การให้เป็นสมบัติที่ร่มเย็น
วันที่ 22 เมษายน 2549 เวลา 8:20 น.
สถานที่ : ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ

เมื่อเช้าวันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙

การให้เป็นสมบัติที่ร่มเย็น

 

          นี่จะเอาไปวัดเสือ (ของในโกดัง) อย่างนั้นละธรรมพี่น้องทั้งหลายดูเอา คือเราแบมือตลอด ไม่มีกำ ไม่มี ทั่วประเทศเขตแดนแบตลอด แบทั่วไปหมด เราไม่เอาอะไร ไม่เอาเลย มีเท่าไรๆ ออกหมด เราไม่เอา มีแต่แบ กำไม่มี ขนาดนั้นยังติดหนี้เขาได้นะ  สุดท้ายมาติดหนี้เขาจนได้แหละ มันความจำเป็น เครื่องไม้เครื่องมือแพทย์นี่สำคัญ เมื่อมันสำคัญแล้วทำอย่างไร เขาก็จ่อเข้ามาหาเรา คนไข้ทั้งหมดอยู่กับเครื่องมือ ถ้าไม่มีเครื่องมือหมอก้าวไม่ออก เราก็ต้องช่วยหมอให้ก้าว เอาติดๆ เรื่องโรงพยาบาลติดบ่อยที่สุด

          เราทำให้สมใจเราที่มีเมตตาต่อโลก เราทำให้สมใจจริงนะ คิดดูซิของพี่น้องทั้งหลายเอาเข้ามาให้เรา ผ่านออกเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่มีรั่วไหลแตกซึม ไม่มี เราควบคุมให้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยตลอดเลย ที่เราควบคุมตลอดก็คือทอง ดอลลาร์ เงินสด อันนี้เราควบคุมเอง จะจ่ายไปมากน้อยเพียงเราพิจารณาเรียบร้อยแล้ว เอาจ่ายๆ เพราะฉะนั้นจึงบริสุทธิ์ตลอด รถมาคันหนึ่งแล้วเต็มพอดีหมดโกดัง ทางวัดป่าบ้านตาดก็โกดังใหญ่นะ คือโกดังใหญ่วัดป่าบ้านตาดนี่เอาของบรรทุกไว้เต็มสำหรับโรงพยาบาล คือเราจะอยู่ก็ตามเราจะไปไหนก็ตามคงเส้นคงวาหนาแน่น ทางไหนมาให้ได้ตามกำหนดที่เราสั่งไว้เรียบร้อย เมื่อบกพร่องให้รีบหามาไว้ อย่างนั้นตลอด

          เพราะอย่างนั้นโกดังวัดป่าบ้านตาดจึงใหญ่โตเต็มเอี๊ยดเลย รู้สึกว่าเป็นประจำวันละ ๔ โรง ๕ โรง ถ้ามากสูงสุดก็ถึง ๙ โรงวันหนึ่งนะ ๙ โรง ๘ โรงมีน้อย แต่ ๔-๕ โรงเป็นประจำทุกวัน ๓ โรง ๔ โรงเป็นอย่างนั้น รถคันไหนมาก็ตามเราจะเติมน้ำมันให้ทุกคันรถ รถคันไหนมารับของไปก็ให้เติมน้ำมัน เรามีปั๊บน้ำมันอยู่นั้น เขาเรียกปั๊บหลวงตาบัว มาไว้เฉพาะ เอามาไว้ที่นั่น น้ำมันขาดไม่ได้ คันไหนมาก็เติมให้เต็มๆ เต็มไปหมดทุกคัน เดือนหนึ่งเฉพาะค่าน้ำมันสำหรับโรงพยาบาลเป็นล้านนะ ไม่ใช่เล่น เราทำอย่างนี้ตลอดมา เราพอใจ การทำนี้เป็นไปด้วยความเมตตาล้วนๆ เมตตานี้เรียกว่าถึงไหนถึงกัน ไม่มีกลัวว่าหมดว่ายังไม่มี..เมตตา มีเท่าไรกวาดออกหมด เราพอใจทำ

          วันนี้ไม่พูดอะไรมากละ ทีแรกวันนี้ว่าจะพักผ่อน พอดีเห็นสาลี่มานี้ ผ่านตามานี้ คึกคักเชียว เลยตกลงจะไปวัดเสือวันนี้ สาลี่เป็นต้นเหตุ แล้วของเต็มรถเห็นไหม เมื่อวานนี้ไปจันท์ สองวัดเมื่อวาน ทุ่มเลยทางจันท์ก็ดี จตุปัจจัยไทยทานอะไรๆ เทศนาว่าการเขาถวายเท่าไรๆ มอบวัดๆ หมดเลยเมื่อวาน เพราะเราไปให้ เราไม่ได้ไปเอา ไปที่ไหนให้ตลอดเลย การให้เป็นสมบัติที่ร่มเย็นสวยงามมากที่สุด การตระหนี่ถี่เหนียวนี้อับเฉามากนะ ความตระหนี่ถี่เหนียวนี้อยู่กับผู้ใดไม่มีความสง่างาม ความเสียสละอยู่กับผู้ใดสง่างามไปหมด ไม่ว่าฆราวาสไม่ว่าพระนะ ชุ่มเย็น ให้ไปปั๊บชุ่มเย็นแล้ว แม้แต่เด็กเรายื่นขนมให้เขาปั๊บมองดูแม้แต่เด็ก เขายิ้มแล้วนะ เด็กก็ยังรู้จักดีใจยิ้ม ทำไมผู้ใหญ่จะไม่รู้ได้อย่างไร

          การให้เป็นการสมานน้ำใจต่อกันและกัน ฝากเป็นฝากตายต่อกันได้คือการให้ การเสียสละสำคัญมากที่สุด พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ก่อนจะเป็นพระพุทธเจ้ามานี้ทานบารมีขึ้นต้นเลย ไม่ว่าพระองค์ใด ไม่มีเว้น ทานบารมีนี้ขึ้นต้นๆ ทุกอย่างทานหมดตลอด ทีนี้เวลาเป็นพระพุทธเจ้าที่ไหนไหลเข้ามาทุกทิศทุกทาง สมบัติไทยทาน เทวบุตรเทวดามาได้ทั้งนั้น เพราะอำนาจแห่งทานของท่าน จนกระทั่งร่ำลือไปมากๆ คนเขาก็เอาไปวิพากวิจารณ์ ทำไมพระพุทธเจ้าเสด็จไปไหนเครื่องปัจจัยไทยทานผิดคาดผิดหมายทั้งนั้น มาทุกทิศทุกทางเกลื่อนไปหมด บางคนเขาก็ว่าก็เพราะท่านเป็นพระพุทธเจ้า ไทยทานจึงต้องมาอย่างนี้

          พระพุทธเจ้ารับสั่งห้ามทันทีเลย อย่าว่าเป็นพระพุทธเจ้านะ ทานที่มานี้มาด้วยอำนาจแห่งทานของเรา ทานเป็นแม่แบบ ทานให้เราเป็นพุทธเจ้า ทานให้เราทำประโยชน์แก่โลกได้กว้างขวาง เราเองเป็นพระพุทธเจ้านี้มาจากทาน เราเป็นลูกของทาน พระพุทธเจ้าไม่ได้ใหญ่กว่าทานนะ นี่ท่านรับสั่งเองนะ เมื่อเขาชมเชยสรรเสริญ ไปที่ไหนก็มีแต่คนอยากทำบุญให้ทานเกลื่อนไปหมดๆ คนเราก็ต้องวิพากวิจารณ์กัน ทำไมจึงผิดแปลกมนุษย์ทั้งหลาย พระองค์เสด็จไปที่ไหน จตุปัจจัยไทยทานนี้เกลื่อนไปหมด บางคนเขาก็ว่าท่านเป็นพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งห้ามทันทีอย่าพูดไม่ได้นะ ที่มันมาเหล่านี้เป็นเพราะอำนาจแห่งผลทานของเรา ทานเป็นแม่แบบ ทานเป็นพ่อเป็นแม่ แม้แต่ความเป็นพระพุทธเจ้าเราก็เป็นมาจากทาน เราไม่ได้ใหญ่กว่าทานนะ พระพุทธเจ้าไม่ได้ใหญ่กว่าทานนะ ไปที่ไหนเย็นไปหมด

          (เพราะความเชื่อที่ว่าความเป็นพระพุทธเจ้า ไม่แต่เกิดจากความเป็นพระพุทธเจ้า แต่เกิดจากอำนาจของทานบารมีที่ท่านสั่งสมอบรมมา อันจะเป็นไปเพื่อความอนุเคราะห์สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงไม่มีประมาณ) เรื่องอันนี้เราเชื่อนะ เราเริ่มเชื่อมาตั้งแต่เริ่มบวชเป็นพระอยู่นั้น ยังไม่ได้พิจารณาอะไรมากนักนะ เราก็เชื่อ เราออกปฏิบัติ ตอนนี้เป็นมหาแล้วแหละ คือตั้งใจออกปฏิบัติ ไปอบรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์เรียบร้อยแล้วก็ออกกรรมฐานเข้าป่าเข้าเขา ทีนี้วันนั้นองค์นั้นก็จะไปองค์นี้ก็จะไป คือไปทางเดียวกันก่อน องค์นี้ก็ว่าจะไปภูเขาลูกนั้นองค์นี้ก็จะว่าไปภูเขาลูกนั้น เอาไปด้วยกันเสียก่อน ยังไม่ได้แยกทางกัน ส่วนมากจะไปคนละองค์ แต่นี้เวลาออกจากท่านไปพร้อมกันสามองค์

          พอออกจากบ้านนามนก็เข้าภูเขาเลย วันนั้นเข้าภูเขา นอนกลางภูเขา ฉันจังหัน แล้วออกไปถึงภูเขา หลงทาง นอนกลางภูเขาเลยสามองค์ นอนที่ร่มไม้ คือมันหลงทิศหลงทางไป กลางคืนแล้ว หมดทางไป เลยพักนอนอยู่ที่นั่น เอาวันนี้รองตั้งสัจจอธิฐานเสี่ยงบารมีดูซิ ว่าบ้านจะอยู่ทางไหน คือมันอยู่ในกลางเขา ให้ตั้งสัจจอธิษฐาน จะรู้ทางด้านภาวนาก็ได้ จะรู้ทางความฝันก็ได้ว่าบ้านอยู่ทางไหน พอไปถึงนั้นแล้วก็พักกลางคืน ต่างคนต่างพัก

          พอสว่างก็มาหากัน เอาพูดก่อนนี่บ้านอยู่ทางไหน ทางทิศใต้ เพราะเหตุไร มีแต่ผู้หญิงพะรุงพะรังมานี้ ว่าอย่างนั้น หาบสิ่งหาบของพะรุงพะรัง ไปทางทิศใต้นี้ คนนี้ละเป็นอย่างไร อยู่ทางทิศเดียวกัน เพราะอะไร อันนี้ก็มีแต่ผู้หญิงอีกละ หาบสิ่งหาบของพาเด็กเล็กเด็กน้อยพะรุงพะรังมา ไปนี้แหละ แล้วท่านละ ถามเรา แต่ฝันเราไม่เป็นอย่างนั้น อยู่ทางทิศนี้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่บ้านนะ เราว่าอย่างนั้น เมื่อคืนนี้โยมแม่มาหาเรากับเด็กผู้ชาย อ้าวโยมแม่มาอย่างไรในป่าในเขา ทำไมถึงมาหาที่นี่ถูกละ อ๋อแม่ อยู่นี้ทับนี่นะ ไม่ใช่บ้าน แม่พักอยู่ทับนี้

          นั่นละกองไฟ มองไปเห็นเปลวไฟแดงโร่  เด็กก็มาถามนั้นถามนี้ แล้วก็มาเอาของเราไป ของบริขารเรา เด็กสะพายบริขารเราไป โดยเราไม่ได้บอกเรา เราไปกับโยมแม่แล้วหายไปเลย เราก็บอกว่าทางนี้เป็นทางที่ว่านี้ ใครก็ว่าบ้านๆ แต่นี้ไม่ใช่บ้าน เป็นทับนะ โยมแม่มาบอกอย่างนั้นๆ แล้วเราจะพบผู้หญิงก่อน มันมีแปลกอยู่ที่มีเด็กผู้ชาย พระท่านบอกว่าอย่างไรจะต้องพบผู้หญิงก่อนวันนี้ องค์ไหนปรากฏขึ้นมาก็มีแต่ผู้หญิง มีแต่ผู้หญิงพะรุงพะรังไป แต่เรามีเด็กมากับโยมแม่ เอารองวิจารณ์กันดู นี่เราจะมีเด็กผู้ชายอยู่นะ คอยดู แล้ววันนี้จะมีใครมาเอาบริขารช่วยเรา เพราะเด็กเหล่านี้มาเอาบริขารไปโดยเราไม่ได้สั่งเสียอะไรเลย

