ปล่อยตัวปล่อยใจ
วันที่ 29 เมษายน 2538
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๘

ปล่อยตัวปล่อยใจ

เครื่องบินมาอุดร ฯ เดี๋ยวนี้ ๓ เที่ยวเหรอ ต่อไปก็ทวีเหมือนเจ๊กฝันละนะ เจ๊กฝัน ๆ ว่าแร้งมาจับหลังคาเรือนตัวหนึ่ง กลัวเป็นเคราะห์เข็ญเลยไปดูเลขดูยามกับหลวงตา พอดูเลขดูยามแล้ว โธ่ มันโชคลาภใหญ่นะนี่ แร้งมาจับหลังคาเรือนทั้งตัวนี้หายาก ไม่ค่อยมีนะ หลวงตาแก้เคราะห์ให้ นี่แร้งมาจับเพียงตัวเดียว ถ้ามันจับหลายตัวจะร่ำรวยยิ่งกว่านี้อีกนะ ดูแต่นี้มันก็รวยพอแล้ว สองตัว ๆ ทีแรกมาจับหลังคาตัวเดียวว่าร่ำรวยใหญ่ ถ้าจับหลายตัวจะร่ำรวยมากกว่านี้ สองตัว ๆ พอว่าร่ำรวยเดี๋ยวก็ สามตัวสี่ตัว ขึ้นถึงสี่ตัว นั่นละมันจะมากินหัวเจ๊ก เลยไม่มีสักตัวเดียว นี่ก็ทวีขึ้นเรื่อย ทีแรกวันละเที่ยว บางทีเว้นวันบ้าง เดี๋ยวนี้ค่อยขึ้นวันละ ๒ เที่ยวแล้ววันละ ๓ เที่ยวจะเป็นเจ๊กฝันแล้วนะ สามตัวสี่ตัวเข้าไปเรื่อย ๆ

คนเราหากินด้วยความฝัน นอนสลบไสลไปแล้วตื่นขึ้นมาว่าฝันอย่างนั้นฝันอย่างนี้ หากินด้วยความฝัน บทเวลาฝันสดทั้งวันนี้ไม่ได้คิดกันนะ คนเราเสียเพราะฝันสดไม่ได้ฝันหลับนะ คนเราเสียคนเพราะฝันสด คือคิดเรื่องอะไร ๆ มันเป็นไปตามความคิดจริง ๆ ความคิดนี่เรียกว่าฝันสด เราดี ๆ อยู่นี่คิดอยากทำอะไรก็ทำ คิดอยากไปก็ไปได้ทั้งนั้น แล้วทำตามความคิด ๆ ความฝันสด สุดท้ายก็เสียคน ความฝันสดนี้ทำให้เสียคนมากแต่คนไม่มอง มองแต่ฝันสลบไสลนั่น ถ้าได้สังเกตความฝันสดเจ้าของก็จะดี

พระท่านสอนให้ดูฝันสด ความคิดความปรุงมันคิดในแง่ใดไม่ดีแล้วให้ปัดออก ๆ ความคิดในแง่ดีแล้วส่งเสริมมันทำตามมัน นั่นเรียกว่าฝันสด รักษาความฝันเจ้าของไม่ให้เตลิดเปิดเปิง นี่คนเรามันเตลิดเปิดเปิงเพราะฉะนั้นจึงเสียคนมากต่อมาก คนมีมากเท่าไรยิ่งเสียมากเข้าไปโดยลำดับ สิ่งรักษาคุ้มครองได้แก่อรรถแก่ธรรมซึ่งเป็นความปลอดภัยไม่มี ไม่นำมารักษากัน ให้แต่กิเลสขยำย่ำยีแหลกทั้งวันทั้งคืน ไม่ว่าท่านว่าเราพอ ๆ กัน หลับลงไปแล้วก็ฝันตื่นขึ้นมาก็ฝัน ตื่นขึ้นมาฝันมีแต่ความหวังเต็มหัวใจสุดท้ายไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอนหลับไปฝันอีก ตื่นขึ้นมาเป็นบ้าความฝันสดฝันแห้งอยู่อย่างนั้น

เมื่อวานนี้ก็พูดถึงเรื่องใจ ใจเป็นของสำคัญมากทีเดียวคนมองข้ามไป เพราะฉะนั้นจึงเสียคนมาก จิตใจนี้มีอำนาจมาก คิดไปทางไหนเจ้าของล้มระนาวไปตามเลย คิดไปทางใดก็ตาม ส่วนมากไม่ได้คิดทางดีนะมักจะคิดทางชั่ว แล้วเจ้าของก็ล้มไปตาม ๆ เสียไปตามวันละเล็กละน้อย ต่อไปไม่มีเบรกห้ามล้อแล้วเสียไปทั้งคนเลย นี่เพราะความฝันสด ความคิดความปรุงนี้มันฉุดมันลากไป ให้พากันระมัดระวังความคิดความปรุงของใจ คิดอะไรไม่ดีให้หักห้ามอย่าฝืนคิดไปและอย่าทำตามความคิดนั้นจะเสียคน เราหักห้ามเสมอ นี่เรียกว่ารักษาตัว รักษาไม่ได้ก็เสียเรานั่นแหละ

นรกอเวจีอัดแน่นตลอดเวลามีเวลาว่างเมื่อไร ที่กิเลสมันตบตาสัตวโลกทั้งหลายว่านรกไม่มี สัตว์นรกอัดแน่นอยู่นั้น อยู่ที่ว่าไม่มีนั่นเต็มไปหมด ผู้ที่ว่าไม่มีนั่นละผู้จะไปนรก ผู้ใดว่านรกมีผู้นั้นระวังไม่ทำความชั่วช้าลามกแล้วก็ไม่ไปตกนรก ผู้ที่ว่านรกไม่มี บาปไม่มี บุญไม่มี พวกนี้กล้าหาญมากในการทำชั่ว ไม่มีเบรกห้ามล้อเลย ทำเอาตามใจชอบ บทเวลาตายแล้วมีหรือไม่มีก็ไปเจอกันที่นั่น แก้ไม่ได้แล้วสายเกินไป ตกลงก็จมไป ๆ

ตาใครจะยิ่งกว่าตาพระพุทธเจ้าตาพระญาณหยั่งทราบ นำมาสอนสด ๆ ร้อน ๆ พระสูตรก็จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ พระวินัยก็จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ พระสุตตันตปิฎกพูดถึงเรื่องสัตว์เรื่องบุคคลที่ทำความดีความชั่วไปตกนรกหมกไหม้ นี้เป็นพระสูตรเรียกว่าพระสุตตันตปิฎก ปิฎกนี้ก็ออกมาจากธรรมของพระพุทธเจ้า ออกมาจากศาสนธรรม พระวินัยปิฎกได้แก่ข้อบังคับดัดแปลงกายวาจาใจของตนให้เป็นไปตามแนวธรรม ท่านเรียกว่าพระวินัยปิฎก พระอภิธรรมปิฎกสอนเรื่องจิตเรื่องใจ ให้รักษาใจ ไม่ปล่อยใจตัวเองไปสุ่มสี่สุ่มห้า

พระไตรปิฎกทั้งสามนี้เป็นศาสนธรรมของพระพุทธเจ้า ท่านกล่าวถึงเรื่องนรกเรื่องสวรรค์ กล่าวถึงเรื่องคนทำดีทำชั่วไปตกนรกบ้างไปสวรรค์บ้าง นี่เป็นฝ่ายพระสูตร ฝ่ายไหนก็ตามขึ้นชื่อว่าธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็เหมือนต้นไม้มีหลายแขนง แขนงไหนก็ออกจากต้นไม้ต้นเดียวกัน ๆ คือจากต้นไม้ต้นนั้นไม่เป็นต้นอื่น แสดงอะไร ๆ ก็ไปจากโอวาทคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

ปล่อยตัวเกินไปไม่ดีนะให้พากันระมัดระวัง หลวงพ่อก็เหนื่อยนะสอนทุกวัน ๆ อยากให้เป็นคนดี เรื่องคนชั่วไม่ได้สอนนะ กิเลสมันสอนอยู่ในตัว เกิดขึ้นมาเป็นหลักธรรมชาติมีอยู่ในตัวนั้นแล้ว ยิ่งได้รับการส่งเสริมในทางที่ชั่วด้วยการคบค้าสมาคม การเห็นหมู่เห็นเพื่อนเห็นใครต่อใครทำความชั่วช้าลามกต่าง ๆ แล้วก็จับได้เร็ว ๆ คนชั่วจึงมีมากคนดีมีน้อย ต้องมีครูมีอาจารย์คอยแนะนำสั่งสอน ถ้าไม่มีครูมีอาจารย์ก็ไปไม่รอดเหมือนกัน จมได้ ๆ การปล่อยใจนี่สำคัญ การปล่อยใจกับการปล่อยตัวไปด้วยกัน คนเราเมื่อปล่อยใจแล้วก็ปล่อยตัว เสียไปเพราะการปล่อยตัว

อยู่ในบ้านในเรือนนั่งก้นไม่ติดพื้น วิ่งเต้นเผ่นกระโดดหาแต่เรื่องคึกเรื่องคะนองอยู่อย่างนั้นทั้งวันทั้งคืนไม่มีวันอิ่มพอ ตื่นขึ้นมาวันหลังยิ่งกำเริบเสิบสานขึ้นไปอีก หนักเข้า ๆ ก็เสียคนได้ ใครห้ามไม่อยู่ ถ้าเป็นเด็กก็เรียกว่าเด็กหัวขาดหัวกุดไม่มีพ่อไม่มีแม่ คือไม่ยอมฟังเสียงพ่อเสียงแม่แนะนำสั่งสอน ปล่อยตามยถากรรม คบค้าสมาคมกับเพื่อนนี้เร็วยิ่งกว่าลิง เวลานี้เพื่อนก็มากนะ เพื่อนหญิงเพื่อนชายโกโรโกโสไปตาม ๆ กันหมด เวลานี้เลอะ ๆ เทอะ ๆ ผู้ชายก็หมดศักดิ์ศรีดีงาม ผู้หญิงก็หมดคุณค่าหมดราคาเป็นหมาเดือน ๙ ไปหมดแล้วเวลานี้ ความไม่มีศีลธรรมเสียอย่างเดียวทำคนให้เลอะเทอะแหลกเหลวไปหมดได้อย่างนี้ เห็นประจักษ์อยู่ต่อตาของเรานี้

ลูกเต้าของเราเองก็ดูซิ เกิดขึ้นมาจากพ่อจากแม่คนเดียวกัน คนหนึ่งแสดงลวดลายไปทางหนึ่ง ๆ มีแต่ลวดลายที่เสียหายส่วนมาก เด็กบ้านนี้ก็เป็นอย่างนี้ เด็กบ้านนั้นก็เป็นอย่างนั้น ๆ เพราะพ่อแม่พาเป็นอย่างนั้น เวลามาคละเคล้ากันแล้วมีแต่เด็กเลวก็ใช้ไม่ได้ซิอย่างนั้น เพราะไม่มีกรอบแห่งศีลธรรมเป็นเครื่องกำกับรักษาพอให้เป็นคนดีบ้างเลย ใช้ไม่ได้นะ ต้องไปอบรมตัวเองให้ดีแล้วก็อบรมลูกเต้าหลานเหลนทุกคน ๆ ให้เป็นเด็กดี

การเรียนไม่สำคัญอะไรแหละใครเรียนก็ได้ เด็กเรียนก็ได้ผู้ใหญ่เรียนก็ได้ แต่การจะปฏิบัติตามกฎกติกาหลักวิชาที่เรียนมานั่นซิไม่มีใครจะค่อยสนใจนักนะ มีแต่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่อย่างนั้นพวกข้าราชการผู้ใหญ่ ๆ ไม่เสียตัว เพราะพวกนี้มีความรู้มาก ความรู้มากเท่าไรยิ่งลืมตัวมาก เย่อหยิ่งจองหองพองตัว ใช้อำนาจเป็นโล่บังหน้าดะไปเลย ฟังแต่ว่าดะไปเลย ทำชั่วช้าลามกก็พวกนี้แหละสำคัญ ความรู้มีหรือไม่มีเราก็ดูเอาซิ แล้วพวกนี้พาผู้น้อยเสียไปมากมายก่ายกองนะ เขาไม่เคารพนับถือไม่เชื่อฟังเพราะผู้ใหญ่ทำตัวโกโรโกโส ทำตัวเป็นคนเลว หลักวิชาไม่สนใจ สอนมายังไง ๆ เรียนมายังไงไม่สนใจ เอาหลักวิชามาเป็นเครื่องมือให้กิเลสถลุงเอา ๆ ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเสียหายไปหมด คบค้าสมาคมกันมีแต่เรื่องมั่วเรื่องสุมทั้งนั้นนะไม่มีเรื่องศีลเรื่องธรรมเข้าแทรกเลย

สังเกตดูก็รู้นี่ในสมาคมหนึ่ง ๆ เขาคุยกันเรื่องอะไร ไปนั่งแอบฟังนิดเดียวก็รู้ นั่นละพวกเขาสอบสวนสืบสวนเขาหาความลับอย่างนั้น เข้าไปนั่งปั๊บอย่างนี้ได้ความออกมาแล้ว มีแต่เรื่องความชั่วช้าลามก แม้จะไปฉกไปลักไปปล้นไปสะดมเขามาก็ปิดไม่อยู่เพราะปากเปราะ พอนั่งคุยกันแล้วก็อยากโม้อยากอวดอยากคุย ว่าเราได้ไปทำอย่างนั้นไปทำอย่างนี้ แล้วผู้ที่นั่งแฝงอยู่นั้นมี เขาก็มามัดคอเอาไปเสีย สมาคมไหนก็เป็นอย่างนั้นนี่นะ ไม่มีสมาคมเกี่ยวกับเรื่องศีลเรื่องธรรมเลย พูดแล้วเราสลดสังเวชนะ

เวลานี้ครอบครัวเหย้าเรือนมาคุยกันแม่บ้านมาคุยกันก็แบบเดียวกัน พ่อบ้านมาคุยกันก็แบบเดียวกัน สังคมหญิงสังคมชายคุยกันมีแต่เรื่องโกโรโกโส หาเรื่องศีลเรื่องธรรมเข้าแฝงไม่ค่อยมีและไม่มี บ้านเมืองจะมีความเจริญรุ่งเรืองสงบร่มเย็นได้ยังไงเมื่อคนนำแต่เรื่องชั่วช้าลามกออกมาจ่ายตลาดกันอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ หาความดีที่ไหนพอจะเป็นสาระแก่นสารของบ้านของเมืองให้เป็นหลักเกณฑ์ต่อไปล่ะ ถ้าพวกเราไม่ต่างคนต่างรักษาต่างคนต่างระมัดระวังดัดแปลงตัวเองแก้ไขตัวเอง

กลับไปบ้านก็แก้ไขอยู่ที่ไหนก็แก้ไข สิ่งไม่ดีอยู่ไหนร้อนหมด เราแก้ไขได้ทั้งนั้น ไม่ดีแก้ไขให้ดี เมื่อต่างคนต่างมีความสนใจใคร่ตามหลักธรรม คือธรรมนี่เป็นความปลอดภัย ถ้าปฏิบัติตามธรรมแล้วไม่เดือดร้อนวุ่นวาย หลักธรรมคือความถูกต้องดีงาม อันไหนไม่ถูกขัดต่อหลักธรรมนั้นละคือความทุกข์จะมาตรงนั้น มาขัดแย้งกันตรงนั้นให้ระมัดระวัง เมื่อต่างคนต่างระมัดระวังรักษาแล้วก็ค่อยดีวันดีคืนไปเรื่อย ๆ บ้านเมืองก็สงบร่มเย็น โจรผู้ร้ายมันมีพ่อมีแม่นี่ พ่อแม่ไม่พาทำพ่อแม่อบรมในทางที่ถูกที่ดี ถ้าไม่ใช่เป็นลูกแหวกแนวเสียจริง ๆ แล้วยังไงต้องเชื่อพ่อเชื่อแม่ แต่นี้พ่อแม่ก็ไปแบบหนึ่งลูกก็ไปแบบหนึ่ง ไม่มีใครสอนใครได้ ต่างคนต่างแหวกต่างว่ายแล้วก็จมตายด้วยกันนั่นแหละ ไม่มีใครดี ให้พากันเอาไปปฏิบัติรักษานะ

เราเหนื่อยเทศน์ทุกวัน ๆ เราเป็นห่วงโลก เฒ่าแก่มาเท่าไรยิ่งห่วงโลกแทนที่จะห่วงเจ้าของกลับไม่ห่วงนะ ตื่นขึ้นมานี้จิตออกแล้วเกี่ยวกับโลก สงเคราะห์โลกช่วยโลกสงสารโลก ไม่ได้ออกไปแบบโลกธรรมดาที่เขาออกไป ออกไปถึงเรื่องคิดเมตตาสงสาร ไม่ได้ออกไปแบบความเพลิดความเพลินความเป็นบ้าหมาเดือน ๙ อย่างนั้นนะ ห่วงโลกห่วงนะมันเป็นทุกข์ภายในใจจริง ๆ ฝังจมอยู่ภายในมีแต่กองฟืนกองไฟเผาไหม้ ใครนั่งอยู่ที่ไหนไฟเห็นอยู่ที่นั่น ยืนเดินนั่งนอนอยู่ที่ไหนไฟสุมอยู่ในหัวใจหาความสุขที่ไหน โลกนี้มีความหมายอะไร ดูเข้าไปที่หัวใจซิถ้าอยากรู้ความร้อนความเย็น วิ่งเต้นเผ่นกระโดดฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปไหน ไม่ดูจุดที่มันเป็นฟืนเป็นไฟ ถ้าดูจุดนี้แล้วก็รู้ทางแก้ไขดัดแปลงกันแล้วก็ดีได้คนเรา

วัดอะไรที่คุณ...ถวายนี้ก็ให้พระไปอยู่แล้ว แถวหนองแสงนี่เห็นมีแม่น้ำลำคลองไหลรินอยู่ทั้งแล้งทั้งฝน ที่สงัดดีประมาณสัก ๗๐ ไร่ยังจะกว้างออกไปอีก มีผู้จะถวายและเขาจะซื้อต่ออีก ถ้าพระอยู่ที่ไหนต้นไม้ชุ่มเย็นอยู่ที่นั่น ป่าอยู่ที่นั่น ท่านรักษาป่าดีคนเขาก็เกรงขามเคารพนับถือเขาไม่ค่อยไปทำ ถ้าไม่ใช่พวกหน้าด้านเสียจริง ๆ ไม่ทำ ถ้าเป็นเรื่องพระแล้วทำไม่ลง เราก็เหมือนกันนะถ้าเรื่องพระเรื่องธรรมแล้วทำไม่ลงนะ จิตใจจะแข็งแกร่งทางความชั่วขนาดไหนก็ตาม พอว่าพระว่าธรรมเท่านั้นยุบทันทีหมอบราบเลย ถ้าไม่ใช่ใจเทวทัตจริง ๆ ทำไม่ลง

ยกตัวอย่างอำเภอพลนี่เขาพูดให้ฟังสด ๆ ร้อน ๆ นะ มันหากดลบันดาลให้เป็นนะ พระพุทธเจ้าแสดงเรื่องเทวบุตรเทวดาท่านเห็นอยู่ชัด ๆ พวกเราไม่เห็น บทเวลาจำเป็นจำใจจริง ๆ ผู้มีนิสัยวาสนายังสืบต่ออยู่ มีสิ่งมาช่วยจนได้ อันนี้ก็มีคนหนึ่งเขาเคียดแค้นให้กัน ผูกกรรมผูกเวรกันจะไปฆ่า เตรียมปืนไปเลยเทียว ต้องตายเท่านั้น มันไม่ตายกูตาย เด็ดขนาดนั้นนะใจ พอจะฆ่าหมดครัวเรือนจะฆ่าหมดเลย แต่ยังไงไอ้นี่จะต้องเอาเป็นที่หนึ่ง เคียดแค้นมากกึก ๆ ๆ ไปเลย มันดลบันดาลสด ๆ ร้อน ๆ ไปก็มีแต่ครุ่นแต่คิดว่าจะเอาท่าไหน ๆ พอดีเดินกึก ๆ ๆ ไป พ่อแม่ครูจารย์มั่นเรานี่ไม่ทราบมาจากไหน โผล่มายืนขวางหน้า นี่จะไปตกนรกหลุมไหน ว่าอย่างนั้นเลยนะ โห ทิ้งปืนตูมลงกราบเลย พอกราบแล้วหายเงียบ ท่านไปไหนไม่รู้นะหายเงียบ

เวลานั้นเห็นยืนจังก้าอยู่ต่อหน้าจริง ๆ เหมือนเราดูกันนี่ นี่จะไปตกนรกหลุมไหน ว่าอย่างนั้นนะพูดเท่านั้น ทางนี้พอมองเห็นจำได้ชัดในรูป คือเขาเคยเห็นในรูปเขาว่างั้น เขาไม่เคยเห็นองค์จริงแหละเห็นเฉพาะในรูป ดูเป็นเหมือนรูปภาพทั้งหมดเลย ยืนจังก้าอยู่ขวางหน้าเลย นี่จะไปตกนรกหลุมไหนนี่ พอว่าเท่านั้นเขาก็ทิ้งปืนลงกราบเสร็จแล้วกลับเลย ตั้งแต่นี้ต่อไปเราจะไม่เป็นกรรมเป็นเวรกันอีกแล้ว เลิกตั้งแต่บัดนี้ แล้วเลิกจริง ๆ ด้วย ถึงใจเหลือเกินพ่อแม่ครูจารย์มั่นเกิดมาเราไม่เคยเห็นท่าน ทำไมมายืนจังก้าต่อหน้าเวลาเราจำเป็นจะไปฆ่าคน ท่านมาได้ยังไงนี่ซิอัศจรรย์ พอกราบแล้วท่านก็หายเงียบไปไม่เห็น เห็นเฉพาะที่ยืนจังก้าตอนที่เดินไป เห็นชัดเจนเหมือนเรามองดูกันต่อหน้าต่อตา แล้วยังออกเสียงแผดเสียด้วยนะ นี่จะไปตกนรกหลุมไหนนี่ ว่างั้นเสียงตวาด ทิ้งปืนตูมลงกราบราบเลย

จากนั้นกลับบ้านแล้วก็เลิกเลยไม่เอาอีกแล้ว โอ๊ย บาปมีบุญมีเป็นอย่างนี้เอง ไม่งั้นวันนี้เขาก็ต้องจมแบบหนึ่ง เราก็ต้องจมแบบหนึ่งจนได้ ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ครูจารย์มั่นมายืนขวางหน้านี้จมทั้งสองฝ่ายเลย เลิก บาปมีบุญมีอย่างนี้เอง ๆ เขารำพึงรำพันสอนเพื่อนฝูงเขา ใครอย่าไปกล้าหาญนะ เรื่องบาปเรื่องบุญเห็นประจักษ์แล้วพ่อแม่ครูจารย์มั่นมายืนจังก้า ไม่งั้นเราจะฆ่าคนอย่างน้อยหนึ่งคนที่เรามุ่งแล้ว นอกจากนั้นควรจะหมดครอบครัวจะเอาให้หมดเลย พอไปพ่อแม่ครูจารย์มั่นมากึ๊กขวางหน้าเลยห่างกันวาเดียวเท่านั้น แล้วขู่อย่างรุนแรงด้วย ปืนไม่ทราบหลุดมือไปเมื่อไรทิ้งตูมเลย กราบ จากนั้นก็มาบอกเพื่อนบอกฝูง ใครอย่าประมาทนะเห็นชัดเจนแล้ว เราเห็นเองถ้าคนอื่นก็ยังไม่แน่ใจนัก นี่เราเห็นเองเป็นเองเจอเองและเราจะทำความชั่วแบบนั้นจริง ๆ ด้วย ท่านทักว่าจะไปตกตรกหลุมไหนน่ะ ว่าอย่างนี้ จากนั้นมาก็เลิก แล้วสอนหมู่สอนเพื่อนให้ระวังบาปกรรม บาปมีบุญมีเห็นประจักษ์อย่างนี้แหละ

เรื่องพ่อแม่ครูจารย์มั่นแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นหลายแห่งนะ แสดงอย่างนี้ละแสดงอย่างที่ท่านแสดงมา เหรียญท่านก็เป็นฤทธิ์เป็นเดชอยู่นะ เหรียญรุ่นแรก ๆ เลยละ เขาทำอยู่สกลนครเราจำได้ ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์นี่แหละทำ พวก ต.ช.ด.ได้เหรียญแล้วเอาติดคอไป คืนวันนั้นเพราะรักสงวนท่านมากเลยเอาท่านไว้ใต้ที่นอนแล้วก็นอนทับกลัวใครจะมาคว้าเอาไปเสีย ปลดออกจากคอแล้วก็วางไว้ใต้ที่นอน ว่าหมอนก็ไม่ใช่หมอน พวกต.ช.ด.นอนอยู่ในป่า เอาใส่ไว้ใต้ที่นอน พอนอนหลับไปก็ฝันถึงท่านอาจารย์เสาร์กับท่านอาจารย์มั่นเดินมาด้วยกัน เพราะท่านติดกันมาแต่ไหนแต่ไร มาว่าพวกนี้เอาเรามาทิ้งไว้ในป่าในเขาไม่นำพา พวกเราหนีนะไม่อยู่กับพวกนี้ ว่างั้นแล้วเขามองตามหลังเห็นท่านเดินไปสององค์ เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาคว้าหาเหรียญก็ไม่เห็น เหรียญหายไป อย่างนั้นก็เป็น แปลกอยู่นะความฝันน่ะ พอความฝันผ่านไปแล้วก็ตื่นรู้สึกตัวก็ค้นที่เอาไว้ใต้ที่นอนเลยหายเงียบจริง ๆ ไม่ได้เลย ร้องไห้โฮตำรวจคนนั้น ไม่ได้จริง ๆ นะหายเลย ค้นจนแหลกก็ไม่มี นั่นดูซิเหรียญหายไปไหน

พูดเท่านั้นละเลิกกัน


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก