมของพระพุทธเจ้าเลิศเลอแล้ว ขอให้นำมาปฏิบัติเถอะ ที่ท่านทั้งหลายได้เอาไปอ่านหยดน้ำบนใบบัวนี้ คือนี่เป็นทั้งเหตุทั้งผลของหลวงตาที่ออกมาเป็นหยดน้ำบนใบบัวใช่ไหมล่ะ นี่ละเราเป็นที่แน่ใจแล้วในธรรมทั้งหลายที่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายนำออกไป เราก็ได้อ่านดู ไม่เห็นมีข้อไหนที่คัดค้าน ไม่มีในหัวใจเรา ตรงแน่วไปเลย
ดร.รัตนา ขณะนี้โรงเรียนเขาไม่มีหนังสือที่จะยึดเจ้าค่ะ ทีนี้พอได้หยดน้ำไปเขาก็จะได้หนังสือยึด แล้วเขาก็ทำสื่อทำอะไร ไม่อย่างงั้นเขาบอกว่าหลักสูตรมันเกิดขึ้นจากโรงเรียน ถ้าโรงเรียนไม่มีหนังสือเสียอย่างมันก็ลำบาก เพราะเขาเริ่มวางหลักสูตรแล้วว่า เด็กไทยควรจะเป็นประชาธิปไตย ม.๑ ให้เรียนศาสนาเปรียบเทียบ เด็กยังไม่ได้พุทธอะไรเลย ทีนี้พอเราได้หนังสืออันนี้ไป ก็พยายามเข้าไปแล้วสอบเขา ครูก็จะได้ลงมือทำ แล้วมันมีสื่อมีหนังสืออะไรต่ออะไรพร้อม
หลวงตา ระยะนี้เป็นระยะที่เราจะยึดจะเกาะธรรมให้มากขึ้น แต่ก่อนเป็นมาแล้วไม่ต้องพูดมากอะไรมันก็เข้าใจกันแล้ว เลอะ ๆ เทอะ ๆ มีแต่เรื่องกิเลสนะไม่ใช่เรื่องธรรม ที่จะทำให้จมมีแต่เรื่องกิเลสไม่ใช่เรื่องธรรม นี่ละที่มันขัดกันมาก เมื่อไม่มีธรรมแล้วมีทางที่จะจมถ่ายเดียว ที่จะฟื้นฟูทางด้านจิตใจ ฟื้นฟูด้วยอะไรมันก็ไม่มี เพราะไม่มีที่ยึดที่เกาะ ฟื้นฟูในสิ่งที่ดีงามที่เป็นที่ยึดที่เกาะได้อย่างปลอดภัยก็คือธรรมเท่านั้น อันนี้สำคัญมากทีเดียว เราก็ไม่ได้คิดนะว่าจะออกมาเป็นหยดน้ำบนใบบัว เราปฏิบัติตะเกียกตะกายของเรา เราก็ไปตามเรื่องของเรา ไม่มีเจตนาแม้นิดหนึ่งที่จะออกไปอย่างนี้นะ
ดร.รัตนา ครูหลายโรงเรียนเขาอ่านเขาชอบ เขาเขียนจดหมายมาขอเจ้าค่ะ เพราะมีตัวอย่างจริง แล้วก็หลวงตายังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถจะให้เด็กมากราบได้เจ้าค่ะ
หลวงตา ก็เรียกว่ายังมีตัวพยานอยู่ว่างั้นเถอะ ใครมาให้มา ทางนี้ก็โบกมือใส่เลย เออ ที่คุณทองก้อนถามทางทีวีนั้น เวลานี้ได้ฟังแล้วยังที่หลวงตาโต้ตอบ
ดร.รัตนา ได้อ่านแต่ยังไม่เห็นออกทางทีวี
หลวงตา เทปก็ดูเหมือนจะมีนะ แต่ที่ออกนั้นเขาจะออกอย่างชัดเจนเรียงลำดับนะ ตั้งแต่คลังหลวงมา แล้วเข้าสู่การช่วยชาติบ้านเมือง จากนั้นก็เป็นเรื่องเขามาถามหลวงตา ตอนนี้ตอนสำคัญมากตอนตอบ เราได้เห็นแล้วที่เขาก๊อปปี้มา คือตัวจริงจะกระจ่างแจ้งกว่านี้มาก ว่างั้นนะ อันนี้เอามัว ๆ มาให้ดูพอได้เป็นลาดเป็นเลาไปเสียก่อน เราดูก็น่าดูอยู่นะ คึกคัก โถ ไม่ใช่ของเล่นนะ เราได้เห็นเราเอง แล้วก็หาที่ต้องติไม่ได้ แน่ะเห็นไหมล่ะ ธรรมดูธรรมขัดกันที่ไหน เวลาออกนี้ โถ คึกคักขึงขังตึงตังเหมือนจะกัดจะฉีกเทียวนะ แล้วคำพูดคำจาการโต้การตอบกับกิริยานี้เข้ากันปึ๋ง ๆ เลย พอสุดท้ายมียิ้มนิดหนึ่ง โห ยังยิ้มอยู่หรือนี่ นึกว่าจะกัดจะฉีกจนไม่มีผุยผงเหลืออยู่ ยังมายิ้มได้อีกหรือ สักเดี๋ยวเอาอีก ขบขันดีนะ เราพอใจโดยความเป็นธรรมล้วน ๆ เขามาออกที่สวนแสงธรรม ไม่ชัดเจนก็ตามก็รู้สึกว่าดีมากอยู่แล้ว ยิ่งเขาเอาตัวจริงออกมาแล้วจะชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งกว่านี้อีก อันนี้เพียงก๊อปปี้มา ดี ดูที่ว่าล่าช้าอยู่นี่เพราะอะไร
ผู้กำกับ เขากำลังหาช่องเวลาอยู่ครับ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ทราบแล้ว จะเร็ว ๆ นี้แหละครับ กำลังจัดเวลาอยู่ครับ
หลวงตา คือที่จะเอาเข้าช่อง อธิบดีก็มีความเคารพเลื่อมใสในพุทธศาสนาอยู่แล้ว ถ้าว่าไม่ว่างก็ต้องไม่ว่างจริง ๆ ไม่มีเล่ห์มีเหลี่ยมว่างั้นเถอะนะ พอว่างเมื่อไรก็จะเข้าทันทีเลย อันนี้เราอยากให้เข้าบ้างเหมือนกัน เพราะเราได้พูดแล้วแต่ต้น เขาจะมาถาม ชี้แจงเรื่องราวต่าง ๆ มาที่จะมาถามเราเกี่ยวกับเรื่องเขาโจมตีเราแล้วเราไม่ได้โต้ตอบ ทีนี้เราก็มาพิจารณาดู สำหรับเราเองมันจะทำอะไรเราไม่มีอะไรแหละ มันไม่ได้สนใจอะไรเลยนะ แต่เราคิดถึงกุลบุตรสุดท้ายภายหลัง ประชาชนพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ ผู้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวจะพลอยติดร่างแหเขาไป เพราะฉะนั้นที่ว่าโต้ตอบนี่ คือชี้แจงให้ทราบเพื่อจะได้ข้อคิดเห็นต่าง ๆ เราจึงยอมรับ เอ้า จะตอบให้ว่างั้นนะ นั่นละที่ออกมา
