เทศน์อบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อเช้าวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
หาความจริงไม่ได้
(ลูกศิษย์อ่านแถลงการณ์คณะสงฆ์ไทย
เรียน บรรณาธิการข่าว
แถลงการณ์คณะสงฆ์ไทย ฉบับที่ ๗
ตามที่มีเอกสารอ้างว่า เป็นแถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง อาการพระประชวรของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๗ เผยแพร่ไปทั่วราชอาณาจักรนั้น ปรากฏว่า แถลงการณ์ดังกล่าวขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี ดังนี้
๑.ไม่ปรากฏรายนามคณะแพทย์ผู้รับผิดชอบในการตรวจและรักษา พระอาการสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ
๒.มีข้อความใส่ร้ายป้ายสีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ มีพระอาการหนักหนาสาหัส ทำให้พุทธบริษัทแตกตื่นและปริวิตกอย่างมากว่า สมเด็จพระสังฆราชอาจสิ้นพระชนม์ในเวลาใดก็ได้
๓.รัฐบาลละเมิดสิทธิส่วนพระองค์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ โดยให้พระองค์งดปฏิบัติศาสนกิจ งดรับศรัทธาสาธุชน งดทรงงาน งดสั่งการ งดลงพระนาม ซึ่งเป็นการที่คฤหัสถ์ล่วงเกินต่อบรรพชิต ขาดความเคารพยำเกรงตามพระธรรมวินัย เป็นการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ย่ำยีสมเด็จพระญาณสังวร ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา
๔.แถลงการณ์ดังกล่าว ไม่ปรากฏว่าส่วนงานใดของสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบ และปราศจากผู้ลงนามรับรอง
๕.สำนักนายกรัฐมนตรีกระทำการเกินอำนาจหน้าที่ เพราะผู้ทำหน้าที่ออกแถลงการณ์พระอาการประชวรของสมเด็จพระสังฆราช ต้องเป็นคณะแพทย์หลวงเท่านั้น
บัดนี้ปรากฏความจริงว่า สำนักนายกรัฐมนตรีไม่เคยมีแถลงการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด และไม่มีส่วนราชการใดของสำนักนายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์ดังกล่าว พบหลักฐานแต่เพียงสถานเดียวว่า แถลงการณ์มาจากนายปราโมทย์ รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นต้นเรื่อง รับเรื่องมาจากเลขาของนายวิษณุ เครืองาม เมื่อเวลา ๑๖.๓๐ น. ของวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ทั้งๆ ที่นายวิษณุ เครืองาม ได้พ้นไปจากการกำกับการดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปแล้ว
นายปราโมทย์ได้มีบันทึกสั่งราชการ ปรากฏบนเอกสารแถลงการณ์ที่ถูกส่งไปยังสถานีวิทยุโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ มีข้อความว่า ห้ามออกอากาศจนกว่าจะได้รับแจ้ง และลงลายมือชื่อ ปราโมทย์ ลงวันที่ 15 ก.ค. 47 แต่เจ้าหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ได้นำแถลงการณ์ดังกล่าว ออกอากาศในช่วงเวลา ๑๘.๓๐-๑๙.๐๐ น. และ ๑๙.๐๐-๑๙.๓๐ น. ของวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๗ และเวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น. ของวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ยังความตระหนกตกใจแก่พุทธบริษัททั่วราชอาณาจักร
ผู้แทนคณะสงฆ์และประชาชน ซึ่งได้ประจักษ์ในเหตุการณ์และหลักฐานที่เจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ของกรมประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ได้นำมาแสดงให้ปรากฏ เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๖.๒๐ น. พร้อมจะเป็นสักขีพยานในกรณีนี้
จึงแถลงมาเพื่อกรุณาทราบโดยทั่วกัน
ผู้แทนคณะสงฆ์ไทย
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๔๗
หลวงตา พวกนี้เก่งกว่าแพทย์แล้ว สรุปเอาตรงนั้นเลย พวกนี้พวกเก่งกว่าแพทย์ เก่งทุกอย่างพวกนี้ เราไม่พูดอะไรมากละ โอ๊ย สกปรกไม่อยากฟัง ไปแย่งกินโต๊ะสมเด็จสังฆราชองค์นี้ พิลึกนะ สมเด็จสังฆราชมีมากี่องค์แต่องค์นี้ถูกแย่งกินโต๊ะกันยุ่ง ทุเรศ ทุเรศเหลือเกิน อะไรก็แล้วแต่จะทำกันไปเถอะ เราเบื่อพอแล้วละโลกสกปรก ว่างี้เลย พลิกแพลงเปลี่ยนแปลงหลายสันพันคมหาความจริงไม่ได้ มีแต่นำเรื่องมาหลอกกันๆ เพื่อพุงตัวเองนั้นแหละ เราเบื่อไม่อยากฟัง วันนี้ก็ไม่พูดอะไรละ อ่านเท่านี้ก็พอแล้ว
เมื่อวานนี้เราไปเทศน์ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เวลาบ่ายสองโมง แล้ววันที่ ๑๘ คือวันพรุ่งนี้เวลา ๘ โมงเช้าเขาจะนำสำนวนเทศน์นี้ออกทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย พี่น้องทั้งหลายฟัง เวลา ๘ โมงเช้าวันพรุ่งนี้ละ ที่เราไปเทศน์เมื่อวาน แล้ววันพรุ่งนี้เขาจะออกทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เวลา ๘ โมงเช้าพอดี ก็มีเท่านั้นแหละ
ให้ศีลให้พรแล้วก็เลิกกันไป เหนื่อยมาก ยิ่งมาเล่นกับเรื่องสกปรกนี้ด้วยแล้ว แหม มันไม่อยากเล่นด้วยนะ มันเป็นยังไงไม่ทราบเป็นอยู่ในหัวใจ มันต้องฝืนทำไงล่ะ มันสกปรกจริง ๆ นะโลกเวลานี้ สกปรกเอามากทีเดียว เฉพาะอย่างยิ่งวงพระสงฆ์ซึ่งเป็นวงที่สะอาดกลายเป็นวงที่สกปรกในวงพระสงฆ์เวลานี้ น่าทุเรศจริง ๆ เอาละทีนี้ให้พรนะ
ชมถ่ายทอดสดพระธรรมเทศนาของหลวงตาตามกำหนดการ ได้ที่
www.Luangta.com หรือ www.Luangta.or.th
|