เณรระลึกชาติ
วันที่ 15 ตุลาคม 2537
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๗

เณรระลึกชาติ

 

พากันจำเอานะ พระพุทธเจ้าพูดเด็ดขาดทุกคำนะ จำคำนี้ให้ดี พระพุทธเจ้าพูดไม่มีเหลาะแหละ เด็ดขาดทุกคำ ออกมาจากพระญาณหยั่งทราบทุกสิ่งทุกอย่างแล้วพูดออกมา พูดออกมาด้วยความเห็นแล้วรู้แล้วทุกอย่าง สิ่งนั้นมีสิ่งนี้เป็นยังไง ๆ หนักเบามากน้อยหยาบละเอียดแค่ไหนเห็นหมด ๆ นำเอาสิ่งที่เห็นหมดนั้นแหละมาเป็นศาสนาสอนโลกให้จำเอา เราอย่าเหลาะ ๆ แหละ ๆ นะกิเลสมันต้มเอา ๆ กิเลสมันลบนะพระพุทธเจ้าสอนไว้ตรงไหน ๆ เพราะทั้งสองนี้เป็นข้าศึกกันมาแต่ไหนแต่ไร

เพราะฉะนั้นศาสนาจึงต้องมี ไม่มีไม่ได้ กิเลสกลืนสัตว์โลกฉิบหายหมดเลย ถ้าไม่มีธรรมะเข้ามาประกาศสอนแต่ละครั้ง ๆ นี่ เช่นพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แต่ละพระองค์ ๆ นั้นละเอาน้ำมาดับไฟ ๆ นรกของสัตว์ นรกมีทุกประเภทนะตั้งแต่นรกอเวจีขึ้นมาจนกระทั่งนรกของสัตว์ทั่ว ๆ ไปมีชีวิตอยู่นี้ก็นรกทั้งเป็นเผาอยู่ภายในจิตใจ มีหลายประเภทนะนรกไม่ใช่ประเภทเดียวกัน แล้วให้จำให้ดีคำพูดที่ว่าพระพุทธเจ้ารับสั่งอะไรแล้วไม่เป็นสอง ถ้าว่านรกก็เดือดพล่าน ๆ ตลอด ไม่มีวันมีคืนมีปีมีเดือนเป็นกับเป็นกัลป์อยู่อย่างนั้นตลอด อันนี้ไม่มีคำว่าลด ลดกำลังไม่มีเพราะกรรมของสัตว์หนุนให้เป็นไป ๆ ที่เดือดพล่าน ๆ ก็เดือดด้วยอำนาจแห่งกรรมของสัตว์นั่นเอง

ท่านกล่าวไว้ในมหาวิบาก นรกมีถึง ๒๕ หลุม ตั้งแต่ใหญ่ ๆ ขึ้นมาเรื่อย ๆ นี่นรกเมืองผีมีถึง ๒๕ หลุม แล้วจากนั้นก็มาปลีกย่อย ถ้าไปลงนรกอเวจีแล้วกี่กัปกี่กัลป์ก็ไม่ได้พ้นแหละ จมอยู่นั้น ถึงจะเป็นกฎอนิจจังก็กี่กัปกี่กัลป์ถึงจะเปลี่ยนมา กรรมของสัตว์ ประเภทนี้พวกฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำลายพระพุทธเจ้า ยุยงให้สงฆ์แตกจากกัน ๕ ประการ ท่านเรียกอนันตริยกรรม แปลว่ากรรมนี้หนักมาก แล้วพวกนี้แหละพวกลงไปนั่น นี่มีนิทานสด ๆ ร้อน ๆ อันหนึ่งที่จะนำมาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เราเป็นคนซักด้วยปากของเราเองอันนี้ คือเอากันต่อหน้าเลยซักเลย

มีเณรองค์หนึ่งอยู่บ้านน้ำก่ำ อำเภอพระธาตุพนม เณรนี้ระลึกชาติได้ ระลึกชาติถอยหลังได้ชาติเจ้าของนั่นเอง แต่ก่อนเขาชื่อว่าบัวเหมือนกับชื่อหลวงตาบัวนี่แหละ เขาอยู่บ้านโคกเลาะ ชื่อเขาพูดถูกหมดนะ เหตุที่จะมีการยืนยันรับรองกันคืออาจารย์ของเขาเอง เราพบกับเณรนี้แล้วก็ไปพบกับอาจารย์ชื่ออาจารย์ทอง อาจารย์ของพระบัวนี่ พระบัวนี่เป็นหนุ่มแล้วไปฟังเทศน์แล้วเกิดความเลื่อมใส ท่านอาจารย์ทองท่านไปทางเมืองอุบล ไปโน้นแนะนำสั่งสอนประชาชนเขาเกิดความเคารพเลื่อมใส นายบัวนี่ก็มาขอบวชกับท่าน บวชแล้วก็ติดสอยห้อยตามท่านมามาอยู่บ้านสามผง พอดีมาเป็นไข้ป่าที่สามผงตาย ปีนั้นพระตาย ๓ องค์ นี่ท่านอาจารย์ทองท่านเล่าเอง ปีที่ตาย ๓ องค์นี่นะ แต่พระบัวนั้นบอกแต่ว่ามาตายที่บ้านสามผงเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าตายเท่านั้นองค์เท่านี้องค์

พอตายแล้ว นี่เราสรุปเอาเลย แบกกลดสะพายบาตรดูเขาเผาศพเรา คนทั้งหลายเต็มอยู่มาเผาศพ ก็ยืนดูศพอยู่ สะพายบาตรแบกกลดอยู่ดูเขาเผาศพ เขาไม่สนใจกับเราเลยคนเป็นร้อย ๆ เต็มอยู่นั่น เขาไม่สนใจกับเราสักคนเดียวเลย เราก็ไปยืนดูศพของเรา พอเสร็จแล้วก็ออกไปทางด้านตะวันออก ศพเรานี่ก็ถูกเผาเป็นเถ้าเป็นถ่านขนาดนี้แล้วจะหวังเอาอะไรอีก เราไปแล้วไม่ห่วงใยแล้ว แล้วก็ไป พอไปก็ไปถึงศาลาใหญ่หลังหนึ่ง ศาลานั้นใหญ่มากทีเดียว นี่เป็นเณรนี้เล่าให้ฟังนะ

เหตุที่จะได้ซักถามเณรนี้เพราะมีพระมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องเณรนี้ระลึกชาติได้ แล้วพอดีมางานศพหลวงปู่มั่นเรานี่ เณรนี้ก็จะมา เราก็นัดกับพระไว้ว่าถ้าเณรนั้นมาให้มาหาเรา พอดีเณรนั้นมาก็ให้มาหาจริง ๆ แต่ส่วนมากแกไม่อยากเล่าเรื่องระลึกชาติได้ เล่าทีไรเป็นไข้ทุกที ว่าอย่างนั้น เข็ด พอเล่าเรื่องชาติหลังย้อนหลังแล้วไข้ทุกทีไม่เคยพลาด เอ้า คราวนี้ไม่ให้ไข้ เราก็ว่าอย่างนั้นแหละ เอ้า เล่ามาให้หมดนะคราวนี้ไม่ให้ไข้ มาเล่ากับเรานี่ไม่ให้ไข้ ไม่ไข้จริง ๆ นะ แปลกอยู่นะ มีหนเดียวรายเดียวนี่ไม่ไข้ พอมาก็ซักถามกันถึงเรื่องตายแล้วไปที่ว่านี่ ไปศาลาใหญ่หลังหนึ่ง

ศาลาหลังนั้นเจ้าหน้าที่พวกยมบาลอะไรเหล่านี้เต็มอยู่นั่น สมุดบัญชีมีเป็นสองกอง กองใหญ่เบ้อเร่อเทียว กองหนึ่งเล็ก แล้วกองใหญ่นั้นสำหรับบัญชีคนทำชั่ว กองเล็กนี้สำหรับบัญชีคนทำดี พระองค์นั้นก็สะพายบาตรแล้วไปยืน แล้วพวกนักโทษพูดง่าย ๆ นักโทษทำกรรมหนักทำกรรมเบา กรรมอะไรก็ตามเขาแยกไว้เป็นประเภท ๆ เต็มศาลา ทีนี้เขาเรียกชื่อ พอเรียกชื่อนายนั้น ๆ พอเรียกชื่อปั๊บต้องมาถึงปุ๊บเลย อำนาจแห่งกรรมมันบีบบังคับขนาดนั้น จะอืดอาดไม่ได้ พอเรียกชื่อปั๊บจะมาปุ๊บ ๆ เลย มีกี่คนโทษประเภทนี้ มีหัวหน้า ๒ คนเท่านั้นแหละ หัวหน้าน่ากลัวมาก คนหนึ่งนำหน้าคนหนึ่งตามหลัง พอเรียกชื่อเสร็จแล้วไล่ลง พวกนี้ไปแล้วเรียกพวกนั้นมาอีกเป็นคณะ ๆ จนกระทั่งหมด นี่พูดสรุปเอาให้พอดีกับเวลา

พอหมดแล้วก็ยังเหลือแต่ยายคนหนึ่งนั่งอยู่นั่น ยายคนนั้นเป็นคนเหมือนคนวัดเรานี่แหละ เหมือนคนแต่งตัวไปวัดเรานี่ไปถือศีลถือธรรม มีผ้าเฉวียงบ่านุ่งผ้าซิ่นเราธรรมดาไปวัดนี่ แกนั่งอยู่ทางโน่น เขาเรียกคุณแม่นะ สำหรับยายคนนี้เขาเรียกคุณแม่ นอกนั้นเขาเรียกนายนั้นนายนี้ ๆ ลงเลย ๆ นี่เขาเรียกคุณแม่ พอพวกสัตว์นรกไปหมดแล้วเขาเรียกเชิญคุณแม่มาที่นี่ ถ้าคุณแม่อยากไปสวรรค์ให้ลงที่นี่เลย คุณแม่จะไปสวรรค์ชั้นไหนก็ไปได้ให้ลงไปนี้ แล้วรถเขาจะมารถทิพย์จะมา ลงไปสระน้ำนี้แล้วก็ไปเปลื้องผ้านี้ออก ลงจากสระนี้แล้วก็เดินบุกน้ำไป รถจะมาทางฟากสระทางนั้นแล้วก็ขึ้นรถ ประดับตกแต่งใหม่หมด เครื่องประดับประดาตบแต่งเขาจัดเอามาพร้อมรถเลย พอไปแล้วลงน้ำนี่ปั๊บก็ขึ้น เขาก็เชิญเลยจูงขึ้น แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็เหาะบึ่งขึ้นเหมือนสำลี......รถทิพย์ รถทิพย์พูดอะไรพูดไม่ได้แต่มันประจักษ์กับตาอยู่ว่างั้น เป็นสีงามอร่ามตาอะไรนี้เราพูดไม่ถูก...รถทิพย์ แต่ก็ไม่ได้ถามว่ารถทิพย์นี้มาจากชั้นไหนจะไปชั้นไหน เป็นแต่เพียงว่าผู้หญิงคนนี้จะไปสวรรค์ พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยังเหลือแต่พระองค์เดียวยืนอยู่นั่น คือพระบัวที่ตายไปนั่นแล

เจ้าหน้าที่เหล่านั้นเขาก็ไม่ได้มาสนใจกับเราแหละ พอเขาส่งยายคนนั้นเสร็จแล้วเขาก็ทำงานของเขาอยู่บนโต๊ะ แล้วอาตมาเล่าจะให้ไปไหน ไม่เห็นเรียกอาตมา โห ท่านน่ะถ้าตั้งใจจะไปเกิดเมืองมนุษย์ก็ให้กลับหลัง ย้อนหลังนี้ไป ถ้าจะไปสวรรค์ก็ให้ลงไปนี้ ท่านไปได้ทั้งไปสวรรค์ทั้งไปเมืองมนุษย์ ถ้าท่านจะไปสวรรค์ก็ให้ลงนี้ เหมือนกับยายคนนั้นลงแล้วรถทิพย์จะมาเอง อาตมาไม่ไปแหละอาตมาหิวน้ำ จะไปหาฉันน้ำก่อน ลงจากนั้นก็ลงไป ๆ จนถึงบ้านน้ำก่ำนี่แหละ

บ้านเขาอยู่ริมทุ่งนา เขามาตักน้ำก็ไปขอบิณฑบาตฉันน้ำกับเขา เขาบอกว่าให้ไปบ้านหลังนี้นะ เขาจะตักน้ำแล้วให้ไปที่นั่นไปรออยู่บ้านหลังนั้น เขาชี้บอกเห็นบ้านชัด ๆ อยู่บ้านหลังนั้น บ้านหลังจะเกิดเข้าใจหรือเปล่า พอไปที่นั่นรู้สึกเคลิ้ม ๆ จะหลับ เหนื่อยเพลียมาก เคลิ้ม ๆ แล้วหลับไปเลย เลยยังไม่ทันได้ฉันน้ำพอตื่นขึ้นมาที่ไหนได้เกิดแล้ว นั่นละที่นี่แกระลึกชาติของแกได้ตลอดนะ ระลึกชาติย้อนหลัง ๆ ได้ตลอดเลย นี่เวลาเราซักถาม ทีนี้พอดีอาจารย์ทองของเธอมาเราก็กราบเรียนถามเล่าเรื่องนี้ให้ฟังแล้ว โห ท่านตกตะลึงนะ ท่านตกใจ ใช่แล้วนี่พระบัว ท่านก็อธิบายให้ฟังตลอดหมดเลย ไปสามผงไปตายด้วยกัน ๓ องค์อะไร ๆ พระองค์นี้ชื่อบัว ไล่ผีเก่งนะพระองค์นี้แต่ไม่เห็นไล่ผีเจ้าของได้ ท่านพูดเราก็ยังไม่ลืม นี่พูดถึงเรื่องระลึกชาติได้

คำว่าระลึกชาติได้นี้กับพระพุทธเจ้าระลึกชาติได้มันต่างกันนะ พวกนี้สลบไสลพวกนี้ตาย การระลึกนั้นระลึกนี้รู้นั้นรู้นี้มันอาจเคลื่อนคลาดเพราะคนกระเสือกกระสนกระวนกระวาย ไม่ได้เหมือนพระญาณหยั่งทราบของพระพุทธเจ้าที่ระลึกชาติย้อนหลัง เช่น ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกชาติย้อนหลังได้ เฉพาะชาติของพระองค์นี้มีกี่ภพกี่ชาติทรงทราบได้ตลอดทั่วถึง ตลอดถึงภพชาติของสัตว์ทั้งหลายรู้ได้หมดด้วยพระญาณหยั่งทราบ ไม่ได้ด้วยการสลบไสลเหมือนอย่างโลกทั้งหลายเขาเป็นกัน คนนั้นตายฟื้นกลับคืนมาแล้วระลึกชาติได้อย่างนั้นอย่างนี้แล้วมาฮือกันเป็นบ้าไป

พระพุทธเจ้าตรัสรู้พระญาณหยั่งทราบ ประกาศธรรมสอนโลกมานี้กี่ปีแล้วไม่เห็นตื่นกันบ้าง มันเป็นบ้าหรือยังไงมนุษย์เรานี่มันอยากว่าอย่างงั้นนะเรา ไปตื่นกับเรื่องแบบบ้าอย่างงั้น พวกคนสลบไสลตายฟื้นกลับคืนมาแล้วมาระลึกชาติได้ แล้วตื่นกันฮือฮา ๆ พระพุทธเจ้าไม่ได้เป็นคนสลบไสล ตรัสรู้ขึ้นมาเป็นอรรถเป็นธรรมเป็นศาสดาเอกของโลก รู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งทั้งหลาย ประกาศธรรมสอนไว้ทำไมถึงไม่ตื่นกันบ้าง

ให้ตื่นนะไม่ตื่นไม่ได้นะ จมจริง ๆ นะ ฟังซิว่านรกเดือดพล่าน ๆ ไม่มีวันมีคืนมีปีมีเดือนมีอย่างนั้นตลอดเวลา พวกสัตว์นรกนี้ก็แน่นอัด ๆ เพราะสัตว์ทั้งหลายทำแต่กรรมชั่วนั่นซิ ทางสวรรค์นี้เบาบาง ทางนรกนี้แน่นหนามั่นคงมากทีเดียวตั้งแต่เรื่องกรรมของสัตว์ ๆ นี่ละให้จำให้ดีให้สด ๆ ร้อน ๆ ภายในใจของเรานะถ้าเราไม่อยากไปจมในนรกกับเขา อย่าเห็นคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นของเล่น เห็นแต่กิเลสเป็นของจริงไม่ได้นะ กิเลสนี่มีแต่หลอกลวงต้มตุ๋นคนทั้งนั้นแหละ ไม่มีคำว่าจริง ไม่ว่าลูกว่าหลานว่าพ่อว่าแม่ปู่ย่าตายายของกิเลส เป็นสกุลต้มตุ๋นทั้งนั้น ส่วนธรรมของพระพุทธเจ้ามีแต่เรื่องจริงทั้งหมดให้พากันยึดเอาไว้เป็นหลักเป็นเกณฑ์ ตั้งใจปฏิบัติตัว

อย่าตื่นโลกตื่นสงสารเกินไป ตื่นนี่คือตื่นเรื่องของกิเลสนั่นเองจะเป็นเรื่องของอะไร กิเลสกำลังพาสัตว์เป็นบ้า ฮือกันอันนี้ดีอย่างนั้นอันนั้นดีอย่างนี้ ยิ่งว่าคนเขาไปดูจรวดดาวเทียมได้ที่นั่นที่นี่ อู๋ย ยิ่งเป็นบ้ากันใหญ่ จรวดดาวเทียมไปดูพระอาทิตย์พระจันทร์ ตั้งแต่ไม่ไปเรามองไปก็เห็นอยู่เห็นไหมพระอาทิตย์พระจันทร์ ดวงไหนดวงไม่เห็นเป็นบ้ากันหาอะไร ตาเราเปล่า ๆ นี่ไม่ต้องไปหาส่องกล้องขึ้นเครื่องไปดูก็ยังได้ ดูแต่นี้ก็พอแล้ว ก็ยังตื่นกันเป็นบ้ากันมนุษย์เรา อันนั้นถ้าเป็นเรื่องกิเลสเสกสรรขึ้นมาอะไรเป็นบ้ากันไปหมด ถ้าเป็นเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้านี้ไม่ค่อยตื่น เพราะกิเลสไม่ให้ตื่นนะไม่ใช่เราไม่ตื่น กิเลสมันบีบเอาไว้ ๆ อันใดที่จะเป็นส่วนดีมันบีบเอาไว้ อันไหนเป็นส่วนชั่วซึ่งเป็นทางของมันแล้วมันจะเปิดโล่ง ๆ ให้ เพราะฉะนั้นสัตว์โลกถึงหมุนไปตามมันเป็นฟุตบอลไปเลย ให้พากันจดจำเอาให้ดีนะ

ให้ตื่นเนื้อตื่นตัว เราตื่นกิเลสตื่นมานานแล้ว ได้ล่มจมกับกิเลสนี้ก็มานานแสนนานระลึกไม่ได้นะ ถ้าลงระลึกชาติได้แล้วไม่มีใครค้างอยู่ในโลกนี้แหละ แต่ละคน ๆ จะกระเสือกกระสนสร้างแต่ความดีทั้งนั้นแหละ เป็นก็เป็นตายก็ตายไม่ถอยเรื่องความดี แล้วผ่านไป ๆ เพราะการผ่านทุกข์ไปได้นี้จะผ่านเพราะความดีบุญกุศลเท่านั้น ผ่านเพราะกิเลสไม่ได้ เมื่อเราไปเห็นความชั่วช้าลามกที่กิเลสต้มตุ๋นสัตว์ทั้งหลายให้มาจมกองกันอยู่นี้ชัดเจนด้วยตาของเราแล้ว มานี้ตะเกียกตะกายเลย เอาเป็นเอาตายเข้าว่าเลย แล้วก็ผ่านพ้นไปได้ ๆ ให้พากันจดจำเอานะ

เคยประกาศอยู่เรื่อย ๆ หลวงตาบัวตายแล้วไม่มีใครเทศน์อย่างนี้นะ ท่านองค์อื่นท่านไม่ค่อยเทศน์อะไรแหละ มีแต่เจริญพร ๆ นี่ไม่เจริญพรนะ ขึ้นชื่อว่ากิเลสแล้วฟัดมันเลย จะไปเจริญพรให้มันทำไม กิเลสพวกต้มตุ๋นมันหลอกคนเอาให้ล่มจมขนาดไหน พวกสัตว์โลกล่มจมเพราะกิเลสนี้มากแสนมาก กลของมันเก่งมากนะ อุบายวิธีการของมันเก่งมากทีเดียว ครอบไว้หมด กระดิกพลิกแพลงไปทางไหนมีแต่กิเลสดึงออก ๆ พาออกพาไปพามาพาอยู่พากินพาขับพาถ่ายพาใช้พาสอยทุกสิ่งทุกอย่าง มีแต่กิเลสนำ ๆ ๆ ธรรมะไม่ได้นำเลย นี่ซิมันเสียเปรียบกันตรงนี้มนุษย์เรา

แม้ที่สุดพระเข้ามาบวชในศาสนานี้ก็เหมือนกันนะ หัวโล้น ๆ โกนคิ้วแล้วให้กิเลสมันโกนอีกทีหนึ่ง โกนตอนบวชมาแล้วยังไม่พอ พอมาบวชในศาสนาแล้วยังให้กิเลสบวชอีกทีหนึ่ง บวชไปทางกิเลสนะ หัวโล้นก็โล้นไปทางกิเลส เขาเรียกอลัชชีไป อย่างนั้นแหละกิเลสมันเก่งมากนะ เข้าแทรกเข้าแซงหมด ตีตลาดได้หมดทุกแง่ทุกมุมเลยนะ เดินจงกรมอยู่มันก็เข้าแทรกอยู่ในนั้นไม่รู้ ทำให้พลั้งให้เผลอให้ลืมเนื้อลืมตัว บางทีให้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เดินจงกรมไปไม่ไหวแล้วนอน กิเลสเอาไปกินแล้วถลุงแล้วไม่รู้นี่ซิ มันน่าโมโห

พูดทีไรโมโหทุกที ถ้าพูดเรื่องกิเลสแล้วมันเป็นยังไงกับเรามันไม่คุ้นกันเลย เพราะมันแทรกมันเก่งมากขนาดนั้นซีสัตว์โลกถึงได้ยอมจำนนมันไม่รู้เนื้อรู้ตัวนะ ไม่ใช่ตั้งใจยอมนะ มันเป็นไปด้วยความไม่รู้เนื้อรู้ตัว มันเก่งขนาดนั้น ให้เอาธรรมะนี้เข้าแทรก ๆ พอธรรมะเข้าไปตรงไหนมันจะเห็นเรื่องของกิเลส เพราะธรรมะเป็นความสว่างนี่นะ สว่างเข้าไป กิเลสมันหลอกลวงต้มตุ๋นสัตว์ประเภทใด ด้วยวิธีการอันใด ๆ ธรรมนี้จะเห็นเข้าไป ๆ ชัดเข้าไป ๆ เรื่อย ๆ ฆ่าเข้าไปทำลายเข้าไปเรื่อย ๆ แล้วเปิดโล่งไปหมดเลย

ใจพระพุทธเจ้าใจพระอรหันต์ท่านเป็นใจเปิดโล่ง เพราะท่านทำลายหมดสิ่งที่กล่าวมานี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่ภายในพระทัยและใจของท่านเลย แล้วท่านก็ประกาศธรรมสอนไว้ให้พวกเราได้นำธรรมนี้ไปส่องแสงสว่าง ให้ได้เห็นความชั่วช้าลามกของตัวเองที่กิเลสชักลากให้พาไป ไปโน้นไปนี้ ลากไปทางโน้นเข็นไปทางนี้ ให้ไปทำแต่ความชั่วความดีไม่ให้ทำ อันนี้ละสำคัญมาก ให้เอาธรรมะนี้ไปปฏิบัติ

อยู่บ้านอยู่เรือนก็ให้มีศีลมีธรรมประจำตัว เพราะความทุกข์มันอยู่กับตัวนะ ไม่ได้อยู่ในบ้านในเรือน ไม่อยู่ดินฟ้าอากาศ.....ความทุกข์ มันอยู่กับคนนะ เราไปอยู่ที่ไหนจึงต้องปฏิบัติรักษาคนคือตัวของเราเองแล้วก็จะเป็นความสุขความร่มเย็น

เอาละวันนี้เทศน์เพียงเท่านี้แหละ เทศน์ทุกวัน ๆ มันจะตายแล้วนะ ต่อไปนี้ให้พร


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก