เทศน์ในงานสวดบำเพ็ญกุศลให้กับผู้ตาย นายมณฑล เรืองพัฒนา

ณ มูลนิธิส่งเสริมธรรม จ.อุดรธานี

เมื่อค่ำวันที่ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๘

โลกจะแคบที่สุดเลยผู้ตาย

ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลด้วยนะ เราทำบุญให้ทานมากน้อย ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้ เพราะคนตายไม่ไปที่ไหน ตามหลักธรรมท่านแสดงไว้เรียบร้อย คนตายนี้ไม่ไปที่ไหน บ้านญาติบ้านมิตร บ้านพ่อบ้านแม่ ลูกหลานอยู่ที่ไหนจะมาที่นั่น เรื่องดวงวิญญาณไม่มีคำว่าใกล้ว่าไกล ถึงปุ๊บเลยทันที เพราะฉะนั้นเราทำบุญอะไรลงไปแล้วให้ตั้งใจอุทิศให้ เพราะผู้ตายที่สมควรที่จะได้รับส่วนบุญส่วนกุศลแล้ว ไม่ว่าใกล้ว่าไกลว่าที่ไหนเข้ามาถึง มาอยู่ในวงญาติ เช่นพ่อเช่นแม่ พี่น้อง ลูกหลาน จะมาอยู่ในวงนี้ ตามท่านแสดงไว้ในธรรมว่า ที่อื่นไม่ไป ไม่ยอมไป นี่ละหลักธรรมท่านแสดงไว้ ญาติมิตร เพื่อนฝูง พ่อแม่ พี่น้องอยู่ที่ไหน จะเข้ามาที่นั่น ใกล้ไกลไม่มี ที่ว่าจะรู้ทางหรือไม่รู้ทาง ไม่ได้เหมือนเรานะ ปั๊บเข้ามาถึงเลย

พอพูดเรื่องนี้ก็จะเป็นตัวอย่างที่สำคัญมาก ให้บรรดาเราทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธได้ฟัง ท่านปัญญาวัฑโฒ ท่านเสีย ดูว่าวันที่ ๑๘ ธันวาหรือไง เราไปวันที่ ๑๗ ธันวา เราดูทุกสิ่งทุกอย่างนี้จะไปไม่รอด สั่งทุกอย่างให้เตรียมหมดเลยก่อนที่เราจะออกเดินทาง นี่จะไม่นานนะ เราบอกเลย แต่ด้วยความจำเป็นของเราก็มี ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ให้บกพร่องเราสั่งเสียไว้หมดเลย พวกหีบ(ศพ) พวกอะไรเหล่านี้ให้จัดการเรียบร้อย เราสั่งเรียบร้อยแล้วก็ไปวันที่ ๑๗ พอวันที่ ๑๘ ทางนี้ก็บอกไปเลยว่าท่านปัญญาเสียแล้วเวลานี้....

พอท่านปัญญาเสียดูว่า ๘ โมงเช้าหรือไงนี่ นู่น ไปกระเทือนที่ประเทศอังกฤษ คุณเจนคุณอะไรเป็นลูกศิษย์ท่านปัญญามาดั้งเดิม ท่านปัญญาพามาวัดป่าบ้านตาดหลายครั้งนะ คุณเจนมาภาวนาอยู่ที่นี่หลายเที่ยวหลายครั้ง มาแต่ละทีนี้นานกว่าจะกลับ ทีนี้พอท่านปัญญาเสียทางนี้ ตอนนั้นเวลาทางนู้นเป็นกลางคืน ทางนี้เสียเวลาทางนี้ ทีนี้เทียบกับเวลาทางนี้เสียกับทางโน้น ไปแสดงอาการที่แปลกประหลาดอัศจรรย์ขึ้นทางโน้นเวลาเดียวกันปึ๊ง นั่นเห็นไหมใกล้ไกลที่ไหน เมืองอังกฤษกับเมืองไทย ธรรมดาไกลขนาดไหนใช่ไหม พอออกทางนี้ปั๊บ ไปถึงกันแล้วไปถึงลูกศิษย์แล้ว

อยู่ๆ ลมหรืออะไรเป็นอยู่เฉพาะบ้านนั่นนะ ประตูปิดอยู่ดีๆ ธรรมดาทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อยไปหมด แล้วก็เสียงปึงปังๆ วู้วี้ๆ เป็นยังไงว่ะ เลยรีบออกมา นึกว่าพวกผู้ร้ายชายโจรเข้ามาบุกหรือเข้ามาอะไรในบ้านมันผิดปกติเอาเหลือประมาณว่างั้น ทางนี้ก็รีบลุกขึ้นเหมือนว่ารับข้าศึกว่างั้นเถอะ พอออกมาแล้ว ประตูที่ปิดไว้เรียบร้อยเปิดโล่งหมดเลยๆ แต่ไม่มีอะไรเสียหาย หากเปิดเฉยๆ อ้าว ประตูเราก็ปิดไว้ดีๆ แล้วเป็นยังไงถึงเป็นอย่างนี้ แปลกประหลาด ออกไปข้างนอกข้างในดูที่ไหนก็เรียบร้อยหมด ว่าโจรว่ามารเขาจะมาบุกที่ไหน ไปดูที่ไหนข้างนอกดีหมด มีแต่เฉพาะภายในบ้านประตูที่ไหนเปิดหมดเลย เปิดโล่งไปหมด ห้องหลับห้องนอนนี่เปิดไปหมดเลย ทางนี้ก็ตื่นเต้นตกใจ เอ๊ เป็นยังไง

ไม่นานนัก ก็ทราบจากทางนี้ว่าท่านปัญญาเสีย โอ๊ย อันนี้เอง นั่นเห็นไหมล่ะ เป็นอย่างงั้นละ นี่จิตวิญญาณไปเตือนลูกศิษย์ของท่านปัญญานั่นเอง คุณเจน เลยอัศจรรย์แล้วก้มกราบลงทันทีเลย โถ อัศจรรย์อย่างนี้เรื่องธรรมของพระพุทธเจ้า ธรรมดานี้ใครจะไปเปิดได้ประตู เขาบอกว่างั้น เปิดไม่ได้ เสียงเหมือนคนเข้ามาบุกบ้านจริงๆ ไม่ใช่ธรรมดาตูมตามๆ ไปหมดเลย เสียงลั่น ทางนี้อยู่ไม่ได้ก็โดดออกมา นึกว่าโจรเข้ามาปล้นบ้าน ไม่ใช่ธรรมดานะ พอออกมาแล้วที่ไหนได้ ประตูเปิดโล่งไปหมด เปิดไปหมด ออกไปข้างนอกไปดูที่ไหนได้ ข้างนอกจริงๆ ประตูปิดไว้เรียบร้อย แน่ะ แต่ในวงนั้นเปิดไว้หมดเลย จึงอัศจรรย์ เอ๊ ทำไมจึงเป็นอย่างนี้

สักเดี๋ยวไม่นานทางนี้ก็โทรไปบอกว่าท่านปัญญาเสียแล้ว เวลาเท่านั้น ทางนั้นก็ดูนาฬิกากับดูเวลาท่านเสีย ท่านปัญญาเสียทางเมืองไทยเรานี้ตรงกันเป๋งเลย นั่น เป็นอย่างนั้น นี่ละเรื่องอัศจรรย์ เขามาเล่าให้ฟังแบบตื่นเต้นเอาเหลือเกิน เขาไม่เคยมีไม่เคยเห็น เรื่องราวนี้เกิดเหมือนกับว่าบ้านนี้ถล่มไปหมดเลย จะไม่มีอะไรเป็นชิ้นดีเลย เสียงลั่นไปหมด เหมือนโจรเข้าบุกบ้านว่างั้นเถอะน่ะ เวลาโดดออกมาดูเหตุการณ์ ประตูเปิดไว้เรียบร้อยแล้ว เปิดแล้ว มองดูหาใครก็ไม่เห็น เป็นยังไงเสียงมันลั่นเหลือประมาณ ครั้นออกมานอกบ้าน ออกมาข้างนอกที่ไหน ประตูนอกบ้านปิดหมด ดีอยู่ธรรมดา แต่ภายในนี้เปิดโล่งไปหมด นั่น เป็นอย่างนั้น

เลยอัศจรรย์ เอ๊ มันเกิดเรื่องอะไรถึงเป็นอย่างงี้ เราก็ไม่เคยมีเคยเป็น เป็นอย่างนี้ ประตูนี้ธรรมดามันเปิดไม่ได้ แล้วทำไมมันเปิดได้อย่างโล่งไปหมด เปิดเองโล่งไปหมดๆ มันอัศจรรย์ตอนนี้ เขาว่า พอได้ทราบข่าวว่า ท่านปัญญาวัฑโฒ เสียแล้วที่อุดร เวลาเท่านั้น ทางนี้กับเวลานี้มาเข้ากันได้เปรี๊ยะเลย ก็อย่างงั้นละ จิตวิญญาณไม่ได้ตาย พอออกจากร่างปึ๊งก็ไปเลยไปเตือนลูกศิษย์ นี่เป็นลูกศิษย์ท่านปัญญา คุณเจน คุณฟรีด้าคุณอะไรเขามาบ่อยๆ นี่ละเป็นเรื่องอัศจรรย์ โหย เขาพูดแบบตื่นเต้นเลย เขาไม่เคยเห็นอัศจรรย์ นึกว่าบ้านนี้พังไปหมด เสียงลั่น ก็ไม่ได้คิดว่าอะไร นอกจากเสียงผู้ร้ายหรือโจรปล้นบ้านว่างั้นเถอะ ออกมาแล้วมันไม่มีอะไร

เสียงตูมตามๆ โครมครามๆ ไปหมดเลย ไม่เป็นเสียงธรรมดา ก็เชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าโจรมาปล้นบ้าน ว่างั้นนะ ถึงได้ออกมาดู เปิดแล้วประตู อ้าว เปิดแล้วหากไม่เห็นคน ทำไมประตูเปิด เปิดแต่ไม่เห็นคน เป็นยังไง ออกมาแล้วก็เงียบไปหมด แล้วไปดูประตูหน้าบ้าน ประตูหน้าบ้านปิดสนิทไม่มีอะไรเลย เปิดเฉพาะในตัวบ้าน อ้าว ทำไมเป็นอย่างนี้ ต่างคนต่างตกอกตกใจแต่หาเหตุหาผลไม่ได้ อะไรจะเสียหายก็ไม่มี ประตูธรรมดาเปิดไม่ได้ นี้เปิดเองๆ ไปหมดเลยนี้เป็นยังไง พอทราบข่าวว่าท่านปัญญาเสียแล้ว โอ๊ย ท่านปัญญา..ขึ้นเลย หมอบกราบเลยทันที โอ๋ ท่านคิดถึงลูกศิษย์ท่าน ทีนี้ก็หายสงสัย มีแต่ความอัศจรรย์ละที่นี่ พอทราบข่าวว่าท่านปัญญามรณภาพแล้วนี้ เรื่องราวทางนี้ก็เรียกว่ามันมาจากโน้น เลยหมดปัญหาไปเลย มีแต่ความอัศจรรย์

นี่ละแปลกอยู่นะจิตวิญญาณ อยู่ที่ไหนก็ตาม คิดดูซิอยู่เมืองอังกฤษ ปุ๊บถึงแล้ว ไปบอกเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ทางผู้ที่ล้มหายตายจากไปเหมือนกัน ไม่ว่าจะตายใกล้ตายไกล ตายเมืองไหนก็ตาม จะไม่หนีจากญาติมิตร เพื่อนฝูง พ่อแม่ พี่น้อง ของตัวเองเลย จะมาที่นั่น ท่านแสดงไว้อย่างนั้น ทีนี้อาหารการบริโภคที่เราเคยรับประทานอยู่ร่วมกันมาแต่ก่อนที่มีชีวิตอยู่ เวลามาแล้วนี้รับประทานไม่ได้ มันเป็นคนละโลกไปแล้ว ดูอยู่อย่างนั้นละ มาอยู่ข้างฝาบ้าง นอกฝาบ้าง อยู่รอบๆ บ้าน ผู้ที่เสียน่ะ พวกเปตชน.มาแล้วเอาอะไรไว้นี้ก็กินไม่ได้แหละ ไม่เหมือนแต่ก่อน

เพราะฉะนั้นท่านถึงบอกว่าให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล นี่ละได้รับ มีเท่าไรได้รับหมด พวกญาติผู้ที่เสียไปแล้วกลับมา เพียงธรรมดาเรารับประทานกันเป็นวงกันอยู่นี้ พอตายไปแล้วเป็นโลกใหม่ขึ้นมาแล้วรับไม่ได้เลย ไม่ใช่วิสัยจะรับ ต้องเป็นส่วนบุญที่ญาติมิตรอุทิศให้เท่าไรนี้รับหมดเลย จากนั้นก็ขึ้นสวรรค์ไปเลย อนุโมทนาสาธุการแล้วก็ไป บางรายก็เสียใจ พวกเปรตพวกผีเสียใจ คือญาติมิตรเพื่อนฝูงไม่สนใจที่จะทำบุญให้ทาน มาถึงบ้านก็จิตใจเหี่ยวแห้งไป เป็นความทุกข์กลับไป ไปเสวยทุกข์ตามเดิม ผู้ที่ ญาติมิตรเพื่อนฝูงได้ทำบุญอุทิศให้ ก็ได้รับส่วนบุญกุศลเรียบร้อยแล้วก็อนุโมทนา พวกเปรตอนุโมทนาให้แก่ญาติมิตรเพื่อนฝูงแล้วไปสวรรค์เลย นี่ละธรรมท่านแสดงไว้

เพราะฉะนั้นจึงว่าผู้ตายนี้จะไม่มีที่ไหน โลกจะแคบที่สุดเลยผู้ตาย ไปที่ไหนอาศัยที่ไหนไม่ได้นะ ต้องเป็นบ้านของญาติของมิตรของพ่อของแม่เพื่อนฝูงนี้เท่านั้น พอตายแล้วจะมาที่นั่นทันที ถ้าทางนี้ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล มาก็สมมักสมหมาย กลับไปด้วยความรื่นเริงบันเทิง อนุโมทนาสาธุการแก่ญาติทั้งหลายแล้วก็ไปสวรรค์ นี่ท่านแสดงไว้ใน ติโรกุฑฑกัณฑสูตร ส่วนที่สุดวิสัยมันก็สุดอย่างงี้แหละ นี่เรียกว่าสุดวิสัย ตายได้ด้วยกันทั้งหมด เป็นแต่เพียงว่าก่อนหรือหลังเท่านั้นเอง ไม่ผิดกัน เมื่ออยู่ในวิสัยที่ทำได้ เช่นอย่างตายไปแล้วนี้ ส่วนวิสัยที่เราทำได้คือทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ นี่ละเป็นสำคัญ

โยม ตอนที่อยู่โรงพยาบาล ลูกชายเอาเทปของหลวงตาให้ฟังตลอดเลยค่ะ แล้วเขาก็หลับเลยค่ะ หลับแบบสบายๆ

หลวงตา นั่น จิตใจดีมาตลอดแล้ว มีธรรมหล่อเลี้ยงแล้วๆ ยิ่งได้รับบุญกุศลสนับสนุนช่วยจากบรรดาญาติมิตรทั้งหลายนี้แล้วยิ่งรวดเร็ว เป็นอย่างงั้นละ เป็นคนใจบุญอยู่แล้ว

โยม เมื่อวันก่อน พอเสียอาจารย์นิพนธ์ไปเยี่ยม หลังจากหลวงตาไปเยี่ยมน่ะค่ะ อาจารย์นิพนธ์ไปเพราะว่ารักมาก ไปหาอาจารย์นิพนธ์เหมือนหลวงตาเล่าเลยค่ะ ไปก็ไปยิ้มหา แล้วอาจารย์นิพนธ์ว่า ทำไมมาถูก ท่านถามเหมือนว่าป่วยอยู่ ทำไมมาถูก ทำไมมาได้อย่างงี้น่ะค่ะ ยิ้มแล้วก็เดินไปเลยเจ้าค่ะ

ทุกปีวันเกิดเดือนกันยา คุณมณฑลนี้จะไปรักษาศีลเป็นเดือน เป็นประจำทุกปีที่วัดท่านอาจารย์นิพนธ์เจ้าค่ะ

หลวงตา นิพนธ์อยู่วัดไหน

โยม วัดป่าบ้านใหม่น่ะค่ะ ทางบ้านผือ เดี๋ยวนี้ไปอยู่ทางภูเรือ เมืองเลยค่ะ

หลวงตา ไปอยู่ทางภูเรือ เขาเรียก ศาลาน้อย ท่านก็เป็นพระวัดป่าบ้านตาด ออกจากนี้ท่านก็ไปอยู่ที่นั่น สถานที่สร้างวัดเราก็ไปดู ตลอดปลูกศาลา เราเคยไปเยี่ยมดู จากนั้นท่านก็ไปอยู่ที่ศาลาน้อย ที่จังหวัดเลย เราก็ได้ไปพักที่นั่น ตอนไปเทศน์ที่นั่น นี่ก็ไม่มีอะไรแหละจิตใจดีอยู่แล้ว ใจดีอยู่แล้ว ไม่ต้องวิตกวิจารณ์นะ ส่วนนี้มันสุดวิสัย เรื่องเป็นเรื่องตาย คนดีก็ตาย คนชั่วก็ตายได้ ที่อยู่ในวิสัยอันดี ที่เป็นที่อบอุ่นใจก็คือความดีงามของเราที่สร้างไว้แล้วนี้หนุนทันทีเลย อันนี้หนุนทันที ที่พูดนี่เราพูดถึงเรื่องคนที่มีความดี เมื่อไม่พอมารับจากญาติได้ทั้งหมดที่ญาติอุทิศให้ เอ้าที่นี่ พวกที่ไม่เคยสนใจในบุญในกุศลเลย สร้างแต่บาปแต่กรรม ตายแล้วจมไปนรก ทำเท่าไรมันก็ไม่ถึง ท่านก็บอกไว้ ถึงทำอะไรก็ไม่ถึง ไม่ใช่วิสัยของสัตว์ประเภทนั้นจะมารับส่วนบุญอย่างนี้ได้ นี่เวลาเท่าไรสวด สวดเวลาใด?

โยม ทุ่มครึ่งค่ะ พอบอกว่าหลวงตาจะมาเยี่ยมศพคุณมณฑล เพื่อนๆ มากันเยอะแยะเลยเจ้าค่ะ อยากมากราบหลวงตา

หลวงตา ก็คุณมณฑลเขามีบุญมาก ถ้าไม่มีบุญมากก็ไม่มีใครมานะ มันขึ้นอยู่กับบุญกุศลของผู้ตายด้วยนะ อย่ามาว่าแต่กับหลวงตา ผู้ตายมีวาสนามีบุญเป็นเครื่องดึงดูดกันมาจนได้นั่นแหละ

โยม เมื่อวานหนูก็ถามลูกๆ เขาว่าจะนิมนต์หลวงตาไหม เขาก็บอกว่าไม่กล้า หนูเลยบอกว่า มาหนูจะพามา แต่ไม่ใช่อยู่ที่หนู หนูบอกว่าอยู่ที่ลูกๆ กับภรรยา อยู่ที่ใจเขาว่าจะอธิษฐานยังไง หลวงตาก็จะเมตตาเอง

หลวงตา อธิษฐานยังไง ก็ลูกศิษย์ก็เป็นคนบุญอยู่แล้ว มันก็เข้ากันได้ง่ายๆ แหละ ถ้าคนบาป ให้แต่งรูปเป็นเทวดามาก็ไม่เอา เราเอาแต่บุญแต่กุศลเท่านั้น ไอ้บาปจะแปลงตัวมาแบบไหนเราไม่เล่นด้วย เข้าใจเหรอ

เป็นยังไงล่ะเรื่องของท่านปัญญาตาย เหมือนว่าเกิดข้าศึกขึ้นในบ้านไม่ใช่ธรรมดา เกี่ยวกับท่านปัญญาองค์เดียว จิตใจท่านไปแสดงปาฏิหาริย์ให้ลูกศิษย์ชม จนลูกศิษย์ตื่นเต้น นึกว่าเขามาบุกบ้าน เขามาโจมตีบ้าน มาปล้นบ้าน โอ๋ย แตกตื่นวิ่งมา มาที่ไหน เสียงเปรี้ยงปร้างๆ ทีนี้ก็ตื่นนะ แต่ไม่มีอะไรเสียหาย หากได้ยินเสียงดังเฉยๆ อย่างประตงประตูนี้เสียง เปรี้ยงปร้างๆ เหมือนว่าแหลกไปหมด ครั้นเวลามาแล้วก็ไม่เห็นมีอะไร ประตูเปิดแล้ว ประตูตามธรรมดาเปิดไม่ได้ เขาบอก นี้มาเปิดไว้แล้ว นั่นเห็นไหมล่ะ ธรรมเปิดเป็นอย่างงั้นละ เสียงเปรี้ยงปร้างนั่นไม่มีอะไรเสียหายนะ เอาละ ต่อจากนี้หลวงตาก็จะได้ลากลับละนะ

โยม ลูกศิษย์หลานศิษย์มีความปลื้มปีติ และกราบขอบพระคุณองค์หลวงตาเป็นอย่างสูงยิ่ง ในพระเมตตากรุณาเป็นล้นพ้น ที่องค์ท่านได้โปรดมาเยี่ยม และรับถวายบังสุกุลและผ้าป่า จาก นายมณฑล เรืองพัฒนา ขณะที่ป่วยในขั้นสุดท้าย ที่โรงพยาบาลศิริราช และได้เทศนาโปรดครอบครัว ตลอดจนญาติมิตร ที่มาร่วมงานสวดบำเพ็ญกุศล ณ มูลนิธิส่งเสริมธรรม

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz