ที่นี่เช็คดอลฯก็มาได้แล้วเดี๋ยวนี้ เปิดรับเช็คดอลฯด้วย รับดอลฯด้วย เช็คดอลฯด้วย สองอย่างแล้ว ต่อไปก็รับเงินสด พวกทองคำ เวลานี้รอไว้ก่อน ให้ดอลฯนำหน้าก่อน
นี่เวลาเราจะทำประโยชน์ให้โลกมีสิ่งกีดสิ่งขวางนะ เรื่องโจรเรื่องมารมันมีนะ ผู้มาคอยพูดขัดพูดแย้งมี เวลานี้มี หาเรื่องอย่างนั้นอย่างนี้ขึ้นมา มากีดมาขวางกันนะ เราออกเดินสนามแล้วเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีใครเป็นผู้ขึ้นสนาม เราเองเป็นคนขึ้นสนาม
เที่ยวหาเรื่องใส่คนนั้นคนนี้ไปแล้วนะเดี๋ยวนี้ ให้คนขาดกำลังใจ ผู้ที่จะช่วย ปรึกษาหารืออะไร เขาขาดกำลังใจ ศรัทธาทั้งหลายขาดกำลังใจ หาว่าเป็นอุบายของคนนั้น เป็นอุบายของคนนี้ ไม่ได้ว่าเป็นอุบายของหลวงตาบัว หลวงตาบัวขึ้นเวทีนะเวลานี้น่ะ ไม่ใช่คือใครเป็นคนขึ้นเวที หลวงตาบัวเป็นคนคิดเอง ขึ้นเวทีเอง พวกนั้นเป็นแต่เพียงผู้รับใช้ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือเท่านั้น เป็นที่ปรึกษาหารือกัน
หาว่าเป็นอุบายของคนนั้นแล้วไม่เคารพไม่เลื่อมใสไม่นับถือ ไปอย่างนั้นนะเดี๋ยวนี้ กำลังเริ่มนะ อุบายอะไรก็กำลังประกาศลั่นโลกอยู่นี้ มีใครประกาศอยู่เวลานี้ ก็มีแต่หลวงตาองค์เดียวประกาศอยู่ จะเป็นอุบายของใคร นอกจากเป็นเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับใช้สอยเท่านั้น เราเองเป็นผู้เดินหน้า ผิดถูกประการใดเรายอมรับหมด มีนะพวกที่จะมาขัดแข้งขัดขา มี เรื่องโจรเรื่องมารมันหากมีแหละ มากีดขวางมาทำลายประเทศ คนหนึ่งจะเบิกกว้างเพื่อประเทศ คนหนึ่งมาทำให้ตีบตันอั้นตู้เข้าไป มันมี
ให้พากันเข้าใจเอาไว้ เราเป็นผู้ออกสนามเอง เราเป็นผู้ขึ้นเวทีเองในเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่เป็นอุบายของคนใดคนหนึ่งที่มาหลอกลวงท่านทั้งหลาย เป็นอุบายของเรา ถ้าว่าหลอกก็คือเราเป็นคนหลอก ถ้าจะว่าหลอกก็ดี เราขึ้นสนามขึ้นเวทีหลอกเลยถ้าว่าหลอกก็ดี ไม่มีอุบายของใครเข้ามาแทรกแหละ เป็นอุบายของเรา ให้พากันเข้าใจเอาไว้ เราพาเดิน เราเป็นผู้นำ ไม่ใช่ผู้ใดเป็นผู้มาแทรกมาแซงมากีดมาขวาง เราเอง ผิดถูกประการใดเรารับเอง ให้พากันเข้าใจเอาไว้อย่างนี้ตลอดไปด้วยนะ
มันมีแหละถ้าจะทำอะไรขึ้นมา มันหากมีพวกโจรพวกมารมากีดมาขวาง มาคัดมาค้านต้านทานแง่นั้นแง่นี้จนได้แหละ นี่กำลังเริ่ม เพิ่งจะเริ่ม ยังไม่ได้อะไรเลย เพิ่งจะเริ่มเท่านั้นแหละ ถ้าออกเวทีก็กำลังเริ่มสวมนวมเท่านั้น ยังไม่ได้ขึ้นเวทีเลยเริ่มสวมนวมอยู่ข้างล่าง เอะอะมาต่อยแล้ว น่าโมโห เข้าใจไหม คนหนึ่งกำลังใส่นวมกำลังอะไร คนหนึ่งมาต่อยแล้ว พวกกีดพวกขวางมาแล้ว พวกมารพวกโจรที่จะทำลายชาติมาแล้ว มันแทรกมันแซงเข้ามา
จึงพากันให้เข้าใจเอาไว้ ว่านี้คือเรื่องของหลวงตาบัวโดยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีเรื่องผู้อื่นผู้ใดเข้ามาแทรกมาแซง เป็นเรื่องของเราเอง ผิดถูกประการใดเรารับเองทั้งหมดเลย มันมีแหละ เป็นอุบายของคนนั้น เป็นอุบายของคนนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้แทรกเข้ามาในเรานี่นะ แล้วจะปัดเราออกเอาพวกนี้ขึ้นมา ทีนี้มันก็ยุบยอบไปหมดเลยซิ เรื่องราวก็ก้าวไม่ออก หมดกำลังใจไปแล้วพวกที่ได้ยินอย่างนั้น พวกที่หูเบา เพราะฉะนั้นจึงประกาศให้ทราบเอาไว้ ตั้งแต่บัดนี้ต่อไปยืนตัวเลย
เราประกาศลั่นมานานแล้วนี่นะ ใครยังไปหูเบาอยู่ ไปเชื่อปากหมูปากหมาอยู่นี่นะ ปากคนไม่ยอมเชื่อ ไปเชื่อปากหมูปากหมาก็แสดงว่าเป็นหูหมาล่ะซี ไม่ใช่หูคน ถ้าหูคนต้องเชื่อคนซิ นี่หูหมามันไปเชื่อหมา ไม่ยอมเชื่อคน พวกนี้พวกทำลาย พากันเข้าใจเอาไว้ มันมายุมาแหย่เรื่องนั้นเรื่องนี้ มันจะเป็นไปเรื่อย ๆ เรื่องไหนก็ตามให้ฟังหูคนให้ฟังเสียงคน อย่าเป็นหูหมาฟังเสียงหมา มันทำลายชาติบ้านเมืองนี่ ปากเหล่านี้ไม่ใช่ปากดี ปากทำลาย ไม่ใช่ของดี ทำลายชาติเสียด้วย ไม่ใช่ทำลายเรื่องเล็กน้อย
อะไร ๆ เราก็บอกแล้วประกาศมาลั่นตั้งแต่ไหนแต่ไร ว่าเราเป็นตัวยืนอยู่แล้ว เป็นผู้ดำริเป็นผู้คิดผู้ค้นขึ้นมา ไม่ใช่ผู้ใดมาให้อุบายอะไรต่าง ๆ นานา พอจะมาจูงจมูกเราไปนี่ ใครจะมาจูงจมูกเรา เราไม่ใช่ควาย มาจูงซิอยากหลงทิศน่ะ ต้องมีตลกบ้างซิพูด มีข้อตลกบ้าง เข้าใจไหมหลงทิศ ไม่รู้ทิศใต้ทิศเหนือ วิ่งป่าราบไปเลย
เริ่มเรื่อยละ กว้างออกเรื่อยละ เมื่อวานเขาไปคงจะออกทางหนังสือพิมพ์ ออกทางข่าวประชาสัมพันธ์เรื่องเกี่ยวกับเช็คดอลลาร์ เพราะเราเปิดแล้ว บอกแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ว่าเราเปิดดอลลาร์แล้ว ดอลลาร์เข้ามา จะเป็นเงินไทยก็ไป เงินไทยก็หมุนไปเป็นดอลลาร์ได้เป็นไรไป เพื่อให้มันกว้างออกไป พวกดอลลาร์ให้กว้างออกไปก่อนดังที่เคยพูด เงินสดเราตามหลัง เงินสดหมุนในวงนี้ ถ้าไม่จำเป็นก็ยังไม่เข้าพวกดอลฯ ให้หมุนอยู่ในวงประเทศนี้ ดอลฯ ออก เราแยกไว้สองภาคอย่างนั้นนี่นะ
