เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๘
สงกรานต์ประจำตัว
สมบัติของเราก็เพิ่มพูนเข้าสู่จุดส่วนรวมๆ เรื่อยมา เฉพาะอย่างยิ่งคลังหลวงเกี่ยวกับทองคำเรียกว่าหนุนขึ้นเรื่อยๆ ทองคำที่เป็นประเภทน้ำไหลซึม เวลานี้ได้ถึง ๘๐ กว่ากิโลแล้ว ถ้าหากว่าไม่ได้มีทองคำประเภทน้ำไหลซึม ๘๐ กว่ากิโลนี้จะไม่ปรากฏเลย จะได้เฉพาะส่วนใหญ่ที่เรามอบเข้าสู่คลังหลวงแล้ว ๑๑ ตันกว่านั้นเท่านั้น ที่ว่า ๘๐ กว่ากิโลจะไม่ปรากฏ อันนี้ปรากฏขึ้นมาหลังจากการมอบเข้าสู่คลังหลวงเรียบร้อยแล้วตั้ง ๘๓ กิโล เวลานี้ทองคำของเราเป็นประเภทน้ำไหลซึมได้เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว ๘๓ กิโล วันนี้ยังไม่ได้นับนะ นี่ก็ ๘๓ กิโลแล้วจะเพิ่มขึ้นๆ
ทองคำเหล่านี้จะไปประดับทองคำส่วนใหญ่ที่มีอยู่แล้ว และที่เรามอบไว้เรียบร้อยแล้ว ให้สง่างามขึ้นๆ เมืองไทยเราจะมีความสงบร่มเย็นแน่นหนามั่นคง เพราะทองคำเป็นหัวใจของชาติ โลกยอมรับกันทั่วโลกว่าทองคำเป็นเครื่องประกันโลกนะ เมื่อเรามีทองคำเข้าสู่คลังหลวงของเรามากๆ แล้วก็เรียกว่าประกันตัวประเทศไทยของเราอย่างแน่นหนามั่นคง หลวงตาจึงได้อุตส่าห์พยายามพาพี่น้องทั้งหลายคิดอ่านไตร่ตรองทุกอย่าง พาก้าวพาเดินเรื่อยมา
อันใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา เราจะพยายามสุดความสามารถของเรา ก้าวเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็รู้สึกว่าเป็นที่ภาคภูมิใจที่ได้รับความพร้อมเพรียงสามัคคี การดำเนินตามของพี่น้องทั้งหลายผู้รักชาติเพราะด้วยความพร้อมเพรียงกัน สมบัติทั้งหลายก็ได้อย่างสมบูรณ์พูนผลมาเป็นลำดับ แต่หลวงตาเองก็คิดอีกเหมือนกัน จึงไม่ได้ยุติเพียงเท่านี้ ทองคำประเภทใหญ่แล้วยังต้องบิณฑบาตออดอ้อนที่นั่นที่นี่ เป็นประเภททองคำน้ำไหลซึม
นี่ไหลซึมเข้ามาเวลานี้ ๘๓ กิโลแล้วนะ นี่ก็เพื่อเข้าสู่คลังหลวงของเรา ที่หลวงตาคิดไว้อย่างนี้ก็เพื่อลูกเพื่อหลานไทยเรา ไม่ได้เพื่ออะไร เมื่อมีสมบัติอันสำคัญๆ ที่โลกยอมรับกันนี้เข้าสู่คลังหลวงแล้วเมืองไทยเราก็เป็นที่ยอมรับของโลกเลยทีเดียว เราจึงได้อุตส่าห์พยายาม มีมากมีน้อยตามแต่จะเกิดจะมีค่อยหนุนเข้ามาๆ แล้วจะเป็นหลักใหญ่ในชาติไทยของเรา นี่เรียกว่าทองคำเป็นสำคัญในชาติในโลกว่างั้นเลย เราจึงอุตส่าห์พยายาม
ว่าเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่การมอบทองคำผ่านไปแล้ว ยังไม่แล้ว การพาหาทองคำนี่หาหลายประเภทนะ ประเภทแรกนี้เด็ดเดี่ยวมากทีเดียว ประเภทแรกก้าวออกเพื่อหาทองคำนี้เห็นหน้าไหนๆ คว้ากระเป๋าเลย ไหนทองคำ ไหนทองคำ เรื่อย เอาอย่างเด็ดทีเดียว นี่ได้ทองคำจากวิธีการประเภทนี้นะ ตั้ง ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง ที่เรามอบเรียบร้อยแล้ว ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง ทีนี้เปลี่ยนวิธีการใหม่ ทีนี้ไม่เอาอย่างเด็ดอย่างขาด อย่างเที่ยวหาตีกระเป๋าปล้นกระเป๋านั้นกระเป๋านี้ ลดลงมาละทีนี้เป็นประเภททองคำน้ำไหลซึม ไปที่ไหนก็คอยเคาะกระเป๋าเบาๆ เป็นยังไงมีทองคำไหม เคาะกระเป๋านั้นเคาะกระเป๋านี้เบาๆ มีทองคำบ้างไหม ถ้ามีก็แบ่งให้บ้างนะ ไปแบบนี้นะเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้ไปแบบนี้ เข้าใจไหม
ไม่ได้ไปแบบโครมครามตีเอาๆ เดี๋ยวนี้เป็นแบบออดแบบอ้อนบิณฑบาต เพื่อทองคำของเราจะได้หนาแน่นมั่นคงขึ้นมา แล้วคนไทยของเราทั้งประเทศอบอุ่นนะ ลมหายใจของชาวไทยเราทั้งประเทศอยู่ที่ทองคำ นี้เป็นหลักประกันชาติ ทั้งเป็นเรื่องโลกยอมรับทั่วถึงกันด้วย ประเทศไหนที่มีทองคำมากประเทศนั้นมีหน้ามีตา มีศักดิ์ศรีดีงาม มีความแน่นหนามั่นคง มีความอบอุ่นเย็นใจทุกอย่าง นี่เราก็ต้องการอย่างนั้นเหมือนโลกเขาต้องการ เราจึงต้องพยายามเสาะแสวงหามาอย่างนี้ กรุณาพี่น้องทั้งหลายทราบอย่างนี้
อย่าด่วนคิดนะว่าหลวงตานี้กวนบ้านกวนเมือง กวนนั้นกวนนี้ กวนไม่หยุดไม่ถอย กวนนี้กวนเพื่อพี่น้องลูกหลานไทยเราทั้งนั้นแหละ สำหรับหลวงตานี้ไม่เอาอะไรเลย กวนแต่ไม่เอา ได้มาแล้วยื่นใส่มือให้ลูกให้หลานไทยเราทั่วประเทศ หลวงตาเองไม่เอา แต่กวนไม่ถอย เรื่องกวนนั้นกวนไม่ถอยหลวงตานี่ ได้มาแล้วเข้าใส่หัวใจของชาติๆ กรุณาทราบไว้ตามนี้นะ เราคิดอ่านทุกอย่างเต็มกำลังในหัวใจของเรา แล้วค่อยก้าวออกๆ เท่าที่ผ่านมาแล้วนี้เราก็เป็นที่ภูมิใจในอุบายวิธีการที่พิจารณาแล้วพาพี่น้องทั้งหลายก้าวเดิน เป็นไปเพื่อความราบรื่นดีงามและสมบูรณ์พูนผลมาเป็นลำดับลำดาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
เราก็พยายามที่จะให้ได้ทองคำประเภทซึมซาบเสริมกันเข้าไปอีก ก่อนหลวงตาบัวจะตายนะ หลวงตาบัวตายแล้วจะไม่มีผู้พาหาทองคำอย่างนี้ จะว่าไม่มีผู้กวนก็ไม่ผิดแหละ แต่กวนแบบนี้ท่านทั้งหลายก็ทราบเอา หลวงตาตายแล้วเรื่องเหล่านี้จะขาดไปทันที จะไม่มีชิ้นใดสมบัติที่จะเข้าสู่คลังหลวงตามที่เราพาพี่น้องทั้งหลายนำนี้ พอเราตายเท่านั้นสิ่งเหล่านี้จะขาดไปพร้อมๆ กันเลย นี่เวลาเรายังไม่ตายจึงออดจึงอ้อนพี่น้องทั้งหลาย ด้วยพิจารณาเห็นการณ์ไกลของชาติไทยเราเพื่อลูกเพื่อหลานนั้นแหละ ขอให้พี่น้องทั้งหลายทราบตามนี้
การบริจาคข้าวของเงินทองนี้ก็แบบเดียวกันคือตายใจเลย หลวงตาเป็นผู้รับผิดชอบแต่ผู้เดียว ไม่มีคำว่ารั่วไหลแตกซึม นี่ละธรรม ฟังเอาซิ โลกยังไงต้องมี...โลก มีแทรกมีแซง มีกินน้อยกินมากกินอยู่อย่างนั้นละ สำหรับเราหรือหลวงตาบัวเป็นผู้นำไม่ได้ว่างั้นเลย บริสุทธิ์สุดส่วนทุกประเภท ทั้งทองคำ ดอลลาร์ เงินสด เพราะเราพูดจริงๆ เรานำพี่น้องทั้งหลายด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความเมตตาพี่น้องชาวไทยเราเต็มเปี่ยมเลย เพราะฉะนั้นสมบัติที่ได้มามากน้อยจึงไม่รั่วไหลไปไหน แตกซึมไปไหนเลย จะเข้าสู่จุดมุ่งหมายที่เราคิดไว้เรียบร้อยแล้วเท่านั้นละ
วันนี้ก็เป็นวันสงกรานต์ เวลากลับไปบ้านไปเรือนไอ้พวกเล่นก็เล่น เรามันเคยเล่นมาทุกวี่ทุกวัน มาสมมุติขึ้นเฉยว่าวันนี้เป็นวันสงกรานต์ ความจริงมันสงกรานต์เก่งมาตลอดเวลา สงกรานต์ไม่เบื่อไม่หน่ายก็คือสงกรานต์ประจำตัวของเรา มันเล่นอยู่ตลอดเวลา วันนี้ประกาศป้างออกมาว่าสงกรานต์วันนี้วันเล่นวันอะไรกัน โอ๋ย มันเล่นมานานแล้วมาประกาศหาอะไร เขาเล่นกันมาพอแล้ว ไม่อายเหรอผู้ประกาศวันสงกรานต์ หลวงตาบัวนี้อายแล้วนะ เพราะพวกนี้มันออกหน้ามานานแล้วเรื่องการเล่น ออกมานาน
ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไม่มีใครเกินเมืองไทย สงกรานต์อันนี้ก็สงกรานต์เล่นตลอด ฟุ้งเฟ้อตลอด อะไรมาๆ คว้ามับๆๆ นี่สงกรานต์เมืองไทยมันจะพาให้เมืองไทยล่มจมนะ สงกรานต์แบบนี้ให้พากันระมัดระวัง ให้รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ ถึงวันนี้พวกที่เล่นก็เล่นกันไป ให้ทราบว่าการเล่นเป็นยังไง ความจริงเป็นยังไง การเล่นเป็นยังไง ให้จับจุดนี้ไว้ให้ดี วันนี้เป็นวันสงกรานต์เป็นวันที่ไม่ถือเนื้อถือตัว ชาติชั้นวรรณะ ฐานะสูงต่ำ ร้ายดีมีจนไม่ถือกันเลย ให้เป็นความเสมอภาค เป็นพวกเล่นด้วยกัน ไม่ว่าเด็กจนกระทั่งถึงผู้ใหญ่เล่นกันได้สะดวกสบาย ไม่มีคำว่าถือกัน
นี่เรียกว่าวันสงกรานต์ วันลดทิฐิมานะเข้าสู่กัน เป็นเพื่อนสนิทสนมกันคือวันเช่นนี้วันสงกรานต์ ไม่ให้มีถือสีถือสากัน อะไรๆ ให้เป็นกันเองไปหมดเลย จึงเรียกว่าวันสงกรานต์ วันให้อิสรภาพความสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงเสมอหน้ากันไปหมด ให้พากันจำเอา ผู้ที่ไม่ไปสงกรานต์กับเขาก็ให้ภาวนา อย่าลืมนะภาวนา ภาวนานี่เป็นสงกรานต์สาดน้ำใส่กิเลส กิเลสมันสกปรกมากในหัวใจของเรา วันนี้เป็นวันสงกรานต์สาดน้ำใส่กิเลสนะ อย่าให้กิเลสสาดมูตรสาดคูถใส่หัวเรา ฉิบหายเลย ถ้ากิเลสได้สาดมูตรสาดคูถ ความขี้เกียจขี้คร้านภาวนา นี่ละไอ้ตัวกิเลสตัวนี้มันมาสาดใส่หัวเรา ให้ระวังให้ดี วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละ
การเล่นให้เข้าใจอย่างที่ว่านี่นะ เมื่อวานนี้หรือวันไหนเราก็เคยได้ประกาศให้ทราบแล้วเรายกคติ ยกนายอำเภอเห็มมาเป็นคติตัวอย่างพี่น้องทั้งหลาย นายอำเภอเห็มโคราช เอาว่าให้ถึงโคราชเลยเชียวนะ แกเป็นนายอำเภอ ส่วนอำเภอนั้นอำเภอนี้ไม่ต้องพูดละ อำเภอเขตจังหวัดโคราชก็แล้ว วันนั้นเป็นวันสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงกัน ให้แกเป็นหัวหน้ากองบันเทิง พอไปแล้วแกถอดเสื้อปุ๊บปั๊บ มีต้นเสาอยู่นี่นะ พอถอดเสื้อปุ๊บแกก็เอาเสื้อนายอำเภอ เครื่องหมายนายอำเภอที่อยู่กับเสื้อไปห้อยปั๊บ นายอำเภอเห็มอยู่นี่นะ เอาเสื้อนายอำเภอไปห้อยไว้ที่ต้นเสา นายเห็มจะเล่นวันนี้ จากนั้นนายเห็มก็ฟาดนัวเนีย ไม่ว่าเด็กผู้ใหญ่เล่นแหลกไปเลย มีแต่นายเห็มล้วนๆ นี่ให้มีแต่นายเห็มล้วนๆ อย่าให้มีนายอำเภอ นายอำเภอให้อยู่ต้นเสา ให้มีแต่นายเห็มเล่นกันอย่างนัวเนีย เข้าใจไหมล่ะ เอาละพอ ทีนี้จะให้พร
วันที่ ๑๓ เมษายนวันนี้ ทองคำตั้งแต่เช้ามาถึงวันนี้ได้ ๕๐ บาท ๑ สตางค์ ทองคำที่ได้หลังจากมอบแล้ว ๘๒ กิโล ๕๕ บาท ๕๙ สตางค์ นี่ละเป็นประเภททองคำที่ว่าประเภทซึมซาบนะ ถึง ๘๒ กิโล ไม่ใช่เล่นนะ ซึมซาบๆ เรื่อย จะถึง ๑๐๐ พอถึง ๑๐๐ สมควรที่จะหลอมเราจะหลอม ถ้าหลอมยังไม่สมควรที่จะเข้ามอบเรายังเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยมอบโดยลำดับลำดา ยังไงต้องได้มอบ เพราะมันมากขึ้นโดยลำดับจากทองคำที่เป็นน้ำไหลซึม น้ำฝนตกพรำตลอดเวลาเบาๆ แต่ตกไม่หยุด ทีนี้นานๆ ลูกเห็บตูมลงมาเสียลูกหนึ่งสองลูก ลูกละ ๒๐ บาท ๓๐ บาท ลูกละกิโล นี่เรียกว่าลูกเห็บเข้าใจไหม แฝงลงมาในฝนที่พรำลงมาเบาๆ นั่นแหละ ให้พยายามนะเอาให้เป็นลูกเห็บจนได้ นี่มันพรำก็พรำอยู่แล้วให้มีลูกเห็บแฝงมาด้วย เอาละพอจะให้พร
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz
|