วันนี้โรงเรียนไหนบ้างไม่รู้มา เล็ก ๆ ก็มี วันนี้โรงเรียนไหน โรงเรียนหมากแข้ง หมากแข้งก็มาแต่ก่อนไม่เห็นนี่ หมากแข้งก็มา เดี๋ยวหมากเขือมีไหมมาอีก หลวงตามันจะตายนี่ โหไม่ไหว นี่ธุระของเราก็มี ไม่รู้จะแบ่งทางไหนต่อทางไหนบ้าง เราคนเดียวแบ่งไม่หวาดไม่ไหว วันนี้เราก็มีธุระด้วย แบ่งทางโน้นแบ่งทางนี้ อย่างบิณฑบาตก็ไม่ไหวแล้วเดี๋ยวนี้ บิณฑ์ฯ ได้เท่าที่กำลังอำนวยเท่านั้น
หนังสือนี้เอามาแจกผู้ที่ยังไม่เคยได้ก็รับไปชนิดละหนึ่งเล่ม น่าจะเป็นกองละชนิด ชนิดละหนึ่งเล่ม แล้วเอาไปอ่านจริง ๆ นะ อ่านธรรมะนี้ผิดกับการอ่านทางโลกอยู่มาก ให้ลูกหลานทั้งหลายได้ทราบเอาไว้ เรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่โตมาก ในการปกครองตนตลอดถึงประเทศชาติบ้านเมืองที่อยู่ร่วมกันเป็นผาสุก ล้วนแล้วแต่ออกจากธรรมเป็นเครื่องปกครองทั้งนั้น อย่างอื่นไม่มี หลักวิชาทั้งหลายที่เราเรียนมามากน้อยนั้น ต้องมาเป็นเครื่องมือของธรรมเป็นผู้พาดำเนิน
ถ้าไม่มีธรรมเป็นเครื่องมือพาดำเนินแล้ว เครื่องมือเหล่านั้นจะทำให้เจ้าของทะนงเย่อหยิ่งจองหองพองตัว แล้วประพฤติตัวในทางชั่วช้าลามก โดยอาศัยหลักวิชานั้นเป็นเครื่องมือหากินได้อย่างคล่อง คนอื่นจะเดือดร้อนวุ่นวายขนาดไหนไม่คิด ถ้าเป็นเรื่องของธรรมแล้ว เครื่องมือเหล่านี้จะเป็นเครื่องสนองหน้าที่การงานที่ถูกต้องดีงามให้เป็นผลดี และสงบร่มเย็นต่อกัน เพราะฉะนั้นการอ่านธรรมะหรือการศึกษาธรรมะ จึงเป็นของจำเป็นมาก
เวลานี้ชาวพุทธเราเห็นศาสนาไม่ค่อยเป็นของสำคัญ และไม่สำคัญไปโดยลำดับลำดาแล้วนะ เห็นตั้งแต่เรื่องกิเลสมันจูงจมูกเป็นของสำคัญ ๆ เด็กเกิดมา พอตกคลอดออกมาก็เห็นสำคัญแล้วในสิ่งที่จะทำลายตน เวลานี้สิ่งทำลายนี้มีมากพรรณนาไม่จบ มีทุกแห่งทุกหน ตำบลหมู่บ้าน บ้านนอกในเมืองมีหมด ไฟอันนี้มันกระจายไปหมด ส่วนมากก็ไปส่งเสริมราคะตัณหานี้ให้รุนแรง จึงได้เตือนเสมอ อันนี้รุนแรงมาก ได้เตือนเสมอ เพราะอันนี้จะทำลายโลกไม่ใช่อันใด ออกแง่ใด ๆ มีแต่อันนี้เป็นตัวบงการทั้งนั้น อันนี้สำคัญมาก มากเทียว การแก้ก็ยากมาก เอาเป็นเอาตายเข้าว่ากันเลย ไม่งั้นไปไม่รอด เสร็จให้มันจนได้นั่นแหละ
อันนี้หนักมากนะ ราคะตัณหาจำไว้ทุกคน สัตว์เดรัจฉานเขาไม่มีโรงร่ำโรงเรียน ไม่มีการอบรม ก็เป็นตามประสีประสาของเขา แต่เราเป็นคนด้วย และอยู่ในวัยการศึกษาเล่าเรียน ที่จะอยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งทุกอย่างด้วย ซึ่งควรจะรู้จะเห็นในสิ่งที่เป็นสาระสำคัญ
ธรรมะเป็นของสำคัญมาก เป็นเครื่องปราบสิ่งเหล่านี้ได้ อย่างอื่นไม่ได้นะ มีธรรมะเท่านั้นที่จะปราบสิ่งเหล่านี้ให้อยู่ อย่างน้อยพอสงบร่มเย็นมีฝั่งมีฝาอยู่เป็นหลักเป็นเกณฑ์ได้ ถ้าเผลอเมื่อไรอันนี้ต้องเอาไปจิ้มน้ำพริกเลย อาหารว่าง กินทั้งวันเป็นอาหารว่างตลอดเวลา กินไม่อิ่ม ฟังแต่ว่าตัณหา ๆ คือ ความดิ้นรน ด้วยความอยากความหิวโหยนั้นละ ไม่มีความอิ่มพอ ท่านจึงเรียกว่าตัณหา ไม่มีอะไรหยั่งถึงมันได้แหละ ถ้าเป็นแม่น้ำก็เลยมหาสมุทร ไม่มีฝั่ง มหาสมุทรยังมีฝั่ง
เรื่องกิเลสตัณหาตัวนี้ไม่มีฝั่งนะ หยั่งไม่ถึง ต้องเอาธรรมเข้าหยั่ง เอาธรรมเข้าวัดเข้าเทียบเข้าเปรียบ เข้าลัดมันสกัดลัดกั้นแล้วอยู่ ถ้าไม่มีธรรมแล้วตายให้มันจริง ๆ ใครจะอวดรู้อวดฉลาด จะมีฐานะสูงต่ำขนาดไหนก็ตาม ไม่พ้นที่ธรรมชาตินี้จะเอามาเป็นเครื่องมือขยี้ขยำให้แหลกไปตาม ๆ กันหมด เรามองดูอย่ามองดูแบบกิเลสพามอง ให้มองดูแบบธรรมพามอง กิเลสพามองมองยังไง มองดูสมบัติศฤงคารบริวาร มองดูเห็นคนเขาแต่งตัวโก้หรู โอ้ คนนี้เขามีหน้ามีตามียศถาบรรดาศักดิ์โก้หรู ๆ มหาโจรก็โก้ได้ ไปหาปล้นตามสถานที่ใหญ่ ๆ นี้ พวกนี้มีแต่แต่งตัวโก้หรูทั้งนั้น ใครไม่ทราบว่าเขาเป็นคนประเภทนั้น สูงที่สุด โอ่อ่าที่สุด ผึ่งผายที่สุด คือพวกนั้น
เราอย่ามองอย่างนั้น เราอย่ามองว่า คนนั้นมีเงินมีทองข้าวของมาก คนนั้นเป็นเศรษฐี กุฎุมพี คนนี้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงอย่างนั้น ๆ ให้เรามองความประพฤติของคนเป็นยังไง ความประพฤตินั้นแลที่จะยังโลกให้สงบร่มเย็นและเดือดร้อนเป็นของสำคัญ อยู่กับความประพฤติ ถ้าความประพฤติไม่ดีแล้ว ใครจะอยู่ชั้นใดก็ตามไม่พ้นไฟเผาหัว เข้าใจไหมหัว หัวใจนั่น มันเผาหัวใจโลกเวลานี้จะเป็นไฟอะไร ไฟราคะ ไฟตัณหา ตัณหาความทะเยอทะยานอยาก เอาอะไรมาให้ไม่พอ เหมือนไสเชื้อเข้าหาไฟ เอาไสเข้ามา เอาต้นไม้บนภูเขาทั้งลูกมาโยนดูซิ ไฟมันจะดับเพราะเชื้อมีไหม ไม่มี มีแต่แสดงเปลวขึ้นจรดเมฆ ๆ
นี่ก็เหมือนกัน ตัณหาเอาอะไรมา เอารูป รูปชนิดไหนมา ไสเข้ามา เสียงชนิดไหน เสียงขับเสียงกล่อม เสียงเพลง เสียงบำรุงบำเรอ รูป ๆ อะไร รูปหญิงรูปชายรูปที่จะส่งเสริมธรรมชาตินี้ทั้งนั้น เอามาส่งเสริมเชื้อไฟให้เผาไหม้ไปหมด มันร้อนด้วยกันถ้าไม่มีธรรม ให้มองโดยธรรมอย่างนี้ ถ้ามองทางโลกแล้วลืมเนื้อลืมตัวไปตลอด จะหาความสงบร่มเย็นไม่ได้เลยเมืองไทยเรา
ทั้ง ๆ ที่ต่างคนต่างเรียน ตั้งแต่อ้อนแต่ออกมาก็เริ่มให้เรียนหนังสือแล้ว เรียนเพื่อความรู้วิชา หลักใหญ่ก็เพื่อป้องกันตัว และการทำมาหาเลี้ยงชีพสะดวก วิชาเป็นความสะดวกในทุกด้านทุกทางนั่นแหละ แต่ถ้าวิชาไม่มีธรรมเข้าเคลือบแฝงแล้ว ก็เป็นเครื่องทำตัวให้ฉิบหาย มองอย่าไปมองแบบโลก ๆ เขา ให้มองดูความประพฤติ..มองดูคน มองดูเรา ก็มองความประพฤติของเรา อย่าไปเย่อหยิ่งจองหองว่าเรานี้สอบได้ที่ ๑ ได้ที่ ๒ ที่เท่านั้นเท่านี้ แต่ความประพฤติได้ที่โหล่เขาใช้ไม่ได้ ความประพฤติให้ดี เป็นพื้นเป็นแกนอันสำคัญ..ความประพฤติ อันนี้เป็นหลักใหญ่ จะทำให้โลกสงบร่มเย็น
อยู่ในบ้านก็เหมือนกัน ออกมาสู่โรงร่ำโรงเรียน ต่างคนให้มีความประพฤติดี ได้รับการอบรมจากครู ครูเป็นแบบฉบับที่ดี เป็นแบบพิมพ์ ครูก็อย่าโกโรโกโส ต้องเป็นแบบพิมพ์ที่ดีของเด็ก ถ้าครูแบบโกโรโกโสอันนั้นใช้ไม่ได้ครูประเภทนั้น ต้องครูเป็นแบบพิมพ์ที่ดี เป็นคติตัวอย่าง เด็กเห็นแล้วเกิดความเคารพเลื่อมใส เกิดความรักบูชาคุณ นี่แหละถ้าเป็นครูดี ทั้งรักทั้งสนิทสนม ทั้งเคารพนับถือ
เราก็เคยเป็นนักเรียนมาแล้ว ครูไหนดี ครูไหนไม่ดี ก็รู้ เด็กดูผู้ใหญ่ทำไมจะไม่รู้ แต่ผู้ใหญ่ดูเด็กยังดูได้ ยังรู้ได้ เด็กดูผู้ใหญ่ทำไมจะรู้ไม่ได้ เด็กก็คนคนหนึ่ง ทำไมจะดูผู้ใหญ่ไม่ออก ครูบางคนโกโรโกโสจริง ๆ ตั้งแต่เราเป็นนักเรียนเราเห็น กับเราไม่ค่อยสนิท ครูไหนที่ดีมีความประพฤติดี มันหากเป็นอยู่ในใจนั่นแหละ มันหากสนิท ชอบเข้าไปใกล้ชิดสนิทสนม อยากให้ครูคนนั้นใช้สอย อยากให้เรียกใช้นั้น อยากให้เรียกใช้นี้ เพราะเป็นคนดี ถ้าครูไม่ดีแล้วไม่เล่นด้วย นี่ก็เหมือนกันแบบพิมพ์ต้องเป็นแบบที่ดี
นักเรียนก็ตั้งหน้าตั้งตาเดินตามแบบพิมพ์ที่ครูสอนแล้วอย่างไร อย่าเป็นโกโรโกโส ตั้งหน้าตั้งตาประพฤติปฏิบัติตัวให้ดี มีศีลธรรม มีการพินิจพิจารณา ความผิดถูกชั่วดีนี้ก็เรียกว่าศีลธรรม ทำผิดนี่เป็นความผิดแล้ว เป็นสาเหตุที่จะให้เกิดความทุกข์ มาจากนั้น ถ้าเป็นสิ่งที่จะเป็นบาปก็เป็นบาปไปแล้ว ๆ ถ้าทำดีก็เป็นกุศลแก่ตนของตน กุศลคือความฉลาด เพราะออกจากความฉลาดของตนเอง ผลแห่งความฉลาดก็เป็นบุญ คือเป็นความสุขแก่เราทั้งหลายนั้นแหละ ให้ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตัวเอง
อย่ามองอะไรให้เป็นแบบโลกแบบสงสารไปหมดใช้ไม่ได้นะ กิเลสพามองมันจะเอาให้แหลกเหลวไปหมดนั่นแหละ ดูซิดูตามหนังสือพิมพ์ก็รู้ นี่เอาหนังสือพิมพ์มาอ่าน เอาเรื่องกิริยามารยาท ความดีความชั่ว ความเลวทราม ของคนมาแผ่กระจายอยู่ในนี้ อ่านนี้ปั๊บตีกระเทือนไปหมดเลย หนังสือพิมพ์ออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่มันก็ตีกระจายไปหมด เพราะเกี่ยวโยงกัน ทำตัวไม่ดี เป็นผู้ใหญ่เท่าไรยิ่งเลวยิ่งเหลว แล้วเห็นศีลธรรมเป็นของครึของล้าสมัยไป แต่กิเลสมันออกหน้าออกตาแซงไป เอากิเลสมาครองตัว ๆ ปกครองบ้านเมือง เลยกลายเป็นบ้านเมืองที่แหลกเหลวล่มจมไปตาม ๆ กันหมด
ทั้ง ๆ ที่ผู้ปกครองบ้านเมืองมีความรู้วิชา ฐานะก็ว่าสูง สูงก็สูงแบบกอบโกยเขามากิน ใช้ไม่ได้อย่างนั้น ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ สูงก็สูงด้วยความเย่อหยิ่งต่างหาก ความสำคัญตนต่างหาก ความประพฤติมันเลว ต่ำยิ่งกว่าความประพฤติของลิงอย่างนั้น ใช้ไม่ได้นะ ลูกหลานจำเอาไว้ให้ดีในข้อเหล่านี้ ถ้าความประพฤติไม่ดีเสียอย่างเดียวเท่านั้น ไปไหนก็ไปไม่รอดคนเรา
การประหยัด การใช้สอยให้รักษาตนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตั้งแต่เป็นเด็กไปมีการประหยัด มีความขยันหมั่นเพียร อย่าขี้เกียจขี้คร้าน อย่าเป็นคนเหลาะแหละ อย่าเป็นคนปลิ้นปล้อนหลอกหลวง ให้เป็นคนมีความสัตย์ความจริง ใครมาคบเพื่อนฝูงมาคบก็ให้เป็นที่ตายใจได้ ต่างคนต่างมีความจงรักภักดีต่อกัน มีความสนิทสนมกันด้วยความซื่อสัตย์สุจริตต่อกัน นี่ไปไหนก็คบกันได้ นี่ละธรรม ท่านเรียกว่าธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตต่อกันก็เป็นธรรม ความให้อภัยซึ่งกันและกันก็เป็นธรรม ความเสียสละช่วยเหลือกันเวลาจำเป็นก็เป็นธรรม ให้ลูกหลานจำเอาไว้นะ นี่ละ คำว่าธรรม ๆ
มีแต่ว่าธรรม ธรรม คือ ยังไง นี่แจงเรื่องธรรมออกมาย่อ ๆ พอให้เข้าใจ ตามขั้นตามภูมิแห่งวัยของเราที่จะควรศึกษาธรรมะได้ขั้นใดภูมิใด และความอดความทนต่อหน้าที่การงาน ตลอดถึงวาทะคำพูด ใครจะพูดเขี่ยหน้า เขี่ยหลังไปก็ตาม ไอ้เรื่องคำพูดมันออกจากปากเขา มันโดนปากเขาก่อนที่จะมาโดนหูเราแล้วแหละ คนนั้นเขาเสียเปรียบแล้ว สมมุติว่าเขานินทาเรามันก็ผ่านออกจากปากเขา คำนินทาก็เผาปากเขาแล้ว กว่าจะมาหาหูเราก็จางแล้วแหละ เหมือนดังอีตาศรีธนญชัยนั่น เข้าใจไหม
จะยกนิทานให้ฟัง อีตาศรีธนชัยนั่นเราเคยยกมา นี่มาพูดเรื่องมันสัมผัส นี่หมายถึงว่ามันจืดจางนะ ศรีธนญชัยเป็นคนฉลาด ไอ้คนหนึ่งมันโง่แสนโง่ กับคนแสนฉลาด มันก็เข้ากันได้อย่างที่ว่า ไหนเขาว่าศรีธนญชัยมันฉลาดเหลือเกินใช่ไหม ใช่ เขาลือกันทั้งโลก ว่ามันฉลาด ถ้างั้นกูจะตดใส่กระบอกปิดให้ดี กูจะเอาไปให้มันดม มันจะเก่งไหม ไอ้ศรีธนญชัยมันจะต้องดมตดกูแน่ ๆ ก็ตดใส่กระบอกแล้วก็ปิดกระบอก ไปซิไปหา ไปหาก็เปิดตับนี่ไป ไหนไอ้ศรีธนญชัยอยู่ไหน เขาว่ามันฉลาดนักหนา ไปถามหาศรีธนญชัย ศรีธนญชัยคนฉลาดเขายังไม่บอกง่าย ๆ ว่ามาหาศรีธนชัยเพื่อเหตุผลอะไร นั่นไปหาศรีธนญชัยแล้ว ศรีธนญชัยยังไม่ตอบ
ทางนี้ยังประกาศป้าง ๆ ไหนศรีธนญชัยที่ว่ามันฉลาดมาก ๆ นั้นคือคนไหน ไปก็ไปถามศรีธนญชัย ศรีธนญชัยก็ตอบ มาหาศรีธนญชัยนั้นมีความมุ่งหมายอะไรบ้าง เขาไม่ได้บอกว่าเขาเป็นศรีธนญชัย นั่นละความโง่กับความฉลาดต่างกันอย่างนั้น คนโง่กับคนฉลาดต่างกันอย่างนั้น ทางนี้ก็ว่า เห็นเขาร่ำลือว่ามันเก่งนัก นี่สะพายตดมาแล้ววันนี้จะมาให้มันดม ตดอยู่ไหนล่ะ นี่ในกระบอกสะพายไว้นี่ ไม่ใช่มันระเหยแล้วเหรอลองดมดูซิ พอเปิดขึ้นมาดม อุ๊ย ยังอยู่ นั่น ดมตดเจ้าของแล้วเห็นไหม ไม่ใช่มันระเหยไปหมดแล้วเหรอ ไม่ใช่มันจืดไปหมดแล้วเหรอ มันไม่จืดกำลังเข้มข้นอยู่ เจ้าของดมแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นศรีธนญชัย แล้วมาดมตดเจ้าของ นี่แหละความจืดความจาง ตะกี้นี้พูดถึงเรื่องคนโง่มันจืดจางไปอย่างนั้น เหมือนอย่างที่ว่านี่ ดมตดเจ้าของเสีย มันก็ไม่เป็นท่าเป็นทาง
พูดถึงเรื่องอรรถเรื่องธรรมให้มีความขยันหมั่นเพียร และมีความอด ความทน และเข้านอกออกใน ให้รู้จักความเคารพนับถือไม่อาจเอื้อมในที่ต่ำสูง ให้รู้สูงรู้ต่ำ รู้ผู้มีบุญมีคุณ รู้คนที่ควรเคารพนับถือ รู้สถานที่ที่ควรเคารพบูชา รู้ครูบาอาจารย์ รู้พ่อรู้แม่ คนประเภทไหนควรจะเคารพด้วยวิธีการใด ปฏิบัติต่อท่านเหล่านั้นด้วยวิธีการใด เราต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติตัวของเรา อย่างนี้เรียกว่าเรามีธรรม ไม่ใช่ไปที่ไหนก็ดะไป ๆ ตามเพลงของความคึกคะนอง อย่างนั้นใช้ไม่ได้นะ
ความคึกความคะนอง เอาไปขายตลาดที่ไหนไม่มีใครซื้อ ทั้ง ๆ ที่ต่างคนก็มีความคึกความคะนองเหมือนกัน แต่มันล้นตลาด คือ หัวใจด้วยกันทุกคน ใครจะซื้อของใครไว้ที่ไหน ไม่มีที่เก็บ เพราะฉะนั้นเราจึงอย่าออกขายของไม่ดี ความโกโรโกโสความประพฤติไม่ดี ต้องความประพฤติเป็นของสำคัญ เป็นหลักเกณฑ์ การเรียนหนังสือก็เรียนแล้วมีธรรมแทรกเข้าไป เอาความรู้วิชานี้ไปใช้ในทางที่ถูกที่ดี อย่าไปใช้ในทางที่เสียหาย นี่ก็เรียกว่า ธรรม คือเป็นผู้ฉลาดคัดเลือก เอาความรู้วิชานี้ไปใช้ในที่ต่าง ๆ ในงานต่าง ๆ ที่เห็นสมควรแก่หลักวิชาประเภทนี้ ๆ นั่นก็เป็นธรรม ๆ และให้ใช้ความอดทน
การพนันขันต่อนี้ พูดแล้วพูดเล่า เราเป็นห่วงลูกหลาน เวลานี้สิ่งที่จะแทรกซึมเข้ามาให้เด็กเสียมีมากมายนะ เรื่องการพนันขันต่อหนึ่ง ยาเสพย์ติดนี้มาลึกซึ้งมาก มาหลายแบบหลายฉบับ เราก็นั่งอยู่ในวัดนอนอยู่ในวัดนี่แหละทำไมรู้ได้ ลูกศิษย์ของเราเต็มบ้านเต็มเมืองทำไมรู้ไม่ได้ แม้แต่วงราชการต่าง ๆ ก็เหมือนกัน วงไหน ๆ เป็นยังไง ๆ ปิดไม่อยู่ ก็ลูกศิษย์นั่นแหละมาเล่าให้ฟัง ใครเป็นผู้ชำนิชำนาญ จัดเจนในหน้าที่การงาน แผนกไหน ๆ มาเป็นลูกศิษย์ ๆ เขาก็ระบายให้ฟังซิเรื่องอะไร ๆ ระบายให้ฟังก็รู้ เก็บเข้าลิ้นชัก ๆ เหมือนไม่รู้ เฉย แต่เวลาพูดไปสัมผัสก็นำออกมาให้เป็นคติ ไม่ใช่นำมาเพื่อดูถูกเหยียดหยามแก่ผู้หนึ่งผู้ใด นำมาให้เป็นคติตัวอย่าง เช่นอย่างนำเรื่องศรีธนญชัยมานี่ มันน่ะดมตด พวกเราอย่าโง่จะไปดมตดกับมัน แน่ะความหมายก็ว่าอย่างนั้น ถ้าโง่ก็ดมตดเจ้าของ ถ้าไม่โง่ไม่ดม นี่เป็นคติอย่างนี้
เรื่องที่ว่านี้มันมาทุกแง่ทุกมุมนะ ให้ลูกหลานทั้งหลายระวัง ยาเสพย์ติดนี่เอาอย่างเด็ดขาดนะ ให้มีวินัย เครื่องกำจัด เครื่องป้องกัน วินัยแปลว่า เครื่องกำจัด แปลว่าเครื่องป้องกันตัว เอาให้หนักทีเดียวอย่าให้เข้ามาแตะตัวของเราได้เลย อันนี้ถ้าลงได้เข้ามาสัมผัสถึงตัวเราแล้วหงายเลยนะ เสียคน อนาคตฉิบหายหมด ทั้ง ๆ ที่ลมหายใจฝอด ๆ ยังมีชีวิตอยู่นั่นแหละ แต่คุณค่าของเรานี้หมดแล้ว ๆ ยาเสพย์ติดเอาไปกินแล้วเอาไปถลุงหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ให้ระวังให้ดี อันนี้สำคัญมากข้อหนึ่งที่เราจะต้องระวัง ในวัยนี้ละ เพราะเป็นวัยคละเคล้ากัน นักเรียนต้องอยู่ร่วมกัน แล้วสิ่งที่จะแทรกเข้ามาหาชุมนุมชน ๆ คือ นักเรียนพวกเขาก็ดูนี่ ที่ไหนที่จะควรเข้าได้ง่ายได้ยาก เขาดูหมด พวกนี้มีวิชาหากินเต็มตัวของมันแล้ว แทรกเข้าไปตรงไหนจะได้ผล ก็แทรกเข้าไป แล้วแทรกเข้าไปหาเด็ก เด็กไม่รู้ภาษีภาษาเสียท่าแล้ว ๆ นี่สำคัญอันหนึ่ง
แล้วการพนันชนิดไหนก็ตาม ขอให้ลูกหลานทั้งหลายอย่าไปสนใจกับเรื่องการพนันขันต่อไม่ใช่เป็นของดี ได้มาเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ ล้าน ก็เพื่อมาเป็นนกต่อ เข้ามาทำความล่มจมแก่ครอบครัวเหย้าเรือน สกุลของเราให้แหลกเหลวไปหมด ไม่มีความหมายอะไรในเงินจำนวนนั้น มันเป็นนกต่อ มันเป็นเชื้อเพลิง เอามาเผาบ้านเผาเรือนเรา อย่าไปยินดีในรายได้จากการพนัน จะกี่สตางค์ก็ตาม มีแต่เรื่องความฉิบหายทั้งนั้น ให้หาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา ด้วยสติปัญญาความสามารถของเรา ในทางที่ถูกที่ดีที่ชอบ อันนี้มีมากมีน้อยเราอบอุ่นใจ ข้อนี้ถูกต้องตามหลักธรรม ให้ลูกหลานทั้งหลายจำเอาไว้ไปปฏิบัติตัว
การเรียนให้ตั้งหน้าตั้งตาเรียน อย่าเหลาะแหละ อย่าเที่ยวเตร็ดเตร่ พอเวลาเลิกโรงเรียนไปแล้วเถลไถลไป คบค้าสมาคมเพื่อนฝูง มีมากไปทางเสียหายมากนะ เพื่อนคนนี้ไปหาเพื่อนคนนั้น เพื่อนคนนั้นไปหาเพื่อนคนนี้ ระโยงระยาง มีแต่ไปหากันแล้วเพื่อเตร็ดเตร่เร่ร่อน เสียหายแก่ตัวเอง ความรู้วิชาเรียนมามากน้อยเลยเสียหายไปหมดเลย พ่อแม่ก็หนักอกหนักใจ ไม่ทราบจะทำอย่างไร ส่งไปให้เรียนหนังสือแล้ว แทนที่จะเรียนหนังสือได้ความรู้วิชา หน้าที่การงานอันดีงามมาสู่พ่อสู่แม่ให้ได้ภูมิใจ มันกลับเป็นลิงเป็นค่าง บ่างชะนี เป็นโจรเป็นมาร เป็นนักเลงโตเป็นอันธพาลไปเสีย อย่างนี้พ่อแม่หนักใจมากนะ
ที่ส่งลูกหลานเข้ามาเรียนนี้ คนหนึ่ง ๆ หมดไปเท่าไร ถ้าจะทำสถิติเอาไว้นี้จะหมดมากขนาดไหน ลูกคนหนึ่ง ๆ นับตั้งแต่อยู่ในท้องออกมา อยู่ในท้องยารักษาครรภ์เด็ก อยู่ในท้องออกมาจนกระทั่งเติบโตขึ้นมาแล้วหมดไปเท่าไรพ่อแม่คนหนึ่ง ๆ และมิหนำซ้ำยังเสียใจอีกด้วย เสียสิ่งเหล่านั้นพ่อแม่ไม่ได้คำนึงแหละ เพราะอยากให้ลูกดี ด้วยความรักความสงสารลูก แต่มันเสียใจพ่อแม่นี่ซิเป็นสิ่งที่เสียมากที่สุด ขอให้ลูกหลานทั้งหลายรักษาน้ำใจพ่อแม่ นี่ก็ส่งเข้ามาโรงเรียนแล้วนี่ พ่อแม่คนไหนก็ไปถามดูซิ ลูกของเจ้าไปไหน ว่าไปโรงเรียน คนนั้นก็ไปโรงเรียน ๆ เขาไม่รู้ว่าเราไปโรงลิง ไปเป็นนักเลง ไปเป็นอันธพาล นี่ละเสียน้ำใจพ่อแม่ เสียมากเสียลึกเสียด้วยอันนี้นะ
ให้ลูกหลานทั้งหลายจำเอาไว้ อย่าทำตัวเป็นอย่างนั้นเป็นอันขาด ให้เห็นอกเห็นใจพ่อแม่เลี้ยงลูกมานี่ โถ แต่ละคน ๆ ที่จะเติบโตนี่ ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากพ่อจากแม่ทั้งหมด เราหาเอาเองไม่ได้จะว่าไง ทุกสิ่งทุกอย่างมาจากพ่อจากแม่ แล้วบางคนพ่อแม่เป็นคนมั่งมีแล้วกลับลืมตัวนะ จะใช้จะสอยจะนุ่งจะห่มจะกินอะไรก็ตามมันเหลือเฟือ ๆ เพราะพ่อแม่รัก เงินทองข้าวของมีเอามาให้ ก็ฟุ่มเฟือย ๆ เลยกลายเป็นฟุ้งเฟ้อแล้วเห่อคะนองไปใหญ่เลย อย่างนี้เสีย เราอย่าให้เป็นอย่างนั้น ให้ถือว่าพ่อแม่ให้เราด้วยความรัก ให้อภัยด้วยความสงสาร ให้เรานำสมบัติเงินทองข้าวของที่พ่อแม่ให้เรานั้น ไปทำประโยชน์ ๆ สำหรับเราแล้ว ก็หนุนย้อนหลังกลับไปหาพ่อแม่ ได้รับความอบอุ่นเย็นใจต่อเราเบาใจต่อเรา นี่จะเป็นความดีงาม นี่อันหนึ่งข้อหนึ่ง
แล้วข้อหนึ่งก็ที่พูดเบื้องต้นนั่นแหละ เรื่องราคะตัณหาให้ระวังให้มากนะ วัยนี้เป็นวัยไวไฟที่สุดเลย ไม่ว่าหญิงว่าชายใครก็มีเหมือนกัน ราคะตัณหามีอยู่ในหัวใจของทุกคน ร่างกายนี้เป็นเครื่องมือเท่านั้น แต่หัวใจนั่นบรรจุไว้ด้วยราคะตัณหา ความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็อยู่ที่หัวใจ ราคะตัณหาอยู่ที่หัวใจ จงรักษาใจให้ดี ยับยั้งชั่งตัวให้ดี อย่าเถลไถลอย่าขายก่อนซื้อถ้าเป็นผู้หญิงก็ดี ใช้ไม่ได้เลย เลว ผู้หญิงก็เลว ผู้ชายก็คึกคะนองเป็นลิง ผู้หญิงเลว ผู้ชายลิง ใช้ไม่ได้ มองไปทางนี้ก็ลิงมองไปทางนี้ก็เลว เลยมีแต่คนเลวคนเหลว คนใช้ไม่ได้ในโลกนี้ทำไง
สิ่งเหล่านี้เป็นของมีอยู่ประจำโลกประจำสงสาร ให้บังคับบัญชาไว้ให้อยู่ในกฎเกณฑ์แห่งความพอดี ถึงกาลเวลามันก็เป็นไปเองของมัน ให้เหมาะสมสังคมยอมรับ ทุกคน ๆ แม้แต่ในวงศ์ญาติก็ยังรู้กันนี่ ควรยอมรับคนไหนจะเอามาเป็นลูกเขย คนไหนควรจะเอามาเป็นลูกสะใภ้ จะไปเอาอีขายก่อนซื้อมาเป็นลูกสะใภ้ ถ้าเป็นหลวงตาบัวตีมันหมดทั้งลูกชายนั่นแหลกไปเลย ไม่ว่าแต่ไม่เอาอีนั่นมาเป็นลูกสะใภ้แหละ ตีมันทั้งลูกชายนั่น บักสันพร้าว่างั้นเลย เข้าใจไหม จำเอานะลูกหลาน เอาละพอวันนี้ เหนื่อยแล้ว