ถ้าเป็นลำพังเรานี้ มันจะว่าอะไรก็ช่างมันซี ก็เราเป็นทำเองทุกอย่าง ๆ ผิดถูกชั่วดีเราเป็นผู้รู้อยู่ คนอื่นจะมารู้ยิ่งกว่าเราได้ยังไง ที่เขาโจมตีนั้นมันไม่ได้มีอะไรเป็นความจริงนี่นะ มีแต่เรื่องหลอกเรื่องลวงต้มตุ๋น แล้วก็โจมตี ๆ เรียกว่าเป็นมหาภัยทั้งนั้น ไม่มีคุณแทรกอยู่เลย ของเรานี้ออกเป็นคุณล้วน ๆ เมื่อได้ออกตรงไหนแล้วเรียกว่าโบกมือเลย คำพูดออกมานี้ขึ้นเวทีได้แล้ว ผิดตรงไหนให้ถามมา คือเป็นของจริงล้วน ๆ ออกได้เต็มเหนี่ยว ๆ ของเราเป็นอย่างนั้น ไอ้นี่มันมายังไงเราไม่อยากเล่นด้วย คือมันเข้ากันไม่ได้นะ แต่นี้เมื่อคิดถึงคนจำนวนมากแล้วที่ไม่ค่อยเข้าอกเข้าใจกันจะพลอยติดร่างแหพวกนี้ไป เราก็เลย เอ้า ถ้าอย่างนั้นจะตอบให้ จึงได้ตอบ ระยะนี้ยังไม่ออกนะ แต่ทางเทปดูจะกระจายไปแล้ว
ทีวีนี่สำคัญมากเพราะหลวงตาได้ดูแล้ว ชัดเจนมากทีเดียว อันนี้รอจังหวะหลังอยู่นะ ถ้าออกนี้แล้วก็จะเหมาะมาก สำหรับเราเองเราไม่มีอะไรกับไอ้กองขยะขะแหยะว่างั้นเลย เราพูดจริง ๆ นี่ อันหนึ่งปลอมล้วน ๆ อันหนึ่งจริงล้วน ๆ มันต่างกัน นี่กองธนบัตรปลอมกองเท่าศาลานี่นะ แต่ธนบัตรจริงจะกองเท่าถังน้ำก็ตามเอาวางปั๊บ ใครจะโดดใส่กองถังน้ำใช่ไหม นั่นจริง ๆ ล้วน อันนี้ปลอมเอามาเท่าไรก็ไม่เกิดประโยชน์ อันนี้ธรรมะที่ออกมีแต่ธรรมะจริงล้วน ๆ ไม่มีคำว่าหลอกว่าลวงต้มตุ๋น ออกตรงไหนโบกมือเลย เอ้า เข้ามา ถ้าเราพูดนี้ผิดตรงไหน เอ้า ค้านมา จะตอบทันที ๆ เลย ที่ออกไปแล้วนั้นขัดข้องตรงไหน เอ้า ค้านมา เราจะตามตอบตลอดเลย ต้องกล้าหาญต่องานของตนที่แสดงไปยังไงซิ อย่างนั้นนะ นี่ก็ได้ตอบอย่างนั้นแหละวันนั้น เขายังไม่ได้ออก คงไม่นานนะ
ผู้กำกับ ครับกำลังหาเวลาว่างที่จะออก
หลวงตา วันนี้จะไปภูวัว กำลังให้เขาเข้าไปตลาด เอารถตู้ไป ๒ คัน เต็มเอี้ยดแหละ ถ้าเราไปทีไรก็เอารถตู้ไป ๒ คัน อันนี้เป็นอาหารเสริมเฉย ๆ นะ อาหารที่เราทำให้เป็นพื้น ๆ ไปตามนั้น เป็นไปตามปลายเดือนทุกปลายเดือนเลย ตั้งแต่วันที่ ๒๖-๒๗ ไป ไปส่งทีหนึ่ง ๆ เดือนหนึ่งไปทีหนึ่งๆ ถ้าเราได้ไปเมื่อไรก็เป็นอาหารเสริม วันนี้ไปก็เป็นอาหารเสริม นี่กำลังให้เขาไปตลาด สาย ๆ เราถึงได้มาสั่ง สายก็ช่างหัวมันเถอะ ไปเมื่อไรกลับเมื่อไรก็ได้ไม่เห็นอยากอะไร
