เมืองไทยเมืองมีน้ำใจ
วันที่ 14 พฤษภาคม 2541
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑

เมืองไทยเมืองมีน้ำใจ

เอานะทุกท่าน ๆ ให้ตื่นตัว หลวงตาเป็นผู้นำ นำอย่างเด็ดอย่างขาด จะยกประเทศชาติของเราขึ้นได้อย่างรวดเร็วไม่ชักช้า เราอย่าทำอ่อนแอ เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองอ่อนแอ ไม่ใช่เมืองเหลวไหล ไม่ใช่เมืองโลเล ไม่ใช่เมืองโยกคลอน เป็นเมืองจริงเมืองจัง เมืองมีความเมตตา เมืองเสียสละ เมืองให้อภัยแก่กันคือเมืองไทยของเรา ไปหาเมืองไหนมาแข่งซิ

เราพูดจริง ๆ ตามความจริง ความชุ่มเย็นอยู่ในเมืองไทยของเรานี่ เมืองไหน ๆ ก็ตามอย่าเอามาแข่ง เราพูดถึงเรื่องความชุ่มน้ำใจแล้วนะ เมืองไทยเป็นที่หนึ่ง เรื่องสมบัติ อิฐ ปูน หิน ทราย เหล็กหลา ถนนหนทางนั้น ยกให้เขาเสีย ให้เขาวิ่งเป็นบ้าเข้าไป เราครองความสุขในหัวใจด้วยความชุ่มเย็น ด้วยความเห็นแก่ใจต่อกันและกัน ด้วยความสงสารกันนี้เป็นที่สุขแล้ว พระพุทธเจ้าทรงชมเชยทุกพระองค์ เรื่องฟืนเรื่องไฟ เผาไหม้ไม่มีธรรมในใจเป็นน้ำดับไฟนั้นมีอยู่ทั่วไปเต็มโลกเต็มสงสาร เมืองไทยเราเป็นเกาะแห่งความสงบสุข เป็นเมืองมีน้ำใจ เพราะฉะนั้นจึงเอาตั้งให้ดีอย่าให้เอน เอาตั้งขึ้นให้ได้ หลวงตาเป็นผู้นำเองไม่เคยพาถอยง่าย ๆ ละ

เมื่อวานนี้เขาก็มาสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อะไรต่ออะไร ๆ ก็ได้ชี้แจงให้เขาทราบตามหลักเกณฑ์ที่เรากำหนดกฎเกณฑ์ไว้ยังไง ๆ ให้เขาทราบทั่วกัน เพื่อเขาจะได้ประกาศทั่วประเทศไทย ยกชาติไทยของเราขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยกันยกช่วยกันประกาศช่วยกันออกข่าวให้ทราบทั่วถึงกัน แล้วต่างตนต่างดีดต่างดิ้นเพื่อช่วยชาติของตน เราอย่าไปหวังพึ่งใครนะ มีกี่หมื่นกี่แสนล้านคนก็ตามเถอะ แม้คนเดียวเราไปหวังพึ่งเขาไม่ได้นะ ต้องหวังพึ่งคนไทยเรานี่เท่านั้น

จึงต้องเอาให้เต็มเหนี่ยวทุกคน ให้เห็นว่าเป็นภาระอันหนักแน่นเต็มหัวอกทุกคนด้วยกัน สำหรับที่จะยกชาติไทยของเราขึ้น ให้มีความสง่างามสมเกียรติของเมืองไทยเรา ซึ่งครองอิสระมาเป็นเวลาดึกดำบรรพ์มาแล้ว เราจะไปน้อยกว่าผู้ใด ง่าย ๆ เหรอ ต้องเอาให้แข็งแกร่งซิ ไม่แข็งแกร่งเป็นอิสระไม่ได้คนเรา ต้องเคยแข็งแกร่งมาแล้ว เมืองไทยเราจึงต้องทรงความแข็งแกร่งไว้ให้ดี หลวงตาเป็นผู้นำ หลวงตาอ่อนหรือไม่อ่อน ดูเอาจากกิริยาท่าทาง ท่านทั้งหลายดูเอาก็แล้วกัน แข็งหรืออ่อนก็ดูเอา หัวหน้าจะมาอ่อนแอได้เหรอ ต้องแข็งแกร่งซิ อะไรออกหน้า ๆ แม้แต่กินก็ยังออกหน้า นี่กินอิ่มแล้วค่อยมาพูดนะ มีแต่ออกหน้าทั้งนั้นไม่ได้ตามหลังแหละ เอาให้อย่างรวดเร็วเมืองไทยเรา ชักช้าไม่ได้ เอาอย่างฟ้าแลบเทียว

เราก็ออกทุกวัน เดี๋ยวนี้พอออกได้ออกไปทุกวัน เอาสิ่งของไปส่งตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เมื่อวานนี้ไป ๓ ชั่วโมง ๕๐ นาที จากวัดนี้ไปจนกระทั่งถึงที่ ๓ ชั่วโมง ๕๐ นาที รถวิ่งเร็วนะ บางแห่ง ๑๒๐ แน่ะ ทางตรงวิ่งตั้ง ๑๒๐ ขนาดนั้นยังเกือบ ๔ ชั่วโมง นู่นดอนตาล เลยมุกดาหารไปอีก ๓๖ กิโล ใกล้เมื่อไร เลยมุกดาหารไปอีกทางทิศใต้นู้น ๓๖ กิโล รถวิ่งเกือบ ๔ ชั่วโมง ถ้าตามธรรมดาต้อง ๔ ชั่วโมงกว่า แต่รถเรามันเร็วมันแข็งแรงด้วย เวลาขากลับมาก็เท่ากัน นี่ก็ไปช่วยโลกอย่างนี้แหละ

โรงพยาบาลนี้ก็หลายล้านนะ โรงพยาบาลที่ว่านี่ อยู่ที่จนตรอกจนมุมในหุบเขาในป่า โรงพยาบาลบ้านนอกไม่เหมือนโรงพยาบาลในเมือง โรงพยาบาลบ้านนอกต้องช่วยเหลือประชาชนซึ่งเป็นคนทุกข์คนจนเข้าไปอาศัยทั้งนั้นแหละ ที่เราจะหวังรายได้จากคนไข้ คนทุกข์คนจนตามบ้านนอกนี้ทางโรงพยาบาลไม่หวังแหละ มีแต่ช่วยสงเคราะห์โดยถ่ายเดียว เพราะฉะนั้นโรงพยาบาลตามบ้านนอกบ้านนาจึงขาดแคลนมากเพราะไม่มีรายได้นี่นะ ไม่ได้เหมือนโรงพยาบาลในเมืองใหญ่ เมืองหลวง โรงพยาบาลนั้นเป็นโรงพยาบาลปอบ ใครเข้าไปรีดเลยๆ พอเห็นคนไข้เข้าไปนี่อาหารว่างมาแล้ว ให้น้ำเกลือแล้ว คอยแต่จะกินกันทั้งนั้นแหละ

เดี๋ยวนี้พวกหมอมักจะเป็นปอบเป็นเปรตเป็นผีไปแล้วนะ เราไม่ได้พูดทั่วไป หมอที่เป็นประเภทนี้เวลานี้กำลังเริ่มไหวตัวมากขึ้น ๆ ทุกที ผู้ที่มีเมตตาธรรมสมกับความเมตตาสมกับความเป็นหมอนั้นมีน้อยมากๆ ลงโดยลำดับ นี่ละพูดตามความจริง นี่ละภาษาของธรรมฟังเอา เราไม่ได้กระทบกระเทือนเราไม่ได้เหยียบย่ำทำลายใคร เราเอาหลักธรรมมาพูดเพื่อให้ชะล้างสิ่งสกปรกที่มีอยู่ตามบุคคลประเภทเหล่านี้ออก ล้างให้มันสะอาด เมืองไทยเราจะได้สงบร่มเย็นลงบ้าง เห็นแก่ใจซึ่งกันและกัน เห็นแก่ความเมตตาต่อกันซิ คนเราอยู่ด้วยกันไม่เห็นแก่ใจกัน มีความเมตตาต่อกันอยู่กันได้ยังไง อยู่ไม่ได้นะ มีเท่าไรแตกทั้งนั้น

แม้แต่ครอบครัวเหย้าเรือน เมื่อไม่มีความสมานกัน ด้วยความจงรักภักดี ความเสียสละต่อกัน พึ่งเป็นพึ่งตายกันแล้ว ครอบครัวนั้นแตกทันที เราอย่าว่าประเทศชาติบ้านเมืองแตกเลย แม้กระทั่งครอบครัวก็แตกได้ เรื่องความคับแคบตีบตัน เรื่องความเห็นแก่ตัว เรื่องความรีดความไถ นี่ไปที่ไหนแตกทั้งนั้นละ แต่เวลานี้คนกำลังชมเชยกัน กิเลสมันหนาแน่น ชมเชยความต่ำทราม ชมเชยฟืนไฟไหม้ชาติบ้านเมือง เวลานี้ลุกเป็นเปลวจรดเมฆแล้วนะ เพราะฉะนั้นจงพากันเอาน้ำดับไฟ เวลานี้ดับประเทศชาติของเรา ซึ่งกำลังลุกโพลงขึ้นด้วยแสงไฟแห่งความจน เอาน้ำดับไฟให้มันมีความสมบูรณ์พูนผล ตั้งเนื้อตั้งตัวขึ้นมา

เราจะคอยให้กิเลสนำหน้ามีแต่ความล่มจม แล้วกินเท่าไรไม่พอ ได้เท่าไรไม่พอ เอาจนตาย ตายไปอย่างห่วงใย ยังจะหวงอีก เมื่อตายยังหวง กระดูกเอาไปไม่ได้ก็ยังหวง หวงสมบัตินั่นนะ ไม่ได้อะไรก็นับข้อมือละซิ คนนั้นติดหนี้เท่านั้น คนนั้นติดหนี้เท่านี้ นับข้อมือๆมันหมดหวัง เจ้าของจะตายอยู่แล้วยังนับข้อมือ เห็นไหมความโลภมันผ่อนผันใครเมื่อไร มันจะเอาอยู่ตลอด เจ้าของกำลังจะตาย มันยังจะเอาอยู่ตลอด นี่โทษของความโลภ ความตระหนี่ถี่เหนียว ความเห็นแก่ตัว มันจะเอาให้เจ้าของจม เจ้าของยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย ยังจะเอาเงินเท่านั้น เอาเงินเท่านี้ จากคนอื่นเท่านั้นเท่านี้มาตลอดนะ แล้วสุดท้ายมันก็ตายเปล่าไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

เวลามันตายมันตายแบบเดียวกันหมด โลกนี้จะเป็นมหาเศรษฐี คนทุกข์คนจนคนอะไรก็ตาม มันตายแบบเดียวกันหมด เพราะฉะนั้นอย่าให้ตายแบบจนๆ แบบตระหนี่ถี่เหนียว แบบเห็นแก่ตัว แบบคับแคบตีบตัน ตายด้วยจิตใจอันกว้างขวางเบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใส ตายแล้วเบิกบานไป ชมสมบัติในเมืองสวรรค์ด้วยอำนาจแห่งความเสียสละ ทำบุญให้ทาน มันดีกว่าที่จะตายจมลงไปในนรกนั่น สิ่งที่หึงหวงมันเป็นฟืนเป็นไฟตามเผาไหม้เจ้าของลงนรกนั่น เรายังไม่เห็นโทษของมันอยู่หรือ

ธรรมพระพุทธเจ้าประกาศป้างๆ มา ศาสนาของเรานี่ ๒,๕๐๐ ปี ตื่นแล้วยัง ชาวไทยชาวพุทธเราน่ะ หรือให้กิเลสมันขยำหัวเราตลอดเวลานั้นหรือ ไม่เห็นโทษของมันบ้างหรือ ศาสนาหมดคุณค่าแล้วนะ มีแต่คิดเสกสรรปั้นยอขี้หมูราขี้หมาแห้งขึ้นเป็นทองคำทั้งแท่งเหยียบหัวมนุษย์แล้วนะเวลานี้ ไปที่ไหนจึงมีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้จนทั่วดินแดน เกาะไหนมันมีความสุขไปหาซิ ถ้าว่าเราพูดเรื่องอุตริหาเรื่องใส่โลกใส่สงสารน่ะ เกาะไหนถ้าไม่มีศีลมีธรรมแล้วไปเถอะ มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ทั้งนั้นแหละ เผาอยู่ที่หัวใจนั่นซิ ไม่ได้เผาที่อิฐที่ปูนที่หินที่ทรายที่ถนนหนทางนั่นหรอก มันเผาอยู่ที่หัวใจคนต่างหาก สิ่งเหล่านี้มันมีความหมายอะไร มันก็อยู่ของมันอย่างนั้นแหละ เราไปเสกสรรปั้นยอ ว่าเรามีสิ่งนั้นๆ เป็นบ้าลมบ้าแล้ง ตื่นลมตื่นแล้งเจ้าของเท่านั้นเองไม่เห็นเกิดประโยชน์อะไร ตายแล้วกระดูกก็ไม่ได้ พิจารณาซิ ถ้าไม่มีธรรมในใจแล้วหาความเย็นไม่ได้ หาที่พึ่งที่เกาะไม่ได้นะ ตายแล้วจมด้วยกันทั้งนั้นแหละ ไม่ว่ามหาเศรษฐี กุฎุมพี ใครๆ ก็ตายจมด้วยกัน บาปบุญไม่ลำเอียง เสมอภาคทีเดียว

ใครจะสร้างเนื้อสร้างตัว ให้รีบสร้างเสียตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้ก็กำลังสร้างชาติไทยของเราขึ้น เป็นมหากุศลของเราที่จะสร้างชาติไทยของเราทั้งชาติขึ้น นี่เรียกว่าสร้างมหากุศล ให้พากันเสียสละนะ ตัวของเราคนเดียวเท่ากันนี้ก็อาศัยชาติบ้านเมืองอยู่นั่น จะทะนงตัวได้อย่างไรว่าเราใหญ่กว่าชาติน่ะ เริ่มติดเครื่องแล้วนะ เมืองไทยของเราเวลานี้ติดเครื่องช่วยตัวเอง ให้ต่างคนต่างเตรียมพร้อมๆ จะออกก้าวเดินแล้ว อย่าคิดถึงแต่ความท้อถอยอ่อนแอ ที่จะช่วยประเทศไทยไปไหวหรือไม่ไหวนั้นเป็นเรื่องแห่งความล่มจมลากเราไปต่างหากนะ ความฟื้นฟูของเราต้องเข้มแข็ง มันอ่อนมากเท่าไร เรายิ่งเข้มแข็งหนักเข้าๆ ช่วยหนักเข้าไปนั่นเป็นทางพ้นภัย

ความอ่อนแอความท้อใจนี่เป็นความล่มจมอย่าเอามาใช้ในหัวใจเรานะ แล้วบ้านเมืองจะจมได้จริงๆ ด้วยความคิดอย่างนี้ แต่บ้านเมืองจะมีความเจริญขึ้นไปด้วยความฟิตตัวเอง อ่อนเท่าไรยิ่งแข็งตัวขึ้น หนักเท่าไรยิ่งยกนั่นถึงถูก เคยเห็นไหมเม็ดฝนมันตก ซัดเท่าโอ่งเมื่อไรวะ ท้องฟ้ามหาสมุทรเต็มไปหมดมันตกไม่หยุด นี่ก็เหมือนกัน ขนเข้าคลังหลวงของเรา มันจะใหญ่ขนาดไหนคลังหลวงน่ะ จะใหญ่กว่าประเทศไทยได้หรือ คลังหลวงเท่ากับประเทศไทยขนเข้าไปจนเต็ม เท่านั้นแหละ

ทองคำเป็นหลักของชาติเรา เราจึงสงวนทองคำมากที่สุด ทองคำจึงเป็นเบอร์หนึ่งเลย เป็นหัวใจของชาตไทยเรา เมื่อมีทองคำในคลังหลวงเราพิมพ์ธนบัตรออกใช้ได้อีกนะ มีทองคำเป็นประกันในคลังหลวงแล้ว เราก็พิมพ์ธนบัตรเงินไทยของเราออกใช้ได้ตามปริมาณทองคำของเราที่มีในคลังหลวง นี่ยังเป็นประโยชน์อีกนะ เพราะฉะนั้นเราจึงเสาะแสวงหาทองคำมากที่สุดเพื่อเป็นหัวใจของชาติเรา ส่วนดอลลาร์นี่ก็ออกใช้หนี้เขา กู้ชาติของเรา ทองคำก็ประกันชาติของเรา

พี่น้องทั้งหลายอย่าอ่อนนะ อย่าอ่อนข้อนะ หลวงตานี่เป็นผู้นำเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว พร้อมชีวิตจิตใจมอบกับเมืองไทยเราหมดแล้วเวลานี้ จึงอ่อนแอไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มเป็นผู้นำไม่เอาจริงเอาจังไม่ได้ ชาติเพื่อนบ้านเขาจะดูถูกนะ มันสำคัญมากนะ เวลานี้เมืองไทยเรารู้สึกจะได้รับการลดหย่อนผ่อนผันหลายด้านนะ จากการฟื้นฟูเมืองไทยเรานี้ เห็นได้หลายอย่าง

ทองคำเป็นอันดับหนึ่ง ดอลลาร์เป็นอันดับสอง เงินสดเป็นอันดับสาม ทั้งๆที่จะเข้าคลังด้วยกันนั่นแหละ แต่มันมีอันดับหนึ่ง อันดับสอง อันดับสาม ด้วยความจำเป็น ทองคำจำเป็นที่หนึ่งนี่เป็นหัวใจของชาติ หลักประกันชาติของเรา คือ ทองคำ อันที่สอง ดอลลาร์สำหรับใช้หนี้กู้ชาติไทยของเราที่ติดหนี้เขาเท่าไรๆ เหมือนกับว่าเขามาแบ่งกินเนื้อหนังของเราไม่ได้สมบูรณ์นะ เขามาตัดนิ้วมือนิ้วเท้าของเราไป นิ้วกุดนิ้วด้วนไม่สมบูรณ์ เพราะฉะนั้นเราจึงได้ต่อมือของเราออกไปอีก เอาเงินไปใช้หนี้เขา เอานิ้วมือของเรากลับมาซิ ทองคำนี่ประกันชีวิตของเรา ทองคำนี้เป็นชีวิตของเมืองไทย ต้องประกันชีวิต อะไรจะอยู่ไกล ชีวิตของเมืองไทยจะหลุดไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นทองคำจะขาดเมืองไทยไปไม่ได้ เอาให้เป็นหลักทีเดียว

มีเท่าไรเอามา นี่หลวงตากำลังจะนำอยู่ทองคำนี่ แต่นำไม่ได้มากนะ เราเป็นหัวหน้าเราก็บอกว่านำได้บาทหนึ่งเราก็บอกว่าเรานำเท่านั้นเองนั่นแหละ ที่จะให้ได้มาก แต่หลวงตาไม่ได้ เพราะหลวงตานี่มันหมดจริงๆ นะ คิดดูเวลานี้โรงร่ำโรงเรียน โรงพยาบาลต่างๆ วิ่งเข้ามาหานี่ต้องพักเอาไว้ๆ

ให้ไปเตรียมขวนขวายนะ เตรียมพร้อมเลยเราอย่าถอยหลังนะ ให้พากันก้าวหน้าทุกคนๆ ต่างคนต่างจะขยายออกไปละ ขยายออกไปเรื่อยๆ รวมหัวกันเข้ามา เมืองไทยเราจะยกขึ้นไม่ได้จริงๆ หรือ หลวงตาบัวนี่วาสนาจะน้อยที่สุดจริงๆ หรือ ยกเมืองไทยทั้งเมืองกับพาประชาชนยกเมืองไทยไม่ได้แล้วแสดงว่าหลวงตาบัวนี่เลวที่สุดแล้ว ใช้ไม่ได้เลย วาสนาอาภัพ เกิดมานี่เป็นคนอาภัพ พระอาภัพ หลวงตาบัวอาภัพ ท่านทั้งหลายอยากได้ยินไหม หลวงตาบัวอาภัพ วาสนาอาภัพ ถ้าไม่อยากได้ยิน ให้ต่างคนต่างดีดต่างดิ้น ช่วยกันให้เต็มไม้เต็มมือนะ ขอฝากความไว้วางใจกำลังวังชาไว้กับพี่น้องทั้งหลายทุกคนด้วยนะ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก