พระดีภายในถึงเป็นหลัก ดีภายนอกไม่เป็นหลัก ดีภายในเป็นหลัก หลักใจนั่นสำคัญใจเป็นหลัก ทุกสิ่งทุกอย่างจะสม่ำเสมอหมดถ้าใจตั้งได้แล้วนะ ถ้าใจตั้งไม่ได้ก็เขวไปได้ เพราะฉะนั้นถึงว่าดีภายนอกภายใน ดีภายในสำคัญเป็นหลักได้เป็นอย่างดี ดีภายนอกมันเหลวไหลไปได้นะ ไปถูกสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มาซึมมาแทรกมาทับมาถมเข้าล้มระนาวไปตาม ถ้าหลักใจมีแล้วไม่ล้ม เล็ดลอด ๆ ๆ ไปอย่างสบายเลยใจมีหลัก
นี่พระเราหลั่งไหลไปเมืองนอก เราก็ได้เคยถามหมู่ถามพวกที่ไปเมืองนอกมา พระเณรเราน่ะวิตกวิจารณ์ไปขายศาสนาน่ะซีไม่ใช่ไปประกาศศาสนา กลัวจะไปขายศาสนา อ้าว หลงได้ง่าย ๆ เรื่องกิเลสหลอกคนนี้หลงได้ง่ายนิดเดียว ไม่มีอะไรแหลมคมยิ่งกว่ากิเลสหลอกสัตว์โลกแหละ หลงได้ง่ายนิดเดียว ข้อสำคัญก็ สกฺกาโร ปุริสํ หนฺติ น่ะซิ ลาภสักการะมันฆ่าบุรุษผู้โง่เขลาให้ฉิบหาย แปลว่าอย่างนั้นในบาลี ลาภสักการะนี่เครื่องล่อของมาร ผู้ผ่านนี้ไปได้แล้วสบายไม่หลง มีเท่าไรก็ไม่หลง นั้นเป็นนั้น ๆ ๆ นี้เป็นนี้ ๆ อยู่นั้นละไม่คละเคล้ากัน ถ้าใจไม่มีหลักแล้วคละเคล้าทันที ซึมซาบทันที อันนี้ละเราวิตกวิจารณ์
เพราะฉะนั้นถึงได้เข้มงวดกวดขันกับพระกับเณรในวัดนี้ นี่ยิ่งเข้ายิ่งออกมากมายนี่ หลั่งไหลเข้ามาเก้ง ๆ ก้าง ๆ ขวางหูขวางตา มาแล้วกดถ่วงกันลงให้หนัก ตั้งแต่อยู่นี่ก็พอแล้วเรา....หนักพอแล้ว ตั้ง ๔๐ กว่ามากกว่านั้นก็ปัดออก ๆ พอถูพอไถ ๔๐ องค์ ๔๐ กว่าอยู่นี่เป็นประจำนะไม่ใช่น้อย ๆ พระเณรในวัดนี้ เราเข้มงวดกวดขันทางด้านจิตตภาวนาข้อวัตรปฏิบัติไม่ให้ยุ่งกับอะไรทั้งนั้น แม้แต่เขานิมนต์ไปฉันที่นั่นที่นี่ไม่ให้ไปนะวัดนี้ ไม่เหมือนวัดใดทั้งนั้นละทั่วประเทศไทยมีวัดเดียวนี้แหละ เป็นวัดผีบ้าก็ถูก เหมือนบ้า เขานิมนต์ไปฉันที่นั่นที่นี่ไม่ให้ไป ไปทำไม ไปก็ สกฺกาโร ปุริสํ หนฺติ มันฆ่าคน ใครได้มาก็นับห้านับสิบละซี ได้มานับเท่านั้นนับเท่านี้ สุดท้ายนับแต่เงินไม่ได้นับธรรมละซิ ไม่ได้หาธรรม
ยิ่งมีเมรุวัดไหนด้วยแล้วนั่นละวัดนั้นละเป็นวัดแหลกเหลวหมดเลย ไม่มีชิ้นดีแหละ พูดได้เต็มปากนับแต่เงินทั้งนั้นวันยังค่ำคืนยังรุ่งจะเป็นอะไรไป นับอรรถนับธรรมที่ไหน พูดให้เต็มปาก โลกมันเต็มเปาจะว่าไง ไม่ให้พูดเต็มปากได้เหรอ นี่ใครจะมานิมนต์ให้ไปฉันที่ไหนเราไม่ให้ไป วัดนี้ไม่ให้ไปเราตัดไว้หมดเลย เพื่อให้พระได้บำเพ็ญภาวนา เมื่อได้คุณงามความดีแล้วพระกับโยมแยกกันไม่ออก โลกกับธรรมแยกกันไม่ออก พระพุทธเจ้าเสด็จออกทรงผนวชใครติดตามพระองค์ เวลาเป็นศาสดาเอกของโลก ใครทำประโยชน์ให้แก่โลกได้มากยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าไม่มี นั่นฟังซิ แยกกันออกไหมล่ะ
เวลาหาต้องหาเวลาทำต้องทำซิ เวลาแจกจ่ายมันหากมี ถ้ามีแล้วก็แจกจ่ายกันได้ ไม่มีเอาอะไรไปแจกจ่าย มีแต่ขาดทุนสูญดอกไปเรื่อย ๆ นี่จึงได้เข้มงวดกวดขันพระเณรในวัดนี้ ใครนิมนต์ให้ไปฉันที่ไหนไม่ให้ไปทั้งนั้น ไม่รับ ถ้าหากว่าจำเป็นจริง ๆ เราเป็นคนจัดให้ทันที ถ้าจำเป็นจริง ๆ นะมีข้อแม้นิดเดียวไม่ให้มีข้อแม้มาก ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็จัดให้เสีย ปีหนึ่งก็ได้มีหนหนึ่งแหละ โห ไม่งั้นไม่ได้จริง ๆ เสียหมดพระ ไม่มีอะไรเหลือแหละ
พวกเรามันพวกหลงนี่จะว่าไง มีแต่คอยจะหลงอยู่แล้ว ยิ่งมีสิ่งมาหลอกลวงก็ยิ่งหลงได้ง่ายเพราะหาที่หลงอยู่แล้วนี่ หารู้ที่ไหนมีแต่หาหลงนั่นแหละ เต็มโลกเต็มสงสารมีแต่หาหลงไม่ได้หารู้นี่นะ ถ้าหารู้โลกอันนี้ก็ควรจะมีความสุขแล้ว นี่ไม่มีนี่นะไปถามซิปากไหนตอบออกมามีแต่เรื่องสกปรกโสมม เรื่องทุกข์เรื่องยากเรื่องลำบากขาดแคลนอย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้ยุ่งไปหมดทั่วโลกดินแดน นั่นเห็นไหม
ถ้าหารู้มันจะเป็นอย่างนั้นหรือ หารู้ต้องรู้ซิ รู้ต้องไม่หลง ไม่หลงก็ไม่ทุกข์ ไม่ทุกข์ก็ไม่ได้บ่น นี่มันบ่นกันทั้งนั้น ไปถามเศรษฐีก็ถามซิ จะเอาความสุขมาตอบให้ฟังไม่มีละ ข้ามีเงินเท่านั้นเท่านี้ข้าแสนสบายไม่มี มีแต่กองทุกข์ใหญ่อยู่ในมหาเศรษฐีนั่น เรียนให้ถึงความจริงซิ อย่าให้ถึงความจอมปลอมซิ เหล่านี้มีแต่จอมปลอมหลอกโลกนั่นแหละไม่เห็นมีอะไร เรียนให้ถึงความจริงแล้วปล่อยหมด ใช้ไปตามหลักเกณฑ์ตามความจำเป็นเท่านั้นไม่ได้ติด ใช้ไปแต่ไม่ติด มีอะไรก็ใช้ไปเมื่อมีมา ไม่มีมาไม่ต้องยุ่ง นั่นเรื่องธรรมเป็นอย่างนั้น
ฉิบหายหมดแหละพระกรรมฐานจะไม่มีเหลือเวลานี้ พระในวัดเราไม่พูดถึงแหละ พูดถึงวงกรรมฐานนี่ มันฉิบหายไปหมดวันละเล็กละน้อยไปเรื่อยเลย มีหลวงตาบัวเป็นก้างขวางคอเขาอยู่ ขวางจริง ๆ เอาจริง ๆ นะนี่ไม่เหมือนใครนะ ถ้าขัดกับอรรถกับธรรมแล้วใส่เปรี้ยงเลย แม้แต่เข้ามาในวัดยังไล่หนีทันทีไม่ให้อยู่ จะมาเปื้อนเปรอะวัดนี้ไม่ได้ ว่างั้นเลย ไม่เอาขนาดนั้นไม่ได้นะพวกชั่วมันหน้าด้านนะ พวกชั่วนี่หน้าด้านหน้าไม่บางหน้าหนามากพวกนี้ ต้องเอาอย่างหนักไม่หนักไม่ได้ กิเลสมาหนักธรรมะต้องหนัก ไม่หนักไม่ทันกัน จะไปเหยาะ ๆ แหยะ ๆ อยู่ไม่ได้
เกรงมันอะไรเกรงกิเลส มันทำทุกข์ให้คนได้มากขนาดไหน มีแต่กิเลสทั้งนั้นธรรมท่านไม่ได้ทำทุกข์ให้ใครต่อใครแหละ ถ้าเกรงกิเลสอยู่ก็ฉิบหายแหละ พระหาจะกราบจะไหว้ได้สนิทลงคอไม่มีนะเดี๋ยวนี้ จะไม่มีนะ มีแต่ฉิบหายวายปวง ๆ ไปอย่างนั้น สุดท้ายก็พระเหมือนโยม โยมเหมือนพระ บ้านเหมือนวัด วัดเหมือนบ้านไปแล้ว ไม่มีอะไรผิดแปลกกันแล้ว ศาสนาก็มีอยู่ในคัมภีร์เสีย ล็อกไว้ใส่กุญแจเรียบร้อย มีแต่กิเลสออกเพ่นพ่านตีตลาด เวลานี้เป็นอย่างนั้นนะ ธรรมไม่ได้ออกตีตลาดนะ
ถ้าธรรมออกตีตลาดกิเลสก็สงบ โลกก็เป็นสุข อันนี้มีแต่กิเลสตีตลาดโลกถึงเป็นทุกข์มาก ความโลภก็ตี ความโกรธ ความประทุษร้ายก็ตี ราคะตัณหาก็เหยียบ เดี๋ยวนี้มี ๓ ประการนี้ที่หนักมาก ออกมาจากความหลงเป็นต้นลำอันใหญ่โต โลกมันถึงได้ร้อนซิ ไม่ได้มองดูหาต้นเหตุมัน เห็นดูแต่ผล บ่นแต่ทุกข์ บ่นเท่าไรก็ไม่หายไม่แก้เหตุมัน
ถ้าว่าผู้ชายอย่างน้อยก็อยากได้ ๕ เมีย ผู้หญิงอย่างน้อยอยากได้ ๑๐ ผัว เป็นอย่างนั้นซิ แล้วจะเอาความสุขมาจากไหนเอามาตีกัน พวกนี้พวกตีกันแหละ ถ้าคนหนึ่งเป็นเมียจริงเป็นคู่พึ่งเป็นพึ่งตายกันจริง ๆ พอคนที่สองเข้ามานั่นแหละยักษ์ เข้ามาแหลกหมด ๆ เอามาซิใครอยากอวดเก่ง อวดพระพุทธเจ้าลองอวดดูซิ พระพุทธเจ้าบอกให้มีผัวเดียวเมียเดียว เมื่อยังแก้ถอดถอนมันไม่ได้ กิเลสตัณหายังมีอยู่ให้มีผัวเดียวเมียเดียว ท่านก็บอกชัด ๆ แล้ว ถ้านอกจากนั้นมาเป็นไฟเผาไหม้แหลกหมด แล้วผิดไปไหนพิจารณาซิ
ใครเก่งกว่าพระพุทธเจ้าจมทั้งนั้นแหละ พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาสอนโลก สอนด้วยความสิ้นกิเลสนี่นะ พวกเรากิเลสเต็มหัวใจจะไปแข่งพระพุทธเจ้าได้ยังไง คนหนึ่งสกปรกมอมแมม คนหนึ่งสะอาดเต็มที่ แน่ะ วันไหนเทศน์ทุกวัน ๆ เลยจะตายผู้เทศน์ก็ดี ผู้ฟังมีกี่หูก็ฟังสบาย ผู้เทศน์จะตายละซิ
เอาละเท่านั้นพอวันนี้ ไม่เอามาก เหนื่อย