          ไปทางนี้แหละ ทางทิศที่มันฝันบอก เป็นอย่างไรก็ตามบุกเลยนะ ในภูเขานั่นละบุกเลย ไปตามความฝัน ไปก็อยู่ในหุบเขา เขามาปลูกบ้าน คือทำกระต๊อบ เขาทำไร่ข้าวอยู่ที่หุบนั้น สี่หลังคาเรือน เราไปเจอทางเป็นด่านๆ คือมันหลงไปนะ มันด่านอะไร นี่เห็นรอยคนนะ ทำไมรอยคนมาอยู่ในกลางเขาอย่างนี้ เอาตามลงไป ไปเจอพวกนี้พวกที่เขามาปลูกบ้านเขาอยู่ในหุบเขา เขากำลังตำข้าวอยู่ ตำข้าวด้วยมือนะ เขาร้องเก้กก้าก ขึ้น โอ้ยนี่ยาท่านท่านมาแล้วนี่น่ะวันนี้ พอดีกับพวกฝันกันพูดคุยกันพึ่งจบเดี๋ยวนี้ ผู้ชายพึ่งออกไปทำงานไปสวนไปไร่ข้างหน้าเดี๋ยวนี้ แล้วฝันเมื่อคืนเอาความฝันมาสนทนากัน ฝันแบบเดียวกัน

          เขาว่ามีพระมาโปรดนี้สามองค์ เราไปสามองค์ คือยังไม่ได้แยกกัน ไปหลงทางในภูเขาก่อน ทำไมจึงมาอย่างนี้ได้ ถ้าหากว่าไม่เจอพวกผมพวกท่านตาย นี่เข้ามาในหุบเขาลึกแล้ว พอดีมาเจอนี้ พวกผมต้องตามส่ง นี่ละที่ว่าเด็กมาเอาของเรา เราคอยดู วันนี้จะมีคนตามส่งเรา พวกนี้เขารับรอง ถ้าไม่ตามส่งพวกท่านตายแน่ๆ พอฉันเสร็จแล้วเขาก็พาย้อนหลังกลับไปนู่น เกือบครึ่งวันย้อนลงไป มีทางด่านไปหาหมู่บ้านคน มันไม่ตายนะ แทนที่จะตายจริงๆ ไม่ตายน้า มันหากจำเป็นจริงๆ เขาร้องโวยวาย มาได้อย่างไร นายพรานเขามาเที่ยวป่าอยู่เรื่อยๆ อย่างหนึ่งก็จะพบนายพราน แต่นี้มาพบพวกผมไม่เป็นอะไร เขาก็หาอะไรๆ หุงหาเดี๋ยวนั้นปุบปับๆ กว่าจะได้เริ่มฉันก็สี่โมงเช้ากว่าๆ พอฉันเสร็จแล้วก็นำของไป

          นี่พูดถึงเรื่องว่ามันจะตายจริงๆ ไม่ได้น้า จนตรอกจริงๆ มันหากหลงทิศหลงทาง หาที่ชุบชีวิตนั้นแหละ เราจึงเชื่อ เราขึ้นรถไฟ แต่ก่อนไปรถไฟ ไปกรุงเทพฯ-อุดร กรุงเทพฯ-โคราช ไปเรื่อย พอไปในรถไฟไม่เอาอะไรละ ขึ้นรถไฟไปแต่เช้า เรียกว่าวันนี้เสียสละไม่ฉันวันนี้ คือไม่เอาอะไรเลย เราก็นั่งรถไฟเป็นตุ๊กตานะ อยู่ๆ มีเทวบุตรเทวดานะมาปุ๊บปั๊บ ก็อาหารตู้เสบียงเขามีใช่ไหมละ เขาจัดตู้เสบียงมาถวาย โอ๋ย... ภาษาเชียงใหม่ เต็มหมด มันก็ไม่ตาย เราก็เสียสละแล้วว่าจะไม่ฉันอะไร แล้วสุดท้ายเขาเอามาให้ฉันจนได้ มันเป็นอย่างนั้นนะ เอาละทีนี้จะให้พร

         

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz

 

 

         

         

         

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก