จะทนให้เขาเหยียบหัวอยู่เหรอ
วันที่ 2 กรกฎาคม. 2542
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒

จะทนให้เขาเหยียบหัวอยู่เหรอ

เงินออสเตรเลียครับ ๑๐ เหรียญ เหรียญหนึ่งเหยียบหัวไทยเราไปเท่าไร ๒๐ กว่าเจ้าค่ะ นั่น ๒๐ กว่าเห็นไหม มันน่าเจ็บใจไหม คนไทยทั้งชาติจืดขนาดนั้นเหรอ เหรียญไหนเข้ามาเหยียบหัวเมืองไทย ๆ เป็นเศียรเหยียบขึ้นของเขามีศักดิ์ศรีที่ไหนพิจารณาซิ นี่ที่เตือนอยู่นี่ ที่ช่วยเพื่อจะให้มีศักดิ์ศรีบ้างชาติไทยของเรา ให้เขาดูถูก เหรียญที่ไหนมาก็เหยียบหัวไทยไป ๆ ไม่ต่ำกว่าเขา ๆ เหยียบได้เหรอ ให้มีความรู้สึกตัวบ้างซิ

นี่พาตะเกียกตะกาย คิดเต็มหัวอกแล้วนะ ไม่ใช่อยู่ ๆ เอาหัวชนฝาออกมานำท่านทั้งหลายนะ นี่มันมีอันนี้เข้ามาก็มาเกี่ยวข้องก็พูดออกมา เก็บไว้ทั้งหมดแล้วนะเหล่านี้ โลกเก็บเป็นโลก ธรรมเก็บเป็นธรรม แยกเป็นประเภท ๆ เวลานี้ปฏิบัติต่อโลกก็ต้องพูดแบบโลกอย่างนี้ ปฏิบัติต่อธรรมพูดแบบธรรม ทำไมจึงใจจืดจางมากนักเมืองไทยเราคนไทยเรา เพียงแต่เงินเขาผ่านเข้ามาเมืองไทยเหยียบหัวเมืองไทยทั้งประเทศ ๆ ฟังซิน่ะ เหรียญหนึ่งเขาเหยียบเมืองไทยไปเท่าไร ไม่เห็นเมืองไทยเหยียบเขาได้แม้รายเดียวประเทศเดียวเป็นยังไง ทำไมจึงจืดจางนักหนาชาติไทยเรา

ควรจะรู้เนื้อรู้ตัวทุกผู้ทุกคน ปรับเนื้อปรับตัวมันถึงถูก ให้เขาเหยียบหัวไป แม้แต่หัวหมาไปเหยียบมันซิ เดี๋ยวมันไล่กัดเอาหลงทิศนะจะว่าไม่บอก มาเหยียบหัวหมาวัดป่าบ้านตาด มันไล่กัดเอาเลย หมาไม่กัด จะไล่กัดด้วยหมานี่ ใครมาเหยียบไม่ได้นะวัดป่าบ้านตาด มีศักดิ์ศรีด้วยธรรม กิเลสจะเข้ามาเหยียบไม่ได้ นี่ให้เขาเหยียบเอา ๆ ยังไงกัน เหรียญมาจากเมืองไหน ๆ หัวเท่ากำปั้นนี่ มาก็มาเหยียบหัวชาติไทยเรา เหรียญของเขาหนึ่งเหรียญเหยียบหัวเราไปกี่บาทพิจารณาซิ

ให้มีเคียดมีแค้นมีเจ็บใจ เพื่อยกฐานะของชาติไทยเราขึ้น ชาติไทยเราไม่เป็นบ๋อยเขา ทำไมจึงเป็นบ๋อยเขาแบบให้เขาเหยียบขึ้น ๆ มันสมควรแล้วเหรอชาติไทยเรา มีแก่ใจทุกผู้ทุกคนซิมันถึงถูก ใจจืดใจจางอยู่ได้เหรอ ผ่านเข้ามาเมืองไหน เหรียญเมืองไหน เงินเมืองไหนผ่านเข้ามาเมืองไทยเรา ต้องมาเหยียบหัวเมืองไทยเราทุกหัวเลยนะเมืองไทยเรา คนทั้งประเทศให้เงินเขามาเหยียบไป ๆ มันน่าอับอายขายหน้าขนาดไหน เมื่อไรเราจะรู้สึกตัวของเรา ตื่นเต้นปรับปรุงตัวเอง เข้มแข็งขึ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ที่จะยกชาติไทยและศักดิ์ศรีชาติไทยเราขึ้นมันถึงถูกหนา ทำจืด ๆ จาง ๆ อยู่เฉย ๆ เมย ๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ ไม่มีหลักมีเกณฑ์อะไรเลย

นี้เอาธรรมออกมาประกาศให้ทราบนะ พูดเหล่านี้พูดเรื่องธรรมนะ เมื่อแยกออกเป็นโลกก็เป็นโลกอย่างนี้แหละ มีหลายขั้น เมืองไทยเราเหมือนกับว่าเมืองทั่ว ๆ ไปเขาเรียกว่าโลก จะปฏิบัติต่อตัวเองกับสิ่งภายนอกคนภายนอก ปฏิบัติยังไงก็ต้องคิดซิ เวลานี้มีแต่เขามาเหยียบหัวเมืองไทยเรา เอา เอ้าไปประกาศทั่วเมืองไทยซิถ้าว่าเราพูดนี้ผิดไป ด้วยการยกชาติไทยของเราเต็มกำลังความสามารถ แล้วพูดนี้เป็นการผิดไป เอ้าพิจารณาซิ เงินชาติไหนเข้ามา ๆ สูงกว่าเราทั้งนั้น ๆ เหยียบหัวเราตลอดไป เราไม่คิดบ้างเหรอหัวใจคนไทยเราน่ะ ต้องคิดซิ

นี่ได้อุตส่าห์พยายามทำทุกด้านทุกทางเพื่อชาติไทยของเรา เราทำขนาดนี้ คิดดูซิครั้งสุดท้ายเราตายแล้วงานเผาศพของเรานี้ เงินเขามาบริจาคเท่าไรเราจะยกเข้าคลังหลวงทั้งหมด ฟังซิน่ะ สตางค์หนึ่งไม่ให้แยกไปเลย แล้วจวนจะตายให้ประกาศก้องทั่วเมืองไทย เอาเงินมาเผาศพหลวงตาบัว ว่าอย่างนี้เลยนะ ให้เอาเงินมาเผาศพหลวงตาบัว หลวงตาบัวจะเผาด้วยฟืนด้วยไฟ เงินเหล่านี้เราจะยกเข้าเทิดอุ้มชาติไทยของเรา เห็นไหมเจตนาของเราเป็นยังไง แล้วมาทำเร่ ๆ ร่อน ๆ อยู่เฉย ๆ เมย ๆ อย่างนี้ได้เหรอ ต้องรู้เนื้อรู้ตัวซิ อย่าใจจืดใจจางซิ ชาติไทยเป็นชาติชาวพุทธต้องรู้หนักรู้เบาซิ

นี่เราทำทุกแง่ทุกมุม เวลานี้เราปฏิบัติต่อโลกเราก็ปฏิบัติต่อโลกพูดแบบโลกอย่างนี้ละ เวลานี้กำลังช่วยโลก เตือนโลกให้รู้เนื้อรู้ตัว ไม่อายเหรอ ผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งน่าอับอายมากนะ ขายขี้หน้ามากนะ ให้เขามาเหยียบเมืองไทยทั้ง ๆ ที่มีหัวหน้าหัวตามีหลักมีเกณฑ์ในชาติไทยของเรา หมอบลงหมดทั้งชาติให้เขาเหยียบนี้มันเป็นยังไง พิจารณาซิชาติไทยของเราน่ะ ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเหรอ มันเป็นยังไง

เราอยู่ด้วยกันนี้เท่าไรเวลานี้ อย่างน้อย ๖๒ ล้านคน แล้วหมอบหัวลงตั้งแต่ผู้ใหญ่ลงมาจนกระทั่งถึงผู้น้อย ให้เขาเหยียบหัวไปอย่างนี้ คุณค่าของเขาสูงกว่า ๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง เราอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ฝ่าเท้าของเขาเหยียบไปนี้เป็นยังไง เรายังจะทนให้เขาเหยียบอยู่อย่างเฉย ๆ อย่างนี้เหรอ ให้รีบปรับปรุงตัวหนา เวลานี้เป็นเวลาที่จะให้ตื่นเนื้อตื่นตัวสมกับเราเป็นชาวพุทธ ไม่ได้โง่ต่อใครจนเกินไป โง่ต่อเขาจนเกินไปเสียนะ หลักชาวพุทธไม่มีคำว่าอย่างนี้ อย่าเอามาใช้ในวงชาวพุทธของเรา

นี่ฟังทุกแง่ทุกมุมไม่พูดเฉย ๆ นะ ทำเล่นเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ได้ยังไง เวลาปรับตัวเองก็ให้ปรับทุกคน ให้จริงจังซิ อย่ามีเหลาะ ๆ แหละ ๆ อยู่เป็นประจำนิสัยอย่างนี้มันเหลวมาตลอดเห็นไหม นิสัยนี้มันพาเหลวมาตลอดยังไม่รู้อยู่เหรอ จะมีความเข้มแข็งปรับเนื้อปรับตัวเข้าสู่สภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ มันทำไม่ได้เหรอ พุทธศาสนาสอนเหตุผลเหล่านี้ทั้งนั้นนี่นะ นี่ก็นำพุทธศาสนามาสอนนะเวลานี้ ทำไมชาวไทยเราถึงจืดถึงจาง ว่าเป็นชาวพุทธ ๆ เด่นกว่าทุกประเทศก็คือชาวพุทธ ๆ เหลวกว่าทุกประเทศก็จะกลายเป็นชาวพุทธนี้ขายหมดนะเวลานี้น่ะ ต้องให้เข้มแข็งทุกคน

อย่าเห็นแก่เนื้อแก่ตัวยิ่งกว่าชาติซึ่งเป็นเรื่องใหญ่โตที่สุดของคนทั้งชาติ ให้พิจารณาอย่างนั้นซิ ตัวของเราเองตัวเท่าหนู ชาติไทยเราขนาดไหน เราต้องคำนึงถึงชาติไทยของเราซิถึงถูก เห็นแก่เนื้อแก่ตัวเห็นแก่พุงอย่างนี้ไม่ได้นะ ฉิบหายจริง ๆ ชาติไทยของเรา พุงเราอยู่ไม่ได้ถ้าชาติไทยอยู่ไม่ได้แล้ว พุงใครก็พังหมดนั่นแหละ ใครอย่าอวดดีอย่าหยิ่งอย่าจองหองนะ

เราพยายามสุดขีดเราแล้วทุกอย่าง นี่ก็อุตส่าห์พยายามไปภาคเหนือพึ่งกลับมา ๑๗ วันเต็ม ๆ นะ ตั้งแต่วันออกเดินทางหมุนติ้วตลอดเลย จนกระทั่งกลับมาถึงเมื่อวานนี้ ฟังซิ นี่ก็หมุนติ้วอีกแล้วนี่ หมุนติ้วเพื่อชาติไทยของเราเองเห็นไหมล่ะ เรามีว่างเมื่อไร ให้พากันตื่นเนื้อตื่นตัวนะ ชาติไทยเราเป็นชาติที่ทรงพุทธศาสนาไว้ ให้มีวี่แววของศาสนาติดกับนิสัยชาวพุทธ การประพฤติเนื้อประพฤติตัวทุกสิ่งทุกอย่าง ความเคลื่อนไหวไปมาให้มีพุทธแทรกบ้างนะ สติธรรม ปัญญาธรรม เหตุผลติดไปด้วย อย่าเอาแต่ความสุรุ่ยสุร่ายอันเป็นเรื่องของกิเลสเหยียบหัวตลอดเวลาอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ ไม่ใช่เครื่องหมายของชาวพุทธ

ทุกคน ๆ ให้ปรับเนื้อปรับตัว ตั้งแต่เล็กไปถึงใหญ่ทั่วประเทศ ให้ต่างคนต่างปรับเนื้อปรับตัวเข้าสู่เหตุการณ์ เพื่อจะยกฐานะชาติไทยและศักดิ์ศรีชาติไทยของเราขึ้น ถ้าเป็นอย่างนี้จะแหลกไปอยู่ตลอดเวลา เหลวตลอดเวลาใช้ไม่ได้เลย เป็นผ้าเช็ดเท้าเขา คนทั้งชาติเป็นผ้าเช็ดเท้าให้เขาเหยียบหัวไปนี้ดูได้ไหมล่ะ อะไรมาก็เหยียบหัวเมืองไทย ๆ เมืองไทยต่ำที่สุดแล้วเขาถึงเหยียบหัวไปได้ ต้องฟิตตัวของเราขึ้นซิ

เรามีแต่หัวเหรอ ขาเราก็มีตีนเราก็มีเหยียบหัวเขาไปบ้างซิ ทำไมถึงปล่อยให้แต่เขาเหยียบหัวเรา ทั้ง ๆ ที่เรามีตีนมีเท้าอยู่นี่ เหยียบหัวเขาบ้างไม่ได้เหรอ ด้วยการฟิตเนื้อฟิตตัวเข้าให้มีความแน่นหนามั่นคงในชาติของเรา ทุกผู้ทุกคนทุกครอบครัวเหย้าเรือน ตลอดวงราชการงานเมืองต่าง ๆ ต่างคนต่างปรับเนื้อปรับตัวซิ อย่ามาเหลวไหลเหลวแหลก เหยียบกันกินกันให้พินาศฉิบหายอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ เมืองไทยเรามันกินโต๊ะกันนี่ ให้เมืองอื่นเขามาเหยียบหัว ๆ ได้เหรอ

หมามันได้ซากมันกินซาก เห็นไหมล่ะหมามันยินดีในซาก ซากอะไรก็ตามมันยินดีในซาก แต่เสือกางเล็บอยู่บนหัวหมานั่นน่ะพิจารณาบ้างซิ เราอย่ามัวเพลิดเพลินกินซากความสกปรกโสมมแห่งความประพฤติในชาติไทยของเรา ทุกผู้ทุกคนแคบกว้าง อย่ามามัวกินซากกันด้วยความสกปรก เพราะความประพฤติสกปรกนี้เลย ต้องมองดูซิเสือมันกางเล็บอยู่ข้างบนเห็นไหม

เวลานี้เราติดหนี้เขาอยู่เท่าไรพิจารณาซิ นี่ละกางเล็บอยู่เหล่านี้ทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเสียเปรียบเขาทั้งนั้น ๆ เขากางเล็บไว้หมดเป็นยังไง เรายังยินดีกินซากแทะกระดูกอยู่เหรอ แทะกระดูกกันนั่น พิจารณาซิ ยังโอ่อ่าอยู่เหรอว่าเราแทะกระดูกเขา พุงเรากางนั่นน่ะ ชาติไทยจะจมทั้งชาติไม่คิดกันบ้างเหรอ มันเป็นยังไงชาติไทยของเรานี่

เรียนก็ไปเรียนมาเหมือนกันเมืองนอกเมืองนา ดอกเตอร์ดอกเต้ที่ไหนเอามาหมด เอามาก็มาเหยียบย่ำทำลายกันแหลกหมด ๆ มันไม่เอาความรู้วิชามาผลิตขึ้นให้เป็นประโยชน์แก่ชาติของตัวเองนี่ ส่วนมากมันมักเป็นอย่างนั้นนะ เราไม่ได้ตำหนิทุกคน เราตำหนิที่ประเภทนี้ต่างหาก เพื่อจะแก้ไข เพื่อจะถอดถอน เพื่อจะชะล้างมันต่างหาก เราไม่ได้พูดเพื่อการทำลายดูถูกเหยียดหยามใคร เราพูดเพื่อยกชาติของเราขึ้น

เวลานี้มันเหลวแหลกนะ ให้พากันตื่นเนื้อตื่นตัว เขากางเล็บอยู่เห็นไหม ทุกอย่างกางเล็บ เงินเหรียญหนึ่งเข้ามาผ่านนี้ก็กางเล็บมาพร้อมแล้วเหยียบหัวเมืองไทยไปตลอด เล็บมันก็มีเสือ ตีนมันก็มี คือตีนเสือเล็บเสือทั้งนั้น เหยียบหัวไป กางเล็บขยำไปเรื่อย เป็นยังไงพวกเราต่ำขนาดไหนพิจารณาซิ ให้รู้เนื้อรู้ตัวซิ จะมามัวกินตับกินปอดกันเองอย่างเพลินตัวด้วยความสกปรกอยู่นั้นหรือ

นี่ไปถึงแม่ฮ่องสอนโน่นของเล่นเมื่อไร อุตส่าห์พยายามเทศนาว่าการ นี่ตั้งแต่ไปจนกระทั่งวันกลับเทศน์ ๒๗-๒๘ หนฟังซิน่ะ เทศน์เพื่อชาติไทยของเราเราไม่ได้เทศน์เพื่อเรา เราไม่ได้แก้เรา เราไม่ได้บำรุงเรา ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชาติไทยของเรา ขอให้พี่น้องทั้งหลายได้เห็นใจนะ นี้เราทำเพื่อชาติจริง ๆ จนกระทั่งหนสุดท้ายอะไรไม่มีเหลือแล้วนะ ก็เอาศพนี้เป็นเครื่องเทิดชาติไทยของเราขึ้น ด้วยการรับบริจาคเงินทองข้าวของที่เขามาเผาศพหลวงตาบัวนี้ ยกให้คลังหลวงทั้งหมด ฟังซิน่ะ ท่านทั้งหลายได้เคยฟังไหมอย่างนี้ เคยเห็นที่ไหนบ้าง ไม่ใช่อวดนะ เราพูดออกมาอย่างกล้าหาญชาญชัย ด้วยความเมตตาต่อชาติของเราจริง ๆ เราไม่ได้พูดเล่น ๆ ทำเล่น ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเราจึงจริงจังทุกอย่าง ไม่ให้เหลาะ ๆ แหละ ๆ ฟังซิ ๒๗-๒๘ หนน่ะ ไป ๑๗ วันเทศน์ ๒๗-๒๘ หน พลิกตำราไม่ทันว่าไง เทศน์วันยังค่ำจะเอาตำราที่ไหนมาพลิกมันถึงจะทัน ก็ยังอุตส่าห์เทศน์แนะนำสั่งสอนเรื่อยมา เดี๋ยวนี้ก็กำลังพลิกตำราอยู่นี่ ได้ยินไหมล่ะ

ใครจะตั้งเนื้อตั้งตัวปรับเนื้อปรับตัวให้รีบนะ อย่าอยู่เฉย ๆ เมย ๆ ดังที่เป็นอยู่นี้นะ ทุกสิ่งทุกอย่างในครอบครัวเหย้าเรือน ที่อยู่ที่กินเครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ให้ประหยัดมัธยัสถ์ ที่เกี่ยวข้องกันอยู่เป็นประจำนี้ก็คือพวกน้ำพวกไฟ ในครัวเรือนหนึ่ง ๆ ใช้ไฟเท่าไร ใช้น้ำเท่าไร สิ้นเปลืองไปเท่าไร ควรจะประหยัดมากน้อยเพียงไรต้องคิดซิสิ่งเหล่านี้น่ะ ไม่ควรใช้อย่าใช้เรียกว่าประหยัด ความประหยัดนี้คือความเพิ่มพูนของรายได้ เป็นผลบวกขึ้นไปเรื่อย ๆ ต่างคนต่างบวกต่างคนต่างขวนขวาย รายได้มันก็ขึ้นมาในตัวของมันเอง ถ้าต่างคนต่างสุรุ่ยสุร่ายก็เป็นการทำลายไปในตัวของมันนั่นเองแหละ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก