|
/body onLoad="MM_preloadImages('../images/link_2_6_a.gif')">
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
สมบัติในคลังหลวงออกกู้ชาติ |
|
วันที่ 14 มิถุนายน 2545
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด |
| | ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
| |
ค้นหา :
สมบัติในคลังหลวงออกกู้ชาติ
ผู้กำกับ : ต่อเรื่องคลังหลวงวันที่สองครับ " วิธีใช้คลังหลวงกู้ชาติ" ธนาคารแห่งประเทศไทย พบสูตรการแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจำนวน ๘.๘๖ แสนล้านบาท โดยจะให้รัฐบาลออกพันธบัตรค้ำประกันหนี้ทั้งก้อน รวมถึงจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรในแต่ละปี ขณะเดียวกันธนาคารชาติจะใช้หนี้เงินต้นทั้งหมด โดยเตรียมที่จะกู้ยืมเงินบางส่วนจากคลังหลวงเพื่อลดภาระเงินต้น คลังหลวงในปัจจุบันก็คือ ฝ่ายออกบัตรธนาคารชาติ ที่แม้เป็นหน่วยงานในแบงก์ชาติ แต่ก็แยกอยู่อย่างอิสระ เพราะมี พ.ร.บ.เงินตราดูแลเป็นการเฉพาะ และทำให้สินทรัพย์ในฝ่ายออกบัตรเป็นของส่วนรวม แบงก์ชาติเป็นเพียงแค่ผู้ดูแลให้เท่านั้น และวิธียืมเงินคลังหลวง จะอาศัยช่องตามพ.ร.บ.เงินตราที่ในการการพิมพ์ธนบัตรออกใช้ ต้องมีสินทรัพย์ที่มีค่าเก็บแยกเอาไว้ต่างหากเพื่อให้ธนบัตรมีค่าในตัวเอง ไม่ใช่เป็นแค่แบงก์กงเต๊ก
สินทรัพย์ที่ใช้หนุนหลังธนบัตรต้องเป็นทองคำ เงินตราต่างประเทศฯลฯ รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล โดยในส่วนพันธบัตรรัฐบาลจะมีได้ไม่เกิน ๓๐% นี่แหละธนาคารชาติจะนำพันธบัตรรัฐบาลที่ออกใหม่ไปใส่ไว้ในคลังหลวง เพื่อหนุนหลังการพิมพ์ธนบัตร แทนที่จะต้องใช้เงินตราต่างประเทศของแบงก์ชาติเข้าไปแลกเปลี่ยน และจะทำให้แบงก์ชาติประหยัดเงินในกระเป๋า มีเหลือไว้ใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ หรือเอาไปสร้างรายได้เพื่อชดใช้หนี้ มูลค่าสินทรัพย์ในคลังหลวงที่ยืมได้มีหลายแสนล้าน ที่สำคัญยังเสียดอกเบี้ยต่ำหรือไม่เสียเลยก็ได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้รัฐบาล
ใครอยากช่วยชาติในขณะนี้ก็ยังทำได้ โดยบริจาคทองคำ เงินดอลลาร์ ผ่านโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อส่งเงินเข้าคลังหลวง และมีส่วนใช้แก้ปัญหาหนี้สินก้อนมหึมา จะได้ปลื้มใจที่เกิดมาได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณแผ่นดิน จบครับ
หลวงตา : ก็ถูกต้องแล้วนี่ เราเห็นดีและอนุโมทนาด้วย เงินในคลังหลวงของเราออกเพื่อกู้ชาติไทยของเรา อย่างที่ประกาศนี้เราเห็นด้วย ไม่ขัดข้องอะไรเลย ไม่เหมือนที่ดึงออกไปเหยียบคลังหลวง เหยียบคนทั้งชาติให้จม ไม่มีหลักมีเกณฑ์อะไรเลยดังที่ผ่านมานี้ นั่นละที่ได้เอากันอย่างหนัก ลากคลังหลวงซึ่งเท่ากับลากคนไทยทั้งชาติให้จมไปด้วยกันหมด อันที่ผ่านมาแล้วนั้น จึงต้านทานเอาไว้เพื่อชาติไทยของเราเป็นชาติไทย ไม่ให้มาแตะ เงินคลังหลวงที่กล่าวนี้ไม่ให้มาแตะในวาระก่อน วาระนี้ให้ออก ก็ประกาศไว้แล้วว่า ไม่ใช่เอามาไว้แบบขอนซุง เอามาไว้เป็นรากเป็นฐานเป็นสิริมงคลแก่ชาติด้วย หากมีความจำเป็นจริง ๆ ที่ควรจะมาเกี่ยวข้องกับสมบัติชิ้นนี้ ก็ดังคราวนี้แหละ มันจำเป็นจริง ๆ ออกมาก็เป็นการดี ไม่ได้เอาไปถลุง ยืมไป แล้วนำไปอย่างนี้ออกกู้ชาติของเรา แล้วดอกผลก็ค่อยไหลเข้ามา ๆ เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นด้วย ไม่มีอะไรขัดข้อง
เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายที่บริจาคมาแล้วก็กรุณาบริจาคต่อไป ๆ ทั้งทองคำและดอลลาร์ จะเข้าจุดเดียวกันนี้เพื่อหนุนชาติไทยของเราโดยถ่ายเดียวเท่านั้น ไม่มีคำว่ารั่วไหลแตกซึม ไม่มีคำว่าจม ให้จำเอาคำนี้ก็แล้วกัน นี่ละขอให้พี่น้องทั้งหลายได้คิดนะ คิดให้เต็มใจ การตั้งรัฐบาลแต่ละครั้งละคราวนั้น เป็นการกระทบกระเทือนกับหัวใจพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศด้วยกันทุกรัฐบาล เพราะฉะนั้นการที่จะตั้งรัฐบาลจึงมาขึ้นอยู่กับพี่น้องชาวไทยเรา อย่างที่นิยมกันยอมรับว่าเป็นรัฐบาลได้ก็เกี่ยวกับเรื่องการหย่อนบัตร นี่สำคัญมากนะ บัตรของประชาชนที่จะเข้าหนุนผู้ใด ซึ่งควรจะยกหรืออุ้มชูชาติไทยของเราขึ้นได้ คนไทยทั้งประเทศเป็นเจ้าของประเทศ ต่างคนต่างรวมลงในจุดนั้น เพื่อยกผู้นั้นขึ้นเป็นผู้ทำงานแทนคนทั้งชาติ แล้วประกาศตนเป็นรัฐบาลขึ้นมา และปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมความมุ่งหมาย หรือความมุ่งหวังของประชาชนที่หย่อนบัตรให้ รัฐบาลนั้นก็ก้าวเดินเรื่อยไปเพื่อความอุ้มชูชาติไทยของเรา
ไม่ใช่เป็นรัฐบาลมาเพื่อเป็นยักษ์เป็นผีกินบ้านกินเมืองดังที่เคยเป็นมาแล้ว พี่น้องทั้งหลายก็ได้เห็น พูดอย่างนี้ไม่ได้ผิดเพราะเป็นความจริง ธรรมต้องเอาความจริงออกมาพูด เราจึงต้องระมัดระวังทุก ๆ ครั้งพี่น้องทั้งหลาย หลวงตาบัวตายไปแล้วคำสัตย์คำจริงคืออรรถธรรมนี้ไม่ตาย คงเส้นคงวาหนาแน่นอยู่ด้วยคุณสมบัติของธรรม ใครนำไปปฏิบัติก็เป็นคุณสมบัติของตัวเองและเป็นคุณสมบัติของชาติ เพราะฉะนั้นการกล่าวเมื่อสักครู่นี้เกี่ยวกับเรื่องใครจะเป็นรัฐบาล ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนคนทั้งชาติเห็นด้วย ผู้นั้นจึงจะเป็นรัฐบาลขึ้นมาได้ เพื่อรับภาระของพี่น้องชาวไทยทั้งชาติไทยของเรา
ด้วยเหตุนี้เองการหย่อนบัตรหรือเป็นรัฐบาลแต่ละครั้ง ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย อย่าทำแบบชุ่ย ๆ นะ เมืองไทยเราจะจมได้จริง ๆ แบบสุกเอาเผากินนี้คือแบบเผาชาติไทยเรา ต้องเป็นแบบพิถีพิถันพินิจพิจารณาเอาชาติไทยของเราเสี่ยงแต่ละชีวิต ๆ เข้าในการหย่อนบัตรแต่ละใบ ๆ ของเราที่หย่อนลงไปนี้ ดังที่เคยพูดแล้วเป็นดาบสองคม ถ้าหย่อนถูกคนดีก็เป็นแก้วเป็นแหวนเป็นอินทร์เป็นพรหมขึ้นมา คุ้มครองรักษาชาติไทยของเราให้ร่มเย็นเป็นสุข ถ้าหย่อนไปถูกพวกยักษ์พวกผีมันก็กลืนบ้านกลืนเมืองไปหมดไม่มีอะไรเหลือในเมืองไทยเลย เพราะบัตรของเราเองเป็นข้าศึกต่อเราผู้สุกเอาเผากินไม่พินิจพิจารณาเลย ความล่มจมก็คือคนไทยทั้งชาตินั้นแหละ ให้พากันจำนะ
หลวงตาบัวตายไปแล้วธรรมนี้ไม่ตายนะ ให้ยึดไว้ ผู้ใดที่เราแน่ใจ ผู้นี้แหละจะเป็นผู้ที่ยกชาติไทยของเราขึ้นได้ด้วยความไว้วางใจของพี่น้องชาวไทย ให้ทุ่มลงเลย lสมมุติว่านาย ก. เป็นคนดีมาสมัครตัวเป็นผู้รับใช้พี่น้องชาวไทยของเรา ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแล้วเป็นไปตามความจริงนั้นด้วย ประกาศตนออกมาขอรับใช้พี่น้องชาวไทย ดังที่เราเห็นนั้นแล้วว่า นาย ก.ประกาศตนออกมาสมัคร พูดอย่างตามเจตนารมณ์ที่ถูกต้องดีงามก็คือว่า สมัครตนออกมารับใช้พี่น้องชาวไทยเรา แล้วก็เป็นนายกฯ
คำว่า นายก แปลว่าผู้นำ นำทางที่เป็นความผาสุกเจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคง นี่เรียกว่านำไปในทางนี้ ไม่ใช่นำไปในทางเสียหาย จึงเรียกว่านายก ๆ แปลว่าผู้นำ ออกจากภาษาบาลีมาเป็นภาษาไทยเราเรียกว่า นายก ให้จับคำนี้ไว้ให้ดี ผู้ใดที่จะเป็นที่ไว้วางใจของพี่น้องชาวไทยเรา เช่น นาย ก. เป็นคนดี นาย ข. นาย ค. ไม่ต้องพูด ถ้าว่าดีมาด้วยกันก็ตามแต่คนใดที่ดีเด่นกว่าเพื่อน ก็ต้องจับเอาความดีเด่นนั้นแหละมาเป็นจุดโยงใจของเรา แล้วก็หย่อนบัตรลงในจุดนั้น จะมีทั้งประเทศไทยเราหย่อนบัตรลงในนาย ก.คนเดียวก็ไม่ผิด ยิ่งรวดเร็วสะดวกราบรื่นดีงาม เพราะเป็นพรรคเดียวกันทั้งนั้นเหมือนลูกพ่อเดียวแม่เดียวกัน มีกี่คนก็คือลูกของพ่อของแม่ดูแลทั่วถึงกันหมด พูดอะไรก็ลงรอยกันง่าย
ผิดกันกับลูกหลายพ่อหลายแม่ แม้จะเป็นผู้นำเพื่อยกชาติบ้านเมืองเหมือนกันก็ตาม แต่ลูกหลายพ่อหลายแม่กับลูกพ่อเดียวแม่เดียวนี้ความราบรื่นดีงาม ความสะดวกทุกอย่าง อันนี้ดีกว่าอย่างอื่น เราให้เลือกอย่างนี้อีก เพราะฉะนั้น นาย ก.นี้เมื่อเป็นที่ลงใจของพี่น้องชาวไทยแล้ว ทั้งประเทศทุ่มลงนาย ก. คนเดียวก็ได้ นี้เป็นเบอร์หนึ่งที่ถูกต้องดีงามแล้วก็สะดวกและรวดเร็วด้วย ไม่ต้องมาทะเลาะถกเถียงกัน แม้แต่จะเป็นเรื่องเพื่อรัฐบาลเหมือนกันก็ตาม ความล่าช้าความทะเลาะเบาะแว้งไม่ใช่ของดี จึงต้องพิจารณาให้ดี ท่านทั้งหลายให้จำไว้นะ
แล้วนาย ก.เขาเป็นคนดีในสมัยนี้ ในระยะที่เขาเป็นนายกฯ การผ่านสมัยเข้ามา ๆ ถึงวาระที่เขาจะสิ้นอายุรัฐบาลนี้แล้วตั้งคนใหม่ขึ้นมา นาย ก.คนนี้ก็คือคนเก่าที่ยกชาติบ้านเมืองให้เป็นคนดี เอ้า ทุ่มลงไปอีกเข้าใจไหม นาย ก.เป็นนายกฯกี่ร้อยกี่พันปีก็ช่างมันเถอะ นาย ก.อายุ ๒๐ ปี หรือ ๘๐ ปี ตายนี้ควรจะเป็นนายกฯ ด้วยความพอใจพี่น้องทั้งหลายหย่อนลงไปถึงร้อยนายกฯ คือนายกฯ คนนี้ได้เป็นนายกฯ ร้อยหนก็เอา ให้ได้เห็นน้ำใจของชาติไทยของเราที่เชื่อต่อเหตุต่อผลต่อหลักความจริง ว่าผู้นี้เป็นคนดี ตายแล้วก็ดีอยู่ตลอดเวลา คนที่ไม่ดีตายแล้วเขาสาปแช่งอยู่ตลอด คำนี้เป็นคำสำคัญคำหนึ่งที่มาเกี่ยวโยงสมบัติของชาติเรา
เรื่องชาติท่านทั้งหลายอย่าถือเป็นเรื่องเล็กน้อย เราจะจมอยู่เมื่อเร็ว ๆ นี้ แหม หน้าแห้งไปหมดทั้งประเทศ ของเล่นเมื่อไร หลวงตาบัวถึงได้ร้องโก้ก ขนาดนั้นนะ เราก็ไม่เคยสนใจกับชาติบ้านเมือง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของชาติบ้านเมืองไป หน้าที่การงานทางอรรถทางธรรมเราก็เดินของเรา ไม่เคยไปยุ่ง ส่วนดีชั่วรู้มาเป็นลำดับลำดาแต่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง จนกว่าว่าเรื่องของเรามันเข้าไปเกี่ยวข้องกัน เพราะเกี่ยวโยงกับคนทั้งประเทศ มอบความไว้วางใจให้เรา เราก็ทำตามเจตนาของเราที่ตั้งใจจะช่วยชาติบ้านเมือง และเจตนาพี่น้องชาวไทยที่มามอบความไว้วางใจให้เรา และบริจาคทานผ่านเข้ามา นับแต่ทองคำ ดอลลาร์ เงินสดเรื่อยมา เราก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบในสมบัติเหล่านี้ให้สมใจของพี่น้องทั้งหลาย ที่ฝากความไว้วางใจไว้กับเรา เราจึงเอาเข้าไป จึงเรียกว่าเข้าไปเกี่ยวข้องแล้วที่นี่
สมบัติของคนทั้งประเทศโดยหลวงตาบัวเป็นผู้นำเข้าสู่คลังหลวง นั่นละเรื่องราว เราก็เลยกลายเป็นเรื่องบ้านเรื่องเมืองไปด้วย โดยศาสนธรรมหรือศาสนาเป็นผู้นำเข้าเป็นผู้พาดำเนิน เรื่องราวมันจึงเป็นอย่างนี้ อย่างที่ได้มาพูดเกี่ยวกับพี่น้องทั้งหลายเวลานี้ ก็คือเรื่องเกี่ยวกับเราอยู่โดยตรง การพูดอย่างนี้เราพูดจึงไม่ผิดทั้งทางธรรมทางวินัย ทั้งทางกฎหมายบ้านเมืองจารีตประเพณีที่นับถือกันมา การพูดด้วยความเป็นธรรม จึงไม่มีผิด ถ้าหากว่าการพูดด้วยความเป็นธรรมผิด ธรรมก็สอนโลกไม่ได้ นี้เราพูดด้วยความเป็นธรรม จึงขอให้พี่น้องทั้งหลายจับคำนี้ไว้ให้ดีทุกคนนะ
อย่าทำอะไรมักง่าย ความจมเป็นชาติไทยของเราจมนะ เราไม่ได้จมเพียงคนเดียว จมด้วยคนหมดทั้งชาติเพราะความไม่เอาไหน สุกเอาเผากิน ใครมาประจบประแจงเลียแข้งเลียขาแล้วก็หย่อนบัตรให้เขา พวกนี้เก่งนะการประจบประแจง หมูหมาเป็ดไก่ที่ไหนมันไปเที่ยวประจบ เราจะต้องได้ขังไอ้ปุ๊กกี้ไอ้หยองไอ้หมีเราไว้ สามตัวนี้ไม่ให้มันออกไป ครั้นออกไปเดี๋ยวเขามาประจบประแจงเลียแข้งเลียขามัน มันก็จะหย่อนบัตรให้เขาล่ะซิ จึงไม่ให้มันหย่อน กักไว้ในกรงเลยเวลาจะหย่อนบัตร พวกนี้ประจบประแจงเก่ง
ส่วนมากจะเป็นพวกที่เลวนั้นแหละ พวกประจบประแจงเก่งมากที่สุด หลอกลวงต้มตุ๋นมากที่สุดเก่งที่สุดคือพวกคนชั่วคนเลว คนดีเขาก็พูดไปตามหลักตามเกณฑ์ของเขา เราดูอากัปกิริยาเขาแสดงออกเราก็รู้ ทั้งคนดีคนชั่วรู้ ทีนี้พวกเราหูตามีทุกคนทำไมจะไม่รู้ ต้องดูให้ดีดูคน อย่าเห็นแก่ลมปากเขามาประจบประแจงเลียแข้งเลียขาแล้วก็ยื่นดาบให้เขา คือหย่อนบัตรให้เขา ยื่นดาบมาฟันคอเจ้าของขาดหมดทั้งชาติ เป็นของดีแล้วเหรอ พิจารณาให้ดีนะ อย่าเห็นแก่สินจ้างรางวัล อย่างหนึ่งมันเอาค่าจ้างรางวัลมาให้ทางตรงทางอ้อม มาทุกแบบนะพวกนี้ มากับความประจบประแจง แล้วหาเลศหาเรื่องมาต่าง ๆ นานาที่จะมาประจบด้วยสินจ้างรางวัล มาได้ทุกแบบ ให้พิจารณาให้ดีเหล่านี้
เราอย่าเห็นแก่สิ่งเหล่านี้ยิ่งกว่าคนทั้งชาติ ถ้าเห็นอย่างนี้แล้วเราจะจมทั้งชาติด้วยอามิสซึ่งเป็นมหาภัยเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแหละ สังหารคนทั้งชาติไปได้ ให้ระวังอันนี้ให้ดี เราอย่าเห็นอะไรดียิ่งกว่าความแน่นหนามั่นคงต่อส่วนรวมคือคนทั้งชาติของเรา เราต้องเอาตัวประกันทุกคน ไม่เช่นนั้นจะฉิบหายได้นะ นี่เราได้เตือนไว้ในฐานะที่ว่าเราได้มาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย สังขารร่างกายเราก็แก่ลงทุกวัน แต่ความเมตตาสงสารห่วงใยพี่น้องทั้งหลายเรายิ่งนับวันหนักขึ้นทุกวันนะ ยิ่งหนักขึ้น เพราะฉะนั้น การเทศนาว่าการจึงออกเรื่อย ๆ ธรรมะไม่ว่าแบบไหนหนักเบาลึกตื้นหยาบละเอียดเท่าไรก็จะออกมา ๆ นำธรรมะเหล่านี้เป็นน้ำที่สะอาดชะล้างสิ่งสกปรกล้วน ๆ ไม่มีสิ่งที่เป็นภัยแทรกอยู่ในธรรมที่นำมาสอนโลกนี้เลย
ใครที่จะว่าหลวงตาดุด่าว่ากล่าวพูดสกปรกโสมม นั้นเป็นเรื่องของกิเลสมันป้องกันตัวของมัน เพราะตัวของมันเป็นส้วมเป็นถานมาตลอด น้ำที่สะอาดสำหรับดับไฟหรือสำหรับชะล้างสิ่งสกปรกนี้เป็นธรรมชาติที่เลิศเลอมาแต่ไหนแต่ไร จากองค์ศาสดาที่มีพระจิตบริสุทธิ์นำธรรมที่สะอาดมาสอนโลก เรานำธรรมนั้นมาสอนตามฐานะหรือตามแง่หนักเบาของสิ่งที่จะควรชะล้าง เช่น สิ่งนี้สกปรกมากน้อยเพียงไร การชะล้างก็จะชะล้างตามความสกปรกมากน้อย ถ้าสกปรกมากก็ชะล้างมากเทน้ำลงมาก นี่เขาว่าดุด่าว่ากล่าว เขาว่าสกปรกหยาบโลน คือตัวสกปรกมันรุนแรงมาก มันกองเท่าภูเขา น้ำเพียงถังเดียวไม่พอ ก็ยกเอาลำแม่น้ำโขงมาเทใส่กันจ้ากลงไปล่ะซิ
นี่เขาก็หาว่าหลวงตาบัวนี้พูดดุด่าว่ากล่าว พูดสกปรกโสมม ความจริงเอาแม่น้ำโขงทั้งลำนั้นมาเทของสกปรกซึ่งเท่ากับภูเขาทั้งลูก ให้มันกระจายหายตัวไปเป็นความสะอาดขึ้นมา แต่ความสกปรกของภูเขาลูกนั้นมันไม่ยอมรับน้ำที่สะอาด มันจะรับตั้งแต่ส้วมแต่ถานเท่านั้นเต็มภูเขาทั้งลูก เต็มคนทั้งคน เต็มคนทั้งกลุ่มทั้งพวกทั้งพ้อง ทุกอย่างเต็มไปหมด มีแต่ส้วมแต่ถานเต็มหัวมัน พวกนี้ไม่ชอบเรื่องความสะอาดคือสิ่งชะล้างให้สวยงาม ไม่ชอบ ชอบแต่ของสกปรก เพราะฉะนั้นธรรมเป็นของสะอาดจึงเข้ากันไม่ได้
ไปเทศน์ที่ไหนถูกกิเลสโจมตีทั้งนั้น แต่ธรรมไม่สนใจ เหมือนเราชะล้างสิ่งสกปรกในบ้านในเรือนของเรา เราจะไปสนใจกับความสกปรกอะไร มันจะสะอาดยังไงเราก็ชะล้างลงไปๆ ไม่มีใครโกรธแค้นใคร เรื่องสิ่งที่สกปรกนั้นมันยังดีกว่าคนสกปรก สิ่งที่สกปรกเราชะล้างลงไปมันไม่โกรธไม่แค้นนะ แต่คนสกปรกคนเลวทรามนี้ ในการแนะนำสั่งสอนดุด่าว่ากล่าวซึ่งเทียบกับน้ำที่สะอาดเทลงไปสอนลงไปนี้ มันหาอย่างนั้นมันหาอย่างนี้ ต่อต้านทุกแบบทุกฉบับ นี่แหละคนสกปรกนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าสิ่งของที่สกปรกนะ จึงต้องระวังคนประเภทนี้ให้ดี พี่น้องทั้งหลายระวังให้ดีนะ
ที่ทำอย่างนี้เราก็เห็นด้วยแล้ว การฟื้นฟูก็ต้องอย่างนี้มันถึงเป็นธรรมนะ ไม่อย่างงั้นจะจมได้ชาติไทยของเรา แล้วต่อไปนี้ก็ให้พยายามมีหลักใจให้ดี อย่าเหลาะแหละ อย่าโยกอย่าคลอน ให้แน่นหนามั่นคง เอาธรรมเข้าเป็นหลักใจ ถ้ากิเลสเป็นหลักใจล้มเหลวตลอด มีแต่ความล้มเหลวถ้าเป็นทางดีล้มเหลวทั้งนั้น ถ้าเป็นทางชั่วไหลลงเลยๆ นี้คือเรื่องของกิเลสที่ทำลายตัวเองและส่วนรวม เป็นอย่างนี้มาตลอดนะ ส่วนธรรมนี้ตั้งแต่ย่อยถึงใหญ่มีแต่ความประสับประสานให้มีความแน่นหนามั่นคงยิ่งขึ้น ๆ สะอาดสะอ้านยิ่งขึ้น นี้คือเป็นธรรม ให้นำธรรมที่ท่านสอนไว้แล้วเอาไปปฏิบัติแก่ตัวเอง ต่างคนก็จะตั้งรากตั้งฐานขึ้นได้
ชาติไทยของเรา คราวนี้เป็นบทเรียนอย่างเอกทีเดียว ชาติไทยจะจมกันทั้งชาติ เห็นสามสี่ปีมานี้ คราวนี้เป็นคราวที่ฟื้นฟูก็เห็นประจักษ์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็หนาแน่นขึ้นเป็นลำดับ เช่น เงินให้เขากู้ยืมออกไปจากคลังหลวงนี่ของเราก็มีจะว่าไง จึงขอกู้ยืมกันได้ ไม่ได้เอาไปถลุงเฉย ๆ กู้ยืมไป รายได้ย้อนกลับมาหาเราไม่ได้สูญหายไปไหน จึงเป็นความชอบธรรม กรุณาทราบตามนี้นะ ต่อไปนี้ก็ให้เริ่มนะ ทองคำของเราได้ออกประกาศแล้วขึ้นเวทีแล้วเวลานี้ สวมนวมไม่สวมนวมมีแต่จะต่อยท่าเดียว ไอ้เรื่องสวมนวมไม่สวมนวมไม่สำคัญ ถ้าลงขึ้นเวทีแล้ว มา คู่ต่อสู้อะไรมา คู่ต่อสู้ของชาติไทยเราก็คือความจน เอ้า มา ซัดกันเลยนะ ด้วยความแน่นหนามั่นคงของเรา ความเอาจริงเอาจัง หนักก็เอาเบาก็สู้ไม่ถอยหลัง นี่เรียกว่าขึ้นเวทีต่อกรกับความจนของเรา ให้พยายามทุกคน
เวลานี้ก็ได้ ๕ ตันกว่าแล้วทองคำ เรากะระยะว่าจะให้ได้ไม่ให้ต่ำกว่า ๑๐ ตันเพื่อเป็นสิริมงคล เป็นมหามงคลแก่ชาติไทยของเรา สำหรับดอลลาร์ก็เพิ่มกันไป เวลานี้ก็ได้เกือบ ๗ ล้านแล้ว มากแล้ว กว่าทองคำจะถึง ๑๐ ตันนี้ ดอลลาร์ของเราต้องได้ถึง ๑๐ ล้าน เราคิดว่าจะได้ไม่สงสัย ให้พยายามทุกคน ๆ เก็บหอมรอมริบ มีมากมีน้อยวันละเล็กละน้อยอย่างนี้แหละ แล้วมันจะเพิ่มขึ้นเอง เหมือนฝนตกทีละหยดทีละหยาดสามารถทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็มด้วยน้ำได้ อันนี้ก็เหมือนกัน เราบริจาควันละเล็กละน้อยมันก็สามารถจะเต็มตื้นขึ้นมา ให้เมืองไทยหนาแน่นมั่นคงขึ้นได้เช่นเดียวกัน ให้พากันจำเอานะ เอาละพอ
อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.Luangta.com |
** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก
ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์
และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์
|
|
|
|