เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๙
ผู้แทน
ไม่พูดอะไรละเหนื่อย วันไหนก็พูดทุกวัน ๆ เลยไม่ทราบจะให้พูดอะไรนักหนา จำก็จำเอาไปปฏิบัติก็แล้วกัน เหนื่อย อยู่ในวัดนี้คนก็ยุ่งตลอดนะ ทั้งวันกวนอยู่ตลอดไม่ใช่ธรรมดา ฟังแต่ว่ากวนนั่นซิ คือมันเลยพอดิบพอดีเลยประมาณ กลายเป็นเรื่องกวนไป ทั้งวันยั้วเยี้ย ๆ ออกมาศาลานี้ไม่ได้เลย ออกมาก็ถูกรุมเลย ถึงอย่างนั้นยังเข้าไปยุ่มย่าม ๆ อยู่ในกุฏิ ออกช่องนั้นเข้าช่องนี้ไปตามนั้น อู๊ย เราก็รำคาญนะ ก็จะทำยังไง ไม่ทราบว่ามาแบบไหนต่อแบบไหน รวมแล้วเป็นแบบรำคาญ
วัดเคยรักษาข้อปฏิบัติความสงบเรียบร้อยมานี้ให้เสียไปหมด แต่ก็ยังดีที่ให้อยู่ในเขตบริเวณนี้ เข้าไปข้างในไม่ได้ ขนาบเอาจริง ๆ นะเราไม่ได้ว่าเล่นนี่ ทำเลที่พระท่านภาวนาไม่ให้เข้าไปยุ่งเลย ใครเข้าไปยุ่งไล่ขนาบเอาจริง ๆ นี่ ให้อยู่ในบริเวณนี้ เพราะพระท่านภาวนานี่ งานของพระคือภาวนา ไม่ให้ไปยุ่งท่าน นี่เห็นไหมมาฉันจังหันหย็อมแหย็ม ๆ ท่านไม่ฉันท่านภาวนาของท่าน ท่านไม่ฉันภาวนามันดีกว่าฉันท่านก็ต้องเอาแบบนั้น ชอบเอาแบบนั้นมาก ๆ องค์ไหนทำลงไปมันเห็นผลก็ติดพันกับแนวทางนั้น ฉันมาก ๆ ฉันธรรมดานี้ โห ไม่ได้นะ คือร่างกายมีกำลังมันก็เป็นเครื่องมือของกิเลสได้เป็นอย่างดี มันดีดมันดิ้น
ตัวราคะตัณหานี่ตัวสำคัญมากทีเดียว ตัวนี้ดีดดิ้นออกหน้าออกตา ทุกสิ่งทุกอย่างตัวนี้ทั้งนั้น โลกถึงได้ร้อน ตัวนี้พังลงไปแล้วไม่เห็นมีอะไรมายิบ ๆ แย็บ ๆ ไม่มีอะไรกวนนี่ ตัวนี้เท่านั้นว่างั้นเลย ฟังแต่ว่าเท่านั้นเถอะน่ะ ตัวรุนแรงที่สุด โลกไม่รู้จักบุญจักบาปก็ตัวนี้ ไม่รู้จักสูงจักต่ำก็ตัวนี้เองตัวหน้าด้าน ตัวนี้หน้าด้านที่สุด จำให้ดีทุกคน เอาไปรักษาปฏิบัติตัวให้อยู่ในกรอบของศีลของธรรมครอบเอาไว้บ้างซิ นี่ปล่อยให้มันเตลิดเปิดเปิงมันแหลกหมดนะ ไม่มีใครว่าเรียนสูงเรียนต่ำเรียนมากเรียนน้อย บริษัทบริวารมากน้อย ยศถาบรรดาศักดิ์อะไร อันนี้มันครอบหัวไปหมดเลย ยิ่งพวกนั้นยิ่งพวกหน้าด้านเสียด้วยซ้ำ
ภาวนาดูมันซีมันถึงได้รู้ชัดเจน ตัวดีดตัวดิ้นที่สุดคือตัวนี้เอง โห มันเป็นแม่ทัพใหญ่เลยเทียวนะ อวิชชาเป็นกษัตริย์อยู่ในพระราชวัง ตัวนี้เป็นแม่ทัพใหญ่ออกเพ่นพ่านๆ พอตัวนี้ม้วนเสื่อลงไปแล้ว กษัตริย์ก็อยู่ในกรอบนั้นเสียไม่เห็นกระดุกกระดิกไปไหน จากนั้นก็พังไปด้วยกัน ไม่มีอะไรกวนใจ โลกจะกว้างแสนกว้างกี่จักรวาลก็กี่เถอะ มันไม่ได้ยุ่งกัน มีกิเลสนี้เท่านั้นยุ่งหัวใจคน ตัวนี้เท่านั้นมันยุ่งมันกวนเอาจริง ๆ นะ อยู่ไม่ได้มันดีดมันดิ้น พาดีดพาดิ้นฟัดเหวี่ยงอยู่อย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านฆ่าได้ พระอรหันต์ท่านฆ่าได้ พวกเราเสริมมันด้วยซ้ำ วิ่งตามมัน ดูแล้วสลดสังเวชนะ ยิ่งเฒ่ายิ่งแก่มาเท่าไรยิ่งเป็นห่วงเป็นใยโลกมาก สกปรกมากขึ้นทุกวัน ๆ เพราะตัวนี้ตัวสำคัญ ตัวพาให้สกปรก
นี่ก็กำลังคัดเลือกผู้แทน ดูซิเดี๋ยวนี้เป็นยังไง มันเหมือนซื้อวัวซื้อควายมาไถนามาเข้าสภา สภานี้ก็กลายเป็นสภาควายไปไม่ใช่สภาคนไปแล้วนะ ไปเที่ยวซื้อเที่ยวหามาแล้วเข้าสภาเป็นควายทั้งนั้น เอ้าพิจารณาซิถ้าว่านี่หาเรื่อง นี่ไม่ได้หาเรื่องนะ มันสกปรกมันสลดสังเวชทนดูไม่ได้ เราเป็นคนหนึ่งที่ทำประโยชน์ให้โลก เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วมันสะดุดใจเอาอย่างมากมาย โห เที่ยวซื้อเที่ยวหากันไม่มีหิริโอตตัปปะไม่มีความละอาย ขอให้ได้อย่างเดียว ๆ ไปซื้อกันมาเหมือนวัวเหมือนควาย ซื้อแล้วก็เอาวัวเอาควายเข้าสภา ไปถกเถียงกันไม่ได้เรื่องอะไร พังแล้วคัดเลือกอีก กวนบ้านกวนเมืองอีกยุ่งอีกอยู่อย่างนั้น เป็นยังไงไม่รู้นะ
ก็ต่างคนต่างเรียนมาเท่ากับว่าต่างคนต่างรู้ เอาคนมีความรู้ทั้งนั้นเข้าไปในสภา กลับเอาพวกเขี้ยวแหลม ๆ เข้าไปในสภาให้ไปกัดกันนั่นซิ ไม่ใช่เอาความรู้วิชาเข้าไปทำประโยชน์ให้โลกนี่นะ ดูแล้วสลดใจนะเรานะ ยิ่งสกปรกขึ้นเป็นลำดับลำดานะ ไม่มียางอายเลยไม่รู้จะทำยังไงมันด้านขนาดนั้นแล้ว หมดยางอาย ศีลธรรมมีอยู่ไม่มีคนสนใจเลย มีแต่ปล่อยให้กิเลสตัณหาจูงจมูกแหลกเหลวไปหมดเลย
นี่จะคัดเลือกแล้วนี่ ความสกปรกลั่นโลกแล้วเวลานี้ ไปที่ไหนป้ายติด โห ประกาศลั่น ประกาศหาอะไรใครก็รู้อยู่นี่ มันเป็นบ้ากันทั้งโลกทีเดียว สลดสังเวชนะมองเห็น บางทีมีแต่ป้ายติดรถเป็นแถวยาวเหยียด รถจนไปไม่ได้ มีแต่ป้ายผู้แทนยาวเหยียดจากนี้ไปโน้น เป็นแถวยาวเหยียด เบอร์ที่เท่านั้นเท่านี้ หลายเบอร์ต่อหลายเบอร์กิโลสู้ไม่ได้..ความยาวของมัน แห่กัน เข้าไปแล้วก็ไปกัดกันเหมือนหมา ความรู้วิชาไม่ทราบเอาไปไหนหมด ใครก็อวดดิบอวดดีอวดเก่งอวดว่าตัวรู้ถึงได้กัดกันแหลก มาแล้วความเดือดร้อนก็มารวมอยู่ประชาชนนั่นแหละ ไม่มาอยู่ไหนนะ พวกนั้นกัดกันพวกนี้แหลก พวกประชาชนนี้แหลก
นับวันนะศาสนา นับวันเรียวลงแหลมลง แหลมลงเรียวลงจนจะไม่มีมองเห็นแล้วนะเดี๋ยวนี้นะ เมืองพุทธเราละเมืองไทยเราละ ว่าเมืองพุทธมันไม่มีพุทธนี่นะ มีแต่ผีเต็มบ้านเต็มเมืองไม่มีพุทธจะทำยังไง มองไปไหนก็เหมือนกัน ท่านเหมือนเรา เราเหมือนท่าน ไม่ทราบจะตำหนิใครได้ลงคอมันพอ ๆ กัน เป็นแบบเดียวกันหมด อ๋อ หมดแล้วศาสนา ความดิบความดีมีอยู่ รักษาก็สงบร่มเย็นมีอยู่มันก็ไม่ทำ หาแต่ฟืนแต่ไฟมาเผาไหม้กัน ไม่ได้เผาไหม้ที่ไหนผัวกับเมียก็ทะเลาะกัน ทะเลาะกันเรื่องนี้แหละจะเป็นเรื่องไหนไป เรื่องตัวราคะตัณหานี่ มันกัดไปหมดนี่นะ ในครอบครัวเหย้าเรือนผัวเมียเข้ากันไม่ติด อันนี้ละกัด เข้าไปกัดแหลกหมด พวกกาฝากเข้าไปกินในต้นไม้ต้นใดแล้วตายหมดนะ พวกกาฝาก หญิงกาฝากชายกาฝาก แหลกหมดละ
นี่เหนื่อยพอแล้ววันหนึ่ง ๆ รับแต่แขกแต่คน ไม่ทราบมาจากไหนต่อจากไหนบ้าง ใครฉลาดก็เอาตัวรอดได้ ใครไม่ฉลาดก็จมไปตาม ๆ กัน เวลานี้โลกกำลังลงในขั้นล่มจม ลงในหลุมในบ่อที่ล่มจม หลั่งไหลลงละ ใครมีความฉลาดก็เอาตัวรอดได้ขึ้นได้ ใครไม่ฉลาดก็จมไปกับเขา เรานี่สอนมาหมดแล้วนี่นะ สอนโลกนี้สอนเต็มภูมิจนกระทั่งสอนไม่ได้แล้วหยุด เวลานี้หยุดแล้ว ไม่เอา ในวัดนี้ก็ไม่เคยประชุมเทศน์ อยู่อย่างนั้นละ เราก็อยู่แบบขอนซุง พระก็เลยอยู่แบบขอนซุงไปตาม ๆ กัน มีแต่เทปเท่านั้น หนังสือ เทป เทปมีมาก
เราฟังเทปของเราทุกวันเราไม่ปล่อยนะ ฟังทุกคืน ๆ มันเพลินฟังธรรม เพลิน รื่นเริงในใจ ไม่มีฉากหน้าฉากหลังเหมือนโลกเหมือนกิเลส ฟังแล้วเพลิน ใจคล้อยตาม ใจคล้อยตาม ฟังทุกคืน ๆ ฟังคนเดียว จากนั้นก็เดินจงกรม ฟังเทปทุกคืน มันรื่นเริงบันเทิงนะธรรมะไม่ได้เหมือนอะไรนะ มันซึ้งเข้าไปลึก ๆ อ่อนนิ่มอยู่ลึก ๆ มันไม่เป็นหอกเป็นหนามเป็นแหลมเป็นหลาวเหมือนกิเลส
กิเลสนี้ฉากนี้เป็นฉากล่อ ฉากนี้เป็นแหลมเป็นหลาวคอยทิ่มคอยแทงอยู่ฉากหลัง ฉากหน้าล่อดึงไป ล่อไป เอาความหวังละเข้า ความหวังนี้ออกหน้า หวังอย่างนั้นหวังอย่างนี้..ล่อ แล้วทีนี้ถูกลากไปละที่นี่ ทางนี้ก็เป็นบ้าไปตาม สุดท้ายแหลมหลาวอยู่ข้างหลังนี้มันก็ทิ่มเอาแทงเอาเต็มหัวอก มีแต่แหลมแต่หลาวในหัวใจของบุคคลหนึ่ง ๆ ดูหัวใจนั้นอย่าไปดูดินน้ำลมไฟ เหล็กหลา ต้นไม้ภูเขาอิฐปูนหินทราย อันนี้คนปั้นมันขึ้นทำมันขึ้น อย่าไปตื่นอย่าเป็นบ้ากัน อยู่ไหนก็อยู่ไปเถอะ สัตว์เขาก็อยู่ของเขามีที่อยู่ มนุษย์เราทำพอเป็นที่อยู่แล้วก็พอ อันนี้สร้างแข่งสร้างขันกัน เป็นบ้ากับลมปาก เขาว่ามั่งว่ามี เขาว่ามียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นบ้าสด ๆ ร้อน ๆ เหมือนลิง
ลิงอยู่เฉย ๆ มันก็เป็นลิงธรรมดา ไม่ค่อยแสดงอาการผิดปกติมากนัก ถ้าเราอยากให้ลิงเป็นบ้าให้เห็นให้หากางเกงมาใส่ให้มัน หากางเกงหาเสื้อมาใส่แล้วเอาหมวกแก๊ปมาใส่ อู๊ย ลิงนี่เป็นบ้า อ้าว จริง ๆ นะไม่ใช่เล่น ๆ นะ เราได้เห็นต่อหน้าต่อตาเรานี้ ออกจากนั้นก็เอาเล่นลิเกละคร เอาอีกละไปอีกแบบหนึ่ง เอาบุหรี่จุดให้สูบ แล้วให้ขี่มอเตอร์ไซค์ไต่ถังที่เขาดิน เขาประกาศว่าให้เข้าชมได้ คือพระเขาอนุญาตให้เข้าชมได้ แต่ก่อนมันวันอะไรของต้นเดือนทุกเดือนๆ เดือนละครั้งให้พระเข้าไปดูเขาดิน กรุงเทพ
เราก็พลอยได้เข้าไปดูกับเขา เข้าไปก็ไปเห็นพวกเดียวกัน พอไปเห็นพวกเดียวกันเราก็เผ่นเลยเทียวนะ คือดูพวกเดียวกันดูกันไม่ได้ว่างั้นเถอะนะ พอพระเดินหลั่งไหลไปตรงหน้าประตู ก็พอดีเขาประกาศออกมาว่าจะออกละครลิงวันนี้ ละครลิงมีอะไรบ้างเขาก็บรรยายไปเรื่อย ๆ พระนี้รุมเลยประตูเขาแหลกเลยนะ อู๊ย ขนาดนี้ก็เป็นพระหัวโล้น ๆ นี่ เราก็เผ่นเลย พระเผ่นเข้าประตู เราเผ่นออกหนีเลยเทียว ไม่เข้าไปในวงนั้นหนีไปเลยเทียว มันดูไม่ได้หัวโล้น ๆ ด้วยกันผ้าเหลืองด้วยกัน มีแต่ความเพลิดความเพลิน
เอาไปคิดอยู่หลายวันเหมือนกันนะเรื่องความหยาบของพระ ก็ไม่ได้ทำความเสียหายอะไรแหละ เพียงไปดูละครลิงเท่านั้นแต่มันเพลินเป็นบ้าไปน่ะซิ มันเลยลืมเนื้อลืมตัวไป เอาบุหรี่จุดให้สูบ แล้วให้ขี่มอเตอร์ไซค์หรือรถอะไรวิ่งไต่ถัง เขาทำหลายแบบละครสัตว์ เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปสัก ๓๐ ปีแล้วมั้ง เขาดินไม่ได้ไปเลย แต่ก่อนมีไปบ้าง พวกลูกศิษย์ลูกหาเจ้านายเขาละพาไป เขามานิมนต์ให้ไปดู พวกนายทหารบ้างพวกนายอะไรที่เขาเป็นใหญ่อยู่ในนั่นละเขาพาไปดู
แต่ทางเมืองไทยเราเลี้ยงสัตว์ไม่ได้เหมือนเมืองนอกเขาเลี้ยงนะ เมืองนอกเขาเลี้ยงเขาดูแลรักษากันดี บำรุงรักษากันดี สัตว์ก็อ้วนท้วน เมืองไทยเรานี่ผอมโซไปดูแล้ว เช่นอย่างอังกฤษนี่น่าดู งูนี่เราอยากจะทราบว่ามีกี่ชนิดเราไปดูที่พิพิธภัณฑ์เช่นอย่างเมืองอังกฤษนี้ โห ไม่ทราบว่างูอะไรต่ออะไรนะมากจริง ๆ เมืองไทยเราไม่มี งูหลาย ๆ ชนิดในประเทศไทยเราไม่เห็นมี มีก็พวกงูเหลือมงูจงอางนิดหน่อย นอกนั้นเป็นงูประเภทอื่น ๆ หมด เต็มเลยนะไม่ใช่ธรรมดา เสือก็เหมือนกัน เมืองไทยเรานี้มีเสือสองสามชนิด ที่นั้นมันตั้งสิบยี่สิบชนิดอยู่ในอังกฤษ เขาใส่กรงเอาไว้ ๆ ไปดู นั่นเป็นประเภทนั้นเรียกว่าเสือนั้น ๆ ประเภทนี้เรียกว่าเสือนี้ ๆ เป็นห้อง ๆ โห หลายชนิดนี่เสือไม่ใช่น้อย ๆ หลายชนิด
นี่พูดสัตว์เล่นละคร ละครสัตว์ พวกพระเป็นลิง เห็นเขาทำละครสัตว์พระก็เป็นบ้า ทีนี้มันก็ต่อไปถึงอังกฤษละซิ ไปก็มีแต่ไปปลงธรรมสังเวชเท่านั้น ไปดูสัตว์นะ ดูปลงธรรมสังเวช น่าสงสารเขา กรรมของเขาของเราอย่างว่านั่นแหละ จะตำหนิใครก็ตำหนิไม่ได้ลงคอละ กรรมเขากรรมเรามันเหมือนกัน
ให้พากันพยายามรักษาศีลรักษาธรรมเพื่อสมบัติอันดีงามของตัวเองนะ เราอย่าไปตื่นโลกนะ เวลานี้โลกกำลังลุ่มหลงกันมากทุกสิ่งทุกอย่าง ดีดดิ้นกันไปหมดทุกหย่อมหญ้า ไม่ว่าในเมืองนอกเมืองนะเป็นพอ ๆ กัน ความร่ำความรวยความมีดีเด่นอะไรอย่างนี้ แล้วจมไป ๆ นะ มันไม่ได้เป็นอย่างความหวังนั่นซิ ความหวังละมันหลอกคน ให้ภาวนาให้ใจสงบ ถ้าใจสงบแล้วเรื่องดีดเรื่องดิ้นซึ่งเป็นเรื่องกวนใจนี้มันสงบของมันไป ใจสงบเรื่องเหล่านี้ก็สงบไม่กวนใจ สบาย
เพียงขั้นสมาธิเท่านั้นก็อยู่ได้สบาย เรียกว่าพออยู่พอกินพอเป็นพอไปทุกอย่าง ไม่ขาดตกบกพร่อง อยู่สบายใจที่มีสมาธิประจำ อยู่คนเดียวก็ได้ อยู่ไหนอยู่ได้ทั้งวันทั้งคืนอยู่คนเดียวแน่ว อารมณ์ของใจคือความสงบ เป็นเรือนอยู่ของใจ เพียงขั้นนี้ก็สบาย จากนั้นก็เป็นขั้นของปัญญาฆ่ากิเลส พอออกทางด้านปัญญาทีนี้กิเลสอยู่ไหน ๆ ลากมาฆ่าหมด ๆ กิเลสตัวคึกตัวคะนองตัวดีดตัวดิ้นภายในใจนี้ จับออกมาฆ่า ๆ ด้วยปัญญา ๆ เรื่อย เอาจนเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือเลย เงียบ โลกนี่สามแดนโลกธาตุนี้เงียบหมด
เงียบอะไร สิ่งอะไร ๆ เขาก็มีเขาเป็นตามเรื่องของเขา มันเงียบที่หัวใจไม่มีอะไรกวนใจ เงียบที่หัวใจ นั่นละที่พระพุทธเจ้าท่านสอน พระโมฆราช ว่า สุญฺญโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ โมฆราช สทา สโต ดูก่อนโมฆราช เธอจงมีสติมาดูโลกนี้อันเป็นของว่างเปล่า แล้วจะถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ ท่านว่า แต่ก่อนเราก็ไม่ได้พิจารณาเท่าไร ทุกวันนี้มันอดพิจารณาไม่ได้ ว่างเปล่ามันว่างยังไง ต้นไม้เป็นต้นไม้ ภูเขาเป็นภูเขา อะไรมันว่าง อะไรก็เต็มแผ่นดินแผ่นหญ้าอยู่นี้แล้วอะไรมันว่าง
มันว่างที่หัวใจ ใจไปยุ่งกับเขา ใจว่าเขาเป็นอย่างนั้นเขาเป็นอย่างนี้ ไปเที่ยวคึกเที่ยวคะนองไปดีดไปดิ้นกับสิ่งนั้นสิ่งนี้มันก็ไม่ว่างละซิ ใจมันวุ่น ทีนี้พอใจเข้ามาสู่เป็นตัวของตัวแล้วไม่วุ่นวายอะไรแล้วมันก็ว่าง โลกก็เหมือนไม่มี ใจว่างนั่นว่างจากกิเลสตัวกวนใจนะ ตัวยุแหย่ก่อกวนมันตายหมดแล้วก็ไม่มีอะไรกวนใจ นั่นละท่านว่าโลกว่าง มันว่างที่หัวใจนะ อะไร ๆ ก็มีอยู่ตามเดิมของมันนั่นแหละภายนอก แต่ภายในที่เข้าไปยุ่งกับเขามันว่างตัวเอง นั่นท่านว่าโลกว่าง
แดนพระพุทธเจ้าอยู่ พระอรหันต์ท่านอยู่ กับแดนพวกเราอยู่นั้นพูดเทียบกันไม่ได้เลย ไม่มีอะไรจะมาเทียบ มันเลยเสียทุกสิ่งทุกอย่าง เลยความคาดความหมายของเราที่เป็นคลังกิเลสนี้ ไปคาดไปหมายว่าจะเป็นอย่างนั้น เห็นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นโมฆะทั้งนั้นไม่มีความหมายอะไรเลย ธรรมชาติที่เป็นไม่อยู่กับความคาดความหมายอันนี้ ใครเป็นเข้าพับก็รู้เอง ใครเป็นเข้าพับรู้เองไม่ต้องถามกัน พระพุทธเจ้ามีกี่ล้าน ๆ ก็ไม่ถามกัน เป็นแบบเดียวกัน รู้อย่างเดียวกัน
นี่ละจิตเวลาถ้าบริสุทธิ์แล้วไม่ได้สูญ นั่นละจิตที่บริสุทธิ์อยู่อยู่ยังไง ถ้าสูญจะเอาอะไรว่าเป็นบรมสุขล่ะ ฟังแต่ว่า นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง เป็นบรมสุข ถ้าสูญแล้วเอาอะไรมาเป็นบรมสุข ใครจะไปเสวย คำว่าเสวยนั้นเสวยในหลักธรรมชาตินะ ไม่ได้มีกฎ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เข้าไปเกี่ยวข้อง สุขในนิพพานสุขไม่มีเวทนา
ถ้าพูดถึงว่าที่อยู่ของพระพุทธเจ้า ที่อยู่ของพระอรหันต์ท่าน ถ้าสมมุติขึ้นว่าที่อยู่นะ แต่ท่านไม่ได้นิยมว่าอยู่ว่าไป บริสุทธิ์คำเดียวเท่านั้นพอแล้ว และเป็นธรรมทั้งแท่งไปเลย จากบริสุทธิ์แล้วพอละขันธ์แล้วก็เป็นธรรมทั้งแท่งไปเลย ถ้าอยู่ในขันธ์ก็เรียกว่าใจบริสุทธิ์ เช่นใจพระพุทธเจ้า ใจพระอรหันต์อย่างนี้ว่าบริสุทธิ์ พอละขันธ์ไปแล้วอันนี้ไม่มี เราจะเรียกว่าจิตบริสุทธิ์เรียกไม่ได้
กิเลสมันเก่งมากเก่งจริง ๆ โลกไม่ได้มองเลยไม่เห็นเลยนี่ซิ ไม่มีใครดูกิเลส ไม่มีใครเห็นโทษกิเลส เห็นเป็นคุณทั้งนั้น เมื่อเห็นเป็นคุณทั้งนั้นแล้วต่างคนก็ต่างรุมตามกันไปซิ สมัครไปกับมันหมด ไม่เห็นมันเป็นโทษพอจะหันหลังกลับจากโทษ เห็นแต่มันเป็นคุณทั้งหมด อะไรเกิดขึ้นเป็นคุณหมดเป็นประโยชน์หมด หลอกลวงต้มตุ๋นได้หมดเลย ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้วหลอกได้ทั้งนั้น เชื่อได้ทั้งนั้น ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้วไม่เชื่อไม่มี..โลก เอาธรรมเข้าจับปั๊บนี้เห็นกันทันที กลมายาของมันเป็นอย่างนั้น ๆ ธรรมเหนือนี่ เหนือกิเลสก็เห็นกิเลส ไม่เห็นฆ่ากันได้ยังไง
เอาละเท่านั้นพอ |