เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
มีครูอาจารย์สั่งสอนน่าจะมีกำลังใจ
เมื่อวานเราไปผาแดง เห็นลิงผ่านมาหน้าศาลา ลิงใหญ่นะ โฮ้ วิ่งเร็ว มายังไง มันเคยมาตัวเดียวหรือมากับเพื่อนกับฝูงมัน ส่วนมากเขามาตัวเดียว ลิงใหญ่มันผ่านมาหน้าศาลาแล้วไปทางครัว สักเดี๋ยวนกยูงก็มา เข้าท่าดี มีนกยูงมีลิง พวกไก่เต็มอยู่แล้วมีอยู่ทั่วไป สัตว์ต่าง ๆ ก็มีนกยูงกับไก่กับลิงอยู่สบายมันนะ แสดงว่าไม่มีใครทำไมเขาจึงไม่ระวัง เขามาเรื่อยลิงน่ะ ดุ่ม ๆ สบายไปทางครัว ไก่ไม่มากเหมือนวัดเราตามที่มองเห็น วัดเราที่ไหน ๆ มันก็เต็มไปหมด วัดเราไก่มากนะ ไปที่ไหนมากทั้งนั้น ยิ่งในครัวยิ่งแล้ว คนกับไก่เลยเป็นอันเดียวกัน มันพัวมันพันมันอยู่กับคน ไม่สนใจกับคน ไม่มีคำว่ากลัวเลย ป้วนเปี้ยน ๆ แทรกอยู่กับคนอยู่อย่างนั้น ทางโน้น(ครัว) รู้สึกไก่จะมากกว่าทางนี้ ทางนี้ธรรมดาก็ว่ามาก แต่เมื่อเข้าไปในครัวแล้วรู้สึกในครัวจะมากกว่านี้
ส่วนกระแตยอมรับว่าครัวมากกว่านี้ อยู่ทางนี้ไม่ค่อยมีมากนัก ถ้าเข้าไปในครัวแล้วมี กระแตเชื่อง ไปเรามักจะเล่นกับกระแตเป็นอันดับหนึ่งนะ กระรอกไม่ค่อยเล่นนัก แต่กระแตนี้เอาจริงนะ เล่นกับมัน เพราะฉะนั้นเราไปจึงจ้องหาแต่กระแต เขาเชื่องมากกับเรากับคน ทางจงกรมเราก็มีแต่ห่าง ๆ แต่เข้าไปในครัวมันมีอยู่ทั่วไป เวลาเราไม่ให้แมวเข้ามาสัตว์ก็ดกหนาขึ้นเวลานี้ พวกสัตว์เฉพาะกระแตนี้สำคัญมาก คือกลางคืนแมวมากระแตมันนอนก็จริง แต่กลางวันซีมันกินได้ แมวอยู่กลางวันก็มี กลางคืนก็มี
ทราบไหมโรงเรียนไหนมา (โรงเรียนบ้านตาดเจ้าค่ะ) อ๋อ โรงเรียนบ้านตาดนี่เหรอ ทุกวันไม่ว่าโรงเรียนไหน นี่เขาก็เอาหนังสืออะไรมาให้ที่ว่า บ้านเด็กแสงตะวัน ว่าปลูกอะไรยังไม่เสร็จ เงินขาดอยู่ประมาณเท่าไร (๘๕๐,๐๐๐ ครับผม) นั่นละตั้ง ๘ แสน ๕ บ้านปลูกเป็นอาคารสองชั้นคอนกรีต อันนี้เราไม่เห็นมันอยู่ตรงไหนน่ะที่ว่าบ้านเด็กนี่นะ เราเห็นแต่บ้านของเด็กที่เขาอยู่เป็นประจำ ที่ว่าปลูกใหม่นี่มันอยู่จุดไหนข้างไหน อยู่ในบริเวณนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เวลาเราออกไปถึงได้สังเกตดู เพราะแต่ก่อนไม่ได้สังเกต อันนี้มาขอบอกว่าขาดอยู่ ๘๕๐,๐๐๐
เรื่องบริจาคนี้มันเรี่ยราดไปหมดนะหลวงตา คือนับไม่ได้เลย ไปที่ไหนมองเห็นถึงจะรู้ว่าของเจ้าของได้สร้างไว้ ๆ โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาล แม้ที่สุดบ้านคนเราก็สร้างให้ ซื้อที่ให้ด้วย สร้างบ้านให้ด้วยตามความจำเป็น บางแห่งซื้อที่ให้โดยเฉพาะ บางแห่งก็ปลูกบ้านให้โดยเฉพาะ บางแห่งซื้อทั้งที่แล้วปลูกทั้งบ้านก็มี ที่เราให้เหล่านี้เราไปดูแล้วทุกอย่างนะ ส่วนมากเรามักจะไปดูถึงที่ ๆ สถานที่อะไรเป็นความจำเป็น สอบถามเรื่องราวให้ชัดเจน ควรที่จะอนุเคราะห์แล้วก็อนุเคราะห์เลย ถ้าควรที่จะให้มากก็ให้มาก คือเราให้ตามเหตุตามผลทั้งนั้น เราไม่ได้ให้แบบชุ่ย ๆ นะ ช่วยโลกช่วยจริง ๆ แต่ต้องใช้ความพิจารณาตามเหตุผลทุกแง่ทุกมุม ไม่สักแต่ว่าให้ ๆ จึงมากจริง ๆ แหละ
สิ่งที่เราบริจาคเพื่อประโยชน์แก่โลกนี้ ไปที่ไหนมีทั่วไป โรงพยาบาลนอกจากให้เครื่องไม้เครื่องมือแล้วยังซื้อที่ให้ ๆ เยอะนะ คือซื้อเพิ่มให้ ๆ ส่วนมากมีแต่ซื้อเพิ่มให้ ที่ซื้อให้หมดก็มีโรงพยาบาลอำเภอฝาง ขอนแก่น อันนั้นให้ทั้งหมดเลย ซื้อที่ให้เลย แต่พูดตกลงกันก่อนว่าเรามีเงินพอหาได้เฉพาะที่จะซื้อที่เท่านั้น ส่วนสิ่งปลูกสร้างนั้นเราไม่มีเงินแล้วนะ ถ้าหากว่าจะรับรองทางการปลูกสร้างได้แล้วเราก็จะซื้อที่ให้ เขาว่าจะขอรัฐบาลให้ได้ โดยอ้างถึงหลวงตาซื้อที่ให้แล้ว ที่เดิมนั้นมันคับแคบเหลือประมาณ ดูเหมือน ๘ ไร่หรือ ๙ ไร่ เหมือนอยู่ในครัวบ้าน บ้านนั้นเหมือนโรงพยาบาลเป็นครัว แคบนิดเดียว พอเข้าไปดู โอ๋ นี่มันยังไงกัน ไปตามห้องนั้นก็เห็นเอาผ้าอะไรปกคลุมไว้ เห็นโผล่ขึ้นมา เอกซเรย์ แล้วเอาไปปกคลุมไว้ทำไมนั่น มองดูเป็นเหมือนเอกซเรย์ ว่าเอกซเรย์ แล้วเป็นยังไง มันใช้ไม่ได้ แน่ะ
ก็อย่างนั้นนะ มันเสียอะไรล่ะ โอ๊ย.เสียแทบหมดนั่นแหละ ใช้ไม่ได้มา ๒ -๓ ปีแล้ว ให้อย่างนั้นนะ เอาผ้าปกคลุมทิ้งไว้แล้วเราก็เลยไม่เข้าไปเปิดดู มันแน่ชัดแล้วว่ามันใช้ไม่ได้แล้ว ให้ ดูโรงพยาบาลก็เหมือนกับว่าในครอบครัว แล้วโรงพยาบาลมีกี่ไร่ ๘ หรือ ๙ ไร่นี่แหละ จนหาที่เหยียบย่างไปไหนไม่ได้ มีแต่ตึกติดกัน โอ๊ย.ยังไงกัน ถึงอย่างนั้นตึกที่จะปลูกสร้างก็ปลูกไม่ได้มันไม่พอกับคนไข้ เอ๊.ยังไง จึงให้เขาติดต่อเลย เดี๋ยวนั้นละ ไปติดต่อที่ไหนที่เป็นที่เหมาะสมซึ่งควรจะสร้างโรงพยาบาล ให้ห่างจากหมู่บ้านนี้บ้างพอประมาณมีไหม เขาบอกว่ามีเขาจะขายอยู่ว่างั้น เขาพูดออกมาเลย เป็นแต่เพียงไม่มีเงินซื้อ เอ้า อย่างนั้นให้ไปติดต่อเขาเสียบอกว่าเราจะซื้อ เขาจะเอาราคาเท่าไร ๆ ติดต่อ
ไม่นานนะเรากลับไปอีกก็เข้าหาที่เลย ตกลงกับเจ้าของบ้านเจ้าของที่เขาเลยซื้อเลย ที่ในระยะนั้นราคาก็ไม่ค่อยแพงเท่าไร แต่เกือบสามล้านนะ เฉพาะที่ดูเหมือน ๒๓ หรือ ๒๕ ไร่นี่แหละ เกือบสามล้าน เราก็ซื้อให้หมด พอดีที่นั้นหมดพอดีเลย บริเวณที่มันสูงหมดเราก็ซื้อให้หมดเลย อันนี้ซื้อให้ทั้งหมด นอกนั้นซื้อเพิ่ม ๆ มีอยู่ทั่วไปโรงพยาบาล นี่ละที่ช่วยพี่น้องทั้งหลายเราช่วยเต็มสัดเต็มส่วน ขอให้มีความเข้มแข็งมีความสามัคคีกัน อย่าอืดอาดเนือยนายนะ ดูไม่ได้ มันจะมาเหยียบหัวของเราในประวัติชาติไทยของเราอืดอาดเนือยนาย ความพร้อมเพรียงสามัคคีกันไม่ค่อยมี เสียตรงนี้
เคยเห็นไหม อ่านประวัติข้างหลังบ้างซิ อืดอาดเนือยนาย เกรงใจกันหรือไม่เกรงใจเราก็ไม่รู้ หากแบบเต่าหดหัวอยู่ในกระดอง เต่าหดหัวอยู่ในกระดองเป็นยังไง มันอยู่ในหม้อน้ำร้อน ก็สุกอยู่ในหม้อน้ำร้อนนั่นแหละ ไม่มีความหมายอะไรเลย ชาติไทยเราหดหัวอยู่ในกระดองก็แบบเดียวกัน อะไรผิดให้รู้ว่าผิดอย่าคุ้นกับมัน นี่เรียกว่าผู้รักษาชาติบ้านเมือง อย่าคุ้นอย่าอ่อนกับมัน เพราะอ่อนก็ต้องพังเราต้องฉิบหาย อ่อนก็พิษ ไม่ได้เราต้องแข็ง ต้องหลบต้องหลีกต้องสู้อย่างนั้นซิ ควรสู้ ๆ ควรหลบ ๆ ออก หลบเพื่อหาทางสู้ไม่ใช่เพื่อหาทางล่มจม ต้องใช้สติปัญญา พี่น้องทั้งหลายเห็นว่าอะไรเป็นของจำเป็น อะไรก็ว่าเขาเป็นเรา อันนั้นเป็นของคนนั้นคนนี้ เจ้าของก็ไม่เห็นจำเป็น เวลาจมจมทั้งเจ้าของด้วย พิจารณาซิน่ะ
นี่ละให้พิจารณาให้ดี เราคิดมานานแล้วนะ เพราะฉะนั้นถึงบอกอยู่เสมอให้เด็ดนะ ที่ควรเด็ดต้องเด็ด ไม่เด็ดไม่ได้ ฉิบหายเมืองไทยเรา ชาติก็จะฉิบหาย ศาสนาก็จะฉิบหาย ถ้าอ่อนแอต่อมหาภัยแล้วฉิบหายได้ไม่สงสัย ถ้าเข้มแข็ง เอ้า ตายด้วยการต่อสู้ มีชื่อมีเสียงนะ สมบัติฉิบหายไปก็ตาม เจ้าของตายด้วยการต่อสู้ยังมีชื่อเสียง ชื่อเสียงเจ้าของสูง ถึงสู้มหาโจรปล้นไม่ได้ก็ตาม แต่เจ้าของเป็นนักสู้ตายท่ามกลางมหาโจรนี้มีชื่อเสียง อย่าอ่อนแอนะ ดูลักษณะมันยังไงกัน เราดูนะ เราช่วยพี่น้องทั้งหลายเราไม่ได้ช่วยเล่น ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างคิดว่าคอขาดขาดเลย ฟังซิน่ะ
พี่น้องทั้งหลายเคยได้ยินไหม พระแท้ ๆ มาพูดอย่างนี้เคยได้ยินไหม ให้ฟังเสีย พระนี้เป็นพระแท้ ธรรมของพระพุทธเจ้าเอามาใช้โดยแท้ เราก็เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ นี่ละ แต่ธรรมเป็นธรรมแท้ที่เอามาใช้ ธรรมไม่เคยพาใครให้ล่มจม ธรรมพาโลกให้เจริญรุ่งเรืองทุกสิ่งทุกอย่าง ภายนอกภายใน นั่นธรรมเป็นอย่างนั้น จึงเอาธรรมออกมาใช้ ต้องเด็ดด้วยธรรม เด็ดด้วยธรรมจมก็จมไปเถอะไม่เสียหาย ถ้าจมด้วยความชั่วช้าลามกใช้ไม่ได้นะ
ความพร้อมเพรียงสามัคคีเป็นสำคัญมากนะ ความแตกร้าวไม่ดีเลย พัง ความแตกร้าวความแตกแยก พัง แต่ความพร้อมเพรียงความสามัคคี ความประสับประสาน แม้แต่หม้อหุงข้าวเรามันร้าวมันรานที่ตรงไหน ไม่ดีเอามาซ่อมหุงได้อีก นั่นเห็นไหมล่ะ การซ่อมคือการประสับประสาน การซ่อมแซม นี้อะไรมันบกพร่องในชาติไทยของเรา ให้พากันปรับเนื้อปรับตัว ปรับใจเป็นของสำคัญต่ออรรถต่อธรรมคือหลักความจริง ธรรมจะไม่มีอ่อนกับอะไร จริงตลอดไปเลย จริงตลอดเรียกว่าธรรม อ่อนแอท้อแท้นี่แพ้กิเลสนะ กิเลสในตัวก็แพ้ กิเลสที่นอกจากตัวที่จะเข้ามาคุกคามตัวก็แพ้เขาอีก มีแต่ท่าแพ้นะ อ่อนแอต่อความชั่วนี้แพ้
เราทำความพากเพียรอ่อนแอต่อความแพ้ ก็เราจะแพ้นั่นเองอ่อนแอ มีแต่ความเหลวไหลโลเล ไม่เอาไหน ไม่จริงไม่จัง แพ้ ไปเดินจงกรมอยู่ก็แพ้ในทางจงกรม อยู่อิริยาบถใดก็มีแต่ความแพ้ ไม่เอาไหน ๆ ในจิตในสติสตัง ไม่มีความตั้งมั่นแน่นหนามั่นคงด้วยการระมัดระวังและด้วยการต่อสู้ แพ้ทั้งนั้น นี่ก็เคยพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ที่พูดมาเหล่านี้เราไม่ได้มีอะไร แม้เม็ดหินเม็ดทรายที่จะมาโกหกพี่น้องทั้งหลาย ถอดออกมาจากหัวใจจริง ๆ มาพูด ทำความพากเพียรนี้ก็เพื่อเป็นคติแก่พี่น้องทั้งหลาย ผลที่ได้มาจากความพากเพียรประเภทนั้น ๆ มาตลอดสายนั้น เป็นที่ภูมิใจเลยเทียว ไม่มีที่จะตำหนิเจ้าของ ตั้งแต่วันเริ่มออกทำความเพียรก็พอเหมาะพอดีกันกับ มาก็มาถูกที่สำคัญคือหลวงปู่มั่น คลังแห่งธรรมทั้งหลาย เรามุ่งต่อธรรมเข้าไปท่านก็เปิดธรรมให้เลย ธรรมเข้าถึงใจปึ๊บนี้ก็ดีดตั้งแต่บัดนั้นเลย
ถ้าหากว่าไม่ได้ฟังเสียงธรรมมันอาจจะอ่อนแอท้อแท้เหลวไหล หรืออีแร้งอีกาเอาไปกินแล้วก็ไม่ทราบนะ ทีนี้พอก้าวเข้าไปสู่หลวงปู่มั่นก็ปลุกใจทันทีเลย จิตมันก็ดีด จากนั้นมาก็ดีดตลอดเลย นี่ละถึงได้ขยะความเพียรของเจ้าของ คือพิจารณาย้อนหลัง อ่อนแอที่ไหนตั้งแต่ออกมาประกอบความเพียรนี้ จนกระทั่งปัจจุบันนี้อ่อนแอที่ไหนไม่มี ฟังแต่ว่าไม่มี แต่มีขยะ ๆ โอ๋ย.อย่างนั้นมันก็ทำได้ ๆ คือมันทำด้วยกำลังใจ สังขารร่างกายจะอ่อนเปียกขนาดไหน จิตใจไม่อ่อนเสียอย่างมันบุกได้ทั้งนั้น ถ้าจิตใจอ่อนเสียอย่างเดียวร่างกายจะอ้วนเท่าหมูนี้ก็ตาม ก็มีแต่อ้วนเพื่อจะขึ้นเขียงนั่นแหละ ต้องให้มันแข็งแกร่งซิ
นี่ละที่เอามาสอนพี่น้องทั้งหลาย ตั้งแต่เริ่มประกอบความเพียร ก็พอดีได้กำลังใจจากหลวงปู่มั่น ในขั้นเริ่มแรกเสียด้วย พอไปรับแล้วเราก็ผึงเลยทันที แล้วตลอดหาความสะดวกสบายไม่ได้การประกอบความพากเพียรฆ่ากิเลสนี่ ไปอยู่ที่ไหนว่าสะดวกสบายไม่เห็นมี มีแต่การฝึกการทรมาน การดัดสันดานกันกับกิเลส ถ้ากิเลสแข็งข้อมามากเราก็ต้องสู้มากหนักมาก เหนื่อยมาก ต้องเอากันตลอด แต่ความมุ่งมั่นที่จะให้ชนะกิเลสไม่มีอ่อน มีแต่พุ่ง ๆ นี่ละพอเป็นไปได้นะ ถ้าความมุ่งมั่นอ่อนเสียอย่างเดียวล้มเลยนะ แต่นี้ความมุ่งมั่น ถึงร่างกายจะไปไม่ได้จิตใจมันพุ่ง ๆ ของมัน กำลังใจนะสำคัญ อย่าเห็นอะไรดีมากยิ่งกว่ากำลังใจ
กำลังใจถ้าหมุนไปทางดีก็ไม่มีอะไรดีเท่า อย่างพระพุทธเจ้าพระสาวกเป็นตัวอย่าง มีแต่เด็ดทางดี ถ้าเด็ดทางชั่วก็มหาโจร คือใจนี้สำคัญมาก ขอให้ใจมีกำลังไปทางไหนเถอะเอาได้ทั้งนั้นไม่ถอย ทางชั่วก็พังเลยขาดสะบั้นไปเลย โลกพินาศเลย ถ้าทางดีก็เด่นเลย เพราะฉะนั้นจึงให้ฝึกในทางที่ดี เพราะชั่วใคร ๆ ก็ตำหนิกันแล้วทั่วโลกดินแดนอย่านำมาใช้ อย่าให้มาติดพันกับตัวของเรา เอาความดีเข้ามา อุตส่าห์พยายามทุกคนนะ ที่สอนพี่น้องทั้งหลายพูดถึงเรื่องอย่าอ่อนแอท้อแท้นะ นี่ได้ฟิตมา เพราะฉะนั้นกิริยานิสัยท่านทั้งหลายถึงแก่ขนาดนี้ท่านทั้งหลายก็พอจะดูได้ เป็นยังไงกิริยานิสัย
พอพูดอย่างนี้เมื่อเช้านี้ก็ออกแต่เช้าเลยนึกว่าฝนจะไม่ตก พอสว่างปั๊บออกจากกุฏิ ถ้าสายกว่านั้นคนมากมันยุ่งเหยิงวุ่นวาย เราจึงมักจะออกแต่ตอนเช้า ๆ แล้วตอนค่ำ ๆ ออกไปดูนั้นดูนี้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ดูแล้วควรจะแนะจะบอกอะไรแล้วก็นำมา แล้วก็บอกตอนนั้นพอดี เมื่อเช้านี้ออกตั้งแต่เช้า ทีแรกมันไม่มีฝนนี่เงียบ ๆ พอสว่างปั๊บออกเลย ออกพุ่งนี้ไป พอไปถึงนั้น อ้าว ฝนลงแล้วยังไงกัน ปุบปับๆ มาเลย เลยไม่ไปถึงไหนนะเมื่อเช้านี้ พอออกไปถึงห้องน้ำข้างนอกฝนลงแล้วรีบกลับมา พอกลับนี้ก็เลยเข้าศาลาดูนั้นดูนี้ พอออกจากนี้พระท่านก็รีบเอาร่มมาให้เราจะไปกุฏิ พระองค์นั้นจะเห็นหรือไม่เห็นก็ไม่ทราบ องค์อยู่ข้าง ๆ องค์นี้ก็ลุกลี้ลุกลนเอาร่มมาให้เรา เราปัด ๆ เราไม่เอาเราจะเดินไปโน้น พอปัดองค์นี้ไปแล้ว องค์นั้นก็เอาร่มไสเข้ามา
องค์นี้อยู่ที่นี่เราปัดองค์นี้ออกแล้ว องค์นั้นก็ไสร่มเข้ามาจะมาหาเรา มันยังไง ท่านอาจจะไม่เห็นองค์ที่กำลังลุกลี้ลุกลนเอาร่มให้เรา เราปัดหนีนะ ท่านก็ปุ๊บปั๊บแบบเดียวกันใช้แบบเดียวกัน ร่มไสเข้ามา ๆ เราก็จับปั๊บ ๆ ฟาดเข้าป่าแล้วก็เดินเลย นั่นเห็มไหมล่ะ อ่อนแอไหมนั่น ดัดให้มันทันกันซิ ก็ปัดกันอยู่นี้มันน่าจะเห็นแล้ว ปัดองค์นี้องค์นั้นก็ไสเข้ามาอีก นี้ก็มาคว้ามับก็ป่าเข้าป่าก็ไปเลย นั่น ให้มันทันกันอย่างนั้นซิ เราทำเราก็ขบขันเหมือนกัน พระคงจะเซ่อ ๆ ซ่า ๆ ป่านนี้ยืนเซ่ออยู่นั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เมื่อเช้าไปบิณฑบาตหรือไม่ไปก็ไม่ทราบ หรือเซ่อยืนอ้าปากอยู่นั้นก็ไม่ทราบนะ เราไม่ได้ไปดูพระองค์นี้ ให้มันเข้มแข็งซิ อย่าอ่อนแอ
พูดถึงเรื่องความพากเพียรทุกอย่าง ถ้าอ่อนแอไม่ดีทั้งนั้น ต้องให้เข้มแข็งต้องตลอด ๆ เลย เข้มแข็งในทางที่ดีดีได้คนเรา ทุกข์ทั้งหลายในการสร้างความดี ฝ่าฝืนเพื่อความดีนี้ทุกข์เพื่อสุข ๆ ไม่ได้ทุกข์เพื่อล่มจม แต่ถ้าอ่อนไปตามกิเลส ให้กิเลสเข้มแข็งเราอ่อนแล้วตายเลยนะ ไม่มีทางดีแหละ จมไปเลย ต้องพากันเข็มแข็ง
พูดถึงการทำประโยชน์ให้โลก เรานี้ทำเต็มเม็ดเต็มหน่วย ดังที่เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบ ไม่มีเรื่องการเงินการทองหลวงตา ที่ใครจะมาจ้องมามอง มาคาดมาคิดว่ามีเงินมีทอง อย่ามาคิดนะ มันอยู่ที่หัวใจเราต่างหาก หัวใจเรามีแต่เมตตาสงสารครอบโลกธาตุ ออกจากความเมตตาก็มีแต่จะให้ ควรช่วยเหลืออะไร ๆ จะช่วย ๆ นอกจากมันไม่มีจริง ๆ ให้รอไว้ก่อนนะ แน่ะ คือมันจำเป็นจริง ๆ เป็นอย่างนั้นนะ เราช่วยจริง ๆ เรื่องความเมตตานี้เต็มหัวใจ เราเคยพูดเสมอว่า มีแต่เราดูหัวใจโลก อยากให้โลกมาดูหัวใจเราบ้างเป็นยังไง อยากว่าอย่างนั้นนะ หรือว่าแล้วก็ไม่รู้นะ คือมันคันฟันนะ มองดูอะไร เฮ้อ กิริยาเกี่ยวกับเรื่องศีลเรื่องธรรมอืดอาด ๆ มันเป็นอย่างนั้นนะ ถ้าเรื่องของกิเลสแล้วมันมัดเข้า ๆ
โอ๊ย.มัดเร็วนะกิเลสมัดคอคน แต่คนที่จะสู้กับกิเลสมีตั้งแต่อืดอาด ๆ มันดูไม่ได้นะ เหอ มันจะทันกันหรือแก้กิเลสแบบนี้น่ะ นั่นมันบอก ท่านแก้กิเลสแบบนี้เหรอที่ท่านพ้นทุกข์ไป ท่านเป็นอรหัตอรหันต์ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ หรือ พุทธ ธรรม สงฆ์ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ ท่านทำอย่างนี้หรือ นั่นมันอดเอามาเทียบไม่ได้นะ เราจึงควรเข้มแข็งบ้างนะ การทำความดิบดี เอา แข็งไปเถอะไม่เป็นไร แข็งเท่าไรดีเท่านั้น ทุกข์ขนาดไหนทุกข์เพื่อดี ๆ ทุกข์เพื่อความสุขความเจริญรุ่งเรือง จนกระทั่งทุกข์อันนี้ไสขึ้นไปถึงพระนิพพาน อย่างพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ท่านทุกข์ เวลาประกอบความพากเพียรท่านยอมรับว่าทุกข์ แต่ผลแห่งการประกอบความเพียรด้วยความทุกข์ในการต่อสู้นี้ขึ้นถึงนิพพานปึ๋ง
ทีนี้เอามาเทียบกัน เทียบใกล้ ๆ อย่างพวกเรานี้ คือไม่มีใครทราบละนะ เรื่องการเกิดตายของพวกเรานี้นั่งเกลื่อน เอาเฉพาะวงศาลานี้เท่านั้น ที่นั่งอยู่นี้ทั้งหมดมีแต่พวกนักเกิดนักตายด้วยกัน กำหนดกฎเกณฑ์ไม่ได้ว่า ใครเกิดเป็นภพเป็นชาติอะไร ๆ คือสับสนปนเปตามอำนาจแห่งกรรมดีกรรมชั่วของตัวนั้นแหละ มันพาให้เกิดสูง ๆ ต่ำ ๆ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ เกิดแล้วตายเล่า ๆ ไปเกิดภพใดชาติใดตายทั้งนั้น คำว่าตายทั้งนั้น คือว่าเกิดกับตายเป็นของคู่กันมา แล้วจากนั้นสูง ๆ ต่ำ ๆ นี้ก็แบบเดียวกันอีกนะ แล้วแต่ใครจะมีบุญมีกรรมมากน้อยเพียงไร มันขึ้นสูงลงต่ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ นี้เป็นมาเท่าไรแล้ว ปัจจุบันคือเวลาที่เรานั่งอยู่นี้ ให้เราลองพิจารณาซิ ที่เราเกิดมาที่เราระลึกไม่ได้นะ มันกี่กัปกี่กัลป์ฟังซิ นานเท่าไรมาถึงปัจจุบันนี้ฉันใด แล้วจะไปข้างหน้าสมบุกสมบันอีก ก็กี่กัปกี่กัลป์นับไม่ได้เช่นเดียวกัน เรายังนอนใจอยู่เหรอ
พระพุทธเจ้า พระธรรม ท่านรื้อขนสัตว์โลกขึ้นจากบ่อแห่งความทุกข์ทั้งหลาย ที่จะตายกองกันตั้งกัปตั้งกัลป์นี้ ท่านสอนเราเป็นยังไง ควรจะนำธรรมของท่านมาฉุดมาลากตัวเอง เอ้า ทุกข์ก็ทุกข์เถอะ ทุกข์เพื่อนับภพนับชาติเจ้าของได้ไม่เป็นไร ไอ้ทุกข์ด้วยการดีดดิ้นตามกิเลสตัณหานับภพนับชาติ นับกัปนับกัลป์ไม่ได้นี้ไม่มีประมาณเลย เราจะเอาทุกข์อันไหน ทุกข์ที่เราอุตส่าห์พยายามเพื่อความดีงามนี้ทุกข์ขนาดไหน นี่ทุกข์เพื่อจะย่นวัฏฏะความเกิดตายของเรา ย่นเข้ามา ๆ ให้ชาติของเราสั้นเข้ามา ๆ ทำไมเราจึงไม่พอใจที่จะแบกทุกข์อันนี้ เพื่อตัดทุกข์อันนี้ลง ความเกิดตายของเรา เราต้องคิดอย่างนั้นซิ พระพุทธเจ้าท่านเป็นเครื่องพยาน พระสงฆ์สาวกเป็นเครื่องพยานที่ว่า ท่านทุกข์อย่างพวกเรานี้แล เอาไม่หยุดไม่ถอย สุดท้ายฟาดถึงนิพพาน ถึงนิพพานแล้วที่นี่เลยทุกอย่าง ไม่มีคำว่าจะอยู่นิพพานกี่กัปกี่กัลป์ พูดได้คำเดียวแต่ว่า นิพพานเที่ยงพอ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ไม่มีเข้าไปเกี่ยวข้องได้เลย ตลอดอนันตกาล
นี่ละทุกข์ที่ท่านอุตส่าห์พยายาม ท่านได้เสวยสุขเพราะความทุกข์ด้วยการฝ่าฝืนกิเลสนี้ถึงขนาดที่ว่า นิพพานเที่ยง คือผลแห่งงานของท่าน ความอุตส่าห์พยายามของท่าน ไอ้เราที่จะตายกองกันไปอีกไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์นี้ มันเป็นยังไงพิจารณาบ้างซิเรา เราก็คนเหมือนกันนี่นะ ฝึก ๆ ได้ด้วยกันทุกคน ทำไมจะฝึกไม่ได้ ต้องฟิตกันบ้างซิ เราอย่าปล่อยให้อ่อนแอนะ เรานั้นแหละเป็นผู้จะแบกหามกองทุกข์ ไม่มีใครมารับแทนเรานะ ต้องพยายามทุกคน เวลาที่ควรจะฝึกเจ้าของก็ให้ฝึกบ้าง เรายังมีครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอนด้วยความถูกต้องดีงามแล้ว มันน่าจะมีกำลังใจนะคนเรา แบบเลอะ ๆ เทอะ ๆ ดังที่เห็นนั้นเราอย่าเอามาคิดนะ เสียทุกสิ่งทุกอย่าง ความคิดของเราก็เสีย เวล่ำเวลาของเราก็เสีย กำลังวังชาของเราที่ไปคิดในเรื่องเหล่านี้ก็เสีย ๆ ไป ให้คิดเพื่อเราที่จะเป็นประโยชน์แก่เรานี้มากกว่าอย่างอื่น เอาอย่างนี้นะ
วันนี้ก็พูดเพียงเท่านั้น จำเอานะ การเกิดตายไม่หยุดนั้นมันก็พิลึกนะ การพูดกับพี่น้องทั้งหลายนี่นะ เราพูดเรื่องธรรมชาติอันนี้ที่อยู่ในหัวใจถึงกับได้มาประกาศให้พี่น้องทั้งหลายทราบนี้ ไม่มีสมมุติเข้าไปเกี่ยวข้องเลย แต่สมมุติที่เอาไปเกี่ยวข้องก็บอกว่า นิพพานเที่ยง คือธรรมชาตินี้เที่ยงแล้ว หมดทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเกี่ยวเกาะกันมาแต่ก่อน ให้มีความสุขความทุกข์เจือปน เหมือนเรากินข้าวกับแกลบกับรำหมดเลย มีธรรมชาตินี้เท่านั้น นั่นความอุตส่าห์พยายามมา ที่จะคิดคาดหน้าคาดหลังท่านหมดแล้ว พอทุกอย่างแล้วหมด หายกังวล เรื่องทุกข์จึงไม่มีในใจของท่าน นั่นละผลแห่งการปฏิบัติธรรม ให้พากันตะเกียกตะกายนะ ต่อไปนี้ก็จะให้พรเสียก่อน
อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.luangta.com
|