ขลังภายนอก
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2537
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :

ค้นหา :

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๗

ขลังภายนอก

หาเรื่อง อยู่เฉย ๆ ไม่อยู่ ไม้จิ้มฟันเอาไปทำอะไร วิเศษวิโสอะไร หาเรื่องไม่เข้าท่า นี่ละที่มาทำให้พระผิดไปเรื่อย ๆ พระอยู่ดี ๆ ก็ลากจมูกไป นี่ก็จะขอไม้จิ้มฟันไป ถ้าเราจับยื่นให้ก็จะมาอีกเต็มศาลานี้ มาแย่งไม้จิ้มฟันกันหมด นี่ละจูงพระให้ผิดให้ขลังในเรื่องไม่ขลัง ความประพฤติตัวเองให้เป็นคนดีที่ขลัง ๆ ไม่เห็นทำกัน หาแต่ขลังนอก ๆ ใช้ไม่ได้นะ เวลานี้ศาสนาขลังไปข้างนอกแล้วนะ ไม่ได้ขลังอยู่กับใจกายวาจาความประพฤติของชาวพุทธเรานะ

เพราะฉะนั้นโลกถึงเหลวไหลโลเลเวลานี้ ไปที่ไหนมองเห็นแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้มนุษย์เต็มบ้านเต็มเมือง แล้วขลังแท้ ๆ เอานั้นมาขลังเอานี้มาขลัง ชอบขลังนัก เขาว่าอะไรแตกฮือ ๆ ตื่นบ้ากัน พระพุทธเจ้าไม่ได้พาขลังอย่างนั้นนี่ สอนลงที่กายวาจาใจของชาวพุทธเรานั่นแหละ ปฏิบัติตรงนั้น ธรรมขลังอยู่ตรงนั้นนะ

พระพุทธเจ้าได้ธรรมมาสอนโลกก็ขลังที่หัวใจนะ ไม่ได้มาขลังนอก ๆ นานา มีไม้จิ้มฟันเป็นต้นอย่างนี้ใช้ไม่ได้เลย อันนี้สำหรับจิ้มฟัน พอจิ้มแล้วก็ทิ้งลงกระโถน จะไปเสกสรรให้เป็นของดิบของดีมาจากไหน เด็กดูก็รู้นี่แล้วทำไมผู้ใหญ่ดูไม่รู้ ไปไหนมีแต่เรื่องขลัง ๆ อย่างนี้แหละเต็มบ้านเต็มเมือง เมื่อเห็นมีคนเคารพนับถือพระ เห็นไปวัดไปวากันบ้างอย่างนี้ หือ ขลังทางไหน ท่านดีทางไหน ๆ

นั่นเห็นไหมมันติดนิสัยสันดานชาวพุทธเมืองไทยเรานี่ มันขลังนอก ๆ แนก ๆ ไปอย่างนั้น ขลังที่กายวาจาใจนี่ซิ พระพุทธเจ้าขลังที่นี่นะ ตรัสรู้ที่นี่ ๆ ไม่ได้ตรัสรู้ที่ไม้จิ้มฟัน ชานหมากอะไรเหล่านี้ ท่านไม่ได้มาขลังกับสิ่งเหล่านี้นะ ท่านขลังอยู่ที่ใจ กิเลสอยู่ที่ใจ ข้าศึกอยู่ที่ใจ ตีกันลงไปที่ใจนี่ ดับกันลงที่นี่แล้วขลังขึ้นมาที่นี่แหละ อย่าไปหาเรื่องขลังนอก ๆ นานา ไปที่ไหนเป็นบ้ากันแต่เรื่องขลังข้างนอกนั่นดูไม่ได้นะ ชาวพุทธเราเวลานี้ดูเลอะไปหมด

นั่นหนังสือเอาไปอ่านดูตัวเอง ผิดตรงไหนแก้ตรงนั้นแหละ ขลังตรงนั้นแหละ หนังสือที่วางอยู่ด้านหลังศาลานี่เอาไปอ่าน นั่นละหนังสือแบบธรรมะพระพุทธเจ้าท่านขลังยังไงดูเอาตรงนั้นแหละ ไม่ได้มาขลังนอก ๆ แนก ๆ นี้นะ เวลานี้โลเลมากชาวพุทธเรานี่จนดูไม่ได้ ทั้งพระก็เหมือนกัน ไม่ว่าท่านว่าเรามันพอ ๆ กัน ขลังแบบไม่เป็นท่านั่นแหละ มีอะไรติดย่าม โยมมาแล้ว เอ้า โยมนี่ขลังดีนะ นี่วัตถุมงคลนะโยม หัวใจเจ้าของไม่ดูมันจะเอาอะไรมาขลังมาเป็นมงคล

ดูหัวใจเจ้าของนั่นซิมันผิดอยู่ตรงนั้นนี่นะ ยื่นมือออกมานี้ไม่ผิดที่หัวใจจะผิดตรงไหน จิตคิดว่ายังไงถึงได้ยื่นมา เอ้า ๆ โยม ๆ ของขลัง ขลังอะไรอย่างนั้นไม่เป็นท่าเป็นทาง ทำอะไรไม่มีเหตุมีผลมีอย่างเหรอ พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ทรงเหตุทรงผลเต็มที่ทีเดียว ไม่ใช่ธรรมสุ่มสี่สุ่มห้านะ เวลานี้ชาวพุทธเราโลเลไปอย่างนั้นแหละ มีแต่ขลังภายนอก ๆ ข้างในไม่สนใจกัน

ประพฤติตัวให้ดีซิ เวลามันเสียมันเสียทั้งคน มันไม่ได้เสียที่ของขลังนั่นนะ มันเสียคน ปฏิบัติต่อคนให้ดี คนก็คือเรานั่นแหละ นี่ไปไหนเห็นแต่อย่างนั้นนี่จะว่าไง ตามีหูมี พระก็มีตาเหมือนกันนี่ ไม่ใช่พระตาบอด ไปไหนทำไมจะไม่เห็น ขวางตาก็รู้ขวางหูก็ทราบจะว่าไง เวลานี้มันมีแต่ขวางหูขวางตานั่นซิ มันไม่เข้าร่องเข้ารอยเพราะคนทำขวาง แล้วทุกข์ก็เดือดร้อนวุ่นวายขึ้นทุกวี่ทุกวัน อู๊ย น่าทุเรศสงสารนะ

ต่างคนต่างหาความสุขตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งป่านนี้ เอาความสุขมาอวดหลวงตาหน่อยซิ ถ้าหาความสุขมาตั้งแต่วันเกิดจนกระทั่งป่านนี้ได้ความสุขมาหนึ่งกำ สองกำ สามกำ เอามาให้ดูบ้างซิ นี่มีแต่กองทุกข์เต็มบ้านเต็มเมือง ภูเขาสู้ไม่ได้ มันจะสู้ได้ยังไงภูเขาไม่ได้เป็นทุกข์นี่ คนต่างหากเป็นทุกข์ นี่ซิหาไม่ถูกทางมันก็ไม่ได้เรื่อง ศาสนาเลยเป็นเครื่องเล่นของกิเลสไปหมด

เวลานี้กิเลสกำลังตีตลาดแหลกเหลวไปหมดนะ ธรรมนี่ออกไม่ได้ถูกกิเลสตีเอา ๆ ขลังไปข้างนอกมีแต่เรื่องของกิเลส ว่าธรรมตรงไหนกิเลสเข้าไปแทรกแล้ว ๆ ตีตลาดแล้ว ๆ อันนี้ซิมันน่าทุเรศเอามากมายนะ ไม่สนใจประพฤติปฏิบัติตัวเองให้เป็นคนดี แต่จะขลังภายนอกให้ดีภายนอกมันดีได้ยังไง อันนี้ละที่น่าทุเรศมากนะ ให้พากันไปคิดบ้างซิชาวพุทธเรา

ไปหาพระมีแต่หาของขลัง ๆ ดูฤกษ์ดูยามดูดวงชะตาราศี ดวงไหนมันก็อยู่ในนี้หมด หลวงตาก็เคยดู ถ้าเราได้ดูแล้วไม่มีผิดแล้วเอาจนเข็ดจะว่าไง ใครมาให้เราดู-เราดูให้ถูกเสียงเปรี้ยงอย่างไม่ผิดเลย แล้วก็เข็ดคนนั้นไม่มาดูอีกแหละ มาพอยื่นฝ่ามือมานี่ เราโบกมือไม่ต้องเรื่องฝ่ามือนั่น หลังมือเราก็ดูได้ถ้าเราจะดูแล้ว เราว่าอย่างนี้ ที่ไหนดูได้หมด คนทั้งคนเราดูได้หมด ทายจะไม่ให้ผิด แล้วลองทายซิ นี่ตั้งแต่เป็นเด็กแม่หวดเรื่อยใช่ไหม เอาแล้วนะนั่น ตั้งแต่เป็นเด็กแม่หวดเรื่อยใช่ไหม ถ้าว่าแม่ไม่หวดแม่ไม่ดุบ้างเหรอ เอาจนถูก พอเสร็จจากนั้นแล้ววันหลังไม่มาดูอีก นั่นถ้าดูต้องดูอย่างนั้นซีมันถึงแม่นยำ

ไปดูสุ่มสี่สุ่มห้าหลอกกันไป ว่าจะขึ้นสวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้แล้วลงไปจมนรก ไปปล้นไปสะดมเขาก็ต้องไปดูฤกษ์ดูยามเสียก่อนว่าเวลาไหนดี ๆ ครั้นไปปล้นถูกเขาฆ่าเอา ไม่ทราบว่าอันไหนดี เจ้าของชั่วมันก็เป็นอย่างนั้นละซี มี..ตำรับตำรา โอ๋ย เต็มมือ เวลาตายแล้วไปดูตำราเต็มกระเป๋า เข้าเวลานั้นดีเข้าเวลานี้ดี ดูยามเข้าไปปล้นเขา ถูกเขาฆ่าน่ะซิ ค้นในกระเป๋ามีตั้งแต่ตำรา นี่เห็นแล้วนะไม่ได้มาอวดพูดเฉย ๆ หลอกโลกนะ เป็นอย่างนั้นละ เห็นไหมตำราเป็นอย่างนั้น มันดีอยู่กับคนชั่วอยู่กับคน ให้ปฏิบัติตัวของตนให้ดีซิ นี่ไม่ปฏิบัติตัวเอง ไม่สนใจ มีแต่อยากดี ๆ ใช้ไม่ได้ ตลอดวันตายก็ไม่ดี

เจ้าของศาสนาของพวกเราเป็นผู้สิ้นกิเลส พระพุทธเจ้าเป็นพระอรหันต์เลิศโลกขนาดไหน ท่านไม่ได้มาขลังนอก ๆ นานาอย่างนี้นะ ท่านสอนลงที่กายวาจาใจนี้ ตรงไหนผิดแก้ตรงนั้น ถ้าแก้แล้วมันก็ถูก ถูกแล้วมันก็ดีเท่านั้นละ อันนี้มีแต่โลเล ๆ ดูหมอใครอยากให้แม่นยำละก็มา บอกกันมานะ มาหาหลวงตาบัวจะดูให้เข็ดหมด มันเป็นยังไง นี่ดูแบบหนึ่ง แบบที่สองก็ที่ผ่านมานี่หมากัดใช่ไหม หมาเคยกัดใช่ไหม ถ้าหมาไม่กัดก็มันไม่เห่าบ้างเหรอ เอาจนถูกไม่ให้ผิดเลย เข็ด จากนั้นไม่มาดูอีก ถ้าเราดู- ดูไม่ให้ผิดดูจนเข็ด ถูกเสียจนเข็ด ถ้าดูต้องดูอย่างนั้นซิ ดูสุ่มสี่สุ่มห้าทายสุ่มสี่สุ่มห้าเราไม่ทาย ถ้าทาย-ทายอย่างนี้แหละ ทายแบบว่าตั้งแต่เป็นเด็กแม่หวดเรื่อยใช่ไหม ก็มันดื้อซิ ถ้าแม่ไม่หวดแม่ไม่ดุบ้างเหรอ เอาจนถูก ถ้าแม่ไม่ดุแม่ไม่ทำตาถลึงบ้างเหรอ เอาจนถูก เข็ดเลยเชียว ก็หาที่ถูกจะว่าไง

พวกเรามันพวกขวาง เหมือนหมาคาบบ้องข้าวหลาม คาบกลางบ้องข้าวหลามวิ่งขวางทาง มีแต่อยากดี ๆ หาตั้งแต่สิ่งภายนอกมันไม่เป็นท่าละซิ แก้กายวาจาใจของตัวเอง ไม่ดีตรงไหนแก้ตรงนั้น ตรงนี้ตรงดีตรงขลังอยู่ตรงนี้ พระพุทธเจ้าท่านขลังตรงนี้ พระสาวกอรหัตอรหันต์ที่เราว่า สรณํ คจฺฉามิ ท่านขลังตรงนี้นะ ท่านไม่ไปขลังแบบที่ว่านั่น แบบนั้นมันแบบกิเลสหลอกคนให้เป็นบ้าเรื่อย ๆ ไป

หนังสือที่ให้ไปให้เอาไปอ่าน อ่านดูเป็นยังไง ผิดตรงไหนแก้เจ้าของตรงนั้นแหละ จะขลังตรงแก้ได้ ถ้าแก้ไม่ได้ไม่ขลัง แก้ให้ได้ ผิดตรงไหน ๆ หนังสือท่านจะบอกไปตามแนวตามแถวแล้วก็ไปประพฤติปฏิบัติ โลกจะมีแต่ฟืนแต่ไฟเผาไหม้กันเต็มบ้านเต็มเมืองจะทำยังไง มนุษย์มากเท่าไรกองไฟยิ่งมากเผากันแหลกไปหมด แทนที่มนุษย์ฉลาดจะสร้างความสงบสุขให้แก่กันมันกลับตรงกันข้ามไปนะเวลานี้ ก็เพราะพากันขลังภายนอก ดีแต่ภายนอกนั่นซิ

เขายกยอสรรเสริญบ้างก็เป็นบ้าไปเสีย เขาตำหนิติเตียนก็เป็นบ้าไปอีกแบบหนึ่ง เขาชมก็เป็นบ้าไปอีกแบบหนึ่ง มันมีแต่บ้าเต็มบ้านเต็มเมือง หลงลมปากกัน ประสาลมปาก จะให้ใครมาชม เราชมเราเองยิ่งดี เราตั้งเราเองนี่ดีกว่าคนอื่นมาตั้ง คนอื่นมาตั้งเขาปลดได้ เขาชมเรานี้เขาตำหนิเราได้ เราชมเราเองเป็นไรไป ถ้าไม่กลัวเขาหาว่าบ้าหลงชมตัวเองน่ะ

อย่างหลวงตาบัวจะชมหลวงตาบัวก็ชมได้ นี่หลวงตาบัวดีนะว่างั้น ใครจะว่าอะไรก็หลวงตาบัวดีจริง ๆ เป็นยังไง เมื่อคืนนี้ขี้แตกจนไม่ได้นอนเลย จะเป็นอะไรไปมันผิดเมื่อไร ก็มันขี้แตกจริง ๆ ก็ว่าขี้แตก พูดตามความจริงนี่ ดีนะหลวงตาบัวขี้แตกไม่ได้นอนเลย กินอะไรเข้าไปผิดไม่รู้ นี่ชมก็ได้ตำหนิก็ได้ตำหนิเจ้าของ ทีนี้ไม่ดีตรงไหนแก้เจ้าของตรงนั้นซิ แก้ตรงนั้นมันก็ดีนั่นซิ อันนี้ไม่สนใจแก้เจ้าของไม่สนใจชมเจ้าของ ให้แต่คนอื่นมาชมจนเป็นบ้า คนนั้นดีอย่างนั้นคนนี้ดีอย่างนี้ เขายกยอเท่านั้นก็เป็นบ้าไปแล้ว พวกหูเบาเหมือนนุ่นนี่

รถก็อยากได้สัก ๒๐ คัน ครัวเรือนเดียว ๒๐ คัน ครัวเรือนละ ๒๐ คัน ถนนนี่อัดแน่นเลย คนนั้นก็เอามาคนนี้ก็เอามา อันนี้รุ่นนั้น อันนั้นรุ่นนั้น อันนั้นรุ่นใหม่ อันนี้รุ่นเก่า อันนี้รุ่นทันสมัยต้องรีบจองไม่จองไม่ได้นะ ฟังซิเอามากองกันไว้ ประสาเหล็กมันบ้าเหรอ ไปดูซิ เหล่านี้ไม่ใช่เหล็กจะเป็นอะไรไป เขาเอาสีทาข้างนอกนิด ๆ เท่านั้นแหละหลอกตา แล้วเปิดหงายท้องขึ้นไปดูซิมันดูได้ไหมรถคันหนึ่งน่ะ ประสาเหล็กเป็นบ้าอะไรกันนักหนากับรุ่นนั่นรุ่นนี่

นี่ละมนุษย์เราว่าฉลาดมันโง่อย่างนี้ละ ประสาเหล็กก็มาเป็นบ้ากัน รุ่นนั้นรุ่นนี้ ตาลุกวาว ๆ พอเขายกยอบ้าง โอ๊ย นี่ได้รถมาจากไหนใหม่เอี่ยม ชนิดนี้ไม่ค่อยมีเสียด้วยในเมืองไทย ไปได้มาจากไหน ก็สั่งมาละซิ สั่งที่ไหน โน่นฟากอังกฤษ ฟากเยอรมันโน่น ฟากทางไหนก็ไม่รู้แหละฟาก ๕ ทวีปโน่น ไปสั่งมาจากไหนรถคันนี้ สั่งที่อื่นไม่ได้มันมีเฉพาะนะ นั่นเป็นอย่างนั้น พอเขาว่าอย่างนั้นตาลุกวาว ๆ เป็นบ้าสด ๆ ร้อน ๆ

มนุษย์เรายกยอกันง่าย เป็นบ้ากันง่าย ๆ ตำหนิก็ง่ายนิดเดียว พอพูดอย่างนี้เราจะเล่านิทานหมาตัวหนึ่งให้ฟัง หมาตัวหนึ่งเขาเลี้ยงไว้ มันรู้จักภาษามนุษย์นะหมาตัวนี้ มันอ้วนน่ารักเสียด้วยนะ เราก็รักมันด้วยหมาตัวนี้น่ะ ไปฉันในบ้านเขา เขาว่าหมาตัวนี้มันรู้ภาษามนุษย์นะ เราพูดอะไรมันรู้หมดเลย อย่างเราพูดอยู่นี้เขาก็รู้ เขานั่งหูตูบ ๆ นะ เขาเฉยถ้าพูดว่าเขารู้หมดเขาเคลิ้มไปเลย เขาดีใจพอพูดไปอันนั้นก็ดีอันนี้ก็ดี เขาก็เคลิ้มไปตามเสียงพูด พอว่าไอ้บ้าเบา ๆ ไม่ต้องว่าแรงหรอก เขาแฮ่ ๆ ๆ เขาโมโห เขาชมว่ามันรู้ภาษามนุษย์ ว่าไอ้บ้าเท่านั้นแหละไม่ต้องพูดเสียงดังนะ แฮ่ ๆ ขึ้นทันที เขาโกรธ

เวลาพูดยกยอเขาพูดเสียงดังธรรมดานี่ อู๋ย หมาตัวนี้มันรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ไปเอาอะไรมาก็ได้ ให้ลงน้ำไปจับปลาก็ได้ มันคึกคักจะลงไปในน้ำ รีบบอกเขาไม่เอาแล้วละปลา ปุ๊บปั๊บกลับคืนมา เขามีสระเล็ก ๆ อยู่ข้าง ๆ บ้านเขา บอกให้ไปหาปลาก็ได้ คึกคักลุกจะไปหาปลา เห็นต่อหน้านี่มันอดหัวเราะไม่ได้ เอ๊ะ มันรู้ภาษาจริง ๆ พอมานั่งถูกเจ้าของยกยอแล้วก็หลับตาปี๋เทียวนะหูตูบ ๆ พอสุดท้ายสรุปความลงว่าไอ้บ้าเท่านั้นแหละ แฮ่ ๆ ๆ มันจะกัดไม้กัดเหล็กไปแหละ ไม่ได้กัดคนกัดไม้ก็เอา นั่นฟังซิ

พวกเรามันพวกบ้ายอ อย่าเป็นอย่างนั้นซิ อย่าตื่นกันซิ ตื่นอะไรนักหนาไม่เกิดประโยชน์ ทำคนให้เสียคน การตื่นโลกธรรมเกินไปไม่ดี เจ้าของดูเจ้าของ เขาชมว่าดีเราดีหรือไม่ดีตามเขาว่าหรือไม่ดูเจ้าของ ถ้าเจ้าของไม่ดีแสดงว่าเขาพูดผิด เราจะแก้เราให้ถูก เขาติเราว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้เราเป็นยังไงพิจารณา ถ้าเราดีอยู่แสดงว่าเขาพูดผิดเราถูก เราแก้ของเราให้ถูกเราเป็นคนดี ต้องแก้เจ้าของอย่างนั้นซิ เขาพูดผิดก็ให้รู้ว่าผิด เขาพูดถูกก็ให้รู้ว่าถูก อย่างนั้นมันถึงถูก

