วัฏวนนี้กว้างแสนกว้าง
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 8:45 น.
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๙

วัฏวนนี้กว้างแสนกว้าง

ก่อนจังหัน

ต้องขออภัยบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่ไม่เคยกับเรื่องศาสนา เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการขบการฉันของพระท่านทำยังไงๆ ที่นี่ท่านก็ทำแบบของท่านเคยทำแยกออกไป ถ้วยหนึ่งนี้มีอาหารหลายประเภทผสมผเสกันไปๆ เหมือนท่านผสมผเสอาหารลงในบาตรนั้นแหละ มาดั้งเดิมตั้งแต่พระพุทธเจ้าของเรา ฉันในบาตรๆ มีอะไรลงในบาตรๆ ไม่ว่าหวานว่าคาวว่าอะไรลงในบาตร เหมือนกันกับลงในพุงของเรา มีกี่ประเภทลงในพุงอันเดียวพอ อันนี้ก็รวมกันลงในบาตร แล้วก็รวมกันลงในพุง เข้าใจ นี่สอนให้ถนัดชัดเจนตามภาษาธรรม ตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม

อาหารประเภทต่างๆ ที่ส่งไปนี้ ส่วนมากจะสงสัย เอ๊ ทำไมอาหารมีหลายประเภทผสมผเสกัน จะสงสัยมาก เราจึงได้ชี้แจงให้ทราบว่า เรื่องของพุทธศาสนานี้เป็นมาอย่างนี้ตั้งแต่พระพุทธเจ้าของเรามา อาหารชนิดใดมาก็ลงในบาตรๆ ไม่ทราบผสมผเสลงในบาตรๆ ผสมผเสแล้วลงในพุง เข้าใจ มันพวกประเภทรวม ในพุงของเรารวม บาตรก็ต้องรวม ให้คิดกันอย่างนั้น จะไปคิดแบบโลกๆ แบบกิเลส อาหารนั้นดี อันนี้ไม่ดี ทำผสมผเสกันอะไรอย่างนี้ นี่กิเลสมันทำท่ามันหยิ่งต่อธรรม เข้าใจไหม กิเลสหยิ่งต่อธรรมเป็นอย่างนั้น ธรรมไม่หยิ่ง เอาตามหลักความจริงเลย ให้ท่านทั้งหลายได้ทราบเสีย สำหรับวัดนี้ปฏิบัติอย่างนี้มาดั้งเดิม สำหรับพระท่านทำมาอย่างนั้น ทีนี้เวลาแยกออกไปหาประชาชนญาติโยม ประชาชนญาติโยมก็ลูกศิษย์พระ ก็ต้องเป็นแบบเดียวกันกับพระ แยกไปอาหารไม่ทราบกี่ประเภท ถ้วยหนึ่งอาจจะมีหลายชนิดก็ได้ ให้ท่านทั้งหลายเข้าใจเอาตามนี้

วันนี้ก็ไม่เห็นมีงานมีการอะไร แต่ดูประชาชนพี่น้องชาวพุทธเรานี้มากันมากมายวันนี้ เราก็รู้สึกชื่นอกชื่นใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสภายในใจ ในปัจจุบันและอนาคตนี้ถ้ามีธรรมแฝงอยู่ในที่ทั่วๆ ไปทั่วประเทศเขตแดนทั่วโลกทั่วสงสารแล้ว โลกจะมีความสงบร่มเย็นมาก ถ้ามีตั้งแต่กิเลสตัณหา มีแต่ฟืนแต่ไฟ ใครอยู่ที่ไหนเผากันที่นั่น นั่นคือกิเลสตัณหา ถ้าเป็นเรื่องของธรรมประสานกันได้ทันทีๆ สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น ฟังซิน่ะ เกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน

เมื่อเป็นอย่างนั้นมีอะไรๆ ก็ให้ประสานกันๆ เป็นมิตรกันไปเลย มิตรทางธรรมนี้ตายใจกันนะ ไอ้มิตรทางกิเลสตัณหานี่ โอ๋ย เดี๋ยวแทงข้างหลัง เดี๋ยวแทงข้างหน้า ไว้ใจไม่ได้นะเรื่องกิเลสเป็นมิตร มันแทงข้างหลัง ภาษาทางนี้เขาเรียกว่าหักหลัง แทงข้างหลังก็อันเดียวกันนั่นแหละ เชื่อใจกันไม่ได้ ถ้าเรื่องธรรมะ เอา มา มาจากไหนมาเถอะๆ สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน มีอะไร เอา แยกกันๆ ๆ ไม่ว่าการกินการอยู่ใช้สอย เอา แยกกันไปให้เสมอกันไปหมด นี้คือธรรมตายใจกันได้เลย ไปที่ไหนสนิทกันเลยทีเดียว

ถ้ากิเลสมันชอบหยิ่งนะ มันไม่ได้เหมือนธรรม กิเลสชอบหยิ่งจองหอง ว่าตัวสูงตัวอย่างนั้นอย่างนี้ มันอวดดีต่อธรรม กิเลสต้องอวดดี กิเลสไม่ได้ดีนะ มันชั่ว สกปรก แต่ธรรมเป็นของดีของสะอาด มันชอบมารบกันธรรมอยู่เสมอ ให้พิจารณาดูในหัวใจของเจ้าของนั่นซิ หัวใจจะเป็นผู้รับอรรถรับธรรม รับกิเลสก็รับมานานแล้ว พากันตั้งอกตั้งใจ วันใดควรจะมีว่างๆ เช่นอย่างที่มาวัดมาวานี้นำธรรมเข้าสู่ใจ นำบุญกุศลจากการทำบุญให้ทานเข้าสู่ใจ นำอรรถนำธรรมที่ได้ยินได้ฟังแล้วเข้าสู่ใจ

ใจเมื่อได้อรรถได้ธรรมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงแล้วจะสงบร่มเย็น อะไรจะขาดตกบกพร่องบ้างไม่สำคัญ เมื่อใจมีธรรมเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงแล้วชุ่มเย็นไปหมด วัตถุภายนอกเป็นเพียงแฝงๆ เรื่องอาหารการบริโภคเกี่ยวกับเรื่องธาตุเรื่องขันธ์ แต่โลกถือเรื่องนี้มากยิ่งกว่าเรื่องธรรมไปเสีย เรื่องปากเรื่องท้องนี่ เอา มีเท่าไรๆ กินไม่พอๆ ธรรมแห้งผากในจิตใจ เรียกร้องหาความช่วยเหลือจากเจ้าของอยู่มันไม่สนใจนะแต่ละคนๆ

ท่านทั้งหลายมานี้เพื่อเสาะแสวงหาธรรมเข้าสู่ใจ ให้ได้มีความชุ่มเย็น โลกอันนี้ไม่มีอะไรจะเย็นยิ่งกว่าธรรมเข้าสู่ใจ โลกอันนี้ไม่มีอะไรที่จะร้อนยิ่งกว่ากิเลสเข้าสู่ใจ เผาหัวใจ ให้แยกกันนะ กิเลสกับธรรมอยู่ในหัวใจดวงเดียวกัน กิเลสคือความเศร้าหมองมืดตื้อ หรือเป็นฟืนเป็นไฟ ท่านให้ชื่อว่ากิเลสมันอยู่ภายในใจ เมื่อมันแสดงออกไปเป็นกิริยาอาการใดก็ตามจะเป็นความเศร้าหมองมืดตื้อ เป็นฟืนเป็นไฟเผากันไปได้นะกิเลส ถ้าเป็นธรรมแล้วออกไปไหนกระจายออกไปไหนสนิทสนม พึ่งเป็นพึ่งตายกันได้เลย

พากันจำเอานะ วันนี้เทศน์เพียงเท่านี้ละ พอเป็นเครื่องระลึกก่อนจังหัน หลังจังหันแล้วไม่แน่ บางทีก็เทศน์บางทีก็ไม่ได้เทศน์ บางทีก็สะเปะสะปะ บางทีก็ตีตูมๆ เลยก็มี เอาแน่ไม่ได้นะธรรม ให้พร

หลังจังหัน

(คณะพระภิกษุสงฆ์และญาติโยมชาวอินโดนีเซีย มากราบเยี่ยม) เราเสียใจที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ มามองดูหน้ากันเฉยๆ (มีล่ามครับ) ล่ามมันแบบล่วมล่ามก็ไม่รู้ ล่ามแยกไปล่วมล่ามก็มีไม่ได้หน้าได้หลังอะไรเลย มากันเยอะเรอะพวกญาติโยม โธ้ มากันเยอะทีเดียว พอใจๆ ก็ดีแหละถ้าธรรมอยู่ที่ไหนเข้ากันได้สนิท ธรรมประสานเข้าที่ไหนสนิทๆ กันเลยคนเรา เรื่องธรรมเป็นเครื่องสมาน เพราะฉะนั้นโลกจึงยอมรับธรรม กราบไหว้บูชา ว่าธรรมเท่านั้นครอบหมด ให้ความสมัครสมานไปได้หมด ไม่มีชาติชั้นวรรณะ แม้สัตว์ก็เข้าสนิทสนมกับคนได้ก็ด้วยธรรมนั่นแหละ ถ้าธรรมเข้าตรงไหนสมานให้แน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น สนิทสนมไว้ใจตายใจกันได้ สำหรับธรรมเป็นอย่างนั้น

อย่างท่านทั้งหลายที่มานี้ก็มาด้วยธรรม ธรรมเป็นเครื่องสมานทั้งภายนอกภายใน ภายในนี้สมานด้วยจิตตภาวนา คือทำใจให้สงบลงไปนี้มันจะเย็นกระจายทั่วไปหมดเลย เรียกว่าประสานภายในเป็นอันดับหนึ่ง(ล่ามแปลคำเทศน์ของหลวงตา) มันลำบากอย่างนี้แหละ ยื่นไม้ไปให้คนอื่นตีแทน มันลำบากอย่างนี้แหละยื่นไม้ให้คนอื่นตีแทน ถ้าเจ้าของตีมันปั๊วะๆ แหลกไปเลยทันที ต่างกันอย่างนี้ละ (มีชาวอินโดนีเซียจำนวนมากอยากมากราบหลวงตาครับผม แต่มานี้ได้จำนวนน้อย จึงอยากกราบนิมนต์หลวงตา...) พูดอย่างนี้ก็เหมือนกับว่าเมืองไทยไม่มีค่า เมืองไทยมานี้มากยิ่งกว่าอินโดนีเซียเป็นไหนๆ ขอขอบบุญขอบคุณเจตนาของท่านทั้งหลายที่มานี้ เป็นเจตนาที่สูงยิ่งทีเดียว เจตนาเป็นธรรมล้วนๆ ที่อุตส่าห์มานี่นะ ไกลแสนไกลก็ยังอุตส่าห์มาได้ มาด้วยน้ำใจ มาด้วยธรรม พูดเท่านั้นละไม่พูดมาก เอ้า กราบเสีย

ถ่ายภาพใส่แฟลชไม่ได้นะมันแทงตา อยู่ให้สงบ นี่เขาสงบกันทั้งศาลา เราให้สงบกับเขาบ้าง นี่กวนเขานี่ กวนคนสงบทั้งศาลาให้กระจายไปหมด เป็นอัปมงคล มองหน้ามองหลังบ้างซิธรรมดา นี่ตั้งแต่เหมือนลิงจ้อนู้นจ้อนี้ ใช้ไม่ได้นะ ทั้งศาลาเขาเป็นคนทำไมเรามาเป็นลิงขวางโลกเขาอยู่ แพล็บเท่านั้นกระเทือน สมมุติว่าเทศน์อยู่นี้ขาดสะบั้นไปเลยนะธรรม เรื่องเหล่านี้เป็นข้าศึกต่อธรรมเป็นอย่างมากทีเดียว

เราพูดเสียบ้างเวลาเทศน์งานใหญ่ๆ วัดอโศการาม คนเป็นหมื่นๆ เขานิมนต์เราขึ้นเทศน์ ตั้งใจจะสงเคราะห์คน มันอยู่ข้างฝา พวกแม่ชีเสียด้วย พอเริ่มเทศน์มีเสียงคุยกัน เราก็หยุด พอหยุดแล้วทางนั้นก็หยุด พอทางนั้นหยุดแล้วเงียบแล้วเราก็เริ่มเทศน์อีก พอเริ่มเทศน์ไปจะถึงนาทีเหรอ อ้าว เริ่มขึ้นอีก เสียงลั่นขึ้นทางข้างฝา เราก็หยุดอีก แล้วทางนั้นก็หยุด ทางนี้หยุดทางนั้นก็หยุด ไม่ลืมนะ ก็ตั้งใจจะสงเคราะห์คนเป็นหมื่นๆ  พอครั้งที่สามหยุดเทศน์ พอเริ่มเทศน์อีกเสียงก็ขึ้นอีก อย่างนั้นละ จากนั้นลงธรรมาสน์หนีเลย คนแน่นไม่มีใครทราบนะ หนีเมื่อไรไม่รู้ ลงธรรมาสน์แล้วไปเลย มันเสียขนาดนั้นละ

วันหลังมาเขานิมนต์มาเทศน์อีก เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุคคโล เขามีงานอะไรๆ เขานิมนต์เราไปเทศน์อีก เออ รับทราบแล้ว แต่การเทศน์ไม่เทศน์แล้วแต่เหตุการณ์นะ เท่านั้นแหละ ไป พอตอนค่ำวันหลังไป เงียบหมดเลย คนแน่นหมดเงียบ เทศน์ก็ตั้ง ๕๕ นาที ไม่ใช่เล่นนะ ตั้งใจเทศน์ คืนแรกไม่เทศน์เลย พอเริ่มขึ้นก็เสียงลั่น พอเราขึ้นวันที่สองนี้จะเป็นเสียงพระหรือเสียงฆราวาสไม่ทราบ แต่เสียงนี้เด็ดขาดมากทีเดียว ว่าเวลานี้พระท่านจะเทศน์ พอเงียบหมดแล้วก็กระจายทางไมโครโฟน เวลานี้พระท่านจะเทศน์ ถ้าใครเป็นนักพูดให้ไปพูดอยู่ถนนโน่น แล้วก็เงียบเลย จากนั้นเราก็เทศน์ แล้วเงียบตลอดเลย เทศน์ถึง ๕๕ นาที อย่างนั้นละ

เรื่องเหล่านี้เป็นข้าศึกต่อธรรม เราเคยแล้วลงธรรมาสน์หนีไม่รู้กี่ครั้ง เป็นอย่างที่ว่านี่ เราไม่ได้สนใจกับอะไรในสามแดนโลกธาตุ สนใจแต่หัวใจคน ถ้าหัวใจไม่เอาไหนแล้วเทศน์ไปหาอะไร เท่านั้นพอ ไปเลย ก็เราไม่ได้สนใจว่าจะไปเอาอะไร จะไปหวังร่ำหวังรวยกับโลกสงสารเขาเราไม่มี มีแต่ธรรมกับหัวใจคน จิตมันจะจ่อเข้าหัวใจคน ว่าหัวใจคนมีอะไรเป็นเครื่องทำลาย ธรรมไม่สะดวกไม่เทศน์เสีย ดีไม่ดีลงธรรมาสน์หนีไปเลยไม่มีใครทราบ เป็นอย่างนั้นละ

สิ่งเหล่านี้มีเกลื่อนอยู่ทั่วโลกดินแดน อรรถธรรมจะมีขึ้นเป็นบางกาลบางเวลาเท่านั้น ซึ่งในเวลาเช่นนั้นที่ควรอย่างยิ่งจะได้ยินได้ฟัง รักษาความสงบเรียบร้อยในขณะที่ฟังเทศน์มันก็สงบไม่ได้จะทำไง ถึงขนาดนั้น โลกนี้มันเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ แม้ขณะที่เทศน์มันก็เป็นไฟเผาธรรม สุดท้ายธรรมก็เทศน์ไม่ได้ ลงธรรมาสน์ไปเลย เป็นอย่างนั้นละ

ให้พากันตั้งอกตั้งใจเข้าสู่ศีลสู่ธรรมนะพี่น้องชาวไทยเราซึ่งเป็นชาวพุทธ เวลานี้ระแหกระหนวุ่นวายกันทั้งฝ่ายศาสนจักรและโลกก็เหมือนกัน ทั้งโลกทั้งธรรม ในเมืองไทยของเรานี้ละ ทะเลาะกันยุ่งไปหมด ไม่ได้ฟังเสียงอรรถเสียงธรรมเลย กิเลสนั่นละตัวสำคัญ ตัวหน้าด้านอยู่กับกิเลสนะ มันจะเอาให้ได้อย่างใจๆ ธรรมท่านมีเหตุผล ควรไม่ควรอย่างไรธรรมจะเล็งเหตุผลเสมอ แต่กิเลสไม่มีเหตุผล มีแต่ความหน้าด้าน จะเอาให้ได้อย่างใจๆ นี่ละที่เมืองไทยเรายุ่งอยู่เวลานี้จนกระทั่งถึงรัฐบาลก็เป็นฟืนเป็นไฟทั่วหน้ากันหมด

วันไหนๆ ที่จะไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องประชาชนกับรัฐบาลนี้แทบจะไม่มี ยุ่งไปหมดๆ นี่คือโลกมีแต่กิเลสล้วนๆ เราพูดตามหลักความจริง วงราชการเรานี้เป็นอย่างนั้นเสียมากต่อมาก ในวงราชการต่างๆ ถ้ามีอรรถมีธรรมเข้าแทรกในนั้นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเป็นธรรม มีความสงบร่มเย็น ประชาชนกับวงราชการก็จะเข้ากันได้สนิท อันนี้มันไม่สนิท ก็วงราชการมันตัวทิฐิมานะกิเลสตัณหากินไม่พอ ทุกแบบทุกฉบับมีแต่แบบจะกินทั้งนั้น กินแบบนั้นกินแบบนี้หลายสันพันคม กินตลอด

ทีนี้มันตับคนไม่ใช่ตับหมาละซี ตับคนมันก็รู้ ผิดถูกชั่วดีก็รู้ มันก็ต่อต้านกันบ้าง ว่ากันบ้าง ก็เลยทะเลาะกัน สุดท้ายประชาชนกับรัฐบาลเลยเป็นข้าศึกต่อกัน ดังที่เห็นอยู่เวลานี้ละ เป็นอย่างไร การเลือกขึ้นมาให้รัฐบาลเป็นผู้นำ เขาก็คาดว่าเป็นคนดีๆ ครั้นขึ้นมาแล้วมาเป็นยักษ์เป็นผีต่อหน้าต่อตาของคนทั้งประเทศ มันก็ดูกันไม่ได้ซิมนุษย์เรา มันน่าจะพินิจพิจารณา ผู้นำนั้นความรู้นั้นรู้ด้วยกันนั่นแหละ แต่สำคัญที่มีธรรมหรือไม่มี ถ้าไม่มีธรรมมีแต่ความรู้มันเป็นโลกล้วนๆ แล้วไฟเผาไปได้หมดเลย ความรู้อันนี้เป็นความรู้ของกิเลส เรียนจบมาจากประเทศไหนเมืองใดดอกเตอร์ดอกแต้อะไรไม่สำคัญ มันเป็นวิชาของคนมีกิเลส ไม่ใช่วิชาของผู้สิ้นกิเลสเหมือนวิชาธรรมดังพระพุทธเจ้าสอนโลก

พระพุทธเจ้าสอนโลกไม่มีกิเลสตัวใดแฝงเลย การสอนจึงกระเทือนไปทั่วสามแดนโลกธาตุ ยังประโยชน์ให้สำเร็จแก่ทวยเทพเทวดาอินทร์พรหมทั้งหลาย มนุษย์มนาทั่วหน้ากัน นี่ธรรมของพระพุทธเจ้า ท่านเทศน์ท่านเทศน์อย่างนั้นนะ ทีนี้เรื่องความรู้ของกิเลสใครก็มี จะมาอวดดีอวดเด่นอวดเบ่ง ไม่เกิดประโยชน์อะไร นี่ละโลกกำลังร้อนเวลานี้ ร้อนเพราะไม่ฟังเสียงอรรถเสียงธรรม ถ้าฟังเสียงอรรถเสียงธรรมบ้างแล้วจะเข้าใจกันทันที ไม่มีอะไรที่จะเข้าใจหรือฉลาดยิ่งกว่ามนุษย์เรา ยิ่งมนุษย์ที่ได้เรียนมาสูงๆ ด้วยแล้วยิ่งจะเข้าใจได้เร็วยิ่งกว่าคนธรรมดาสามัญอยู่มากทีเดียว

แต่นี้มันไม่ยอมฟังเสียง เลยกลายเป็นวิชาหน้าด้านมาปกครองบ้านเมือง เอาความหน้าด้านบาตรหลวง เป็นบ้ายศบ้าลาภบ้าร่ำบ้ารวย บ้าทุกอย่างทิฐิมานะ มันเลยอยู่ในนั้นหมด ทีนี้ปกครองคนเอาสิ่งเหล่านี้ไปปกครองมันก็เป็นไฟเผาโลก ใครก็ร้อนกระเทือนไปทั่วแดนไทยเราแล้วเวลานี้ ธรรมมีอยู่ควรจะนำไปปฏิบัติ หวังร่ำหวังรวยอะไร รวยไปหาอะไร ยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่มีอะไรเลิศยิ่งกว่ายศของธรรม ถ้าธรรมเป็นเครื่องประดับใจแล้วไปที่ไหนเย็นไปหมด

นี่ละคุณค่าแห่งความเป็นผู้มีธรรมในใจ เย็นไปหมด เจ้าของก็เย็น คนอื่นก็เย็น เขาอนุโมทนาสาธุการทั่วหน้ากันคนมีธรรม คนไม่มีธรรมจะทำอะไรให้เด่นให้ดังมันก็ไม่ดัง ดังตั้งแต่ความเหม็นคลุ้งเน่าเฟะทั่วประเทศ จากความรู้ที่เป็นส้วมเป็นถานออกมากระจายให้เหม็นคลุ้งกันทั่วโลกดินแดนดูได้เมื่อไร ความรู้ของกิเลสเหมือนส้วมเหมือนถาน ไปที่ไหนคลุ้งไปหมด มันอยู่ในหัวใจคน ยิ่งไปเรียนวิชาความรู้เข้าด้วยแล้วยิ่งเป็นเครื่องเสริมกิเลสได้เป็นอย่างดี แล้วออกลวดลายอย่างหน้าด้านไปเลย พวกที่เรียนสูงๆ พวกหน้าด้านทั้งนั้นแหละ ไม่ได้คำนึงถึงความผิดถูกชั่วดี เอาอำนาจบาตรหลวงป่าๆ เถื่อนๆ เข้ามาบีบบังคับประชาชนทั้งประเทศซึ่งเขาก็เป็นคน

อยู่ที่ไหนความรู้มันก็รู้ด้วยกัน ผิดถูกชั่วดีรู้ด้วยกัน แต่เจ้าของเองที่เรียนมาสูงๆ กลับมาหยิ่งเป็นภูเขาทั้งลูก ปิดกั้นความเฉลียวฉลาดเพื่ออรรถเพื่อธรรมเพื่อส่วนรวมนั้นไปเสีย เหลือตั้งแต่ความเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้โลกดินแดน เรียนมาเท่าไรก็ไม่เกิดประโยชน์ถ้าเรียนมาแบบนี้ ถ้าปราศจากธรรมเสียอย่างเดียว ใครจะเรียนที่ไหนมาเถอะว่างั้นเถอะน่ะ อย่าอวดต่อธรรมนะ ธรรมนี้เลิศเลอสุดยอดแล้ว ศาสดาองค์เอกสอนโลกกระเทือนโลกธาตุ มีตั้งแต่ความเป็นมหามงคลต่อโลก ไม่ได้มีคำว่าอัปมงคลเลย แต่ความรู้ของพวกเราเรียนมาที่ไหนๆ ยิ่งเป็นฟืนเป็นไฟเผาโลกได้กว้างขวาง ดีไม่ดีเป็นเถ้าเป็นถ่านได้เพราะความรู้ที่เสกสรรปั้นยอตัวเองว่าเก่งนั่นแหละ มันก็เก่งในการเผาโลกนั่นเองจะเก่งที่ไหน

พากันดูหัวใจเจ้าของ ใจนี้ตัวสำคัญมาก มหาเหตุอยู่ที่ใจ มันคิดมันปรุงมันยุ่งเหยิงวุ่นวายไม่มีเวลาหยุด ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระท่งหลับ เอาเวลาหลับนั้นเข้าระงับเครื่องพอให้สงบตัวลง พอตื่นขึ้นมาเครื่องมันเปิดเอง ติดเครื่องเอง เป็นไฟทั้งเขาทั้งเราทั่วโลกดินแดน หาตั้งแต่ความสุขความเจริญความสมหวัง แต่กิริยาที่หามันหาด้วยความเป็นฟืนเป็นไฟ ก็ได้แต่ฟืนแต่ไฟมาเผาตัวเองนั่นซี ไม่ได้ความดิบความดีมาพอจะเป็นที่ร่มเย็นเป็นสุขแก่ตนและส่วนรวมได้บ้างเลย

เพราะฉะนั้นจึงขอให้พากันดูหัวใจเจ้าของบ้าง มันดีดมันดิ้นไปไหน จิตที่สงบลงจากความดีดดิ้นเพียงขณะเดียวก็เป็นสุขแล้ว เช่นใครนั่งภาวนา พอจิตสงบจากอารมณ์ยุ่งกวนทั้งหลายแล้ว นั่นละเป็นเวลามีความสุขความสบาย จากนั้นก็แสดงอานุภาพแห่งธรรมขึ้นจากจิตกับธรรมซึ่งเป็นอันเดียวกันแล้วนั้นแล กระจ่างออกไปหมด เย็นไปหมดทุกหย่อมหญ้า นั่นละจิต ไม่มีอะไรที่จะร้อนยิ่งกว่าจิตที่มีแต่กิเลสล้วนๆ เป็นฟืนเป็นไฟไปหมด และไม่มีอะไรที่จะเย็นยิ่งกว่าน้ำคือธรรมเข้าสู่ใจ ไปที่ไหนเย็นไปหมดๆ นั่นแหละ พากันจดจำเอา

