วันนี้ก็ขึ้น ๘ ค่ำแล้วนี่ โห วันคืนปีเดือนมันมืดแจ้ง ๆ มันหมุนของมันอยู่ตลอด เดี๋ยวถึงวันนั้นเดี๋ยวถึงวันนี้ วันเก่านั่นแหละ มืดกับแจ้งอันเก่านั่นแหละ พวกเราก็ตื่นมืดกับแจ้งนี่แหละ ประสามืดประสาแจ้งมีมาตั้งกัปตั้งกัลป์พากันตื่น วันนั้นเดือนนี้ ปีชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง วนไปวนมาอยู่อย่างนั้น อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ วนอยู่อย่างนั้น ๒๔ ชั่วโมงนี่เหมือนกัน ทุ่ม โมง โมงแล้วทุ่ม มืดแจ้งเขาอยู่เฉย ๆ ธรรมดาเขาไม่ได้เป็นบ้าเหมือนคน โลกสมมุตินิยมก็มีเป็นธรรมดาว่าแต่ไม่ตื่นเท่านั้น เราว่านี่ว่าตื่นต่างหากนะ ตื่นมืดตื่นแจ้งตื่นไปอะไรนักหนา ตื่นตัวนั่นซีดี รู้เนื้อรู้ตัว
ให้มีภาคปฏิบัติให้มากนะชาวพุทธเรา เวลานี้ภาคปฏิบัติจะไม่มีนะในตัวของชาวพุทธเรา มีแต่กิริยา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ เฉย ๆ ลมปากเฉย ๆ กิเลสไม่ได้กลัวนะลมปากมันกลัวแต่ภาคปฏิบัติ ว่ายังไงเอากันเลย ๆ นั่นละภาคปฏิบัติ ไม่ควรทำไม่ทำ ไม่ควรไปไม่ไป ไม่ควรกินไม่กิน ไม่ควรอยู่ไม่อยู่ ไม่ควรใช้ไม่ใช้ อย่างนั้นจึงเรียกภาคปฏิบัติ ตัดกันลง ๆ ซิ ถ้าไม่มีภาคปฏิบัตินี้จะจมจริง ๆ นะอย่าว่าพูดเล่นนะ
ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ใช่ของเล่นนะ เวลานี้แหลกเหลวไปหมด ไม่มีใครสนใจปฏิบัติตัวตามอรรถตามธรรม มีแต่ถูกกิเลสลากกิเลสเข็นไปที่ไหน ๆ เหมือนกันหมด มองดูแล้วสลดสังเวชจะตายไป มีแต่ลวดลายของกิเลสเต็มบ้านเต็มเมือง เต็มเด็กเต็มผู้ใหญ่ เต็มขั้นเต็มภูมิของชั้นใด ๆ ก็ตาม วงราชการงานเมืองมาโดยลำดับลำดาจนถึงตาใส ๆ เหมือนตาแมวตาเด็ก มันสั่งสอนกันไปแบบกิริยามารยาทการแสดงออก ไม่ต้องสอนกันว่า ก.ไก่ ก.กา แหละ สอนกันด้วยกิริยามารยาทเด็กก็ยึดเอาไปปฏิบัติไปทำ แล้วเสียกันระนาวไปเลยนี่ มันน่าทุเรศจริง ๆ นะ
ไม่มีภาคปฏิบัติชาวพุทธเราทำยังไงกัน รับศีลก็สักแต่ว่ารับไปเฉย ๆ ไม่สนใจปฏิบัตินี่ซิ ไม่ทราบว่าศีลเป็นยังไง สูญเป็นยังไงมันหลอกไปหมดนะ ภาคปฏิบัติไม่มีหาความสุขไม่ได้นะ เราจะเอาความสุขจากอะไรถ้าไม่เอาความสุขจากตัวของเราเองปฏิบัติตัวเอง ต้องฝึกต้องหัดซิ ก็ดูเอาซิพระท่านมาอยู่นี่ทั่วประเทศ เมืองนอกก็มีเต็มอยู่ในวัดนี่ ท่านมาฝึกหัดดัดแปลง บางองค์ไม่ฉันจังหันไม่ทราบกี่วันแล้วนี่ บางองค์ ๔๐-๕๐ วันเห็นไหมท่านไม่เห็นตายนี่ ท่านฝึกท่าน นี่ก็พระท่านฝึก-ท่านฝึกเพื่อตัวดี อดอาหารยากอะไร อยากกินเมื่อไรก็กินได้ไม่ยากนี่นะ
การที่จะดัดสันดานกิเลสตัวมันทำลายเรามันสำคัญมากตัวนี้นะ เอาให้มันขี้ทะลักออกเลยขี้กิเลส ๆ มันไม่มีอะไรมีแต่กิเลสเอาเราขี้ทะลักใช้ไม่ได้เลยนะ ไม่มีอะไรจริงจังเหลาะ ๆ แหละ ๆ มองไปไหนมีแต่เหลาะ ๆ แหละ ๆ ไม่มีอะไรจริงจัง กิเลสทำหน้าที่กอบโกยหาผลประโยชน์ใส่มันแล้วโกยเอาความทุกข์มาเผาหัวเราเท่านั้น มองไปไหนเหมือนกัน ไม่มีกิริยาของชาวพุทธเลยจะทำยังไง
การฝึกหัดดัดแปลงตนเองไม่มี การบังคับตนเองเพื่อความดีไม่มีจะเอาความดีมาจากไหน มันไม่มีนะความดี มีแต่ความเลวเลวลงไปเรื่อย ๆ ๆ ดูไปยิ่งเลวลงไปเรื่อย สิ่งที่หลอกที่ล่อกันที่จะให้เลวลงไปโดยลำดับมันมากขึ้นมาโดยลำดับ มาทุกแง่ทุกมุม เพราะฉะนั้นโจรผู้ร้ายถึงชุม คนชั่วถึงชุมคนชั่วถึงมาก เพราะต่างคนต่างสั่งสมความชั่ว ก็เป็นคนชั่วจากคน ระบาดสาดกระจายไปหมดไปที่ไหนก็ดี นี่หนังสือพิมพ์เขาออกล้วงคองูเห่า คือยังไง พวกโจรผู้ร้ายมันไปงัดเอาของข้าราชการผู้ใหญ่ ๆ ละซิ ฟาดเอาพวกนายตำรวจเสียด้วยซ้ำไป เป็นอย่างนั้นนะ จึงว่าล้วงคองูเห่า พวกนี้เขาไม่ต้องการคนเซ่อ ใครเซ่อเขาล้วงทั้งนั้นแหละ กำคอเอาเลย
พากันตั้งใจปฏิบัติซิ ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายไม่ว่าผู้เฒ่าผู้แก่เป็นคนละแบบ ๆ แต่แบบของกิเลสโกยเอาผลประโยชน์มาใส่ตัวของมันแล้วทุ่มเอาความทุกข์ให้เรานั่นซิ มีแต่อย่างนั้นละมาก ยิ่งความคึกความคะนองยิ่งมากเวลานี้เป็นเหมือนหมาเดือน ๙ นะดูไม่ได้เลยเดี๋ยวนี้ หมดศักดิ์ศรีดีงาม ไม่ว่าหญิงว่าชายเป็นแบบหมาไปหมดเลย พวกนี้ปฏิบัติตามแบบหมา เดินตามหลังหมาต้อย ๆ มันฉลาดที่ไหนเป็นอย่างนั้น ดูที่ไหนดูไม่ได้เลย
ผู้หญิงผู้ชายตามธรรมดาประเพณีเขาก็ให้มีเขตมีแดนมีศักดิ์ศรีดีงาม จึงเรียกว่ากุลสตรี กุลสตรีคือว่าผู้หญิงในสกุล สกุลที่มีศักดิ์มีศรี แต่นี้มันไม่มีนะกุลสตรี ไปที่ไหนโสเภณี ๆ โสเภณีเด็กโสเภณีผู้ใหญ่มันโสเภณีกันทั้งหมด ไม่มีขอบเขตแล้วเป็นได้ทั้งนั้นเพราะกิเลสไม่ได้ไว้หน้าใครนี่ ถ้าไม่มีศีลมีธรรมเข้าบังคับเสียอย่างเดียวเท่านั้นเสียหมดจริง ๆ นะ
ให้มีภาคปฏิบัติบ้างซิ บังคับตัวเอง เตร็ดเตร่เร่ร่อนมันก็เคยมาพอแล้ว ทำใจให้เสียใจให้แตกแหวกแนวไปหมดแล้วเดี๋ยวนี้ ไม่มีศีลมีธรรมเข้ากั้นกางหวงห้ามบ้างพอเป็นสัดเป็นส่วน จะฉิบหายจริง ๆ นะ ดูไปทางไหนคับแคบแล้วโลกเวลานี้ โลกกว้างก็จริงมนุษย์มากเท่าไรฟืนไฟก็ยิ่งมาก เผากันอยู่ทุกแห่งทุกหน มนุษย์จิตใจแคบตีบตันเข้าทุกวัน โหดร้ายขึ้นทุกวันนะ เอะอะฆ่ากันแล้ว ๆ แต่ก่อนเราก็ไม่เห็นมี เราเกิดมานี้ก็นานแสนนานแล้วนะ สังเกตดูเรื่องความเป็นอยู่ของโลกมาโดยลำดับลำดา พอคนมากเข้า ๆ แล้วก็ต่างคนต่างหาฟืนหาไฟมาเผากันโดยลำดับลำดาแล้วมันก็เป็นไฟไปตาม ๆ กันหมด เอะอะฆ่ากันแล้ว ๆ ไม่มีศีลมีธรรมเป็นเครื่องยับยั้งซึ่งกันและกันเลยทำยังไง
ชาวพุทธเรานี่สำคัญ ผู้อื่นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง พวกชาวพุทธที่มีคุณงามความดีของพระพุทธเจ้ามาโปะอยู่บนกระหม่อมนี้ยังไม่ยึดไม่ถือนี่นะ ยังไปเอาความชั่วช้าลามกเอาขี้เอามูลสดมูลแห้งมาโปะหัวมันอีกแทนธรรมเข้าไปอย่างนั้นไม่เป็นท่านะ ไม่มีภาคปฏิบัติเลยทำยังไงนี่ อยู่ด้วยกันเร่ ๆ ร่อน ๆ หาจุดหมายปลายทางไม่ได้ อยู่ก็อยู่ไปอย่างนั้นละวันหนึ่ง ๆ หาแต่ความรื่นเริงบันเทิงซึ่งเป็นเรื่องของกิเลสเผาหัวทั้งนั้น หาความสุขความสบายความสงบเย็นใจในครอบครัวเหย้าเรือนก็ไม่มี เพราะต่างคนต่างเสาะแสวงหาฟืนหาไฟเผาไหม้ตัวเอง เลยหาความสุขไม่เจอนะ
ใครมาหามีแต่บ่นทุกข์ มาเอาเรื่องทุกข์มาให้ทั้งนั้น นี่สังคมทั่วประเทศไทยนี่ว่าอะไร เกี่ยวข้องกับผู้คนไม่ว่าชาติชั้นวรรณะใดมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น มารายไหนมีตั้งแต่เอาเรื่องความทุกข์มา ๆ ก็หาตั้งแต่ความทุกข์มันก็ได้แต่ความทุกข์ละซิ หาความสุขทำไมจะไม่ได้ ความสุขมีอยู่ความทุกข์มีอยู่ บาปมีอยู่บุญมีอยู่ หาอะไรก็ได้ นี่เราหาแต่ความทุกข์ก็ได้ความทุกข์จะมาบ่นกันหาประโยชน์อะไร ไม่เกิดประโยชน์
การปล่อยเนื้อปล่อยตัวนี้นำมาซึ่งความทุกข์ให้พากันจำเอา การปล่อยเนื้อปล่อยตัวตามอัธยาศัย อัธยาศัยก็อัธยาศัยของกิเลสนั่นแหละมันลากไป ๆ ถูไปถลอกปอกเปิก ครั้นผลได้มาก็มีแต่ความทุกข์เต็มบ้านเต็มเมือง ใครเข้ามาหามีแต่เรื่องทุกข์ คนนั้นทุกข์แบบนั้นคนนี้ทุกข์แบบนี้ทุกข์หลายแบบหลายฉบับ ยุ่งไปหมดเลย เราเลยจะตายฟังความทุกข์คน ทั้ง ๆ ที่ต่างคนต่างหาความสุข ไม่เห็นมีใครเจอความสุข แม้แต่มหาเศรษฐีมาเกี่ยวข้องก็เอาความทุกข์มาพูด ความเป็นมหาเศรษฐีไม่เห็นเอามาพูด ความสุขเพราะมีเงินมากไม่เห็นพูดเลย เอาตั้งแต่ความทุกข์ความทรมานมาพูด ยิ่งทุกข์มาก เศรษฐีทุกข์มากกว่าคนธรรมดาสามัญเรา เพราะเรื่องมีมาก การงานมีมาก สิ่งเกี่ยวข้องมีมากมันก็ทุกข์มากละซิ มันทุกข์อยู่ที่หัวใจ ใจดีดดิ้นอยู่ตลอดเวลา นอนก็ไม่หลับฟังซิ มันคิดมากนอนไม่หลับ
ให้มีภาคปฏิบัติกันบ้างซิ ถ้าไม่มีจมจริงๆ นะจะไม่มีเหลือนะมนุษย์เรา ชาวพุทธเรานี้แหละจะเป็นชาวไหนไป กิเลสไม่มีเวลาอ่อนตัวนะ คำว่า ชราปิ ทุกฺขา มรณมฺปิ ทุกฺขํ ว่าความแก่ก็เป็นทุกข์ กิเลสแก่กิเลสเป็นทุกข์ ความตายกิเลสเป็นทุกข์เพราะตายไม่เคยมีนะ ชาติปิ ทุกฺขา กิเลสเกิดเป็นทุกข์ กิเลสไม่มีคำว่าเกิดเป็นทุกข์ กิเลสเกิดอยู่บนหัวใจคนเผาหัวใจคน แก่ชราก็มีแต่คนแก่ชรา กิเลสไม่เคยแก่ไม่เคยอ่อนตัวเลย นั่น ชราปิ ทุกฺขา มรณมฺปิ ทุกฺขํ มีแต่พวกเราทั้งนั้นนะได้รับความทุกข์ความทรมาน กิเลสไม่ได้เป็น ชาติปิ ทุกฺขา ชราปิ ทุกฺขา มรณมฺปิ ทุกฺขํ ในกิเลสไม่มี เพราะฉะนั้นกิเลสจึงสนุกเหยียบหัวคน เต็มบ้านเต็มเมืองมีแต่เรื่องความทุกข์ความทรมานไปหมดจะทำยังไง ให้มีศีลมีธรรมบังคับตัวเองซิ ทำไมบังคับไม่ได้ เราบังคับไม่ได้จะให้ใครมาบังคับตัวของเรา ต้องบังคับตัวเองถ้าอยากดีนะ
ตะกี้นี้ก็พูดถึงเรื่องพระท่านมาจากทั่วประเทศเขตแดน ท่านมานี่ท่านมาฝึกมาทรมานท่าน ท่านเป็นทุกข์หรือไม่เป็นทุกข์ ท่านก็ทุกข์ แต่ทุกข์เพื่อความสุขจะเป็นไรไป ไอ้ทุกข์เพื่อจมนั่นซิมันสำคัญมาก พวกเรามันทุกข์เพื่อจมนะไม่ได้ทุกข์เพื่อสุข อันนี้ฝึกทรมานตนเองถึงยากลำบากบ้างก็เอาเพื่อชัยชนะนี่ พากันจำเอานะ เอาละหันหน้าไปทางโน้นไหว้พระแล้วรับศีล พูดมากมันเหนื่อยนะ พูดทุกวัน ๆ