หลักธรรมประกันตัว
วันที่ 27 มิถุนายน 2539
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๓๙

หลักธรรมประกันตัว

 

        เมื่อวานนี้รองอธิบดีมาที่นี่ มาพูดถึงเรื่องจะมานิมนต์ไปเทศนาว่าการพวกหนังสือพิมพ์พวกอะไรต่ออะไร โอ๊ย อย่ามาหาเรื่องนะ เรายังอ่านเขาด้วยซ้ำไปแล้วจะไปสอนเขายังไง เขาสอนเราทุกวัน นี่เราก็อ่านก็ดูเขาสอนเราทุกวันแล้วจะไปสอนหนังสือพิมพ์ พวกหนังสือพิมพ์อะไรหลายประเภท จะให้เราไปเทศน์ เขาจะมานิมนต์ไปเทศน์ ไม่เอาเราว่างั้น แต่เทศน์สอนลูกศิษย์เราในวัดนี้เราก็ปากเปียกแล้ว ยังจะไปสอนโน้นจะเอาปากมาจากไหนเอาน้ำลายมาจากไหน ว่างั้น ไม่เอาบอกเลย บอกตัดบทเลยบอกไม่เอา โลกเขาอยู่ตามโลก เราอยู่ตามเรา เราสอนก็สอนในวงของเรา วงนอกวงไหน ๆ เราไม่เกี่ยว เขาจะเห็นเหตุการณ์อะไรไม่ทราบถึงให้เราไปสอนพวกหนังสือพิมพ์ คงเห็นความไม่ดีของหนังสือพิมพ์ก็ไม่รู้ ให้เราไปสอน เราก็จะมีความเด่นอะไรที่จะไปสอนหนังสือพิมพ์ นี่หนังสือพิมพ์มันสอนเรา เราอ่านอยู่นี้จะว่าสอนหรือไม่สอนก็อ่านอยู่นี้

        ปลุกเสกพระเหล่านี้ละ เห็นไหม มันก็ผิดก็พลาดกันอยู่อย่างนี้แล้วจะไปสอนโลกได้ยังไง ปลุกเสกพระ พระ...เดินทางไปยังวัดป่า...เพื่อประกอบพิธีอธิษฐานปลุกเสกพระประธาน หาปลุกเสกที่นั่นที่นี่ ปลุกเสกอะไรพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลก ใครจะไปปลุกเสก ไปบวชพระพุทธเจ้าได้เหรอ เท่านั้นก็พอแล้วนี่นะ ทำไมจะไปปลุกเสก ปลุกเสกพระพุทธเจ้า เป็นองค์ศาสดา สรณํ คจฺฉามิ พวกเราตัวเท่าหนูไปเสก เป่าฟู่ ๆ เป่าพระพุทธเจ้ามันน่าหัวเราะไหมพิจารณาซิชาวพุทธเรา มันเหลวไหลขนาดไหนไปปลุกเสกพระพุทธเจ้า มันเป็นอย่างนั้นแล้วจะทำยังไง แล้วจะไปสอนใครล่ะพวกเราก็เหลวไหลโลเลอยู่อย่างนี้ หลักธรรมหลักวินัยมีอยู่ไม่สนใจ สนใจออกนอกลู่นอกทางไปอย่างนั้น จะสอนใครให้ดีได้ยังไง

        ต้องสอนเจ้าของให้ดี พระพุทธเจ้าสอนพระองค์ดีเรียบร้อยแล้วถึงมาสอนโลก แล้วเราจะไปปลุกเสกไปบวชพระพุทธเจ้าอีก ปลุกเสกพระพุทธเจ้าให้ขลังอะไรไปอีก นี่ซิทำอะไรไม่มีเหตุผลถึงได้เหลวไหล ทำแบบเหลวไหลเด็กหัวเราะได้ ทำอะไรให้มีเหตุมีผลซิ ถ้าจะทำรูปอะไรขึ้นเป็นที่สักการบูชาก็สร้างขึ้นแล้วเอาขึ้นตั้งปุ๊บ นี้คือรูปแทนองค์พระศาสดาเท่านั้นพอ เป็นศาสดาทั้งองค์ทางรูปแทนแล้ว จะไปเสกไปเป่าท่านอะไร พิจารณาซิเสกอะไรเป่าอะไร เราได้คาถามาจากไหนมาเป่า คาถาก็ได้มาจากพระพุทธเจ้าว่าอิติปิโส ภควา อรหํ กราบไหว้พระพุทธเจ้า บูชาพระพุทธเจ้าด้วย อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อิติปิโส ภควา สวดเสกอยู่ตามนั้นเราก็เห็นพอแล้วแหละถึงเอามาพูดได้นี่ คำพูดที่ว่านั้นเป็นคำพูดจากพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้น แต่เวลาเอาออกมา เอามาที่ขลัง ๆ ที่ว่าไปเสกไปเป่า พุทธาภิเษก มันน่าพูดก็พูด เพราะเราก็ทำประโยชน์คนหนึ่งเหมือนกัน

        บอกให้ไปสอนพวกหนังสือพิมพ์ ขอให้ไปสอนวงราชการตั้งแต่นายก ฯ ลงมา ว่ายังงั้นเราก็จะพอฟัง ถึงเราไม่รับเราก็จะพอฟังอยู่ พวกนี้พวกเหลวไหลมากว่างั้น บอกมาอย่างนั้นค่อยยังชั่ว ไปจะได้ตีหน้าผากกันปั๊วะป๊ะ ๆ เลย ให้ไปสอนหนังสือพิมพ์จะไปสอนเขาอะไร เรื่องราวมีอะไรเขาก็ว่าไปตามเรื่องราว เรื่องหากมีให้เขาเขียน เราไม่อยากดูก็อย่าดูซิว่าเขาอะไร

สอนวงราชการนั่น เวลานี้ไม่มีอะไรเลวยิ่งกว่าวงราชการ พูดตรง ๆ อย่างนี้เรา ใครจะเอาไปใส่คุกก็เอาไป เราจะไปเปิดประตูคุกเองถ้าเราพูดนี้ผิดไปนะ เลวตั้งแต่เล็ก ๆ ขึ้นไปจนกระทั่งถึงใหญ่โตที่สุด แล้วประชาชนราษฎรเอาหัวซุกเข้ากับที่ไหนจึงจะพออบอุ่นใจ ที่ไหนมีแต่เปรตแต่ผีแต่ยักษ์แต่มารกินบ้านกินเมือง กินอยู่ทุกแห่งทุกหน กินอยู่ทุกโต๊ะทุกเก้าอี้จะว่าไง ซองขาวซองแดงซองอะไรต่ออะไร เหล่านี้มันเล็กน้อยนะซองขาวซองแดงที่อยู่บนโต๊ะใต้โต๊ะนี่ อยู่ใต้ดินนั่นละมันมาก กินอยู่ใต้ดินมันมากขนาดไหน อันนี้ละที่มาทำลายบ้านเมือง เงินเดือนก็ของประชาชน กินก็กินของประชาชน กินตับประชาชน โห เลวจริง ๆ  ว่าก็ว่าให้ไปสอนพวกนี้ค่อยยังชั่ว นี่ให้ไปสอนพวกหนังสือพิมพ์ ไปหาเกาในที่ไม่คันเราไม่เกา ตรงไหนไม่คันไม่เกา

ตั้งแต่ระดับครูขึ้นไปซิให้มีแบบมีฉบับ ครูก็มีแบบหนึ่งของครูขึ้นไปโดยลำดับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอถึงผู้ว่า ให้มีศีลมีธรรมเป็นกฎเป็นเกณฑ์ข้อบังคับไว้เป็นลำดับ ๆ ใครจะก้าวขึ้นไปนั้นควรได้ปฏิบัติธรรมข้อนั้นให้เคร่งครัด ๆ ผิดธรรมข้อนั้นถือเป็นกฎหมายไปเลย ปรับโทษลงไปเลย ไล่ออกเลย ไล่แบบไว้หน้าย้ายหม้อข้าวนี้ไปใส่หม้อข้าวนั้น ย้ายจากหม้อข้าวนี้ไปใส่หม้อข้าวนั้น  หม้อไหนไม่ดีพับไปเลยอย่างนั้นซิ ทำอะไรถึงขนาดเป็นนายคนไปทำชั่วช้าลามกขายตัวให้ราษฎรเห็นทำไม ย้ายไปนั้น ย้ายไปไหนมันก็ไปกินอยู่นั้นแล้ว คนชั่วจะไปดีที่ไหน นี่ละจะให้เราไปสอน โอ๊ย เราไม่สอน เรารู้จักหนักจักเบาอยู่นี่นะ ถึงเราพูดเราก็พูดในวงลูกศิษย์ลูกหาของเรา ใครจะกระจายไปไหนก็กระจายออกไปเราไม่ว่า เพราะคำพูดนี้ไม่ผิดจะเสียหายไปไหน คำพูดไม่ผิด คำพูดถูกต้องเป็นแบบเป็นฉบับ ถ้าปฏิบัติตามนี้ถูกต้อง ก็มีเท่านั้น เสียหายที่ตรงไหน จะให้ไปพูดสุ่มสี่สุ่มห้าเราไม่เอา

        นี่พูดถึงตามแบบตามฉบับของบ้านเมืองที่จะมีขื่อมีแปเป็นหลักเป็นเกณฑ์ ให้ประชาชนได้รับความอบอุ่น ควรมีหลักธรรมประกันตัว หลักศีลหลักธรรมประกันตัว เช่น เหล้าอย่างนี้ตัดขาดสะบั้นไปเลยในสังคมของข้าราชการ นี่ละตัวสำคัญ ตัวเหล้านี่ตัวสำคัญ การพนันขันต่อตัดออก อันไหนที่เป็นภัยต่อโลก ที่จะเป็นสื่อเป็นทางให้ไปหากินตับกินปอดคนมันอะไรบ้าง ตัวสื่อตัวเหตุตัวการมีอะไรบ้าง หาค้นเอาตัวเหตุออกมา เอามาแจงเอามาเผาไฟให้หมด

ปฏิบัติให้ดีจะต้องมีกฎมีเกณฑ์ซิ เช่น พระท่านบวชท่านผู้มีศีลมีธรรมท่านมีกฎมีเกณฑ์บังคับของท่านไม่ทุกข์ได้ยังไง ท่านก็ต้องทุกข์เหมือนกัน แต่ทุกข์เพราะความดีเพื่อความดีจะเป็นอะไรไป ท่านยอมทุกข์ อันนี้เราก็เหมือนกันเราตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำวงราชการงานเมืองในแผนกนั้น ๆ เราก็เพื่อทำประโยชน์ให้โลก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วความมุ่งหมายมีอยู่อย่างนั้นแล้ว เราก็ต้องปรับตัวของเราเข้าสู่กฎอันสำคัญ ๆ เพื่อชาติบ้านเมืองซิถึงถูก นี่โกโรโกโส ผู้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นเจ้าเป็นนายเท่าไร โห เย่อหยิ่งจองหองด้วยซ้ำไป

นี่พอรับก็รับนะ วงราชการมาหาเรานะทุกวันนี้น่ะ มารับเราไม่รับเลย เราไม่ต้อนรับ ไม่เห็นว่าเขาเป็นนายนะเราไม่ว่า เราก็เป็นนายเหมือนกันนี่ นายไหนก็นายบัวว่าไง เราก็เป็นนายเหมือนกันเราเป็นขี้ข้าใครวะ ถ้าเป็นพระก็เป็นหลวงตาบัว ยิ่งได้ทราบว่าใครคนเลอะ ๆ เทอะ ๆ ไม่เล่นด้วยจริง ๆ ไม่เอาไม่เล่นด้วย เสียเวลาเสียน้ำลาย เล่นกับไอ้ตีนหุบดีกว่า นั่นไอ้ตีนหุบมันไม่มีอะไร พวกนี้พวกกินพวกเสนียดจัญไรผีสู้ไม่ได้ เลอะ ๆ เทอะ ๆ จะให้เราไปเทศน์อะไร

เทศน์ที่ไหนก็ฟันไปตามความจริง ขึ้นเวทีจริง ๆ แล้วเอาจริง ๆ นี่นะไม่ได้ไว้ใคร ความจริงมียังไงถอดออกมา ๆ ซัดกันเลย แล้วโลกมันฟังไม่ได้ซิธรรมประเภทนั้น ๆ แล้วจะไปสอนให้เกิดประโยชน์อะไร มันไม่เกิดประโยชน์ก็อย่าสอนซิ ก็มีเท่านั้น อันใดที่ควรจะเกิดประโยชน์เราก็สอนไปตามเรื่องตามราว

        ธรรมะพระพุทธเจ้าที่จะนำมาสอนโลกนี้ครอบโลกธาตุ น้อยเมื่อไรธรรมะพระพุทธเจ้า แต่ว่าผู้ที่จะรับมีกี่ราย พอที่จะเป็นผลเป็นประโยชน์มากน้อยเพียงไร เหมือนอย่างแหนี้ กางแหไปนี้จะไปทอดตรงไหน ตรงนี้ก็ขี้หมูตรงนี้ก็ขี้หมาแล้วทอดได้ลงเหรอ ทอดได้ลงคอเหรอทอดแห มันต้องทอดปลาซิ มีปลาทอดแต่ปลาซิ นี่มีแต่ขี้หมูขี้หมาทอดไปได้ยังไง ธรรมะพระพุทธเจ้าเหมือนแห พวกสัตว์โลกทั้งหลายเหมือนขี้หมูขี้หมา จะให้แนะนำสั่งสอนทั่วโลกดินแดนไปได้ยังไงมันมีแต่ขี้หมูขี้หมาเต็มบ้านเต็มเมือง ปลาตัวหนึ่งก็ไม่มี

        งานเอกชนก็เป็นอย่างหนึ่งไม่เท่าไร ส่วนงานส่วนรวมงานวงราชการนี่ซิมันกระเทือนทั่วแผ่นดิน ชีวิตจิตใจเกี่ยวโยงกันถึงวงราชการ แต่ละคน ๆ แต่ละหน้าที่ ๆ เกี่ยวโยงกันหมดเลย ต้องปฏิบัติให้สมส่วนกัน อย่างเราพูดจริง ๆ นะเข้าไปวงราชการไหนถูกเขี่ยหมดเลย เขาไม่ให้อยู่ด้วย ไปเก้าอี้ไหนก็ไม่ได้ถูกเขาเตะตกเก้าอี้ไปเลย เขี่ยลงกระป๋อง ๆ ไปเลย อย่างเรามันจะขวางโลกเขาละซิแต่ไม่ขวางธรรมก็มีเท่านั้น ทีนี้ธรรมเขาไม่ต้องการเขาก็เขี่ยออกละซี ตกกระป๋องป๋องแป๋ง ๆ

โลกสกปรกเป็นอย่างนั้นละดูเอา หาความสุขไม่ได้ โลกสกปรกหาความสุขไม่ได้ โลกสะอาดถึงมีความสงบสุข อดจะตายก็ตายไปเรื่องความสกปรกนี้ไม่เอามาแตะต้องในตัวของเราเอง ชีวิตจิตใจนี้ตายไปด้วยความสกปรกดูไม่ได้เลย ให้ตายไปด้วยความสะอาด เอ้า ตายก็ตายโลกนี้เป็นโลกเกิดตายจะเป็นอะไรไป นี่ไม่เป็น มีขนาดไหนมันก็ไม่พอ ความทุจริตความสกปรกเต็มหัวใจมันก็พาทำจนได้

เศรษฐียิ่งทำได้ใหญ่ ยิ่งมียศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่เท่าไรยิ่งทำได้กว้างได้ขวาง มีเงินมากเท่าไรยิ่งทำได้มากความชั่ว ไม่ใช่คนจนจะทำความชั่วนะ ส่วนมากคนชั่วคนที่มีฐานะและมีฐานะมียศถาบรรดาศักดิ์มาก ๆ นั้นละทำความชั่วได้มาก พวกนี้ทำได้มาก เอาละพูดเท่านั้นละ พูดมากมันหมดภูมิ ไม่ทราบจะเอามาจากไหนเทศน์ทุกวัน ภูมิหลวงตาบัว ป.๓ เทศน์ทุกวัน เทศน์ให้พวกปริญญาตรี โท เอก อยู่ในวัดนี้ก็มีนะวิศวปรมาณู ก็ยังต้องมาฟังการอบรมจากเรา ขบขันไหมล่ะ ฟังซิน่ะ

เรื่องสงสารโลกสงสารจริง ๆ วันนี้คิดไปแจกทางโน้น ๆ พวกจนตรอกจนมุม โถ จนตรอกจริง ๆ นะข้าวไม่มีในครัว อาหารการกินเอามากองพะเนินเทินทึกก็ไม่มีความหมายเพราะไม่มีข้าวเป็นหลัก กับเป็นเครื่องอาศัยนี่นะ ไม่มีอะไรจริง ๆ กินข้าวเปล่า ๆ ยังกินได้จะว่าอะไร เราเคยกินแล้วกินข้าวเปล่า ๆ เราไม่เห็นตาย กินแต่กับเราไม่เคย กินข้าวเปล่า ๆ เราเคย เพราะฉะนั้นข้าวจึงเป็นของสำคัญน่ะซิ ไม่มีอะไรก็ตามขอให้มีข้าวในกระติบข้าวในหม้อข้าวเถอะน่ะ มือล้วงลงไปจัดปุ๊บปั๊บ ๆ แล้วกินไปเรื่อยเดินไปเรื่อยทำงานได้ ถ้ามีแต่กับแล้วตายแหละ เป็นอย่างนั้นนะ ข้าวนี่สำคัญมาก

ฝั่งลาวก็จะไปส่ง น่าสงสารมากนะมนุษย์ตาดำ ๆ ด้วยกัน กมฺมสฺสโกมฺหิ กมฺมทายาโท สัตว์ทั้งหลายเกิดด้วยกรรมหมด เอาลงตรงนี้แล้วก็อยู่กันสนิทคนเรา เพราะอยู่ด้วยกัน อย่างพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้จริงนี่นะ ตรงไหนที่พอช่วยได้ก็ช่วยกันไป ๆ นี่ถ้าเขามาติดต่อเราก็จะส่งข้าวไปอีก ส่งไปแต่ละครั้งนี้เป็นร้อย ๆ ตันนะไม่ใช่ธรรมดา ส่งข้ามไปในเขาให้ผู้ที่ไว้ใจรับไปแจก อย่างคราวที่แล้วก็แจกเงินคนในหุบนั้นที่จำเป็นมาก ๆ เอาเงินสดไปเลยเทียว มันสงสารนี่นะ ท้องแห้งไม่ได้กินข้าวนี่ โอ้โห ตัวสั่น อดข้าวนี่ตัวสั่นได้นะมันจะตาย อดจริง ๆ มันถึงหิวมากนะ ถ้าอดข้าวจะไม่กินนี้ไม่เป็นนะ คือจิตไม่ได้อยู่กับข้าวมันอยู่กับธรรมเสีย อันนั้นไม่ได้อยู่กับธรรมมันอยู่กับข้าว จ่ออยู่แต่ข้าว ตัวสั่นมันหิว

เอาละให้พร


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก