ดีเพราะฝึก
วันที่ 22 สิงหาคม 2538
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘

ดีเพราะฝึก

เราไปเห็นพระปฏิบัติเห็นชุ่มตาชุ่มใจนะ มองไปนี้ซึ้งในหัวใจ อบอุ่นก็อบอุ่น เพื่อนฝูงเดียวกันเห็นกันนี้รู้สึกว่ามีความชุ่มชื่นเบิกบานแน่นหนาฝาคั่งภายในจิตใจ แต่ละองค์ ๆ มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ อย่างนั้นละธรรมปกครองโลกน่าดู มองดูพับน่าดูถ้ามีธรรม ถ้าไม่มีธรรมไม่น่าดูเลย อย่างไปวัดภูวัวก็เหมือนกัน วันนั้นเป็นวันอุโบสถวันพระ ตอนบ่ายโมงท่านกำลังลงมารวมกันมาจากที่ต่าง ๆ เพราะภูวัวเนื้อที่กว้างมากตั้ง โห สี่ห้าร้อยเส้น แถวนั้นพระท่านอยู่ได้หมด อยู่เป็นจุด ๆ ๆ มาฉันรวมกัน องค์ไหนอยากฉันท่านก็ลงมาฉัน องค์ไหนไม่ฉันท่านก็ไม่ฉัน กี่วันก็ตามท่านภาวนาของท่าน

เราไปนั้นกำลังท่านรวมกันอยู่ พอมองเห็นเราเท่านั้นรุมพึ่บเลย วิ่งออกมาต้อนรับ นี่อะไรจะลงอุโบสถกันเหรอ กำลังจะลงอุโบสถ อ้อ ผมลงแล้วก็มานี่ ไปเห็นชุ่มตาชุ่มใจ ให้โอวาทบ้างเล็กน้อย ขอให้พากันตั้งอกตั้งใจปฏิบัติให้ดี ศาสนานั้นละเป็นหัวใจของชาวพุทธเรา ไม่มีอะไรจะยิ่งกว่าพุทธศาสนาแล้วว่างั้นเลย ท้าทายได้ถ้าว่าจะท้าทายนะ ถ้าเป็นแบบโลกเรียกว่าท้าทาย ถ้าเป็นแบบธรรมเรียกว่า สนฺทิฏฺฐิโก ประกาศความจริงตลอดเวลา พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ปกครองโลกให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขทุกขั้นทุกภูมิทุกวัยของคน ถ้าลงศาสนาปกครองไม่ได้เรื่องแล้วก็แสดงว่าคนนั้นหมดคุณค่าจริง ๆ ศาสนาเป็นของเยี่ยมอยู่แล้วนี่ ไปโปรดกับคนสกปรกโสมมเข้านี้เลอะเทอะไปหมดใช้ไม่ได้ ศาสนาก็เลยหมดคุณค่าไปกับคนประเภทนั้น เพราะคนนั้นหมดคุณค่าแล้ว

มองเห็นพระนี่ชุ่มตาชุ่มใจ ให้โอวาทบ้างพอสมควรวันนั้น เสียงเงียบ..พระมีสักเท่าไร อย่างนั้นละพระปฏิบัติเป็นธรรม มีเท่าไร ๆ เหมือนไม่มีพระไม่มีคนนะ จะมีแต่ผู้พูดผู้เดียวเท่านั้น เสียงได้ยินทั่วกันหมดเพราะมีเสียงเดียวออก นอกนั้นเงียบ นั่งเหมือนหัวตอ หัวใจท่านเหมือนหัวตอคือตรงแน่ว ไม่เอนไม่เอียงไม่ส่ายไม่แส่ จิตใจเที่ยงตรง ทีนี้ธรรมะก็หลั่งไหลเข้า ๆ เอาแต่ความจริงล้วน ๆ เข้าสู่ใจ ๆ เพราะเทศน์ก็เทศน์ความจริง สถานที่เหมาะสมในการเทศน์ชนิดใดผู้เทศน์ต้องรู้เอง เช่นสถานที่เช่นนั้นจะไปเทศน์ธรรมดาไม่ได้ ต้องเด็ดลง ๆ เพื่อฆ่ากิเลส เราเห็นชุ่มตาชุ่มใจเหลือเกิน

เพราะฉะนั้นไปนี้จึงบอกท่าน..เอ้า จะมามากก็มาเราจะรับเลี้ยง นั่นฟังซิรับเลี้ยง พูดนี้เด็ดขาดเหมือนหินหักเอามาต่อกันไม่ได้ พูดอย่างใดเป็นอย่างนั้น มากกว่านั้นเราเลี้ยง เอ้า เดือนละล้านเราก็จะเลี้ยงจะว่าอะไร จะหมดไหมเดือนละล้านเราเลี้ยง สำหรับคนดีเราส่งเสริม นี่ก็บอกท่านตั้งแต่ต้น ทีแรกมีพระ ๔ องค์เป็นอย่างมากนะ เพราะไม่มีที่โคจรบิณฑบาตแต่สถานที่ภาวนานั้นดี ดีมากทีเดียวเป็นอันดับหนึ่ง ที่วัดเราเป็นที่โหล่เขา ถ้าว่าวัดเดือน ๙ เป็นที่หนึ่ง วัดเรานี่วัดเดือน ๙ เป็นที่หนึ่ง เอะอะ ๆ ยุ่งตลอด เดี๋ยวนี้กลายเป็นวัดเดือน ๙ เดือน ๑๒ ไปแล้วนะวัดนี้ หาความสงัดไม่ได้ ไม่ว่าหญิงว่าชายวุ่นวายยั้วเยี้ย ๆ นั่นเงียบนี่ อยู่ที่ไหนอยู่คนเดียวเงียบ

อยู่คนเดียวได้เห็นกระแสของจิตที่แสดงออกแส่หาความผิด จิตนั่นละสำคัญ คือความรู้มันคิดปรุงเรื่องนั้น คิดเรื่องนี้คิดเรื่องนั้น ส่วนมากคิดหาแต่เรื่องที่จะทำลายตัวเอง ถ้าไม่มีธรรมเข้าสกัด ๆ แล้วไม่รู้ตัวนะคนเรา ผิดได้อย่างง่ายดายมาก ยิ่งวัยขนาดนี้แล้วยิ่งเร็วที่สุดให้จำเอานะลูกหลาน วัยขนาดนี้เป็นวัยที่รวดเร็วที่สุดต่อความเสียหาย ความที่ดีมีน้อยมากเทียว จึงต้องระวัง เอาโอวาทคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าของครูของอาจารย์ไปตีขนาบเอาไว้ มันคึกมันคะนอง ระยะนี้กำลัง..ไม่รู้ภาษีภาษาไม่รู้เป็นรู้ตาย กว่าจะรู้สายเสียแล้ว ๆ

เราอยากเห็นลูกหลานบ้านเมืองของเราประพฤติปฏิบัติต่อศีลต่อธรรม ไปไหนให้มีกฎมีระเบียบเป็นเครื่องบังคับตัวเอง การประพฤติการหยอกเล่นกันก็ให้อยู่ในขอบในเขต ไม่ให้เลยเหตุเลยผลเลยขอบเลยเขตซึ่งเป็นทางเสียหายทั้งนั้น ให้ปฏิบัติตัวเองมีข้อบังคับ เรียนก็ต้องเรียนจริง ๆ อย่าไปเล่น เรียน..เล่น..ลิง มันหลายประเภท ส่วนมากมักมีแต่ลิง อย่างตะกี้นี้ได้ดุเอาเห็นไหมเข้ามาในวัด กินข้าวยังหยอกกันอึกทึกครึกโครมปุ๊บปั๊บ ๆ หยอกกัน มองไปเห็นตำตา ๆ อยู่นี้ ทั้งเสียงก็ลั่นขึ้นมา ต้นเหตุได้ยินเสียงแล้วก็มองไป มองไปก็ดูไม่ได้ นั่นเห็นไหมล่ะ อย่างนี้ละถ้าลิงเข้าไปตรงไหนมันดูไม่ได้ตรงนั้นละ เลอะไปหมด

สถานที่นี่เป็นสถานที่อบรมคนให้มีศีลธรรม มีครูมีอาจารย์มีแบบมีฉบับ มีหลักธรรมหลักวินัยเป็นเครื่องปกครองคนให้ดี ดังที่พูดตะกี้นี้พูดถึงเรื่องพระท่านอยู่ในกรอบของศีลของธรรม ธรรมของท่านก็บริสุทธิ์ดีภายในจิตใจ ท่านไม่มีเล่ห์มีเหลี่ยมมีสันมีคมเหมือนโลกเขา มุ่งหน้าต่อความสัตย์ความจริง มุ่งหน้าต่ออรรถต่อธรรม เรียกว่ามีธรรมบริสุทธิ์ปกครองท่าน ไปเมื่อวานก็เหมือนกันพระเณรก็เต็ม ท่านออกมาหาเราที่ศาลา ดูองค์ไหนก็น่าดูทุกองค์ ๆ อย่างนั้นละถ้ามีศีลมีธรรมอยู่ตรงไหนน่าดูทั้งนั้น

ไม่ว่าฆราวาสญาติโยมถ้าปราศจากศีลธรรมเสียอย่างเดียวแล้วเลอะเทอะไปหมด พระก็เป็นอย่างว่านั่นแหละ เห็นไหมอีตา..มันลั่นโลกอยู่เวลานี้ อีตา..อีตา..มันลั่นโลกอยู่เห็นไหมล่ะได้ยินไหม พูดอย่างนี้ผิดไปไหน ก็มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ จะให้พูดว่ายังไงมันลั่นโลกอยู่อย่างนั้น นั่นละถ้าขาดศีลขาดธรรมเป็นอย่างนั้น หิริโอตตัปปะไม่มีภายในใจเลอะเทอะไปหมด ไม่ว่าแต่พระไม่ว่าแต่ฆราวาส ใครก็ตามกิเลสไม่ได้กลัว กลัวแต่ธรรมเท่านั้นกิเลส ถ้าเรื่องธรรมแล้วกลัว หิริโอตตัปปะคือความสะดุ้งกลัวต่อบาปต่อกรรมต่อที่สูงที่ต่ำ ไม่อาจเอื้อมในที่ต่ำสูง ระมัดระวังตัว เจียมเนื้อเจียมตัว นั่นละศีลธรรมท่านมีสูงมีต่ำ ไม่ใช่เลอะเทอะไปหมด

ความรู้วิชา เป็นเครื่องประดับคนที่ประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในมารยาทอันดีงามต่างหาก ศีลธรรมไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนักยิ่งกว่ามารยาทอันดีงามของคน มารยาทเป็นของสำคัญมากทีเดียวที่จะปฏิบัติให้รู้จักสถานที่สูงที่ต่ำ บุคคลเช่นไรควรจะเคารพประเภทไหน..เคารพ เรื่องจิตดื้อด้านตีมันลงไป ความดื้อด้านไม่ใช่เป็นของดี มันจะสิงเข้าเป็นสัตว์แล้วนั่น มนุษย์ไม่รู้จักสูงจักต่ำก็เป็นสัตว์เท่านั้นเอง ต้องให้รู้จักสูงจักต่ำ ทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบมีเขต การอยู่การกินให้มีขอบมีเขต อย่ากินจิ๊บ ๆ แจ๊บ ๆ ทั้งวันไม่สนใจกับหน้าที่การงานอะไร มีแต่กินจิ๊บ ๆ แจ๊บ ๆ ใช้ไม่ได้ ถึงเวลากินเอ้ากิน กินให้อิ่มแล้วหยุด ไม่ถึงเวลาไม่กิน นี่ฝึกไว้อย่างนั้นให้ตายตัวซิ

เหมือนอย่างพระท่านฝึกของท่าน ตั้งแต่บวชมาปั๊บไม่ให้กินข้าวเย็นเลย ตั้งแต่ตอนเที่ยงไปแล้วไม่ให้อะไรมาแตะต้องพวกอามิส พวกข้าวปลาอาหารผลหมากรากไม้ห้ามไม่ให้เข้ามาสัมผัสที่ปากตั้งแต่เที่ยงไปแล้ว ท่านฝึกของท่านเป็นประจำเลยไม่ได้คิดถึงข้าวเย็นนะ ยิ่งพระกรรมฐานแล้วแม้แต่เพลก็ไม่คิดถึง พอฉันเสร็จแล้วหายเงียบเลยไม่เป็นอารมณ์ เมื่อเราฝึกได้แล้วไม่เป็นอารมณ์ไม่กวนเรา สิ่งใดที่เราเสริมมันมันกวนมากนะ กินจิ๊บ ๆ แจ๊บ ๆ วันไหนไม่ได้จิ๊บ ๆ แจ๊บ ๆ อยู่ไม่ได้ดิ้นเป็นบ้า ถ้าเราฝึกให้เป็นขอบเป็นเขตเป็นเหตุเป็นผลเป็นหลักเป็นเกณฑ์แล้วก็ดี ถึงจะมีอะไรก็ไม่สนใจจะกิน เพราะไม่ถึงเวลาไม่ให้กิน การฝึกตัวให้ดีต้องเป็นอย่างนั้น

คนดีเพราะการฝึกนะไม่ใช่เพราะการปล่อยเนื้อปล่อยตัว การปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่ใช่ของดี เห็นไหมสุนัขเดือน ๙ อึกทึกอยู่ตามถนนหนทาง เวลานี้เป็นเวลาเขาปล่อยเนื้อปล่อยตัว บ้านใครเรือนใครไปได้ทั้งนั้นแหละสุนัขหน้านี้นะ ไปบ้านใดเรือนใดไปได้ทั้งนั้น จุ้นจ้าน ๆ อึกทึกครึกโครม เป็นบ้าเดือน ๙ เขาว่า ตัวเมียตัวผู้ผู้หญิงผู้ชาย นั่นฟังเอาซิ ถ้าเราประพฤติตัวไม่ดีก็เป็นแบบเดือน ๙ คนเป็นเดือน ๙ เหมือนหมาใช้ไม่ได้นะ เลวกว่าหมา ต้องระมัดระวัง ต้องให้มีขอบเขตมีหลักมีเกณฑ์ ไม่ถึงเวลาไม่ซื้อ ไม่ถึงเวลาไม่ขาย อย่าขายก่อนซื้อ อย่าสุกก่อนห่าม ใช้ไม่ได้ เลอะ ๆ เทอะ ๆ พวกนี้พวกเลอะเทอะพวกไม่มีคุณค่า หมดคุณค่า เวลานี้ผู้หญิงผู้ชายกำลังจะเริ่มหมดคุณค่าพอศีลธรรมจางออก ๆ เพราะถีบศีลธรรมออก กิเลสตัวนี้ตัวราคะตัณหามันถีบมันยันศีลธรรมออก ความสูงต่ำไม่รู้ ควรหรือไม่ควรไม่รู้ หิริโอตตัปปะไม่รู้ มีแต่จะเอาให้ได้อย่างใจท่าเดียว ๆ เลอะไปหมดเลยใช้ไม่ได้ หมดคุณค่า มนุษย์หมดคุณค่าแล้วไม่มีอะไรเกินมนุษย์ที่เลวนะ ให้พากันระมัดระวังอย่าให้เลวนะ

เราเรียนหนังสือเพื่อความรู้วิชาประดับตัวของเรา ทั้งเป็นอาชีพหน้าที่การงานของเรา คนมีความรู้ทำงานได้สะดวกกว่าคนไม่มีความรู้ ผิดกัน แล้วคนมีมารยาทอันดีงาม วิชาความรู้ทั้งหลายนี้เป็นเครื่องประดับได้เป็นอย่างดี วิชาความรู้มีมากแต่แบบความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดก็ใช้ไม่ได้นะ ความรู้รู้มากแต่รู้ในทางไม่ดีซิ เป็นโกโรโกโสเป็นนักเลงโตเป็นอันธพาลไปเสียอย่างนั้นใช้ไม่ได้ ต้องเอาความรู้นั้นมาประดับตัวเอง ตัวเองก็ประพฤติตัวดี ความรู้วิชาก็ดี ไปที่ไหนใครก็รักก็ชม ไปที่ไหนถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็เมตตาสงสาร ถ้าเป็นผู้น้อยเขาก็รักเขาเคารพ เพื่อนฝูงเหมือนกันก็เคารพนับถือกันถ้าเป็นคนดี

เราอยากเห็นแต่ของดี ๆ ตัวของเราไม่ดีมันเสียตรงนี้นะ เราอยากเห็นอะไรก็แต่ของดี ๆ ต้องประพฤติตัวของเราให้เป็นแบบฉบับอันดีไว้ก่อน ต่างคนต่างปฏิบัติตัวให้ดีแล้วไปไหนก็ดีไปหมด กิริยามารยาทแสดงออกจากคนที่ได้รับการอบรมด้วยศีลด้วยธรรมด้วยแล้วย่อมเป็นของดีทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ พระเณรเหมือนกันถ้าโกโรโกโสหัวโล้น ๆ ไปสะเปะสะปะอย่างนั้นดูไม่ได้นะ นี่ได้เคยพูดแล้วนี่นะ เดี๋ยวนี้เห็นพระเห็นเณรจะกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาไปแล้วเดี๋ยวนี้ เพราะกระเทือนเรื่อย ๆ พวกเดียวกันหัวโล้น ๆ เหมือนกัน กระเทือนเรื่อยกระเทือนทางนั้นกระเทือนทางนี้มาเรื่อย ๆ ทีนี้มองเห็นพระเห็นเณรเลยกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมา เอือมระอาไม่อยากดูจนกระทั่งพระเณรเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่ผ้าก็ผ้าเหลืองเหมือนกัน หัวโล้น ๆ เหมือนกัน ไม่อยากดูกัน เป็นที่รังเกียจพูดง่าย ๆ เมื่อทำตัวให้รังเกียจแล้วรังเกียจซิคนเรา

พระรังเกียจพระยิ่งแล้วนะ เห็นไหมท่านห้ามอุโบสถสังฆกรรมไม่ร่วมอุโบสถสังฆกรรมเพราะรังเกียจกัน การประพฤติปฏิบัติหลักธรรมหลักวินัยไม่ตรงตามแบบตามฉบับ เป็น อลัชชิตา หาความละอายไม่มี ประพฤติตัวโกโรโกโสไม่มีเขตมีแดน ไม่มีหลักธรรมหลักวินัยเป็นเครื่องยืนยันแล้ว ผู้ที่มีหลักธรรมหลักวินัยเป็นเครื่องยืนยันก็ห้ามไม่ให้เข้าร่วมอุโบสถสังฆกรรม นี่ละที่เป็นนิกายต่าง ๆ แตกออกเพราะความหย่อนยานของธรรมของวินัยนี้เอง ก็ความประพฤตินั้นแหละจะเป็นอะไรไป ความประพฤติไม่ดีเข้ากันไม่ได้ เลยแตกเป็นนิกายนั้นนิกายนี้ออกไป นิกายที่ดีก็รังเกียจผู้ไม่ดีซิถึงไม่ให้เข้าร่วม จึงเป็นนิกาย นิกายแปลว่าหมู่แปลว่าคณะ

เราก็ทำตัวให้ดี ครูก็อุตส่าห์พยายามสอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย วัยนี้เท่านั้นนะเป็นวัยศึกษาเล่าเรียน นอกจากวัยนี้แล้วไม่ได้ศึกษา ให้ตั้งหน้าตั้งตาตักตวงเอาความรู้วิชา มีอะไรควรจะได้เป็นผลเป็นประโยชน์แก่เราให้ได้ กลับไปบ้านแล้วช่วยพ่อแม่ หน้าที่การงานอะไรที่ควรจะช่วยพ่อช่วยแม่ช่วย อย่าไปหาคบแต่เพื่อนแต่ฝูง ส่วนมากถ้าผู้หญิงชอบไปคบผู้ชาย ผู้ชายชอบไปหาแต่ผู้หญิงนั่นแหละ นี่ละพวกไวไฟพวกลิงพวกอันธพาลใช้ไม่ได้ ขายก่อนซื้อ ยุ่งอะไรเวลานี้ไม่ใช่เป็นเวลายุ่ง เวลาเรียนต้องเรียนซิ เวลาเล่นมีเวลาจริงมี ต้องเป็นอย่างนั้นซิ คนจะมีหลักเกณฑ์ต่อตนเองต้องบังคับตนเอง ไม่บังคับไม่ได้นะเสียหายหมดจริง ๆ เวลานี้กำลังเลอะ ๆ เทอะ ๆ มากแล้วนะ เลอะเทอะมากจริง ๆ ไปที่ไหนดูไม่ได้ ๆ

พระก็มีตาเหมือนกันไม่ใช่มีตาแต่ญาติโยม พระก็มีหูมีตามีใจเหมือนกัน พระนั่นแหละคิดละเอียดยิ่งกว่าพวกญาติโยม เช่นอย่างเขามาดูพระวัดนั้นเป็นยังไงวัดนี้เป็นยังไง มาเที่ยวดูพระ เวลาพระดูตับเขาไม่เห็นรู้ มาแบบที่ว่านั่นแหละ เป็นใหญ่เป็นโตเป็นเจ้าอำนาจวาสนา มาดูนั้นดูนี้เหมือนจะมาให้คะแนนมาตรวจวิชาการต่าง ๆ หรือมาตรวจราชการตามพระตามเณร เวลาพระเณรดูตับไม่เห็นรู้ แล้วเอือม ผู้ประเภทนั้นไม่อยากให้เข้ามาวัดนะ ไม่ดูตัวเองดูความเย่อหยิ่งของตัวเองบ้างซิ ความจองหองพองตัวความเย่อหยิ่งใช้ไม่ได้ ไปด้วยความเคารพบูชา อันไหนไม่ดีก็มีอยู่ทั่วโลกนี้จะว่าไง จะมาว่าแต่พระแต่เณรเลยนอกวัดยิ่งเละเทะมากยิ่งกว่าวัดไปเสียอีก ดูให้ดูทั่วถึงกันอย่างนั้นซิ ตัวของเราที่มาเละเทะขนาดไหนที่มาหาดูพระน่ะ หาดูแต่คนอื่นเจ้าของอ้าปากมา ความเซ่อความซ่าความไม่เป็นท่าเต็มหัวใจในกายวาจาใจของตัวเองไม่เห็นดู

นี่เราเป็นห่วงลูกหลานทุกวันนี้ เพราะยิ่งเลอะเทอะเข้าทุกวัน ๆ ไปเรียนหนังสือเลยกลายเป็นโรงมั่วสุมไป โรงเรียนกลายเป็นโรงมั่วสุมไป มั่วสุมเรื่องนั้นเรื่องนี้จิปาถะอยู่ในนั้นถ้าขาดศีลธรรมเสียอย่างเดียว ศีลธรรมสำคัญมากทีเดียว ถ้ามีศีลธรรมแล้วจะมีสติรับรู้ตัวเองว่าเวลานี้เราจะทำอะไร เวลานี้เรากำลังทำอะไร เรากำลังคิดอะไรผิดหรือถูกถ้ามีสติ สติก็คือสติธรรม มีธรรมอยู่ภายในใจมีปัญญาพิจารณาใคร่ครวญแล้วไม่ค่อยเสียง่าย ๆ คนเรา เรื่องของโลกของสงสารมีประจำบ้านประจำเมืองประจำแผ่นดิน แต่สัตว์ยังมี สืบพันธุ์กันมานี่เขาได้ศึกษาเล่าเรียนที่ไหนพวกสัตว์ เขาทำไมสืบพันธุ์กันมาได้ หลักอันนี้เป็นหลักวิชาในหลักธรรมชาติไม่ต้องศึกษากันก็รู้กันเอง เราที่เป็นมนุษย์ควรจะได้ศึกษาอรรถธรรมเข้าระงับสิ่งเหล่านี้ที่มันจะล้นฝั่งให้อยู่ในความพอดิบพอดีนั่นถึงถูก พากันจำเอานะลูกหลาน

วันนี้พูดเท่านั้นละ ต่อไปนี้จะให้พร


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก