เงินสดยังไม่พอที่จะทำประโยชน์ ต้องรอ ๆ ไว้ก่อน แล้วกำลังพิจารณาถึงเรื่องจุด จุดไหนบกพร่องที่จะควรสงเคราะห์ ต้องพิจารณาเรียบร้อยเสียก่อนก่อนที่จะออก ไม่งั้นมันจะเป็นอีสานเขียวนะ โห สลดสังเวชมากนะอีสานเขียว ส่งเงินมาให้พวกอีสานเขียวนี้ เอาไปใส่พุงกันหมดเลย เราอยากว่าอย่างนี้นะ อยากว่าหมด เงินส่งไปอีสานเขียว มันเลยกลายเป็นพุงเขียวไปหมดเลย
ไม่พูดเสียเฉย ๆ นะอีสานเขียว เงินส่งมาเป็นเงินของแผ่นดินส่งมาให้อีสานเขียว ฟาดเข้าพุงเขียวเสียหมด ทำพอประดับร้านนะ ทำนิด ๆ หน่อย ๆ ประดับร้านเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วทำนั้นก็จ้างเด็กไปปลูกต้นไม้นะ อีสานเขียวให้เอาไปปลูกต้นไม้ ไปจ้างเด็ก แล้วส่วนใหญ่กินแล้ว เอาไปจ้างเด็กเล็ก ๆ น้อย ๆ เด็กเลี้ยงควายอยู่ตามท้องนานั่นแหละ ให้ไปปลูกที่นั่นที่นี่ ส่วนใหญ่เอาไปกินหมด
นี่เขามาเล่าให้ฟังเต็มหูเต็มตา ปากไหนพูดแบบเดียวกัน เราเอาปากที่พูดแบบเดียวกันเป็นความสัตย์ความจริงนี้มาพูด จึงไม่ใช่หาเรื่องต่อผู้ใดนะ นี่ละเรื่องราว เราไม่ไปเห็น แต่ลูกศิษย์ลูกหาใครต่อใครมาพูด พูดเสียงเดียวกัน กินไม่ทราบกี่ชั้นนะ เช่นไปขุดสระลูกหนึ่งนี้ จ้างกันมาเป็นทอด ๆ กินกันมาเป็นทอด ๆ จนกระทั่งถึงสระลูกหนึ่ง สระที่ประมูลมานี้ห้าหมื่นบาท ตกลงไปสระนี้เพียงพันบาทหรือว่าห้าร้อยบาท คิดดูซิกินไปขนาดไหนนั่น มันจ้างกันเป็นชั้น ๆ นะ กินกันเป็นทอด ๆ ลงไปเลย พวกนี้พวกกิน
แหมสลดสังเวชจริง ๆ นะ ทำไมมันถึงเป็นยักษ์เป็นผีเอานักหนาเมืองไทยเรานี้ สลดสังเวชนะ เขามาเล่าให้ฟังรายไหนนี้ โอ้โห ก็คือเขาทนไม่ได้นั่นเองเขาจึงมาเล่าให้เราฟัง ใครมาจากที่ไหนมาพูดแบบเดียวกันนี่นะ จะจ้างอะไรก็ตาม ให้ทำอะไรก็ตาม นี่ละกินกันเป็นทอด ๆ กินกันเป็นลำดับ ๆ อย่างนี้ กินเป็นชั้น ๆ ลงไปเลยละ ไม่ใช่จ้าง เอ้า ขุดสระลูกนี้นะห้าพันบาท พอเสร็จเรียบร้อยไปตรวจงานปุ๊บ เอ้า ห้าพันบาทนี้ไม่มี มีแต่กินกันเป็นลำดับ ๆ กว่าจะถึงห้าพันบาทมันเป็นห้าแสนบาทไปแล้วดูซิน่ะ มันเป็นอย่างนั้นนะ
นี่ละอีสานเขียวเขามาเล่า ภาคอีสานเรานี่ละภาคสะแตกไม่หยุด กินหมด ไม่จมยังไงบ้านเมืองเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว มีแต่พวกยักษ์พวกผีกินบ้านกินเมือง บ้านเมืองจะไม่จมได้ยังไง ปากไหนก็มีแต่ปากจะกินจะกลืน ปากที่จะหนุนไม่มีจะทำยังไง เขามาพูดให้ฟัง พูดมากต่อมากนะ ใครอยู่จุดไหนมาพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด เขาจะหาเรื่องใส่เหรอ ไม่หาเรื่องว่างั้นเลย เรื่องต้องเป็นจริงอย่างนั้น เราไม่ไปเห็นเองเขามาเล่าให้ฟัง เราก็นำคำพูดที่เขามาเล่าให้ฟังนี้ กินกันเป็นชั้น ๆ อย่างนี้เลยไม่ใช่กินธรรมดานะ กินกันเป็นทอด ๆ กว่าจะถึงจุดนั้นไปเท่าไรแล้ว ลงถึงจุดนั้นเพียงห้าบาท เอาไปกินแล้วกี่พันบาท มันกินกันขนาดนั้นนะ
ใครเอาเงินมาให้อีสานเขียวอีกซิ ออกมาจากคลังหลวงเอามาให้อีสานเขียวอีกดูซิเป็นยังไง อีสานเขียวอีสานพุงเขียวนั่น พุงใครไม่ทราบแหละ ใครเอาเงินมานี้พวกนี้พวกกิน ตัวอีสานจริง ๆ มันได้ปลูกต้นหนึ่งเท่านั้นบาทเท่านี้บาทเท่านั้นละ ตัวอีสานได้กินเท่านั้นนะ ที่ตัวเขียว ๆ มันอยู่พุงใหญ่นู้น มันออกมาจากตรงไหนนั่นละพุงใหญ่อยู่ตรงนั้น กินอยู่ตรงนั้นนะ อีสานจริง ๆ ไม่กิน เด็กเลี้ยงควายไปปลูกต้นไม้ต้นหนึ่งให้ห้าบาท ต้นหนึ่งให้สิบบาท หรือต้นหนึ่งให้เท่าไรแล้วแต่จะให้แหละ มันกินมาแล้วเป็นพัน ๆ บาท เป็นร้อย ๆ พัน ๆ มาแล้ว กินกี่ทอดมาแล้วนั่น
เขาเล่าให้ฟังเป็นลำดับลำดานะ จ้างมาเป็นทอด ๆ นะ กินกันมาเป็นทอด ๆ เลย กว่าจะถึงต้นไม้ขึ้นต้นหนึ่งนี้กินมาสักกี่ทอดแล้ว สระลูกหนึ่งกี่ทอด ให้สร้างอะไรตรงไหนเป็นคูเป็นคันต่าง ๆ เหล่านี้กินกันเป็นทอด ๆ มา สร้างคลองนั้นคลองนี้ มีแต่คลองยักษ์กินตับแผ่นดินทั้งนั้นแหละ สร้างพอเป็นร่องเป็นรอยพอประดับร้าน ว่าเงินนี้เป็นเงินอีสานเขียว นี่คือเงินพุงเขียวไม่ว่านะ โห สลดสังเวชนะเขามาเล่าให้ฟัง มันพิสดารจริง ๆ นะการกินกันนี่ กินพิสดารมากที่สุดตามที่เขามาเล่าให้ฟัง เราฟังเป็นระยะ ๆ เป็นทอด ๆ กว่าจะถึงจุดลงตัวนี้หมดไปเท่าไร ๆ มันกินกันอย่างนั้นนะ
ไปบอกทางแผ่นดินให้โกยเงินมาอีสานเขียวอีกซิ แล้วที่ไหนเขียวอีก อีสานเขียว ตะวันออกเขียว กลางเขียว ใต้เขียว เหนือเขียว เข้าไปซิ เอ้า ส่งไปให้มันเขียวหมดทั้งประเทศไทยเรานี้แล้วก็จม เขียวหมดแล้วก็จมเท่านั้นละ นี่ละกินกันอย่างนี้ละเมืองไทยเรากินกัน มันหยาบโลนขนาดไหน เลวขนาดไหนชาวพุทธเรา นี่เห็นไหมความโลภมันกินคนอย่างนี้ละดูเอา นี่โทษแห่งความโลภ มันจะเอาบ้านเมืองจมอยู่เวลานี้ คือโทษแห่งความโลภกินไม่หยุดไม่ถอย กินไม่พอปากพอท้อง
กินด้วยอำนาจตัณหากินเท่าไรไม่พอ ถ้ากินเพราะความหิวความโหยในท้องในปากนี้พอ กินลงไปนิดหน่อยอิ่มแล้วพอแล้ว ถ้ากินด้วยกิเลสตัณหานี้กินจนกระทั่งจมก็ไม่พอ เมืองไทยเรานี้จมไปอีกห้าเมืองก็ไม่พอกิน กินแบบนี้นะ
ใครพูด อย่างนี้เขาไม่กล้าพูด แต่กล้าทำกันเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ผู้ที่จะพูดอย่างนี้ตำหนิอย่างนี้ไม่มี ต้องชมกันปร๋อ นี่ไม่ชม ควรติติ ควรชมชม พูดตามหลักตามเกณฑ์ตามเหตุตามผลจึงเรียกว่าศาสนา เป็นอย่างนั้นศาสนา พูดตรงไปตรงมาเลยไม่งั้นเป็นที่เชื่อถือไม่ได้ ศาสนาเหลาะแหละหลอกลวงโลก เป็นที่เชื่อถือไม่ได้ ตายใจไม่ได้ ต้องให้ตรงไปตรงมาจึงเรียกศาสนา
ขนเงินมา จากที่ไหนขนมา ๆ จะมาประดับร้านน่ะซิ ไปสร้างอันนั้นไปสร้างอันนี้พอประดับร้านให้ประชาชนเขาได้เห็น อันนั้นสร้างอันนั้น สร้างถนนหนทาง สร้างตึกหรือสร้างอะไรก็แล้วแต่เถอะดังที่ว่านี้แหละ สร้างพอประดับร้าน ๆ ส่วนใหญ่เอาไปสะแตกหมดเลย เอ้า หมดไปขนมาอีก เอ้า สร้างนั้นสร้างนี้อีก เมืองไทยเราไม่เพียงพอ เอ้าเอามาอีก มันจะพออะไร พุงหลวงมันยิ่งกว่าทะเลหลวงจะพออะไร ขนมาเท่าไรก็ไปสะแตกกันหมด เอามาประดับร้านห้าบาทสิบบาท นอกนั้นไปประดับพุงหลวงหมด จะเอาอะไรมาเหลือเงินน่ะ
นี่ละแผ่นดินไทยเราจมด้วยเหตุนี้เองจะจมเพราะเหตุไร ไม่ได้จมเพราะหาไม่ได้อะไรไม่ได้นะ เพราะหามาได้นี่แหละ หามาแบบไหนมันก็หามา เอาชาติไทยไปอวดไปอ้างเอามา ติดหนี้ติดสินเขาพะรุงพะรังเพราะเหตุเหล่านี้เอง จะเป็นเพราะอะไรไป อ้างเมืองไทยแล้วก็เอาเมืองไทยไปจม เจ้าของเป็นคนกลืน พูดแล้วสลดสังเวชนะ สกปรกมากนะ สกปรกจริง ๆ
ผู้ดีเราไม่ตำหนิ เราตำหนิคนเลวแบบนี้ต่างหาก คนแบบนี้แบบทำลายชาติ แบบทำชาติให้ล่มจม คนดีไม่ทำ คนดีพยุงแทบเป็นแทบตาย ดีไม่ดีถูกเขาดีดออกจากวงราชการงานเมือง เอาคนชั่วเลว ๆ เข้าไปยัดเข้าไปกินบ้านกินเมืองแหลกเหลวไปหมด คนดีดีดออก ไม่ดีดออกก็รำคาญอยู่ไม่ได้ อยู่กับเขาไม่ได้ ถูกเขี่ยถูกดีดออกตกกระป๋องไปก็มี หนีไปก็มี เอาตัวรอดไปเสียดีกว่า ขี้เกียจรำคาญกับพวกสกปรก หนีไปด้วยความรำคาญก็มี มีหลายแบบ นอกนั้นก็กินกันกลืนกันแหลกเหลวหมดเลย
เอ้า ตั้งขึ้นมาใครตั้งขึ้นมา ตั้งขึ้นมาก็มากินกันแบบนี้ ให้แหลกไปหมดแบบนี้ ไม่จมได้ยังไงเมืองไทยเรา ความจริงมันเป็นอย่างนี้ นี้เอามาจากความจริงนี่นะ ข้าราชการลูกศิษย์ลูกหาเต็มทุกกระทรวง ๆ มาเล่าให้ฟังด้วยความสลดสังเวชเขาเอง เราผู้ฟังก็สลดสังเวชเหมือนกัน เรื่องวิธีการกินการโกงการรีดการไถกันนี้ นับไม่ได้เลย กินตลอดแหลกเหลวตลอด สกปรกที่สุดอยู่ในวงเมืองไทยของเรานี่ สกปรกมาก เป็นอย่างนี้แหละ แล้วจะไม่จมได้ยังไงเมืองไทยเมื่อเป็นอย่างนี้ เมืองไหนก็เมืองเถิดถ้าลงกินกันแบบนี้แหลกทั้งนั้นแหละไม่มีเหลือ
มันไม่ได้อายนี่ มันหน้าด้านขนาดนั้นแหละเวลานี้ ด้านที่สุดคือพวกกินนี่ พวกลูกศิษย์ลูกหามีอยู่เต็มแผ่นดินเต็มกระทรวง กระทรวงไหนไม่เป็นลูกศิษย์ของวัดนี้ไม่มี ทีนี้ปากมีตามีหูมีใจมี ก็ต้องเอาจากความคิดความเห็นความรู้เหล่านั้นแหละ ทั้งดีทั้งชั่วเอามาระบายให้ฟัง ปากนั้นพูดอย่างนั้น ปากนี้พูดอย่างนี้ เขาเห็นเหตุการณ์มาอย่างนั้น เห็นเหตุการณ์มาอย่างนี้
เขาไม่ได้มาโกหกเรานี่ พวกนี้ไม่ใช่พวกโกหกเรา พวกเอาความจริงมาเล่าให้ฟังล้วน ๆ ทีเดียว เป็นที่เชื่อถือได้เลย วิธีการของบ้านเมืองที่จะล่มจมไปนี้ เพราะเหตุผลกลไกอะไร เพราะเหตุนี้เอง กินไม่หยุดกินไม่ถอย กินสกปรกที่สุดเลย พวกนี้พวกหน้าด้านพวกสกปรก กินเป็นชั้น ๆ ไปเลยนะ
อย่าว่าอื่น เพียงโฉนดที่ไร่ที่นาเขานี่นะ ก็ข้าราชการเป็นผู้มาทำเอง เป็นผู้มาทำโฉนดให้ประชาชนราษฎรเสียเอง ราชการเป็นที่รับรองยืนยันของประเทศชาติแล้ว มาทำแล้ว เอาอีกราชการหนึ่งมาอีก แล้วว่านี่ใช้ไม่ได้ต้องมาทำใหม่ กินแล้วนะนั่น เอาไปสะแตกแล้ว วิธีการกินอีกแบบหนึ่งมาอีกแล้ว ต้องไปทำใหม่ ทำอย่างนั้น ๆ เรียกเอาเงินเท่านั้น ๆ กินไปอีกแล้วเป็นชั้น ๆ อย่างนี้ เวลานี้เป็นอย่างนั้นนะ น่าทุเรศจริง ๆ นะ
เรานี้ฟังมานานแสนนานมันอัดอั้นตันใจก็พูดเสียบ้างซิ เรื่องเป็นอย่างนั้นจะไม่ให้พูดได้ยังไง เป็นขนาดนั้นนะ นี่ดูตาสีตาสาตามท้องนานี้ โฉนดก็ข้าราชการงานเมืองมาทำให้ แล้วก็หาเรื่องว่าไม่ถูกต้อง แล้วมาทำใหม่ กินเขาอีก เป็นอย่างนั้นนะ กินเป็นชั้น ๆ ไปเลย ทุเรศจริง ๆ นะ ทำไมถึงหยาบโลนเอานัก สกปรกมากนัก หน้าด้านมากนักพวกนี้ พวกหน้าด้านกินบ้านกินเมือง ไม่อายประชาชนราษฎรซึ่งเขาเป็นคนดีบ้างเลย ตัวเป็นคนเลวทรามกินบ้านกินเมือง สกปรกมากที่สุดคือพวกนี้
พวกนักเรียนก็มาอยู่ข้างหลัง มีเยอะ ให้พากันจำพากันฟังนะ เวลานี้คลื่นกิเลสกำลังตีตลาด เมืองไทยนี้จะล่มจมเพราะกิเลสเหล่านี้ละมากต่อมากนะ เราอย่ากลัวว่าจะล่มจมเพราะทรัพย์สมบัติเงินทองข้าวของสูญไปหายไปเสียไป สูญไปเท่าไรไปเพราะกิเลสประเภทเหล่านี้ละ ตีตลาดแหลกไปเวลานี้ยังไม่รู้เหรอ คนเราประพฤติเนื้อประพฤติตัวแบบลืมเนื้อลืมตัวเวลานี้มีเยอะทีเดียว เกลื่อนประเทศไทยเรา เอาลัทธิผีเปรตที่ไหน เมืองนอกเมืองนาเข้ามาเหยียบเมืองไทยซึ่งเป็นเมืองพุทธแหลกเหลวไปหมด ยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวอยู่เหรอเวลานี้น่ะ
มองไปที่ไหนเห็นแต่ลิงแต่ค่างเต็มบ้านเต็มเมือง แล้ว โถ ทำท่ายิ่งใหญ่นะ ยศถาบรรดาศักดิ์ก็สูง ทุกสิ่งทุกอย่างโอ้อวดกัน มีแต่เรื่องของกิเลสโอ้อวดกันเพื่อความล่มจมทั้งนั้น ไม่ใช่เพื่อความเจริญรุ่งเรืองอะไรเลย เพราะกิริยาที่แสดงออกเหล่านี้ไม่ได้ทำบ้านเมืองให้เจริญนะ มีแต่ทำบ้านเมืองให้ล่มจมทั้งนั้นละ มองไปที่ไหนมองดูไม่ได้นะเวลานี้ เจ้าของยังหยิ่งอยู่นะ ต่างคนต่างหยิ่งเต็มบ้านเต็มเมือง
เมืองไทยเราเป็นเมืองลืมเนื้อลืมตัวเสียมากต่อมากนะ ทางไหนมายึด ทางไหนมาคว้า ๆ เอาเลย ไม่มีเนื้อมีหนังเป็นของตัวเองเลย เมืองไทยเราเป็นอย่างนั้น เวลานี้เลอะเทอะมากที่สุดเลย ศาสนาลงไม่ได้นะ ว่าศาสนาพุทธมันมีแต่ลมปากเฉย ๆ ตัวกิเลสมันเต็มบ้านเต็มเมืองเวลานี้ นั้นละแทนศาสนาคือกิเลส ทำความฉิบหาย ถ้าว่าราคะตัณหาก็พิลึกกึกกือนะ เกินบ้านเกินเมือง เหมือนกับว่าราคะตัณหาเหล่านี้ไม่เคยมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเลย พึ่งมามีสองวันสามวันนี้ จึงได้เห่อกันจนเป็นบ้า ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ทุกชาติชั้นวรรณะเป็นบ้ากันทั้งนั้นเวลานี้
ขอพูดเสียบ้างเถอะ ดูโลกนี้ดูมานานแล้ว เราพูดให้เต็มเหนี่ยวดูโลกมา ๔๙ ปีนี้แล้ว ดูอย่างชัดเจนดูอย่างเต็มหูเต็มตา ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวใจเราเลย เราดูด้วยความเต็มเปี่ยมทุกอย่าง ไม่มีที่ว่าจะเสียท่าเสียทีพลาดท่าพลาดทีให้กิเลสทั้งหลาย ตั้งแต่บัดนั้นมาแล้วจนกระทั่งป่านนี้ จึงเรียกว่าถ้าพูดภาษาโลกก็เรียกว่าสนุกดูเรื่องกิเลสเหยียบหัวคนเวลานี้ มันกำลังเหยียบย่ำทำลายเป็นบ้ากันทั้งโลก ยังไม่ได้คิดอ่านบ้างเหรอ
อะไร ๆ มีแต่เรื่องกิเลสออกหน้าออกตาทั้งนั้น แล้วเจ้าของหยิ่งด้วยนะ มันเป็นบ้ากันทั้งหมด หยิ่งหมดตั้งแต่ผู้ใหญ่ถึงผู้น้อย มีแต่หยิ่งเพื่อทำความล่มจมให้แก่ตัวเองและชาติบ้านเมืองนั่นแหละ มันไม่รู้เนื้อรู้ตัวจะว่ายังไง แล้วก็ไปตำหนิว่าบ้านเมืองเป็นอย่างนั้น บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ตัวเป็นยังไงไม่ดู ต่างคนต่างสั่งสม ต่างคนต่างส่งเสริมในสิ่งไม่ดีทั้งหลาย แล้วเหยียบย่ำลงไป ๆ สุดท้ายเมืองไทยก็จะจมไปเพราะความประพฤติลืมเนื้อลืมตัวของเมืองไทยเรานี้แหละ
เป็นจริง ๆ เวลานี้ มันอดทนไม่ได้พูดเสียบ้างซิ ดูมาแล้วเต็มเม็ดเต็มหน่วย บอกชัดเจนขนาดนี้แหละ เอาธรรมออกมาเปิดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง ระวังกิเลสมันจะมารุมธรรมนะ หาว่าหลวงตาบัวพูดอะไรต่ออะไรไปไม่ได้เรื่องได้ราว ได้เรื่องได้ราวแต่กิเลสเท่านั้นแหละ ถ้ากิเลสตรงไหนนี่คว้ามับ ๆ ถ้าเป็นธรรมแล้วปัดปุ๊บ ๆ นะเวลานี้ เป็นอย่างนั้นนะเมืองไทยเรา หมดเมืองไทยไม่ได้เลือก ชาติชั้นวรรณะเพศวัยอะไรก็ตาม ไม่ว่าพระว่าเณรฆราวาสมันพอ ๆ กัน ไม่มีเนื้อมีหนังไม่มีหลักมีเกณฑ์เลย ไขว่คว้าทั้งนั้นแหละเวลานี้ หลักเกณฑ์ไม่มี
พุทธศาสนาเป็นหลักเกณฑ์อันยิ่งใหญ่ครอบโลกธาตุ ไม่ยึดไม่ถือไม่นำมาปฏิบัติพอให้เป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองของเราเลย เอาตั้งแต่เรื่องฟืนเรื่องไฟมาเผาบ้านเมืองตลอดเวลา นับตั้งแต่เด็กจนกระทั่งถึงผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่สุด มีแต่พวกทำลาย มองไปที่ไหนเห็นแต่กิริยาทำลาย ไม่มีกิริยาส่งเสริมติดตัวบ้างเลยทำยังไงเมืองไทยเรา พากันคิดแล้วยังนี่
ภาวนานี้ดูกิเลส ดูกิเลสก็ดูโลกนั่นเองจะไปดูอะไร ดูธรรมก็ดูความยุติธรรม ดูความสงบสุขร่มเย็น ดูกิเลสคือดูฟืนดูไฟ ปฏิบัติมานี้ดูเรื่องนี้ละ เรื่องความเย็นกับความร้อนที่มันฟัดมันเหวี่ยงกัน มีแต่ความร้อนเหยียบย่ำทำลายความสงบร่มเย็นให้แหลกให้เหลวไปหมด มองไปที่ไหนเป็นเหมือนกันหมดเวลานี้ ไม่มีที่มอง มีแต่กิเลสตีตลาดแหลกไปหมดเลย จะทำยังไงบ้านเมืองของเรา
ยับยั้งบ้างซิ เป็นบ้ากันอะไรทั้งบ้านทั้งเมือง รถเขายังมีเบรกทำไมคนไม่มีเบรก เอาสติธรรมปัญญาธรรมพุทธศาสนาเข้าไปยับยั้งตัวเองบ้างซิ การอยู่การกินก็ให้มีขอบมีเขตมีเหตุมีผล มีเครื่องบังคับบัญชาตัว การใช้การสอยก็ให้มีเครื่องบังคับบัญชาตัว อย่าเห่ออย่าเหิมเป็นบ้าไปหมด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอยู่ไปเถอะ พออยู่ได้อยู่ไป สร้างหอปราสาทราชมณเฑียรขึ้นเท่าไรกี่ชั้น สร้างไปแล้วก็จมเหยียบหัวเจ้าของทับหัวเจ้าของไปทั้งนั้น มันดีแล้วเหรอ
นี่ละเขาว่าทำด้วยความเห่อ กินด้วยความเห่อ ใช้ด้วยความเห่อ อยู่ด้วยความเห่อจึงเป็นอย่างนี้ ถ้าอยู่ด้วยธรรม กินด้วยธรรม การใช้การสอยด้วยธรรม แล้วสงบร่มเย็น มีประมาณมนุษย์เราน่ะ มันไม่มีเลยนี่นะ การกินก็ให้กิเลสจูงจมูกพากิน กินอย่างฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมลืมเนื้อลืมตัว กินแบบฉิบหาย การใช้ก็ใช้แบบเห่อเหิมลืมเนื้อลืมตัว ใช้แบบฉิบหาย การอยู่ก็อยู่แบบลืมเนื้อลืมตัว อยู่แบบฉิบหาย ทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่เรื่องแบบฉิบหาย ๆ ทั้งนั้นแหละ มาเข้าบ้านเข้าเมืองเราเวลานี้ แบบเจริญไม่ค่อยมีนะ มีแต่แบบฉิบหาย เอาเรื่องฟืนเรื่องไฟมาเผาไหม้บ้านเมืองแหลกไปหมด ศาสนามีไม่ดูไม่มอง
นี้มอง เรียนศาสนามาปฏิบัติศาสนามา ดูโลกดูธรรมมันฟัดมันเหวี่ยงกันบนหัวใจเรานี่แหละ ไม่ดูที่ไหนแหละดูหัวใจเรา ระหว่างกิเลสกับธรรมฟัดเหวี่ยงกัน ฟัดกันมาจนเต็มเหนี่ยว ๆ ดูกันเต็มเหนี่ยวตลอดเวลา นี่ได้ดูชัดเจนอย่างไม่มีได้มีเสียกับมันแล้วโลกอันนี้ ได้ ๔๙ ปีนี้แล้ว หมดการได้การเสียกับการดูโลกดูธรรม พอทุกสิ่งทุกอย่าง
ดูโลกก็พอ ดูธรรมก็พอ แล้วจึงได้นำธรรมนี้มาสั่งสอนโลกตามสติกำลังความสามารถเรื่อยมา ไม่ว่าจะทางใด สงเคราะห์สงหาเต็มสติกำลัง ไม่มีอะไรเหลือติดเนื้อติดตัวเลย ทุ่มเทลงหมด ทั้งอรรถทั้งธรรมทุ่มเทลงไป ด้านวัตถุมีเท่าไรทุ่มเทลงไป จนกระทั่งมาปัจจุบันนี้เห็นบ้านเมืองเรากำลังเป็นอย่างนี้ อยู่ด้วยวิธีการอย่างนี้ของพวกเรา วิธีการทำลายของพวกเรานี้แหละ จะเป็นวิธีการของใครมาทำลายเมืองไทยเรา
คนไทยเราเป็นผู้ทำลายเสียเอง เพราะฉะนั้นคนไทยเราจึงเป็นผู้ฟื้นตัวของเรา ให้รู้เนื้อรู้ตัวตั้งแต่บัดนี้ต่อไป อย่าลืมเนื้อลืมตัวนะ พิลึกจริง ๆ นะเมืองไทยเรานี่ เป็นเมืองบ้าก็ไม่ผิดเมืองไทยเรานี่ บ้าเห่อบ้าเหิม ใครได้อะไรมานี่ฮือกันเห่อกันบ้ากันไปหมดนั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรยับยั้งตัวเองบ้างเลย ไม่ว่าแต่ผู้ใหญ่ผู้น้อยนะ มันเป็นแบบเดียวกันหมดเลยเวลานี้จะทำยังไง
กิเลสมันมีอยู่เรื่องมี ถ้าไม่มีอะไรเสริมมันก็เหมือนกับไฟในเตาเรามีอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่มีอะไรเข้าไปเสริมก็ไม่ลุกลาม ไม่ไหม้บ้านไหม้เรือน ไหม้สมบัติเงินทองข้าวของให้ฉิบหายป่นปี้ไป ถ้ามันอยู่ในเตามีการรักษากันอยู่นะ นี่กิเลสตัณหามันก็อยู่ในเตา คือในหัวใจของคนเราทุกคนนั่นแหละ ให้มีศีลธรรมเป็นเครื่องรักษามันบ้างซิ จะปล่อยให้มันลุกลามไปอะไรนักหนา
ความโลภก็ลุกลามจนเมืองไทยจะจมเพราะความโลภนี่นะ ไม่ใช่จมเพราะการเสาะแสวงหาเพื่อความเจริญของเมืองไทย มันจมเพราะความลืมเนื้อลืมตัว จมเพราะการดีดการดิ้น จมเพราะความทะเยอทะยาน ได้เท่าไรไม่พอ ๆ ดีดดิ้น โอ๊ย คาดการณ์ไกลทีเดียวนะ ไม่ว่าจะปลูกตึกปลูกร้านทำอะไร ๆ คาดการณ์ไกลไว้ทีเดียว ทำไว้เผื่ออย่างนั้น ๆ กิเลสจูงจมูกไปมันไม่ดู มันคาดไป ๆ แล้วก็หวัง ความหวัง หวังเรื่อย ทั้งคาดทั้งหวังทั้งสร้างทั้งดิ้นทั้งดีด แล้วผลรายได้คือความผิดหวัง จมไป ๆ
เห็นไหมเมืองไทยเราเวลานี้กำลังจมไป ๆ เพราะความคาดความหมายของกิเลสมันดันออกไป แล้วก็ความหวังกิเลสจูงไปอีก สิ่งที่ได้มามีแต่ความผิดหวัง ผิดหวังก็เป็นความทุกข์ล่ะซิ เต็มบ้านเต็มเมืองเวลานี้ ตึกรามบ้านช่องสร้างไว้เพื่อความเจริญ เดี๋ยวนี้กำลังเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้มนุษย์ผู้สร้างนั่นแหละ จะเป็นใครไปที่ไหน นี่ละอำนาจแห่งความโลภ โลภไม่มีเมืองพอ โลภไม่รู้จักอิ่มพอ นี่ละท่านเรียกว่าฟืนว่าไฟ พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์สอนโทษแห่งความโลภไว้ ประกาศกังวานมากี่กัปกี่กัลป์นี้แล้ว โลกของกิเลสตัณหานี้มันไม่ยอมฟังนะ มีแต่ดีดแต่ดิ้น เผาเจ้าของจนเป็นเถ้าเป็นถ่านมันก็ไม่เห็นโทษของความโลภจะว่าไง
ให้อยู่ด้วยธรรม กินด้วยธรรม ใช้ด้วยธรรมแล้วไม่เดือดร้อนมากนะมนุษย์เรา เดี๋ยวนี้มันเดือดร้อนเพราะอันนี้ละ เลยเถิด..ความโลภ เมื่อมีความโลภแล้วความโกรธจะไม่มีได้ยังไง เมื่อไม่ได้ก็หงุดหงิดอย่างน้อย แล้วครุ่นคิดทั้งวันทั้งคืน เอาไฟเผาในหัวอกเจ้าของตลอดเวลา เพราะความคิดความคาดไว้ไม่สมหวัง มีแต่ความผิดหวัง ๆ
พูดถึงเรื่องราคะตัณหาก็เอา เหมือนกับว่าราคะตัณหาไม่เคยมีมาเลย พึ่งมีมาวันสองวันนี้ มันมีมากี่กัปกี่กัลป์แล้วก็ไม่รู้ ปราชญ์ทั้งหลายบรรพบุรุษท่านรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ด้วยให้ไฟอยู่ในเตา มีศีลธรรมครอบเอาไว้ ๆ บ้านเมืองของเราทั้งที่มีกิเลสอยู่นี้แหละก็อยู่กันเป็นผาสุก แต่เวลานี้เปิดไฟแล้วไสไฟนี้ออกนอกเตา มันก็ลุกลามไปใหญ่ล่ะซิ ใครก็ไสออกนอกเตา ๆ เผาบ้านเผาเมือง เผาไม่มีประมาณ แหลกเหลวไปหมดเพราะไฟลุกลามออกนอกเตา ไม่มีศีลธรรมเป็นเครื่องรักษานั่นแหละมันถึงได้เป็นไปอย่างนี้
ผัวเมียอยู่ด้วยกันก็อยู่ไม่ได้นะ เป็นฟืนเป็นไฟอยู่ด้วยกันนั่นแหละ เพราะไว้ใจกันไม่ได้ เนื่องจากราคะตัณหานี้ลุกลามออกนอกเตา ผู้หญิงคนหนึ่งมันอยากได้ ๒๐ ผัว ๓๐ ผัว ร้อยผัวพันผัวหมื่นผัวก็ไม่พอ ผู้ชายคนหนึ่งก็แบบเดียวกัน ได้เมียหนึ่งสองเมียไม่พอ ๒๐ เมีย ๓๐ เมีย พันเมียหมื่นเมียเป็นล้านเมียก็ไม่พอ ๆ นี้คือไฟนอกเตาดูเอา มันลุกลามไปทุกแห่งทุกหนเผาไหม้ไปหมด นี่ละราคะตัณหามันเผาบ้านเผาเมืองมันเผาอยู่อย่างนี้ เพราะคนส่งเสริมมัน
ถ้าต่างคนต่างมีศีลธรรม เข้มงวดกวดขันระมัดระวังให้เป็นไฟในเตา ก็ใช้ประโยชน์ได้ เห็นไหมไฟอยู่ในเตา หุงต้มแกงอะไรก็เอาจากไฟในเตา ไม่ได้เอาจากไฟนอกเตาละนะ ความลุกลามเหล่านี้มันฉิบหาย ความอยู่ในเตามันเป็นผลเป็นประโยชน์ อันนี้กิเลสตัณหาเหล่านี้ ท่านรักษาให้เป็นไฟในเตาจึงเรียกว่ากามคุณ กามคุณแปลว่าอะไร กามเป็นคุณเป็นประโยชน์ หรือว่าคุณของกาม
คือรักษาไว้ด้วยศีลธรรมแล้วกามก็เป็นคุณเป็นประโยชน์ ถ้ารักษาไว้ไม่ได้แล้วก็ว่ากามโทษ กลับกันปุ๊บเดียวเลยเป็นกามโทษ มีแต่โทษของกามทั้งนั้นเผาไหม้บ้านเมืองเวลานี้ เพราะคนไม่รู้จักประมาณ ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม เป็นบ้ากันทั้งโลกทั้งสงสาร ศีลธรรมไม่มี น้ำดับไฟไม่มี มีแต่ไฟลุกลามอย่างเดียว แล้วก็ไสกันเข้ามา เชื้อไฟอยู่ที่ไหนไปกว้านเข้ามาเผา ๆ นั่นซิ
นี่อ่านเสียเต็มที่แล้ว ธรรมพระพุทธเจ้าก็มีปากเดียวเท่านี้มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง คลื่นกิเลสมันเท่าท้องฟ้ามหาสมุทร ธรรมเท่ากับฝ่ามือ ต้านทานกันได้ยังไง นี้มาพูดปากเดียวนี้ ทั้งโลกนี้เป็นโลกกิเลสทั้งนั้น เป็นคลื่นของกิเลสทั้งนั้น แล้วมันก็โจมตีแหลกไปหมด หาว่าพูดบ้า ๆ บอ ๆ พูดไม่มีหลักมีเกณฑ์ พูดดุพูดด่า พูดโมโหโทโส พูดหยาบพูดโลน กิเลสมันหาไปอย่างนั้นนะมันกลบของมัน
ตัวมันตัวหยาบโลนที่สุด ตัวสกปรกที่สุด ตัวโหดร้ายที่สุด คือกิเลส แต่มันไม่ให้แตะมัน พอธรรมแทรกเข้าไปนี้มันจะโจมตีทันทีเลย เห็นไหมอำนาจของกิเลส มันรุนแรงขนาดนี้ละ ธรรมจึงอยู่ไม่ได้เวลานี้ แตกไปหมด คนดีจะอยู่ไม่ได้นะ จะมีแต่คนชั่วเต็มบ้านเต็มเมือง เผากันตลอดเวลาคนชั่ว เผากันไม่มีประมาณ ความชั่วคนชั่วเผากันเผาตลอดเวลาไม่มีประมาณ ศีลธรรมไม่ได้เผา แต่อยู่ไม่ได้นะคนดี แม้จะไปทำในราชการงานเมืองก็ถูกเขาเขี่ยเขาเตะออกจากวงงาน อย่างน้อยก็อยู่ไม่ได้ รำคาญกับพวกสกปรกโสมมนี้
มันทำลายตัวเอง ทำลายชาติบ้านเมือง ทำลายสังคมไม่มีประมาณพวกนี้ ทำลายหมด คนดีที่มีศีลธรรม มีขอบเขตมีหลักมีเกณฑ์ต่อชาติบ้านเมืองอยู่ไม่ได้นะ อย่างน้อยก็รำคาญ มากกว่านั้นถูกบีบถูกเขี่ยออกไป ๆ ให้มีแต่พวกเลวที่สุดอยู่ในวงงาน แล้วสนุกกินสนุกกลืนกันไปแหลกกันไปหมดนั่นแหละ นี่พวกสกปรกมากที่สุด พวกทำลายชาติบ้านเมืองคือพวกสกปรกมากนี่ละทำลาย จะเป็นใครทำลาย
แล้วกิริยาออกมานี่ประดับหน้าร้านนะ ให้สวยให้งามทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ดูแล้วเจริญหูเจริญตา มันเจริญตากิเลสเพื่อเผาคนต่างหากนี่นะ มันไม่เจริญตาเพื่อความชุ่มเย็นของจิตใจนี่นะ นี่ละความห่างเหินจากศีลจากธรรมเป็นอย่างนี้ พี่น้องทั้งหลายจำเอานะ พิจารณา วันนี้เปิดอีกช่องหนึ่งให้พากันฟัง
ธรรมพระพุทธเจ้าเป็นอย่างนี้ละ ดูโลกดูตลอดทั่วถึง ไม่มีใครดูละเอียดยิ่งกว่าธรรมดูโลก ไม่มีใครดูละเอียดยิ่งกว่าธรรมดูกิเลส แต่ธรรมดูกิเลสท่านไม่ได้เหมือนกิเลสดูธรรม กิเลสดูธรรมโจมตีทันที ๆ เอาให้แหลกเหลวไปหมด ตัวสกปรกที่สุดเป็นฟืนเป็นไฟที่สุดคือกิเลส แต่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครยกโทษมัน ไม่มีใครหลีกเลี่ยงมัน ไม่มีใครเห็นว่ามันเป็นข้าศึกศัตรู จึงต่างคนต่างสั่งสม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วก็ต่างคนต่างเป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้กัน
มองเห็นหน้ากันถามเรื่องสุขเรื่องทุกข์ มีแต่กองทุกข์เอามาอวดกัน ความสุขมีที่ไหนรายใดเอามาอวดบ้างซิ เอา เราพูดเฉพาะในประเทศไทยของเรานี่ ที่พากันดีดกันดิ้นจนจะเป็นจะตาย ตั้งแต่วันเกิดมาจนกระทั่งป่านนี้ ได้ความสุขอะไรมาอวดบ้างเพราะอำนาจของกิเลสพาแสวงหาน่ะ มีไหม ไม่มีนี่นะ
ถ้าเป็นธรรมแล้วมีทันที อยู่ที่ไหนก็มีถ้ามีธรรม อย่างน้อยเข้าห้องพระไปทำความสงบเย็น พุทโธ ธัมโม สังโฆ ระลึก อิติปิโส ภควา ภาวนาพุทโธ ๆ เย็นฉ่ำลงไป เย็น นั่นละน้ำดับไฟดับเวลานั้น นอกจากนั้นแล้วมีแต่ไฟเผา ไฟเผาน้ำให้เดือดพล่าน ๆ อยู่ นั่นละไฟเผาน้ำ เมื่อมันมีกำลังมากน้ำที่ให้ความร่มเย็นก็ให้ไม่ได้ คนดีมีน้อย คนชั่วมีมาก มันเผาคนดีให้แหลกไปอย่างนั้นแหละ
ให้พากันมีหลักมีเกณฑ์บ้างซิ เมืองไทยเราทั้งเมืองทั้งชาติ ศาสนาพุทธเป็นหลักเป็นเกณฑ์อันสำคัญที่จะนำไปปฏิบัติให้เป็นแก่นเป็นสาร เป็นเนื้อเป็นหนังแก่ชาติไทยของเรา อันนี้มีแต่เอาพวกกาฝากเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นพวกประเภทกาฝาก ลากเข็นกันเข้ามา กว้านกันเข้ามา เอามาเผาบ้านเผาเมือง เข้ามาที่ตรงไหนเป็นไฟที่ตรงนั้น เผาที่ตรงนั้น
ได้อะไรมาก็ต้องเอาตับเอาปอดของเราไปกิน ๆ พวกนี้พวกฉลาดหากินตับกินปอดคนโง่นะ แล้วคนโง่อย่างเมืองไทยของเรานี้มีหลวงตาบัวเป็นต้น แล้วไม่มีตับติดตัวนะ หลวงตาบัวพูดโว้ ๆ อยู่เวลานี้ท่านทั้งหลายเข้าใจว่ามีตับเหรอ ไม่ได้มีตับ กิเลสกาฝากเอาไปกินหมดนั่นแหละ อย่าให้มันเป็นเหมือนหลวงตาบัวไม่มีตับนะ ให้พากันมีตับบ้างซิ ให้เหลือหลออยู่ในเนื้อในกายของตัวเองบ้าง นี่หลวงตานี่หมดตับแล้วนะ เพราะความโง่นั้นแหละให้กิเลสมันเผาเอา ๆ กินเอา มาจากทิศใดแดนใดคว้ามับ ๆ ลิงร้อยตัวสู้ไม่ได้ เรื่องคว้าในสิ่งฉิบหายมาเผาตัวเองนี้ลิงร้อยตัวสู้ไม่ได้
ดูจริง ๆ ดูโลก พระพุทธเจ้าท่านดูจริง ๆ ดูจนเป็นโลกวิทู รู้แจ้งเห็นจริงโลก ทั้งกิเลสทั้งธรรมกระจ่างแจ้งไปหมด แล้วคัดเลือกเอาธรรมมาสอนโลก แต่พวกเราที่เป็นชาวพุทธมันกลายเป็นชาวผีไปแล้ว ไม่ได้เป็นชาวพุทธนะเวลานี้ เป็นชาวผีไปหมด ที่พูดเหล่านี้พากันเอาไปพิจารณานะ ไม่ได้พูดทิ้งเปล่า ๆ นะ
การปฏิบัติตัวมานี้ก็แทบล้มแทบตาย เดนตายมาได้มาสอนพี่น้องทั้งหลาย อย่างที่เราทำประโยชน์ให้โลกเวลานี้ ตัวเราเองเราไม่มีอะไร เราพอทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ถ้าเป็นน้ำก็เต็มแก้วแล้ว ไม่มีอะไรจะมาเพิ่มเติมอีกแล้วเรียกว่าพอ ทุกสิ่งทุกอย่างพอหมดแล้วไม่บกพร่องอะไรเลย อยู่ด้วยความพอ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ด้วยความพอ ลมหายใจหายใจอยู่ด้วยความพอถึงวันตาย ถึงวันตายไปด้วยความพอ ตายแล้วก็พอ ยังมีชีวิตอยู่นี้ก็พอ
แต่เหตุใดจึงมาดิ้นรนกระวนกระวาย พาพี่น้องทั้งหลายดีดดิ้นเพื่อชาติไทยของเรา ซึ่งเวลานี้กำลังจะล่มจมอยู่ด้วยความเห่อของชาติไทยเรานั่นแหละ ให้ฟื้นตัวขึ้นมาด้วยความมีสติสตังยับยั้งตัวเอง ต่างคนต่างยับยั้งตัวเองบ้าง แล้วก็ได้ตะเกียกตะกายมาช่วยพี่น้องทั้งหลายอยู่เวลานี้ เราไม่ได้มาด้วยความหิวโหย เราไม่ได้มาด้วยความหวังอะไรจากพี่น้องชาวไทยทั้งหลาย เราหวังให้พี่น้องชาวไทยทั้งหลายได้ฟื้นขึ้นมาจากที่กำลังหล่มลึกอยู่เวลานี้ ให้กลับตัวขึ้นมาด้วยความมีสติสตัง ปรับเนื้อปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ที่เป็นสิ่งที่เลวร้ายกำลังล้อมรอบประเทศไทยเราอยู่เวลานี้ ให้ต่างคนต่างรู้เนื้อรู้ตัว
ทุกสิ่งทุกอย่างให้ประหยัด ฟังคำว่าประหยัด เดี๋ยวนี้มันไม่ประหยัดนะ มันเฟ้อเสียทุกสิ่งทุกอย่างเฟ้อหมดเลย ไม่มีขอบเขตไม่มีหลักมีเกณฑ์ ให้มีขอบเขตบ้าง ให้ประหยัด การอยู่การกินการใช้การสอยให้ประหยัดเข้ามาทุกด้านทุกทาง นี้เรียกว่าการปรับตัวเพื่อความมั่นคงของชาติบ้านเมืองและตัวของเราเอง ต้องปรับอย่างนั้น นี่ก็พยายามช่วยพี่น้องทั้งหลาย เราช่วยเต็มเหนี่ยว ถ้าพูดถึงเรื่องร่างกายนี้ ลำบากลำบน ไม่อยากเล่นไหนแล้ว ไม่อยากเอาไหนแล้ว ปล่อยเลย แต่พอว่าชาติไทยเท่านั้นก็บืนขึ้นมา ๆ เพื่อช่วยพี่น้องทั้งหลาย
เพราะการเป็นผู้นำไม่ได้โอ้ได้อวดนะ ผู้นำไปหาซิหาที่ไหน หลวงตานี้ไปหาแล้วนะ ก่อนที่จะมาเป็นผู้นำการบริจาคของพี่น้องทั้งหลายนี้หาเสียจนอกจะแตก พูดให้ตรงศัพท์เลยเทียว ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็เอาหัวชนฝามาเป็นผู้นำนะ ก่อนที่จะมาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายนี้คิดเสียจนเต็มหัวอก เพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัยของชาติไทยเรา เราจะออกทางไหน ๆ จะมอบให้หน่วยงานใด มอบให้บุคคลผู้ใด ที่จะเป็นผู้นำเพื่อความปลอดภัยของชาติไทยเรา มองไปที่ไหนก็ปิดตันอั้นตู้ไปหมด ๆ มีแต่อันตรายรอบด้าน ๆ มันปลอดภัยไม่ได้ เคลื่อนออกไปก็เป็นฟืนเป็นไฟเผากันไปพร้อม ๆ นี่ละจึงว่าหาผู้นำหาที่ไหนว่างั้นเลย มันหาไม่ได้
ก่อนที่เราจะออกมาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลาย เราหาผู้นำก่อนนะหาหมดประเทศไทย ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามผู้ใด เรื่องความปลอดภัยไม่ปลอดภัยมันอยู่ในช่องนั้น ๆ ก็บอกว่ามันมี จะมีอยู่กับใครก็ตาม มันไม่ปลอดภัยก็บอกว่าไม่ปลอดภัย จนหมดสติกำลังความสามารถค้นที่ไหนก็ไม่ได้ พอที่จะไว้วางใจเพื่อความปลอดภัยของชาติเรา มันมีแต่ช่องโหว่ ๆ เต็มบ้านเต็มเมือง ก็เพราะขาดศีลขาดธรรมนั้นแหละไม่ใช่ขาดอะไรนะ ที่จะทำให้ไว้ใจกันไม่ได้ คนทั้งชาติไว้ใจกันไม่ได้เพราะขาดศีลขาดธรรม มีแต่กิเลสตัณหาย่ำยีตีแหลกเผาไปหมดบ้านหมดเมืองแล้วคนเราไว้ใจกันได้ยังไง
ผู้นำที่ไว้ใจได้ต้องเป็นผู้มีธรรม ไม่มีธรรมไว้ใจกันไม่ได้ ผัวกับเมียทะเลาะกันกัดกันแตกจากกันก็เพราะความไว้วางใจกันไม่ได้ ถ้ามีศีลธรรมเข้าไปปั้บเท่านี้ ผัวเมียเป็นคู่พึ่งเป็นพึ่งตายฝากเป็นฝากตาย ลมหายใจจมูกเดียวกันพอแล้ว ไม่ต้องหาสองสามจมูกละคนหนึ่ง ๆ เพียงลมหายใจจมูกเดียวพอแล้วสองคนสามคนผัวเมียนะ เท่านั้นพอ ลูกคนหนึ่ง ผัวคนหนึ่ง เมียคนหนึ่ง สามคนนี้จมูกอันเดียวกันพอแล้ว นี่เพราะความไว้วางใจกัน นี่ละธรรมไปอยู่ที่ไหนตายใจได้ที่นั่น
นี่จะหาผู้ที่ตายใจมาเพื่อฝากฝังชีวิตจิตใจฝากบ้านฝากเมืองให้กับผู้นั้น พานำชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองแน่นหนามั่นคงมันก็หาไม่ได้จะว่าไง นี่ละที่ว่าหา ไม่ใช่แบบหัวชนฝามาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายนะ คิดขนาดนั้นละก่อนที่จะมาเป็นผู้นำ หมดทาง จนจะหมดหวัง จึงได้ย้อนมาหาเจ้าของนั่นซิ จะว่าเจ้าของอวดเราก็ไม่ได้อวดเราพูดตามหลักความจริง เราเชื่อเราก็บอกว่าเราเชื่อเรา เมื่อหาที่เชื่อไม่ได้แล้วเจ้าของเชื่อเจ้าของได้ไหม ย้อนเข้ามาแล้วที่นี่
เจ้าของแน่ใจว่าเชื่อได้ มีเท่าไรปลอดภัยทั้งนั้น แน่ใจ หมดทุกด้านแล้วมาลงที่จุดนี้ จะมีมากมีน้อยก็ตามแน่ใจว่าปลอดภัย ๆ รวมแล้วก็จึงมาลงจุดนี้ละ น้อยก็ตามมากก็ตามขอให้ปลอดภัยเป็นที่พอใจ ได้สตางค์หนึ่งไม่หลุดไม้หลุดมือก็ใช้ได้ ได้สิบสตางค์ยี่สิบสตางค์ไม่หลุดไม้หลุดมือรั่วไหลไปไหนก็ใช้ได้ ๆ มีหมื่นมีแสนมีล้านขาดสะบั้นไปหมดใช้ไม่ได้เลย นั่นเอาตรงนี้ละเป็นจุดวัดตวงกัน มีเงินหมื่นเงินแสนเงินล้านไว้ใจไม่ได้ รั่วไหลแตกซึมไปเป็นประโยชน์อะไร มีห้าสตางค์ไม่รั่วไหลแตกซึมก็เป็นประโยชน์ห้าสตางค์ สุดท้ายก็มาลงห้าสตางค์นี้แหละ
มีน้อยวาสนาน้อยเอาช่องเล็ก ๆ ถ้าเป็นท่อน้ำก็ท่อเล็ก ๆ ไหลลงไปช่องนี้ทะลุปรุโปร่งถึงความปลอดภัย ๆ เอ้า เอาช่องนี้ จึงได้นำตัวออกมาประกาศพี่น้องทั้งหลายให้ทราบทั่วหน้ากัน ว่าเวลานี้ได้เป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายแล้วนะ ใครมาบริจาคเราก็รับไว้ ๆ เพื่อเข้าคลังหลวง เข้าคลังหลวงก็เพื่อความปลอดภัยของชาติเรานั่นเอง เราจึงได้เริ่มรับมาตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งป่านนี้ด้วยความเชื่อตัวเอง ว่าร้อยก็ร้อย ว่าล้านก็ล้านเปอร์เซ็นต์ เราไม่สงสัยในตัวของเราแล้ว เราเป็นผู้อิ่มพอแล้วทุกอย่าง
เราไม่หวังอะไรทั้งนั้นนอกจากความเมตตาสงสารโลก จึงได้สละตัวลงเต็มเหนี่ยว เอ้า ชาตินี้จะขาดสะบั้นลงไป ถ้าหัวหลวงตาบัวยังไม่ขาดชาติจะขาดไปไม่ได้ว่างั้นเลย หลวงตาบัวเอาหัวเอาคอเข้ารองชาติบ้านเมืองของเราเลยในการเป็นผู้นำคราวนี้ ไม่ได้ทำเล่น ๆ นะ ถ้าคอหรือหัวชาติบ้านเมืองเราจะขาด ขอให้คอหลวงตาบัวขาดไปเสียก่อนคอของชาติจึงจะขาดไปได้ตามหลัง ถ้าคอหลวงตาบัวยังมีอยู่จะฟัดจนเต็มเหนี่ยวไม่มีหยุดมีถอย ฟัดกับอะไร ฟัดกับความจนของชาติไทยของเรานั่นแหละ
ต่างคนต่างขวนขวาย ต่างคนต่างดีดต่างดิ้น ช่วยคนละไม้ละมือ ใครอยู่ที่ไหน เอ้า ช่วยกัน ๆ นี่คือความเจริญของชาติบ้านเมือง เมื่อได้มาแล้วเก็บหอมรอมริบไหลลงสู่ช่องปลอดภัย เมืองไทยของเราเจริญได้รอดได้
เอาละพอ