วัดเป็นสถานที่มีขอบเขตเหตุผล
วันที่ 2 ตุลาคม 2540
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๐

วัดเป็นสถานที่มีขอบเขตเหตุผล

ในครัวไฟนั้นน่ะชักโกโรโกโสไปทุกอย่างแล้วนะ เราไม่ได้เข้าไปดูเลยเป็นเดือน ๆ หลายเดือนแล้ว ไม่อยากไปไหนมาไหนแหละ รถเข้ารถออกไม่ว่าเวลาไหน พระนอนหลับอยู่จะมาปลุกพระกระมัง เสียงซู่ ๆ ซ่า ๆ กลางคืน มาไม่มีเวล่ำเวลามาเยี่ยมกันหาอะไร ในครัวนั้นน่ะ พวกไหนพวกยุ่งอยู่ในครัวน่ะ ยิ่งทับเข้ามา ๆ เราแก่เข้าเท่าไรยิ่งทับหนักเข้า ๆ ทุกด้านทุกทางนะ เรายิ่งมองไม่ถึงมองไม่ทั่วแล้วก็ยิ่งเรื่องยุ่งเข้าเรื่อย ๆ รถเข้าในครัวไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์นะ อยากเข้าเวลาไหนก็เข้า อยากออกเวลาไหนก็ออก บางทีเราต้องลงมาถามพระ ผิดสังเกตเอามาก ว่ารถมาจากครัว แน่ะ ถ้าเรารู้รถมาจากครัวมาแต่ต้นเราจะมาดักตีขาอยู่ตรงนั้นละ ทางออก ทำไมไม่รู้เวล่ำเวลา

วัดเป็นสถานที่มีขอบมีเขตมีเหตุมีผลมีหลักมีเกณฑ์ ทำไมมาโกโรโกโสทำลายวัดนี่พวกนี้ เราอนุโลมให้อยู่เท่าไรยิ่งแน่นเข้า ๆ ปกติพระใครมาอยู่ด้วยได้ เราก็อนุโลมขนาดนั้น ท่านอยู่ของท่านโดยเฉพาะ ๆ ยิ่งพ่อแม่ครูจารย์มั่นแล้วใครไปยุ่งไม่ได้เลย นี่อนุโลมจนอนุแหลกเวลานี้น่ะ เลอะ ๆ เทอะ ๆ ใครมาไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ มาเยี่ยมกันหาเวลาไม่ได้ มาหาอะไรกันตอนกลางค่ำกลางคืน พอเริ่มมืดท่านก็ปิดประตู วัดมีขอบเขตนี่นะ มายั้วเยี้ย ๆ อะไรไม่มีเวล่ำเวลา พวกนี้พวกหาเวลาไม่ได้นะ พวกเดือน ๙ ยุ่งตลอดเวลา มาจะดูกฎดูระเบียบอันดีงามไม่ดูนะ ดูเรื่องบ้าของเจ้าของนั่นแหละ ดูไม่ดูก็เป็นบ้าเต็มตัวอยู่แล้วจะให้ดูอะไรอีก ไม่มีเวลาสงบเลยในครัวนั่นน่ะ ยั้วเยี้ย ๆ เข้าออกอยู่ตลอดเวลา มองดูแล้วดูไม่ได้เลย เลอะเทอะที่สุดคือในครัว ทางนี้ก็มาแค่ศาลานี้เราห้ามไม่ให้เข้าโน้นเด็ดขาดเลย พระท่านภาวนาของท่าน

วัดนี้เราไม่ต้องการอะไรนะ วัตถุสิ่งของเงินทองอะไรต่าง ๆ เราไม่ได้ยุ่ง เครื่องโซฟงโซฟาเหล่านี้เอามาไล่เอากลับหมด อย่าเอามาอวดประสากิเลส เราว่าอย่างนี้ ไม่ได้เลิศกว่าธรรมแหละ มันยุ่งเข้ามาเรื่อยนะ อันนั้นเอามา ๆ เดี๋ยวก็มีต้นไม้มาด้วยนะ เอามาตั้งตามหน้ากุฏิเรา เราไม่ปวดขี้จะฟาดอยู่ตามแถวนั้น ต่อไปเราจะไม่ทำถานจะขี้อยู่ตามแถวนั้นละ มาประดับตบแต่งหาอะไร ตบแต่งหัวใจเจ้าของซิมันสกปรกอยู่ตรงนั้น มาตบแต่งอะไรภายนอก นี่เรื่องโลกเรื่องสงสารเรื่องกิเลสตัณหาต่างหากไม่ใช่เรื่องธรรม พวกอยู่ในวัดยังขนเข้าไปกองอยู่หน้ากุฏิเราเห็นไหมนั่น เดี๋ยวจะขนเข้ามาเรื่อย ๆ นะ

เราเคยดัดหนหนึ่งเงียบไปนาน นี่มาโผล่ขึ้นอีกแล้วนะ ดัดหนหนึ่งเงียบไปนานยังไง มันฟาดใส่รถกระบะมาเต็มรถกระบะ ต้นดอกไม้นะ บึ่ง ๆ เข้ามา เป็นผู้ใหญ่เสียด้วยไม่ใช่ผู้น้อย คิดว่าเราจะหมอบละซี โถ นี่เอามาอะไร ของดีหรือนี่ เราก็ว่าอย่างนั้น ของดี เอามาที่ไหนเอามาทำอะไร จะมาวางประดับหน้าศาลานี่ เต็มรถเลยนะรถกระบะใหญ่ เออ เอาลงที่นี่ละพวกญาติโยมทำไม่ดีเหมือนพระทำ ให้พระท่านจัดทำเองดีกว่า เอ้า ขนลง บอกเอ้าขนลงให้หมด พอขนลงหมดแล้ว ไปกลับได้ พระท่านจะจัดการเอง พอเขาหนีไปหมดแล้วก็เอาล้อ(รถเข็น)มา ขนใส่ล้อแล้วฟาดเข้าป่าหมดเลย สองสามวันมาดู เอ๊ ไปไหนหมด โห ของอย่างนี้เอาไว้อย่างนี้ไม่ปลอดภัย เราว่างั้น ท่านเอาไปไว้ที่ไหน เขาก็ไปเที่ยวเลาะดู ดูที่ไหนก็ไม่เห็น ตั้งแต่นั้นมาเลยเงียบ

เดี๋ยวนี้มาโผล่ขึ้นอีกแล้วนะ กำลังโผล่ขึ้นอีกแล้ว เราขนฟาดเข้าป่าหมดเลยจริง ๆ นี่นะ กี่ล้อไม่รู้แหละ เอามาหาอะไรของอย่างนี้ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เอาของเหล่านี้มาประดับประดาตบแต่ง ลายคงลายคราม เป็นบ้าไปหมดโลกหมดสงสาร มันมีศาสนาเมื่อไรเดี๋ยวนี้ติดตัวชาวพุทธเราน่ะ มีแต่เรื่องกิเลสเต็มบ้านเต็มเมือง ดูแล้วสลดสังเวชจนจะตาย จวนตายเท่าไรยิ่งสลดสังเวชมากขึ้นทุกวัน ดูโลกไม่ได้เข้าไปทุกวัน ๆ สกปรก หัวใจไม่มีการส่องดูเลย เป็นยังไงหัวใจมันคิดอะไรบ้าง ไม่ดูเลย ดูแต่บ้าข้างนอก เห่อกันเป็นบ้ากัน คนนั้นมีนั้น คนนี้อยากมีนี้ คนนั้นมีอันนั้น มีแต่เป็นบ้ากันไปทั่วโลกทั่วสงสาร หัวใจเป็นไฟไม่ดู

สกปรกนะฆราวาสไม่เหมือนพระ พระเราก็ไม่ได้ว่าไปทุกวัดนะ วัดดีก็ดี วัดเลวก็เลว เลวยิ่งกว่าฆราวาสอีกก็เยอะ พูดอย่างตรงไปตรงมานี้เรียกว่าพูดเป็นธรรม ต้องพูดอย่างนั้น บวชเข้ามาเป็นพระเอาผ้าเหลืองคลุมหัวแล้วก็หยิ่งละซี ใครจะไปหยิ่งยิ่งกว่าพระวะ ตัวสั่งสมทิฐิมานะทุกสิ่งทุกอย่าง ความสกปรกอยู่กับพระนั่นแหละ พระองค์ไม่ดีเป็นได้จริง ๆ วัดไม่ดีเป็นได้จริง ๆ จะไม่เป็นยังไง เห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาไม่ได้อุตริ วัดดีเราก็ไม่ว่า เราไม่ได้ว่าไปสุ่มสี่สุ่มห้านี่ เราว่าที่ไม่ดีที่เป็นที่ตำหนิของธรรมของพระพุทธเจ้าเอามาว่า

บวชมาแทนที่จะชำระสะสางกิเลสตัณหาเครื่องสกปรกโสมม กลับมาสั่งสมยิ่งกว่าฆราวาสญาติโยมเขาอีก ใครจะเก่งกว่าพระวะ แตะไม่ได้นะเป็นผีตัวหนึ่ง พระเป็นของเล่นเมื่อไร นั่นละผีตัวหนึ่งดูเอา ตัวเป็นผีมันมีแตะไม่ได้นะ อวดผ้าเหลืองนั่นแหละ เอาผ้าเหลืองคลุมหัวใครก็ไม่แตะละซี สนุกหยิ่งละ พองขน โห พูดแล้วทุเรศนะ สุดท้ายพระดูพระก็จะดูไม่ได้ มีทุกแบบ ๒,๕๐๐ นี่ ขึ้นทุกแบบ ๆ ละ เดี๋ยวนี้กำลังเกาะรถเดือน ๙ พระเกาะท้ายรถเดือน ๙ โอ๊ย ทุเรศหลาย พระเดือน ๙ เกาะท้ายรถเดือน ๙ ดูไม่ได้เลย เจ้าของสบายไปเลย อย่างนั้นแล้วมันหน้าด้านพอแล้วอายอะไร อายศีลอายธรรมที่ไหน ไม่อาย นี่เรียกว่ากิเลสมันไม่ได้ยอมใครแหละ หน้าด้านที่สุดคือกิเลส พอหลวมมือมันสอดมือเข้าไป หลวมแขนสอดแขนเข้าไปกิเลส มันไม่หย่อนไม่อ่อนข้อกิเลส

คำว่าขี้เกียจของกิเลสไม่มี มีแต่ขี้เกียจของสัตวโลกที่กิเลสบีบบังคับให้ขี้เกียจ ถ้าเรื่องศีลเรื่องธรรมตัวขี้เกียจใหญ่ กิเลสบีบบังคับให้ขี้เกียจ ตัวกิเลสเองไม่ขี้เกียจ ไม่มีคำว่าวัย…กิเลส ไม่มีคำว่าเฒ่าแก่คร่ำคร่าชราครบเกษียณอย่างนั้นอย่างนี้ไม่มี…กิเลส มีแต่แข็งแกร่งเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นจึงทำโลกให้ร้อนไปได้ทั่วหน้ากันหมด ใครจะเรียนสูงเรียนต่ำเอามาอวดกัน อวดน้ำลายกันเฉย ๆ ความรู้สู้หมาไม่ได้ ทำไปโกโรโกโส ผู้เรียนรู้มาก ๆ นั่นแหละผู้ตัวทำทุจริตมาก ๆ ตัวไม่มีศีลธรรมตัวนี้ตัวสกปรกมาก ตัวเหยียบย่ำทำลายประเทศชาติบ้านเมืองมาก คือตัวนี้เองจะเป็นตัวไหนไป ตาสีตาสาไม่ไปทำนะ

เมื่อวานนี้ก็เอาของไปแจกทางนู้นทางน้ำหนาว ไม่ไปนานแล้ว สงสารเขา ไปเห็นแล้ววิ่งหอบมา เอาข้าวไปได้พอดีกับ ๒ จุด ของมีกำหนดเท่านั้นคนเท่านั้นครอบครัวเท่านี้ครอบครัว เอาไปลงให้ครอบครัวละถุง ๆ เงินให้ครอบครัวละ ๕๐๐ ๆ เด็กให้คนละร้อย ๆ นาน ๆ เราไปทีหนึ่ง ๆ เพราะเราไปหลายด้านหลายทางไม่ได้หยุดนี่นะ ทำประโยชน์ให้โลก เอาไปสองหมื่นกว่าเฉพาะเงินสดนะ ซื้อสิ่งของไปไม่นับ หมดเท่าไรเป็นหมดเราไม่เคยคำนึงกับมันยิ่งกว่าหัวใจโลก เพราะฉะนั้นเราถึงดุโลกละซี สิ่งเหล่านั้นเราไม่เห็นมีขัดข้องอะไรกับมัน เพราะฉะนั้นเราถึงไม่ดุมัน แต่มนุษย์นี้จิตมันปักกันมันเกี่ยวข้องกันเกี่ยวโยงกัน เพราะฉะนั้นถึงได้ดุมนุษย์คนอื่นไม่ดุ

วันนี้เราก็จะไปละ เอาของไปโรงพยาบาลไกลนะวันนี้ สงสาร ไปมันอยู่ด้วยกัน ๒ โรง เอาไปไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ว่าเต็มรถนะ หากไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเพราะแบ่ง ๒ โรง อยู่ใกล้กัน ถ้าไปโรงเดียวก็เต็มรถ เทปัวะเลย ได้มาก เอาไป ๒ โรงก็ต้องแบ่งครึ่ง แต่รถนั้นเต็มรถ วันนี้จะเป็น ๒ โรง มันไกล ๓ ชั่วโมงกว่ากว่าจะถึง ไปเทปัวะแล้วก็มาเลยนะ เราไม่ลงกระทั่งรถนะ ไปที่ไหนเหมือนกันไม่ลงรถ นั่งอยู่บนรถให้เขาขนของลง ๆ เสร็จแล้วติดเครื่องแล้วบึ่งออกเลย ๆ ไปส่งแล้วกลับขนาดนั้นค่ำพอดี ๆ

เราทนเอา ทุกข์ขนาดไหนเราก็ทนเอาเพื่อหัวใจโลก พวกญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาก็เอาของมาให้เรื่อยเราก็แจกเรื่อยอย่างนี้ละ ให้เขาแจกช่วยก็มีเยอะ ออกไปทางจุดไหน ๆ เราเป็นคนสั่ง จุดไหนสำคัญ ๆ เราสั่งให้เขาเอาไปลงตามจุด ๆ ความทุกข์ความจนไม่โดนใครเข้าก็ดูดีซิ ลองครัวไฟของใครก็ตามในอุดรฯเรานี่แหละอย่าไปพูดไกลเลย กำลังหิวข้าวมาดิ้นล้มดิ้นตายวิ่งเข้าไปในครัว มือล้วงเข้าไปในกล่องข้าวก็ไม่มีข้าว ล้วงลงไปในหม้อก็ไม่มีอาหาร ล้วงเข้าไปในเตาก็มีแต่ไฟเผามือเอา จะเป็นยังไงพิจารณาเอาซิ ท้องมันดีดมันดิ้นจะตาย หิวน่ะ เอามือล้วงเข้าไปตรงไหนไม่มีอะไรติดมือมาเลย เป็นยังไงพิจารณาซิ

นี่ละความทุกข์จนไม่โดนใครเข้าก็ดี ถ้าโดนแล้วเป็นอย่างนี้แหละ เพราะฉะนั้นจึงต้องเห็นใจกัน มนุษย์อยู่ร่วมกันมนุษย์อาศัยกันไม่ได้ไม่มีในโลกนี้ มนุษย์เป็นสัตว์หมู่สัตว์พวก มีคุณค่าเพราะการอยู่ร่วมกัน การเสียสละกัน ไม่ได้มีคุณค่าเพราะอยู่ด้วยกันเหมือนสัตว์นะ มนุษย์อยู่ร่วมกันด้วยความมีคุณค่า เสียสละ ให้อภัยซึ่งกันและกัน

รถมอเตอร์ไซค์ก็ให้พากันระมัดระวังนะ เดี๋ยวนี้ค่อยดีขึ้นบ้างแล้ว มันตายอยู่ตามถนนหนทางมากเข้า ๆ ก็สอนเจ้าของนั่นแหละ ไปที่ไหนเห็นแต่รถมอเตอร์ไซค์ตาย รถตายด้วยคนตายด้วย มันขี่ปาดหน้าปาดหลังปาดซ้ายปาดขวา รถเขามาตามจังหวะของเขา หลีกอันนี้อันนั้นมา โผล่มาก็โดนปึ๋ง ไม่ทราบจะหลบยังไงรถยนต์ รถยนต์ไม่ผิดแต่ครั้นอันนี้เวลาทำลงไปแล้วก็เลยผิดทั้งสอง เสียไปทั้งสองนั่นละ เดี๋ยวนี้ค่อยดีขึ้น ให้บอกกันเตือนกัน คนสุ่มสี่สุ่มห้าอย่าเอาไปขับมอเตอร์ไซค์ ลูกเต้าหลานเหลนของใครก็ตามให้ฝึกหัดขับให้เรียบร้อย ให้รู้จักกฎจราจรเสียก่อนค่อยให้ขับออกไป อย่าขับสุ่มสี่สุ่มห้านะ มันตายเกลื่อนอยู่ตามถนน

เราไปอยู่ทุกวันไม่เห็นได้ยังไง ตายแบบนี้เป็นยังไงใครผิดใครถูกมองดูพับก็รู้ มีแต่มอร์เตอร์ไซค์ รถยนต์ไม่ค่อยผิดนะ แต่รถยนต์ก็เสียหายไปด้วย เป็นอย่างนั้นนะ สี่แยกมันไม่น่าจะมาตายอยู่ตรงกลางสี่แยก มันยังตายได้ มันเข้ามาหาอะไรสี่แยก ทางหลวงทางเอกก็รู้อยู่ ทางเอกทางโทเขาบอกอยู่ มันฝืนเข้ามาอะไร ตายอยู่ตรงกลางนั่นเลย ใครผิดมองดูก็รู้ เด็กดูก็รู้ ก็มอเตอร์ไซค์ผิดร้อยประตูนั่นเองจะเป็นใครผิด มันโผล่มาหาอะไร เขาไม่มากันทั้งบ้านทั้งเมือง มันมาหาอะไรมาตายอยู่ในนั้น เห็นอยู่เรื่อย ๆ

เราไม่ได้ไปบอกให้เขาเอาควายมาปล่อยแถวนั้นดู เราไปงานศพอาจารย์บุญ พึ่งกลับมา อันนี้มันไม่เจ็บ อดขบขันไม่ได้นะ ถ้าเจ็บแล้วขันไม่ลง นี่ไม่เจ็บมันพอขบขันดี ๆ ควายตัวหนึ่งมันก็หากินไปตามเรื่อง รถคันนั้นก็บึ่งมาทางนั้น รถคันนี้ก็บึ่งมาทางนี้ มันไม่ทราบจะหลบไปทางไหนก็เลยหลบมาทางนี้ พอดีรถสามล้อเครื่องคันนี้ก็มาข้างนี่อีก มันหลบทางโน้นก็มาชนเอาสามล้อเครื่อง สามล้อเครื่องก็เทกระจาดกันลงกอง เดี๋ยวนี้มันลุกขึ้นได้หรือยังก็ไม่รู้ได้ ๕ ปีนี้แล้ว ลุกได้หรือยังก็ไม่รู้ คนกองกันอยู่ไม่เจ็บเราก็เลยอดหัวเราะไม่ได้ ควายตัวนั้นพอรอดตายได้มันก็เปิดเลย ควายไม่เจ็บ คนก็ไม่เจ็บสักคนหรอก มันหากพอขบขันดี ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นพอค่อยยังชั่ว พอเราจะไปหาควายมาปล่อยแถวนั้นสัก ๔-๕ ตัว ให้ฟาดพวกนี้เทกระจาดกัน

เอาละให้พร


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก