เราชอบดูการ์ตูนนะมันมีคติอันดีของมัน อย่างที่ชี้ไปต้นนู้น คอนโดมิเนียมธรรมะว่างั้น คอนโดธรรมะ เก็บสิ่งของเรียบร้อยแล้วขึ้นอยู่คอนโดได้เลยนะโยม แล้วครองผ้าแบบตลกนั่นละ แล้วก็ของคุณลุงอยู่ต้นนู้น ชี้ไปคือคอนโดมันสูงเกินไป ผู้ขึ้นไปนั่งขัดสมาธิก็มี ผู้นั่งยอง ๆ ก็มี ขึ้นไปแต่ละต้น ๆ ไปอยู่บนหัว แล้วต้นนั่นมันว่าง ของคุณลุงอยู่ต้นนู้น ชี้ไปต้นนู้น ๆ ไม่มีใครอยู่ ก็เห็นแต่เหล็กขึ้นอยู่เต็ม คงจะไปนั่งบนเหล็กท่า มีขบขันดี
อันนี้ก็มีแต่เราไม่เข้าใจความหมาย ถึงไม่เข้าใจความหมายแต่ก็ขบขันดีนี่ ถ้าสายตาผมไม่โกหก ผมคิดว่าพระมาโปรด ว่างั้น พระวัดเส้าหลิน ยืนท่าทางเข้าท่าเสียด้วยนะ เขามีความหมายทุกอย่าง ค่าคอมไม่เต็มบาทใช่ไหม ใช่ ว่างั้น ทำไมไม่เต็มบาท ก็ผมเป็นนายหน้าขายที่ดินมันควรจะได้ค่าอะไรจากคอม แต่นี้คอมไม่ให้ค่าเสียซิ ความหมายว่างั้น ไม่เต็มบาท เขาว่างั้น นี่เขาเยาะศาสนาเล่น เพราะคนทำอย่างนั้นมีนี่ จะพูดว่าเตือนก็ได้ แน่ะมันมีความหมายหลายอย่าง เขาทำอย่างนั้นเพื่อเตือนให้รู้ก็ได้ เอามาจ่ายตลาดว่าความเลวเป็นอย่างนี้ก็ได้ มันหลายอย่าง
พอคิดเรื่องนี้เราก็ระลึกได้ที่คนคนหนึ่งแกตลก เป็นนิสัยตลกนะ แกอยู่บ้านม่วง บ้านม่วงมันอยู่ตีนเขา เขาเรียกภูเขาอะไรข้ามไปทางโน้น ทางกาฬสินธุ์ เราลงจากภูเขามา มาพักที่แถวบ้านนั้นแหละ ทีนี้แกออกไป เป็นลักษณะนิสัยขบขันอยู่ ไม่หัวเราะง่าย ๆ นะ เป็นคนขบขัน นิสัยขลังท่าหนึ่งอยู่ คือตอนนั้นไม่มีทางรถยนต์ เขาไปกราบไหว้พระธาตุพนมนี่เขาเดินทางไป ๒ คืน ๓ คืน ๔ คืน จากกาฬสินธุ์ไปกราบไหว้พระธาตุพนมมันไกลนี่นะ เดินไปด้วยเท้า นอนตามทาง ๒ คืน ๓ คืน ๔ คืน กว่าจะถึง
ทีนี้วันนั้นก็มีพวกญาติโยมอยู่กองหลัง พระอยู่กองหน้า พระนี่ก็ โห เป็นสิบ ๆ พวกญาติโยมก็อยู่กองหลัง เดินมา อีตาคนนั้นแหละ อีตาคนตลกแกเดินมา แกได้ยินเสียงคนอึกทึกมา มองไปเห็นพระแกเลยแอบไปอยู่ข้างทาง พระก็เป็นพระแบบนั้นละแบบฆ่าไม่บาปเหมือนกันละ พระแบบนี้ฆ่าไม่บาป ไปบ้านทำไมอยู่ไกลนัก กูไม่ทันเพลละมื้อนี่ ฟังให้ดีนะนี่เป็นภาษาภาคอีสานพูดกัน บ้านห่ากินหัวมัน มันอยู่ไกลตายแท้ บ่ทันเพลละมื้อนี่ ผู้ใด๋ปากออกก็เป็นเสียงเดียวกัน
ผู้เฒ่าแกแอบฟังอยู่ซิ ผู้เฒ่าตลกนี่ละ เอ๊ะ ทำไมพระจึงพูดกันอย่างนี้ได้สบาย ๆ เหมือนฆราวาสเขา กูจะดัดพระเหล่านี้เสียหน่อย ว่างั้นนะ โยมคนนี้แหละว่ากูจะดัดพระเสียหน่อย แกก็ปุบปับทิ้งเครื่องอะไรของแกหมดแล้วก็วิ่งไปดักอยู่ข้างหน้านู่น ไปนอนขวางทางอยู่ละซี ทำน้ำลายฟูมปาก น้ำลายเต็มปาก ขี้ดินขี้อะไรเต็มหน้า แกไปนอนขวางทางอยู่นะ พระเหล่านั้นไปตาลปัตรก็มี สะพายบาตรก็มี พะรุงพะรังไป พอไปเห็นอีตาคนนี้นอนขวางทางอยู่
แกทำได้ทุกอย่างเราเชื่อ มองดูแล้วก็รู้ ทำแบบขลังที่สุดก็ได้ แบบไม่หัวเราะไม่ยิ้มก็ได้ แบบในหนังในละครได้หมด แกก็นอนขวางทางอยู่นั่นเหมือนคนตายแล้วนะ พอเดินมาถึงที่นั่น อุ๊ย อะไรกัน พระองค์หัวหน้า อุ๊ย อะไรนั่น ไหนมายืนตายอยู่นี่จะไม่ทันเพล ว่าอีกแหละ บ่ทันเพล ดูซิน่ะว่างั้นนะ ทางนี้ก็ดู น่าทุกขังนะ เปลี่ยนใหม่ว่าไม่ทันเพล โห น่าทุกขังนะ ทีนี้มาดันกันเข้า ๆ ข้างหลังมามาก ๆ
คนนั้นก็นอนขวาง บางรายผู้ที่ขลังในทางพัดตาลปัตร ผู้ที่มีคาถาวิชาก็แสดงละที่นี่นะ คนหนึ่งก็จับตาลปัตรขึ้นแล้วเสกคาถาพึมพำ ๆ อะไรทำไม พวกกันถาม เอ้า กำลังเสกคาถา เสกคาถาทำไม ไล่ผีตัวนี้ ทางหลังก็ดันมา ๆ สุดท้ายพวกญาติโยมก็ดันมามันมากต่อมาก ทางนั้นก็นอนขวางทางเหมือนคนตายนะ แกทำได้สนิทแหละ ทางนี้ก็เสกคาถา พวกพัดตาลปัตรเสกคาถาไล่ผี
สักเดี๋ยวผีก็กลิ้ง อยู่ ๆ ก็กลิ้งมาเลยนะอีตานั่นน่ะ แทนที่จะกลัวคาถาไม่กลัว กลับกลิ้งมาหา อู๊ย ตาย ฟังเสียงวิ่งเข้าป่าแตกฮือ สองฟากทางเสียงพระเณรวิ่ง ตาลปัตรตกทางหนึ่ง บาตรตกทางหนึ่ง ต่างคนต่างวิ่ง มันกลิ้งเข้ามาหาจริง ๆ นี่นะผีตัวนั้นน่ะ ตัวเสกคาถาไล่น่ะ กลิ้งเข้ามา ๆ อู๊ย ตาย ทีนี้พวกตาลปัตรพวกพัดอะไรต่ออะไรทิ้งเกลื่อน บาตรทิ้งตามถนนหนทางตามป่านู่น วิ่งไป แตกกันหมดที่นี่นะ โยมก็แตกไปพอโยม พระก็แตกไปพอพระ แตกไปหมดของเขตประเทศนั้นน่ะ มีแต่คนวิ่งกลัวอันนี้ละ
ทีนี้พอพวกนั้นวิ่งหนีหมด พระเกือบ ๒๐ องค์นะต่างองค์ต่างวิ่ง บาตร ตาลปัตร พัดทิ้งอยู่ตามทางตามป่า จีวรฉีกขาดอยู่ตามแถวนั้น แกก็ไปแต่งตัวใหม่นะที่นี่ ปุ๊บปั๊บวิ่งเข้าบ้านรีบไปอาบน้ำ แกว่านะ คือทำตัวมอมแมมสกปรกพอแล้ว ทีนี้ไปอาบน้ำเป็นสมบัติผู้ดีละที่นี่นะ แต่งตัวเป็นสมบัติผู้ดีมา ให้เมียจีบหมากจีบพลูให้สองสามมวนจะเอาไปถวายพระ จะไปสืบเรื่องราวความหมายว่างั้นนะ พอเมียมวนหมากมวนพลูให้แล้วก็ลงไปละที่นี่ แต่งตัวเป็นสมบัติผู้ดีนะ
ลงไปนั้นหัวหน้าวัดกำลังก้าวขึ้นสู่ศาลา พระเณรองค์นั้นมาทางนั้น องค์นี้มาทางนี้ ส่วนญาติโยมไม่ทราบไปทางไหนหายเงียบ พระ ๒๐ องค์หายไปทางไหนบ้างก็ไม่รู้แหละ แตกกันขนาดนั้นแหละ พอขึ้นไปบนศาลาก็ถาม มาแต่ไสนะข้าน้อย เฒ่าสำคัญนั่นน่ะ มาแต่ไสนะข้าน้อย จะไปใสน้อ อย่าสู้เฝ้าถามหลายโยม มันยังใจบ่ดี มันยังบ่ครบบ่ กัน เพิ่นบ่ครบบ่ กัน เพิ่นแตกกัน แล้วเป็นจั่งใดข้าน้อย อย่าถามน่ะโยมมันยังใจบ่ดีอยู่นี่ จักโยมไปทางไหนพระไปทางไหน มันเป็นหยัง อย่าให้พูดเลยเถาะ(อย่าให้พูดเลยน่ะ) ผีบ้าตัวหนึ่งมันนอนขวางทาง เสกคาถามันก็บ่หนี มันกลิ้งใส่พระ พระก็แตก ทีนี้ไปใหญ่เลย
ผีตัวนั้นมันคือโยมนี่ละ นี่ละบ่อนมันคักนะ ไอ้นี่แต่งตัวใหม่ ผีตัวนั้นมันคือโยมนี่ละ เว้าจั่งซี้แล้ว มันคือโยมนี่ละ เบิ่งอันไหนเบิ่งสีสันวรรณะเบิ่งหน้าเบิ่งตาคือโยมนี่ละ ทีนี้แกวางตัวเฉยซิเฒ่านี่น่ะ ทำท่าเหมือนบ่รู้เด้ มันไปจั่งใดละข้าน้อย มีผีบ้าตัวหนึ่งมันนอนขวางทางอยู่ ทั้งปากทั้งจมูกมันมีตั้งแต่ดินเต็มอยู่ เหลียวดูทางไหนก็คือโยมนี่ละ ไปไหนก็บ่ไปคือโยมนี่ละ ๆ อยู่จั่งซั้น ทางนั้นแกก็วางตัวดีเด้ เฉยเด้ บ่ให้จับได้เลย สักเดี๋ยวพระองค์นั้นมา แล้วเพิ่นไปทางใด๋แดล่ะ พู้นแตกไปทางบ้านนาอ่างนาผางก็มี ไปทางพู้นก็มีแตกไปทางนี้ก็มี
จักใผสิไปทางใดแล้ว มื้อนี้บ่ครบบ่ข่วยกันละบ่ได้ฉันเพลละมื้อนี่ ใผจะไปต้อนเพิ่นจะไปรับเพิ่นจะได้บ่ได้ คนก็คือโยม เดี๋ยวจะไปหลอกพระอีกดี๊ มันแปลกอยู่นะ คำเว้านี่จำได้แม่นพูดง่าย ๆ นะ คนคือโยมนี่ละเดี๋ยวจะไปไล่พระอีกเด๊ เฒ่าว่า มันคือโยมนี่ละ แกก็ไปอีกละ ออกจากนั่นแกก็ไป ไปเห็นพระก็ทำท่า พระก็แตกอีก สองนัดสามนัดซิ โยมผีบ้าตัวนี้ละ ไปพอเหลียวเห็นพระมันก็กลัวอยู่แล้วแม่นบ่พระ เบิ่งองค์ไหนมีลักษณะแปลก ๆ คอยแต่จะวิ่งหนี อีตาผีบ้าก็ทำท่ายึกยัก ก็ไปใหญ่เลย ไปหายเงียบเลย
มื้อนั้นเลยมีพระ ๒ - ๓ องค์มา โยมจักหายไปทางใดเงียบหมดเลย โยมตั้ง ๒๐ - ๓๐ นะ พระก็ร่วม ๒๐ หายไปหมดจักไปทางใด บัดทราบข่าวทีหลัง พวกหนึ่งตกบ้านนั่น พวกหนึ่งตกบ้านนั่น แล้วอีตาคนนี้มีแปลกอยู่ดี๊ กรรมนำทันอยู่เด้ พอแก่ตัวมาเป็นบ้าตั๊ว เราไปเที่ยวหลังเราทราบ เราถามหาโยมคนนั้นตลกขบขันน่ะ โอ๊ย เดี๋ยวนี้เป็นบ้า เป็นบ้าเพราะไปทำพระนั่นแหละ เป็นจริง ๆ นะเป็นบ้าเลย จบแล้วนิทานก็จบแล้ว มันขบขันแท้เด๊ คือโยมนี่ละ ๆ อยู่งั้นนะ แสดงว่าจำแม่นยำมากนะ แต่ผู้นี้มันหากแต่งตัวเป็นแบบใหม่มาซิ แกวางตัวไม่ให้รู้จักแกเลย เฉย ๆ เป็นสมบัติผู้ดีเป็นมัคนายกวัด แกก็บอกแกเป็นมัคนายกวัดนี้ แกแก้เก่งอยู่ ธรรมชาติแท้ ๆ มันบ่เคยเข้าวัดจักเทือ มันหากบอกว่าเป็นโยมอุปัฏฐากวัดนี้ ทีนี้ก็ไปจับบ่ได้ซี ทางนั้นก็คือโยมนี่ละ ๆ อยู่จั่งซั้น