สงสารวัดถ้ำภูวัวนี่ เป็นวัดที่พระท่านตั้งใจปฏิบัติล้วน ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นหลวงตาจึงส่งเสริมและอุดหนุนทุกอย่างเลย เช่นอย่างเรื่องอาหารปัจจัยเหล่านี้ เราบอกไม่ต้องเป็นกังวล บอกเลย ใครจะมาส่งเสียไม่ส่งเสียที่ไหน ไม่ต้องกังวล เราจัดมาให้พอเราบอกอย่างนี้ เราก็จัดอย่างนั้นจริงๆ เผื่อไว้ตลอด ๆ จนกระทั่งท่านอุทัย บอกให้ตัดลง ลดลง เราไม่ตอบ แต่ไม่มีถอย ท่านว่ามันมาก ๆ ก็ช่างซิ เราคิดแล้วว่าที่หน้าวัดนั้นมีแต่คนจน ๆ แล้วเขาไปทำอาหารการบริโภคอะไร เศษเหลือเขาจะได้ไปกินกัน เราคิดอย่างนั้นนะ มีครอบครัวเท่าไรเขาก็ต้องหวังอย่างนั้น เพราะพวกนี้เองที่จะไปทำอาหารถวายพระ มันเศษเหลืออะไร เขาก็ได้ไปกิน เราคิดอย่างนั้น
ท่านบอกมันมากไป ๆ ให้ลดลง ๆ เราก็เฉยตลอด เราไม่ลด แล้วก็บางทีก็มีวัดทางโน้นทางนี้แห่งละ ๒ องค์ ๓ องค์ อยู่ในภูเขาท่านมาหา มาแล้วก็ส่งให้ท่านไป นี่เราก็บอกเสริมเลย เอ้า ให้ส่งให้ท่านไป ไม่ต้องกลัวหมดเราบอก ผมไม่อาจที่จะไปส่งซอกแทรกซิกแซ็กได้ มาส่งแต่จุดเดียวใหญ่ ๆ เราว่าอย่างนั้น องค์ไหนท่านมาแล้วให้ท่านไปเลย ถ้าหากว่าหมด บอกไปเลยทันทีว่าอย่างนี้ละเรา เราเอาจริงนี่นะ อะไรจริงทุกอย่าง อันนี้อาหารก็เรียกว่าพอตลอด ไม่บกพร่องได้เลย ส่วนที่เราไปนี้อาหารเสริม เราจะไปในย่านกลางเดือนอย่างนี้ เป็นระยะ ๆ ถ้าว่างเมื่อไรเราก็ไป วันนี้จะไปละ สั่งให้เขาไปแล้ว ไปตลาด เขากลับมาเมื่อไรเราก็ไป แล้วเรามีอะไรอีกไหมล่ะ
ดร.รัตนา ไม่มีแล้วเจ้าค่ะ มีแต่บอกว่า อธิบดีกับรองอธิบดีเขาพอใจมาก เขาจะขยายผลทั่วประเทศเจ้าค่ะ
หลวงตา เดี๋ยวนี้เงินยังขาดอยู่ประมาณเท่าไร
ดร.รัตนา ๔ แสนเจ้าค่ะ
หลวงตา ให้ไปพิจารณากันเสียก่อนนะ ที่ถามนี้หากว่ามันจำเป็นจริง ๆ เราพอตะเกียกตะกายได้เราก็จะตะเกียกตะกายช่วย เราว่าอย่างนั้นนะ ถ้าหากพอเป็นไปแล้วให้หมุนกันไป เราก็จะหมุนทางอื่นดังที่เคยหมุนนี่แหละ เราหมุนไม่ถอยนะ โถ โรงพยาบาลไม่ทราบว่ากี่สิบตึก ฟังซิโรงพยาบาลตั้งร้อยกว่าโรง สร้างตึก ๆ ไม่ทราบว่ากี่สิบตึก โรงเรียนกี่สิบหลัง มีแต่หลังใหญ่ ๆ ฟาดเป็นเรียกว่า ล้าน ๆ ขึ้นไปเลย อย่างน้อยตั้ง ๔ ล้านขึ้นไปแหละ ตึกนะ นอกนั้นขึ้นตลอด เรื่องอย่างต่ำสุดก็ ๔ ล้าน สร้างตึกแต่ละแห่ง ๆ เป็นอย่างนี้เรื่อยมา โรงร่ำโรงเรียนบางแห่งก็สองชั้น แล้วแต่เล็กแต่ใหญ่ขนาดไหนก็จ่ายให้ตามนั้น ๆ
ที่เราทำนี้เรียกว่าทำด้วยความเป็นธรรมล้วน ๆ เราจึงไม่คำนึงว่า โรงเรียนหลังนี้จะหมดเท่าไร ๆ เราไม่ได้ไปคำนึงคำนวณ บอกอันนี้ประมาณเท่านั้นแล้วเขาก็บอกตามรายการ เอ้า สร้างไปแต่ให้ดี บังคับด้วย ต้องให้ดี ไม่ดีไม่ได้นะ อย่างนี้เรื่อยมา ไม่ว่าหลังไหนทั้งนั้น ถ้าลงเราได้ทำแล้วเรียกว่าไม่มีสิ่งที่จะติเตียนเลย เอาให้เต็มเหนี่ยว ๆ นี่ละที่เสียใจก็คือ ลาดยาวนี่น่ะ ตึกนั้น โห สะดุ้งเลยเรา เพราะเราไม่เคย เนื่องจากมอบให้ลูกศิษย์ เขาเอาช่างมาในกรุงเทพฯ ช่างก็มีแต่ช่างเก่ง ๆ แต่มันไปบกพร่องตรงพื้นที่ละซิ ที่ตอกเข็ม พื้นที่ไม่ดีตอกเข็มมันเลยไม่ได้ขนาดหรือไม่ได้อะไรก็แล้วแต่ มันเลยทรุดตรงนั้น ตึกเลยร้าว ต้องขนนักโทษออกหมด
เราบอกให้รื้อถอนทันที เราจะจ่ายค่ารื้อถอนให้หมด แล้วเราจะให้ใหม่ ทางโน้นยังไม่ขอนะ เราจะให้ใหม่ ถามว่าจะเอาเท่าไรกี่ชั้น เขาก็เลยขอ ๓ ชั้น เอ้า ให้ ต่อมาก็มาขออีกหลัง ๓ ชั้นอีก ให้อีกอย่างนั้นแหละ แล้วการรื้อถอนหลังที่ ๒ นี้ เป็นเรื่องของทางการเอง เพราะเราไม่ไปเกี่ยวข้อง เขามาขอเรา แล้วถ้ามันมีขัดข้องแล้วเขาแก้ไขได้ เราจะเป็นผู้สร้างให้เท่านั้น ครั้นสุดท้ายของบประมาณก็ไม่ได้ ทีนี้กว่าจะได้งบประมาณมานี้เป็นปี งานของเรากำลังติดต่อกันอยู่นี้มันรอกันไม่ได้ ตกลงค่ารื้อถอนก็ให้อีก เอ้า ให้แล้วสร้างขึ้นพร้อมกันเลย อย่างนั้นแหละ
ดร.รัตนา เวลาเขาตอกเสาเข็ม เขาต้องมีวิศวะ ท่านทราบดีนี่คะ เขาต้องมีคนมาเช็คได้ ผู้ว่าฯเป็นวิศวะ
ผู้ว่าฯ จะให้ไปอยู่ในคุก เขาจะให้ไปคุมคุก ครับ
หลวงตา พวกนี้มันก็มีแต่คนขี้คุก หลวงตาก็จะตายแล้ว ช่วยหน่อยนะ โอ้ มันยังไงกัน อันนี้อย่างน้อยก็ต้อง ๓๐ ล้าน แค่คาด ๆ ไว้เฉย ๆ คือเราจะเอาความพอดิบพอดีจากสายตาของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างจากเหตุผลที่ทางโน้นทางนี้มาบวกกันแล้วลงจุดไหน ลงจุดนั้น ๆ หมดมากหมดน้อยเราไม่สนใจ เพราะเราคิดแล้ว พวกนี้เป็นพวกที่จนตรอกจนมุมมากที่สุด เมื่อเขามีที่อาศัยพอจะได้ เขาจะต้องพึ่งเราเต็มที่ เราก็คิดไว้แล้วอันนี้นะ เวลาเขาขอมาก็ต้องได้แบ่งรับแบ่งสู้กันไปเรื่อย เราคิดว่าอย่างนั้น เพราะพวกนี้จนตรอกจนมุมมากทีเดียว นี่เราก็ได้ให้เงิน มูลนิธิ ๑ ล้านไว้แล้วตั้งแต่ปีที่สร้างหลังนั้นได้ ๖ ปีพัง สร้างหลังนี้ ๖ ปี แล้วก็ ๖ ล้านนะ นี่ละที่พังไปแล้วรื้อทำใหม่ นั่นละเราให้มูลนิธิ ๑ ล้านไว้
ต่อไปนี้ก็จะสร้าง ๒ หลังนี้ขึ้น แล้วที่จำเป็นอะไร ๆ เขาอาจจะขออะไรๆ เราก็จะพิจารณาตามนั้น ๆ แล้วก็ให้ตามนั้น เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว เท่าไรก็รู้กันละ หมดเท่านั้น เราเอาอย่างนี้เป็นประมาณนะ แม้แต่โรงพยาบาลก็เป็นอย่างนั้นนี่นะ โรงไหนที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผ่านไปเลยนี้ไม่เห็นมี ตรงนั้นขาดตรงนี้ไม่เหมาะ เอาจนแหลกเลยว่าอย่างนั้นเถอะนะ ช่วยตลอดมาอย่างนั้นละ ไม่ว่าที่ไหน เพราะเราให้ด้วยความเป็นธรรม ไม่มีข้อที่ว่าจะมาเอารัดเอาเปรียบกันได้ เราควบคุมเราดูแลทุกอย่างเลย เหตุผลพร้อมแล้ว ๆ ตูมเลย ๆ นี่ละพวกตึกตามโรงพยาบาลอะไรต่าง ๆ จึงได้เครื่องเสริมกันไปเรื่อย ๆ
เราทำด้วยความเมตตานี่ เราไม่ได้ทำด้วยยื่นอันนั้นแล้วยืนอันนี้มาให้เราอย่างนี้ไม่เอา เอาแบบที่ว่าเป็นธรรมล้วน ๆ ให้ด้วยความเมตตา แล้วมีอะไรอีกไหมล่ะวันนี้ มีอะไร ๆ
ผู้กำกับ ไอ ที วี ครับ
หลวงตา สถานีโทรทัศน์ ไอ ที วี จะออกอากาศ วิดีโอ ที่คุณทองก้อนถามปัญหาหลวงตา ในวันพุธที่ ๔ กันยา เวลา ๑๔.๓๐ นาที ถึง ๑๕.๐๐ นาฬิกา ส่วน ทีวี ช่อง ๑๑ กำลังพิจารณาวันที่เหมาะสม กรุณาทราบตามนี้นะ
หนูขออนุญาตไปโคราช สามีป่วยอาการหนักค่ะ
จะทำยังไงเรื่องเป็นเรื่องตาย อยู่ที่ไหนมันก็มี จะว่ายังไง เพราะฉะนั้นท่านถึงสอนไม่ให้ประมาทละซิ ความตายอยู่ที่ไหนมันก็มี มีได้ทั่วไป คนตายสัตว์ตายได้ทั่วไป ให้พากันอย่าประมาทนะ ความไม่ประมาทนี้ ระวังทั้งความเคลื่อนไหวของเราไปไหนมาไหนก็ปลอดภัย ถ้าไม่ประมาทในการสร้างความดีเพื่อเป็นหลักใจ เป็นกำลังใจ นี่ก็ดีอันหนึ่งเป็นช่อง ๆ ให้พากันพิจารณานะ
คือจิตใจของโลก พูดร้อยเปอร์เซ็นต์ตามอรรถตามธรรมเลยว่า หาที่ยึดที่เกาะไม่ได้ มีแต่สิ่งเหล่านี้เป็นที่ยึดที่เกาะแบบลม ๆ แล้ง ๆ ส่วนที่จะยึดจะเกาะให้เป็นที่อบอุ่นตายใจจริง ๆ แล้วเราไม่อยากจะพูดว่าไม่ค่อยมี ถ้าว่าไม่มีแล้ว แหมถนัดดีนะ คือมันมีก็นิด พอจะว่าไม่ค่อยมีอย่างนี้ไม่ได้นะ ถ้าว่าไม่มีเสียเลยพอดี ให้มันตื่นตัวบ้างนะคนเรา เข้าใจไหม ถ้าว่าไม่มีแล้วทำยังไงจะให้มีขึ้นมา อย่างน้อยก็ค่อยมีขึ้น โห หลักใจเป็นสำคัญนะพี่น้องทั้งหลาย ที่ออกมาเป็นหยดน้ำบนใบบัวนี้ถอดออกมาจากหัวใจทั้งนั้นนี่นะ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่สงสัยที่นำไปปฏิบัติอย่างนั้น เราไม่สงสัย เราอ่านดูแล้ว เราหาที่ต้องติไม่ได้เลย นั่นฟังซิ เจ้าของดำเนินไปยังไง ผู้มาเขียนก็เขียนตามเรื่องราว แล้วก็หาที่ค้านไม่ได้ด้วย
ผลปรากฏขึ้นมาเป็นลำดับ ตามเหตุในแง่หนักเบาของตัวเองที่บำเพ็ญมา ๆ จนกระทั่งหายสงสัยทุกอย่างก็ออกจากเหตุที่ซัดกันเสียจน เรียกว่าเป็นก็เป็น ตายก็ตาย ถึงขั้นเป็นอย่างนั้นมีมากทีเดียว คือจะเอาจะสู้ เรียกว่าถอยไม่มี ฟัดกัน ผลก็ได้ขึ้นมาเป็นชัยชนะ ๆ เราทำเต็มเหนี่ยวกลับมาแพ้นี่ เราไม่ปรากฏนะ มีแต่ชนะไปเรื่อย ๆ นี่ละเหตุดำเนินยังไง ผลจะตอบรับๆ มา อย่างหนังสือหยดน้ำบนใบบัวนี่ ตั้งแต่เริ่มแรกเรามา เราก็ดำเนินมาอย่างนั้นจริง ๆ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง ทั้งเหตุทั้งผลบวกกันแล้วจบกัน อันนี้มันก็เห็นประจักษ์ที่ใจ
เพราะฉะนั้นหนังสือนี้เราจึงหาทางสงสัยไม่ได้ ถ้านำนี้ไปปฏิบัติแล้ว ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ ใคร ๆ ก็จะมีหลักมีเกณฑ์ขึ้นตามขั้นตามภูมิของตัวเอง ยิ่งพระด้วยแล้วยิ่งหนักแน่นนะ ถ้าเป็นพระด้วยแล้วก็ยิ่งจะได้หลักเกณฑ์ขึ้นที่หัวใจๆ ไม่หวั่นอะไร เราพูดจริง ๆ สำหรับเราเองเราหมดแล้วเรื่องหวั่น ไม่มีอะไรแล้วในโลกนี้ เพราะฉะนั้นการพูดการจาทุกอย่างเราจึงแสดงออกตามอรรถตามธรรม ไอ้เรื่องกิเลสตัวใดที่จะแฝงเข้ามาให้เกิดความโมโหโทโส ตามกิริยาที่ขึงขังตึงตังนั้น อันนั้นเป็นพลังของธรรม กิเลสที่จะมาแฝงในนั้นไม่มี เพราะฉะนั้นการพูดการจาทุกอย่างออกมาจากความจริงล้วน ๆ ถ้าความจริงมีแง่หนักเบาเพียงไร การแสดงออกจะหนักมาก ๆ พลังของธรรมหนักมาก เหตุผลกลไกอะไรที่จะตอบรับกัน มีน้ำหนักขนาดไหน ทางนี้จะออกรับกันปึ๋ง ๆ
เหมือนคนขี้โกรธเข้าใจไหมล่ะ เหมือนจะกัดจะฉีก แต่ความจริงตัวโกรธแม้เม็ดหินเม็ดทรายมันก็ไม่มี มีแต่พลังของธรรมล้วน ๆ เพราะฉะนั้นตะกี้นี้ถึงได้พูดว่า ซัดกันเสียจนเหมือนจะกัดจะฉีกจนไม่มีอะไรเป็นผุยผงเหลืออยู่เลยแหละ ยังมายิ้มได้สบาย พอพูดจบลงมียิ้มนิดหนึ่ง โอ้ ยังยิ้มอยู่เหรอ เราว่า นี่ละตอบทางทีวีวันนั้นนะ ใส่เปรี้ยง ๆ พอจบลงแล้ว มียิ้มนิดหนึ่ง เหอ ยังยิ้มอยู่เหรอ คือโลกเขาจะยิ้มไม่ได้ว่างั้นเถอะนะ อันนี้มันไม่มี พอพูดจบแล้วหายเลย ในขณะที่ขึ้นเวทีก็ฟัดกันเปรี้ยง ๆ เสร็จแล้วก็เหมือนนักมวย พอจบแล้วกอดกันใช่ไหมล่ะ สนิทกัน เขาถือกันอย่างนั้น อันนี้พอจบแล้วหายไปเลย เราจึงได้แน่ใจ นี่ผลแห่งการปฏิบัติของเราที่ได้ขึ้นมามากน้อย ตั้งแต่ต้นเหตุมา ถึงขนาดที่เอ้า ตายก็ตายเลย นี้มันไม่รู้กี่ครั้งกี่หนฟัดกันอยู่ในป่าในเขา
ผลเป็นที่พอใจเป็นลำดับลำดามา จนกระทั่งถึงว่าพอใจ ไม่มีอะไรแล้วในโลกทั้งสามนี้ที่จะมาข้องหัวใจเราไม่มี มีแต่การแสดงด้วยความเมตตาต่อโลกเท่านั้น ขอให้ได้ตะเกียกตะกายถึงอรรถถึงธรรม ไม่มากไม่น้อย เหมือนเรามีเงินในกระเป๋าของเรา ผู้มีมากก็ได้อาศัยมาก ผู้มีน้อยเท่าไรได้อาศัยเท่านั้น ผู้ไม่มีเลยจนตรอก คุณงามความดีอะไรควรจะให้มีติดเนื้อติดตัวเรา เหมือนคนทุกข์ก็ขอให้มีเงินติดในกระเป๋าบ้างเข้าใจไหมล่ะ มันยังพอที่จะอาศัย ถ้าไม่มีอะไรเลยจมจริง ๆ เอาแค่นี้ละวันนี้ ต่อไปนี้ก็จะให้ศีลให้พร สายแล้ว
|