เมื่อวานนี้ปุบปับออกจากนี่โดดผึงพิจิตรนะใช่เล่นเมื่อไร ปุบปับออกจากนี้โดดผึงถึงพิจิตรไป อ.โพธิ์ประทับช้าง ไปดูยายที่ตาบอด เราปลูกบ้านให้หลังหนึ่งไม่ใหญ่โตแหละ ขนาด ๕ x ๗ เมตร ความยาว ๗ เมตร ความกว้าง ๕ เมตร ยายกับหลานอยู่ด้วยกัน ๒ คน เรียกช่างมาตกลงกันแล้วเมื่อวานนี้เขาคิดเอาแสนหนึ่งเราก็ให้ จากนั้นก็ไปติดต่อหมอที่โรงพยาบาลอำเภอ ให้หมอมาตรวจดู เห็นสมควรยังไง ควรไปหาโรงพยาบาลจังหวัดก็ให้ไป ควรจะส่งลงกรุงเทพก็ให้ส่ง เงินค่าหยูกค่ายาค่ารักษาทั้งหมดเรารับให้ เราเป็นคนรับทั้งหมด
วันนี้หมอเขาจะไปตรวจ ตาข้างหนึ่งมีหวังอยู่ มองดูแล้วมีหวังอยู่ แต่ข้างหนึ่งหมดหวังแล้ว ถ้าหากอยู่ใกล้ก็ไม่ยากเราจัดการเอง นี่มันพิจิตรโน่น ถ้าอยู่ใกล้แถวนี้ หนองคาย สกล แถวนี้ไม่ยากเราจัดการเองเลย ฝากฝังส่งเสียทุกอย่างเรียบไปเลย แต่นี้อยู่ไกลมันลำบากต้องหลายไม้หลายมือยื่นกันไป ๆ แล้วยังเสี่ยงด้วยได้หรือไม่ได้ ถ้าอยู่แถว ๆ นี้เราติดต่อเอง ติดต่อกับหมอเลย เช่นอยู่แถวนี้ก็เอาเข้ามาโรงพยาบาลอุดรฯ ถ้าหมอว่ามีหวังอยู่แต่อุดรฯไม่สามารถ ส่งกรุงเทพฯ แน่ะ เราก็ฝากลงกรุงเทพฯอีกจะยากอะไรถ้าอยู่ใกล้แค่นี้ แต่นี่อยู่ไกลซิลำบาก
ตาข้างหนึ่งยังมีหวังอยู่ เมื่อวานนี้ก็เอาแต่ของไปให้พวกอาหารการกินเครื่องกระป๋อง ให้คลำดูทุกกล่อง ๆ คลำเรื่อย โอ๊ย ทำไมมากนัก ไม่มากละมีเท่านี้ละเอ้าคลำไป คลำ ๆ คลำไปคลำมาร้องไห้เลยร้องไห้เอาจริง ๆ ไปถึงโน้นมันสามโมงกว่า ออกจากนี้สามโมงห้านาทีไปถึงโน้นบ่ายสามโมง หกชั่วโมงเต็มนะ รถไม่ใช่วิ่งเล่น ๆ นะถ้าทางดีฟาด ๑๒๐ จนกระทั่งไปถึงคอนสารเขาปรับ เอ้า จ่ายให้เขาเรามาจ่ายนี่นะเราไม่ได้มาเอา บอกให้ลงไปจ่ายเลย คอนสารเคยปรับ ๒ หนแล้ว เราหลบไม่ให้เขารู้เราหลบอยู่ข้างใน เอ้า เอาไปให้ เรามาให้เราไม่ได้มาเอานี่นะ มันรถเร็วน่ะซีฟาด ๑๒๐ เขาก็ปรับว่าขับเร็วเกินไป ใช่แล้ว เอ้า ปรับ ปรับเท่าไร ดูเหมือน ๒๐๐ ไปอีกก็ขับบึ่งเหมือนเก่านั่นแหละ ก็คนหนึ่งรีบด่วนจะไปคนหนึ่งจะมารั้งไว้ยังไง ปรับก็ปรับไปซี
กลับมาจากโน้นสี่โมงก็มาแวะติดต่อกับโรงพยาบาลแล้วถึงออกมาอีก มาถึงนี่ ๔ ทุ่ม ๑๘ นาที เลยแย่เลย ลงจากรถเซซัดปัดถวิงมันไม่ได้เดิน นั่งกับนอนในรถ สงสารโลกเจ้าของเลยจะตาย เราไปด้วยความสงสารนะเราตะเกียกตะกายไป ถ้าธรรมดาเราไม่ไป นี่ตะเกียกตะกายไป ไม่ไปก็กลัวไม่เหมือนเรา เราไปนี่เข้าถึง ๆ อะไรฟังด้วยหูของเราชัดเจน เห็นด้วยตาของเรามันถึงแน่ เพราะฉะนั้นไปเมื่อวานต้องได้เข้าโรงพยาบาลจริง ๆ ไปติดต่อกับหมอเอง เขาจะไปตรวจวันนี้ อาจเข้าโรงพยาบาลจังหวัดก็ได้ เข้าโรงพยาบาลจังหวัดไม่สำเร็จแต่ยังไงจะหายอยู่ เอ้า เข้าโรงพยาบาลกรุงเทพ ฯ เราจะเสียให้ทั้งหมด ค่าอะไร ๆ ทั้งหมด โรงพยาบาลอุดรฯ นี้ค่อนข้างจะครบนะเครื่องมือตาเพราะเราหามาให้ ๔ - ๕ เครื่อง ค่อนข้างจะสมบูรณ์โรงพยาบาลอุดรฯ สำหรับตานะ อย่างอื่นเราก็ให้มากเหมือนกัน แต่นี้ให้เจาะจง เฉพาะตานี้ให้มาก เครื่องแพงที่สุดก็ ๔ ล้าน ๒ แสน
เราช่วยโลกแล้วเราก็พอใจนะ เราไปด้วยความเมตตานี้พอใจ ไม่ได้ไปด้วยความบีบบังคับด้วยความจำเป็นอย่างอื่นใด ไปด้วยความเมตตาของเรานี้เราสบายใจ ทุกยากลำบากขนาดไหนเราก็บืนไป ความเมตตามันอยู่กับโลกมันไม่ได้อยู่กับเจ้าของ เจ้าของไม่เห็นเมตตาเจ้าของ ตื่นขึ้นมานี่คิดเรื่องโลกก่อนแล้ว เรื่องโลกคือว่าจะสงเคราะห์อันไหนเป็นอันดับหนึ่ง อันไหนอันดับสอง อันดับสาม คิดไว้เรียบร้อยแล้ว ตื่นขึ้นมาแทนที่จะมาคิดเจ้าของอันดับไหนวันนี้ไม่เห็นมี คิดแต่เรื่องโลกทั้งนั้น
เราอยากเห็นน้ำใจชาวพุทธเมืองไทยเราที่มีต่อกัน ความมีน้ำใจต่อกันนี้ไปไหนเย็นหมดนะ มีมากมีน้อยสมาคมกันได้อย่างสนิทติดใจไม่จืดจาง ความมีแก่ใจ เช่น ขับรถไปอย่างนี้มีแก่ใจต่อกัน รถคันหนึ่งขอทางคันหนึ่งก็รีบหลีกให้ นี่มีแก่ใจต่อกัน พอคันหนึ่งเปิดไฟขอทางคันนี้ก็หลีกไป เราจะถือว่าทางเราถูกอย่างเดียวบึ่งไปอย่างนั้นมันไม่มีแก่ใจมันเสียคน กฎเขามีไว้กลาง ๆ คนที่จะอะลุ้มอล่วยซึ่งกันและกันนั้นเป็นเรื่องของน้ำใจ อันนี้เป็นเรื่องใหญ่โตมาก
ถ้าเห็นรถเขามาทางโน้นดูแล้วทางนี้ไม่มีอะไรพอจะหลีกได้เราก็หลีกซ้ายเสียให้เขามา เราบอกคนรถเราอย่างนั้น รถเราเป็นอย่างนั้นทั้งนั้น ไปไหนพอเห็นเขามาหลีกซ้าย บอก เราก็ลงข้างไหล่ถนนไปเลยให้เขามา นี่เรียกว่ามีแก่ใจต่อกัน ไม่ถือว่าเขาผิดเราถูกอะไร ถ้าจะคอยไปถืออย่างนั้นมันถือผิดกันแหละมนุษย์เรา คอยแต่จะเอารัดเอาเปรียบกันถ้าความคิดเช่นนี้ออกมาในหัวใจนะ ถ้าคอยให้อภัยกันเสมอนั้นไม่เป็นไร มันหากถูกไปด้วยกันนั่นแหละ คนเราถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน บางทีมันจำเป็นที่เขาขอทางผ่านมาก็ให้เขามาเสีย เราก็ลงไหล่ทางเสียเมื่อไหล่ทางยังว่างอยู่ เมื่อไหล่ทางไม่ว่างเราก็รอ เป็นอย่างนั้น นี่ก็เรียกว่ามีน้ำใจให้อภัยกัน
มนุษย์เราไปไหนถ้าลงมีน้ำใจต่อกันแล้วไปไหนน่าดูทั้งนั้นแหละ แม้แต่ขับรถก็น่าดู ควรรอก็รอควรหยุดก็หยุดถึงถูก ควรไปถึงไป เวล่ำเวลาไม่สำคัญยิ่งกว่าน้ำใจและอันตรายที่จะมีต่อกัน อันนี้หนักมากอันตราย และน้ำใจที่จะมีต่อกันยืดเยื้อไปนาน ๆ สำคัญมากกว่าเวลาที่เราจะผ่านเวลานั้น หรือเอาตามใจเวลานั้นนิดเดียว เวลากระทบกันมันรุนแรง ไม่ดี ถ้ามีแก่ใจแล้วจะกระทบกันทำไม ไม่กระทบ เย็นต่อกัน แล้วกิริยามารยาทนี้ก็ใช้ไปเรื่อย ๆ ใคร ๆ ก็เอาไปใช้ ๆ มันก็กว้างขวางออกไปละซีบ้านเมืองเรา
ยิ่งทุกวันนี้รถมีมากเสียด้วยนะ มอเตอร์ไซค์นี่ตัวเดือน ๙ รู้จักไหมเดือน ๙ ตัวนี้ตัวสำคัญนะ รถใหญ่รถยนต์เขาหมดถนนไม่มีรถ เดือน ๙ มันบึ่ง ๆ มาเรื่อย พวกเดือน ๙ นี่มันสำคัญนะ เข้าใจไหมเดือน ๙ เดือน ๑๒ น่ะ กลางคืนดึก ๆ มันออกทั้งนั้นนะ บึ่งบั่ง ๆ มาเรื่อยพวกเดือน ๙ ทั้งนั้น เรามาเมื่อคืนเราถึงได้เห็นชัดเจน สามทุ่มกว่ามาจากชุมแพ รถยนต์ไม่ค่อยมี แต่พวกเดือน ๙ นี้ไหลมาตามทางเลยมีแต่พวกเดือน ๙ ออก พอว่าเดือน ๙ เข้าใจละพวกอีสานเรา เดือน ๙ เดือน ๑๒ ทางภาคกลางเดือน ๑๒ หมาคะนอง ทางภาคนี้เดือน ๙ เดือน ๑๐ หมาคะนอง คนคะนองตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราจึงเอาแต่ชื่อว่าเดือน ๙ เท่านั้นแหละ ถ้าจะว่าปีก็จะเกินไปคนจะไม่รู้เรื่องด้วย ว่าเดือน ๙ ก็รู้เรื่องดี
มานี่บึ่งบั่ง ๆ ออกมา ไหล่ถนนมีอยู่ไม่ไปนะชอบขึ้นมาถนนใหญ่ รถใหญ่จะหลีกจะสวนกันนี้ก็ลำบากทั้ง ๆ ที่ไหล่ถนนมีอยู่ก็ไม่ลง อย่างนี้ละคนเห็นแก่ตัว มองดูอย่างนี้หยาบไม่น่าดูเลย ใครก็ให้จำเอานะขับรถเดือน ๙ เดือน ๑๒ นั่นน่ะ ไหล่ถนนมีอยู่ให้ไปไหล่ถนนแ รถใหญ่เขาสวนกันไปสวนกันมา เขาหนักเขาไม่เบาเหมือนเรา บางทีไปเฉียดเอาเสียบ้างชนเอาเสียบ้างจะว่าไง แล้วตายก็เป็นเรานั่นแหละ ว่าใครผิดก็ตามเมื่อตายแล้วไม่ดีทั้งนั้นแหละ ใครผิดใครถูกไม่ดี ถ้าว่าถูกทำไมคนตาย แน่ะ มันก็ผิดทางหนึ่งจนได้ คนก็ตาย ไม่ดี ไปตามไหล่ถนน ยิ่งถนนที่เขามีปักวางอะไรไว้ตรงกลาง รถจะหลีกก็เฉียด ๆ ทางโน้นหลีกก็เฉียด รถมอเตอร์ไซค์ก็มาตรงกลางนี้ จะหลีกไปนี้ก็ไปไม่ได้ ต้องรอไปตลอด ตลอดแนวที่เขากั้นไว้ อย่างนี้ไม่น่าดูนะ
ต้องเห็นใจกันซิมนุษย์ขับรถ ทางนี้เป็นทางแผ่นดิน เราก็เป็นคนแผ่นดินต้องให้อภัยต่อแผ่นดินซิ รถเขาเป็นรถใหญ่ รถเราเป็นรถเล็ก ควรไปไหล่ถนนก็ไป ถ้าหากไม่ว่างเราจะขึ้นถนนแต่ต้องตาคล่องแคล่วว่องไว พอเห็นรถใหญ่มาควรจะหลีกข้างหลังข้างหน้าดู ควรจะลงไหล่ถนนก็ลงเสีย อย่าไปกีดไปขวางเขาเสียจนเกินไป บางทีคนมันโมโหมันชนเอาจริง ๆ นะ ชนแล้วก็ไปเลย ตายทิ้งเปล่า ๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย มันมีนี่คนที่มุทะลุมี มันโมโห เป็นยังไง มันก็บึ่งเข้าชนตูมแล้วไปเลย เจ้าของก็ตายทิ้งเปล่า ๆ ไม่เกิดประโยชน์อะไร
อันนี้มันเรื่องกวนใจกวนโมโหกันนะเรื่องอย่างนี้ รำคาญ อย่างน้อยรำคาญมากกว่านั้นโมโห ถ้าโมโหแล้วชนแหลก ยิ่งกลางคืนด้วยแล้วยิ่งระวังยาก ชนแล้วมองหาตัวไม่เห็น ชนตูมแล้วไปเลย ไม่ทราบใครชนจับตัวไม่ได้ จับก็จับมาอะไรผู้ตายมันตายแล้วนี่ จับแล้วมันก็ไม่ได้ฟื้นนี่นะ นี่ละสอนโลกสอนไปอย่างนี้จนกระทั่งขับรถขับรา หลวงตาบัวไม่ได้ขับรถแหละ แต่ก็สอนคนขับรถจนได้ เพราะคนขับรถมันขวางตานี่ นั่งบนรถไปก็รู้ คนขับมีมารยาทไม่มีมารยาทก็รู้ ขับส่วนมากไม่ค่อยมีมารยาท รถพวกเดือน ๙ นี่ไม่มีนะ เราอยากว่าไม่มี มารยาทไม่ค่อยปรากฏนะ มีแต่บึ่ง ๆ ๆ