๔ ทัพใหญ่ทำลายศาสนา
วันที่ 20 มกราคม 2540
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๐

๔ ทัพใหญ่ทำลายศาสนา

 

พระเณรก็เยอะ ส่วนประชาชนนั้นมากจริง ๆ เต็มหมดเลยภูเขาลูกนั้น ประชุมเกี่ยวกับจะก่อเจดีย์ของท่านหล้าขึ้นที่นั่น เพื่อให้ชาวพุทธเราได้กราบไหว้บูชาพระที่หายาก พระองค์นี้เป็นพระหายากองค์หนึ่ง ไปหาเพชรหาพลอยหาที่ไหนกำมาเต็มมือ แต่หาพระดีหาซิหาแทบเป็นแทบตายก็ไม่ได้นะ หาเพชรหาพลอยนี้ไม่ได้หายาก หาตามข้อมือคนตามคอคน กำมาหมดทั้งคอก็ได้ไม่ยาก แต่หาพระดีนี้หายากนะ นี่ก็พระองค์นี้ก็ประเภทหายากองค์หนึ่งเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจึงยินดีด้วยที่จะก่อเจดีย์ขึ้นเป็นที่สักการบูชา ตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า ผู้ที่จะควรก่อเจดีย์เป็นปูชนียบุคคลขึ้นมา หรือปูชนียสถาน ก็ได้แก่พระพุทธเจ้า ๑ พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑ พระอรหันต์ ๑ พระเจ้าจักรพรรดิ ๑ ๔ พระองค์นี้ควรอย่างยิ่งที่จะก่อเจดีย์ไว้ตามที่ชุมนุมชน ไม่ใช่ก่อสุ่มสี่สุ่มห้า ก่อเจดีย์ต้องมีหลักมีเกณฑ์ นี่ก็เห็นสมควรจะทำเราก็อนุโมทนาด้วย แล้วไปด้วย เมื่อวานนี้ไป

องค์นี้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นเรา ตั้งแต่ญัตติแล้วก็ไปอยู่หนองผือ จากนั้นมาพอหลวงปู่มั่นมรณภาพจากไปแล้วก็มาเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว จนกระทั่งเราแยกจากห้วยทราย อำเภอคำชะอีไปจำพรรษาที่จันทบุรี ท่านก็เลยอยู่ที่นั่นประจำเรื่อยมาจนกระทั่งสิ้นชีวิต

ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นเรานี้ที่เป็นพระหายากมีหลายองค์ กว่าบรรดาครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่มีลูกศิษย์ด้วยกัน ลูกศิษย์หลวงปู่มั่นนี้มีเยอะที่เป็นประเภทพระหายาก ที่พอนับได้พอระลึกได้ก็ หลวงปู่แหวน ๑ หลวงปู่ขาว ๑ หลวงปู่ฝั้น ๑ หลวงปู่พรหม บ้านดงเย็น อ.หนองหาน นี้ ๑ แล้วก็ท่านอาจารย์คำดี วัดถ้ำผาปู่ ๑ ท่านจวน วัดภูทอก ๑ ที่กล่าวถึงนี้ล้วนแล้วแต่อัฐิกลายเป็นพระธาตุหมดแล้ว ตีตราเป็นพระอรหันต์โดยสมบูรณ์ นี่ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามาก ส่วนฝ่ายผู้หญิงก็มีแม่ชีแก้ว แม่ชีแก้วอยู่ที่ห้วยทราย อันนี้อัฐิก็กลายเป็นพระธาตุแล้ว ท่านเคยเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่นมาตั้งแต่ตอนยังเป็นสาวอยู่โน้น ระยะนั้นท่านไปจำพรรษาที่ห้วยทราย พอท่านจากไปทางนี้ก็มีครอบครัว หลังจากครอบครัวแล้วก็ออกบวชเป็นแม่ชี อัฐิก็กลายเป็นพระธาตุเวลาสิ้นชีวิตไปแล้ว

สิ่งหายากเหล่านี้หายากจริง ๆ และนับวันจะหายากเข้าไปทุกวัน ๆ แต่สิ่งที่หาง่ายไม่ต้องหา ไหลเข้ามาบ่าเข้ามานี้เต็มบ้านเต็มเมือง จึงน่าวิตกกับศาสนากับพระกับเณรเรามากเวลานี้นะ สิ่งที่จะทำลายวัดวาศาสนาพระเณรเรานั้นมันลุกลามเข้ามาในวัดในวา ที่นอนหมอนมุ้ง นี่ละพวกกองทัพใหญ่ของกิเลสเข้ามาทำลายศาสนา

เริ่มแรกก็วิทยุ ข่าวคราวเรื่องนั้นเรื่องนี้ พระไม่สมควรหาข่าว ต้องตัดข่าว หาอยู่ที่ซุ่มซ่อนในป่าในเขาตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า รุกฺขมูลเสนาสนํ นิสฺสาย ปพฺพชฺชา  ตตฺถ  เต ยาวชีวํ อุสฺสาโห กรณีโย บรรพชาอุปสมบทแล้วให้ท่านทั้งหลายไปอยู่ตามรุกขมูลร่มไม้ ในป่าในเขา ตามถ้ำ เงื้อมผา ป่าช้า ป่ารกชัฏ แล้วให้ทำความอุตส่าห์พยายามอยู่อย่างนั้นตลอดชีวิตเถิด นี่คือพระโอวาทของพระพุทธเจ้าที่ประทานให้พระทุก ๆ องค์ไม่มีเว้นแม้องค์เดียวที่จะไม่ได้รับพระโอวาทอันนี้ในการบวชจตุตถกรรม

สิ่งเหล่านี้เป็นข้าศึกกับวัดกับวากับพระกับเณร พวกวิทยุ พวกหาข่าวหาคราว พระไม่ใช่เป็นพระหาข่าว ดูข่าวในหัวใจนี้ถึงถูกต้อง ข่าวในหัวใจนี้มันออกตลอดเวลา ข่าวใหญ่ข่าวโตข่าวเล็กข่าวน้อยข่าวล่มจมฉิบหาย อยู่ในหัวใจนี้ทั้งนั้น หัวใจนี้เป็นศูนย์กลางแห่งข่าวทั้งหลาย ต่างคนต่างมีศูนย์กลางแห่งข่าวอยู่ภายในตัว ดีดดิ้นอยู่เพราะข่าวอันนี้พาดีดพาดิ้น เริ่มแรกมาตั้งแต่วิทยุ มันของคู่ควรกันเหรอกับพระเรา  ซึ่งพระพุทธเจ้าไล่เข้าป่าก็เพื่อปัดสิ่งเหล่านี้ออกจากหัวใจนั่นเอง  จากนั้นมาก็เทวทัตโทรทัศน์ โทรทัศน์เป็นของดีเหรอพิจารณาซิ มันเป็นข้าศึกแก่พระแก่เณรแก่วัดวาอาวาสอย่างมากมาย ออกจากนั้นมาก็วิดีโอ อันนี้ร้ายแรงมาก มีแต่กองทัพใหญ่ ๆ ทั้งนั้นกองทัพกิเลส เข้ามาทำลายวัดวาอาวาสศาสนาพระเณรเรา หลังจากนั้นมาก็มีโทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือนี้ตัวร้ายกาจตัวหนึ่ง ติดย่ามไปเลย นี่ละกองทัพใหญ่กองหนึ่งติดย่ามไป ไปไหนฟังตลอด ฟังข่าวฟังคราว สุดท้ายก็พูดกับอีสาวได้อย่างสบาย พูดกับอีสาวได้วันยังค่ำ เข้าใจไหมอีสาวน่ะ อีสาวกับไอ้หนุ่มมันเข้ากัน นี่ละตัวร้ายแรงตัวหนึ่ง กำลังระบาดสาดกระจายเข้าวัดเข้าวา เข้าไปที่ไหนทำลายที่นั่น วัดวาอาวาสศาสนาเลยจะร้างไป จะไม่ร้างยังไงเมื่อพระเณรทำสิ่งเหล่านี้ พระเณรเป็นเจ้าคัมภีร์ ใครจะใกล้ชิดติดพันกับพระเณรผู้เป็นเจ้าคัมภีร์ ความรู้ความฉลาดในพระไตรปิฎกยกมาเต็มอยู่ในหัวใจพระเณรเล่า แล้วท่านแสดงว่ายังไงพระไตรปิฎก ท่านแสดงให้ทำอย่างนี้เหรอ มันตรงกันข้าม

แต่เราก็นำสิ่งเหล่านี้มาเป็นข้าศึกกับวัดวาอาวาสศาสนา เป็นที่ขวางตาขวางใจของประชาชนญาติโยมผู้มีสมบัติผู้ดี สุดท้ายเขาก็เอือมระอา ไม่มีความเชื่อความเลื่อมใส ทำบุญให้ทานเขาก็ไม่อยากไป แล้วพระบิณฑบาตดีไม่ดีจะไม่ได้อาหารตกบาตรนั้นเป็นไร เขาไม่มีศรัทธาเพราะไปทำความเสียหายอย่างนี้ในวัดในวา เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจะทำยังไง ท้องของพระอยู่กับประชาชน ชีวิตของพระอยู่กับประชาชนญาติโยม เมื่อเขาไม่บำรุงรักษาแล้วพระจะอยู่ได้เหรอ อยู่ไม่ได้ก็ต้องหนีจากวัด แล้วหนีจากวัดองค์นั้นหนีไปองค์นี้หนีไป สุดท้ายวัดก็ร้าง วัดร้างพระเณรร้าง พระเณรร้างก่อน วัดก็ร้างเป็นลำดับที่สองที่สามไป

จากนั้นก็โทรศัพท์มือถือ นี้ตัวสำคัญมาก ที่เรายกมานี้ ๔ กองทัพใหญ่ของกิเลสที่กำลังตีตลาดเมืองไทยเราอยู่เวลานี้ ตีทั้งวัดทั้งวาทั้งประชาชนญาติโยมมีส่วนได้ส่วนเสียพอๆ กัน เพราะประชาชนจะถือว่าตัวไม่ใช่เป็นนักบวช กิเลสก็เหยียบหัวอยู่ด้วยกัน เป็นคนมีกิเลส ยิ่งมีกิเลสหนามากกว่าพระเสียด้วยซ้ำ ทำไมจะไม่เสียหาย เราว่าเอามาทำประโยชน์ ๆ ประโยชน์ของกิเลส แต่มันเป็นความผิดพลาดเป็นความเสียหายแก่หัวใจของผู้ที่นำมานั้นเองจะเป็นอะไรไป สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ของดี เอามาใช้อันใดที่เป็นประโยชน์เราคัดเราเลือกเอามาใช้นั้นเป็นความถูกต้องดีงาม แต่นี้ไม่ได้เอาเฉพาะของที่เป็นประโยชน์ ของที่เป็นโทษมันชอบมากที่สุด แล้วไปเที่ยวขนมา ๆ เผาไหม้ไปหมดไม่ว่าอยู่ที่ไหน

ดูซิเด็ก เวลาเทวทัตมันออกเวลาไหน ๆ เขากำหนดเวลาไหน รายการใดช่องใดออกเวลาใดอย่างนี้ เด็กพ่อแม่ใช้ไม่ได้เลย หูจ่อเข้าไปอยู่นั้น ตาจ้องอยู่กับเทวทัต นั่นเสียหายไหม เด็กจนใช้ไม่ได้ เด็กจะเริ่มเป็นเด็กเสียหายไปตั้งแต่เล็กแต่น้อย แล้วกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วจะเสียหายขนาดไหนพิจารณาซิ นี่เพราะอะไร ก็เพราะสิ่งเสียหายนี้เองเข้ามา อันใดไม่ควรเอาเข้ามาก็ไม่ควรนำเข้ามา เราเป็นผู้ใหญ่สำหรับรักษาประเทศชาติบ้านเมืองอยู่แล้ว ควรที่จะพินิจพิจารณาในสิ่งทั้งหลายที่จะเกี่ยวข้องกันกับลูกเล็กเด็กแดงสุดท้ายภายหลังที่จะครองบ้านครองเมืองต่อไป อันนี้เอามาทำลาย ๆ กันเสียตั้งแต่แตกหน่อขึ้นมาแล้วจะเป็นต้นเป็นลำได้ยังไง มันก็ฉิบหายไปหมดนั่นแหละ อันนี้เราก็จึงได้เตือนพี่น้องทั้งหลายให้ระมัดระวัง

ว่าเราฆราวาสเราไม่ได้บวช เราไม่ได้บวชเราก็เป็นคนมีกิเลสเหมือนกัน ทุกข์เราก็ยอมรับเหมือนกัน สุขยอมรับเหมือนกัน เราต้องได้คิดสิ่งใดเสียหาย ประชาชนเสียหายได้เหมือนกันกับพระนั่นแหละ เป็นแต่เพียงว่าโลกเขาไม่ค่อยสนใจกันเหมือนกับเรื่องของพระเท่านั้นเอง ความจริงความผิดนั้นผิดเหมือนกัน ผิดมากกว่าพระเสียอีก วันนี้เราพูดถึงเรื่องศาสนาเรื่องจะเป็นภัย ประเทศชาติบ้านเมืองของเราชาวพุทธของเราจะเป็นภัย เพราะหามาไม่คัดไม่เลือก หามาสุ่มสี่สุ่มห้า เอามาก็มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้มาทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ฉิบหายไปเรื่อย ๆ เลยจะไม่มีคนดีครองบ้านครองเมืองแหละ

วันนี้จะไม่ได้พูดมากพูดเพียงเท่านี้ ให้ท่านทั้งหลายเอาไปพินิจพิจารณา เราเทศน์มามากต่อมากแล้ว เทศน์ทั่วประเทศไทย จะว่านักเทศน์ก็ไม่น่าจะผิดหลวงตาบัวนี่ คะนองมือด้วยคะนองปากด้วย คะนองมือคือเขียน แต่งก็ได้แต่ง แต่งหนังสือเขียนหนังสือ เช่น ประวัติหลวงปู่มั่นเป็นต้น นอกนั้นก็เขียนไปหลายเล่ม นี่เรียกว่าคะนองมือเขียน คะนองปากก็คือเทศน์ เทศน์ทั่วประเทศไทยนั่นแหละ ไม่ว่าภาคไหนไปเที่ยวเทศน์หมด ภาคกลางยิ่งมาก นี่ก็เรียกว่าคะนองปาก นอกจากนั้นยังเทศน์ใส่เทปอีก อัดเทปไว้อีก ออกกระจายทั่วประเทศไทย เทปวัดป่าบ้านตาด หนังสือวัดป่าบ้านตาดนี้ออกทั่วประเทศไทย ไปได้หมดทุกแง่ทุกมุม จึงเรียกว่าหลวงตาคะนองมือคะนองปาก ก็คือหลวงตาบัว

นี่ก็ได้เทศน์มามากต่อมากแล้ว ไม่ค่อยได้มาพูดเกี่ยวกับเรื่องเสียหายอย่างนี้ นี้ย่นเข้ามาสรุปความเข้ามาให้เรารู้ความเสียหายความได้ความดีหรือไม่ดียังไง ให้คัดให้เลือกกัน สิ่งที่กล่าวมานี้เตือนประชาชนทั้งหลายให้รู้เนื้อรู้ตัว เราไม่ได้มีเจตนาที่จะตำหนิติโทษผู้เอามาอย่างเดียว เราบอกเรื่องราวของมันที่จะนำความเสียหายเข้ามาให้ บอกเรื่อง ใครเป็นคนนำมา มันต้องมีคนนำเข้ามา เราก็ต้องระบุถึงคนนำเข้ามา จึงว่าอย่านำเข้ามาผู้ใหญ่ เด็กเขาไปนำไม่ได้แหละ มีแต่ผู้ใหญ่ละไปนำเข้ามาให้เกิดความเสียหาย เราจึงประมวลเรื่องเหล่านี้มาจนกระทั่งถึงวัดวาอาวาส

วิตกวิจารณ์มากเวลานี้ เพราะกองทัพใหญ่ของข้าศึกกิเลสนี้เข้ามาตีทัพจับศึกในบ้านในเมืองของเรา วัดวาอาวาสศาสนาจะร้างไปเพราะสิ่งเหล่านี้แหละ ไม่ใช่อะไรทำให้ร้างนะ บวชเข้ามาเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ติดใจอยู่แล้ว เราเสาะแสวงอยู่แล้ว กิเลสมันอยากมันหิวอยู่แล้วก็ยิ่งได้อาหารโปรดของมันมา ก็ยิ่งเอาใหญ่แหละ ก็ไปใหญ่เลย เสียหายอย่างง่ายดาย ส่วนธรรมไม่ค่อยเหลือบมองกันแหละ ธรรมนะไม่มองกันแหละ หันหน้าเข้าสู่ฟืนสู่ไฟอย่างนี้ โลกก็นับวันฉิบหายเข้าไปทุกวันๆ แล้วต่างคนต่างดิ้นต่างดีดไปตามๆ กิเลส คนนั้นก็มีอันนั้น คนนี้มีอันนี้ คนนั้นได้อันนั้น คนนี้ได้อันนี้ คนนั้นอยากได้อันนั้น คนนี้อยากได้อันนี้ ต่างคนต่างดีดต่างดิ้น มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้อยู่ที่หัวใจ

โลกว่าเจริญก็เจริญ วัตถุสิ่งต่างๆ การอยู่การกินการไปการมาเจริญ การคมนาคมก็สะดวก แต่สะดวกเพื่อกิเลสนั่นซิ สำคัญเพื่อกิเลส ไปเที่ยวรื่นเริงบันเทิงที่โน่นที่นี่ไป มีแต่กิเลสแห่ไปกิเลสรุมล้อมไปนั่นแหละ ธรรมะไม่ได้มีในหัวใจก็เสียหายไปอย่างนี้เอง เพราะฉะนั้นจึงเตือนให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเอาไว้ ว่าสิ่งเสียหายคือสิ่งเหล่านี้เป็นกองทัพใหญ่ที่สุดในเมืองไทยเรา วันนี้เทศน์เพียงเท่านี้เราจะไปธุระอีกแล้ว เมื่อวานนี้ก็ไปธุระวันนี้จะต้องไปอีกแล้ว

เอาละต่อไปนี้จะให้พร

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก