เราไปสงเคราะห์โรงพยาบาลแต่ละแห่ง ๆ เราไม่ได้ตั้งใจสงเคราะห์โดยเฉพาะนะ เรายังมีกระจายออกอีก ดูทุกอย่าง ดูสภาพของโรงพยาบาล ดูอากัปกิริยาของหมอของพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับคนไข้ พร้อมกับมาเกี่ยวข้องกับเราด้วย มีอากัปกิริยายังไง กระด้างกระเดื่องยังไง หรืออ่อนน้อมถ่อมตนยังไง เป็นกิริยาของธรรมหรือเป็นกิริยาของกิเลสที่เข้ามาหามาเกี่ยวข้องกันนี้ ดูละเอียดพูดกันให้ชัด ๆ เสีย แต่ไม่รู้ว่าเราดู มีแต่เขามาดูตับเราจะให้เราอ้าปากให้ดูข้างใน เราไม่อ้า แต่เวลาเราดูตับเขาเขาจะอ้าหรือไม่อ้าไม่รู้ ทะลุเลย ไปโรงพยาบาลไหนดู.... เพราะเราไม่ให้เพียงการสงเคราะห์เท่านั้น เรายังดูอากัปกิริยาของหมอนี้จะเป็นประโยชน์แก่ตนและคนไข้ได้มากน้อยเพียงไร หรือจะเอาไปอย่างโก้ ๆ เก้ ๆ แบบภูมิใจเจ้าของแต่เป็นเรื่องลืมตัวไม่รู้สึกตัวนั้นก็เป็นได้ โรงพยาบาลไหนไปที่ไหนต้องดูให้ละเอียดลออ
ไม่ใช่ว่าไป-ไปให้ สักแต่ว่าให้เฉย ๆ อันนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย หัวใจคนที่จะปฏิบัติต่อกันเป็นเรื่องใหญ่โตมาก นั่นเราดูตรงนั้นต่างหาก คนไข้กับหมอ และหมอกับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องศีลเรื่องธรรมเป็นอย่างไรบ้าง หรือลืมเนื้อลืมตัวเห็นเขายกยอปอปั้นเห็นว่าเป็นหมอก็เป็นบ้าไปเลย เลยกลายเป็นหมาไปอย่างนั้นก็มีเยอะนะ หมอกลายเป็นหมาไปเยอะ เวลานี้มากอยู่นะ ลืมตัว กลายเป็นพ่อค้า เป็นพ่อค้าก็เป็นหมาไปเลย ไม่มีศีลมีธรรมภายในใจ ขูดเอารีดเอา รายไหนจนตรอกจนมุมเท่าไรยิ่งสนุกรีด ๆ อย่างนี้ละเขาเรียกว่าพ่อค้าหรือเรียกว่าหมา ไม่มีความเคารพยำเกรงไม่มีหิริโอตตัปปะ พอฉวยโอกาสได้ฉวยเอา ๆ อย่างนี้เป็นประเภทของสัตว์ ไม่เป็นประเภทของมนุษย์เรา ดูกันไม่ได้อย่างนั้น
นี่ไปโรงพยาบาลไหนพูดจริง ๆ เขาจะดูเราขนาดไหนเปิดอกให้ดู แต่อกเขาจะเปิดหรือไม่เปิดก็ตามเราดู ไปโรงไหน ๆ ดูหมด บางทีก็ไปพูดเป็นลักษณะหลวงพ่อหลวงตา ไปพูดเซ่อ ๆ ซ่า ๆ ให้เขาดูถูกก็มีบางแห่ง แต่เราก็เห็นใจเขาเพราะเขาไม่รู้ ไม่รู้เจตนาของเราที่แสดงออกมาอย่างนั้นเพื่ออะไร ๆ เขาไม่รู้ มันก็ต้องตอบรับกันเป็นธรรมดา เขาก็เข้าใจว่าหลวงตาผีบ้ามาจากไหน มาจากไหนมาดูตับคน เราอยากว่าอย่างนั้นนะ
มันมีนี่แต่ละโรง ๆ ไม่มีมากมีน้อยมี และมีจำนวนมากก็มีที่ทำให้เกิดความสลดสังเวชเวลาผ่านเข้าไป ๆ ดูไป เพราะเขาไม่รู้ความหมายของเรา เราเข้าไปอย่างนั้นมาดูอะไร เราให้เขาพาไปดูเครื่องมือแพทย์ แต่เราดูเครื่องมือข้างในของเขาเป็นยังไงเขาไม่รู้นั่นซี เมื่อคนหนึ่งไม่รู้มันก็สนุกลักสนุกขโมยใช่ไหมล่ะ เจ้าของนอนหลับขโมยก็สนุกกว้านเอาหมด อันนี้เจ้าของเถ่อไม่รู้มันก็สนุกคว้าตับละซิ ถ้ามีความรู้นะเราคว้าตับมานานแล้ว แต่นี้เสียดายที่ไม่มีความรู้ เซ่อ ๆ ซ่า ๆ ไปอย่างนั้นละ
เรื่องหมอกับศีลธรรมนี้แยกกันไม่ออก อันนี้สำคัญมากที่สุดนะ ถ้าหมอได้แยกจากศีลธรรมแล้วก็เท่ากับคนละฝั่งละแดนกับประชาชน ถึงจะไปรักษาก็ไม่สนิทใจ คนไข้จำเป็นก็ไปอย่างนั้นละไปรักษา แต่หาความสนิทใจไม่ได้ ถ้าหมอมีธรรมภายในใจพยาบาลมีธรรมภายในใจนี้เข้ากันได้สนิท แม้โรคจะหายไปแล้วก็ตาม คุณค่าของหมอจะเด่นอยู่ในหัวใจของคนไข้ เพราะคุณธรรมเป็นสิ่งที่มีน้ำหนักมากยิ่งกว่าเงิน เงินอยู่ที่ไหนก็มี แต่คุณธรรมไม่ได้มีง่าย ๆ นะ คุณธรรมเป็นเครื่องประดับคนให้มีคุณค่า ไม่ค่อยมีในหัวใจคนนะ
นี่ก็ช่วยมา ๖๐ กว่าโรงพยาบาลแล้วนะ เป็นล้าน ๆ แต่ละโรง ๆ เดี๋ยวนี้ก็ ๒๐๐ กว่าล้านแล้ว เฉพาะโรงพยาบาลนะ ๒๐๐ กว่าล้าน โรงร่ำโรงเรียนเราไม่นับ สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ คนทุกข์คนจนไม่นับ นับเฉพาะโรงพยาบาล ๒๐๐ กว่าล้านแล้ว ไปที่ไหนดูละเอียดลออไม่ว่าที่ไหน โรงร่ำโรงเรียนก็เหมือนกันไปไหนดู ตามีหูมีจิตมีคิดไตร่ตรอง ดูคนไข้ดูหมอ คนไข้ไม่ค่อยสนใจดูอะไรมากนัก เพราะเป็นคนที่ช่วยตัวเองไม่ได้ต้องหวังพึ่งผู้อื่น กิริยามารยาทจึงสะเปะสะปะเป็นธรรมดา แต่พวกหมอพวกพยาบาลที่จะให้ความร่มเย็นแก่คนอื่นซึ่งสำคัญมากนี้ นี่ซิดูตรงนี้ละ
คนไข้ก้าวเข้าไปหาหมอ หมอเอาอะไรออกมาต้อนรับคนไข้ ไม่ใช่มาปั๊บฉีดยาให้ปุ๊บนะ กิริยามารยาทของหมอนั้นมาที่หนึ่ง กิริยามารยาทของหมอของพยาบาล การไต่ถามด้วยความเอื้อเฟื้อหรือความเมตตาอารีต่อกัน กิริยาท่าทางอ่อนโยนนิ่มนวลให้ความอบอุ่นแก่คนไข้ นั่นคนไข้ถูกยาแล้วนั่น ยังไม่ได้ใส่ยาคนไข้ถูกยาคือมารยาทของหมอแล้ว จุดสำคัญอยู่ตรงนั้นนะไม่อยู่ตรงไหน ยิ่งปฏิบัติรักษากันด้วยดีด้วยแล้วก็ยิ่งซึ้ง ๆ คนไข้เวลานั้นจะไปหวังพึ่งใคร พึ่งหมอ ชีวิตจิตใจอยู่กับหมอทั้งนั้น อยู่กับพยาบาลอยู่กับหมอ เมื่อมีผู้เอาใจก็ภูมิใจคนเราก็อบอุ่น พอไปปัดปุ๊บ ๆ โอ๊ย ตายเลย สลบจะว่าอะไร
เพราะฉะนั้นมารยาทจึงมาก่อนยา นี่เราก็เคยสอนหมอ ไปหลาย ๆ โรงไปนานเข้า ๆ เราก็สอนบ้าง โรงไหนที่ควรจะสอนเราก็สอน ไม่ใช่สอนทุกโรงไปนะ บางโรงก็หูหนวกตาบอดไปเสีย บางโรงก็สอน มันสมควรหนักเบามากน้อยเราก็ว่าไปตามเรื่อง บางโรงเอาหนัก ๆ ก็มี พวกที่สนิทสนมกันเอาหนัก ๆ ก็มี พวกหน้าบึ้งว่าอย่างนี้ก็มี เห็นคนไข้เข้ามาละหน้าบึ้ง เขาเอาเงินมาให้ยังไม่รู้อีกเหรอ หมอไม่มีคนไข้หมอเอาเงินมาจากไหนมาตั้งตัวเป็นหมอได้ มาเย่อหยิ่งจองหองได้เหรอ ไม่มีเงินเย่อหยิ่งไม่ได้
เพียงแต่คำว่าหมอไม่เกิดประโยชน์ถ้าไม่มีใครมาอุดหนุนนะ คนไข้เข้ามาแต่ละคน ๆ นี้ตราพระเจ้าแผ่นดินติดกระเป๋าเขามาตลอด เห็นไหมตราพระเจ้าแผ่นดินติดอยู่ในแบงก์อยู่ในธนบัตรนั่นน่ะ แต่ละใบ ๆ แต่ละฉบับ ๆ มีตราพระเจ้าแผ่นดิน นั่นละของมีคุณค่าอยู่นั้นเขาเอาออกมาให้เรา เรามีหน้าที่รักษาเขา ถ้าเขาไม่มารักษาเงินก็ไม่ได้ หมอก็ตั้งไม่อยู่นะล้มระนาวไปเหมือนกันกับงานทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ อันนี้หมอตั้งได้ก็เพราะคนไข้ เพราะฉะนั้นจึงต้องเห็นคุณของคนไข้ซิ คนไข้เขายังเห็นคุณของหมอ หมอทำไมจะไม่เห็นคุณค่าของคนไข้ เพราะมีคุณด้วยกันนี่นะ เวลาจะสอนก็สอนอย่างนั้นแล้ว บางแห่งก็ตาบอดไปเสียหูหนวกไปเสีย บางแห่งก็ตาดีหูดีจี้เข้าเรื่อย
เอาละวันนี้พูดเท่านั้นละ