เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพ
เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
ความขัดความแย้งไม่ดีเลย
วันที่ ๑๙ ธันวา ๒๕๔๗ ทองคำได้ ๑ กิโล ๑๒ บาท ๗๒ สตางค์ สาธุพร้อมกัน (สาธุ) ทองคำเหล่านี้ละที่จะค่อยซึมซาบเข้าคลังหลวงของเรา ให้เป็นทองคำประเภทซึมซาบ อย่าให้ขาดไปเสียทีเดียว เรารู้สึกว่าไม่สบายใจตลอดมา แม้จะได้ทองคำจำนวนที่เราต้องการนั้นเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่มองดูข้างๆ ทองคำกองใหญ่ของเราที่มอบลงไปแล้วรู้สึกว่างไปหมดเลย เราจึงอยากจะได้ทองคำค่อยหนุนเข้า ปีนกองทองคำเรา ปีนมันไปให้ซึมไปอย่างนั้น แล้วจะค่อยหนาแน่นขึ้นมา
ด้วยเหตุนี้จึงได้รบกวนบรรดาพี่น้องทั้งหลายอยู่เสมอ เพราะเราได้เข้าไปดูคลังหลวงเอง เหตุที่เราจะเข้าไปดูก็เนื่องจากวันนั้นเป็นวันที่เราไปมอบทองคำ กับดอลลาร์ พอมอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว หัวหน้าคลังหลวงก็นิมนต์เราเข้าไปดูทองคำในคลังหลวง บอกว่าทองคำในคลังหลวงนี้ได้มาดูสองท่านด้วยกัน หนึ่ง สมเด็จพระเทพฯ สอง หลวงตา ได้เข้ามาดูนี้ แสดงว่ารักสงวนขนาดไหนไม่มีใครเข้าดูได้เลย ก็ดูเฉพาะสมเด็จพระเทพฯกับเรา ดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนเสียด้วย พอออกมาแล้วก็ซักไซ้ไล่เลียงซึ่งกันและกัน ในทองคำที่อยู่นี้และแยกไปประเทศอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องประกันตัวเวลาติดหนี้ติดสิน ถามได้ความชัดเจน
เวลาย้อนเข้ามาถามทองคำในคลังหลวงของเรา รู้สึกว่ามีน้อยมาก ตั้งแต่นั้นมาละเรา ก็ประกาศก้องจนกระทั่งบัดนี้ ประกาศก้องใหญ่ก็ได้กองใหญ่ ทองคำเราตั้ง ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง นี่มอบเข้าคลังหลวงเรียบร้อยแล้ว จากนั้นมาก็ไม่สบายใจ จึงได้รบกวนบรรดาพี่น้องทั้งหลาย ขอบิณฑบาตให้ได้ทองคำเป็นประเภทที่น้ำไหลซึม อย่าให้ขาดวรรคขาดตอน เหมือนอย่างฝนตกห่าใหญ่ ตูมตามๆ ลงมาทั้งลูกเห็บทั้งฝนเม็ดใหญ่ลงมาแล้วขาดปุ๊บไปเลยอย่างนี้ ไม่เหมาะ ตกก็ควรจะย่อยๆ ลงไป ตกเป็นพรำเป็นฝอยๆ ไป แล้วนานๆ ลูกเห็บก็ตูมตามมาทีหนึ่งๆ อย่างนี้
เรามีหวังว่าทองคำเราจะได้หนุนขึ้นในคราวนี้ หากว่าไม่ได้คราวนี้แล้วจะไม่มีเวลาได้นะ เราคิดแล้ว เวลานี้เป็นโอกาสที่เหมาะสม ซึ่งดวงชะตาของเราก็ยังดีอยู่มาก ได้ส่วนใหญ่แล้วยังค่อยซึมซาบๆ ไหลเข้าสู่คลังหลวงของเรา เรียกว่าดวงชะตาของชาติไทยเรายังดีอยู่ ขอให้พี่น้องทั้งหลายส่งเสริมดวงชะตาของชาติไทยเรา ด้วยทองคำที่ไหลซึมเข้าไป เราจะพอใจมากนะ ถ้าได้ทองคำพอสมควรแล้วหลวงตาตายเมื่อไรก็ไม่มีปัญหาละ
ที่พูดเหล่านี้ห่วงพี่น้องทั้งหลายทั้งนั้นแหละ เราไม่ได้ห่วงตัวเราเอง เพราะทองคำนี้เป็นหัวใจของชาติไทยเรา เมื่อทองคำตั้งกึ๊กลงเป็นหลักเกณฑ์แล้ว เป็นเครื่องประกันทั่วประเทศไทยของเรา เราจึงอยากได้หลักประกันนี้ไว้ ไม่มากก็ขอให้พอเป็นพอไป พอฟัดพอเหวี่ยงกันก็ยังดี เวลาเขายกทัพมาหมอบเลยๆ นี้ฟังไม่ได้นะ ขอให้มีเครื่องต่อสู้กัน วันนี้ก็ได้ทองคำตั้ง ๑ กิโล ๑๒ บาท ตั้งแต่เราลงมากรุงเทพฯคราวนี้ เราลงมาวันที่ ๑๑ มาถึงนี้ก็ได้ทองคำ ๓ กิโลกว่าแล้วนะ ก็ได้กันไปเรื่อยๆ อย่างนี้ เพราะอันนี้เป็นประเภทน้ำไหลซึม ได้ ๓ กิโลก็นับว่าได้มากอยู่ เพราะเป็นประภทน้ำไหลซึม ก็ค่อยๆ ได้ไปอย่างนี้เรื่อยๆ นานไปๆ ก็เพิ่มเข้าๆ
เราหวังอย่างยิ่งอยู่กับบรรดาพี่น้องทั้งหลาย เพื่อเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่ของเราในคราวนี้ที่ช่วยชาติ ขอให้ได้ทองคำประเภทน้ำไหลซึมๆ เข้าไป เราจะพอใจเป็นลำดับ เช่นอย่างวันนี้ก็ได้ตั้ง ๑ กิโล ๑๒ บาท ๗๒ สตางค์แล้ว วันหลังก็แน่ใจจะได้อย่างนี้เรื่อยๆ ไป เราเป็นห่วงจริงๆ ห่วงมากทีเดียว เฉพาะอย่างยิ่งคือห่วงทองคำ ห่วงมากกว่าเพื่อน (โยมในศาลาสวนแสงธรรมร่วมกันถวายทองคำ ๓ บาทครึ่งสลึง)
เราได้พยายามที่สุดแล้วในกำลังความสามารถของเรา เรียกว่าเราพยายามที่สุดเลย มอบลงเลย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เรามอบลงนี้ทั้งหมดเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเรียกว่าเราเอาคอตัดไว้เลย อะไรจะผิดพลาดประการใดคอเราผิดพลาดก่อน ถ้าอะไรจะขาดคอเราให้ขาดก่อน ในสามพระองค์นี้ต้องคงไว้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งสามนี้ต้องคงเส้นคงวาหนาแน่นไว้ เพราะฉะนั้นเราจึงเอาคอเรารองเลยเทียว ทุกอย่างเราทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ
คิดดูซิท่านทั้งหลายเคยได้ยินไหม ทองคำและดอลลาร์ เงินสดที่ท่านทั้งหลายบริจาคผ่านหลวงตา ท่านทั้งหลายเคยได้ยินไหม ไม่เคยได้ยินก็ขอให้ฟังเสียคราวนี้นะ เราออกช่วยพี่น้องทั้งหลายด้วยธรรมล้วนๆ ไม่มีกิเลสแม้เม็ดหินเม็ดทรายแฝงเลย เพราะฉะนั้นมลทินจึงไม่มี ท่านทั้งหลายบริจาคมากน้อยเข้าสู่จุดรวมๆ ทั้งหมด บาทเดียวเราไม่เคยแตะ ด้วยความไม่บริสุทธิ์ใจ ความเป็นมลทินในหัวใจของเราไม่มี จะจ่ายมากจ่ายน้อยจ่ายด้วยเหตุด้วยผลทุกอย่างๆ เรียกว่าแบมือด้วยความบริสุทธิ์ตลอดมา ท่านทั้งหลายจะไปหาที่ไหน
ฟังซิ เงินของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศจำนวนมากสักเท่าไร กี่พันกี่หมื่นล้าน แล้วทองคำที่เราได้เข้ามานี้ก็ตั้ง ๑๑ ตัน ๓๗ กิโลครึ่ง ไม่รั่วไหลไปไหนเลย เข้าหมดๆ ทุกอย่าง ดอลลาร์อะไรเข้าหมด เพราะเหตุใด เราเชื่อในความบริสุทธิ์ของเรา อะไรขัดนิดหนึ่งไม่ได้นะ จะเป็นมลทินเข้ามาขัดนี้ไม่ได้เลย ตัดทันทีเลย เปิดให้ธรรมเดินอย่างโล่งๆ ไปเลย เราจึงบริสุทธิ์เต็มเหนี่ยว เพราะฉะนั้นการแนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวพี่น้องทั้งหลาย เราจึงพูดด้วยอรรถด้วยธรรมล้วนๆ ไม่ว่าจะนิ่มนวลอ่อนหวาน ไม่ว่าจะเด็ดเผ็ดร้อนดุเดือดขนาดไหนก็ตามเป็นธรรมทั้งนั้น เราไม่มีกิเลสเข้ามาแฝงเลย
เช่นอย่างช่วยชาติบ้านเมืองนี้ เรามีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ทั้งชาติบ้านเมือง ทั้งศาสนา เพราะรับผิดชอบอยู่ในวงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดียวกัน ที่เรารับผิดชอบอยู่ ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องได้เกี่ยวข้อง ทางชาติ ทางศาสนา อะไรมีผิดพลาดตรงไหนๆ ในความรับผิดชอบด้วยกันเราเตือนๆ ผิดถูกประการใดเราเตือน เตือนด้วยความรับผิดชอบด้วยกัน เตือนด้วยความบำรุงรักษาด้วยกัน ไม่ใช่เตือนเพื่อเหยียบย่ำทำลาย เราจึงพูดได้เต็มปากจากความบริสุทธิ์ใจของเรา
อย่างที่ไอ้พวกสกปรกมันมาว่า หลวงตาไปเล่นการบ้านการเมือง ฟังซิน่ะ เราอยากพูดให้เต็มปากให้เต็มยศกับคำพูดสกปรกที่เข้ากันไม่ได้เลยกับเรา ว่าเราเล่นการบ้านการเมือง เราจึงอยากตอบเขาว่า เล่นการบ้านการเมืองหีพ่อหีแม่มึงอะไร อยากว่างั้น เราบริสุทธิ์ขนาดนั้นมันยังจะว่าเราเล่นการบ้านการเมือง ก็นี้ธรรมสอนโลก เข้าใจไหม ธรรมมาอุดหนุนโลก อุ้มชูโลก ทั้งหมดที่เรานำธรรมมานี้ ไม่ได้นำมาทำลายโลก ผิดถูกชั่วดีทั้งหลายต้องเตือนกัน ว่าให้กัน ในความรับผิดชอบที่จะอุ้มชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วยกัน ต้องเป็นอย่างนั้น
ในฐานะเราเป็นอาจารย์นำธรรมมาสั่งสอนโลก เราต้องพูดได้เต็มบทเต็มบาทเต็มเม็ดเต็มหน่วย ความผิดถูกดีชั่ว เราจะพูดไปตามความสัตย์ความจริง ตามอรรถตามธรรม เราไม่ได้ไปสนใจไอ้ที่ว่าการบ้านการเมือง การบ้านการเมืองการอะไรเราไม่รู้แหละ แต่เรื่องธรรมเรารู้ เราพูดจริงๆ ว่าเรารู้ เราเรียนมาปฏิบัติมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะฉะนั้นเราจึงเอาแต่ธรรมทั้งนั้นออกเทศนาว่าการ ผิดถูกชั่วดีทั้งหลาย อย่ามาถือเราว่าเป็นความผิดความพลาด เจตนาร้ายต่อผู้หนึ่งผู้ใดไม่ได้เลย ไม่มี เราไม่มีเรื่องเจตนาร้ายอะไรก็ตาม ผิดบอกว่าผิด เพื่อจะทำให้ถูก ตำหนิตรงนั้นให้แก้ไข ถูกยอมรับ เสริมกันให้ถูกต้องเรื่อยไป ความหมายว่าอย่างนั้นต่างหากนะ
เราช่วยพี่น้องทั้งหลายจึงว่าช่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ คิดดูซิดีดดิ้นมาเป็นเวลา ๖ ปีกว่าแล้ว เราเอาอะไร เราไม่หวังอะไรเลย ไม่มี ไม่เอา จะทุกข์ยากลำบากขนาดไหนเราก็เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ของเรา จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นใจ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ความบริสุทธิ์เราถอดออกจากหัวใจและกิริยาอาการทุกอย่างของเราเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านทั้งหลายพิจารณาเอา
การบวชมาในพุทธศาสนานี้บวชมาเพื่อถวายหัวใจ ชีวิตทุกอย่างเข้าสู่ธรรมของพระพุทธเจ้า การปฏิบัติจึงหมอบราบกับธรรมตลอดมา ไม่เคยฝ่าฝืนอรรถธรรมพระพุทธเจ้าเลย ผลความดีทั้งหลายก็ปรากฏขึ้นมาๆ จนเป็นที่พอใจเรา แสดงว่าถูกต้องแล้ว เหตุถูกต้องแล้ว ผลจึงได้เป็นที่พอใจ ถ้าเหตุผิดผลจะดีมาจากไหน นี่เหตุของเราบำเพ็ญมาตลอดเวลาไม่มีที่ต้องติ จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ เรียกว่าเราพอ พอทุกอย่างแล้วเรื่องอรรถเรื่องธรรมไปหาที่ไหนอีก เราบอกตรงๆ เราบอกเราไม่หา เราพอทุกอย่างแล้ว ตามธรรมที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เรียบร้อย เดินตามนั้นก็ถึงตามนั้น จากนั้นเราก็ช่วยโลก หมุนมาเพื่อโลกเพื่อสงสาร
เพราะฉะนั้นคำว่าพอแล้วนี้จึงว่าพอตลอด ไม่ว่าอะไรๆ จะมาเพิ่มมาเติมอะไรกับเราไม่เอา ไม่มี จะดึงออกก็ไม่มี จะเพิ่มเข้ามาก็ไม่มี พอแล้วๆ เราช่วยโลกด้วยความพอ โลกเรานี้โลกบกพร่องขาดเขิน แต่เราช่วยด้วยความพอของเรา จึงไม่ได้ขัดกัน เราจึงช่วยได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แล้วก็ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้อุตส่าห์พยายามทั่วหน้ากันในกาลนี้เวลานี้ เป็นเวลาที่เราจะช่วยชาติบ้านเมืองของเราเต็มเม็ดเต็มหน่วย ด้วยกำลังสติปัญญา ทรัพย์สมบัติเงินทองมีเท่าไรก็หมุนมาช่วยกันๆ
และให้มีความพร้อมเพรียงสามัคคีกันนะ อย่าขัดอย่าแย้งกัน ความขัดความแย้งไม่ดีเลย เรียกว่าสกลกายของเรามันวิกลวิการ มีเสี้ยนมีหนามมาปักเท้าเท่านั้นเดินเขยกหมดทั้งตัว ไอ้นี่เรื่องเสี้ยนเรื่องหนามมาขัดขวางต่อชาติของเราที่พากันดำเนินไปด้วยดี แต่เสี้ยนหนามมันเข้ามาปักมาเสียบแล้วก็ทำให้ชาติของเราลำบากเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นให้มีความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน อย่าคอยแต่เอารัดเอาเปรียบ เอาพริบเอาไหว จับผิดจับถูกกัน โดยไม่มองดูความผิดถูกชั่วดีของตัวเองเลย ไปมองดูแต่คนอื่น คนนั้นเสียไปเรื่อยๆ นะ นี่เราก็เตือนเสมอ
บรรดาลูกศิษย์ลูกหาอย่าให้มีเรื่องระหองระแหงขัดแย้งซึ่งกันและกัน ขัดข้องตรงไหนให้ปรึกษาหารือกัน เพื่อการก้าวเดินด้วยความราบรื่นดีงามของเรา สำหรับเราเอง เอ้า มาปรึกษาได้ แต่อย่าไปแทงข้างหลังก็แล้วกัน เข้าใจไหมล่ะ มีอะไรให้มาปรึกษาเรา เราบริสุทธิ์เต็มที่แล้ว พร้อมที่จะรับฟังคำแนะนำตักเตือนผิดถูกชั่วดีจากพี่น้องทั้งหลายทั่วหน้ากัน เราไม่ได้ยกตนว่าสูงว่าใหญ่อะไร ไม่ให้เหนือธรรม ความถูกต้องนั้นคือธรรมถือเป็นใหญ่แล้วเรายอมรับทันทีๆ จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายมีความพร้อมเพรียงสามัคคีกัน อย่าขัดอย่าแย้ง อย่าพลิกร้อยสันพันคม
อย่างที่เขาเขียนไว้ว่า การฆ่าการแกงการแทงข้างหลังข้านี้เก่ง อย่าให้ไปเก่งทางนั้นไม่ได้นะ ชาติไทยจม ฆ่าแกงกัน แทงข้างหลังกัน ผู้หนึ่งดำเนินไปด้วยความราบรื่นดีงาม ผู้หนึ่งมาแทงข้างหลัง จม ชาติไทยจม ไม่มีอะไรเหลือเลย จึงขอให้ยึดข้อนี้เอาไว้ อย่าให้เป็นอย่างนั้น ชาติไทยเราเป็นชาติที่มีศีลธรรม แนะนำตักเตือนสั่งสอนกระซิบกระซาบกันได้ในความผิดถูกชั่วดี ผู้เป็นธรรมด้วยกันย่อมฟังเสียงกัน ไม่ใช่จะมีแต่ทิฐิมานะอย่างเดียว ต้องฟังเสียงกัน
ผิดถูกชั่วดี มันผิดได้ทั้งนั้นคนเรา ตั้งแต่หมามันก็ยังผิด เราเคยพูดให้ฟังแล้ว เราออกจากกรุงเทพไปจำพรรษาที่จักราช นี่ยกตัวอย่างมานะ หมาตัวหนึ่งเป็นหมาใหญ่ มันนอนอยู่ใต้ถุนศาลา แล้วมีหมาเล็กข้างนอกเข้ามาจะมาศาลา มันหึงหวงซากของมัน มันหึงหวงพวกข้าวน้ำอาหารในวัดนั่นแหละ พอเห็นหมาตัวนั้นเข้ามา มันก็วิ่งไล่หมาตัวนั้นจะไม่ให้เข้ามาบริเวณศาลา พอดีฝนตกใหม่ๆ น้ำขัง น้ำลดลงไปแล้วแต่ดินยังลื่น ไอ้หมาตัวนี้ก็วิ่ง มันลื่นล้มหงายหมา ทั้งสี่ขายกขึ้น เราได้เห็น โฮ้ หมาตั้งสี่ขาเอาขาชี้ฟ้าทั้งหมด เอาหลังลง เรียกว่ามันผิดมันพลาดได้ หมาตั้งสี่ขามันยังพลาดได้ คนทำไมจะไม่พลาด คนมีเพียงสองขา เพราะฉะนั้นจึงให้คอยฟังคำตักเตือนของกันและกัน นี้เป็นมงคลแก่พวกเราทั้งหลาย
ไอ้เรื่องขัดเรื่องแย้ง เรื่องอวดดีอวดเด่นในตนและพวกของตนนี้ อย่านำมาใช้ในวงใหญ่คือส่วนรวมของเรา จะทำส่วนรวมให้เสีย เราปรับปรุงบำรุงรักษาส่วนรวมให้มีความแน่นหนามั่นคง ให้ปรึกษาหารือกัน อย่าขัดอย่าแย้ง อย่ากีดอย่าขวางกัน ด้วยทิฐิมานะว่าตนเป็นใหญ่ สุดท้ายใหญ่กว่าชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เลยเหยียบชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ให้จม คนๆ นั้นหาความเจริญไม่ได้ จมเลยคนนั้น ให้พากันจำ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ เอาละนะพอ
ยังหวังอยู่นะ พอแล้วก็ยังหวังอยู่นะ ทองคำประเภทน้ำไหลซึม วันนี้ได้ตั้ง ๑ กิโล ๑๒ บาท ๗๒ สตางค์แล้วนี่ ไม่ใช่เล่น ตั้งแต่วันเรามาวันที่ ๑๑ จนกระทั่งถึงเช้าวันนี้เป็นได้ทองคำ ๓ กิโล ๑๘ บาท ๖๘ สตางค์
หลวงพ่อสังวาลย์ศพก็ยังไว้ที่วัดทุ่งสามัคคีฯ ตามเดิม ท่านทำประโยชน์ได้มากนะหลวงพ่อสังวาลย์ เป็นคนใจบุญกว้างขวางมาก เวลาท่านมีชีวิตอยู่ท่านช่วยชาติของเราจำนวนน้อยเมื่อไร ไม่ได้น้อยนะ เรียกว่าทางแถวนี้ก็ท่านแหละองค์หนึ่งเป็นหัวหน้าช่วยเรื่องทองคำสำคัญมาก ทองคำ ดอลลาร์ เงินสด ท่านช่วยเยอะนะหลวงพ่อสังวาลย์ เป็นครูอาจารย์ที่หาได้ยากอยู่ไม่น้อยในสมัยปัจจุบัน เรานับถือท่านมาแต่ไหนแต่ไร ท่านก็นับถือเรามาก เอาละที่นี่ ให้พรๆ
รับฟังรับชมพระธรรมเทศนาของหลวงตา ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
และรับฟังจากสถานีวิทยุสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ และสถานีวิทยุอุดร
FM 103.25 MHz |