ไม่ว่านิกายไหนเป็นศากยบุตรด้วยกัน
วันที่ 5 เมษายน 2544
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๔

ไม่ว่านิกายไหนเป็นศากยบุตรด้วยกัน

สรุปทองคำวันที่ ๔ เมื่อวานนี้ทองคำได้ ๒๖ บาท ๙๗ สตางค์ ดอลลาร์ได้ ๒๐ ดอลล์ ทองคำที่ต้องการมอบเข้าคลังหลวงคราวนี้สี่พันกิโล ได้มอบและฝากไว้คลังหลวง ๒ ครั้งรวมเป็น ๒,๐๖๒ กิโลครึ่ง ที่มอบไว้ ๑,๐๓๗ กิโลครึ่ง ที่ฝากไว้ ๑,๐๒๕ กิโล อยู่ในคลังหลวงอันเดียวกัน ทองคำที่ได้หลังจากฝากและมอบแล้วซึ่งจะหลอมในกาลต่อไปนี้ได้ ๒๙๒ กิโล ๔๕ บาท ๑๘ สตางค์ อันนี้รอไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึง ๔๐๐ กิโลกว่าแล้วเราก็หลอม รวมทองคำทั้งหมดได้ ๒,๓๕๕ กิโล ที่รวมได้ทั้งฝาก มอบและกำลังจะหลอม รวมแล้วเป็น ๒,๓๕๕ กิโล กรุณาทราบตามนี้ จะก้าวเดินไปเรื่อย ๆ บัญชีดอลลาร์ที่อุดรฯ นับมาถึงวันที่ ๒ เมษา มีอยู่เวลานี้ในบัญชี ๕๗๖,๑๐๕ ดอลล์ ๙๒ เซ็นต์ บัญชีที่กรุงเทพ ๕ แสน ๗ หมื่นเหมือนกัน แต่เศษต่างกัน

เมืองไทยเป็นเมืองของเรา เราขวนขวายหาเพื่อเมืองไทยของเรา ได้มาเท่าไรอยู่ในเมืองไทย ๆ ช้าเร็วไม่ว่ามีแต่หนุนกันเรื่อย ๆ ไป นี่ก็จวนจะลงกรุงเทพอีกแล้ว วันนี้วันที่ ๕ แล้ว ไปวันที่ ๑๐ พักวันหนึ่งพอได้พิจารณาอะไร วันที่ ๑๑ เป็นวันพักพิจารณาเรื่องราวงานการของเราซึ่งจะขึ้นในวันที่ ๑๒ ถ้าไปวันที่ ๑๐ ก็ได้พักวันหนึ่ง พิจารณาปรึกษาหารืออะไร ๆ วันที่ ๑๑ ไปถึงตอนเย็นก็ไม่มีอะไร ตอนเช้าก็วันงาน เลยทำให้ชั่งน้ำหนักกัน ความจำเป็นอะไรมีน้ำหนักกว่ากัน แล้วก็ไปตามเหตุผลที่ลงไว้แล้ว วันที่ ๑๒ ก็เป็นวันงานแห่งชาติไทยของเรา ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ นั่นละวันงานแห่งชาติไทยของเรา กับจะรวมกำลังอีกทีหนึ่งขึ้นเป็นพัก ๆ

วันที่ ๒๑ ก็เป็นงานอันใหญ่หลวงอีกเหมือนกัน ก็เพื่อชาติไทยของเรา วันที่ ๒๑ เมษา เป็นวันรวมงานของ ก.ท.ม.โดยผู้ว่า ก.ท.ม.เป็นหัวหน้ารวมงานมหากุศลแก่ชาติไทยของเราในวันที่ ๒๑ เมษา เขาจดหมายนิมนต์มาหาเราให้ไปแสดงธรรมวันที่ ๒๑ ก็คาดว่าเขาจะประกาศออกไปทั่วไปหมดนะ ออกทางวิทยุออกทางไหนออกได้สะดวก คิดว่าจะทั่วถึงไปแล้วเวลานี้ วันที่ ๒๑ ก่อนหน้า ๖ โมงเย็นเริ่มพิธีการก่อนเทศน์ ฟ้าหญิงท่านเสด็จถึง เรื่องก็เริ่มเป็นระยะ ๆ ทอดบังสุกุลผ้าป่า ถวายศีล เสร็จเรียบร้อยแล้วก็พอดี ๖ โมงเป๋งเลย นั่นละเป็นเวลาเทศน์ ๖ โมงเย็น เราแน่ใจว่าเขาจะต้องถ่ายทอด ก็ได้ยินอยู่แล้วว่าเขาจะพยายามเอาให้ได้ถ่ายทอดสด ถ่ายทอดสดแล้วก็เรียกว่าได้เห็นได้ยินทั่วประเทศไทยเราเลย สมกับงานของเราเป็นงานอันใหญ่หลวงตั้งอยู่ในกลางกรุงสยาม สนามหลวงว่าไง คาดว่าพระจะไปมากนะ เฉพาะสายกรรมฐานจะไปมาก เราคิดค่อนข้างแน่ใจ

เพราะพระกรรมฐานท่านอยู่ในป่าในเขาก็เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่ท่านจะได้ยินได้ฟังได้รู้ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ในงานกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสนามหลวงเลยละ เราจึงคิดว่าพระฝ่ายกรรมฐานสายหลวงปู่มั่นจะลงไปมาก สายอื่น ๆ ก็มี เราเรียกเอาส่วนใหญ่ก็คือสายหลวงปู่มั่น คำว่าสายหลวงปู่มั่นนี้มีทั้งมหานิกาย มีทั้งธรรมยุตนะ ทางฝ่ายมหานิกายที่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นนี้น้อยเมื่อไร รวมเรียกว่าสายหลวงปู่มั่นด้วยกัน ปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น เราก็เปิดให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบว่า หลวงปู่มั่นท่านคิดกว้างขวางขนาดไหนสำหรับประโยชน์ให้โลกนะ

ลูกศิษย์ของท่านฝ่ายมหานิกายไปศึกษาอบรมกับท่านน้อยเมื่อไร เป็นลูกศิษย์ ๆ ไปศึกษาอบรมกับท่านมีเยอะนะ นับตั้งแต่ อาจารย์ทองรัตน์ อาจารย์กินรี เราจำไม่ได้ สำหรับท่านบรรยายให้ฟังหมดนะหลวงปู่มั่น ก็ลูกศิษย์ของท่านนี่ ท่านไม่ได้ว่าธรรมยุตไม่ได้ว่ามหานิกายนี่ ท่านถือเป็นลูกศิษย์ศากยบุตรด้วยกันทั้งนั้น ขอให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเถิดท่านว่างั้น ไอ้ชื่อนี้แต่ไก่มันก็มี ฟังซิท่านพูด แย้งท่านได้ที่ไหน นี่หลวงปู่มั่นพูดเอง เราฟังด้วยหูของเรา ท่านเหล่านั้นที่เป็นฝ่ายมหานิกายเข้ามารับการอบรมจากท่าน เกิดความเชื่อความเลื่อมใส พอใจที่จะญัตติ ๆ นะ

ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ ๆ ที่มาพอใจแล้วจะญัตติ พาหมู่คณะญัตติอะไร ๆ นี้ท่านห้ามทันทีเลย ไม่ต้องญัตติ ขึ้นอย่างเด็ดด้วยนะ พวกท่านเป็นศากยบุตรเหมือนกัน ไม่ว่าธรรมยุต มหานิกาย เรียกว่าศากยบุตร ท่านว่างั้น ธรรมยุต มหานิกายอะไรนี้เป็นชื่อแยกออก เพราะความแตกแยกเนื่องจากการปฏิบัติยิ่งหย่อนในธรรมวินัยต่างกันก็เป็นธรรมดา แต่เมื่อตั้งใจปฏิบัติแล้วไม่มีธรรมยุตมหานิกาย เรียกว่าศากยบุตรอย่างเดียว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นจะต้องญัตติ ขอให้ปฏิบัติเถิด

เมื่อท่านทั้งหลายมาญัตติแล้ว โลกมันถือสมมุติกันหนักมากยิ่งกว่าถือธรรมนะ แม้จะเป็นเรื่องของธรรม โลกสมมุติมันก็แทรกเข้าไป คณะนั้นคณะนี้ ก๊กนั้นก๊กนี้ ไปอย่างนั้น ธรรมท่านไม่มีก๊กท่านว่างั้น แต่โลกมันมองไม่เห็น เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องญัตติ เมื่อพวกท่านทั้งหลายญัตติแล้วมันถือเป็นก๊กเป็นเหล่า บรรดาผู้ที่ต้องการอรรถธรรมทั้งหลายก็จะเข้าถึงพวกท่านได้ยาก หรือจะถือท่านว่าเป็นคณะหนึ่งไปแล้วเป็นธรรมยุตไปแล้วไปอะไรอย่างนี้ ก็เสียผลประโยชน์ของผู้มีความหวังในธรรมทั้งหลายอย่างมากและมีจำนวนมากด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องญัตติ ท่านบอกไม่ต้องเลย เอ้า อบรมไป ไม่มีคำว่าสัคคาวรณ์ มัคคาวรณ์ การห้ามมรรคห้ามผลต่อนิพพานนั้นนี้ไม่มี ขอให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติไป มรรคผลนิพพานมีอยู่กับทุกพวกทุกคณะนั่นแหละ

พอว่าอย่างนั้นท่านก็บอกว่า ถ้ามาญัตติแล้วฝ่ายส่วนมากซึ่งเป็นฝ่ายของท่านจะขาดประโยชน์มากมาย ท่านว่าอย่างนี้นะ ไม่ใช่ขาดเพียงเล็กน้อย เมื่อพวกท่านทั้งหลายไม่ต้องญัตติ ออกไปนี้กระจายกันไปเลยได้ทั่วถึงกัน สมานกันไปได้หมด ท่านว่าอย่างนี้นะ จึงไม่ต้องญัตติ ท่านพูดเอง เราฟังอย่างถนัดทีเดียว หลวงปู่มั่นพูดท่านไม่ได้เอนได้เอียงไปที่ไหนท่านเป็นธรรมล้วน ๆ พูดถึงเรื่องการญัตตินี้มันเป็นวงคับแคบมากท่านว่างั้น การไม่ญัตตินี้เรายอมรับกันแล้วในสังคมเมืองไทยเราก็ยอมรับกันแล้ว ว่าธรรมยุตก็สมบูรณ์แบบ มหานิกายก็สมบูรณ์แบบ เรียกว่าพระสมบูรณ์แบบเหมือนกัน โลกยอมรับแล้วเป็นส่วนภายนอก ส่วนภายในเป็นหน้าที่ของเราจะปฏิบัติหลักธรรมหลักวินัย ต่างคนต่างเข้มงวดกวดขันปฏิบัติแล้วเป็นศากยบุตรเต็มตัวเหมือนกัน ฟังซิท่านว่า ท่านถึงบอกว่าไม่ต้องญัตติ

ด้วยเหตุนี้เองคณะลูกศิษย์ทางฝ่ายมหานิกายซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านจึงไม่ได้ญัตติ เพราะหลวงปู่มั่นเป็นผู้พูดเอง เราก็เห็นอย่างนั้นด้วยนะ ยันเลยเราก็เหมือนกัน ขอให้ปฏิบัติดีเถิดเข้ากันได้ทันที ยกตัวอย่างเช่น พระธรรมธร พระธรรมกถึก ทะเลาะกันเรื่องหลักธรรมหลักวินัย เพียงนิดหน่อยเท่านั้นก็แตกกันได้นะการขัดกันทางพระวินัย แตกกัน พระวินัยธรเป็นคณะหนึ่งขึ้นมาแล้วในวงศากยบุตรนั้นแหละ แล้วพระธรรมกถึกเป็นคณะหนึ่งขึ้นมา แล้วแตกแยกกัน พระพุทธเจ้าทรงอิดหนาระอาใจ เพื่อทรมานพวกเก่ง ๆ นี้ก็เลยเสด็จไปจำพรรษาที่ป่าเลไลยก์เสียในพรรษานั้น

พระองค์ทรงทราบหมดแล้วแหละเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่ผลประโยชน์จะได้มากได้น้อยเพียงไรนี้พระองค์ทรงเล็งแล้ว ก็เห็นว่าการเสด็จไปจำพรรษาอยู่ที่ป่าเลไลยก์สักหนึ่งพรรษา เพื่อทรมานและอบรมบ่มนิสัยของพวกนี้ว่างั้นเถอะ พอสมควรแล้วก็เสด็จมาโดยที่พระทั้งสองนิกาย นิกายวินัยธร นิกายธรรมกถึกนั้น มันจะตายล่ะซีเขาไม่ใส่บาตรให้กิน ใครก็อวดเก่งอวดกล้าสามารถเก่งด้วยกัน ๆ เขาก็ไม่ใส่บาตรให้กิน อิดหนาระอาใจ เอือมไปหมด พระจะอดตายก็ต้องมาขอร้องพระอานนท์ นั่นลงกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่พระพุทธเจ้ายังไม่เสด็จมา เห็นไหมพระพุทธเจ้าทรงเล็งญาณพิจารณารู้แล้ว ทูลอาราธนาพระพุทธเจ้าเสด็จมา

นี่ละโลกมันถือกันอย่างนี้ ฟังทุกระยะ ๆ นะ พอพระพุทธเจ้าเสด็จมาแล้ว นี้ลูกศิษย์วินัยธร นี้ลูกศิษย์ธรรมกถึก มาโจมตี พวกคณะนั้นโจมตีคณะนี้ คณะนี้โจมตีคณะนั้นเข้ามา ไหนคณะวินัยธรองค์ไหน ไหนคณะธรรมกถึกองค์ไหน จี้นั้นจี้นี้จี้เข้ามาแล้ว พวกฆราวาส พระพุทธเจ้าประทานอยู่ตรงนั้น ฟังให้ดีคำรับสั่งพระพุทธเจ้านะ พอเข้ามานี่ถ้าเป็นภาษาหลวงตาบัว หรือจะพูดว่าเด็ดไม่ต้องว่าภาษาหลวงตาบัวก็ได้ พูดอย่างเด็ดให้ถึงเหตุถึงผลว่า พวกนี้กำลังรุมเข้ามาจะมาชี้หน้าคณะวินัยธร คณะธรรมกถึก ใครคณะวินัยธร ใครคณะธรรมกถึก

พระพุทธเจ้ารับสั่งทันทีว่า อย่ายุ่ง นี่ภาษาธรรมภาษาน้ำหนัก แต่หลวงตาบัวเคยเป็นหลวงตาบัวอยู่แล้วก็เลยเป็นภาษาหลวงตาบัวก็ไม่ผิด หลักใหญ่หลวงตาบัวนี้เข้าในน้ำหนักนะ เข้าในเหตุในผล นี่ก็แยกออกมาให้พี่น้องทั้งหลายได้คิด พอเข้ามานี้ อย่ายุ่ง ฟังซิน่ะ เธอทั้งหลายมีลูกมีเต้าเหล่ากอมีญาติมีวงศ์ทะเลาะกันยุ่งไปหมดทั่วโลกดินแดน ท่านทั้งหลายมีลูกมีเต้ามีญาติมีวงศ์ ทะเลาะเบาะแว้งกันมาตลอด ลูกศิษย์เราตถาคตก็เป็นคนมีกิเลส ทำไมจะทะเลาะกันไม่ได้ล่ะ อย่ามายุ่งนะเราจะชำระของเราเอง นี่ลูกของเรา ฟังซิ ลูกของพวกเธอทั้งหลายให้ไปชำระกันเอง นี่ลูกของเราตถาคตเราชำระเอง ไล่เตลิดเปิดเปิงวิ่งลงตกทะเล ป่านนี้มันขึ้นทะเลได้แล้วยังพวกนั้นก็ไม่รู้นะ ถูกพระพุทธเจ้าขนาบมันตกทะเล

ทั้งลูกศิษย์วินัยธร ทั้งลูกศิษย์ธรรมกถึก ส่วนพระวินัยธร พระธรรมกถึกได้ฟังโอวาทจากพระพุทธเจ้าแล้วขึ้นนิพพานเสียมากต่อมากนะ เก่งไหม นี่ละเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ บรรดาสาวกฟังธรรมพระพุทธเจ้าได้สำเร็จมรรคผลนิพพานมากมายนะ พระธรรมกถึก พระวินัยธร ทีนี้เวลารวมกันลงแล้ว คณะไหนเป็นคณะวินัยธร คณะธรรมกถึก เป็นศากยบุตรด้วยกันหมด เห็นไหม พอลงกันได้แล้วเป็นศากยบุตรด้วยกันทั้งนั้น ทีนี้พุทธศาสนาของเราทั่วประเทศไทยจะเป็นมหานิกาย ธรรมยุต ขอให้ปฏิบัติให้ลงรอยตามอรรถตามธรรมเถิด เข้ากันได้ทันที นี้ตามหลักธรรมเป็นอย่างนั้น จะขัดแย้งธรรมไปไม่ได้ไม่เรียกศาสนา พากันจำเอาไว้ให้ดีนะ

นี่พูดถึงเรื่องสายหลวงปู่มั่น คำว่าสายหลวงปู่มั่นรวมทั้งฝ่ายมหานิกายด้วย ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์มั่นนะ เราไม่ได้ไปแยกเอาว่า นี่ธรรมยุตเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่นนะ มหานิกายเป็นลูกศิษย์ที่ไหนก็ไม่ว่า เราไม่ได้มีอย่างนั้น ธรรมไม่มี เราถึงว่ารวมกันที่เป็นส่วนใหญ่ก็คือ ท่านอาจารย์มั่นเป็นองค์ประธานเป็นอาจารย์ แล้วลูกศิษย์ลูกหาก็เลยยกให้มาเสียว่าเป็นสายท่านอาจารย์มั่น ที่จะได้ยินได้ฟังได้เข้าไปฟังเทศน์ คงจะมีมากเราว่างั้นนะ ความจริงก็คือว่า ลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่นไม่ว่าธรรมยุตมหานิกาย เป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่นทั้งนั้น ที่มาศึกษาอบรมกับท่าน ดังที่ระบุมาเหล่านี้มีแต่ลูกศิษย์ท่านอาจารย์มั่นเต็มไปหมดเห็นไหม ทางภาคตะวันออกก็เต็มไปหมด

เราไปเราชมเชย ไปที่ไหนถ้าเป็นพระปฏิบัติ สำนักไหนก็ตามเราเข้าถึง ๆ นะ เช่นอย่างไปกรุงเทพแต่ละครั้ง ๆ นี้ ไปโน้นสำนักทางเมืองชลฯ ซอกแซกซิกแซ็กเข้าไปหาหมด แม้ที่สุดเขาเขียวเราก็ขึ้น วัดเขาฉลากเป็นจุดศูนย์กลางที่เราไปพักที่นั่น แล้วแยกไปทางนั้นทางนี้ บรรดาพระปฏิบัติเราจะเข้าถึงหมดเลย เราไม่มีคำว่าธรรมยุตมหานิกาย เราเห็นแต่ผู้เป็นธรรมแล้วเท่านั้นเป็นที่พอใจ สมความมุ่งหมายของศาสดาสอนโลกเพื่อความกลมกลืนสามัคคีกัน เป็นอย่างนั้นนะ

วันนั้นก็คิดว่าจะไปกันมาก บรรดาพระกรรมฐานก็คงจะไปกันมาก เพราะท่านไม่เคยได้ยินได้ฟังได้เห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ เวลานั้นก็เป็นองค์หลวงตาบัว ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็มีความเคารพอยู่มากเหมือนกัน ก็จะได้ยินได้ฟังได้รู้ได้เห็นเป็นคติเครื่องเตือนใจมา เราคิดว่าพระจะลงไปมากอยู่ เพียงคิดว่าเฉย ๆ นะ ท่านไม่ไปก็ไม่ผิด เข้าใจไหม ความคิดของเราก็คิดว่าเฉย ๆ ไม่ผิด ท่านไม่ไปเราก็บอกว่าท่านไม่ไปเสีย ถ้าท่านไปก็คิดว่าท่านไป พอท่านไม่ไปคิดว่าไม่ไป ก็อย่างนั้นซี

เราจะว่าแต่นิกายนั้นนิกายนี้อะไร เช่นอย่างธรรมยุตนี้ เอ้า เข้ามาซีมาผิดธรรมวินัยให้เห็นอยู่ในวัดป่าบ้านตาด ไล่ทันทีเลยนะไม่ว่านิกายไหน ตัวนี้ตัวแสบว่างั้นเลย ไล่หนีทันทีเนื้อร้าย ถ้าเอาไว้นี้จะทำอันตรายต่อวัดนี้ไม่ใช่น้อย อย่างน้อยวัดนี้นะ ปล่อยไว้ไม่ได้ไล่หนีเลย ถ้าเตือนไม่ฟังแล้ว เอาละ ปึ๋งทันทีเลย เป็นเนื้อร้ายขึ้นทันที เนื้อประเภทที่จะรักษาด้วยหยูกด้วยยามีก็พยายามรักษากัน ประเภทที่เนื้อร้ายเอาไว้ไม่ได้ปัดออก จะทำส่วนใหญ่ให้เสีย พระประเภทเนื้อร้ายคือพระฝ่าฝืนธรรมวินัยนั่นเอง นั่นละประเภทเนื้อร้าย ต้องขับออก เนื้อดีทั้งหลายที่เต็มวัดเต็มวาจะได้คงเส้นคงวาหนาแน่นไปด้วยคุณความดีตามหลักธรรมวินัยของตนนะ ถ้าเนื้อร้ายนี่มันเข้าไปทำลาย ๆ

พี่น้องทั้งหลายให้ต่างคนต่างร่วมกัน ทีนี้เราจะเริ่มละนะ เริ่มต้นละทีนี้ ทางรัฐบาลเราก็กำลังปรับปรุงเข้าสู่จารีตคลองธรรม อันเป็นการปกครองโลกให้ร่มเย็นทั่วถึงกัน ไม่ได้เข้าไปกัดไปฉีกไปกินไปกลืน ตั้งหน้าตั้งตาเข้าไปปฏิบัติ จะประสานกันเรื่อย ๆ ละเรื่องธรรมกับเรื่องโลก ศาสนากับธรรมจะประสานกันเรื่อย ๆ เพื่อการปรับปรุงเข้าสู่แนวทางที่ดิบที่ดีเพื่อเจริญรุ่งเรืองแก่ชาติไทยของเรา ทางฝ่ายศาสนาเรียกว่าเราเป็นผู้นำ เราก็จะพยายามทุกด้านทุกทาง พี่น้องทั้งหลายทุกคน ๆ ให้ฟังเสียงธรรมนะ ธรรมนี้สำคัญมากนะ อะไร ๆ ให้ฟังเสียงธรรม เสียงโลกมา ๕ เสียง เสียงธรรมไปเสียงเดียว ให้จ่อหูเข้าไปเสียงธรรมนั่นละ แล้วก็เอาโลกมาเฉลี่ยกัน

ถ้าฟังแต่เสียงโลกอย่างเดียวไม่เหมาะนะ เสียงโลกเป็นเสียงที่มีกิเลส เสียงธรรมเสียงพระพุทธเจ้า ดึงออกมาจากเสียงพระพุทธเจ้ามาเป็นธรรม ไม่มีกิเลส จะเดินตามนั้นเลย ให้พยายามกันทุกคน ๆ หลวงตานี้ก็พยายามเต็มเหนี่ยวแล้วแหละเรื่องพยายาม คิดดูซอกซอนไปที่ไหนไป นี้เพื่อเห็นแก่ชาติบ้านเมืองของเรานะ ถ้าธรรมดาหลวงตาบัวนี้ก็เคยพูดให้พี่น้องฟังแล้ว ไปนานแล้วนะไม่อยู่ อยู่หาอะไร แบกธาตุแบกขันธ์หนักจะตาย กระดูกท่อนหนึ่งมันก็หนัก นี่กระดูกกี่ท่อนมันหนักเท่าไร นอกจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างสกปรกโสมมแบกหามกัน พาอยู่พากินพาขับพาถ่ายพาหลับพานอน มีแต่เรื่องขันธ์กวนทั้งนั้น จิตเป็นผู้รับทราบ ๆ เท่านั้น จิตไม่ยึดจิตไม่ถือ แต่อยู่ในความรับผิดชอบของจิต ภายในขันธ์นี้เป็นความรับผิดชอบของจิต ไม่ซึมซาบก็ตาม หิวก็บอกว่าหิว

ธาตุขันธ์เป็นสมมุติ ฟังให้ดี จิตเป็นวิมุตติจิตของพระอรหันต์นะ ธาตุขันธ์เป็นธาตุขันธ์ทั่ว ๆ ไปเหมือนกันกับทั่วโลกเป็นกัน เคยอยู่ก็อยู่ เคยกินก็กิน เหมือนกัน เคยหลับเคยนอนเคยขับเคยถ่ายไปเหมือนกัน อันไหนอร่อย อันไหนไม่อร่อย อันไหนชอบ อันไหนไม่ชอบ อยู่ในวงขันธ์-ขันธ์จะบอกเข้าใจไหม โอ๊ย อันนี้ไม่เอาไม่ชอบ คือขันธ์นั่นจิตเป็นผู้คอยดูแล ขันธ์มันชอบนั้นชอบนี้ เออ อันนี้ดีนะเอามา กล้วยหอมนี้ดีนะเอามาได้ ขันธ์อันนี้กินได้ พระอรหันต์ก็พลอยได้ด้วย นี่เรื่องของขันธ์มันจะเสมอต้นเสมอปลายของมัน จิตเป็นวิสุทธิจิตแล้วก็ตาม ส่วนที่เป็นขันธ์จะเป็นขันธ์ล้วน ๆ ของมันไม่ลดตัวนะ เป็นแต่เพียงไม่มีอะไรมาเสริมให้มันเป็นกิเลส มันก็เป็นขันธ์ล้วน ๆ ไป ถ้ามีกิเลสมันก็เสริมเป็นกิเลสตัณหาไปละที่นี่ ไปเรื่อย ๆ นะ

ขันธ์นี่เป็นพิษ ถ้ามีตัวเป็นพิษคือหัวใจเป็นพิษแล้ว สั่งบงการอะไรออกมามันจะเป็นพิษเป็นคุณไปด้วยกัน สั่งไปทางคุณเป็นคุณ สั่งทางโทษเป็นโทษ ถ้าเป็นจิตที่บริสุทธิ์ล้วน ๆ แล้วขันธ์มันก็เดินตามเรื่องของมัน การอยู่การกินการหลับการนอน การขับการถ่ายอะไรเป็นธรรมดา ธาตุขันธ์อะไรชอบอะไรไม่ชอบ มันก็จะบอกของมันในสัญชาตญาณของมันที่รอบตัวอยู่ในขันธ์นี้แหละ ไม่ไปถึงจิตดวงนั้นแหละ ทำยังไงก็เป็นไปไม่ได้มันเป็นหลักธรรมชาติแล้ว เรียกว่าคนละฝั่ง มันก็จะดีดจะดิ้นตามเรื่องของมัน นี้เป็นเหมือนกันกับโลกไม่ได้ผิดกันนะ

ว่ารัก-รักอยู่ในขันธ์ก็มี รักนอกขันธ์ก็มีเข้าใจไหมล่ะ รักอยู่ในวงขันธ์คือเป็นขันธ์ล้วนๆ นี้ ความรักความชังมันมีประจำของมันอยู่นั้น เพียงในขันธ์ รัก เอ๊ย ชังว่ะ ก็ชังในขันธ์เสียมันไม่ได้ไปชังที่นู้น ชังแบบขันธ์ว่างั้นเถอะ ขันธ์ล้วนๆ ชัง ขันธ์ล้วนๆ รัก ไม่ได้เหมือนกันกับจิตที่มีกิเลสพารักพาชังนะ นี่ให้พากันจำให้ดี มีอยู่ด้วยกันทุกคน เรื่องอย่างนี้มีด้วยกันทุกคน อันไหนที่มันเป็นขันธ์ล้วนๆ มันเป็นมันแสดงของมัน เรื่องใหญ่นั้นผ่านไปหมดแล้วก็ตาม ไอ้เรื่องที่มันประจำขันธ์ ประจำขันธ์หรือประจำภพประจำชาติที่มาประมวลในเรื่องประจำขันธ์มันก็มีของมัน มันก็ออกตามเรื่องของมัน ก็มีเท่านั้นไม่เลยจากนั้น พากันเข้าใจ

อันนี้ใครพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง นี้ถอดออกมาจากหัวใจมาพูดนะ อะไรเป็นอะไร ๆ มันก็เป็นอยู่ในขันธ์รู้อยู่ในขันธ์ อะไรเป็นขันธ์มันจะบอกของมันในหลักธรรมชาติ อันนั้นแล้วไม่มีปัญหาแหละ ธรรมชาตินั้นหมดปัญหาตั้งแต่วันกิเลสพังลงไป ไม่มี หมดโดยสิ้นเชิงไม่มีเงื่อนต่อเลยก็คือท่านผู้สิ้นสุดจากกิเลสแล้ว เครื่องก่อทุกข์อะไรไม่มี วันนี้พูดเพียงเท่านั้นนะ เอาละพอวันนี้

ลูกศิษย์ มา ๒ ช่องเลยครับทีนี้

หลวงตา นั่น เออ ฝ่ายประสานงานทาง กทม.แจ้งมาว่า ทางรัฐบาลรับว่าจะให้มีการถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง ๙ และช่อง ๑๑ รวมทั้งวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยในงานวันที่ ๒๑ เมษายน ที่ท้องสนามหลวง เวลาเขาไม่บอก แต่เขาบอกมาก่อนแล้วว่า ๖ โมงเย็นนั้นละเป็นเวลาแสดงธรรม ถ้าเขาถ่ายทอดก่อนนี้ก็คือเวลาเสด็จมาพระเจ้าลูกเธอฯ ทูลกระหม่อมนะ พอเสด็จมาแล้วการถ่ายทอดทีวีอาจจะเริ่มตั้งแต่นั้นก็ได้เรื่อยเลย แต่ก็ไปยุติที่ ๖ โมงเย็น ๖ โมงเย็นหรือ ๑๘ นาฬิกานั้นเป็นเวลาขึ้นธรรมาสน์เริ่มเทศน์ กรุณาทราบตามนี้ ถึงไม่ประกาศมานี้ก็ตาม โครงการเขาบอกมาแล้วว่า ๑๘ นาฬิกาคือ ๖ โมงเย็นเป็นเวลาเริ่มเทศน์ จำคำนี้ก็แล้วกัน เอาละพอ ต่อไปนี้ให้พร..

นี่เร่งแล้วนะ เขาเอาบิลรับเงินมาจากเครื่องมือแพทย์น่ะ พึ่งเอามาให้เมื่อเช้านี้ เราขู่ตอนเย็นเมื่อวานนี้ นี่มันจวนวันแล้วนับวันมันมีว่างอยู่วันที่ ๕ วันนี้เขาจะทำงานแทนเรานี้เขามีธุระจำเป็นไปใช่ไหมล่ะ ขาดไปวันหนึ่งแล้ว จากนั้นไปวันที่ ๖ ก็เป็นวันจักรีธนาคารหยุดนะและ ๗-๘ เสาร์อาทิตย์นี้ ยังเหลือวันที่ ๙ วันเดียวนั้นเราขู่ใหญ่เลยเพราะเหลือวันที่ ๙ วันเดียว เราจะจัดพวกเช็คจ่ายเครื่องมือแพทย์ให้เสร็จในวันนั้น มีเวลาจำกัดอย่างนี้ละเรา มีวันที่ ๙ วันเดียว วันที่ ๕ วันนี้ไม่ได้ทำอะไรได้แล้ว พวกที่เขาทำงานแทนเราเขามีธุระจำเป็นไป เราก็เห็นว่ามันพอยังมีอยู่วันหนึ่ง เราเลยอนุโลมให้เขาไป วันหลังก็ทำงานตามที่เราสั่ง

เมื่อวานนี้ไปคำตากล้า เอาอาหารไปส่งคำตากล้าแล้วก็เลยไปบ้านแพง เอาของไปถวายพระบ้านแพงด้วย เมื่อวานได้ ๒ แห่ง เมื่อวานนี้โรงพยาบาลรวมทั้งหมดมา ๔ โรง จำได้เมื่อวานซืนนี้ก็ ๔ โรง มาเป็นประจำนะโรงพยาบาลต่างๆ มารับของที่โกดัง คือในโกดังนี้เราจัดของให้เต็มเหนี่ยวเลยไม่ให้ขาดนะ เราจะอยู่ก็ตามไม่อยู่ก็ตามของนี้จะบกบางไปไม่ได้ สั่งไว้ตายตัวเลย โรงไหนมาให้ได้เสมอๆ กันหมดเลย ตบท้ายก็เติมน้ำมันให้ทุกคันรถ เติมให้ทั้งนั้น ปั๊มน้ำมันเราก็มีนั่นไปดูเอา ใครไม่เคยเห็นก็ดูเอาปั๊มน้ำมันวัดป่าบ้านตาด เมื่อวานนี้ ๔ โรงเมื่อวานซืน ๔ โรงเท่าที่เราจำได้ วันนี้ก็จะเป็นโรงหนึ่งแน่นอนก็เราจะไปดูตึก แน่ะเห็นไหมล่ะ ตึกกำลังจะเสร็จแล้ว นี่ก็จ่ายงวดพร้อมแล้วเมื่อวานนี้ แน่ะ

วันนี้ก็ไปดู คือจ่ายงวดเป็นงวดๆ จวนกระทั่งสุดท้ายกี่งวดนั่นเสร็จไป นี่จ่ายงวดแล้วเราจะไปกรุงเทพฯ เราจะไปดูเสียก่อน เวลานี้มี ๒ ตึก โรงเรียน ๒ แห่งนะ เรากำลังจ่ายงวดอยู่ ก็เป็นล้านๆ เหมือนกัน จ่าย ๓-๔ งวดไม่ใช่เล่นๆ นะ เป็นล้านๆ นี่เครื่องมือแพทย์กำลังมาอีก เขาจะเอาบิลเครื่องมือแพทย์มาให้เราอีก มาเท่าไรก็ดูตามนั้นจ่ายตามนั้นเสร็จแล้วไปกรุงเทพฯ เลย จ่ายนี้ไม่ยากละเพราะจ่ายทางเช็ค ไปเราดูทุกอย่างเซ็นปั๊บอันนี้ก็ไป เขาก็เอาเช็คออกมาก็จ่าย ส่งเลยๆ ไม่ยากอันนี้

ทางก็ค่อยดีขึ้นเรื่อย ทางนะ ทางค่อยๆ ดีขึ้นไปภาคไหนๆ ค่อยๆ ดีขึ้นเราก็เคยได้พูดออกทางวิทยุเหมือนกัน คือถนนหนทางทั่วประเทศไทยเราไม่ว่าภาคไหนควรจะให้มีเรียบร้อยเสมอกันหมด เพราะการไปมาหาสู่นี้ ทั่วประเทศไทยไปมาหาสู่ทั่วถึงกันหมด การซื้อการขายการไปมาการติดต่อสื่อสารต่างๆ ตลอดถึงการถ่ายนิสัยอันดีงามจากกันและกันด้วยการคบค้าสมาคมไปมาหาสู่นี้ได้เป็นอย่างดี นี้อันหนึ่งสำคัญมากนะ นิสัยของคนไม่เหมือนกัน ไปที่ไหนนิสัยของใครๆ บ้านใดเมืองใดเป็นยังไงๆ แล้วรับเอามาวินิจฉัยเลือกเฟ้นๆ เป็นคติแก่ตัวเอง นี่การถ่ายทอดนิสัยเข้าใจไหมล่ะ ยิ่งไปอยู่ไปพักนานๆ ก็ยิ่งรู้นิสัยเป็นยังไงต่อยังไง แล้วคัดเลือกมาๆ ใช้ แล้วการไปมาหาสู่การซื้อการขายนี้สำคัญมากนะ

เราจึงได้พูดว่าสำหรับถนนหนทางทั่วประเทศไทยเรา เมื่อมันยังพอเป็นไปได้อยู่อย่างทุกวันนี้ ควรจะถูไถให้สม่ำเสมอให้ดีเสมอกันไปหมด เพื่อประชาชนทั่วประเทศไทยจะไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกสบาย นี่เขาก็ได้ออกทางวิทยุแล้ว ทางการเขาก็รู้สึกเขาจะได้ทราบบ้าง เราเป็นธรรมเขาก็สนับสนุนเรา.ทุกแห่งกำลังเร่งรีบเวลานี้ทางถนนหนทางนะ ไปที่ไหนเห็นแต่ซ่อมกันขยายไปเรื่อยๆ ทั่วไปหมดเลย เราเห็นดีด้วย เอาละไปละ

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร

www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก