สิ่งก่อสร้าง-เสือหวงซาก
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2537
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๗

สิ่งก่อสร้าง-เสือหวงซาก

 

ท่านอาจารย์....ไปที่ไหนแหมนักก่อสร้างนะ เราเคยว่าต่อหน้าท่านนะเพราะเคยอยู่ด้วยกัน ไปที่ไหนหาบสูบ หาบพวกถ่านพวกอะไรไปพร้อม ค้อนตีเหล็กไปพร้อม ไปไหนหามสูบหาบสูบไปด้วยและเตาไปด้วย ค้อนตีเหล็กไปด้วย ท่านไปไหนท่านสร้างปุบปับสร้าง เสร็จไม่เสร็จก็ตามเปิดหนีเลย ไปที่ไหนสร้าง นี่วัดไปเมื่อวานนี้ดูวัดเท่ากำปั้นนี่สิ่งก่อสร้างเท่าภูเขา พิลึกจริง ๆ นะ เคยว่าให้ต่อหน้าหลายหนเคยอยู่ด้วยกันนี่ ท่านอาจารย์ทำไมจึงชอบก่อสร้างเอานักหนา ท่านไม่ตอบนะท่านยิ้ม ๆ ตอบไม่ได้ตอบก็ใส่เปรี้ยงซิ เพราะนี่แย็บหาหมัดเด็ดนี่นะ ท่านไม่ตอบ

เราไม่ขี้เกียจนะเรื่องการก่อการสร้าง แต่มันขัดกับภาวนาซิ เอาเหตุผลเข้าว่านี่นะ เพราะฉะนั้นจึงไม่เคยก่อสร้างอะไรที่ไหนตั้งแต่วันออกปฏิบัติ ไม่เคยยุ่งกับการก่อสร้าง ฟาดกับกิเลสอย่างเดียว ถึงขนาดนั้นเราก็ยังหงายให้มัน กิเลสมันของเล่นเมื่อไร ยิ่งไปหาก่อหาสร้างไปหาเกานั้นเกานี้เหมือนหมาขี้เรื้อนแล้วเสร็จเลย นี่ไม่เลยไม่ก่อไม่สร้าง

พ่อแม่ครูจารย์มั่นก็ไม่เลย ไปอยู่ที่ไหนทำกระต๊อบ ๆ เล็ก ๆ อยู่หลังเท่ากำปั้นนี่ อยู่หนองผือก็เหมือนกันมีแต่ร้านเล็ก ๆ อยู่ในป่า กุฏิก็กระต๊อบกระแต๊บโยมเขาปลูกให้ ตอนเขามานิมนต์ท่านท่านรับว่าจะไปให้แล้วเขาก็รีบไปปลูกกุฏิให้ ๕-๖ หลัง ก็มีเท่านั้นแหละที่เป็นกุฏิ แต่ก่อนก็มีอยู่บ้างแล้ว สร้างเพิ่มอีกดูเหมือน ๕-๖ หลัง ท่านไปก็ไม่ทำอะไร พระเณรหลั่งไหลไปตามก็ปลูกเป็นห้างเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ในป่า ท่านไม่เคยสร้างที่ไหนแหละพ่อแม่ครูจารย์มั่น ไปที่ไหนหาอยู่ตามร่มไม้ในป่า

เราก็พูดได้เต็มปากเราเองเราก็ไม่สร้าง ไม่ขี้เกียจนะเรื่องขี้เกียจไม่ขี้เกียจ แต่มันเป็นข้าศึกต่อการภาวนาเลยไม่ทำ การภาวนาต้องมีอย่างเดียวเท่านั้นฟัดกันตลอด ทำโน้นทำนี้มันเป็นเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวายนั่นละทางออกของกิเลสออกหากินออกตรงนั้นละ แล้วก็สร้างความวุ่นวายใส่เจ้าของจิตตภาวนาเลยไม่เป็นท่า สุดท้ายไม่เอาไหนเลย เดี๋ยวนี้เป็นอย่างนั้นแหละ ไปที่ไหนวัตถุออกหน้า กิเลสออกหน้าเลย ตีตลาดไปก่อนเลย

การก่อการสร้างนี้ผู้เป็นนักภาวนาแล้วเป็นเรื่องการสั่งสมกิเลส ถ้าเป็นนักภาวนา ไม่ใช่การสะสางกิเลส พอก่อพอสร้างลงไปปั๊บจะมีละความวุ่นวาย ความกังวลทุกอย่างจะมาตาม ๆ กันหมด สร้างความยุ่งเหยิงวุ่นวายให้ใจ นั่นเป็นเรื่องของกิเลสล้วน ๆ

ศาลาหลังนี้ก็ ๔ หนแล้วนะเขามาขอสร้าง มารื้อใหม่สร้างใหม่ แล้วก็ขอยกศาลาใหม่ ยกขึ้นเราก็ไม่ให้ยก สร้างก็ไม่ให้สร้าง ขยายใหม่เราก็ไม่ขยาย จึงอยู่อย่างนี้ นี่ก็แสนสบายแล้วนี่อยู่อย่างนี้มันสบาย กุฏิก็เริ่มสร้างขึ้นเรื่อย ๆ นะ มันหากมี จำเป็นนั่นแหละที่จะทำ ในป่าก็มีแต่กระต๊อบนั่นแหละ ร้านเล็ก ๆ ๆ กุฏิหลาย ๆ ปีขึ้นหลังหนึ่ง ๆ ขึ้นหลายปีต่อหลายปีมันก็ได้หลายหลังเข้าไป หลังนี้ ๔ หนเขามาขอสร้าง รื้อใหม่สร้างใหม่ กุฏิเรา ๘ หนมาขอปลูกใหม่ให้ ขอรื้อใหม่ปลูกใหม่ ถ้าไม่ให้รื้อก็ปลูกใหม่ ไม่เอาทั้งนั้นเรา ถึง ๘ หน

หนที่แปดก็ขนาบกันใหญ่ซิถึงได้หยุดมา ว่าครูบาอาจารย์อยู่อย่างนี้มันไม่เหมาะสม อะไรเหมาะสมน่ะ เก่งกว่าศาสดาเหรอ ศาสดาสอนพระสาวก รุกฺขมูลเสนาสนํ ว่าไง ท่านไม่ได้บอกหอปราสาทราชมณเฑียรนี่นะ ในแบบในตำรามีอยู่นี่น่ะ เอาอย่างนั้นแล้ว เราเป็นลูกศิษย์มีครูก็ต้องฟังครูบ้างซิ มาเอาตามใจเจ้าของ ๆ ได้เหรอ ต้องตามธรรมมันถึงถูก ครั้งที่ ๘ นี่เอากัน นี่ ๘ หนแล้วนะว่างี้เลย ครั้งสุดท้ายเอาหนักด้วยนะ ทำไมไม่ฟังครูฟังอาจารย์มันยังไงกัน จะจูงจมูกครูอาจารย์ไปยังงั้นเหรอ นี่ไม่ให้จูงนะ

จมูกนี้ไม่ได้ไว้สำหรับคนจูงนะ ไว้สำหรับธรรมจูงต่างหาก เราว่าอย่างนั้นถึงเงียบมา เงียบมาได้ ๓ ปี ๔ ปีนี้ ก็เงียบแหละเราไม่ให้สร้าง สร้างไปหาประโยชน์อะไร สร้างหัวใจซิ ที่ประเสริฐเลิศโลกอยู่ตรงนี้ ไม่ได้อยู่กับอิฐกับปูนกับหินกับทราย ไปสร้างมันหายุ่งหาอะไรถ้าไม่ใช่หมาขี้เรื้อนหาเกาในที่ไม่คัน ฟาดกิเลสตัวมันดิ้นมันดีดให้เกาเอาตรงนั้นซิ ไปที่ไหนก็เลยเป็นทำเลเขาเรียกรีสอร์ทรีแสดไปหมดแล้วเดี๋ยวนี้ วัดต่าง ๆ กลายเป็นรีสอร์ทรีแสดไปละ เป็นอย่างนั้นนะ

อย่างวัดภูทอกสถานที่นั่นเหมาะสมจริง ๆ นี่เราไปว่าให้ท่านจวนนะ นั่นยอมรับ ท่านจวนมายอมรับทีหลัง คราวแรกก็ยอมรับด้วยความเคารพ คราวหลังยอมรับด้วยความเห็นโทษ มาหาเลยเทียว ว่าครูบาอาจารย์พูดนั้นไม่มีอะไรผิดเลย เดี๋ยวนี้ยุ่งใหญ่ อย่ามาเดี๋ยวสันพร้าฟาดหน้าผาก เราว่างั้น ท่านก็เคยอยู่กับพ่อแม่ครูจารย์มั่น ตำรับตำราท่านก็เห็นเหมือนกันนี่นา ท่านไปดิ้นบ้าอีหยัง เพิ่นสร้างบันไดสวรรค์มันกลายเป็นบันไดนรกน่ะซิ ใครมาก็ขึ้น ๆ มันหาเรื่องบ้านี่

ลองคิดประมวลกำลังวังชาสติปัญญามาดูซิ ประมวลกำลังวังชาสติปัญญาทุกด้านทุกทางที่เอามาสร้างนี้ เอามาฆ่ากิเลส กิเลสจะตายไปสักกี่ตัว นี่มีแต่กิเลสเสริมตัวขึ้นมามาก ๆ มันเป็นของดีแล้วเหรอ สถานที่ที่นี้เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการภาวนาล้วน ๆ ไม่ใช่เป็นสถานที่เหมาะสมกับเรื่องตลาดลาดเลอย่างนี้นี่นะ ท่านมาสร้างหาอะไร ทำอะไรคิดบ้างซิลูกศิษย์กรรมฐานน่ะ ทำอะไรไม่คิดได้เหรอ มายอมทีหลังนี่ ทีหลังมายอมด้วยความเห็นโทษจริง ๆ ที่เราว่าทีแรกก็ยอมด้วยความเคารพ ไม่พูดไม่ปากอะไร....เงียบ คราวหลังนี่มาออกปากเอง ออกปากก้าก ๆ ๆ เลย ก็อย่างนั้นแล้วดูเอา นี่ก็จะสร้างรีสอร์ทขึ้นอีกแล้ว ใครไปก็ให้ไปพัก ๆ ฆราวาสกับพระมันไม่เหมือนกันนี่ เหมือนกันที่ไหน ไม่งั้นจะเรียกว่าฆราวาสเรียกว่าพระเหรอ จะเรียกว่าบ้านว่าวัดเหรอถ้าเหมือนกัน อยู่ด้วยกันก็ไม่เหมือนกัน เราจะไปทำแบบโลกได้ยังไง เราแบบพระนี่นะ

ทำอะไรไม่คำนึงคำนวณนี่ผิดหลักธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งนั้นแหละ ทำอะไรให้คิดอ่านไตร่ตรองก่อนเรียบร้อยแล้วค่อยทำ แล้วเอาตำรากางไว้เสมอ ๆ ดูตำราเหมือนแปลน แปลนท่านว่ายังไงท่านสอนว่ายังไง ให้เดินตามนั้น ๆ นั่นเรียกว่าผู้เดินตามครู ไอ้แซงหน้าแซงหลังนั่นซี ไปที่ไหนเรื่องวัตถุขึ้นก่อนแล้ว ยุ่งก่อนแล้ว มันสมบัติอะไร

ตั้งแต่อยู่ในวัดเรานี้เราก็อกจะแตกแล้วนะเดี๋ยวนี้จะว่าอะไร ในวัดป่าบ้านตาดนี่ เราอนุโลมจนจะกลายเป็นอกจะแตกไปแล้วเดี๋ยวนี้ สุดอนุโลมนะนี่นะ เป็นอนุหลวมไปแล้วใช้ไม่ได้นะ ข้างในนี่น่ะสำคัญ ฝ่ายผู้หญิงชอบมีเรื่องมากนะ พระมีเท่าไรเราไม่ได้คิดเป็นปัญหาแหละ แต่ข้างในเราคิดเป็นปัญหาขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ผู้หญิงมันคับแคบไม่เหมือนผู้ชาย เห็นแก่ตัว กีดกัน นี่ตัวสำคัญผู้หญิงมีอย่างนี้ เราไม่เรียกผู้หญิงทั่วไปนะเราเรียกผู้หญิงในวัดป่าบ้านตาดที่มาอยู่กับเรานี่ เราคิดไว้เรียบร้อยแล้ว

ชอบกีดชอบกันชอบหึงชอบหวง ถ้าไปอยู่กุฏิใดแล้วหึงหวง เป็นราชสีห์ขึ้นมาแล้ว ไม่รู้ตัวเลยนะว่ามาบำเพ็ญธรรม สมบัติอะไร ใครก็มามีหัวใจมาอยู่ด้วยกันสักเท่าไรจะเป็นอะไรไป การอยู่การกินการใช้การสอยต้องคิดซิ ไม่คิดไม่ได้นะเดี๋ยวได้ไล่หนีออกจากวัดหมดนี่ เอ้า จริง ๆ นี่เราไม่ได้เหมือนใครนี่นะ ถ้าขวางเข้าหลายด้านหลายทางสู้ไม่ไหวเดี๋ยวไล่หนีเลย มีแต่พระล้วน ๆ ไม่ได้ยุ่งกันแหละ

นี่ก็อนุเคราะห์ด้านจิตตภาวนาเราก็เลยอนุเคราะห์ สุดท้ายเราเลยจะตาย ใครมาอยู่ที่ไหนเป็นเจ้ากี้เจ้าการเจ้าอำนาจบาตรหลวงขึ้นอยู่ที่ตรงนั้น ๆ ตัวนี้สำคัญมากนะ ในวัดนี้ในครัวนี้ระวังให้ดีนะ หวงอะไร ใครมาอยู่อยู่ด้วยกันสักเท่าไรอยู่ อย่ากีดอย่ากันอย่าหึงอย่าหวง การอยู่การกินการใช้การสอย มีอะไรอยู่ไปกินไปเท่านั้นนักภาวนาไม่ยุ่งกับสิ่งเหล่านี้ จึงเรียกว่านักภาวนา แทนที่พระมาอยู่กับเรานี้มากเท่าไรนี่ แทนที่เราจะหนักอกหนักใจกับพระ กับไม่หนักนะกับพระ...ธรรมด๊าธรรมดา เพราะต่างองค์ต่างดำเนินตามหลักธรรมหลักวินัยเรียบไปเลย เท่าที่เป็นมาเป็นอย่างนั้น เราจึงไม่มีข้อกังวลอะไร แต่ทางข้างในมีนะ มีกี่คนก็มีเหตุขึ้นละ มันมาขวางจิตอยู่ตลอด เป็นอยู่เรื่อย ๆ

สิ่งเหล่านี้ที่พูดเหล่านี้ไม่ผิดนะ ได้พิจารณาแล้วถึงพูดออกมา ไม่ได้พูดสุ่มสี่สุ่มห้านี่นะ ไม่ได้พูดแบบโป้งป้าง ๆ อวดอำนาจวาสนาอะไรนี่ พูดด้วยเหตุด้วยผลด้วยอรรถด้วยธรรม มันมีจริง ๆ อยู่ข้างในนี่

วัดนี้เป็นสถานที่สร้างไว้สำหรับคนอยู่ชั่วกาลชั่วเวลา ถ่ายทอดกันไปถ่ายเทกันไป ต่อไปมากลายเป็นเจ้าของอยู่เป็นประจำเลยใช้ไม่ได้นะ เดี๋ยวจะไล่ออกหมดนะ การอยู่การไปก็รู้แล้ว เราก็ประกาศมาอย่างนั้นมานานแล้วนี่นะ สุดท้ายมาอยู่เลยไม่รู้จะคิดอ่านอะไรต่ออะไรอีกแล้วนี่ เอาความเห็นแก่ตัวเข้าไปว่านะ นี่เราสร้างไว้สำหรับผู้ที่มาอยู่ชั่วกาลชั่วคราวแล้วผ่านกันไป ๆ ถ่ายทอดกันไปถ่ายทอดกันมา

เมื่อมาอยู่ประจำแล้วหลังไหนก็อยู่ประจำทั้งนั้นแหละ แล้วคนอื่นเข้าไปอยู่ไม่ได้นะ เหมือนเสือหวงซากนะ มันจะอาว ๆ ๆนะ หากเป็นไม่เป็นได้หรือ เรื่องมันมีมันเป็นอยู่แล้วนี่ พูดตามเรื่องมันเป็นจะผิดไปไหน นี่ละเรื่องธรรมฟังให้ดี เราไม่ได้เอาเรื่องโลกมาพูดนี่นะ เอาเรื่องธรรมมาพูด ใครต้องการธรรมให้พิจารณา ให้รีบแก้ไขตนเองนะ ถ้าไม่แก้ไขให้หนี แก้ไขไม่ได้อย่าอยู่ สถานที่นี่เป็นสถานที่ดัดแปลงแก้ไขสิ่งที่ลามกจกเปรตไม่ให้มีในหัวใจ กาย วาจา กิริยามารยาทไม่ให้มี แก้มันออก ชะล้างมันออก

นี่เลวเข้าไป ๆ นะนี่ ให้พึงทราบนะว่านี่เราสร้างไว้สำหรับคนมาอยู่ถ่ายทอดกันไปถ่ายทอดกันมา ไม่ได้ให้อยู่เป็นประจำจนกระทั่งถึงเป็นเสือหวงซากหง่าว ๆ นะ คำพูดไม่น่าพูดมันก็ได้พูดขึ้นมาละนะ เราได้ยินเราทราบมันเป็นทุกด้านทุกทาง เดี๋ยวเอาเราเป็นโล่บังหน้าเอาเราออกอวด นี่อันหนึ่ง เอาเราเป็นตัวประกัน เหล่านี้แหละมีได้ อยู่ไปนานเท่าไรยิ่งเลวไป ๆ ไม่ได้ดีขึ้น มันเลวลงนี่ ปกติวัดนี้ไม่เคยมีใครมายุ่งนะแต่ไหนแต่ไรมา มีแต่พระล้วน ๆ

มาอยู่ที่นี่ก็เห็นบืนกันมา ๆ เราก็สงสารเราก็อนุโลมไปฟังไป อนุโลมไปคิดไป แล้วก็เป็นขึ้นมาตามที่คิดไว้ ๆ ไม่ผิดนี่ มันทนไม่ไหวอกจะแตกก็พูดเอาบ้างซิ นี่พูดเฉย ๆ ยังค่อยยังชั่วนะไม่ไล่ออกพร้อมกันเลยกับคำพูดน่ะ ต่อไปถ้ามันเป็นจะเอาจริง ๆ ไม่เป็นอย่างอื่นว่าอย่างงั้นเลย ไม่เป็นอย่างใดทั้งนั้นแหละจะเป็นอย่างที่ว่านี้ ใครมาเห็นแต่หัวใจเจ้าของไม่ได้เห็นธรรมอะไรอย่างนั้น ปฏิบัติธรรมต้องดูธรรมซิ ดูหัวใจเจ้าของมันมีกิเลสเต็มอยู่นั้น คลังกิเลสคือหัวใจของคนแหละ พระอยู่กันมากมายก่ายกองไม่เห็นมีเรื่องมีราวอะไร ปากเปราะด้วย ชอบมีเรื่องด้วย คับแคบด้วย เห็นแก่ตัวด้วย นี่จุดสำคัญตัวนี้นะ

เมื่อวานกลับมาถึงวัดก็เที่ยงพอดีใช่เล่นเมื่อไรไปแต่ละครั้งละคราว เราไปแต่ละแห่ง ๆ ขาดประโยชน์มากขนาดไหนเราก็ต้องได้ตัดสินใจไป จะไปที่ไหน ๆ ต้องคิดเต็มหัวอกแล้วค่อยก้าวตามความคิดนั้น ไม่ใช่ว่าสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วไป ๆ นะ จะทำอะไรก็ตามจะไปอะไรก็ตามคิดเสียก่อนเรียบร้อยแล้วตัดสินใจไป ไปทางหนึ่งก็ขาดทางหนึ่ง ๆ

จะให้พร


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก