ไก่ป่าเรามันเป็นไก่บ้านร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วเดี๋ยวนี้ ดูซิไก่ป่าเป็นไก่บ้านเห็นไหม ยั้วเยี้ย ๆ นี่ละอำนาจของธรรม อยู่ที่ไหนเย็นหมด คิดดูซิไก่ป่า แต่ก่อนไก่ป่าร้อยเปอร์เซ็นต์นะ อยู่ทางโน้นพวกหนึ่ง ๆ มาสร้างวัดทีแรกมีสองพวก ยกพวกตีกัน ได้ยินเสียงทางนี้ขันมาตีทางนี้ ได้ยินเสียงทางโน้นขันไปตีทางโน้น ครั้นต่อมานี่ค่อยกระจายออก ๆ เดี๋ยวนี้เต็มวัดเลยไม่ทราบจะตีตัวไหน ๆ ขันกันอึกทึก เสียงลั่น แล้วเขาเอาไก่บ้านมาโยนเข้านี้อีกผสมกันอีก จนไม่ทราบบ้านทราบป่าละ
ที่มากอยู่เวลานี้ก็ไก่ป่า พวกกระรอก เต็มวัด แต่กระแตไม่ค่อยแพร่หลายเป็นยังไงไม่รู้นะ เอามาปล่อยตั้ง๖๐-๗๐ เห็นตัวสองตัวไม่ค่อยแพร่หลาย...กระแต มันตายหนหนึ่งแล้วโรคระบาด ตายเกือบหมดวัดเลย จากนั้นมาก็ไม่ปรากฏ ท่านอุ่นก็เอามาปล่อยอีกก็ไม่เห็นแพร่หลายนี่ อยู่บริเวณกุฏิเราก็มีอยู่ตัวหนึ่ง ข้างในก็เห็นตัวหนึ่ง กระแตตั้ง ๖๐-๗๐ มันน่าจะมีอยู่ตามนี้ หรือมันออกไปข้างนอก กระแตนี่มักเที่ยวไกลนะ ออกไปข้างนอกก็เข้าหม้อเขาแหละ อยู่วัดท่านอุ่นไกลเล่นเมื่อไรตั้งกิโล มันเข้าไปในบ้านเขาโน่นกระแตนะ มันออกจากวัดนี้เข้าไปในบ้านเขาโน่น ทางตั้งเป็นกิโลมันไปได้สบาย แสดงว่ามันเที่ยวไกลอยู่ มันไปหากินอยู่ในบ้านเขาโน่น เขาก็รู้ชาวบ้าน เขาก็ไม่สนใจ มันไปค้นหาของกินในบ้านในเรือนเขา นี่มันอาจจะออกไปข้างนอกอย่างว่านั่นแหละ ออกไปเท่าไรก็หมด ตายหมด กระแตไม่ค่อยเห็นผ่านสายตาเลยนะ
พวกนกเล็กนกน้อยมีเยอะ พวกนกขอดนกอะไร ที่มันเยอะจริง ๆ ก็พวกกระรอก ไก่ เต็มวัดจริง ๆ กระรอกไม่ค่อยเท่าไร พวกไก่น่ะซิขันอึกทึก โอ๊ย ขันเต็มวัดเลยนะ อยู่ไหนขันกันอึกทึก แต่ว่ากระรอกไม่ร้องนอกจากมันทักเตือนกันเวลาเหยี่ยวมา มันร้องป๊อก ๆ ๆ เตือนกัน
เมื่อวานนี้ตอนบ่าย ๆ พวกคณะแม่บ้าน ก.ร.ป.กลางมา พูดธรรมะให้ฟังเล็กน้อย ก่อนหน้านั้นเป็นพวกกระทรวงอะไรมาลืมแล้ว อันนั้นพูดเผ็ดร้อนหน่อย มีเป็นขั้นเป็นตอน ๆ ควรเรียบก็เรียบ ควรเน้นก็เน้น ควรเฉียบขาดก็เฉียบขาด ควรเด็ด-เด็ด นี่ไม่ได้เหมือนใครนะ เข้ามาหาแต่ละคณะ ๆ นี้ไม่ได้เหมือนกันนะปฏิสันถารการต้อนรับนะ คณะนี้เป็นอย่างนี้ ๆ การต้อนรับในกิริยาที่แสดงออกจะไม่เหมือนกัน ใครมาจะว่าแต่ ดีนะหลวง ๆ ไม่ได้ซิ นี่ไม่ใช่หลวงปู่ดีนะหลวง จะไปดีนะหลวงอย่างนั้นไม่ได้
ใครมาควรดุ-ดุเลย มาปั๊บก็ใส่ปุ๊บเลย บางทีทางนั้นยังไม่ทันยกครูทางนี้ต่อยก่อนแล้ว อย่างนั้นก็มี บางคณะก็ดีนะหลวง แต่คณะดีนะหลวงมีน้อยมากนะ มีแต่มาใส่ปัวะเลย ๆ เรื่อย นี่ละธรรมกับกิเลสดูกันดูอย่างนั้นละ ทางนั้นเป็นยังไงทางนั้นมายังไงใส่ปั๊บแล้ว ๆ เพราะฉะนั้นจึงว่าดีนะหลวงมีน้อยมาก ดีนะหลวงมีธรรมดา ๆ ส่วนมากมีแต่ใส่ปั๊บ ๆ ลวดลายของกิเลสมาแบบไหนเจ้าของไม่รู้นะนั่น ยังโอ้เอ้ไม่รู้ ทางนี้ตีออกให้แล้วทางนั้นยังไม่รู้นะ ทางนี้ตีกิเลสออกให้ยังไม่รู้
กิเลสเร็วขนาดนั้นแหละดูเอา รวดเร็วที่สุดไม่งั้นครอบโลกไม่ได้นะความเร็วของกิเลส เจ้าของเหมือนควายตัวหนึ่ง ๆ กิเลสอยู่บนหัวเจ้าของไม่รู้นะ กิริยาแสดงออกอะไร ๆ มีแต่กิเลสพาแสดง ๆ ทั้งนั้น เจ้าของไม่รู้ เหมือนควายตัวหนึ่ง ๆ ไม่ได้ผิดกันเลยพวกเรากับกิเลสนะ พวกเราเหมือนควายตัวหนึ่ง กิเลสก็เหมือนคนเสีย รวดเร็วขนาดนั้น กิริยาอะไรแสดงออกจะเห็นธรรมะยิบ ๆ แย็บ ๆ ออกมานี้น้อยมาก มีแต่กิเลสออกหน้า ๆ เจ้าของไม่รู้ ๆ บางทีโมโหก็ตีเอาเสียบ้าง ตีกิเลสออกให้เจ้าของยังไม่รู้ มันคันฟันมันเคยฟัดกับกิเลสมาสักเท่าไรแล้ว ถึงคราวฟัดกับมันก็ฟัดบ้างซีจะว่าไง มันอยู่ตรงไหน ๆ ทำไมมันเก่งนักกิเลสนี่ โห มันครอบโลกธาตุ
พูดถึงเรื่องกิเลสกับโลกนี้ทำไมจิตมันคึกคักนะ เพราะมันเคยฟัดเคยเหวี่ยงกันมาเสียพอแล้ว เอาเป็นเอาตายเข้าว่า ฆ่ากิเลสนี้เอาตายเข้าว่าเลยนะไม่ใช่ธรรมดา เพราะฉะนั้นเราถึงบอกว่าหนักมากในชีวิตนี้ไม่มีงานใดที่จะหนักมาก สละเป็นสละตายยิ่งกว่างานฆ่ากิเลส งานฆ่ากิเลสนี้หนักมากจริง ๆ นะ จนไม่ลืมว่างั้นเถิดนะ พอพูดเรื่องกิเลสนี้คึกคักทันทีเลย มันเคยฟัดกัน เอาเป็นตายใส่กัน
ความฉลาดแหลมคมนี้ โถ สติปัญญาเราขนาดนี้เราจะเห็นเรื่องกิเลสขนาดนี้ ๆ มันเป็นชั้น ๆ ๆ กิเลสนะ มันหลอกคนหลอกสัตวโลก ทั่วโลกมันเป็นชั้น ถ้าหนามันก็เป็นขั้นหนา ขั้นนี้ ๆ ๆ เป็นชั้น ๆ สุดท้ายหมดทั้งตัวเรามีแต่กิเลสแทรกอยู่ทุกเม็ดหินเม็ดทรายว่างั้นเถอะ โน่น ถึงเวลามันรู้มันถอนกันถึงได้รู้ มันมีแต่กิเลสทั้งนั้น ลากออกมานี้มีแต่กิเลสเป็นผุยเป็นผงออกมา เวลามันละเอียดเข้าจริง ๆ มันเป็นผุยเป็นผงออกมา ส่วนใหญ่มันตีออก ๆ ๆ ขยับเข้าไปก็เป็นผุยเป็นผงออกมา สุดท้ายเต็มเม็ดหินเม็ดทรายเต็มในตัวของเรานี่ เวลาลากกันออกถึงได้รู้
จึงได้อัศจรรย์พระพุทธเจ้าละซิ กิเลสกล่อมอยู่ทั้งวัน เพลินอยู่กับกิเลส สัตว์เหล่านี้จะออกทางไหน มีธรรมเท่านั้น หมดโลกธาตุไม่มีอะไรมีแต่กิเลสครอบอยู่ ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยออกได้นอกจากธรรมอย่างเดียว มีธรรมเท่านั้น เพราะฉะนั้นใครมีความรักชอบในศีลในธรรม ผู้นั้นละเรียกว่าเบิกทางออกไปทีละเล็กละน้อย ๆ เบิกออก ๆ ถ้าไม่สนใจในอรรถในธรรมเลย ปิดตลอด กี่กัปกี่กัลป์ก็ปิดอยู่ตลอด จะออกได้ด้วยธรรมด้วยคุณงามความดีที่สร้างเท่านั้น นี่ละเป็นเครื่องค่อยเบิกออก ๆ เวลาแก่กล้าสามารถเข้าไป ทีนี้เบิกกว้างออกมันก็เห็นละซิ ค่อยเห็นทุกข์เห็นภัยในโลกในสงสารเข้าไปเรื่อย ๆ
อย่าง พระยสกุลบุตร ที่นี่วุ่นวาย ที่นี่ขัดข้อง เต็มแล้วนะนั่น อำนาจของความดีเต็มแล้ว ที่ไหนขัดข้อง อะไร ๆ ขัดข้องหมด ที่ไหนอะไร ๆ ยุ่งเหยิงวุ่นวายหมด มีไม่ยุ่งเหยิงวุ่นวายแต่จะคิดออกหนีอย่างเดียว พระพุทธเจ้าก็ทรงต้อนรับอย่างดี มานี่ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง บอกให้เข้าไปเลย เครื่องต้อนรับกัน ความดีต่อความดีรับกันแล้ว อันนี้ก็สร้างความดีไว้เต็มที่ พระพุทธเจ้าก็ศาสดาองค์เอกในเรื่องดี มาที่นี่ไม่ขัดข้องที่นี่ไม่วุ่นวาย ให้เข้าไปเลย
พวกเรามันตรงกันข้ามซิ เข้าวัดเข้าวาฟังธรรมจำศีลเจริญเมตตาภาวนาทำบุญให้ทานนี้ขัดข้อง ถ้าเรื่องกิเลสตัณหาแล้วที่นี่ไม่ขัดข้องที่นี่ไม่วุ่นวาย มันกลับเป็นอย่างนั้นนะเดี๋ยวนี้ ที่นี่ไม่ขัดข้องที่นี่ไม่วุ่นวาย มานี่เถิด ๆ ลงกันหมดลงหนอง หนองหม้อเข้าใจหรือเปล่า หนองหม้อ มันเดือดพล่าน ๆ ลงหนองหม้อ ลงไปเท่าไหนก็เท่านั้นละเสร็จ ๆ ๆ
พากันสร้างนะความดี ไม่มีทางออกได้แหละ หมดสามแดนโลกธาตุเป็นเรื่องของกิเลสทั้งหมด เป็นสมบัติของกิเลส สมบัติของธรรมต้องเหนืออันนี้ เข้าทำลายอันนี้ ทำลายกงจักรให้สัตว์ทั้งหลายออกได้ ๆ ด้วยการสร้างความดีของตนอย่างอื่นไม่มี มีบุญมีกุศลคือความดีนี่อย่างเดียวเท่านั้น ที่ค่อยเบิกออกได้ ๆ ถึงออกไม่ได้ที่อยู่ของผู้มีความดีนั้นยังต่างกันอีกกับผู้ที่ลืมเนื้อลืมตัวตลอดไป
ทีนี้จะให้พร