บิณฑบาตเงิน
วันที่ 17 มกราคม 2541
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๑

บิณฑบาตเงิน

 

        ดีละ เอามานี่ก็หลวงตาช่วยทำบุญให้ หลวงตาทำงานแทนพี่น้องทั้งหลายต่างหากนะ ศรัทธาเป็นของพี่น้องทั้งหลาย สมบัติบุญกุศลทั้งหลายเป็นของท่านทั้งหลายเอง หลวงตาเป็นผู้ทำหน้าที่แทน ๆ เท่านั้น เหล่านี้เข้าเท่าไรก็ออกเท่านั้น ออกเรื่อย ๆ

        เราไม่ได้หยุดสักวันนะ ตั้งแต่วันจันทร์มาเรื่อยจนกระทั่งถึงวันศุกร์ ไปโรงพยาบาลนั้น ๆ ทุกวัน ๆ เอาของไปแจก เอาพวกอาหารไปเทลงเลย ๆ พวกข้าวสาร เครื่องกระป๋องอะไร มันหลายอย่าง เต็มรถพอดี ๆ เมื่อวานนี้ไปส่องดาว ส่องดาวนี้ก็ช่วยมาก หลายล้าน ทั้งรถ ทั้งติดหนี้ ทางรัฐบาลว่าจะให้เงินงบประมาณมาให้ซื้อของในวงเงินเท่านั้น ทีนี้เวลาซื้อของมาแล้วเขาไม่มีเงินมาให้ ตกลงเลยมาทวงหนี้ตรงนี้ละ เราใช้หนี้ให้

ใช้หนี้ให้หลายโรงปีนี้ นี่ละเป็นต้นเหตุที่ให้เราได้คิดถึง เรื่องบิณฑบาตเงินพี่น้องทั้งหลายช่วยชาติเรา เพราะรัฐบาลถึงขนาดที่ว่าไม่มีเงินเดือนจ่ายให้ข้าราชการที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาล มาขอหลายโรงแล้ว นี่ละสะดุดใจเอามาก เพราะฉะนั้นจึงได้ปรารภขึ้นมาถึงเรื่องการที่จะบิณฑบาตเงินช่วยชาติ บิณฑบาตหมดทั่วประเทศนี้แหละ กำลังเสนอเข้าไปทางภายใน ไม่ทราบทางโน้นจะว่ายังไงกัน

        เรามีแต่ความเมตตาสงสารล้นหัวใจ ไม่ใช่ธรรมดานะ ล้นหัวใจ ครอบโลกธาตุเลยความเมตตา แต่การปกครองบ้านเมือง บริหารบ้านเมือง เราไม่รู้ เพราะฉะนั้นจึงต้องส่งเข้าไปปรึกษาหารือทางโน้นเห็นดียังไง ถ้าทางโน้นเห็นดีด้วย เราพร้อมเสมอเราบอก เราจะช่วย เอาชื่อของเราลงไป ออกโทรทัศน์ออกเลย ถ้าเป็นของอย่างนี้แล้วเปิดเลย

คือเราตั้งใจช่วยโลกจริง ๆ ด้วยน้ำใจของเรา มีเท่าไรทุ่มหมดเลย เราได้บอกว่า วัดนี้อย่างน้อยที่สุดหนึ่งล้าน ตั้งไว้เลย ให้เลยทันทีหนึ่งล้านเป็นอย่างน้อย แต่เวลาเริ่มเข้าจริง ๆ อาจจะมากกว่านั้น ตั้งพื้นฐานไว้ล้านหนึ่งเลย ถ้าทางรัฐบาลเห็นดีด้วยแล้วเราก็เอาทันทีเลย เพราะเราเป็นผู้เสนอเรื่องเหล่านี้ ถ้าทางโน้นไม่เอาก็จะทำยังไง

        บ้านเมืองเรารู้สึกว่ายุบยอบลงมาก เพราะฉะนั้นจึงได้เตือนพี่น้องทั้งหลายให้ประหยัดนะ อย่าลืมเนื้อลืมตัว ทุกสิ่งทุกอย่างให้ใช้พอประมาณ ๆ การอยู่การกินการใช้การสอยให้พอประมาณ อย่าลืมเนื้อลืมตัว ให้เป็นเนื้อเป็นหนังของตัวเองบ้าง เวลานี้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วประเทศเพื่อนบ้านเขา พอพูดอย่างนี้มาก็ไม่กี่วันนะก็ได้ทราบข่าวว่าเขายึด นั่นเห็นไหมล่ะ ติดหนี้เขาไม่มีเงินให้เขา เขาเข้ายึดธนาคาร ยึดทั่วประเทศเลย นี่แบบกลืนเงียบกินเงียบ เขาเรียกสงครามเศรษฐกิจ กินแบบนี้ละ

เพราะฉะนั้นเราจึงรีบตื่นเนื้อตื่นตัวนะ เดี๋ยวเขามาฮุบเอากรึบทีเดียวแล้วหมด เมืองไทยเราหมด ไม่เคยเป็นขี้ข้าของใครเลย จะมาเป็นขี้ข้าของเขา โอ๊ย ให้ตายเสียทั้งประเทศนี้เสียดีกว่าจะไปเป็นขี้ข้าคน นี่ละเราสลดสังเวชตอนนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงได้ออกลวดลายบ้างว่างั้นเถอะ ปีนี้หลวงตาออกลวดลาย เอ้า ชื่อของเราเอาออกเลย

แต่ก่อนใครมาถ่ายรูปหรือมาอะไรไม่ได้ทั้งนั้น แต่เวลาออกเพื่อชาตินี้ออกเลย จะออกทางโทรทัศน์ออกทางไหนออกเลย เราพร้อมเสมอเพื่อชาติ เราไม่มีอะไรในตัวของเรา มีแต่เพื่อชาติทั้งนั้น จะออกทางไหนก็ตาม เอาชื่อเราออกหน้า ๆ ได้เลย บอกว่าได้เลยได้ทั้งนั้น เปิดเลยถ้าอย่างนี้ เราเพื่อชาตินี่

        โถ ชาติล่มจมเป็นของเล็กน้อยเมื่อไร ให้ตายเสียดีกว่าชาติจะล่มจม ไปเป็นขี้ข้าเขามีอย่างเหรอ นี่ซิจึงว่าเมืองไทยเราให้ต่างคนต่างเป็นจิตเป็นใจเป็นเนื้อเป็นหนังของตัวเอง ให้สงวน รักชาติทุกคนๆ หากเรื่องราวมันเกิดขึ้นมาที่จะให้เป็นอย่างที่ว่านี้จริงๆ แล้ว ทุกคนทุกบาททุกสตางค์ให้เพื่อตัวเองๆ เพื่อตัวเองก็เพื่อชาตินั่นเอง อย่าตระหนี่ถี่เหนียว ฟาดลงไปเป็นล้านๆ เป็นไรคนหนึ่งๆ แล้วก็ท่วมปึ๋งเลยแหละเงินเราทั้งชาติ

ติดหนี้เขาตั้งแสนกว่าล้าน นี่ที่เราตกใจเอามากนะ ตื่น รู้สึกว่าสะดุดใจ เวลาสอบถามเขาเขาว่าติดหนี้เขาตั้งแสนกว่าล้าน น้อยเมื่อไร แล้วเพื่อนบ้านเขาถูกยึด ๆ นี่ละติดหนี้เขามาก เขายึดเอาๆ เรานอนใจอยู่ได้เหรอ แต่ก่อนเรายังไม่ได้ยินเพื่อนบ้านเขาถูกยึดนะ พอพูดอันนี้แล้วเรากลัวจะถูกยึด กลัวจะถูกเขากำเอาทีเดียวแล้วตายนะ  สงครามนี้สงครามเงียบนะ กลืนทีเดียวไม่ต้องเคี้ยว ต้องระวังให้ดีนะ ให้รีบตื่นเนื้อตื่นตัว พอว่าอย่างนั้นไม่นานได้ยินข่าวแล้ว ถูกเขายึดอย่างที่ว่า เอาเลย นี่มันเป็นอย่างนั้นเสียจะทำยังไง

        ชาติเป็นใหญ่มากที่สุด พระมหากษัตริย์อยู่ตรงกลาง ชาติห้อมล้อมหมดทั่วประเทศ ห้อมล้อมหมด พระมหากษัตริย์อยู่ตรงกลาง เป็นจุดศูนย์กลาง เป็นแก่น เป็นรากแก้ว อยู่ตรงนี้ เราทำนี้เราทำเพื่อชาติ ห้อมล้อมด้วยพระมหากษัตริย์ ก็เป็นสง่าราศีซิเมืองไทยเรา ถูกเขากดพรึบทีเดียวหมดเลยไม่มีเหลือ พระมหากษัตริย์ก็ไม่มีศักดิ์ศรีอะไรเลยถ้าเขาได้ฮุบไปแล้วนะ ฮุบไปแล้วหมดเลย ชาติไทยไม่มีความหมายจะว่ายังไง เราต้องการเหรอความไม่มีความหมายในชาติของเราซึ่งเคยมีความหมายมาดั้งเดิม

นี่ละเราตกใจอันนี้ถึงได้รีบตื่น เรียกว่าตื่นตัวก็ได้เพราะเห็นทางโรงพยาบาลต่างๆ มาขอ เงินเดือนไม่มีก็มีนะ เวลานี้เราให้เงินเดือนแทน ในโรงพยาบาลไม่ได้เงินเดือนมาเท่านั้นเดือนเท่านี้เดือน เราเสียย้อนหลังให้หมดเลย เดือนละเท่าไร ๆ เสียเดือนหนึ่ง โถ ไม่ใช่น้อยๆ นะโรงพยาบาล เสียย้อนหลังให้ เงินเดือนเขาไม่มี เอ้า ให้ๆ จ่ายให้ๆ ถ้ารัฐบาลเอามาแล้ว ที่จ่ายไปแล้วก็เป็นอันว่าจ่ายไปแล้วเราไม่เอาคืน แต่เราจะไม่จ่ายต่อไปเท่านั้นเอง ที่ให้ไปแล้วก็ให้ไปเลย ที่ยังไม่ให้ถ้ารัฐบาลเอาเงินเดือนมาให้แล้วเราก็ไม่จ่าย เท่านั้นเอง เวลานี้จ่ายอย่างนั้นละ จ่ายมาได้สองเดือนสามเดือนแล้วมั้ง จ่ายย้อนหลังก็มี โถ ไม่ใช่น้อย ๆ นะ มันไหลอยู่ทั่วประเทศ

เหมือนตะกร้าตักน้ำ วัดนี้เหมือนเอาตะกร้าตักน้ำ พอยกขึ้นซ่าหมดเลยไม่มีเหลือ วัดนี้ไม่มีเหลือ พอยกขึ้น เอาตะกร้าตักน้ำพอยกขึ้นซ่าหมดเลย น้ำไหลออกหมด นี่ก็เหมือนกัน ไหลเข้ามาแล้วก็ไหลออก ไหลออกไม่หยุดไม่หย่อน ไม่ทราบว่าแง่ไหนมุมใดที่ช่วยโลกเวลานี้ จนกระทั่งเครื่องร้อน ต้องได้บอกเรื่อยๆ ว่าเครื่องร้อน พักเครื่องก่อนๆ ถ้าว่าเงินหมดมันเสียเกียรติ ความจริงเงินหมดแต่บอกว่าพักเครื่อง ขนาดนั้นละเดี๋ยวนี้ พักเครื่องเรื่อยนะระยะนี้

โรงเรียน วงราชการต่างๆ จำเป็นอะไรเข้ามาๆ ให้ไปๆ สำคัญที่โรงพยาบาล เวลานี้เครื่องมือแพทย์ก็หลั่งไหลเข้ามา มาที่นี่หมด เราก็รับไว้ๆ สั่งเรื่อยๆ ไหลเข้ามาๆ บิลรับเงินก็ไหลเข้ามาเรื่อยๆ พอเครื่องมือตกเข้ามาถึงแล้วบิลรับเงินก็มาพร้อมกันๆ จ่ายเรื่อย ๆ อยู่อย่างนั้นไม่ได้หยุดได้หย่อน เราช่วยเสียให้เต็มความสามารถของเรา

นี่ก็รู้สึกว่าเป็นความแน่ใจแล้วว่าโรคท้องของเราดีขึ้นโดยลำดับ แข็งแรงขึ้น เมื่อเช้านี้บิณฑบาตสุดสายนะ ได้ ๑๗๖ บาตร เฉพาะบาตรหลวงตาองค์เดียว เต็มบาตรแล้วเทๆ ๑๗๖ บาตร บิณฑบาตได้สุดสายนะ ถ้าธรรมดาไม่ได้ เมื่อเช้านี้บิณฑบาตได้สุดสาย รู้สึกว่าแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่แน่ใจ

แต่ก่อนเดินจากกุฏิมาศาลานี้ก็จะไม่ถึง มันอ่อนเพลียของมัน ส่วนอื่นไม่เจ็บไม่ปวดมีแต่อ่อนลงเรื่อย ๆ เอายาอะไรมาฉันก็อ่อนลงเรื่อย ไม่สนใจ ก็มียาหมอจีนนี่ ฟื้นขึ้นมาโดยลำดับลำดา เป็นที่แน่ใจว่าหายละไม่สงสัย เพราะดีขึ้นทุกวัน ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำประโยชน์ให้โลกเรื่อย ๆ อย่างนี้ละ

เราอยู่นี้อยู่เพื่อทำประโยชน์ให้โลกนะ เราไม่ได้อยู่เพื่อทำประโยชน์ให้เรา เราพูดตรง ๆ เรานี้พอแล้วทุกอย่าง ไม่มีอะไรบกพร่องแล้ว ในหัวใจของเราเต็มไปด้วยธรรม ธรรมนั้นคือธรรมพอแล้ว เต็มหัวใจแล้ว เราไม่ต้องการอะไรทั้งหมด ทั้ง ๆ ที่ดิ้นทำเพื่อโลก สำหรับเราเองไม่มีความหมายอะไรละในเรื่องเหล่านี้ เราไม่เอาเราพอแล้ว เราสร้างบุญกุศลมาตั้งแต่วันบวชจนกระทั่งป่านนี้แล้ว ได้ ๖๔-๖๕ ปีแล้วมังบวชมานี้ ตั้งหน้าสร้างความดี ความชั่วไม่สร้างตลอดมา เอาเต็มเม็ดเต็มหน่วย จนกระทั่งถึงขั้นพอแล้ว ทีนี้เราไม่เอาอะไรอีกแล้วเราบอกชัดเลย ๆ เราบอกพี่น้องทั้งหลาย

ปี ๒๕๔๐ นี้เป็นปีที่เปิด ทุกปีเราไม่เคยเปิด รู้เท่าไรก็เหมือนไม่รู้ไม่เห็นเสีย เทศน์สอนไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้บอกว่าตัวรู้ตัวเห็น ปีนี้บอกเสียแล้ว บอกว่ารู้ รู้ถึงขั้นพอแล้ว ถึงขนาดที่ว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา เราจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว นี่พูดอีกแล้วปีนี้ ปีนี้พูด ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเราแล้ว เราจะไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงทำประโยชน์ให้โลกเสียเต็มเม็ดเต็มหน่วย ถึงเวลาแล้วก็ดีดผึงเดียวเท่านั้นไม่ยากอะไร

กบเขียดตายยังไง เผากบเผาเขียดยังไงเผาเราได้อย่างนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงทำเมรุไว้นั่น ไม่งั้นจะมาหรูหรายุ่งเหยิงวุ่นวาย เมรุเรามาทำไว้เองเป็นรอยเบอร์ของเรา หลวงตาบัวตายแล้วมาเผาตรงนี้เลยนะ ถ้าหากปล่อยให้คนอื่นทำจะเต็มไปหมด ศพของเรานี้รู้สึกว่าจะหนาแน่นยิ่งกว่าศพครูบาอาจารย์ทั้งหลายนะ เพราะสายงานมันกว้างนี่นะ ถ้าพูดถึงว่าเทศน์ก็ทั่วประเทศไทย เทปก็ทั่วประเทศไทย หนังสือทั่วประเทศไทย และการทำประโยชน์ให้โลกนี้ก็ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าภาคไหนช่วยทั้งนั้น ๆ เลย

สายงานมันกว้าง ทีนี้เวลาตายแล้วคนจะมากองกันอยู่นี่ซิ เราจึงต้องทำของเราไว้เสีย ทำเมรุไว้ ใครมองไปก็เห็นเมรุทำเรียบร้อยแล้ว เวลาตายแล้วจับยัดเข้านั้นเลย สบายไปเลย ไม่ให้ยุ่ง ยุ่งอะไร เงินนั้นเอาไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีกว่าที่จะมาทำเมรุจรดเมฆนู่น เสร็จแล้วเอาไฟเผาไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร

        ฟังทุก ๆ คนนะ การทำบุญให้ทาน การทำความดีนี้มีวันพอมีเมืองพอ แต่การดำเนินหรือการดิ้นตามกิเลสนี้ไม่มีเมืองพอ ได้เท่าไรเหมือนกับไฟได้เชื้อ ได้มาเท่าไรยิ่งอยากยิ่งหิวยิ่งโหย ยิ่งดิ้นยิ่งดีด ดิ้นจนกระทั่งวันตาย นี่เรื่องกิเลสหลอกคนต้มคนไม่มีเมืองพอ แต่ธรรมแล้วพอ ดังที่พูดนี้ นี่พอแล้ว ไม่เอาอะไรอีกแล้ว ในสามแดนโลกธาตุนี้เราไม่เอาอะไรอีกแล้ว เราพอทุกสิ่งทุกอย่าง

เรามีแต่หัวใจโลกเท่านั้นมาติดข้องอยู่ในหัวใจเรา เพราะฉะนั้นเราจึงได้ช่วยโลกเต็มกำลังความสามารถ นอกนั้นเราไม่มีอะไรติดหัวใจ บอกว่าตายแล้วก็เท่านั้นละ ดีดเลย ให้ถึงเสียเมืองพอ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกแล้ว ให้รู้ชัด ๆ อยู่ในหัวใจนี่ซิ พระพุทธเจ้าประทับอยู่ข้างหน้าก็ไม่ทูลถามพระองค์ เพราะเป็นของอย่างเดียวกันอันเดียวกัน ถามกันทำไม

ก็เหมือนกับต่างคนต่างรับประทาน ต่างคนต่างอิ่ม ถามกันทำไม นี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ รสเปรี้ยว รสหวาน รสเค็มอะไร ก็รู้ในชิวหาประสาท การปฏิบัติตัวความรู้มากน้อยเพียงไร ได้ผลได้ประโยชน์มากน้อยเพียงไรมันก็รู้เป็นลำดับๆ จนกระทั่งถึงขั้นพอก็รู้

จึงขอให้พากันสร้างความดี ความดีนี่แหละจะพาเราเล็ดลอดออกจากตาข่ายแห่งความเกิดตายกองกันๆ เขาตายทับเรา เราตายทับเขา เราตายทับเรา อยู่อย่างนี้มากี่กัปกี่กัลป์แล้ว บุญกุศลยังไม่พอมันก็ต้องได้ดิ้นได้ดีดอยู่ในกองทุกข์นี่แหละ เมื่อกุศลพอแล้วดีดออกทีเดียวผึงเลย พอแล้ว ถ้าพอแล้วเท่านั้นไม่ต้องกลับมาดีดมาดิ้นในกองทุกข์นี้อีกแหละ

สร้างความดีนี้พอ ถ้าสร้างความชั่วสร้างเท่าไรไม่พอ วิ่งตามกิเลส วิ่งเท่าไรไม่พอ เอาจนตายทิ้งเปล่าๆ นั่นแหละ เศรษฐีมหาเศรษฐีก็กองทุกข์ท่วมท้น เราอย่าไปมองดูโลก ดูกิริยาอาการเครื่องประดับร้านเขาซิ ให้มองดูในร้านเขาด้วย ภายในร้านมีอะไรอยู่ในนั้น ข้างนอกประดับร้านด้วยความสวยงามหรูหราฟู่ฟ่า แต่มองเข้าไปข้างในมีแต่ขี้หมูราขี้หมาแห้ง

นี่มองอันนั้น โอ๊ย อันนั้นหรูหรา คนนั้นเขามั่งมีศรีสุข เขามีเงินมีทองมีข้าวมีของ เขามียศถาบรรดาศักดิ์สูง อันนี้เป็นเครื่องประดับร้าน แต่ดูหัวใจแต่ละคน ๆ แล้วเป็นไฟทั้งกองๆ ใหญ่เท่าไรยิ่งกองไฟกองใหญ่ นั่นดูให้ถึงความจริง ธรรมะพระพุทธเจ้าดูให้ถึงความจริง

โลกร้อนเพราะหัวใจคนร้อนต่างหาก สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ร้อน จะร้อนอะไรสิ่งเหล่านี้ ดิน น้ำ ลม ไฟ อิฐปูนหินทราย ก่อสร้างขึ้นไปจรดเมฆก็ได้ แต่มันไม่ร้อนอันนั้น แต่คนที่ดิ้นดีดก่อนี่ซิ เสาะแสวงหาเรื่อง มันเดือดร้อนเพราะอันนี้ต่างหาก เพราะฉะนั้นให้รู้จักประมาณ ทำอะไรก็ให้รู้จักประมาณ ถ้ารู้จักประมาณแล้วไม่ค่อยมีความทุกข์มากคนเรา

สำคัญตัวโลภนี่นะ ตัวโลภนี่ขึ้นจากตัวราคะตัณหา ราคะตัณหาเป็นตัวหนุนให้ความโลภเกิดขึ้น ความโลภไม่ได้อย่างใจก็โกรธก็แค้น นี่ละสองสามตัวนี่เป็นตัวสำคัญมากทำลายโลก ยิ่งดีดยิ่งดิ้นยิ่งส่งเสริม ตัวราคะตัณหานี้ไปที่ไหนมีแต่การส่งเสริมกันทั้งนั้น ดูที่ไหนดูไม่ได้นะ โห พิลึกมันจะเอาให้ตายจริงๆ นี่ราคะตัณหา

        ครูอาจารย์ทั้งหลายก็ล่วงไปๆ จะหมดแล้วนะ สายหลวงปู่มั่นนี้หมดแล้ว ทีนี้หมดแล้ว ก็ยังเหลือแต่เราเอาหัวค้ำฟ้าไว้คนเดียวนี่เดี๋ยวนี้ มาอยู่เรานะนี่ องค์นั้นล่วงไปองค์นี้ล่วงไปที่อายุพรรษาแก่กว่าเรานะ ค่อยล่วงไปๆ ลงมาถึงเรากึ๊ก เดี๋ยวนี้ถึงเรากึ๊กแล้วนะ เราเอาหัวค้ำฟ้าไว้เดี๋ยวนี้ ก็ยังเหลืออยู่องค์เดียว สายหลวงปู่มั่นมีหลวงตาบัวว้อก ๆ อยู่นี่องค์เดียว นอกนั้นก็ไปหมดแล้ว ๆ นี่เราวิตกมาก

การแนะนำสั่งสอนพระเณรก็สั่งสอนเต็มเหนี่ยว ตั้งแต่ ๒๔๙๓ มาจนกระทั่งป่านนี้ ถ้าจะได้ประโยชน์ก็ได้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้เท่านั้นละ เราก็สอนเต็มกำลังความสามารถ การสอนเราไม่ได้สอนด้วยความสงสัย เราสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย สอนด้วยความแน่ใจทุกอย่าง พระเณรจะเอาเป็นผลเป็นประโยชน์ได้ก็ควรจะได้ ถ้าไม่ได้ก็นอนตายกองกันอยู่นี้ เราก็สุดกำลังความสามารถของเราแล้วจะทำยังไง

วันนี้พูดเพียงเท่านี้ละนะ ไม่พูดมากละ ให้พากันทำความดี อย่าลืมนะความดี อย่าหลงตามกิเลสมันจะพาจมหมดบ้านหมดเมืองเรานี่นะ

 

**********


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก