เทศน์อบรมฆราวาส ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘
ความสุขจะอยู่ในความพอดี
(ลูกศิษย์พระอาจารย์สงบ วัดสันติธรรมาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้มากราบนิมนต์หลวงตาไปโปรดลูกศิษย์ที่วัดสาขา อ.โป่งกระทิง) ท่านหยีชื่อท่านสงบ เป็นพระวัดป่าบ้านตาด เป็นชาวโพธาราม ไปอยู่วัดป่าบ้านตาด จากนั้นมาแล้วก็มาตั้งวัดที่ โพธาราม ทีแรกไปเช่าที่เขาอยู่ เหมือนอย่างเราว่าเอาราชสีห์ไปหมอบอยู่ในกรง ศาสนาพระพุทธเจ้าเลิศเลอขนาดไหน เหมือนเข้าไปหมอบอยู่ในลูกกรง ถูกกรงขัง ไปเช่าที่เขาอยู่ ว่าอย่างนั้น พอเราไปได้ยินว่าเช่าที่เขาอยู่ เราสลดสังเวชทันทีเลย
เราก็เลยพูดขึ้นมา ศาสนาเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ต่อโลกธาตุ การที่ให้พระท่านที่มุ่งต่ออรรถต่อธรรมมาปฏิบัติเพื่ออรรถเพื่อธรรม เพื่อประโยชน์ประชาชน ให้มาอยู่ในที่เช่นนี้โดยเช่าที่เขาอยู่นี้ มันเสียหน้าโพธารามเรานะ เราบอก ไม่เสียใครนะ เสียชาวโพธารามเรานั้นแหละเป็นอันดับแรก ควรที่จะพิจารณาแต่นี้ต่อไป ถ้าหากว่าโพธารามเราจะยกตัวขึ้นกราบไหว้พระพุทธเจ้าให้สนิทใจแล้วควรจะพิจารณาสถานที่ว่าเช่านี้ กลับเป็นเอกเทศสำหรับพระสำหรับธรรมที่จะได้ประกาศธรรมสอนโลกนี้จะดียิ่งกว่านี้ แล้วที่แถวนี้มันไม่มีบ้างเหรอ หัวใจของชาวโพธารามเรานี้เป็นศรัทธาสำคัญอยู่มาก เราได้ชมเชยเรื่อยมา แต่แล้วที่นี้มันเป็นอย่างไรมันเข้ากันไม่ได้นะ มันเป็นข้าศึกกับศรัทธาโพธารามเรา ให้ขยายใหม่ พอว่าอย่างนั้นเรากลับไปก็ไปซื้อที่นั่นปุ๊บเลยทันที นั่นละที่นั่นจึงเป็นอย่างนั้น
ท่านสงบเป็นพระปฏิบัติดี ออกมาจากวัดป่าบ้านตาด คือใครก็ตามถ้าออกจากวัดป่าบ้านตาดเราจะสอดแทรกตามดูตลอดเวลาบรรดาลูกศิษย์ ถ้าใครดีเราก็ไปเยี่ยมเรื่อยเสริมเรื่อย เยี่ยมเรื่อย ถ้าไม่ดีไม่ไปเหยียบเลย พูดง่ายๆ ดีไม่ดีชี้หน้าด้วย เอาอย่างนั้นนะเรา ไม่ได้เหมือนใคร นี่พูดถึงเรื่องท่านหยีก่อนนะ เขาเรียกท่านหยี ชื่อสงบ แต่ท่านตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สมนามที่ว่าท่านชื่อสงบ ท่านอยู่ที่นั่น อยากจะให้เราดูทางสวนผึ้ง เราก็เคยไป นี่ไปเพราะอำนาจของจิตของธรรม ของลูกศิษย์ เราไม่ใช่ไปเพราะอะไรนะ เราไม่ได้ไปเพราะสิ่งหรูหราฟู่ฟ่านั้นนี้นะ
อย่างที่ว่าจะไปสร้างวัดใหม่นี้ วัตถุจะขึ้นก่อนธรรมนะ เข้าใจไหม สร้างนั้นหรูๆ หราๆ แต่จิตใจหมอบอยู่ใช้ไม่ได้นะ พอพูดนี้กำลังเริ่มสร้างนั้นสร้างนี้เราสะดุดใจแล้วนะนั่น เข้าใจเหรอ ให้สร้างหัวใจ สถานที่อยู่ให้เป็นที่เหมาะสมสำหรับพระผู้บำเพ็ญธรรมเพื่อความสง่างาม สถานที่อยู่ให้อยู่ที่สงบสงัด อย่างที่ไปอยู่นั้นเหมาะแล้ว ที่นั้นอย่าสร้างแบบหรูหราฟู่ฟ่า ใช้ไม่ได้ เป็นแบบโลกแบบกิเลสตัณหาได้ไม่พอ เอาวัตถุมาอวดกัน ส่วนธรรมไม่มีใครมาอวดใครได้ นอกจากพระพุทธเจ้า-พระสาวกอรหันต์ มาอวดโลกครอบโลกธาตุ นี่ที่เลิศเลอ เข้าใจไหม
วัตถุไม่ได้เลิศเลออะไร ให้อยู่พอเป็นไป อย่างท่านสงบอยู่ที่โพธารามเราชมแล้วนะนั่น เราถึงได้ไปเสมอ ต้นไม้อะไรอยู่นั้นท่านรักษาไว้เรียบร้อย เหมือนสภาพวัดป่าบ้านตาด เราไม่ได้ยกวัดป่าบ้านตาดว่าใหญ่โตนะ แต่ว่าพอเป็นคติกันได้ ในฐานะเราเป็นอาจารย์ของท่านสงบเราก็ยกเอามาพูดเฉยๆ ท่านจับร่องรอยได้ดี ที่นั่นก็ไม่หรูหราฟู่ฟ่าดูกุฏิดูศาลาเราดูได้สบายเลย เย็นตาเย็นใจ ไปที่ไหนหรูๆ หราๆ ฟู่ๆ ฟ่าๆ ถ้าเราไปหลายหนเราจะเตรียมปวดขี้เสียก่อนแล้วค่อยไป ไปก็ขี้ราดนู้นราดนี้แล้วเปิดเลย มันไม่วิเศษวิโสอะไร ประสาวัตถุ อิฐปูนหินทรายเหล็กหลาฟู่ฟ่ามันเต็มบ้านเต็มเมือง ที่ไหนเจริญมีไหม
พระพุทธเจ้าอยู่ในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กรุงพาราณสี ตรัสรู้ผางขึ้นมา จ้าเลย นั่นเห็นไหม มันจ้าอยู่ที่ใจต่างหากนะ ไม่ได้จ้าอยู่ที่วัตถุ นั้นเพียงอาศัยวันหนึ่งๆ ให้พอดีกับสภาพของร่างกายซึ่งเป็นสมมุติด้วยกันอยู่กันได้พอดี อย่าให้หรูหราฟู่ฟ่าเกิน เหมือนกับว่าเอาเครื่องมาประดับศพ คนตายอยู่ข้างในเอาเครื่องมาประดับหรูหรามันดูไม่ได้ อันนี้ก็เหมือนกัน ร่างกายเป็นของเหมือนกับโลกทั่วๆ ไป ธรรมสง่างามอยู่ภายในใจ ให้ประดับทางด้านธรรมะ คือการบำเพ็ญตนให้ดิบให้ดี สถานที่อยู่เหมาะสม ภาวนาสะดวกสบาย เราชมเชย พระพุทธเจ้าชมเชยมาก่อนแล้ว ที่สร้างนี้ระวังจะไปหรูหราฟู่ฟ่านะ
ไปที่ไหนอยู่เถอะน่ะ กระต๊อบอยู่เถอะน่ะ ขอให้ธรรมอยู่ภายในใจจ้าไปไหนสง่างามไปหมด ไอ้หรูหราฟู่ฟ่ามันไม่เป็นประโยชน์อะไรละ ถ้ายิ่งไม่รู้จักประมาณจมไปเพราะมันก็ได้ ติดหนี้ติดสินพะรุงพะรัง สร้างตึกเท่านั้นหลังเท่านี้หลัง เท่านั้นชั้นเท่านี้ชั้น กู้หนี้กู้สินเขามา ครั้นมาแล้วติดหนี้เขาจมไปเลย ตึกระฟ้าเจ้าของจมมีประโยชน์อะไร นี่ละเรื่องกิเลสเหยียบหัวคน ถ้าธรรมะแล้วไม่เหยียบ อยู่ไหนอยู่ไป ทางฆราวาสญาติโยมก็ให้ปฏิบัติพอดิบพอดี อย่าฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมเกินเนื้อเกินตัวแล้วมันตกตูมนะ ถ้าขึ้นสูงแล้วตก ตกหนักที่สุดด้วยขึ้นสูง ปีนขึ้นเรื่อยๆ ได้ไม่พอๆ ตกนะ ให้อยู่ในความพอดี อะไรที่พอดีแล้วให้อยู่ ความสุขจะอยู่ในความพอดี ไม่ได้อยู่ในความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม
(ผมได้นำแผนที่ที่จะเข้าไปโป่งกระทิงมาด้วยครับ) อะไรก็ตามเถอะขอให้เป็นที่สงบสงัด เป็นที่บำเพ็ญสะดวกสบาย นั้นแหละจุดเหมาะสมของธรรม ที่ว่านี้เหมาะสมแล้วเหรอ (เหมาะสมครับเป็นป่า) เออ นั่นละเป็นป่า ให้อยู่กับป่า อย่าไปทำลายป่า ให้ทำลายป่าคือกิเลสภายในหัวใจ รกรุงรังอยู่ในนั้น ไฟก็อยู่ในนั้น ให้ทำลายป่านั้นต่างหาก อย่าไปทำลายต้นไม้ เราเห็นด้วยแล้ว ท่านสงบดี เราจึงติดตามมาเรื่อยๆ เห็นไหมมาทีไรไปวัดโพธารามเรื่อยๆ ไปเพราะเหตุไร เราไม่ได้ไปเพราะสมบัติเงินทองข้าวของหรูหราฟู่ฟ่า จะร่ำจะรวย ไปที่นั่นร่ำรวยเราไม่มี ภายในหัวใจเราเราพูดจริงๆ เราไปเพราะหัวใจคนต่างหาก เข้าใจเหรอ ถ้าหัวใจหมอบไม่ไป
เงินทองกองเท่าภูเขาเราไม่ดู เราดูหัวใจคน ศาสดาองค์เอกสาวกทั้งหลายท่านดูหัวใจคน ท่านไม่ได้ดูวัตถุสิ่งของ เอามาอวดท่านไม่ได้สิ่งเหล่านี้ อย่าเอามาอวดบอกตรงๆ ธรรมนี้เลิศโลก ไม่มีอะไรเกินธรรมแล้ว นั่นเลิศแล้ว ไม่มีคู่แข่ง ให้เล็งธรรมเสมอไปอยู่ที่ไหน อย่าเล็งแต่ด้านวัตถุ ไปทำลายธรรม ทำลายธรรมอยู่ตลอด เวลานี้วัดมันเป็นวัดที่ไหน มันกลายเป็นส้วมเป็นถานไปหมดแล้ว เป็นส้วมเป็นถานแล้วอะไรอยู่ในส้วมในถาน ก็คือมูตรคือคูถ มูตรคูถคืออะไร พระเณรปฏิบัติตนเหลวแหลกแหวกแนวอยู่ในวัด มันก็เป็นมูตรเป็นคูถอยู่ในวัด วัดก็กลายเป็นส้วมเป็นถานไป มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มบ้านเต็มเมือง ทั้งเขาทั้งเรามันพอๆ กันนะทุกวันนี้
ศาสนาแท้อยู่ที่ไหน ธรรมพระพุทธเจ้าเอาตำรามายันก่อน จากนั้นเอาความรู้ภายในใจยันกันซิ นี้อะไรก็หรูหราฟู่ฟ่า มันเป็นศาสนวัตถุไปหมด ไม่ใช่ศาสนธรรมนะเวลานี้ ธรรมจนจะไม่มี มีแต่ชื่อชาวพุทธๆ ความปฏิบัติเหลวแหลกแหวกแนวใช้ไม่ได้นะ เข้าใจแล้วเหรอ (ญาติโยมทางนู้นเขาก็น้อยใจอยู่ว่าหลวงตาไปโปรดญาติโยมทางสวนผึ้ง เขารอหลวงตาอยู่นานมากเลยครับ) พวกไหนพวกน้อยใจ ให้ใจใหญ่นะ เรามีครูมีอาจารย์อยู่แล้ว แถวนี้ก็ท่านสงบ ให้ใจใหญ่ นี่ลูกศิษย์หลวงตาบัวนั่นแหละ ให้ใจใหญ่กันนะ ไม่วันหนึ่งๆ ก็ต้องไป คนไปมาหาสู่กันได้ทำไมไปไม่ได้ แค่สวนผึ้งสวนแตงไปไม่ได้มีเหรอ (ผมจะฝากแผนที่) ฝากไม่ฝากช่างเถอะ ฟาดเข้าป่า ประสาแผนที่ มีเท่านั้นละ
เมื่อวานนี้ก็เอาปัจจัยไปมอบทางวัดอโศการามเกี่ยวกับเจดีย์ ได้ปัจจัยหนึ่งล้านเจ็ดหมื่นกว่าบาทเมื่อวานนี้ ไปคราวที่แล้วหกล้านกว่า ปัจจัยเจ็ดล้านกว่าแล้วเจดีย์ นี่ก็ต้องมาอยู่ในเราอุ้มครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เจดีย์ที่วัดอโศการามนี้จะให้เป็นจุดศูนย์กลางที่บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบัน จะอาราธนาท่านมาอยู่ที่นั่นหมด เราเป็นคนพูดเอง ตั้งใจเองพิจารณาเอง จะพยายามอาราธนาครูบาอาจารย์ทั้งหลายซึ่งเป็นเพชรน้ำหนึ่งๆ เข้ามาบรรจุไว้ที่ภาคกลางของเราคือวัดอโศการาม ให้พี่น้องทั้งหลายได้กราบไหว้พระอรหันต์ในสมัยปัจจุบัน เพราะผู้ปฏิบัติมี ผู้ทรงมรรคทรงผล
เฉพาะอย่างยิ่งสายหลวงปู่มั่นนะ พูดตามหลักความจริง เป็นผู้ทรงมรรคทรงผลอยู่ในป่าในเขาเงียบๆ นะ จะเป็นวงกรรมฐานด้วยกันเท่านั้นทราบเรื่องของกันได้ดี คนอื่นเขาไม่ทราบ เพราะวงกรรมฐานก็เหมือนครอบครัว การพูดกันในครอบครัวๆ พูดได้ถนัดชัดเจนเข้าใจกันหมด ในบรรดาวงกรรมฐานองค์ไหนมีภูมิจิตภูมิธรรมเป็นยังไงๆ นี้รู้ทั่วถึงกัน แต่ทั่วถึงในวงกรรมฐาน ออกจากนั้นไปเงียบเลย ไม่มีใครรู้ ท่านก็ไม่พูด เข้าใจไหม นี่ผู้ที่ทรงมรรคทรงผลมีน้อยเมื่อไรวงกรรมฐานสายพ่อแม่ครูจารย์มั่นในสมัยปัจจุบัน ซึ่งอยู่ตามป่าตามเขา ทุกภาคมี ปฏิบัติท่านเอาจริงเอาจัง เงียบๆ นะ
อัฐิของท่านที่กลายเป็นพระธาตุๆ แล้วนี้ สร้างเจดีย์เสร็จแล้วเราจะอาราธนาท่านมาประดิษฐานไว้ที่นั่น ให้บรรดาพี่น้องชาวพุทธเราทั่วประเทศไทยได้กราบไหว้บูชาพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบัน ที่เจดีย์วัดอโศการาม นั่นเป็นจุดที่ตั้งตรงกลางของพระอรหันต์ในสมัยปัจจุบันจะมาอยู่ที่นั่น
วันที่ ๒๙ คือวันนี้ทองคำภาคเช้านี้ได้ ๓๔ บาท ๑๒ สตางค์ ทองคำตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาซึ่งเป็นวันเรามาถึงกรุงเทพฯ ถึงเช้าวันนี้ได้ ๑๙ กิโล ๑๑ บาท ๖๕ สตางค์ นี่ขาดอยู่ไม่มากนะจะถึง ๒๐ กิโล ขาดกี่บาทวะ (๕๕ บาทครับ) เอาละเราจะเริ่มเสกคาถากว้านให้ลูกศิษย์เสกคาถาไปหามา อย่างน้อยให้ได้ ๒๐ กิโลก่อนที่จะกลับอุดร เราก็พยายามจะนำทองคำซึ่งเป็นหัวใจของชาตินี้หนุนคลังหลวงของเรา จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อพี่น้องลูกหลานไทยเรา เราอุตส่าห์พยายามทุกด้านทุกทาง มีเท่านั้นละวันนี้
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz
|