|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ |
|
วันที่ 13 กันยายน 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
| |
ค้นหา :
บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
ใครได้ฟังทางวิทยุหรือเปล่า เขาออกทางวิทยุหรือเปล่าที่เทศน์ตอนเช้าวานนี้ ตอนค่ำเรามาฟังนี้ขบขันดี เราอดหัวเราะไม่ได้ หลวงตาเป็นยังไงถึงไปตกนรก ทีนี้ไอ้ปุ๊กกี้ไอ้เหล่านั้นไม่ตกเขาอยู่ในกรง ว่าหลวงตานี้ไม่เป็นสรณะของใครแล้ว ตกนรกแล้ว ยังเหลือแต่เขา ไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง ไอ้หมี ให้ถือเขาเป็นสรณะได้ ว่าไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หยอง ไอ้หมี สรณํ คจฺฉามิ เราฟังแล้วอดหัวเราะไม่ได้ เทศน์ไป ๆ มันสัมผัสอะไรมันก็ออกของมัน ๆ ไม่ได้มีเจตนาไว้นะ ปัจจุบัน ๆ เวลามาฟังเจ้าของออกชื่อ ไอ้ปุ๊กกี้ ไอ้หมี ไอ้หยอง นี้ ให้เป็นสรณะของประชาชน เรายังอดหัวเราะไม่ได้
ผู้ว่าฯอุดร : ของเราเปิดน้ำอ่างห้วยหลวงมันเต็มครับ กลัวมันจะล้น มีข่าวว่าไต้ฝุ่นมาแถวเวียดนาม จะมีผลกระทบมาบ้านเรา ก็เลยเปิดน้ำออกมา กระทบหมู่บ้านตามห้วยหลวงบ้าง ส่วนในเมืองแห้งหมดแล้วครับ ห้วยหลวงเราบรรจุได้ ๔ ล้าน ๒ แสน กะว่าจะปล่อยให้เหลือสัก ๒ ล้าน ๕ หรือ ๓ ล้าน เก็บน้ำไว้ครับ
หลวงตา : เราก็คอยสังเกต ถ้าควรปิดก็ปิด ถ้าไม่ดีรีบเปิด
ผู้ว่าฯอุดร : รีบเปิดครับ ตอนนี้ ๘ โมงเช้าต้องไปนั่งประชุมกันที่ห้องทุกวันครับ ตรงไหนจะเปิด ตรงไหนจะปิด ดูระดับน้ำไปถึงอำเภอเพ็ญถึงสร้างคอม ว่าไปท่วมสักแค่ไหนอะไรต่าง ๆ แล้วคนไหนท่วมก็ไปแจกของให้เขาก่อน
หลวงตา : โห เป็นผู้ใหญ่นี่นอนไม่หลับนะ เหมือนพ่อแม่แหละนอนไม่ค่อยหลับ แต่ลูกมีกี่คนฟังเสียงดังครอกแครก ๆ แข่งกัน พ่อกับแม่ไม่ได้หลับแหละ วิ่งโน้นวิ่งนี้ อันนี้ก็เหมือนกัน พ่อบ้านพ่อเมืองไม่ได้อยู่แหละฟังซิ น้ำจะมาช่องไหน ๆ จะมาท่วมเมืองอุดรก็อยู่ไม่ได้ ต้องได้วิ่งแหละ
เมื่อวานไปโรงพยาบาลห้วยผึ้ง สงสารทำไง สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์รู้สึกจะขาดแคลนมากกว่าจังหวัดอื่น เท่าที่สังเกตดูตามโรงพยาบาลมานี่ ตามธรรมดาถ้าไม่จำเป็นไม่มา นี่ก็ต้องมาด้วยความจำเป็น ๆ รู้สึกว่าสงสาร เมื่อวานนี้ไปห้วยผึ้ง ไปสั่งสิ่งของเอาอะไรจากตลาดสว่างฯ ได้แล้วไป ตัดเข้าทางวาริชภูมิ ออกคำเพิ่ม น้ำอูน ตัดลงอำเภอเขาวงแล้วเลี้ยวไปโรงพยาบาลห้วยผึ้ง จากนั้นก็ตรงมาสี่แยกสมเด็จ ตัดมาวังสามหมอ ศรีธาตุ กุมภวาปี มานี้ เวลา ๒ ชั่วโมงพอดีจากห้วยผึ้งมาถึงวัดเรา ทีนี้จากทางนี้ไปทางสว่างฯ ตัดไปภูพานลงไปโน้น ๒ ชั่วโมง ๕๐ นาที เกือบ ๓ ชั่วโมง ย่นกว่ากัน ๕๐ นาที
เมื่อเช้าก็ออกไปดูมุมกำแพงตั้งแต่เช้า เมื่อวานนี้พระไปพูดกับพระฝรั่งเกี่ยวกับเรื่องมุมนั้น ว่าจะไม่ให้ถึงมุม เรากะว่าจะให้เจ้าของนาเขาขึ้นทางริมห้วยหมากแข้ง พอขึ้นนั่นปั๊บก็ขึ้นมาเลยมาออกสะพานเรา รู้สึกจะสะดวกเป็นสองทาง คือทางหนึ่งเราทำประตูใหญ่ให้หนึ่ง รถยนต์ก็ไปได้ สอง ประตูคนโดยเฉพาะ ทางนี้เราก็ทำไว้ให้ ทีนี้เรามาคิดอีก ควรจะมีทางเปิดโล่งทางนาเขาออกทางโน้น ถ้าเขาลำบากที่จะตัดมานี้เขาก็ตัดออกทางโน้นเลยให้เป็นความสะดวก เรายังคิดว่าให้รถยนต์ไปได้ก็จะดี เมื่อเช้าจึงไปดู ควรตัดมุมให้รถยนต์ขึ้นมาทางนี้ไต่ริมห้วยหมากแข้งมาแล้วเข้าสะพานเลย มันสะดวก ไปดูแล้วเมื่อเช้านี้
เรามอบภาระทุกอย่าง มอบความไว้วางใจให้ท่านปัญญา ตามธรรมดาถ้าเรามอบอะไรแล้วเราจะไม่เข้าไปยุ่งนะ ให้เป็นเรื่องของท่านเอง ๆ เพราะเราไม่ฉลาดเท่าท่านในเรื่องเหล่านี้นะ ท่านฉลาดกว่าเรามาก เราก็มอบให้ท่านแล้ว ท่านทำไปเราก็ไม่ได้สนใจแหละ ครั้นทำไป ๆ ดู ริมถนนทางนี้ก็ไปดู คือทางถนนทางไปบ้านสุขสมบูรณ์นี้ก็เข้าไปถึงส่วนรวมเหมือนกัน เราก็ไปดู แต่เราได้เตือนไว้แล้ว คือรั้วเหล่านี้อย่าให้มีส่วนกลัวเสียนั้นเสียนี้เสียมากเสียน้อย อย่าให้คิดไม่ได้ทางวัด วัดเป็นนักเสียสละ เราว่า ตั้งแต่ทางบ้านตาดมานี้ ทางกว้าง ๆ นั่นเราซื้อให้ทั้งนั้นนะ อันนี้ทางจะไปทางนี้เราก็เปิดทางให้ บอกลูกหลานให้เบิกกว้างเอาไว้ ๆ นี้เป็นทางสาธารณะ เขาก็เบิกกว้างเอาไว้ อันนี้เราไม่ได้ซื้อ บอกเขาไว้เลยให้เขาเบิกกว้างเข้าไปโน้น ทีนี้เวลาเราจะทำทางนี้จึงได้เตือนทางนี้ อย่างไรอย่าให้กินออกไปนะ ของเราต้องหดเข้ามาเสมอ หมดเท่าไรก็หมดไปขอให้ทางเป็นความสะดวกก็แล้วกัน
ทีนี้เวลาเขาปักหลักเราก็ออกไปดู ก็พอดีอยู่ เอาละพอใจ ออกจากนี้เราก็ไปดูทางนู้น นี่ที่เราได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับท่านปัญญา มีขัดกันอยู่นิดหนึ่ง คือเมื่อเราได้มอบแล้วเราจะไม่เข้าไปเกี่ยวนะ ทีนี้มอบแล้วเราเข้าใจถึงเรื่องบ้านเมืองซึ่งอยู่แถวนี้ได้ดี ท่านไม่เข้าใจ มันขัดตรงนี้นะ เราทำแล้วเราวิตกวิจารณ์ นาเขาจะออกยังไง เป็นทางนี้เข้ามานี้ทำให้ก็จริง แต่เป็นความสะดวกอิสระเขาจริง ๆ แล้ว ควรที่เขาจะมีทางเป็นพิเศษของเขาเอง เราว่างั้นนะ เพราะฉะนั้นเราจึงไปดู มันก็ไปติดที่มุมนี้ ถ้าหากว่าเราได้คิดไว้แต่ก่อน เสาที่ฝังปักอยู่นี้เราจะเอาเข้ามาข้างในอย่างน้อยหนึ่งเมตร เป็นอย่างน้อยนะ เราจะย้ายเข้ามาปักนี้ แต่นี้ท่านปัญญาท่านทำแล้วเราก็จนใจ ก็เรียกว่าแคบ ทางโน้นแคบ ไปตัดมุมโน้น แล้วต้นไม้ที่อยู่มุมโน้นก็โค่นออกเลย ให้ถนนขึ้นมาทางนั้นผ่านมาริมคลองนี้เลย ให้เป็นทางสะดวกของเขาเอง เราว่าอย่างนั้นนะ
เขามาใช้กับเรานี้เขาก็ใช้ แต่ความสะดวกเป็นอยู่ในใจเขาจะไม่ค่อยมี ถ้าเราให้เขาแล้วจะสะดวกมาก เมื่อเช้านี้ไปดูอีก ตกลงก็จะเปิดให้จนได้นั่นแหละ เสาที่ปักไปแล้วถ้าควรจะตัด ตัดออก ถอยคืนมา แล้วตัดแยงนี้ไปใส่โน้น เราดูแล้วถ้าหากว่าทางนี้ยื่นไปมากจะตัดถอยมาอีกก็ได้เพื่อตัดมุมทางโน้นมานี้ อันนั้นไม่ให้เลยมาอีก ดีไม่ดีตัดเข้าอีกยังได้เพื่อทางเขาจะขึ้นมานี้ ต้นไม้เหล่านี้เอาออกหมดเปิดทางให้เขาไปตามริมห้วยหมากแข้งจะดี เราคิดอย่างนั้น จึงได้พูดกับท่านปัญญาใหม่ เพราะอันนี้ไม่ได้รีบด่วนอะไร กำลังหน้าฝนอยู่ด้วย ให้เป็นทางของเขาเป็นพิเศษ เขาออกมานี้เลี้ยวเข้านาเขาเลยก็ได้ เขามาทางนี้เขาอาจไม่สะดวกยิ่งกว่าที่เรามอบให้เป็นพิเศษของเขาแล้วก็ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงจะเปิดให้ทั้งสองทางเลย เขาจะมาทางนี้ก็ได้ เขาจะออกทางนู้นกลับทางโน้นก็ได้ เมื่อเช้าออกแต่เช้าก่อนพระบิณฑบาต ลงจากกุฏิไปดูเลย แล้วกลับมา ทีแรกว่าจะเดินตัดทางนู้น โอ๋ย ฝนหยุดสามวันยังเป็นขี้ตมขี้โคลน ไปไม่ได้นะ พอไปนี้ถอยกรูดเลย ทีแรกว่าจะมาทางนั้นมาไม่ได้
ทางที่เปิดโล่ง ๆ พี่น้องทั้งหลายไม่ทราบนะ มีแต่เรื่องหลวงตาทั้งนั้น ซื้อไว้ตั้งแต่โน้น ทีแรกเพียงล้อเกวียนไปจะสวนกันก็ไม่ได้มันแคบ เราซื้อที่สองฟากทาง ๆ ไปเลย ให้เขาราคาสูง ๆ จนกระทั่งใครก็อยากมีนาอยู่ติดถนนเขาว่างั้น คือเราให้มาก เป็นอย่างนั้นตลอดถึงบ้านนะ กว้างอย่างนั้นเป็นของใคร เราซื้อเปิดออกหมด ทีนี้อยู่ ๆ ที่เขามาทำร้านขายอะไรอยู่นี่ ทาง ร.พ.ช.หรือไง ทีแรกเขาคงไม่ทราบ เขาก็มาเทหินลงปึงปัง ๆ ตรงนั้น คือที่นั้นเป็นที่ว่างเราซื้อไว้ เปิดไว้เป็นที่โล่ง ๆ สำหรับทำประโยชน์ส่วนรวมเราว่างั้น
ทีนี้ไม่มีใครทราบละซีว่าเป็นที่ของวัด อยู่ ๆ ทาง ร.พ.ช.ก็บึ่งบั่งมาเทหินลงตูมตาม ๆ เราจึงถามว่าหินนี่ใครมาเท บอกว่า ร.พ.ช. ให้ไปบอก ร.พ.ช.นะ เทหินนี่เทเพื่ออะไรให้เหตุผลกลไกมา สถานที่นั่นเป็นที่ของวัดนะ ทีนี้เจ้าของออกแล้ว เขาก็ยอมรับผิดทันที เขาไม่ทราบนี่ว่าเป็นที่ว่างเปล่า เขาว่าจะทำอย่างนั้น ๆ เป็นทำเลค้าขาย เออ ถ้าเป็นสาธารณะเราให้ทันที แต่ที่จะมาทำแบบถูลู่ถูกัง ลุอำนาจมาทำทีเดียวนี้ไม่ได้นะ มันเป็นได้นะ ถ้าฝืนเข้ามาก็ซัดกันเลย มันเป็นอยู่เรื่อย ๆ รอบด้านกับเราน่ะ ทางถนนที่ท่านทั้งหลายเข้ามานี้เป็นใครเป็นคนให้ทำ อย่างนี้ละ
เขื่อนก็เหมือนกัน เราเอาไว้ เขื่อนหน้าบ้านตาด อันนั้นอีกเขื่อนหนึ่ง สองสามเขื่อน บ้านแถวนี้รื้อหมดเลยไม่มีเหลือ นี่ละซัดกันลงถึงกระทรวง ก็เรานั่นเอง มันถึงมีบ้านไปได้นานอย่างนั้นนะ ไม่งั้นพวกนี้มากลืนเอาหมด เอาอำนาจบาตรหลวง โอ๊ย มันเอาอำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ ยังไงก็ไม่ทราบ ถืออำนาจป่าเถื่อน มาไม่มองดูหน้าดูหลังเลย เป็นอำนาจใหญ่หลวงมากนะ อยู่ ๆ ก็ถางอันนี้เข้ามาในวัด ตั้งแต่ปี ๒๕๑๓-๑๔ นะ เราไม่ลืม พวกชลประทานเขาจะทำเขื่อน ไม่บอกใครนะเจ้าของนา จะเหยียบเอาแหลกหมดเลย มันเป็นอย่างนั้นนะพวกนี้ เป็นนักล่าเขื่อนหากินเงิน แล้วก็ซัดเข้ามาฟากบ้านตาดทางโน้น เขื่อนนั้นท่วมเข้ามาหมู่บ้านตาดถึงนี้ กั้นเขื่อนนี้ปุ๊บหมดแถวนี้ไม่มีเหลือเลย หาเหตุผลต้นปลายไม่มี ทำที่ไหนก็บุกเข้าเลยไม่ได้ถามเจ้าของ อยากถางที่ไหนถางเข้าไปเลย นี้อยู่ ๆ ก็ฟาดเข้ามากลางวัดล่ะซีจึงมาโดนดีกันน่ะ เพราะมันเคยตัวละซี เคยอำนาจป่าเถื่อนมา ฟาดทางโน้นถางแหลกไปเลยแต่ก่อน เข้ามาทางนี้ก็ฟาดเข้ามาวัดนี้ ยกขบวนเข้ามาแถวนี้ พอดีเราก็อยู่ในวัด เสียงโครมคราม ๆ มันเรื่องอะไรนี่ เรียกพระมาถาม ว่าพวกชลประทานเขากำลังมาเบิกทาง เราก็ปุ๊บปั๊บลงมาเลย นั่นเอาแล้วนะไม่ต้องใส่นวม ลงมาเลย มาก็ไล่เบี้ยได้ไล่ออกเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ออกจะเอาตำรวจมาจับเดี๋ยวนี้ รู้ไหมว่านี่วัด มีสิทธิ์หรือไม่มี อันนี้เอาสิทธิ์มาจากไหน ถ้าไม่อยากติดคุกให้รีบออกนะ จะเอาตำรวจมาจับนะ รู้ไหมว่านี่เป็นของมีเจ้าของ หลวงตาเป็นเจ้าของอยู่นี้รู้ไหม เอาละที่นี่นะ ไล่ออกเดี๋ยวนั้นแตกฮือเลย เป็นอย่างนั้นนะพวกนี้
ทีนี้พวกผู้ใหญ่ก็มาหาเราตอนบ่าย มาก็ซัดกันเลย ทางนั้นก็หมอบละซีสู้เราไม่ได้ เหตุผลน่ะ ทางโน้นก็หยุดเพราะเหตุผลไม่มี มาทำลายชาติบ้านเมือง คนทั่วประเทศอยู่แถวนี้หนีไปหมดมีแต่น้ำเกลื่อน หาทำประโยชน์อะไรก็ไม่ได้ คนแตกบ้านแตกเมืองไปหมด เขื่อนบ้านจั่นก็เห็นไหมล่ะ เขื่อนบ้านจั่นเวลานี้มองดูสุดสายตา นั้นมีแต่ไร่แต่นาเขาเอามาทำเขื่อนบ้านจั่น แล้วท่วมไปถึงอุดรก็ท่วม เราก็ไม่ไปว่าอันนั้น ไม่ได้มาเกี่ยวข้องกับเรา อันนี้จะมาฟาดวัดเราละซี เทียบกันเข้าทันทีเลย เราจะยกออกหนีหมดถ้าหากว่าเหตุผลทางนั้นเหนือกว่าวัดนี้ เราจะไม่เรียกสักสตางค์เดียวเราจะหนีไปเลย ต้องเอาเหตุผลมายันกัน เหตุผลสู้เราไม่ได้
เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ เมื่อถึงกาลเวลาที่จะพูดเราก็พูดบ้าง เป็นอย่างนี้นะพวกนี้ ถ้าเราไม่อยู่ที่นี่หมด แถวนี้ไม่มีเหลือนะ เรารับศึกตลอด ถนนจากโน้นมานี้ก็เหมือนกัน ถนนที่บ้านคำกลิ้งมานี้ ทำเขื่อนแล้วไม่ทำถนนให้ ไล่เบี้ยกันเข้าละซี สุดท้ายสู้เราไม่ได้ เป็นอย่างนั้นนะพวกอำนาจป่าเถื่อน โอ๋ย.ลืมตัวนะ มันหลายครั้งแล้วนะ เราอยู่ที่นี่ ไม่งั้นแถวนี้หมดเลย กลืนเอา ๆ เฉย ๆ อำนาจป่าเถื่อนนั้น ก็คิดดูซิตั้งแต่ในวัดนี้บุกโครมครามๆ ถางตัดเข้าไปนี้เลย ถามได้บอกใครบ้าง โลเล ๆ ไม่รู้ว่าบอกใครไม่บอกใคร ถูกขนาบไล่ออกเดี๋ยวนั้นเลย ไม่ออกเดี๋ยวนี้จะเอาตำรวจมาจับนะ เอาขนาดนั้นนะ เขาแตกฮือเลย ตอนบ่าย ๆ ผู้ใหญ่ถึงมาหาเราก็ซัดผู้ใหญ่เลย หงายไปเลยนั่นเห็นไหม ไล่ไปถึงเรื่องเหล่านี้ ทำไมทำสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างนี้ เอาขนาดนั้น เลยหมอบทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย
ถ้าเอาเอาจริง ๆ นะ เราไม่เหมือนใคร ถ้าไม่เอา ๆ ถ้าลงได้เอาแล้วโบกมือเลย เหตุผลพร้อมแล้ว อย่ามาทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ อันนี้เราพูดถึงเรื่องที่ว่านี่ เขาก็เห็นมันว่างอยู่นานหลายปี ไม่ว่าเขาว่าเราใครก็ไม่รู้ เขาก็เอาหินมาเทตูมตาม ๆ พอมาเห็นผิดแปลกปรกติเราก็เลยถาม หินนี้จะมาทำอะไร เขาจะมาเทที่แถวนี้ว่างั้น เขาจะเททำอะไร ไม่ทราบ แต่เขาจะมาเท ทีนี้ก็ขึ้นเลยนะ ที่นี่มีเจ้าของนะนั่นเอาแล้ว นี่เป็นที่สวนเขา เราซื้อทำทางนี่นะ มันเศษเหลือเราก็ทิ้งไว้นั้นทำประโยชน์อีกส่วนหนึ่ง ๆ นี่สำหรับไว้สาธารณประโยชน์เราบอก พอทางนั้นเขาทราบเขาก็วิ่งมาหาเราเลย เขามายอมรับ เราถามเหตุผลเขา ทีนี้เราก็เปิดให้เลย แน่ะ ก็อย่างนั้นแหละ
อันนี้เราทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซื้อมานี้ก็เป็นประโยชน์ส่วนรวม เหลือไว้ก็เพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่เหตุผลกลไกไม่มีบุกเข้ามาเลยทีเดียว มันก็ต้องถามกันซิคนเรา แน่ะก็ว่างั้น เมื่อเหตุผลลงกันแล้วก็ไม่มีปัญหา เอ้า ทำได้ เขาก็ทำอยู่นั่นแหละ ก็เราทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมอยู่แล้ว นี่ท่านทั้งหลายได้เห็นทางเบิกกว้างมานี่ถึงโน้นนะ กว้าง ๆ มีแต่เราซื้อไว้ทั้งสองฟากทาง จนกระทั่งเจ้าของนาเขาอยากให้นาเขามาอยู่ติดถนน คือซื้ออย่างให้ราคาแพง ๆ นะ เหล่านี้ที่เบิกกว้างนั้น มีแต่เราซื้อไว้ ๆ สำหรับสาธารณประโยชน์นะ สำหรับเราเราไม่เอาอะไรแหละ กว้าง ๆ เราซื้อไว้ทั้งนั้น เขาเสนอขายเสียด้วยนะ คือเราให้ราคาแพง ๆ พอได้เงินนี้เขาก็ไปซื้อที่อื่นซึ่งดีกว่านี้ ความหมายว่างั้น
นี่ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ เหตุการณ์ที่มันไปอย่างนั้นมันก็ต้องไป อย่างที่พูดนี่ ติดก็ติดมาเอากันเลย แน่ะอย่างนั้นนะเรา ถ้าลงได้พูดหาความเท็จไม่มี ต้องจริงตลอด สระใหญ่ที่ไปเห็นที่ใหญ่ ๆ นั้นก็เราซื้อที่เขาแล้วก็ทำสระ คือแต่ก่อนควายมันเยอะ เต็มบ้านเต็มเมือง ควายหาที่กินน้ำไม่มี มองดูอดอยากขาดแคลน เอ๊อ ทำไงพวกสัตว์เหล่านี้มันจะไปหากินน้ำที่ไหนไม่มีน้ำกิน เราเลยซื้อที่เขา เสร็จแล้วให้รถเขามาไถขึ้นเป็นสระสำหรับควาย ทีนี้ควายเขาเอาไปฆ่ากันที่ไหนหมดไม่มีเหลือสักตัวเดียว ทีนี้สระเลยเป็นสระเปล่าไม่มีอะไรเลย น้ำก็เต็มอยู่นั้นละ นี่เหตุการณ์มันเป็นมาอย่างนั้นนะ แต่ก่อนควายเต็มหมดไม่มีที่กินน้ำ เราเลยซื้อที่เขาแล้วก็ขุดสระใหญ่ให้ควาย ทีนี้ควายถูกเขาเอาไปฆ่ากินหมด เวลานี้ก็เหลือแต่สระกับน้ำ เต็มอยู่นั้นใครไปก็เห็น ไม่มีควายสักตัวเดียวแหละมากิน อันนี้ก็ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ ก็ซื้อไว้แล้ว ก็ทำสาธารณประโยชน์ เราทำทั้งนั้นแหละ
แถวนี้แถวไหนเราซื้อไว้ ๆ เราทำเป็นสาธารณประโยชน์ทั้งนั้น ๆ นะ นี่ละถ้าพูดถึงเรื่องการทำประโยชน์ให้โลก พรรณนาได้เมื่อไรเรื่องเรา กว้างขวางขนาดนั้น ไปที่ไหนมีแต่เรื่องเราทำไว้ ๆ ทั้งนั้นนะ จนกระทั่งไม่มีเงินติดเนื้อติดตัวเลย แล้วเขายังมาเสกสรรปั้นยอหลวงตาว่า มหาเศรษฐีอยู่นะ พวกบ้านี่ว่างั้นเลย คนหนึ่งจนจะตายคนหนึ่งยังมาเสกเป็นมหาเศรษฐีได้ มันจะเอาอะไรมาเหลือ เมตตาออกหมดนะ หมดแล้วยังจะให้อยู่ตลอด หมดแล้วยังจะให้ จนพระมาบอกหมดแล้ว เหอ หมดแล้วเหรอ เอ้า พักไว้ก่อน บางทีไปติดหนี้เขาอีกนะ พักก็ยังไม่พัก ติดหนี้ส่วนมากเป็นโรงพยาบาล พวกเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์เวลาจำเป็น คือเครื่องมือแต่ละเครื่อง คนไข้มีจำนวนเท่าไรที่จำเป็นกับเครื่องมือเครื่องนี้ แล้วเงินเรามีเท่าไร ๆ เครื่องมือนี้ราคาเท่าไร ไม่พอ เอ้า ไม่พอสั่งเลย แน่ะอย่างนั้นนะติด ๆ คือคนไข้มีน้ำหนักมากกว่า เอาอย่างนั้นละ ติดหนี้เรื่อย เขาก็เสกว่าหลวงตาบัวเป็นเศรษฐีมาเรื่อยอย่างนี้ ความจนก็เราจนอยู่เรื่อยจะให้ว่ายังไง
ฟังเอาซิพี่น้องทั้งหลาย เราหวังอะไรกับโลกอันนี้ เราไม่หวังอะไรก็บอกชัด ๆ แล้ว พูดหนึ่งไม่มีสองเหมือนกันเรา ถ้าลงออกคำไหนแล้วแน่เลย ๆ จะมาหลอกลวงอย่างนั้นอย่างนี้เราทำไม่เป็น เพราะฉะนั้นภาษาธรรมจึงขึ้นได้ตลอดอย่างนั้นดูเอา พูดตรงไหนมีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์ไปพร้อม เอ้า ใครคัดค้าน คัดค้านมา ถ้าลงได้ขึ้นเวทีแล้วเป็นไม่ถอย ความจริงทั้งนั้น
ช่วยมาตลอดอย่างนี้แหละ ช่วยโลกช่วยสงสาร ไปที่ไหนช่วยไปหมดแหละ จากนี้จนถึงบ้านโล่งไปอย่างนั้นมีแต่เราซื้อไว้ ๆ สำหรับสาธารณประโยชน์ พวกโรงร่ำโรงเรียน พวกอนามัยเหล่านี้นะ บ้านเด็กที่อยู่นั้นก็เรานะนั่นซื้อไว้ให้เขา ก็อย่างนั้นแล้ว กว้างขวางที่มีแต่เราซื้อไว้ ๆ นี่ความกว้างขวางเป็นยังไงได้รับความสะดวกกันไหมล่ะ พิจารณาซิ แล้วความคับแคบตีบตันมาวัดป่านี้ยังจะมาไม่ได้นะ ไม่มีทางมา ทางล้อเกวียนนี้สวนกันจะไม่ได้ มันคับแคบ ทีนี้เวลาซื้อไว้แล้วเบิกกว้างออกมาได้สบาย เห็นไหมล่ะ นี่การเสียสละ ความเบิกกว้างมันก็มี ความสะดวกก็มีไปตาม ๆ กัน
พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้มีความเมตตาสงสารเฉลี่ยเผื่อแผ่ สอนให้มีจิตใจกว้างขวาง อย่าตีบตันอั้นตู้คับแคบไปไหนลำบาก แม้มีเงินเป็นล้าน ๆ ก็ไม่มีความหมายเพราะหัวใจพาคับแคบปิดทางตัวเอง ถ้าหัวใจเบิกกว้างมีอะไรมาเป็นประโยชน์ทั้งหมด เป็นอย่างนั้นนะ มันอยู่ที่หัวใจ ท่านจึงสั่งสอนให้อบรมทางด้านจิตใจ ให้มีจิตใจเมตตากว้างขวาง เห็นแก่จิตแก่ใจของกันและกัน แม้แต่สัตว์อยู่กับเราเขายังต้องอาศัยเรา ถ้าเจ้าของไม่ให้กินข้าวมันอยู่ได้เหรอหมาน่ะ เจ้าของมันให้กิน สัตว์มันก็มีแก่ใจกับเจ้าของรักเจ้าของ ไปที่ไหนสัตว์ตัวไหนจะรักจะติดพันเจ้าของยิ่งกว่าหมาไม่มี เว้นแต่หมัดเท่านั้นเข้าใจไหม ถ้าหมัดอยู่ไหนมันอยู่ด้วย มันต้องมีข้อยกเว้นซิใช่ไหม ก็หมัดเป็นอย่างนั้นหมาเป็นอย่างนี้ ก็ต้องแยกให้เขาให้เราละซิ
นี่ละสัตว์อยู่ด้วยกันก็เป็นอย่างนั้น ตีนี่ร้องแงก ๆ นะ เจ้าของตี ไม่มีท่าต่อสู้นะ นี่คือคุณของเจ้าของเหนือเขาตลอดเวลา เขาจึงยอมตลอด คุณของเจ้าของเหนือเขา ตีเท่าไรก็ยิ่งหมอบ ๆ นี่ละสัตว์เห็นคุณของเจ้าของ เป็นอย่างนั้นนะ
สรุปทองคำ-ดอลลาร์และกฐิน วันที่ ๑๒ เมื่อวานนี้ ทองคำได้ ๑ บาท ดอลลาร์ได้ ๑๖๑ ดอลล์ นี่หนูเล็กนี้เอามาเป็นพื้นฐานไม่ให้ขาดนะ ๑ บาทเป็นพื้นไว้เลย กฐินทองคำได้ ๕ กอง เงินสดได้ ๕๐ กอง รวมเป็น ๖๕ กอง
กฐินทองคำนี่หมายถึงว่าที่สำเร็จเป็นทองคำล้วน ๆ มาเลย กฐินเงินสดนี้เราเอาเงินสดแทนทองคำ เงินนี้เอาเข้าธนาคารไว้ ถึงเวลาเราถึงจะถอนออกมาซื้อทองคำ อันนี้เรียกว่ากฐินเงินสด รวมทองคำทั้งหมดที่เราได้แล้วเวลานี้ ๕,๒๖๖ กิโล กฐินทองคำ ๘๔,๐๐๐ กองนั้น ทองคำได้ ๖๒๘ กอง เท่ากับน้ำหนัก ๒ กิโล ๒๖ บาท
กฐินเงินสดได้ ๒,๖๑๕ กอง เท่ากับเงิน ๔,๑๘๔,๐๐๐
รวมกฐินทองคำและเงินสดได้ ๓,๒๔๓ กอง
ยังขาดอยู่อีก ๘๐,๗๕๗ กอง ในจำนวนกฐิน ๘๔,๐๐๐ กอง ยังขาดอยู่ ๘๐,๗๕๗ กอง
อันนี้ยังไม่รวมเช็ค เช็คเราก็แบ่งบ้าง เขาก็มาจดบ้างไม่จดบ้างก็มีนะ แต่ยังไงก็ตาม เช็คก็ดี เงินสดก็ดี จะไปรออยู่ที่ธนาคารด้วยกันทั้งนั้น เวลาถอนถอนออกมาด้วยกันเลย กรุณาทราบตามนี้ เราบางทีก็สับสนนะ บางทีก็ลืมบอก ที่จะเอาเช็คเข้าบัญชี เช็คกฐินนี้นะ บางทีก็ไม่ได้บอกหากเข้าอยู่ อันนี้เราคอยดู เวลาเราถอนมันมีเท่าไรก็จะรู้ตรงนั้น ไม่ไปไหนแหละ เข้าตรงนั้นเลย กรุณาทราบตามนี้ หมายเหตุ ยังไม่รวมเช็คกฐินเขาว่าอย่างนั้น
อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|