ไอ้นี่อะไรพอเขาว่าอะไรก็เป็นบ้าไป เขาชมเชยสรรเสริญว่าหมาหาปลาก็ได้ เป็นบ้า.จะโดดลงสระน้ำ พอว่าไม่เอาละปลา มานอน ไอ้บ้าเท่านั้นละ แฮ่ ๆ ๆ ดูแล้วน่าขบขันนะ มันน่ารักด้วย เราไปเห็นเองไปฉันในบ้านเขา เขายอมัน พอยอเท่านั้นก็เป็นบ้า.ไอ้ตูบ เจ้าของจะไปไหนรู้นะ พอเจ้าของจะขึ้นรถ เตรียมของจะไป เขาจะโดดขึ้นไปนอนในรถก่อน มันฉลาดอย่างนั้นละ พวกเราอย่าให้เป็นบ้ายอเหมือนไอ้ตูบนะ ให้อยู่พอเหมาะพอดีดูเจ้าของ

ใครตำหนิมายังไงก็ตามให้ดูเจ้าของ เขาตำหนิว่ายังงั้น ๆ ว่าเราอย่างนั้น ๆ ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นยังไงเป็นความจริงไหม ถ้าไม่เป็นจริงแล้วแสดงว่าเขาพูดผิด เราถูก เราก็ดำเนินตามที่ถูกของเรา ถ้าเขาว่าเราดี เราดีตรงไหน ถ้าเราไม่ดีก็แสดงว่าเขาผิดอีก เราต้องแก้เราให้ดี อย่างนี้ละธรรมพระพุทธเจ้าท่านสอนลงให้ดูตัวเองตำหนิตัวเอง ตรงไหนไม่ดี ๆ แก้ตรงนั้นมันถึงดี นี่มีแต่ตื่นข่าวเป็นบ้าไป เขาว่าวัดนั้นดีอย่างนั้นวัดนี้ดีอย่างนี้ เป็นบ้ากันอีกนะนี่ วัดนั้นขลังทางนั้นวัดนี้ขลังทางนี้ วัดนั้นดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เป็นบ้าไป

ดูพระดูกิริยามารยาทดูความประพฤติ ดูวัดดูวาดูอากัปกิริยาทุกสิ่งทุกอย่างที่แสดงออกถูกต้องตามหลักธรรมหลักวินัยหรือไม่ นั่นละเป็นเครื่องยืนยันกันว่าพระดีหรือไม่ดี เราอย่ามาดูในย่ามเต็มไปด้วยเครื่องรางของขลังอย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ ใครมาก็เอาโยม ๆ ของขลัง ดีนะโยม ได้นี่ไปแล้วร่ำรวยมากนะ ไม่มีอะไรก็ร่ำรวยมันบ้านี่ บ้าสองชั้น โยมก็โยมบ้าอีก ไหน ๆ คว้าแย่งย่ามเสียด้วยนะ โยมแย่งย่ามด้วย สุดท้ายย่ามก็ขาดแหลกหมดเลย มีแต่ของขลังเต็มในย่ามจนกระทั่งย่ามขาด ใช้ไม่ได้นะอย่างนี้ให้จำเอานะแบบนี้

ดูพระดูความประพฤติปฏิบัติซิ หลักธรรมหลักวินัยมีเป็นแบบวัดแบบตวงของพระว่าดีหรือไม่ดีดูตรงนั้น พูดมีเหตุมีผลหรือไม่ ถ้าไม่มีเหตุมีผลพูดโกโรโกโสใช้ไม่ได้ ปากนี้สู้ปากโยมไม่ได้ปากพระองค์นี้น่ะ ปากโยมเขายังพูดมีเหตุมีผลดีกว่าปากพระองค์นี้ วัดกันตรงนั้นซิ พูดให้มีเหตุมีผล จะหนักเบามากน้อยขนาดไหนก็ตามฟังดูเหตุดูผล ที่จะสอนคนให้ดีหรือทำคนให้ชั่ว เราเอาตรงนั้นซิ ใครว่ายังไงก็เห่อเป็นบ้าไปอย่างนั้นใช้ไม่ได้

ต่อไปนี้เมืองไทยเราจะไปซื้อจรวดดาวเทียมเขามาขึ้นว่อนตามนี้ ผ่านมาวัดป่าบ้านตาดละถูกหนังสะติ๊กฟาดเอา เอ้า มันมีมากต่อมากมันขับมันขี่มาทุกแห่งนั่นละ มันบ้าเห่อกัน เขามีนั้นก็เอาเขามีนี้ก็เอา เขามีจรวดดาวเทียมก็จะไปเอาจรวดดาวเทียมมาขับมาขี่แล้วมาผ่านวัดป่าบ้านตาด หลวงตาบัวจะเอาหนังสะติ๊กฟาดมันตกตูมเลย ใครมาผ่านไม่ได้นะถ้าไม่อยากตายโหงน่ะ

นี่ก็มากันมากมายเป็นยังไงได้ผลได้ประโยชน์อะไรบ้างวันนี้มาฟังอรรถฟังธรรม หรือมีแต่ได้ยินเสียงดุนั่นเหรอ มันน่าดุต้องดุ น่าดี-ดี ไม่ควรดุไม่ดุ ควรดีต้องดีควรดุต้องดุ การแนะนำสั่งสอนคนสั่งสอนเพื่อให้ดี ดุเพื่อให้ดีไม่ได้ดุเพื่อทำลายเพื่อฉิบหาย ดุก็ดุเพื่อดี จะพูดดีพูดดุพูดด่าอะไรก็ตาม ก็เหมือนเขาถากไม้ ไม้ต้นไหนในย่านใดที่มันเรียบ ๆ เขาก็ถากเรียบ ๆ ตรงไหนที่มันคดมันงอมีตาปุ่มตาป่ำมากเขาก็ถากแรง คนไหนมันคดมันงอก็ถากแรง ๆ น่ะซี

อย่างตะกี้นี้แล้วเอะอะปุปปับมาขอไม้สีฟัน มันเป็นปุ่มเป็นป่ำก็ถากเอาละซี มันดีวิเศษวิโสอะไรประสาไม้สีฟัน หลวงตาบัวจิ้มมาจนฟันจะหักจนจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว ถ้าจะเลิศก็เลิศแล้วด้วยไม้จิ้มฟันอันนี้ มันก็ไม่เห็นเลิศ แล้วจะไปหาเลิศวิเศษวิโสอะไร นั่นซิไม่มีเหตุมีผลถึงได้ว่าละซิ อย่าไปหาขลัง ๆ นอก ๆ ให้ขลังในตัวเราเอง

ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตัวให้ดี อันไหนไม่ดีให้ระวัง การพนันขันต่อนี่ตัวฉิบหายตัวกินคน นี่มันไม่ดีตรงนี้แก้ตรงนี้นะ ไม่ได้เล่นการพนันมันจะตายหรือ เอ้า ให้มันตาย เกิดมาพ่อแม่ไม่ได้พาเล่นการพนันในท้องนี่ว่างั้น เด็กอยู่ในท้องไปเล่นการพนันในท้องมีเหรอ ตกออกมาแล้วทำไมจึงชอบแต่การพนันขันต่อกันนัก การพนันนี่เป็นสำคัญมากนะ เมืองไทยเรานี่เอะอะพนัน ๆ อะไรพนันหมด อันนี้เป็นความเสียทรัพย์เสียสมบัติเสียเงินเสียทองเสียใจ เป็นคนหลักลอยใจไม่มีหลัก มีอะไรมาฉิบหายวายปวงหมด

คนเล่นการพนันเป็นคนหมดบุญหมดบาปนะ ไม่กลัวบุญกลัวบาปแหละคนชอบการพนันนี่ มันลืมมันหน้าด้าน ถ้าลงได้เล่นการพนันแล้วก็หน้าด้าน แล้วยิ่งพวกยาเสพติดนี่อันนี้ยิ่งแล้วยิ่งหนักเข้าไป ฉิบหายวายปวงไปหมด ไม่มีคำว่าบาปว่าบุญ พอได้แบบไหนเอาหมด ประเภทนี้ นี่ละมันชั่วตรงนี้ให้พากันไปแก้นะ ตรงไหนชั่วให้พากันไปแก้ ถ้าไม่แก้ตายจริง ๆ ฉิบหายจริง ๆ หมดราคาทั้ง ๆ ที่มีชีวิตลมหายใจฝอด ๆ อยู่นี่

วันนี้พูดเท่านั้นละไม่พูดมาก ต่อไปนี้จะให้พรนะ


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก