เมื่อวานนี้เราไปอำเภอนายูง โอ๊ย ฝนตกมาก ตะวันตกบ้านผือไปฝนตกมาก เข้าถึงนายูง ตกมาก ถึงเวลาบ่าย ๕ โมง พอเลยบ้านผือไปเริ่มทยอยฝนตก ตกหนักเข้าไป ไปหาชมสัตว์อย่างนั้นละ เข้าไปในป่า ส่วนมากสัตว์นี้มักจะคอยอาศัยกับพระกับวัดนะ สัตว์ประเภทไหนไม่พ้นที่จะเข้ามาแอบอาศัยพระจนได้ เราทราบไหมว่าสัตว์เหล่านี้ทำไมจึงมามีความสนิทสนมกับพระ พิจารณาซิ อย่าดูผิวเผินซิ มีสิ่งที่ฝังใจสัตว์ คือสัตว์จำได้โดยหลักธรรมชาติของมันเอง พระไปอยู่ที่ไหน ไม่ว่าสัตว์ประเภทใดจะมาแอบ ๆ แอบอยู่ข้าง ๆ แต่กิริยากลัวไม่ให้จับดี ๆ เขาเร้นอยู่ตามข้าง ๆ อยู่ข้างนอกไม่ได้ถูกเขาทำลาย วิ่งเข้ามาแอบ
ยิ่งพระกรรมฐานด้วยแล้ว ทราบนิสัยของสัตว์ป่าได้ดี ไปที่ไหนมันก็แอบเข้ามา ๆ เป็นเองของสัตว์นะ คือเขาเคยกับพุทธศาสนามาเป็นกัปเป็นกัลป์จะว่าไง เพราะพระพุทธเจ้าตรัสรู้มาเรื่อย ๆ แล้วสัตว์เหล่านี้เวียนเกิดเวียนตายเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติ มาเกิดเป็นมนุษย์ได้บวชในพระพุทธศาสนามาไม่รู้กี่ครั้งนะ พอมองเห็นผ้าเหลืองมันจะซึ้งภายในใจ ๆ เพราะมันเคย
ไปก็ถามดูสัตว์เมื่อวานนี้ สัตว์ร่มเย็นผาสุกในแถวนั้น ปลาก็เต็มสระใหญ่ไม่ใช่เล็ก ๆ น้อย ๆ นะสระ ๓ สระใหญ่ ๆ อยู่ในวัดนาคำน้อย เพราะเนื้อที่มัน ๑,๒๐๐ กว่าไร่ บริเวณที่เป็นสระใหญ่นั้น ๓ สระ นี่เราก็อนุเคราะห์สัตว์เพราะสงสารสัตว์ สระเดิมมีอยู่ ๑ สระ อีก ๒ สระปลาไม่ค่อยจะอยู่ มันรกรุงรังไม่น่าอยู่ เวลาเราไปทำกำแพงให้เลยติดต่อเขา ให้ธรรมอินทร์ละติดต่อเขามาขุดลอกออกหมดเลย เขามาขุดลอกออกหมดคือว่าข้างล่างมันเป็นพื้นหิน แต่มีพวกดินพวกอะไรเต็มอยู่หมด ให้ขุดลอกออกหมดเลยเทียว เตียนโล่ง ทีนี้น้ำก็เต็ม ๓ สระ สระเดิมนั้นสระที่สามไม่ได้ช่วยมาก ช่วยเล็กน้อย เพราะนกมันไปแอบอยู่โน้นเต็มแล้ว ไม่กล้าเข้าไปกลัวมันจะเดือดร้อน
เรียกว่าทำเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ ๒ สระใหญ่ ขุดออกเลยเทียวนะดินเหล่านั้น เอารถขุดออก ๆ เลยให้เตียนโล่ง ที่มันเป็นดินอัดแน่นเข้าไปตรงไหน รถขุดดึงออก ๆ หมดให้มันโล่ง มีตั้งแต่หินล้วน ๆ พอดีน้ำเต็มเลยเวลานี้ มันตั้งล้านกว่านะของเล่นเมื่อไร คือทำอย่างจริงอย่างจัง บอกให้พอใจเจ้าของ สั่งมอบไว้กับธรรมอินทร์เลย บอกนี้ผมมอบทุกอย่างแล้ว การจ่ายผมจ่ายเอง ขอให้ทำเรียบร้อยอย่างที่ผมมุ่งไว้ก็แล้วกัน สระใหญ่ ๒ สระนี้ถ้าเอาน้ำออกแล้วนี้ปลาจะมาเต็มอยู่นี้ ท่านก็ทำเต็มเหนี่ยว เวลาเสร็จแล้วล้านกว่านะ ไม่ใช่เล่น คือทำเอาอย่างใจเราว่างั้นเถอะ เวลาเขาเรียกเท่าไรให้เลย อย่างงั้นซีเวลาจะเอาของเขาเอาเต็มยัน เวลาเขาจะเอากับเราเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไม่ได้นะเรา ไม่เป็นอย่างนั้นนะ
อะไรถึงใจถึงทุกอย่าง บอกทำให้ดีนะ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่าไรเท่านั้นจ่ายตูมเลย มันถึงกันเข้าใจไหมล่ะ ก็อย่างนั้นซี ทำเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไม่เอานะเรา ถ้าลงได้ปลงใจลงตรงไหน การปลงใจที่จะทำจะให้ค่าจ้างรางวัลเขาเต็มเหนี่ยวเหมือนกัน ไม่เคยต่อเรา ปกติอำนาจเมตตาก็ครอบอยู่แล้ว ไม่ว่าซื้อสิ่งซื้อของอะไร ๆ ไม่เคยต่อ ดีไม่ดีเขาไม่มีเงินทอนให้เลยไปเลย เป็นอย่างนั้น อันนี้ก็ทำสระใหญ่ให้ ๒ สระใหญ่ โอ๊ย ไม่ใช่เล่นนะ ในวัดนั้นดูเหมือนมีแต่สระ ๒ สระ คือมันกว้างขนาดนั้นละ เวลานี้ปลาเต็ม นั่นเห็นไหมล่ะ
นกเป็ดน้ำทั้งหลายที่เขาอยู่สระเดิมของเขานั้นก็ค่อยทยอยกันออกมา เพราะว่าอันนี้มันยังเตียนโล่ง สัตว์เหล่านี้เขากลัวพวกเหยี่ยวพวกอะไรเขาไม่ค่อยออกมา เขาหาอยู่ที่รก ๆ มีลูกมีเต้าเต็มอยู่นั้น เวลานี้ก็ค่อยรกขึ้นแล้วเขาค่อยทยอยออกมาบ้าง ไม่มาก ทำให้ดีทีเดียว เรียกว่าน้ำเต็มเหนี่ยว ได้อาศัยเต็มที่ ปลาเต็มเลย ทีนี้เวลาหน้าฝนปลานี้ออกไป ขยายแพร่พันธุ์ออกเที่ยวข้างนอก พอจวนจะถึงเวลาแล้วตัวใหญ่เขาก็กลับมา เรียกว่าปลามีสมบูรณ์ เพาะปลาไว้สำหรับแถวนั้นไว้หมดเลยนะ คือพวกคลองมันมาจากที่ต่าง ๆ มันไหลไปไหน ปลานี้จะไปหมด ออกจากสระใหญ่ ๓ สระนี่ คือแม่น้ำลางผ่านมานั้น ปลามันเข้าออกได้สบาย ๆ เพราะฉะนั้นจึงว่าเป็นความสะดวกมากสำหรับปลานะ จะออกเวลาไหน ๆ หน้าฝนนี้ออกได้ตลอดเลย พอหน้าแล้งน้ำก็ไหลอยู่แต่เขาไม่ออกนะ เขาฉลาดเหมือนกัน หน้าแล้งน้ำไหลไม่มากเขาจับได้ง่าย ไม่ออก พอหน้าฝนน้ำมาก ๆ นี้ออกไปเลย
นี่พูดถึงเรื่องสัตว์ ตั้งแต่ศาสนาเขาก็รู้ สถานที่ร่มเย็น บุคคลที่ร่มเย็นก็รู้นะ เขาไม่รู้ละศาสนาไม่ศาสนา แต่มันซึ้งในใจเขา ตายใจ ๆ กรรมฐานนี่รู้เรื่องของสัตว์ป่าได้ดีจริง ๆ ถึงขั้นดีมากก็ว่าได้ อย่างสมัยพ่อแม่ครูจารย์นี้เรียกว่าขั้นดีมาก เพราะสัตว์เต็มดงเต็มป่ามันอาศัยยั้วเยี้ยอยู่กับคนเลยเหมือนสัตว์บ้านนะท่านว่า อย่างนั้นนะ มันกลัวคนเมื่อไร เพียงแต่ไม่ให้จับเท่านั้นละ กลัวอำนาจเท่านั้นเองไม่ได้กลัวจะฆ่านะ กลัวอำนาจ เพราะมนุษย์มีอำนาจมาก ไปไหนสัตว์กลัว นั่นละระยะหลวงปู่มั่นนี้เป็นระยะที่ร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับสัตว์ป่า แล้วท่านก็รู้นิสัยของสัตว์ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน เพราะอยู่กับสัตว์ตลอด ไปที่ไหนไม่มีคำว่าสัตว์ไม่มีนะ เต็มไปหมด ป่าเขาลำเนาไพรที่ไหนเต็มไป พวกสัตว์พวกเนื้อพวกเสือ พวกช้างมีเป็นแห่ง ๆ ไม่ทั่วไปเหมือนสัตว์อื่น ช้างถ้าดงใหญ่ ๆ ทำเลดี ๆ แล้วมีเยอะ แต่สัตว์เหล่านี้มีอยู่ทั่วไป
สมัยเรามานี้ก็ยังสมบูรณ์อยู่ในขั้นนี้นะ ขั้นหลวงปู่มั่นนั้นสมบูรณ์เต็มเหนี่ยวเลย ของเรานี้เรียกว่าจะลดลงบ้าง ที่ว่ายังสมบูรณ์ก็คือว่าป่ายังเต็มเหนี่ยว สัตว์ป่าทั้งหลายเต็มไปหมดนะ เราเองเราก็ไม่เคยคิดว่าป่าเหล่านี้และสัตว์เหล่านี้จะถูกทำลาย เพราะไปที่ไหนมันก็เหมือนกันหมด ไม่มีใครจับใครจองว่าเป็นที่ของใคร ๆ ใครอยู่ที่ไหนก็ทำไร่ทำนาเฉพาะพอกิน ๆ การซื้อการขายไม่มี การคมนาคมไม่มีการซื้อการขายก็ไม่มี สัตว์ก็ไม่ถูกทำลาย ต้นไม้อะไร ๆ นี้ก็ไม่ถูกทำลาย ก็อยู่ตามธรรมชาติของเขา บ้านนี้นาน ๆ ไปถึงจะเจอ บางทีไปตั้งวัน บุกป่าไปตั้งวันไปเจอบ้านไม่กี่หลังคาเรือน อย่างนั้นนะ นอกนั้นเป็นดงเป็นป่า สัตว์เต็มไปหมดเลยนะ เรานับไม่ได้ว่าเป็นสัตว์ประเภทใดบ้าง ก็สัตว์ประเภทที่เราเคยรู้เคยเห็นนั่นแหละ มันหากหลายประเภทนะในป่าในดงจริง ๆ มีหลายประเภทนะสัตว์
พักอยู่ที่ไหนละมา ๆ มันชอบกลนะ บางทีก็เห็นตัวมัน มันมาขุดดิน เช่น หมูป่าอย่างนี้ เราเดินจงกรมอยู่นี้มันมาขุดดินให้เห็นอยู่กลางวันนะ ตอนกลางวันก็มีเพราะหมูป่ามันเป็นฝูง พวกหมูโทนก็มี หมูฝูงเป็นฝูงนี่ละมาก มันออกมาหากินของมันยั้วเยี้ย ๆ มันเอาจมูกของมันขุดดิน เฉยกับเรา เราก็เฉยกับมัน มันมาอย่างนั้นละ หมูป่านี่เชื่องง่ายคุ้นง่ายนะ เก้งยังมีระวัง ๆ หมูป่าดูเหมือนไม่ระวัง เวลามาเป็นฝูง ๆ แล้วเขาไม่ระวังเรา เฉย แน่ะแปลกอยู่นะ เสียงดัง สัตว์พวกนี้ไปไหนเสียงดัง ไปตัวเดียวก็เสียงดัง ไปเป็นหมู่เป็นฝูงก็เสียงดัง เป็นสัตว์ประเภทไม่ค่อยสำรวม ไม่เหมือนพวกเก้งพวกสัตว์อื่น ๆ เอ้อ หมีหนึ่งเสียงดัง หมีไปไหนนี่โครมคราม ๆ เก้งไปไหนไม่รู้ไม่ได้ยินมันละ หมูนี้ตัวเดียวก็ตามสองตัวก็ตามจะได้ยินเสียงมันมาแหละ เวลากลางคืนเรานั่งภาวนาเสียงซุดซิด ๆ มาข้างแคร่ของเรา เขามาหากินกลางคืน กลางวันเขาก็ออก กลางคืนเขาก็ออกเขาไม่ค่อยกลัวละ
โอ๊ย เห็นสัตว์แล้วน่าทุเรศนะ เราไม่เคยคาดเคยคิดว่าจะฉิบหายไปนะ ไปที่ไหนมีป่าแต่ดง นึกว่าถ้าคนไม่เคยเห็นทุ่งเห็นนาแล้วจะว่าเมืองไทยนี้มีแต่ป่า เข้าป่าแล้วหายเงียบเลย เป็นเหมือนฟ้าครอบไปเลยนะ ป่าเป็นเหมือนฟ้าครอบไปเลย มันดงหนาป่าทึบไม่เคยคิดว่ามันจะฉิบหาย บ้านเมืองไม่มีผู้คนไม่มี เดี๋ยวนี้ไปดูซิที่ว่านี่ หมดเลยนะไม่มีเหลือ ป่าก็หมด สัตว์ไม่มีเหลือเลย หมดเลย อย่างวัดป่าบ้านตาดมาสร้างวัดทีแรกก็เต็ม พวกสัตว์ป่าเต็มในวัดนี่นะ เสือก็มี ๓ ตัว จำมันได้เพราะขนาดรอยมันต่างกัน มันผ่านไปผ่านมาอยู่ เสือโคร่งใหญ่ พวกกวางพวกหมู เก้งมันเต็มแถวนี้ พวกลิงค่างไม่ต้องพูดเสียงร้องลั่นอยู่ในวัดเรานี่
ต้นไม้จากนี้ไปภูเขา ดงใหญ่ทั้งนั้นนี่ ทำเลเขามาถึงกันหมดแหละ เราอยู่ในวัดนี้เขาร้องอยู่ในวัดนี้พวกชะนี เสียงลั่น มาสร้างวัดทีแรกแถวนี้เป็นดงหมด ออกไปนี้ดงหมด แล้วก็อย่างว่านะประมาณสัก ๑๐ ปีมั้ง พอสร้างวัดได้สัก ๑๐ ปี เริ่มละนะที่นี่ ทางโน้นทยอยเข้ามา ทางนี้ทยอยเข้ามา ผ่านเข้าไปผ่านออกมา แล้วก็ตั้งบ้านสุขสมบูรณ์ขึ้นมา แล้วอำเภอหนองแสงนี้ก็ดงใหญ่ดงโต เป็นอำเภอเป็นบ้านเป็นเรือนไปหมด จากนี้ไปถึงภูเขามีตั้งแต่ไร่อ้อย นั่นเห็นไหมล่ะ ต้นไม้ไม่มี สัตว์ป่ามาก ๆ ไม่ทราบหายไปไหนหมด หมดเลย ๑๐ ปีไม่มีอะไรมีแต่ป่า ประมาณ ๑๐ ปี จากนั้นมาก็เลอะไปหมดเลย เลอะเทอะจะเป็นอะไรไป
( ที่เขตพระหนูเห็นสัตว์ตัวคล้าย ๆ กวาง ) อ๋อ อันนั้นกระจง ตัวเล็ก ๆ เท่ากระต่ายใช่ไหม (ใช่ค่ะ) นั่นละมันมีหลายตัว มันหากินตามนี้ละมันไปได้ทุกเวลา ส่วนมากมันจะออกตอนเช้าตอนเย็น ส่วนกลางวี่กลางวันมันก็ออกห่าง ๆ แต่ตอนเช้าตอนเย็นนี้ออกตลอด เขาหากินตอนเช้าตอนเย็น พวกกระจง ทางนี้เขาเรียกไก้ มันคล้ายกับเก้งนั่นแหละ แต่ตัวมันเล็ก เอ้อ เมื่อคืนนี้เราออกมานี้เงียบ ๆ นะ แมวเข้ามาแล้ว เตือนพระนะ เราเห็นไฟแม็บที่หน้าวัดเราออกมานี่ตอน ๖ ทุ่ม พอคนเงียบ ๆ เรามักจะออกเที่ยวดูนั้นดูนี้ ถ้ามีคนเราไม่ออก กลางคืน ๖ ทุ่มแหละพอดีเราออกมาจากกุฏิแล้วก็เดิน เห็นไฟแพล็บ ๆ เอ๊ะ ไฟอะไร ๖ ทุ่มแล้ว เลยเดินไป
พอดีไปพบ ต.ช.ด.เขาไล่แมว ฝากั้นข้างนอกที่ว่าข้างล่างกันหมานั้นน่ะ โอ๋ย แมวมันโดดข้ามขึ้นเลยนะ ขึ้นเกาะข้างบนแล้ววิ่งเข้ามาข้างใน เขาไล่ไม่ทันเขาว่างั้น พอดีเราออกมานี่เห็น เห็นแพล็บเดียวนะ มองไปสีมันขาวกับดำ เราออกจากประตูนั้นแล้วเราก็กลับมา มองเห็นแพล็บหนึ่ง สีมันดำกับขาว นี่จะต้องลำบากกันอีกแล้วพระ จะต้องได้ดักกันอีก พึ่งเอาไปปล่อยไม่กี่วัน ถ้าเข้ามานี้สัตว์ตายมากนะ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอดอยากนะ สัตว์ประเภทนี้สัตว์คะนองปาก เจอกัดเลย ๆ เขาจะไม่ทำเฉพาะพวกไก่ เพราะอยู่ในบ้านเขาก็อยู่กับไก่ พวกไก่นี้เขาไม่สนใจแหละ
แมวนี่มาจากในบ้านนะ กลางคืนดึก ๆ เขาแอบมา นี่เมื่อคืนนี้ ๖ ทุ่มเขามาตัวหนึ่ง จะต้องได้ดักไปปล่อย ไม่ปล่อยไม่ได้ โห สัตว์ฉิบหาย พวกกระจ้อนกระแตจะไม่เหลือ หนู กระจ้อน กระแต พวกไก่ไม่เป็นไรแหละ ไก่เขาไม่สนใจ เพราะบ้านเขาอยู่กับไก่อยู่แล้ว ระวังก็แต่กระแต กระจ้อน โฮ้ เอาจริงพวกนี้ขอแต่เจอ ไม่ได้ขึ้นกับว่าหิวไม่หิวนะ พอเจอละด้อมใส่เลย กัดเลย กระแตพึ่งจะมามีบ้างไม่กี่ตัวระยะนี้ ค่อยมีขึ้น ๆ ถ้าแมวมาแล้วหมดนะ แต่ก่อนกระแตเยอะนี่ เดี๋ยวนี้หมดไป ๆ สงสารสัตว์นะเรา ไปไหนสงสารสัตว์
นี่เราพูดเรื่องป่าเรื่องเขาเรื่องพระกรรมฐานกับสัตว์ป่าเข้ากันได้สนิท นี่ได้ระวัง จะต้องพยายามเอาออก จะต้องได้บอกพระให้ดักแมวออก ให้อยู่ไม่ได้นะสัตว์ตายไป ตายเรื่อย เจอที่ไหนกัดเรื่อยล่ะซิ มันไม่ได้คำนึงความหิวความอิ่มนะ เจอที่ไหนกัดเรื่อยแมว ตายเรื่อย ให้ระวัง วันนี้ก็ไม่พูดอะไรมากนักละนะ (เมื่อวานหนูไล่ตะกวด) โหย ตะกวดมันมีเต็มอยู่นี่ ระวังนะหางมันยาวมันจะพันคอคนกำลังหลับครอก ๆ จะว่าไม่บอกนะ นอนหลับครอก ๆ แล้วหางตะกวดมันจะพันคอเอา ระวังให้ดีนะ รัดคอคนมันก็ทำได้ถ้ามันจะทำ นอกจากมันสงสาร มันเหมือนคนตายหลับครอก ๆ
เมื่อวานนี้ก็ได้พูดเรื่องอะไรเผ็ดร้อนนะ เอ๊ พวกสกปรกนี้ไม่ยอมนะ ไม่ยอมหวังความสะอาดติดเนื้อติดตัวติดศีลธรรม สกปรกเท่าไรยิ่งแสดงลวดลายลบล้างความสกปรก ยิ่งเลวเข้าไป ยิ่งสกปรกมากเข้าไป ๆ โฮ้ ความสกปรก จิตใจถ้าได้มืดแล้วหาแต่ทางมืดนะ ทางแจ้งไม่หาทางสว่างไม่หา หาแต่ทางมืด ผิดเต็มเนื้อเต็มตัว แก้ตัวตลอดเวลา ๆ นี้ ไม่ยอมหาที่สะอาดเลย หาแต่ที่สกปรก เราฟังเสียงเรื่องราวเหล่านี้เราสลดสังเวชนะ
โธ้ เรื่องความชั่วช้าลามกเรื่องกิเลสนี้มันไม่ไว้หน้าใคร มันจะบุกตั้งแต่เพื่อความสกปรกโสมมความฉิบหายวายปวง ต่อใครก็ตาม เต็มโลกเต็มสงสารมันเป็นอยู่ในหัวใจของสัตว์จะแสดงออกมาอย่างนี้ ผิดประการใดมันก็ไม่ยอมรับว่าผิด ปฏิเสธหน้าด้านๆ เห็นไหมล่ะ ยิ่งประกาศความหน้าด้านเข้าไปอีก เราทุเรศเหมือนกันนะ มาประกาศหาอะไร ผิดนี้แล้วก็ต้องหาเรื่องมาแก้กัน ไม่ทราบว่าแก้ไปหาอะไร แล้วว่าตัวฉลาด ธรรมดูแล้วมันสลดสังเวชนะ แก้ไปเท่าไรยิ่งมอมแมมลงไป เหมือนกับหัวมุดลงไปในมูตรในคูถ ทีแรกว่าอยู่บนกองมูตรกองคูถ พอเจออะไรมันเข้าใจว่าอันตราย มันก็มุดลงไปมูตรคูถเข้าไปเรื่อยๆ อย่างนั้นนะ
คนสกปรกคนชั่วมุดเข้าไปหาแต่ความชั่วเรื่อยๆ ไม่ได้ไปหาความดี ไม่ได้หาความถูกต้องดีงามพอจะยอมรับกัน มีแต่บืนเข้าเรื่อยๆ ผิดนี้ไม่ยอมรับ แต่บืนเข้าไปหาความผิดตลอดนะ บืนลงไปเหมือนอย่างที่ว่าสัตว์สกปรก ทีแรกมันยืนอยู่บนกองมูตรกองคูถ พอเจอสิ่งใดที่เห็นว่าเป็นภัยมันก็มุดเข้ากองมูตรกองคูถเลยเพื่อหลบภัยเข้าใจไหม สัตว์สกปรกโดดเข้าในมูตรในคูถ มุดลงในมูตรในคูถเพื่อหลบภัย นี่ละที่หลบภัยของคนชั่วเป็นอย่างนี้ ต้องเอาข้อแก้ตัวมาเป็นที่หลบภัย ภัยก็อยู่กับตัว มุดลงไปหลบเท่าไรมันก็ยิ่งจมลงในภัย ในภัยเจ้าของ เพราะภัยเท่ากับกองมูตรกองคูถอยู่ในตัวเอง หลบเท่าไรก็ยิ่งจมเข้าไปหาความชั่วตัวเองๆ เข้าไปเรื่อย กองมูตรกองคูถ เป็นอย่างนั้นนะ มันไม่ได้ออกนะมันมุดลงไปๆ
พูดแล้วเราสลดสังเวชนะ โห ยิ่งนับวันหนาเข้าไป โลกนี้จะไม่ยอมรับอรรถรับธรรมแหละ จะมีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้กันตลอดเวลาเท่านั้น จึงน่าทุเรศนะ ผิดเท่าไรไม่ยอมรับนี่ซิ มีแต่มุดลงไปในมูตรในคูถที่เป็นความผิดมากเข้าๆ มันไม่ยอมผ่อนเบาในความผิด วันนี้พูดเท่านี้ละ ไม่พูดมาก ก็พูดเรื่องสัตว์เรื่องเนื้อพอเป็นคติบ้าง แล้วก็พูดเรื่องความชั่ว
ลูกศิษย์ เงินดอลลาร์ ๑๕ ดอลลาร์เจ้าค่ะ
หลวงตา เขาให้ดอลลาร์เหรอ เออ เท่าไรเอาหมดละ โธ่ มาจากไหนเอามาจากไหนมากมาย
ลูกศิษย์ ของลูกสาวเจ้าค่ะ
หลวงตา ดูเอามาเท่าไรดู โธ่ๆ ของใครของลูกสาวเหรอ
ลูกศิษย์ ของลูกสาวทำงานอยู่เมืองนอกเจ้าค่ะ
หลวงตา ลูกสาวทำงานอยู่เมืองนอก โอ๊ย ข้อยอยากให้แม่ไปนำ ข้อยจะได้หลายกว่านี้ ครันแม่ไป นี่ลูกสาวฟังซิน่ะ นางสาวประภารัตน์ ชัยเอีย ลูกสาวเสี่ยเฉ่ง นางนุ้ย แล้วของร่วมถวายทองคำน้ำหนัก ๒๗ บาทวันนี้ กับหลวงตามหาบัว เงินเดือนจากการทำงานเดือนแรกที่อเมริกา ได้เท่าไรเดือนแรกที่อเมริกา ได้ ๒๗ บาททองคำนะ โถ เราจะคว้าเอาเดือนที่สองอีก จะได้ก็หวังล่ะซิ ว่าไง ได้ก็หวังเรื่อย อนุโมทนาทุกคนนะนี่ ไม่ใช่เล่นนะดูซิเหลืองอร่าม น้ำหนักตั้ง ๒๗ บาทเราคาดเราฝันเมื่อไร หมดทั้งศาลาเรานี่ อยู่ๆ ก็ผางมานี่เห็นไหมนี่อย่างนี้แล้ว
ชาติไทยของเราดวงชะตายังดีอยู่นะไม่ล่มไม่จมไปเสียทีเดียว ยังมีเครื่องต้านทานเครื่องฟื้นฟูนี่ชาติไทยของเรา ต่อไปนี้จะอนุโมทนานะ แม่มันก็เกิดปีเดียวกับเรา สนิทกันมากกับพี่ทิพย์น่ะ เด็กน้อยเราหัวเท่ากำปั้นเราบวชเขาไปอยู่หนองคายนี่ หัวเท่ากำปั้นๆ นางเล็กนางลุ้ย เขาก็ปานนี้ละฟังดู เพราะฉะนั้นว่ายังไงจึงว่าได้หมดนั่นละ ครั้นเป็นผู้ชายก็เรียกว่าแม่มันก็เป็นเสี่ยวกับเฮา เกิดปีเดียวกันมันแก่กว่าเฮาสัก ๒ เดือนบ่นางทิพย์น่ะ เท่านั้นแล้ว สนิทกันมากกับพี่ทิพย์ เฮาเรียกพี่ทิพย์เด๊ เขาแก่กว่าเฮาเด๊ ตัวเท่ากำปั้นๆ มันก็โตขนาดนี้แล้ว นี่ลูกสาวก็ได้ทองมาให้อีกด้วยนี่นะ สกุลนี่ก็สกุลคนใจบุญนี่อุปถัมภ์อุปัฏฐากตั้งแต่หลวงปู่มั่นมานะนี่ อุปถัมภ์อุปัฏฐากอยู่ท่าบ่อ เป็นลูกศิษย์กรรมฐานมาดั้งเดิม จากนั้นมาก็เป็นลูกศิษย์วัดป่าบ้านตาดต่อกันมาเรื่อยอย่างนี้แหละ หมดแล้วนะเทศน์จบแล้ว ช่อง ๕ ที่ถ่ายไปทุกวันๆ เอาไปต้มไปแกงที่ไหนไม่เห็นปรากฏ ได้ฉายออกหรือเปล่า
ช่อง ๕ ออกอินเตอร์เน็ตครับ
หลวงตา เหรอ ไม่ใช่แก้ตัวมุดเข้ามูตรคูถเหรอ วันไหนก็มาถ่ายทุกวันๆ เราก็อดถามไม่ได้นะ แก้ตัวไปทางอินเตอร์เน็ตนะ เอาละผ่านได้ ก็เรียกว่าผ่านได้
ลูกศิษย์ หนูอยากจะกราบเรียนถามว่าอย่างเวลาเดินจงกรมนั่งสมาธิมันมักจะได้ยินเสียงเพลงนี่ค่ะ
หลวงตา เสียงเพลง ช่างหัวมันเถอะ ตั้งแต่เราไม่นั่งภาวนามันก็ได้ยินอยู่ทั่วโลกนั่นแหละช่างหัว
ลูกศิษย์ ไม่ใช่ คนอื่นเขาไม่ได้ยินนะ แต่หนูได้ยินตลอดเวลาเลย
หลวงตา นั่นแหละเรียกว่าเราหูดี มันเป็นในประสาทของมันเอง อย่างหลวงตาเองก็เป็น พึ่งเป็นมานี่ แต่ก่อนก็ไม่เคยเป็น นี่พึ่งเป็นมาได้ประมาณสัก ๑ ปีละมั้ง หูข้างนี้นะเหมือนเสียงมันดังอยู่ไกลๆ เสียงหวิวแหววๆ อยู่ไกลๆ แต่มันดังอยู่กับหูเรานี้ เป็นเสียงบางทีเหมือนฆ้องบ้าง เหมือนเสียงกลองบ้างอะไร เรียกว่าพอจับยากๆ ละ จะว่าเสียงอะไรก็ไม่แน่นักนะ หากเหมือนเสียงฆ้องบ้างเหมือนเสียงกลองบ้าง เสียงตุ๊บๆ ติ๊บๆ บ้างอยู่ในนี้เป็นเสียงดังกับใจนะ หากทราบว่ามันดังอยู่นี้ ทางนี้เงียบเลย ทางนี้ดัง
ลูกศิษย์ หนูได้ยิน ๒ หูเลย เก่งกว่าหลวงตาได้ยิน ๒ หู
หลวงตา ๒ หูเลยนะ แล้วก็ไปหา
ลูกศิษย์ ได้ยินเสียงเพลงชัดเลย เป็นมโหรีขับกล่อมทุกวันเลย
หลวงตา นั่นแหละมันจวนจะเข้าขั้นบ้าแล้วนั่น
ลูกศิษย์ หลวงตา พูดจริงๆ นะ
หลวงตา จวนจะเข้าขั้นบ้าแล้ว
ลูกศิษย์ เป็นประสาทหลอนเหรอ
หลวงตา เออ ช่างหัวมันเถอะ หลวงตาเป็นเหมือนกัน ดูได้สักปีมานี้ ทีแรกมันก็ไม่ค่อยเท่าไรนักพอให้สงสัย เอ๊ะ มันเสียงอะไร ๆ ทีแรกนะ มันงิ้งๆ แง้งๆ เป็นอยู่ในนี้ละ ครั้นต่อมาก็ค่อยดังขึ้นๆ เดี๋ยวนี้รู้สึกค่อนข้างจะชัดนะ เหมือนเสียงตุ๊บๆ ติ๊บๆ บ้าง เหมือนเสียงฆ้องบ้าง แล้วเหมือนเสียงกลองบ้างอยู่ในนี้นะ มันเป็นของมันแต่ว่าจะจับว่าอันนั้นแน่ๆ ก็ไม่ได้นะ พอให้สงสัย มี ช่างหัวมันเถอะ
ลูกศิษย์ ไม่สนใจ
หลวงตา เออ ไม่สนใจ เราก็ไม่เคยสนใจกับหัวมัน ปล่อยมันไปของมันเรื่อยๆ อย่างนั้น ประสาทมันเปลี่ยนแปลงของมัน ปีไหนปีที่ไปตรวจที่กรุงเทพฯ หมอเชี่ยวชาญทางหูน่ะ คือเวลามันจะเป็นพอนอนตื่นขึ้นนี่นะ หูดับหมดเลย ไม่มีเลยเสียง จะอื้อๆ เอ๊ ทำไมเป็นอย่างนี้ มันเป็นอะไรตอนเราหลับนะ พอตื่นขึ้นมานี่หูดับหมด จากนั้นก็ไปตรวจ ตรวจก็ตรวจไปอย่างนั้นแหละ ก็เลยปล่อยตามเรื่องมา ทีนีก็มากลายเป็นหูอื้อ จากนั้นมาแล้วอื้อ จากอื้อมาแล้วก็เป็นเสียงอย่างนี้ละ จะอื้อไม่อื้อก็จะกลายเป็นหูหนวกไป มันค่อยเปลี่ยนของมันไปเรื่อย ๆ มีเสียงฆ้องเสียงกลองอยู่ในนี้เรื่อย เออ ช่างหัวมันเถอะว่ะ
เดี๋ยวนี้ปล่อยละ อะไรก็ช่างหัวมัน ร่างกายนี้เราปล่อยมันไปเรื่อยๆ ปล่อยไปเรื่อย อะไรยังเหลืออยู่เราก็ใช้ไป อะไรใช้ไม่ได้เราทิ้งไปๆ ไม่อะไรกับมันนะ เวลานี้เป็นเวลาอย่างนั้นละไม่เสียดายอะไร อะไรชำรุดทรุดโทรมพอแก้ไขได้แก้กัน แก้ไม่ได้ปล่อยไปๆ เรื่อยๆ จะให้มาเป็นกังวลห่วงใยมันไม่มี เดี๋ยวนี้ไม่มี มันเป็นของมันเองนะ อะไรพอใช้ได้ใช้ไป อะไรใช้ไม่ได้ทิ้งไปๆ ถึงเวลาของมันแล้วแสดงอะไรมันก็แสดงแหละช่างหัวมันเถอะ ปล่อยเรื่อยไปอย่างนี้ อย่าไปสนใจกับมันนะหู เป็นเรื่องของประสาทของมันเองค่อยเปลี่ยนแปลงไป หลวงตานี้เป็นแล้ว ทางด้านนี้เป็น ด้านนี้ไม่เป็น กลางคืนเงียบๆ มันก็มี เป็นทุกแบบ คือเรื่องธรรมดา ถ้าเรากำหนดจิตภาวนาของเราแล้วอันนี้หายเลย พอจิตถอยจากนั้นมามันก็รับทราบสิ่งเหล่านี้ ไปภาวนาดีๆ วันนี้ทองคำได้ ๒๗ บาทไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ ไปเลิกๆ พวกนี้บอกเลิกไม่ยอมเลิก