เราจะทำอะไรขึ้นมันหากมี เราดูหัวใจเราก็รู้ เรื่องมารไม่ใช่มีแต่ภายนอกนะ ในหัวใจเราเองก็เป็นมารสำหรับเรา พอจะทำความดีอะไรนี้มันหากมีสิ่งที่มาขัดมาแย้งจนได้ ดูเอาดูในหัวใจเจ้าของ นักรบนักขึ้นเวทีฟัดกับกิเลสเท่านั้นจึงจะรู้เรื่องเหล่านี้ได้ นี่ฟัดมาแล้ว รอดตายถึงได้มาพูดโก้ก ๆ อยู่นี่ เพราะฉะนั้นจึงรู้มันหมด อุบายของมันมันจะออกวิธีไหน ไม่รู้พูดไม่ได้ พูดสุ่มสี่สุ่มห้าได้เหรอ ต้องรู้เรื่องของมันทุกอย่าง ฆ่ามันด้วย
เอาหนังมันมาขายตลาดเป็นไร หนังกิเลสขายตลาด ไม่เคยมีในตลาด ตลาดโลกไม่เคยมีหนังกิเลสมาขายตลาด ให้ได้หนังกิเลสมาขายตลาดเสียบ้าง มีแต่กิเลสเอาหนังคนไปขายตลาด หนังกิเลสคนไม่ได้เอามาขายเลย เอามาขายเสียบ้างซิ มันจะออกแง่ไหนเรื่องของกิเลส ฟัดมันถึงขนาดนั้นแล้ว ออกแง่ไหนหัวขาดทันที ๆ เลย
พอพูดอย่างนี้เราก็อัศจรรย์เรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เพราะท่านไม่ได้ตรัสรู้ด้วยสติปัญญาธรรมดาเรา บทเวลาขึ้นเวทีมันถึงรู้ ธรรมนอกโลกจึงเอามาฆ่ากิเลสในโลกได้ ธรรมอยู่ในวงของกิเลสฆ่ากิเลสไม่ได้ บทเวลาขึ้นเวทีแล้วสติปัญญาอันนั้นออกเอง ๆ หมุนเอง เหมือนกิเลสมันเคยหมุนตัวของมันเองแต่ก่อน หมุนหัวใจสัตวโลก หมุนโดยอัตโนมัติ หมุนเองตลอด ทีนี้พอธรรมะขึ้นทางบนมันแล้ว ทีนี้หมุนแบบเดียวกันเลย กิเลสอยู่ตรงไหนหมุนเข้าไป ๆ เชื้อไฟอยู่ตรงไหนไฟเผาเข้าไป ๆ ราบเรียบ ๆ
นั่นละสติปัญญานี้พระพุทธเจ้านำมาสอนโลก พวกเราไม่เห็นพวกเราไม่รู้ นี่ละสำคัญ นี่ละที่มารู้เรื่องของกิเลสคือสติปัญญาประเภทนี้ ธรรมะประเภทนี้ละมารู้เรื่องของกิเลส พระพุทธเจ้าฆ่ากิเลสฆ่าด้วยธรรมประเภทนี้ นำมาสอนโลกก็สอน เพราะฉะนั้นโลกจึงเอื้อมไม่ถึงง่าย ๆ นะธรรมประเภทนี้ นอกจากพระอรหันต์เท่านั้น ปัญญาท่านถึงไหนถึงกันพระพุทธเจ้า ปัญญาประเภทนี้ท่านจะผ่าน ธรรมประเภทนี้ท่านจะผ่าน ไม่ผ่านฆ่ากิเลสไม่ได้
สติปัญญาวิชาที่เราเรียนมานี้เป็นสติปัญญาวิชาของกิเลสผลิตให้ ไม่ใช่ธรรมโลกุตรธรรมผลิตให้ ถ้าธรรมเป็นโลกุตรธรรมผลิตให้นี้ขาดสะบั้นเลย กิเลสไม่มีเหลือ มีเท่าไรขาดหมด นั่นละธรรมท่านมาสอนโลก เอาธรรมประเภทนั้นมา
ดีแล้วช่วยกันยกชาติเรา หลวงตาจะพายก เข้าใจหรือเปล่า หลวงตาประกาศป้าง ๆ ขึ้นเวทีคือหลวงตาขึ้น ไม่มีผู้ใดมาแทรกมาแซงมาเป็นใหญ่เป็นโตมากีดมาขวางทางเดินเพื่อชาติ ทางเดินเพื่อชาติเราเป็นผู้เดินเป็นผู้นำ ให้พากันเข้าใจเอาไว้ อย่าไปเชื่อง่าย ๆ นะ ระวังหูหมามันจะสวมเข้าไป
วันนี้เอาเท่านี้ละนะ