เวลาว่างทางด้านศีลธรรมเข้าสู่ใจก็ให้มี เวลายุ่งทางโลกใครก็ทราบด้วยกันหมดแล้วไม่ต้องบอก มันยุ่งด้วยกันหมด แต่เวลาที่จะให้สงบจากความยุ่งทั้งหลายนี้ไม่รู้จักวิธีทำ ไม่รู้จักวิธีจะให้สงบ มันก็ยิ่งดิ้นเหมือนแหพันลิงนั่นละ ดิ้นเท่าไรยิ่งพัน สุดท้ายลิงกับแหก็จมไปด้วยกัน ผู้ที่ตายก็คือลิง แหไม่ตาย สิ่งที่พันไม่ตาย ตัวเราที่ถูกพันมันทุกข์มันยากลำบาก จมก็คือเรา กิเลสไม่ได้จม พากันจำให้ดี กิเลสคือแหพันลิง

เราอยากเห็นโลกนี้มีความสงบร่มเย็นจากศีลจากธรรม ยิ่งห่างเหินจากธรรมไปเท่าไรยิ่งเข้าใกล้ชิดติดพันกับฟืนกับไฟเข้าโดยลำดับ ไม่ว่าเขาว่าเรา โลกนี้เลยเป็นเถ้าเป็นถ่านไปตามๆ กันหมด มองดูหน้าไหนถามปากไหนก็มีแต่หาความสุขความเจริญ แล้วมีรายใดที่ได้ความสุขความเจริญมาอวดโลกไม่มี ถ้าผู้หาธรรมมี ดังพระพุทธเจ้ามี นั่น ประกาศลั่นโลกธรรมเต็มหัวใจ สาวกทั้งหลายธรรมเต็มหัวใจประกาศธรรมลั่นโลก ถึงเขาจะยอมรับไม่ยอมรับท่านไม่เสียหายอะไร ท่านเป็นธรรมทั้งองค์ทั้งแท่งของท่านอยู่นั้นละ

ไปทำใจให้มีความสงบบ้าง วันไหนก็มีแต่วันยุ่งๆ วันสงบไม่มีไม่มีค่านะ ตายทิ้งเปล่าๆ ให้มีวันสงบร่มเย็นบ้างซิ ได้อบรมศีลธรรมเข้าสู่ใจจะมีเวลาสงบบ้างคนเรา แดดร้อนๆ เข้าร่มไม้เราก็เย็น อันนี้แดดร้อนๆ กิเลสเผาอยู่ตลอดเวลา หาร่มไม้คืออรรถคือธรรมเข้าเพื่ออาศัยเป็นความร่มเย็นไม่มีในใจเลยทำยังไง ท่านเหมือนเรา เราเหมือนท่านทั่วโลกดินแดนเป็นแบบเดียวกันนี้นะ แดดร้อนๆ หาร่มไม้ที่จะอาศัยไม่มี มีแต่ความร้อนตามๆ กันหมดเลย หาฝั่งหาฝาไม่มี เหมือนสัตว์ตกน้ำมองหาฝั่งที่ไหนก็ไม่มี เห็นแต่ว่ายน้ำป๋อมแป๋มๆ จมไปด้วยกันเสียทั้งหมด

โลกนี้เป็นโลกจมในวัฏจักร ถ้าไม่มีธรรมเป็นเกาะเป็นดอนเป็นฝั่งเป็นฝาพอได้เกาะแล้วจมไปด้วยกันนะ ให้เอาธรรมเป็นเครื่องยึดเครื่องเกาะ วัฏวนนี้กว้างแสนกว้าง กี่กัปกี่กัลป์พากันแหวกว่ายกันมานานแล้ว ไม่เห็นมีใครพ้นไปได้ ผู้พ้นได้ก็คือผู้เสาะแสวงหาอรรถหาธรรม พ้นได้ในท่ามกลางแห่งโลกที่หมุนไปด้วยความล่มจมนั้นแล นั่นละผู้มีธรรมพ้นไปได้ๆ พากันจำคำนี้ให้ดี เอาละวันนี้เทศน์เพียงเท่านั้น เหนื่อย วันไหนก็เทศน์ทุกวันๆ

 

รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่

www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th

และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร

FM 103.25 MHz


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก