เรื่องดุกับเครื่องมือปราบลิง
วันที่ 19 สิงหาคม 2532
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมคณะนักเรียนโรงเรียนราชินูทิศ อุดรธานี

เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๒

เรื่องดุกับเครื่องมือปราบลิง

 

        หนังสือของเรานี้ไม่มีการซื้อการขาย มีแต่การให้ฟรี ๆ ส่งให้ฟรีด้วย  บางคนเขามาถามเขาคงวิตกถึงเรื่องการส่งของเรา เขาถามเฉพาะเรื่องส่ง  เรื่องส่งคงจะหมดมากนะหลวงพ่อส่งหนังสือนี้  โอ๊ย  อย่ามาถามเราบอกตรง ๆ เลย  ถ้าเราจะมาวิตกวิจารณ์กับเรื่องการได้การเสียแล้ว  เราทำไม่ได้เราไม่ทำจริง ๆ เราทำไม่ได้จริง ๆ  เช่น  ค่าส่งนี้มันก็เป็นแสน ๆ  ล้าน ๆ จะว่าไง ค่าส่งหนังสือนี้ วันหนึ่ง ๆ ส่งมากขนาดไหน บางวันรถปิกอัพเต็มเลย ส่งไป ๒๐ กว่าปีแล้ว  ส่งใกล้ส่งไกลขนาดไหน  ในเมืองไทยเราไม่ต้องพูดแหละ โน่นเมืองนอกยังส่งออกไป ทั้งเทปทั้งหนังสือ  เวลานี้เทปดูจะมากกว่าหนังสือด้วยซ้ำ  ขอมานี้เป็นเหมือนกับไฟลามทุ่งเลยเชียว  ต้องให้พระท่านพักเครื่อง ไม่งั้นพระตาย ไม่ไหวอัดให้ไม่ทัน  เครื่องอัดเทปนี้เราก็หามาให้นะ  ด้วยความสงสารทั้งนั้นแหละ

               หนังสือก็แจกมาได้ ๒๐ กว่าปี  เทปที่ตั้งหน้าตั้งตาแจกมาก็ ๑๐ กว่าปีแล้ว  สองอย่างนี้เวลานี้เทปน่าจะมากกว่าหนังสือ แจกทั่วประเทศไทย ให้ชาวพุทธของเราทั้งหลายได้อ่านและรู้สึกตัวบ้างว่า  เราเป็นชาวพุทธหรือชาวอะไร หรือเทวทัต ชาวเทวทัตมีนี่  เป็นชาวพุทธนั้นแหละ แต่ทำลายศาสนา ทำลายคัดค้านพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา ความรู้ความเห็น ความคิดความปรุงของใจ มีแต่เรื่องของกิเลสซึ่งเป็นภัยต่อศาสนา เป็นภัยต่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

               นี่เรียกว่าเทวทัตรบพระพุทธเจ้า มันรบอย่างนี้แหละ รบภายในใจ ออกมาทางวาจา พูดคำไหนที่จะเป็นไปเพื่ออรรถเพื่อธรรมไม่ค่อยมี  มีแต่เรื่องทำลายธรรม  ทำลายตัวเอง  กิริยาที่ทำไปทุกแง่ทุกมุมก็มีแต่การทำลายธรรมและทำลายตัวเอง แล้วก็ต่างคนต่างทำลาย  กระจายไปทุกแห่งทุกหน  เลยกลายเป็นไม่ใช่พุทธบริษัทเสียแล้ว  กลายเป็นเทวทัตบริษัทไปแหละ  มันบริษัทของเทวทัต

               ระวังจะเป็นอาจารย์ของเทวทัตไปนะมากเข้า ๆ ทีแรกก็เป็นลูกศิษย์ของเทวทัต ครั้นต่อมามากเข้าหนักเข้าจะกลายเป็นอาจารย์ของเทวทัตไปละนะ  ให้สังเกตพิจารณา หลวงตาพูดให้ฟังวันนี้เอาไปคิดนะ  พูดให้คิด  ไม่ใช่พูดไม่ให้คิด  พูดอย่างตรงไปตรงมา  ความผิดความถูกมีอยู่อย่างเปิดเผยตามหลักความจริงของธรรม ผู้ทำก็ทำอยู่อย่างนั้น ทำผิดทำถูกทำกันอยู่อย่างนั้น เพราะฉะนั้น การพูดเพื่อแก้ความผิดเพื่อความถูก  จึงเป็นการพูดได้ตามหลักความจริง  ผู้ต้องการความจริงแล้วต้องแก้ไขตามนั้น

               นี่ธรรมะเวลาไปแล้วให้ไปอ่านนะ อ่านพินิจพิจารณา ก่อนที่จะได้หนังสือนี้มาให้บรรดาพี่น้องลูกหลานทั้งหลายอ่านนี้  หลวงตาพูดจริงๆ  หลวงตานี้เดนตายมา  ฟังให้ชัดเจนนะ เราพูดเสมอถึงเรื่องเดนตายมา ก่อนที่จะได้ธรรมะมาเทศนาว่าการแจกจ่ายกันขนาดนี้ เป็นเวลาตั้งเท่าไรที่เราออกสังคมมานี้ ดูเหมือน ๓๙ ปี  แต่ก่อนอยู่ในป่าในเขาขึ้นเวทีฟัดกับกิเลสอยู่บนเขาในป่าในเขา  กินก็กิน  ไม่กินก็ไม่กิน  เป็นก็เป็น  ตายก็ตาย  แต่ยังไงเรากับกิเลสนี้ กิเลสไม่ตายเราตายเท่านั้น เรื่องถอยกันไม่มี  นี่แหละถอดออกมาจากหัวใจมาพูดให้บรรดาลูกหลานทั้งหลายฟัง

               เวลาอยู่ในป่าในเขาไม่มีใครทราบว่าเราจะเป็นจะตาย ไม่รู้จริงๆ นี่นะ เพราะอยู่ในป่าในเขานี่ ถ้าทราบก็เป็นพวกคนป่าคนเขาเท่านั้นเขาทราบ แต่เขาก็ไม่สนใจอะไรพอจะทราบ  เพราะฉะนั้น จึงว่าเขาไม่ทราบก็ได้ หลังจากนั้นมาแล้วบรรดาผู้ที่ไปเกี่ยวข้องก็มีพระเป็นอันดับหนึ่ง  เข้าเกี่ยวข้องก่อนเพื่อน  พอพ่อแม่ครูจารย์มั่นเรามรณภาพ

               ฟังซิพ่อแม่ครูจารย์มั่น ท่านเป็นทั้งพ่อเราทั้งแม่เรา ทุกอย่างรวมอยู่ในนั้นหมด  ให้อรรถให้ธรรมให้ข้อคิดเห็นที่จะเป็นสิริมงคล  สิ่งใดไม่ดีปัดเป่าออกไปด้วยคำสอน แนะนำสั่งสอนทุกแง่ทุกมุม  จึงเป็นเหมือนกับพ่อกับแม่ของเรา  เหมือนเรามีพ่อมีแม่นี่แหละ  แต่ละคนเกิดมาจากพ่อจากแม่  แต่ละคน ๆ นี้เนื้อหนังมังสังชีวิตจิตใจนี้เอามาจากพ่อจากแม่ทั้งนั้น  เอามาจากไหนไม่มีใครให้ได้เลย  มีแต่พ่อกับแม่  ความเมตตาสงสารการสงเคราะห์เอาเป็นเอาตายเข้าว่าเลย  ถ้าเป็นกับลูกแล้วถึงไหนถึงกัน

         พ่อแม่กินยังไงใช้ยังไงพอทำเนา ขอให้ลูกได้อยู่ได้กินก็พอ  ยิ่งลูกตัวเล็กๆ  นั่นละยิ่งเป็นตัวสำคัญ ตัวเล็กขนาดไหนนั่นละคือข้าหลวง เราเคยเป็นข้าหลวงมาแล้วด้วยกัน ข้าหลวงในครอบครัว ใครเป็นเด็กที่เล็กที่สุด ลูกคนไหนเป็นคนเล็ก ลูกคนนั้นละเป็นผู้ทรงอำนาจมากในครอบครัว พ่อแม่มีแต่โอ๋ๆ  ใครก็มีแต่โอ๋ๆ ปล่อยให้ข้าหลวงขยำเอาตามอารมณ์ชอบเลย  ชี้นกเป็นนก ชี้กาเป็นกา ชี้อะไรเป็นอันนั้น นี่ข้าหลวงครอบครัว  แล้วจากนั้นก็ขยายเป็นข้าหลวงภาค ภาคครอบครัว  ภาคญาติ  ภาควงศ์  นี้มาเคารพหมดเลย ขี้ใส่หัวก็ไม่ว่า ข้าหลวงธรรมดามาขี้ใส่หัวได้ยังไงใช่ไหม  ไม่มีข้าหลวงคนใดจะมาขี้ใส่หัวคน แต่ลูกนี่มาขี้ใส่หัวพ่อแม่ได้สบาย  นี่ละข้าหลวง

         เราทุกคนเป็นข้าหลวงมาทุกคน เอาพ่อเอาแม่เป็นถานขี้เลย  ทั้งขี้รดเยี่ยวรดทุกสิ่งทุกอย่าง ขี้ตามตักตามบ่าตามหัวตามอะไรขี้ได้หมด พ่อแม่นี่เป็นส้วมเป็นถานเป็นข้ากลางบ้านกลางเรือน ไม่มีใครที่จะเกินพ่อกับแม่แหละ ที่ปฏิบัติต่อลูกด้วยความสงสาร  ด้วยความเมตตา  ไม่มีคำว่าถือสีถือสา  เพราะอำนาจแห่งเมตตานั้นละล้นฟ้าล้นแผ่นดิน เกินกว่าที่จะมาถือสีถือสากับลูกของตน  ทำยังไงลูกของตนจะมีความสะดวกสบาย  เอาอันนั้นแหละมาปฏิบัติต่อลูก ๆ

               ได้อะไรมาก็ต้องคิดถึงลูกก่อน  ลูกได้กินแล้วเป็นที่พอใจ พ่อแม่จะอดหิวขนาดไหนก็ช่างมันเถอะ ไม่สนใจกับความอดความหิวของตัวเอง ทั้งพ่อทั้งแม่เหมือนกันหมด  ไม่ว่าการใช้การสอยการเป็นอยู่หลับนอนทุกอย่าง มอบให้ลูกเป็นใหญ่ทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างไหลลงเพื่อลูก ๆ เพื่อข้าหลวงใหญ่นั่นแล พอโตขึ้นมาสักหน่อย  ข้าหลวงคนนี้ก็ลดตำแหน่งลงมาเป็นรองผู้ว่าฯ ใครเป็นคนเล็กกว่าเพื่อนผู้นั้นเป็นข้าหลวงแทน คนผู้ที่ใหญ่โตขึ้นมาพอสมควรแล้วลดอำนาจลงมาเป็นรองผู้ว่าฯ เป็นปลัดจังหวัด  เรื่อยมาจนกระทั่งถึงนายอำเภอ  ลดลงมาเป็นกำนัน  ลดลงมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน

พอถึงขั้นผู้ใหญ่บ้านแล้วไม่ยอมลดลงอีกเลย อยู่นั้นแหละไม่ลด ให้ลดเป็นคนธรรมดาสามัญทั่วไปนี้ไม่ยอมลด  ต้องเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ในบ้านนั้นจนได้แหละ เพราะอะไร เพราะถือสิทธิ์เป็นลูกนี่  พ่อแม่ว่ายังไงไม่สนใจไม่ฟัง  เอาอำนาจของลูกนี้เข้าไปเหยียบย่ำพ่อแม่อยู่นั่นแล  ขั้นผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ใช่เล่น ๆ นะ  ขั้นผู้ใหญ่บ้านนี่เป็นคนโตของพ่อของแม่แหละ  ต้องถืออำนาจอยู่ในตัวเองว่าเป็นลูกนั่นแหละ เป็นยังงั้นละ  พวกเราเป็นพวกเอารัดเอาเปรียบพ่อแม่ที่สุดก็คือลูกๆ ทั้งหลายนั่นแล

               เกิดขึ้นมาแล้วเป็นยังไง  เราปฏิบัติให้พ่อแม่ของเราได้ภูมิอกภูมิใจบ้างหรือเปล่า  มาเรียนหรือมาลิง นักเรียนก็มีนักลิงก็มี มีหลายอย่าง  พ่อแม่สงเคราะห์สงหาหาทุกสิ่งทุกอย่าง  ได้อะไรมาเพื่อลูก ๆ เพื่อให้เป็นนักเรียนก็เพื่อมันไปเป็นนักลิงเสียก็ไม่รู้นะ  จำให้ดี  มีไหมนักลิงอยู่ในนี้น่ะ

               ตะกี้นี้เราพูดถึงพ่อแม่ครูจารย์มั่น เราเคารพท่านสุดขีด ในหัวใจของเรานี้อยู่กับพ่อแม่ครูจารย์มั่นหมดเลย  เราพูดจริงๆ  ในบรรดาครูบาอาจารย์ทั้งหลาย  เราไม่ได้ประมาทท่าน  เราไม่ได้คบค้าสมาคมกับท่านสนิทติดจมจริงๆ  ฝากเป็นฝากตายเหมือนพ่อแม่ครูจารย์มั่น  นี่ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ กิ แต่ กา  แต่ เอะ  แต่ เอ  เรื่อยไป  ท่านสอนหมดในภาคปฏิบัติธรรมะนะ ส่วนภาคปริยัติเราก็เรียน  เรียนไปแล้วแต่ไม่เป็นท่าเป็นทางอะไร  เพียงแค่จดได้มาจำได้มาเฉยๆ  ไม่รู้วิธีภาคปฏิบัติเป็นยังไง  ท่านต้องบอก  อันนี้ทำอย่างนี้ เครื่องมืออันนี้เอาไปทำอย่างนั้นเครื่องมืออันนี้ไปใช้อย่างนี้ๆ ที่เราเรียนมาเราจำได้ แต่ปฏิบัติไม่ถูก ปฏิบัติไม่เป็น อาศัยท่านพาปฏิบัติดำเนินการเรียนมานั้น

         เราจำได้แต่ไม่รู้จักวิธีปฏิบัติ  ท่านก็หยิบออกมา อันนี้ให้ทำประโยชน์อย่างนั้น  อันนั้นให้ทำประโยชน์อย่างนั้นๆ  เราก็ยึดก็จับเอาได้จากท่านเรื่อยมาจนเป็นภาคปฏิบัติ  ภาคปฏิบัติก็เอาอีกเหมือนกัน  ต้องให้ท่านเป็นแม่เหล็ก  เป็นเครื่องดึงดูด  เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร  เราอยู่ใต้ร่มโพธิ์ร่มไทร  เหมือนกับกาจับภูเขาทอง  เป็นยังไงกาจับภูเขาทอง โอ๋ย  เหลืองอร่ามไปเลย  กิเลสมันกลัวเวลามาอยู่กับท่าน  กิเลสมันก็หมอบ  อยู่กับท่านสบายๆ นี่ก็เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรอันหนึ่ง  เป็นแม่เหล็กเครื่องดึงดูดเราให้มีแก่ใจประกอบความพากความเพียรเอาเป็นเอาตาย  หนักเบาออกมาจากท่าน ได้รับการศึกษาจากท่าน  ทุกสิ่งทุกอย่างท่านแนะนำเต็มภูมิ  และพาปฏิบัติเต็มกำลังทุกด้าน

               พ่อแม่ของเราเรายกไว้เป็นประเภทหนึ่งนะ พ่อแม่ก็เป็นประเภทหนึ่ง  คุณค่าของพ่อแม่เป็นประเภทหนึ่ง  คุณงามความดีของพ่อแม่ที่มีต่อเราเป็นประเภทหนึ่ง  คุณของครูบาอาจารย์เป็นอีกประเภทหนึ่ง  ที่สอนละเอียดลออที่สุดคือพ่อแม่ครูบาอาจารย์มั่นเรา อันนี้สอนละเอียดมากทีเดียว พ่อแม่ของเราไม่สามารถที่จะนำมาสอนได้ แต่ครูบาอาจารย์ท่านสอนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยให้ซึ้งถึงใจเรา นี่จึงเรียกว่าพ่อแม่ครูจารย์ ว่าอย่างนี้ความหมายให้จำเอานะ

               กลับไปหาพ่อแม่ของตัวเอง  อย่าเอาพ่อแม่มาเป็นส้วมเป็นถานขี้รดหัวนะ  ประพฤติปฏิบัติชั่วทำตัวไม่ดีนั่นแหละคือขี้รดหัวพ่อแม่  โตขึ้นมาขี้รดหัวแบบหนึ่ง  เวลายังเล็ก ๆ ขี้รดหัวแบบหนึ่ง  ขี้รดหัวอยู่ไม่หยุดไม่ถอย พ่อแม่เลยมีตั้งแต่ส้วมแต่ถาน คลำหัวดูซิใครเป็นพ่อแม่ของลูกเต้าว่ามีขี้ไหม  ก่อนจะมาวัดนี้ได้ล้างออกแล้วยัง  หรือมีตั้งแต่ขี้ลูกเต็มตัวนั่นเหรอ จำให้ดีนะลูกเต้าหลานเหลนทุกคน  ปฏิบัติตัวของเราให้ดีนะ

               ร่างกายทุกส่วนนี้ได้มาจากพ่อจากแม่  ชีวิตจิตใจทุกชิ้นทุกส่วนได้มาจากพ่อจากแม่  ความเป็นอยู่ทุกด้านได้มาจากพ่อจากแม่ เราจะไปได้มาจากใครไม่มี ต้องขึ้นพ่อแม่เป็นอันดับแรก ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นคนทุกข์คนมีคนจน ไม่ได้คำนึงถึงความมีความจน เลี้ยงลูกให้โตเหมือนกับโลกทั้งหลายทั่วๆไป  ตามฐานะของพ่อแม่แต่ละคนเต็มกำลังความสามารถด้วยกัน  ยิ่งเป็นคนทุกข์ ยิ่งทุกข์ยิ่งยากลำบากในการเลี้ยงลูก  คนที่มั่งมีศรีสุขก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง  เบาภาระไปบ้าง บางทีให้คนอื่นเขามาช่วยเลี้ยงก็ได้  พ่อแม่ไม่ค่อยได้ดูเท่าไรนักหนา  แต่คนจนนี้ทั้งดูแลด้วยตนเอง  ทั้งวิ่งเต้นขวนขวายหาอยู่หากิน  ทั้งดูแลลูกจะเป็นจะตายด้วยกันทั้งนั้น

         ทุกข์ยากที่สุดคือคนทุกข์คนจนที่เป็นพ่อเป็นแม่ของเรานั่นแล  ฉะนั้นจึงให้เห็นคุณค่าของท่านนะ พ่อแม่คนไหนมีความทุกข์จนหนโลกมาก ลูกคนนั้นละเป็นลูกที่ได้รับความสงเคราะห์มากเต็มหัวใจ และความสละเป็นสละตายจากพ่อจากแม่ เพราะฉะนั้นจึงให้เห็นคุณของพ่อของแม่อย่างฝังใจอย่าลืมนะ  ใครลืมบุญลืมคุณพ่อแม่นี้ เวลาโตขึ้นมามีลูกมีเต้า ลูกจะเป็นเทวทัตผลาญพ่อแม่ให้ฉิบหายวายปวงไปหมด ไม่มีอะไรเหลือเลยละ ทั้งจะสร้างขวากหนามปักหัวอกเราผู้เป็นพ่อเป็นแม่อยู่ตลอดไป เพราะกรรมหลังตามให้ผล

         วันนี้เราพูดถึงเรื่องอรรถธรรมที่เราปฏิบัติมา  ให้บรรดาลูกเต้าหลานเหลนทั้งหลายนำไปอ่าน นี่ให้ไปอ่านจริงๆ นะ  เราตั้งใจประพฤติปฏิบัติเต็มความสามารถดังที่พูดนี้แหละ เวลาจะเป็นจะตายไม่มีใครเห็นเรา  พอออกจากนั้นแล้วพระก็เกาะเป็นอันดับหนึ่ง  พอพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นมรณภาพไปแล้วพระก็รุมพึ่บเลย จนมองหาตัวไม่เห็นถ้าพูดภาษาของเรานะ  ตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งบัดนี้

               การแนะนำสั่งสอนก็สอนก็เต็มเม็ดเต็มหน่วยสอนเต็มภูมิ ธรรมะส่วนมากที่นำออกแสดงแก่ประชาชน พระเณร เขาว่าหลวงตาบัวนี้ดุ ร่ำลือทั่วประเทศไทย  บางคนยังมาพูดต่อหน้าก็มี  พูดเป็นเชิงหยั่งเสียงหรืออะไรก็ไม่รู้แหละ ทำเป็นหน้าเศร้าๆ  หน้าหยีๆ ว่าไปที่ไหนก็ได้ยินแต่ชื่อหลวงพ่อเรานี่แหละ มันเป็นยังไงหลวงพ่อมีเต็มบ้านเต็มเมือง ถึงมีแต่หลวงพ่อองค์เดียวนี้ มันเป็นยังไงว่ามาซิ ก็เรื่องดุนั่นแหละเขาว่า ไปที่ไหนได้ยินแต่เรื่องดุนั่นแหละ เราก็เลยบอกว่า อ๋อ เวลานี้เรายังไม่มีความดี  มีแต่ความดุเรื่องดุ  ให้เอาดุไปเสียก่อนนะ  เมื่อได้ของดิบของดีแล้วค่อยมาเอาอีก  จนกระทั่งป่านนี้ยังไม่ได้ของดิบของดีให้ใครเลย  มันจะดีได้ยังไงในเมื่อลูกศิษย์ลูกหาเรามันเหมือนลิงนี่  เข้าใจรึเปล่า  มาก็ตีตัวนั้นตีตัวนี้  ตบตัวนั้นตบตัวนี้อยู่อย่างนั้น  กิริยาการกระทำมันหลุกหลิกเหมือนลิงแล้วจะไม่ให้ดุได้ยังไง

               เครื่องมือปราบลิงเป็นเครื่องมือประเภทหนึ่ง  เครื่องมือปราบคนเป็นอีกประเภทหนึ่ง คนเป็นคนประเภทใดมีกี่ประเภทของคน  คนหนึ่งเป็นยังไง  คนตัวแสบๆ มันมี เราจะเอาเครื่องมือชนิดใดไปปราบ ศาสตราวุธชนิดใดไปปราบมันถึงจะหายพยศ ตัวแสบๆ  จะเอาเครื่องมือแบบกบไปไสไม้ทั้งต้นได้เหรอ  ไม้นี่มันคดมันงอมาก  ต้องเอาขวานถากอย่างแรง  ดีไม่ดีขวานหลุดมือ ถ้าถึงขั้นที่ควรจะเอากบไสไม่ต้องบอก  ไม่มีใครฉลาดยิ่งกว่านายช่างทำบ้านทำเรือนแหละ  ถ้าควรถากก็ต้องถาก  ควรตัดต้องตัด  ควรไสต้องไส  เวลามันดีเรียบร้อยแล้ว  ทาชะแล็กปุ๊บ  เอ้า  ใครแตะไม่ได้เลยที่นี่  นั่น ดีเรียบร้อยแล้ว  สมบูรณ์เต็มที่แล้วใครแตะไม่ได้

         นี่เวลานี้เรายังไม่ใช่อย่างนั้น มันไม่ใช่แบบแตะไม่ได้  มันไม่ใช่แบบถูกต้องหมดแล้วดีหมดแล้วแตะไม่ได้  แต่นี้มันมีแต่ความผิดเต็มเนื้อเต็มตัวจะว่ายังไง  ผิดแสบๆ ก็มี  ผิดอย่างผาดโผนโลดเต้นโจนทะยานก็มี มีหลายประเภท  เพราะฉะนั้นจึงให้เอาธรรมะของพระพุทธเจ้านี่ไปดัดมันอย่างหนักมือ  เวลามันผาดมันโผดโลดเต้นเผ่นกระโดด

         เฉพาะทุกวันนี้ในวัยนี้เป็นวัยที่สำคัญมากนะ  เป็นวัยที่โลดเต้นเผ่นกระโดดอย่างมาก ไม่มีเหตุมีผล มีแต่ความอยาก  ความทะเยอทะยาน  ให้ระวังให้ดี  ระวังเหตุไม่ดีระวังผลชั่วจะติดตามมา  เอาธรรมะไปสกัดลัดกั้นเหยียบเบรกให้แรงนะ  เอาให้ตัวโก่งโน่นน่ะ  ดีไม่ดีตัวกระเด็นตกออกหน้ากระจกเพราะเหยียบเบรกอย่างแรง  หัวทะลุออกโน่น  ไม่งั้นมันจะไม่อยู่  รถมันจะพาลงคลอง ต้องเหยียบเบรกอย่างแรง

               นี่ละเมื่อเวลาความทะเยอทะยานของเรา  เฉพาะอย่างยิ่งราคะตัณหามันเกิดมันรุนแรงขึ้นมา  มันจะไม่มองเห็นเหตุเห็นผลดีชั่วอะไรนะ  มันจะมองเห็นแต่ไอ้หนุ่มเท่านั้นละ  ไม่มองเห็นพ่อเห็นแม่เห็นญาติเห็นวงศ์  ไม่มองเห็นความผิดความถูก  จะมองเห็นแต่ไอ้หนุ่ม  จะเป็นบ้ากับไอ้หนุ่มอย่างเดียวเท่านั้น  ให้เหยียบเบรกห้ามล้อเอาไว้อย่างแรง ไอ้หนุ่มมันเป็นอะไร  ก็เป็นคนเหมือนกัน จะหลงเขาอะไรจนเกินเหตุเกินผล  ราวกับไอ้หนุ่มจะพาเหาะเหินเดินฟ้าไปอย่างนั้น เราก็เป็นคน ไอ้หนุ่มก็เป็นคน  คนทั้งโลกเขาก็มีผัวมีเมียเหมือนกัน  ทำไมเราจึงวิ่งเต้นเผ่นกระโดดเอาเกินโลกเกินสงสารเขานัก  ไม่ใช่ใจเรานี้มันเป็นผีแล้วเหรอ  ให้ทักให้กระตุกเจ้าของอย่างนี้ ให้สอนเจ้าของอย่างนี้ นี่คือวิธีเหยียบเบรก วิธีเหยียบเบรกให้เหยียบอย่างนี้  ห้ามมันให้อยู่ไม่งั้นเสียคนได้อย่างน่าอับอาย

        ถึงกาลเวลามันค่อยเป็นไป  โลกอันนี้มีไม่ได้ขาดแหละเรื่องครอบครัวเหย้าเรือนราคะตัณหา มันมีมาตั้งแต่ตั้งแผ่นดิน มีมาตั้งแต่ตั้งสมมุติ  ผู้หญิงผู้ชายนี้แยกจากกันไม่ออก  ยังไงมันก็ไม่ดับ ไม่สูญพันธุ์  มันมีของมันอยู่อย่างนี้ แต่ให้อยู่ในความพอดิบพอดีเหมือนอย่างที่เคยอุปมาให้ฟัง เหมือนไฟ สมมุติว่าไฟแช็กหรือไม้ขีดไฟก็ตามใส่ในกระเป๋าเรานี้ไปก็ได้  เรารักษามันจะเป็นอะไรไป  ไฟเรานั่นแหละใส่ในกระเป๋าไปได้เลย ถ้าเราไม่รักษา ไฟอยู่ในกระเป๋านั่นแหละมันจะไหม้หัวเรา ไหม้บ้านไหม้เรือนก็คือไฟ อันนี้ก็เหมือนกันไฟราคะตัณหา  เวลามันกำเริบมากๆ มันไหม้ไปได้หมดนะ  ไม่ว่าไม้เป็นไม้ตายไหม้ไปหมด  ฉะนั้นจึงต้องรักษากันให้อยู่ในความพอดีที่โลกนิยมและยอมรับกัน

            ทุกวันนี้โลกกำลังกำเริบนะ  เขาว่าปัญญาชนๆ มันอยู่กับใครเวลานี้ปัญญาชน  มันชนดะนั่นน่ะมันสำคัญ  เดี๋ยวนี้มีแต่ชนดะ ๆ หาเหตุหาผลหาหลักหาเกณฑ์ให้เป็นที่ร่มเย็น  ให้เป็นที่เกาะที่ยึดของประชาชนทั้งหลายไม่ได้  มันชนดะๆ  เรียนมาความรู้มากเท่าไรยิ่งมาเสริมไฟ ยิ่งมาเสริมคนให้มีความทุจริตผิดมนุษย์มากขึ้นๆ ยิ่งนักกฎหมายถ้าไม่มีอรรถมีธรรมแล้ว  นักกฎหมายนี่เป็นนักเล่ห์เหลี่ยมนักแง่งอนที่สุดเลย ไม่มีใครเกินนักกฎหมายนะ  คว่ำกินหงายกินได้ตะพึดตะพือถ้าไม่มีธรรมเสียอย่างเดียว

            ถ้ามีธรรม ไม่มีใครที่จะให้ความร่มเย็นได้ยิ่งกว่าท่านเหล่านี้ ให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง  วินิจฉัยใคร่ครวญข้อคดีต่างๆ นี้ วินิจฉัยไปด้วยเหตุด้วยผล  ตัดสินกันด้วยความถูกต้องดีงาม  เป็นที่พึ่งที่เกาะที่ยึดของคนได้ทั่วๆ ไป  ถ้าไม่มีธรรมเสียอย่างเดียวแล้ว  โห  คว่ำก็กินหงายก็กิน  อะไรกินหมด กินทั้งปากทั้งหาง  กลืนทั้งปากกลืนทั้งหางคือพวกนี้เอง นี่ละคำว่าปัญญาชน  ถ้าไม่มีธรรมเข้าไปแทรกเสียอย่างเดียวแล้ว  ปัญญาชนนี้คือตัวชนดะ  จำให้ดีนะ เราจะเป็นชนไหนให้พากันนำธรรมะนี้ไปพิจารณาและปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความเป็นธรรม  เราและโลกจะเจริญรุ่งเรืองทั่วหน้ากัน

เอาละพอ

 

อ่านและฟังธรรมเทศนาของหลวงตา วันต่อวัน ได้ที่

www.Luangta.or.th หรือ www.luangta.com


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก