บ้ายศ
วันที่ 23 เมษายน 2538
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๘

บ้ายศ

 

        เราหนักมากจริง ๆ นะมีแต่มาดูหน้า ๆ เหมือนไม่มีหน้า  หลั่งไหลกันมาดูแล้วลง ๆ เราผู้นั่งรับเลยจะตาย  บางทีก็เสียมารยาทบ้างตามโลกกิเลสนิยมกัน  ไล่ลงไปแล้วยังปีนขึ้นมาอีก  ปีนขึ้นมาทำไม  ขนาบเอาน่ะซิ ไล่ลงยังไม่รู้ภาษาอีกเหรอ  ปีนขึ้นมาหาอะไรอีก  เวลาจะดุก็ดุเอาอย่างนั้น  ก็ไล่ลงไปแล้ว  ลงไปแล้วยังปีนขึ้นมาอีกปีนขึ้นมาหาอะไร ไม่รู้ภาษากันเหรอ ว่าอย่างนั้นแล้ว  แต่เราไม่เคยสนใจกับภาษาหยาบละเอียดอะไรแหละ  เอาเหตุเอาผลว่าเข้าไปเลยทันที ๆ เรื่องกิเลสเอาประมาณไม่ได้  พอใจก็ยิ้มแย้มแจ่มใส  ไม่พอใจก็เศร้าโศกเหงาหงอยไปเท่านั้นเอง  เรื่องกิเลสเป็นอย่างนั้น

        ต่างคนต่างหันหน้าเข้าศีลเข้าธรรมนะ เวลานี้โลกกำลังร้อนมากนะ  เมืองไทยเราร้อนมาก  มีหลวงตาบัวคนเดียวพูดอย่างนี้ นอกนั้นไม่มีใครพูด มีแต่ว่าเมืองไทยน่าอยู่น่ารื่นเริงบันเทิง  มันมีแต่เครื่องประดับร้านเฉย ๆ หัวใจของคนนั้นเป็นไฟเผา ๆ ตลอดไปหมด  นี่ซิมันร้อนมากเพราะไม่ปรับตัวเข้าหาศีลธรรม มีศีลธรรมเท่านั้นจะระงับได้ นอกนั้นไม่มี การดีดการดิ้นตามสิ่งทั้งหลายนี้ดีดดิ้นด้วยอำนาจของกิเลสทั้งนั้นแหละ ใครอยู่ที่ไหนเดือดร้อนวุ่นวายไปหมด เราก็เคยพูดไม่รู้กี่ครั้งแล้ว มหาเศรษฐีก็เถอะว่างั้นเลย ไฟมันอยู่นี่ไม่ได้อยู่กับคำว่ามหาเศรษฐี มันเผาอยู่หัวใจนี้

        ความโลภได้เท่าไรไม่พอ ๆ เอาจนตาย มันบีบบังคับเอาจนตาย  ความโกรธ ราคะตัณหาเท่าไรไม่พอ ๆ  เอาให้ตายได้จริง ๆ มันบีบอยู่ในหัวใจนี่ ฟาดอันนี้ออกหมดแล้วไม่มีอะไรมาบีบ ดูก็รู้กันน่ะซิ นี่ต่างคนต่างถูกบีบบี้สีไฟจะเอาอะไรมาพูดกันได้ล่ะ พระพุทธเจ้าท่านไม่ใช่เป็นคนประเภทนี้  ท่านพ้นไปหมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง  มาดูพวกเราพวกตกนรกทั้งเป็น ยังดิ้นยังดีดกันอยู่ โถ ทุเรศจริง ๆ นะ ไม่หันหน้าหาศีลหาธรรมเลย เข้ามาในบ้านก็เป็นไฟ ออกจากบ้านก็เป็นไฟอีกกองหนึ่ง  อยู่ในบ้านเป็นไฟกองหนึ่ง ไม่มีความสงบสบายเลย ผัวเมียอยู่ด้วยกันก็ทะเลาะกันตลอด ลูกเต้าหลานเหลนทะเลาะกันยุ่งไปหมด เพราะพ่อแม่แบบพิมพ์เลว

        เราพูดคนเดียวนี้เขาก็หาว่าบ้าเพราะไม่มีใครพูดเหมือนเราพูด แต่เราพูดด้วยความเมตตาสงสารนี่นะ มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ หัวใจคนหัวใจโลก มีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้ตลอดเวลา หาความสุขนิดหนึ่งที่จะมาอวดกันไม่มีนี่นะ พากันดีดกันดิ้นหาความสุข ถ้าดีดดิ้นตามกิเลสแล้วไม่มีว่างั้นเลย มีแต่ถูกหลอกถูกต้มไปเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ตายทิ้งเปล่า ๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร นี่สงสารน่ะซีถึงได้พูด ใครจะว่าบ้าก็ว่าไปซีเราไม่ได้เป็นบ้านี่นะ  รู้อยู่เห็นอยู่ทุกอย่างเป็นบ้าอะไร

        ถ้าหันหน้าเข้าศีลเข้าธรรมบังคับดัดแปลงตนเองบ้าง มันก็จะมีเกาะมีดอนพอได้อาศัยนะ แต่นี้โลเลไปหมดเลย ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ชาติขั้นวรรณะใดก็ตามแบบโลเลไปหมด ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปหมด ยิ่งข้าราชการงานเมืองผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งปล่อยเนื้อปล่อยตัวมาก เหลวแหลกแหวกแนวไปหมดจะให้ตาสีตาสาเคารพได้ยังไง  เขาไม่เชื่อฟังเขาไม่เคารพผู้ใหญ่เป็นอย่างนั้น  ไม่มีตัวอย่างอันดีงามให้ผู้น้อยได้ชมบ้าง ใหญ่ขึ้นมาด้วยอำนาจกิเลสออกหน้า แล้วกิเลสอยู่ฉากหลังติดตาม ไปไหนเหมือนจะเหาะจะบิน เป็นบ้ายศ เขาตั้งให้เป็นนั่นเป็นนี่เท่านั้นก็เป็นบ้าเลย โห มนุษย์นี่เป็นบ้าง่ายที่สุดนะ มันจะเป็นบ้าเหมือนสูสุดทอ ฟังนะจะเล่านิทานสูสุดทอให้ฟัง

        มีผู้ชาย ๒ คน บ้านเขาอยู่ในป่า  หากินในป่า หาดักสัตว์ดักอะไรมากิน หาหน่อไม้หน่อหวายอะไรมากิน เวลาไปหาเจ้านายก็เอาของเหล่านี้ไปถวยไปถวายนาย มีหน่อหวาย พวกนกพวกสัตว์ต่าง ๆ ใส่ถุงกะเทียวถุงตาข่ายนั่น สะพายไปให้นาย  นายเห็นความดีความชอบเลยตั้งยศให้เป็นสูสุดทอ  ก็ดีใจเป็นบ้าออกมา  ออกมาแล้วไม้คานที่หาบไปนั้นก็เอามาไม่ได้  ถุงกะเทียวตาข่ายนั่นก็เอามาไม่ได้มันหนักมันเสียยศสูสุดทอ  ก็ให้เพื่อนช่วยถือถุงนี้หน่อย  เราถือไม่ได้แล้วเราเป็นสูสุดทอ  มึงเป็นสูสุดทอกูก็เป็นสูสุดทอเหมือนกันกูเป็นเพื่อนมึงนี่นะ  อ้าวเข้าทีนะยอมรับ  แล้วทำไง  ก็หามถุงเปล่า  กูออกหน้ากูเป็นสูสุดทอ  มึงออกหน้ากูก็ต้องออกหน้ากูก็เป็นสูสุดทอเหมือนกัน  ตกลงก็เลยไปเหมือนวัวดันเกวียน  ฟังซิมันบ้ายศ

        พอมาถึงบ้านแล้วที่นี่ลืมเนื้อลืมตัวเหมือนคนจะเป็นบ้าสด ๆ ร้อน ๆ ลูกเขามาเห็นผิดหูผิดตาก็ว่า อีพ่อทำไมเป็นอย่างนี้เจ้า  แต่ก่อนเจ้าบ่เห็นเป็นจั่งซี  มื้อนี้เจ้าเป็นจั่งใดลักษณะเจ้าคือต่างคือแปลกแท้ ๆ  จั่งว่าละสู กูไปได้ตำแหน่งมา  ได้ตำแหน่งจั่งใดกะด้อกะเดี้ยแท้  บ่แม่นสิพาให้เป็นบ้าบ่ตำแหน่งนี้  ตำแหน่งว่าจั่งใด  จำบ่ได้ไปถามเพื่อนกูตี๊  ให้ลูกสาวไปถามเพื่อน  ทีนี้เวลามาก็หาข้าวมาให้กิน  สูต้องใส่สำรับมานะกูเป็นสูสุดทอแล้ว หาธรรมดามาให้กินกูไม่กินเสียยศกู พวกลูกพวกหลานเขาก็หาข้าวใส่สำรับมา ก็นั่งขัดสมาธิกิน  กินไปกินมาคนไม่เคยนั่งขัดสมาธิตั้งแต่วันเกิด นั่งชันเข่าชันอะไรไปตามประสาบ้านนอก  วันนั้นเป็นสูสุดทอเลยนั่งขัดสมาธิ  พอกินไปกินมาเผลอเตะสำรับหงายตูมตกลงข้างล่าง  หือ  พ่อทำไมเป็นจั่งซี  เป็นหยังเจ้าเตะภาข้าว  มันไม่สมยศกู  แท้ ๆ แล้วมันเผลอ  สมาธิดีดออกเลยเตะสำรับตก  จบแล้วนี่ละมันบ้ายศ

        ลมปากเขาว่าเป็นชั้นนั้นชั้นนี้เป็นบ้ายิ่งกว่าสูสุดทออีก  สูสุดทอเตะแต่สำรับ  อันนี้มันจะเตะผู้เตะคนโน่นแน่ะไม่ใช่ธรรมดา  นั่นละได้รับความทุกข์ความลำบากเพราะความตื่นลมตื่นแล้ง  อะไรก็ตื่นไป ๆ พิจารณาตามเหตุตามผลซิจะตื่นอะไร  พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านไม่ตื่นอย่างนั้นนะ  ท่านเสมอหมดเลยทุกอย่าง  มองดูโลกธาตุรู้รอบขอบชิดไปหมด  มองเห็นพวกเรานี้ด้วยความสงสารเมตตา  ท่านจึงประทานโอวาทไว้สำหรับสั่งสอน ให้เป็นบันไดฉุดลากขึ้นไป ๆ ไม่งั้นกิเลสจะเอาไปกินหมด  กิเลสมันฉุดมันลากลงไป ๆ กำลังกิเลสมันหนาแน่นมากนะไม่มีคำว่าอ่อนข้อ ส่วนธรรมะมีเวลาอ่อน ฉุดลากขึ้นมา ๆ ธรรมะท่านสอนให้ทำบุญให้ทานให้รักษาศีลให้ภาวนา ประพฤติตัวให้ดี นี่เป็นเรื่องของศีลของธรรมเพื่อหาทางออกจากวัฏจักรวัฏวน  แต่จิตไม่อยากเอานั่นซิอย่างนี้  ถ้าเป็นเรื่องของกิเลสมันชอบเอาตายเลย นี่ซิมันน่าทุเรศมาก

        เรื่องกลมายาของกิเลสนี่นิ่มมากเทียว  ไม่มีใครมองเห็นเลยนอกจากพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ท่านเท่านั้นมองเห็น  นอกนั้นมองไม่เห็น กับพวกพระอนาคามี  ท่านเหล่านี้มองเห็นโดยลำดับมองเห็นเรื่อย ๆ  พระอนาคามีมองเห็นทางออกเรื่อย ๆ เปิดโล่งเรื่อย ๆ พระอรหันต์นั่นโล่งหมดแล้ว พระพุทธเจ้าโล่งหมดแล้ว ส่วนพระอนาคามีนี้กำลังเบิกทาง ๆ เห็นโทษ เห็นโทษกับเห็นคุณเท่ากันมีน้ำหนักเท่ากัน  เห็นโทษเท่าไรเห็นคุณก็กระหยิ่มยิ้มย่อง  จะเป็นจะตายไม่ได้ว่าขอให้ได้พ้น ๆ บึกบึนนะ  นี่ละพระอนาคามีท่านเหล่านี้จะไม่มาเกิดอีกแล้วนี่ จะไปเรื่อย ๆ ไม่มาเกิดอีก  ไม่จมวัฏทุกข์อยู่เหมือนพวกเรา  นี่ก็เพราะการสร้างคุณงามความดีนะที่ว่านี่นะ  สร้างไม่หยุดสร้างไม่ถอยก็เพิ่มขึ้น ๆ เหมือนฝนตกทีละหยดละหยาดนี่ละ ทำท้องฟ้ามหาสมุทรให้เต็มไปได้เพราะตกไม่หยุด  นี่เราก็ทำอยู่ตลอดเวลาไม่หยุดก็เป็นไปได้อย่างนั้นละ จะคอยแต่ให้กิเลสเหยียบย่ำขยำเอาแหลกไม่ไหวนะ

เอาละวันนี้พูดเท่านั้นละ เหนื่อย


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก