ฟังอีกทีหนึ่งนะ ท่านทั้งหลายได้คิดหรือเปล่าเรื่องเหล่านี้ เวลานี้ข้าศึกศัตรูอันใหญ่หลวงกำลังเกิดในชาติไทยของเรา จะมาทุกแบบทุกฉบับ จะมาในนามของผู้ใจบุญ แสดงอาการต่าง ๆ แข่งกับบ้านกับเมืองที่เขามีใจบริสุทธิ์อันดีงาม ทำบุญให้ทานเพื่อหนุนชาติศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง นี่เป็นหลักความจริงพื้นฐานของชาวพุทธ ทีนี้เมื่อชาวพุทธมีชาวผีมันจะมี อาจจะตั้งกองบุญกองกุศลอันใหญ่หลวงขึ้นมา แล้วเอาใจกลางนครหลวงเป็นจุดศูนย์กลางแห่งข้าศึกศัตรูที่แทรกเข้ามาในพุทธศาสนาเวลานี้ อาจจะตั้งขึ้นเป็นกองบุญกองทานถวายผ้าป่าประเภทต่าง ๆ แล้วอาจจะว่าเพื่อเป็นเงินทุนหนุนนั้นหนุนนี้ก็ได้ แล้วเงินจำนวนนี้จะออกทุกแบบทุกฉบับ ออกแบบเอาเงินของยายออกมา ให้ยายนี้แต่งงาน ไอ้หนุ่มหลาย ๆ คนนั้นมาแต่งงานกับยาย แล้วค่าสินสอดค่าดองแต่งงานนั้น จะเป็นกี่หมื่นกี่แสนกี่ล้านเราไม่นับละนะ ยายคนนี้จะเป็นผู้ที่รับสินสอดค่าดองจากการแต่งงานทั้งหลาย ที่จะเอามาแต่งงานของคุณยายนี้นะ

สมบัติอะไรที่อยู่ในตู้เซฟ จะขนออกมากระจายประกาศให้โลกทั้งหลายได้เห็นว่า นี้คือผู้ยิ่งใหญ่ ได้สร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ดีไม่ดีทับหัวเมืองไทยเราก็ได้ เงินนี้ไม่ทราบมาจากไหน ๆ ครั้นสุดท้ายก็เอามาจากนี้แหละ ฟังให้ดี ออกมาจากตู้จากเซฟจากอะไรนี้ เงินของยายเองนั้นแหละออกมากระจายไปให้โลกทั้งหลายได้ทราบแล้ว ก็เข้าถุงยายตามเดิมนั่นแหละไม่ไปไหน ให้พากันคิดให้ดีข้อนี้ มันจะเป็นได้ เรื่องอย่างนี้ต้องเป็นได้ว่างั้นเลย ให้ท่านทั้งหลายทราบก็แล้วกัน กองการกุศลมหากุศลหรืออะไรก็แล้วแต่จะพิจารณา จะเกิดขึ้นในท่ามกลางกรุงสยามของเรานี้แหละ เฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางกรุงเทพเรามันจะเกิดขึ้น อาจจะเป็นวันนี้วันไหนก็ไม่ทราบแหละ แต่มันจะเกิดขึ้นแบบพิสดารมากทีเดียว

คนทั้งหลายคิดอัศจรรย์อั้นตู้กันทั้งหมดละ เกิดมาแต่พ่อแต่แม่ก็ไม่มีเงินมาทำบุญให้ทานขนาดนี้ แล้วในประเทศไทยเรานี้มีกี่ยาย ก็ไม่เคยมียายไหนที่จะได้รับค่าสินสอดค่าดอง ค่าแต่งงานจากไอ้หนุ่มไม่กี่หนุ่มอยู่นั้น มาแต่งงานนี้ เงินนี้ไม่ทราบว่าเป็นกี่ล้าน ๆ ก็แล้วแต่แหละ ยายคนนี้แกมีชื่อมีเสียงมากทีเดียว เพราะไม่มีใครในเมืองไทยได้สินสอดค่าดองมากยิ่งกว่าเงินยายแก่คนนี้ เอาละเอาแค่นี้เป็นข้อคิดกัน เข้าใจไม่ใช่เหรอที่พูดนี่ เงินยายแก่ออกไปแล้วก็มาหายายแก่ ให้พากันพิจารณาเสีย เป็นทุกแบบนั่นแหละ

เมื่อวานนี้ทองคำไม่ได้ พักเครื่อง ดอลลาร์ได้ ๓๕๐ ดอลล์

พี่น้องทั้งหลายอย่าไปเสียอกเสียใจกับใคร เขาจะมาโจมตีต่อว่าหลวงตาบัวอะไร ๆ ก็ตามอย่าไปสนใจนะ ให้เขียนตะกร้าเอาไว้ มาก็โยนในตะกร้าไว้หมด อย่าไปสนใจ คำเหล่านี้ไม่ใช่คำเป็นสิริมงคล เป็นคำที่เสนียดจัญไรมาก พอหูฟังแล้วจะกระเทือนเข้าสู่ใจเผาหัวใจอีก เพราะฉะนั้นจึงว่าไม่ฟังเสียเลย เรื่องดีอะไร ๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่เราให้พากันสนใจทำ สนใจฟัง สนใจดูสิ่งเหล่านั้น อันใดไม่ดีให้ปัดทันที เหมือนอย่างมูตรอย่างคูถ เดินไปนี้เรายังหลีกมัน ๆ จะไปกล้าหาญเหยียบมัน ว่าทำไมมันเหม็นนัก แล้วเลอะหมดทั้งเท้า ถ้ายังไม่ถนัดใจไปเอามือมาแตะปั๊บแล้วใส่จมูกอีกไปอีก เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นให้ปัดเสียเลย

หลวงตาบัวไม่มีอะไรแล้วกับโลกธาตุอันนี้ ว่างั้นเลย ใครจะเอาอะไรมายังไงๆ ก็คือหลวงตาบัวองค์เก่า ไม่มีอะไร ที่เราพูดเตือนนี้กลัวลูกศิษย์ลูกหา ไม่อยากบอกว่าพูดส่วนได้นะ คือเราอยากพูดตรง ๆ เลยว่า จะมีส่วนเสียทั้งนั้น ๆ ไปเลย เขาจะตำหนิหลวงตาบัวอย่างนั้นอย่างนี้ จะให้สมใจของเขาเขาจะต้องออกมาทุกแบบ ๆ เข้าใจไหม ตำหนิก็ช่างเถอะอย่าไปสนใจ พระพุทธเจ้าของเรานี้รับไปหมดแล้วก่อนพวกเรา ทำไมหลวงตาบัวตัวเท่าหนูจะไม่ผ่านตามสายทางพระพุทธเจ้าเสด็จไปก่อนแล้วล่ะ

เขาไม่พอใจพระพุทธเจ้า แล้วเขาก็จ้างคนไปโฆษณาว่ากล่าวด่าพระพุทธเจ้า เอาอย่างชัดเจนเลยคือยืนเป็นแถวเลย พระพุทธเจ้าเสด็จออกบิณฑบาต เขาจ้างคนมาด่า ด่าไอ้อูดไอ้ลาไอ้หัวโล้นโกนคิ้วไอ้สิ้นท่า ไอ้คนไม่มีราค่ำราคา ไอ้คนขอทาน ประกาศโฆษณาลั่นไปเลย พระพุทธเจ้าก็เป็นพระพุทธเจ้าคือองค์ศาสดาเต็มองค์ ๆ เสด็จบิณฑบาต พระอานนท์มีความเสียอกเสียใจทุกสิ่งทุกอย่าง รวมเป็นฟืนเป็นไฟเผาหัวอกพระอานนท์ จึงทูลอาราธนาขอพระองค์เสด็จไปเมืองอื่น โปรดเมืองอื่น เพราะเมืองนี้เขาตำหนิติเตียนโจมตีทุกสิ่งทุกอย่างดังที่ได้ยินมาอยู่ตลอดนี้แล้ว

จะไปเมืองไหนล่ะ อานนท์ นั่นท่านรับสั่งถาม เป็นคติดีไหม นั่นฟังซิ

ไปเมืองโน้น

เมืองโน้นเขามีปากมีหัวใจเหมือนกันไหม เมื่อเขามีหัวใจเหมือนกันแล้วกับเมืองนี้ ถ้าเกิดเขาด่าเหมือนเมืองนี้แล้วจะไปเมืองไหน

ไปเมืองโน้น

แล้วเมืองโน้นก็เป็นอีกแบบเดียวกันแล้วว่าไง สุดท้ายอานนท์ไม่มีที่ไป เข้าใจไหม เรื่องโลกธรรม ความได้มาความเสียไป ความชมเชยความสรรเสริญ ความสุขความทุกข์นี้มีประจำโลกมานานแสนนานแล้ว อานนท์อย่าไปตื่นเต้น การเรียนธรรมต้องเรียนให้รู้รอบในสิ่งเหล่านี้แล้วแสนสบาย อย่างตถาคตไม่ได้มีอะไรเลย สบายตลอดเวลา นั่นฟังซิ ให้เอาเรื่องของเราตถาคต ซึ่งเรานี้เป็นเหมือนกับตัวช้างใหญ่ที่ออกสู่สงคราม จะไม่คำนึงถึงลูกศรศาสตราอาวุธอะไร จะมีหน้าที่ก้าวเดินเพื่อชัยชนะโดยถ่ายเดียวเท่านั้น

ชัยชนะก็คือว่าชำระกิเลสอย่างที่เขาดุเขาด่า รู้เท่าทันก็ชนะไปเรื่อย ๆ เข้าใจไหม ให้อานนท์ดำเนินอย่างนี้ นี่พระพุทธเจ้าทรงเป็นมาแล้ว เหตุใดหลวงตาบัวตัวเท่าหนู เขาว่าลูกศิษย์ลูกหาก็จะแว้ ๆ ๆ ใส่เขา นี่เขาได้ผลแล้วนะ แว้ ๆ แล้ว ว่ามาก็เฉยซิ ไม่ได้ผล เข้าใจไหม หลวงตานี่ใครจะได้ผลไม่ได้ก็ตาม หลวงตาเป็นหลวงตาอย่างนี้ไปตลอด ใครจะว่าอะไรก็ไม่มีอะไรกับใคร ให้บรรดาพี่น้องลูกหลาน ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายให้กำหนดกฎเกณฑ์เลือกเฟ้น อันใดที่จะเป็นภัยต่อเราให้ปัดออก ๆ คำติฉินนินทาซึ่งหาความจริงไม่ได้นี้เป็นภัยต่อตัวเขาเองอยู่แล้ว สาดกระจายมาหาพวกเรา เราก็จะฉวยมับ ๆ จะกลายเป็นภัยต่อเราไม่น้อย ให้พากันระมัดระวัง

เขาจะว่าอะไรช่าง พี่น้องทั้งหลายก็ทราบแล้ว ตัวของเราเองผู้นำพี่น้องทั้งหลายนี้ก็ทราบแล้วว่า เราช่วยชาติเต็มกำลังความสามารถด้วยความเมตตา ด้วยความถูกต้องแม่นยำกับอรรถกับธรรม ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากอรรถจากธรรมเลยที่พาพี่น้องทั้งหลายก้าวเดินเวลานี้ เพราะฉะนั้นจึงขอให้ยึดหลักธรรมที่ถูกต้องนี้ไว้ในหัวใจ ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา ดีกับชั่วมีมาดั้งเดิม ถ้าหากว่ามีมาเมื่อวานเมื่อวานซืนค่อยยังชั่ว นี้มีมาดั้งเดิม ความสกปรกความสะอาดก็มีมาดั้งเดิม ชะล้างกันไปอย่างนี้ ๆ ถูกต้อง เข้าใจไหมล่ะ เอาละทีนี้จะให้พร เก้าโมงกว่าแล้ว

เปิดดูข้อมูล วันต่อวัน ทันต่อเหตุการณ์ หลวงตาเทศน์ถึงเรื่องอะไร ทาง internet

www.luangta.com